วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556

จ.สุรินทร์ กำหนดจัดงานวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ประจำปี 2556 ถวายเป็นพระราชกุศล

จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ วันพยาบาลแห่งชาติ ประจำปี 2556 ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

นายธงชัย ตรีวิบูลย์วณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ กำหนดการจัดงาน วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ วันพยาบาลแห่งชาติ วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ วันอาสาสมัครไทย และวันรักต้นไม้ ประจำปี 2556 ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในวันที่ 21 ตุลาคม 2556 ณ ห้องประชุมสระโบราณ โรงพยาบาลสุรินทร์ โดยเวลา 08.00 น. กำหนดประกอบพิธีถวายราชสดุดี พระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประกอบพิธีมอบประกาศนียบัตรพยาบาลดีเด่น จังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2556 และประกอบพิธีทำบุญถวายภัตตาหารเครื่องไทยธรรมแด่พระสงฆ์

สำหรับประวัติวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 21 ตุลาคมของทุกปี ตรงกับวันพระราชสมภพ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สืบเนื่องมาจากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระราชดำเนิน เยี่ยมราษฏรในถิ่นทุรกันดารอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทรงได้เห็นปัญหาต่าง ๆที่เกิดขึ้นกับประชาชนที่พบโดยทั่วไปคือ เรื่องโรคฟัน ด้วยพระเมตตาของพระองค์ ที่มีต่อปวงชนชาวไทย พระองค์จึงทรงจัดตั้ง "หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระราชชนนี” ขึ้นเมื่อปี 2512 เพื่อให้ปฏิบัติงานที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นที่แรก และเพื่อให้งานด้านแพทย์อาสาดำเนินไป อย่างมั่นคง พระองค์ทรงพระราชทานทุนเริ่มแรก 1 ล้านบาท นับแต่นั้นมาจึงมีทันตแพทย์ร่วมปฏิบัติงานในหน่วยแพทย์ พอ.สว. เพื่อบำบัดความทุกข์ทรมานด้วยโรคฟันกับประชาชนในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ



กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว

จ.สุรินทร์ เตรียมรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ขณะนี้มีโรงสีสมัครร่วมโครงการแล้ว 34 แห่ง

นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 มีระยะเวลารับจำนำ 1 ตุลาคม -28 กุมภาพันธ์ 2557 โดยราคารับจำนำข้าวเปลือกทุกชนิด ณ ความชื้นไม่เกิน 15 % ยังเป็นเช่นเดียวกับโครงการฯ ปีที่ผ่านมา ได้แก่ข้าวเปลือกหอมมะลิ (42กรัม) ราคาตันละ 20,000 บาท ราคาเพิ่มลด กรัมละ 200 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมจังหวัด (40 กรัม) ราคาต่อตัน 18,000 บาท ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 (42กรัม) ราคา 16,000 บาท โดยกำหนดให้เกษตรกรร่วมโครงการฯ ได้ในวงเงินละรายไม่เกิน 350,000 บาท และขณะนี้ มีโรงสีสมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 34 แห่ง และอยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติของโรงสีตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ส่วนเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการจำนำข้าวที่ยุ้งฉาง สามารถเข้าร่วมโครงการได้โดยมีวิธีการ ขั้นตอนและหลักเกณฑ์เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา

พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้กำหนดผลผลิตขาวเปลือกเฉลี่ยต่อไร่ของจังหวัดสุรินทร์ไว้ ดังนี้ ข้าวหอมมะลิผลผลิตเฉลี่ยรวม 380 กก./ไร่ ผลผลิตในเขตชลประทาน 384 กก./ไร่ นอกเขตชลประทาน 380 กก./ไร่, ข้าวเจ้าอื่น ผลผลิตเฉลี่ยรวม 476 กก./ไร่ ผลผลิตในเขตชลประทาน 485 กก./ไร่ นอกเขตชลประทาน 471 กก./ไร่, ข้าวเหนียว ผลผลิตเฉลี่ยรวม 399 กก./ไร่ ผลผลิตในเขตชลประทาน 400 กก./ไร่ และนอกเขตชลประทาน 399 กก./ไร่




กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

จ.สุรินทร์ จัดงาน “วันรวมน้ำใจหลั่งไหลสู่กาชาดสุรินทร์” ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้

เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงาน "วันรวมน้ำใจหลั่งไหลสู่กาชาดสุรินทร์” หารายได้และสิ่งของสนับสนุนการออกร้านธารากาชาด ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ จัดกิจกรรมออกร้านธารากาชาดสุรินทร์ ในงาน มหัศจรรย์ช้างสุรินทร์ ประจำปี 2556” ระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 ที่ สนามกีฬาศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ จึงได้กำหนดจัดงาน "วันรวมน้ำใจหลั่งไหลสู่กาชาดสุรินทร์” ในวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณหน้าสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ เพื่อจัดกิจกรรมหารายได้และสิ่งของไปสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมสาธารณกุศลของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ อาทิ การบรรเทาทุกข์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย การสงเคราะห์ผู้ยากไร้ การรับบริจาคโลหิต ซึ่งเป็นกิจกรรมสาธารณกุศลตามวัตถุประสงค์ของสภากาชาดไทย เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมสนับสนุนเงินและสิ่งของ เพื่อนำไปจัดเป็นรางวัลตอบแทนแก่ผู้ที่มาสนับสนุนในการออกร้าน "ธารากาชาด” ในงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ปีนี้




กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

"เกาะติดสถานการณ์เลือกตั้งท้องถิ่น” รายงานบรรยากาศการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาท้องถิ่น

สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์ (สวท.สุรินทร์) ทางระบบ FM.93.50 MHz เพื่อรายงานบรรยากาศการเลือกตั้งและรณรงค์ให้ประชาชนไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาท้องถิ่น

นางผุสดี เสริมใหม่ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาท้องถิ่น ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2556 มีจำนวน 88 แห่ง ซึ่งการเลือกตั้งในวันนี้(วันที่ 19 ตุลาคม) สวท.สุรินทร์ ได้ร่วมกับ กกต.สุรินทร์ จัดรายการพิเศษ "เกาะติดสถานการณ์เลือกตั้งท้องถิ่น” ออกอากาศทางระบบ FM.93.50 MHz ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. โดยกำหนดรูปแบบการจัดรายการในห้องส่ง มีกกต.สุรินทร์ และทีมรายการเสียงคนสุรินทร์ ร่วมสนทนาเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายสถานีวิทยุชุมชน เครือข่ายอปมช. และทีมผู้สื่อข่าว สวท.สุรินทร์ ลงพื้นที่รายงานบรรยากาศและกระตุ้นให้ประชาชนเกิดความตื่นตัวในการออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้ให้มากขึ้น



 กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

ชาวสุรินทร์ ตื่นตัวไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นคึกคัก กกต.คาดมีผู้ใช้สิทธิ์ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70

วันนี้(19 ต.ค) กกต.สุรินทร์ ได้กำหนดจัดการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดสุรินทร์ จำนวนทั้งสิ้น 88 แห่ง ซึ่งบรรยากาศตั้งแต่เช้าหลังเปิดหีบเวลา 08.00 น. พบว่าประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ต่างเดินทางออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ณ หน่วยเลือกตั้งใกล้บ้านกันอย่างคึกคัก ถึงแม้จะมีฝนตกโปรยปรายมาตลอดคืนจนถึงเช้าวันนี้

ด้านนายยุทธนา วิริยะกิตติ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ กล่าวระหว่างออกตรวจติดตามการเลือกตั้งว่า ยังไม่พบปัญหาหรือการร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งเข้ามา โดยทุกหน่วยเลือกตั้งมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ส่วนประชาชนมีความตื่นตัวในการเลือกตั้งเป็นอย่างมาก คาดว่าจะมีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และน่าจะทราบผลการเลือกตั้งเวลาประมาณ 17.00 น. สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่น ในครั้งนี้ สวท.สุรินทร์ ร่วมกับ สำนักงาน กกต.สุรินทร์ จัดรายการพิเศษ "เกาะติดสถานการณ์เลือกตั้งท้องถิ่น” พร้อมส่งทีมข่าวลงพื้นที่เกาะติดรายงานบรรยากาศการเลือกตั้ง เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนได้รับรู้ ข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้ง และกระตุ้นให้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งให้มากที่สุด



กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว

จ.สุรินทร์ สภาพอ่างเก็บน้ำ ล้นปรินเวย์ ทั้ง 11 แห่ง จาก18 แห่ง

วันที่ 18 ต.ค. 56 นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้เปิดเผยภายหลังประชุม คณะกรรมการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดสุรินทร์ ว่า สภาพน้ำท่าในอ่างเก็บน้ำขนาดกลางเขตชลประทาน ทั้ง18 แห่ง ของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีความสำคัญในการอุปโภค-บริโภค และด้านการเกษตร มีปริมาณน้ำล้นปรินเวย์ จำนวน 11 แห่ง จากทั้งหมด 18 แห่ง มีพื้นที่เขตชลประทาน จำนวน 130,258 ไร่ มีปริมาณความจุมีความจุของอ่างเก็บน้ำได้เพียง 145.07 ล้านลูกบากศ์เมตร ขณะที่เช้านี้วัดได้ 158.36ล้านลูกบากศ์เมตร คิดเป็น109 %

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก /ลำน้ำที่สำคัญได้แก่ แม่น้ำมูล ที่จุดวัดน้ำ M4(สะพานบ้านพงสวาย ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม) ระดับน้ำ วัดได้ 8.01 เมตร ระดับตลิ่ง 6.30เมตร ล้นตลิ่ง 1.71เมตร และระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 5 ซม. ขณะที่ลำน้ำชี จุดสถานีตรวดน้ำ M26(สะพานสุรินทร์-อ.กระสัง) ระดับน้ำปัจจุบัน 10.68 เมตร (ระดับตลิ่ง 6.90เมตร) ล้นตลิ่ง 3.78 เมตร และจุดสถานีตรวดน้ำ M159A (สะพานบุรีรินทร์ อ.จอมพระ-อ.สตึก) ระดับน้ำปัจจุบัน 9.34 เมตร (ระดับตลิ่ง 11.96 เมตร) ต่ำกว่าตลิ่ง 1.96 ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน(17ต.ค.56)ถึง 46 เซนติเมตร ในส่วนอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีพื้นที่เขตชลประทาน จำนวน 45,500ไร่ อ่างสามารถรองรับน้ำได้ 20.02 ล้านลูกบากศ์เมตร แต่วันนี้มีน้ำปริมาณน้ำ 22.27 ล้านลูกบากศ์เมตร คิดเป็นความจุ 111.24 %



อุทัย  มานาดี / ข่าว

จ.สุรินทร์ วัดได้รับผลกระทบน้ำท่วม จำนวน 144 แห่ง

นายสุพร แผ่แสงจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จากเกิดภาวะอุกทกภัยน้ำท่วมในจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อวันที่19 กันยายน 2556 ส่งผลกระทบต่อวัดได้รับความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือวัด ดังนี้ เสนาสนะได้รับความเสียหาย ซึ่งต้องปฎิสังขรณ์ ใน 5 อำเภอ 6วัด ได้แก่ วัดป่าพุทธชยันตี ต.ผักไหม อ.ศรีขรภูมิ, วัดกลางศรีณรงค์ ต.ศรีณรงค์ อ.ศรีขรภูมิ,วัดโพธิ์ศรีวิเวก ต.จอมพระ อ.จอมพระ, วัดระไซร์ ต.บึง อ.เขวาสินรินทร์ , วัดบ้านโคกไทร ต.บ้านจารย์ อ.สังขะ และ วัดปราสาทบ้านจารย์ ต.บ้านจารย์ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ส่วนวัด/ที่พักสงฆ์มีน้ำท่วมขัง เสนาสนะไม่ได้รับความเสียหาย มี 7 อำเภอ รวม 40 แห่ง ได้แก่ อำเภอเมือง 5 แห่ง อำเภอสังขะ 17 แห่ง อำเภอศรีขรภูมิ จำนวน 4 แห่ง อำเภอสำโรงทาบ จำนวน 9 แห่ง อำเภอรัตนบุรี 4 แห่ง อำเภอท่าตูม จำนวน 4 แห่ง และอำเภอศรีณรงค์ จำนวน 1 แห่ง

นายสุพร แผ่แสงจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนการให้ความช่วยเหลือได้รับมอบถุงยังชีพจากศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่มจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 200 ชุด แจกจ่ายให้กับวัดในแต่ละอำเภอ ซึ่งพิจารณาตามความจำเป็นและเดือดร้อน ขณะวัดเสนาสนะได้รับความเสียหาย ได้ประสานวัดเพื่อสำรวจและจัดทำแบบรายงานความเสียหายวัด รายงานให้สำนักงานพุทธสาสนาแห่งชาติเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไปแล้ว 

รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าเยี่ยมและรับหนุ่มร่างยักษ์สูงที่สุดในโลกที่จังหวัดสุรินทร์ พร้อมหลานสาวที่ประสบอุบัติเหตุตาบอดสนิท เข้ารักษาที่กรุงเทพ

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางไปบ้านเลขที่ 71/1 หมู่ 3 บ้านตาแก้ว เทศบาลกันตวจระมวล (กัน-ตรวด-ระ-มวล) อ.ปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเยี่ยมนายพรชัย เสาศรี อายุ 24 ปี หนุ่มร่างยักษ์ที่มีส่วนสูงถึง 257 ซม. น้ำหนัก 225 กก. นับว่ามีความสูงที่สุดในโลก หลังจากที่ปรากฏภาพข่าวในสื่อหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งซักประวัติและตรวจสุขภาพเบื้องต้น ปัจจุบันสภาพขาอ่อนแอจนเดินไม่ได้และต้องใช้วิธีทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้ว นายพรชัย หนุ่มร่างยักษ์ได้ปรากฏเป็นข่าวทั้งในสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ว่ามีความผิดปกติทางร่างกายเติบโตสูงใหญ่ผิดจากคนทั่วไป ทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้เข้าให้การช่วยเหลือเบื้องต้น และได้ส่งเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราช พบว่าเป็นฮอร์โมนในสมองผิดปกติ จนทำให้ร่างกายเจริญใหญ่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา นายพรชัยได้รับเงินช่วยเหลือคนพิการเดือนละ 500 บาท จากเทศบาลกันตวจระมวล ต่อมานายพรชัย เสาศรี เริ่มปรากฏเป็นข่าวในสื่ออีกครั้งเมื่อไม่กี่วันนี้ เมื่อครอบครัวร้องขอการช่วยเหลือ โดยนายพรชัย สุขภาพ ร่างกายเริ่มอ่อนแอลงมาก ทุกวันนี้เดินแทบไม่ได้ การใช้ชีวิตต้องอาศัยการคลานเข่าไปมาและด้วยน้ำหนักที่มาก ทำให้ใช้แรงค่อนข้างเยอะ กอรปกับนายพรชัย มีอาการลมชักเวลาที่ใช้แรงมากๆ จึงต้องมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด เวลาต้องเคลื่อนไหวร่างกายมากๆ    

ทั้งนี้ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามอาการของนายพรชัย หนุ่มร่างยักษ์ จากผู้ใกล้ชิดและดูสภาพร่างกายในเบื้องต้น โดยรับปากว่าจะดูแลในเรื่องการรักษาและรับนายพรชัยเข้ารับการตรวจอย่างละเอียด ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ภายใน 2 สัปดาห์ ในการนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน5,000 บาทให้แก่นายพรชัยไว้ด้วย นายพรชัย อาศัยอยู่กับพ่อ-แม่ คือ นายสรานและนางเวิน เสาศรี ทั้ง 2 คนมีอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไป รายได้ก็ไม่ค่อยมากนัก

นายพรชัยมีพี่สาวอีกคนคือนางสาวอรอุมา ซึ่งร่างกายปกติทุกอย่าง แต่มีหลานสาวอีก 1 คน พบว่าตาบอด 1 ข้างจากอุบัติเหตุขี่รถล้มแฮนท์กระแทกที่ตา ทำให้ตาบอดสนิท ในส่วนนายพรชัยเกิดมามีร่างกายปกติเหมือนเด็กทั่วไป กระทั่งตั้งแต่อายุ 16 ปี เริ่มมีร่างกายสูงใหญ่ผิดปกติ กระทั่งปัจจุบันมีร่างกายใหญ่โต ส่วนสูงกว่า 257ซม. น้ำหนักกว่า 225 กก.และคาดว่าจะสูงที่สุดในโลก ทำให้มีอาการปวดที่ข้อ ที่เข่า และกระดูก จนปัจจุบันลุกเดินไม่ได้ ต้องคลานเข่าเพื่อทำกิจวัตรประจำวัน โดยที่พ่อ-แม่และพี่น้องต้องคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ชิด เพราะร่างกายเริ่มอ่อนแอลง โดยเฉพาะมีอาการของโรคหอบและลมชัก 

ชาวบ้านสุรินทร์ผวาหลังน้ำลดงูยักษ์โผล่กลางหมู่บ้าน พร้อมแนะนำให้ระวังงูเข้าบ้านในช่วงนี้

ชาวบ้านสุรินทร์ผวาหลังน้ำลดงูยักษ์โผล่กลางหมู่บ้าน พร้อมแนะนำให้ระวังงูเข้าบ้านในช่วงนี้ ผู้สื่อข่าวสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ รายงานว่า มีชาวบ้านท่าเตียน หมู่ 8 ตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ แจ้งมาที่ศูนย์วิทยุ อาสาสมัครกู้ภัยหลักเมืองสังขะ ทางโทรศัพท์ ว่ามีงูขนาดใหญ่ เลื้อยเข้าบ้าน สร้างความหวาดผวาให้เจ้าของบ้านและชาวบ้านผู้พบเห็นเป็นอย่างมา นายบุญช่วย ทองจันทร์ รองประธานศูนย์วิทยุอาสาสมัครกู้ภัยหลักเมืองสังขะพร้อมกำลังอาสาสมัครและอุปกรณ์ รุดที่เกิดเกิดเหตุพบ งูเหลือม ขนาดใหญ่ยาวประมาณ 3 เมตร เพศผู้ เลื้อยอยู่กลางถนนในหมู่บ้านท่าเตียน ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านผว่ากันเป็นแทบๆ จากนั้นทางอาสาสมัครกู้ภัยหลักเมืองสังขะ จึงทำการจับและนำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ณ วัดเขาศาลา ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ต่อไป พร้อมทั้งแนะนำวิธีป้องกันงูไม่ให้เข้ามาบริเวณบ้าน ว่าควรตรวจสภาพรั้วกำแพง ว่ามีช่องรูโหว่ ที่งูสามารถลอดเลื้อยเข้ามาหรือไม่ และตัดแต่งกิ่งไม้ ไม้เลื้อยไม่ให้เป็นสะพานเชื้อเชิญงูข้ามกำแพงมาได้ หมั่นตัดหญ้าอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้หญ้ารก และอย่าเพาะแหล่งที่เป็นที่กบดานวางไข่ของงู เช่น ที่รกทึบ ชื้น เป็นต้น เก็บรองเท้าทรงบูทไว้ในบ้าน กันงูเข้าไปหลบในรองเท้าจะทำให้ถูกงูกัดได้ โรยผงฟูราดาน (สารเคมีกำจัดแมลง) หรือปูนขาว ไว้รอบๆบริเวณกันมิให้งูเลื้อยเข้ามา เพราะงูหรือสัตว์เลื้อยคลานอื่นๆจะไม่ชอบกลิ่นและผงฟูราดาน หรือปูนขาว เพราะเมื่อเลื้อยผ่านจะทำปฏิกริยากับผิวหนัง ให้งูปวดแสบปวดร้อนทรมาน เป็นการป้องกันที่ได้ผลดี และหากพบงูเข้าบ้านขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันทีอย่าจับงูเองเพราะอาจเกิดอันตรายจากงูกัดได้

จ.สุรินทร์จัดงานวันพยาบาลแห่งชาติ 21 ต.ค.นี้

นายสอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า วันที่ 21 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ในฐานะที่พระองค์ท่านทรงสำเร็จการศึกษาวิชาการพยาบาล และตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ทรงปฏิบัติพระราชภารกิจในการพัฒนาสุขภาพอนามัยและคุณภาพชีวิตของประชาชนเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา และด้วยพระวิริยะอุตสาหะ นำสิริสุขแก่ปวงชนทุกก้าวพระบาทที่เสด็จไปถึง สมควรเป็นแบบอย่างแก่ผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล ให้ตระหนักในภารกิจของวิชาชีพแห่งตนว่าเป็นงานบริการสุขภาพที่มีความสำคัญ และมีคุณค่าแก่สังคม ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าวแล้วนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้เสนอขอความเห็นชอบต่อคณะรัฐมนตรี ให้วันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปีเป็นวันพยาบาลแห่งชาติ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2533 สภาการพยาบาล และสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในนามของพยาบาลและผดุงครรภ์ทั้งประเทศถือเป็นสิริมงคลอันสูงยิ่ง และได้ร่วมกันจัดงานวันพยาบาลแห่งชาติ ในวันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปีนับแต่นั้นเป็นต้นมา เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงเกียรติประวัติและพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ โรงพยาบาลสุรินทร์ ชมรมพยาบาลจังหวัดสุรินทร์และโรงพยาบาลชุมชนในเขตจังหวัดสุรินทร์ จึงได้จัดงานวันพยาบาลแห่งชาติขึ้น ในวันที่ 21 ตุลาคม 2556 ณ ห้องประชุมสระโบราณ โรงพยาบาลสุรินทร์ เวลา 08.00-12.00 น. และมอบประกาศนียบัตรแก่พยาบาลดีเด่น จึงขอเชิญทุกท่านร่วมงานดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รุดเยี่ยมและรับหนุ่มร่างยักษ์ ที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อนำตัวเข้ารับการรักษาด่วนที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ

วันที่17 ต.ค.56 ที่ บ้านเลขที่ 71/1 หมู่ 3 บ้านตาแก้ว เทศบาลกันตรวจระมวล(กัน-ตรวด-ระ-มวล) อ.ปราสาท จังหวัดสุรินทร์ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางไปเพื่อเยี่ยมนายพรชัย เสาศรี อายุ 24 ปี หนุ่มร่างยักษ์ที่มีส่วนสูงถึง 257ซม. น้ำหนัก 225 กก. พร้อมทั้งตรวจสุขภาพเบื้องต้น พบว่า สภาพขาอ่อนแอจนเดินไม่ได้ และจะต้องใช้วิธีทำกายภาพบำบัดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อเกือบ 1 ปีที่แล้ว นายพรชัย หนุ่มร่างยักษ์ ได้ปรากฏเป็นข่าวทั้งในสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ ว่ามีความผิดปกติทางร่างกายเติบโตสูงใหญ่ผิดจากคนทั่วไป ทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้เข้าให้การช่วยเหลือเบื้องต้น และได้ส่งเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาลศิริราช พบว่าเป็นฮอร์โมนในสมองผิดปกติ จนทำให้ร่างกายเจริญใหญ่โตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา

นายพรชัยได้รับเงินช่วยเหลือคนพิการเดือนละ 500 บาท จากเทศบาลกันตวจระมวล นายพรชัย เกิดมามีร่างกายปกติเหมือนเด็กทั่วไป กระทั่งตั้งแต่อายุ 16 ปี เริ่มมีร่างกายสูงใหญ่ผิดปกติ กระทั่งปัจจุบันมีร่างกายใหญ่โต ส่วนสูงกว่า 257ซม. น้ำหนักกว่า 225 กก.และคาดว่าจะสูงที่สุดในโลก ทำให้มีอาการปวดที่ข้อ ที่เข่า และกระดูก จนปัจจุบันลุกเดินไม่ได้ ต้องคลานเข่าเพื่อทำกิจวัตรประจำวัน โดยที่พ่อ-แม่และพี่น้องต้องคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ชิด เพราะร่างกายเริ่มอ่อนแอลง โดยเฉพาะมีอาการของโรคหอบและลมชัก นายพรชัย อาศัยอยู่กับพ่อ-แม่ คือ นายสราน และ นางเวิน เสาศรี ทั้ง 2มีอาชีพทำนาและรับจ้างทั่วไป รายได้ก็ไม่ค่อยมากนัก นายพรชัยมีพี่สาวอีกคนคือนางสาวอรอุมา ซึ่งร่างกายปกติทุกอย่าง

นพ.ทศพร เสรีรักษ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้สอบถามอาการของนายพรชัย หนุ่มร่างยักษ์ จากผู้ใกล้ชิด และดูสภาพร่างกายในเบื้องต้น โดยรับปากว่าจะดูแลในเรื่องการรักษาและจะรับนายพรชัย เข้ารับการตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากครอบครัวเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้วเพื่อจะได้ไปดูแลนายพรชัยได้ ซึ่งนายอำเภอปราสาท และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยินดีที่จะดูแลและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ทั้งสวัสดิการ และการดูแล ในการนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน5,000 บาทให้แก่นายพรชัย ด้วย




อุทัย มานาดี / ข่าว

เกษตรกรชาวสวนยางพารา อ.ศรีณรงค์ แห่ รับมอบใบรับรอง

เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา อำเภอศรีณรงค์ แห่ รับใบรับรองค่าปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรจำนวน 113 แปลง 98 ราย  ซึ่งเป็นอำเภอที่สองของจังหวัดสุรินทร์        

วันที่17 ตุลาคม 2556  ที่หอประชุมอำเภอศรีณรงค์ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ นายวันชัย ทิพย์อักษร เกษตรจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนายสำเริง  รักสกุล ปลัดอาวุโส รักษาการนายอำเภอศรีณรงค์ ได้ร่วมกันมอบใบรับรองเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา  จำนวน 98 ราย จำนวน 113 แปลง ซึ่งในขณะนี้ อำเภอศรีณรงค์  มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนทั้งสิ้น 3,003 ราย  มีพื้นที่เปิดกรีดไปแล้วจำนวน 8,800 ไร่  ทั้งนี้กรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานเกษตรอำเภอศรีณรงค์ ได้รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรและได้ออกตรวจแปลงทุกพื้นที่ ทั้งที่เป็นพื้นที่ทีมีเอกสารและพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตเป็นเงินสดในอัตราไร่ละ 2,520 บาท ผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ทั้งนี้จะสนับสนุนให้เกษตรกรรายละไม่เกิน 25 ไร่ ตามพื้นที่ที่เปิดกรีดจริงและต้องเป็นเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิ์หรือสิทธิทำกินในพื้นที่นั้นๆ

นางแสวง  ทองอ้ม อยู่บ้านเลขที่ 269 หมู่ที่3 บ้านเกาะแจนแวน ตำบลณรงค์ อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์  กล่าวว่า ตนเองได้ปลูกยางพารา จำนวน 20 ไร่ ซึ่งขณะนี้ได้เปิดกรีดยาง จำนวน 8 ไร่ ได้รับเงินวันนี้ประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท ต้องขอขอบคุณรัฐบาลที่พิจารณาให้ความช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตแก่เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในครั้งนี้ด้วย




อุทัย  มานาดี / ข่าว

จ.สุรินทร์ วัดได้รับผลกระทบน้ำท่วม จำนวน 144 แห่ง

จังหวัดสุรินทร์ วัดที่ได้ความเสียหายจากน้ำท่วม จำนวน 144 แห่ง ต้องปฎิสังขรณ์ ใน 5 อำเภอ 6วัด พร้อมได้ให้ความช่วยเหลือมอบถุงยังชีพ 300ชุด ใน 7 อำเภอ

นายสุพร แผ่แสงจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จากเกิดภาวะอุกทกภัยน้ำท่วมในจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อวันที่19 กันยายน 2556  ส่งผลกระทบต่อวัดได้รับความเสียหายและการให้ความช่วยเหลือวัด ดังนี้ เสนาสนะได้รับความเสียหาย ซึ่งต้องปฎิสังขรณ์ ใน 5 อำเภอ 6วัด ได้แก่ วัดป่าพุทธชยันตี ต.ผักไหม อ.ศรีขรภูมิ, วัดกลางศรีณรงค์ ต.ศรีณรงค์ อ.ศรีขรภูมิ,วัดโพธิ์ศรีวิเวก ต.จอมพระ อ.จอมพระ, วัดระไซร์ ต.บึง อ.เขวาสินรินทร์ ,  วัดบ้านโคกไทร ต.บ้านจารย์  อ.สังขะ และ วัดปราสาทบ้านจารย์ ต.บ้านจารย์  อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ส่วนวัด/ที่พักสงฆ์มีน้ำท่วมขัง เสนาสนะไม่ได้รับความเสียหาย มี 7 อำเภอ รวม 40 แห่ง ได้แก่ อำเภอเมือง 5 แห่ง อำเภอสังขะ 17 แห่ง อำเภอศรีขรภูมิ จำนวน 4 แห่ง อำเภอสำโรงทาบ จำนวน 9 แห่ง อำเภอรัตนบุรี 4 แห่ง อำเภอท่าตูม จำนวน 4 แห่ง และอำเภอศรีณรงค์ จำนวน 1 แห่ง

นายสุพร  แผ่แสงจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนการให้ความช่วยเหลือได้รับมอบถุงยังชีพจากศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่มจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 200 ชุด แจกจ่ายให้กับวัดในแต่ละอำเภอ ซึ่งพิจารณษตามความจำเป็นและเดือดร้อน ขณะวัดเสนาสนะได้รับความเสียหาย ได้ประสานวัดเพื่อสำรวจและจัดทำแบบรายงานความเสียหายวัด รายงานให้สำนักงานพุทธสาสนาแห่งชาติเพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไปแล้ว




อุทัย  มานาดี / ข่าว

มูลนิธิคุณพุ่ม มอบทุนการศึกษาเด็กออทิสติกและพิการที่บุรีรัมย์ 175 ทุน

มูลนิธิคุณพุ่ม มอบทุนการศึกษาเด็กออทิสติกและพิการที่บุรีรัมย์ 175 ทุน มูลนิธิคุณพุ่ม ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มอบทุนสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการที่ จ.บุรีรัมย์ 175 ทุน ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกับเด็กปกติทั่วไป ขณะปัจจุบันมีเด็กออทิสติกและพิการอยู่ในความดูแลของศูนย์การศึกษา 317 คน วันนี้ (18 ต.ค.56) นายเฉลิมพล พลวัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธีมอบทุนสนับสนุนการศึกษามูลนิธิคุณพุ่ม ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ให้แก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการรุนแรงในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 175 คน ทุนละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 875,000 บาท ณ หอประชุมบัวชมพู โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือเด็กพิเศษดังกล่าวที่ครอบครัวมีฐานะยากจน ให้ได้รับการพัฒนาสมรรถภาพทางร่างกาย จิตใจ ให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และได้รับโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกับเด็กปกติทั่วไป จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดยังได้อ่านพระดำรัส ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมให้โอวาทแก่ผู้เข้ารับมอบทุนดังกล่าวด้วย ซึ่งปัจจุบันจังหวัดบุรีรัมย์มีเด็กออทิสติกและเด็กพิการ อยู่ในความดูแลของศูนย์การศึกษาพิเศษอยู่จำนวน 317 คน สำหรับมูลนิธิคุณพุ่ม เกิดจากพระปรีชาสามารถและความเข้าใจในฐานะพระมารดาที่ดูแลเอาใจใส่และพัฒนาการเรียนรู้ของพระโอรสอย่างใกล้ชิด ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานมูลนิธิ และผู้ประทานกำเนิดมูลนิธิคุณพุ่ม ทรงเล็งเห็นว่าบุคคลที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ยังไม่ได้รับโอกาสในด้านต่างๆ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นเงินทุนแรกเริ่มสำหรับจดทะเบียนก่อตั้งมูลนิธิคุณพุ่ม เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2548 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงคุณพุ่ม พระโอรสในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มาจนถึงปัจจุบัน



สุรชัย พิรักษา
สวท.บุรีรัมย์

มูลนิธิคุณพุ่ม มอบทุนการศึกษาเด็กออทิสติกและพิการที่บุรีรัมย์ 175 ทุน

มูลนิธิคุณพุ่ม มอบทุนการศึกษาเด็กออทิสติกและพิการที่บุรีรัมย์ 175 ทุน มูลนิธิคุณพุ่ม ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มอบทุนสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการที่ จ.บุรีรัมย์ 175 ทุน ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกับเด็กปกติทั่วไป ขณะปัจจุบันมีเด็กออทิสติกและพิการอยู่ในความดูแลของศูนย์การศึกษา 317 คน วันนี้ (18 ต.ค.56) นายเฉลิมพล พลวัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธีมอบทุนสนับสนุนการศึกษามูลนิธิคุณพุ่ม ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ให้แก่เด็กออทิสติกและเด็กพิการรุนแรงในจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 175 คน ทุนละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 875,000 บาท ณ หอประชุมบัวชมพู โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือเด็กพิเศษดังกล่าวที่ครอบครัวมีฐานะยากจน ให้ได้รับการพัฒนาสมรรถภาพทางร่างกาย จิตใจ ให้สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และได้รับโอกาสทางการศึกษาเท่าเทียมกับเด็กปกติทั่วไป จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดยังได้อ่านพระดำรัส ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พร้อมให้โอวาทแก่ผู้เข้ารับมอบทุนดังกล่าวด้วย ซึ่งปัจจุบันจังหวัดบุรีรัมย์มีเด็กออทิสติกและเด็กพิการ อยู่ในความดูแลของศูนย์การศึกษาพิเศษอยู่จำนวน 317 คน สำหรับมูลนิธิคุณพุ่ม เกิดจากพระปรีชาสามารถและความเข้าใจในฐานะพระมารดาที่ดูแลเอาใจใส่และพัฒนาการเรียนรู้ของพระโอรสอย่างใกล้ชิด ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานมูลนิธิ และผู้ประทานกำเนิดมูลนิธิคุณพุ่ม ทรงเล็งเห็นว่าบุคคลที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ยังไม่ได้รับโอกาสในด้านต่างๆ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นเงินทุนแรกเริ่มสำหรับจดทะเบียนก่อตั้งมูลนิธิคุณพุ่ม เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2548 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงคุณพุ่ม พระโอรสในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มาจนถึงปัจจุบัน



สุรชัย พิรักษา
สวท.บุรีรัมย์

ผู้ว่า บุรีรัมย์เตือนประชาชน 4 อำเภออาศัยติดริมน้ำมูลระวังน้ำท่วมฉับพลัน

ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์เตือนประชาชน 4 อำเภออาศัยติดริมน้ำมูลระวังน้ำท่วมฉับพลัน ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ แจ้งเตือนประชาชน 4 อำเภอ ที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งลำน้ำมูล ให้ระมัดระวังน้ำเหนือจากจังหวัดนครราชสีมา และน้ำจากลำปะเทีย ลำน้ำมาศ ไหลมารวมที่ลำน้ำมูลเอ่อท่วมขังไร่นาบ้านเรือนราษฎร เตรียมขนย้ายสิ่งของสัตว์เลี้ยงหนีน้ำขึ้นที่สูงหากเกิดภาวะน้ำท่วม ( 18 ต.ค. 56 ) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ขอความร่วมมือทางอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ได้ช่วยประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในเขตพื้นที่ 4 อำเภอ มีอำเภอพุทไธสง คูเมือง แคนดง และอำเภอสตึก ที่อาศัยอยู่บริเวณริมฝั่งลำน้ำมูล ให้ระมัดระวังมวลน้ำเหนือจากเขื่อนลำพระเพลิง และเขื่อนลำตะคลอง ที่ได้ไหลเข้าเอ่อท่วมบ้านเรือนไร่นาราษฎร ที่จังหวัดนครราชสีมา ที่จะไหลลงมาสมทบกับ น้ำที่ล้นสปิลเวย์เขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ. บุรีรัมย์ รวมทั้งน้ำจากลำปะเทีย และมวลน้ำจากเขื่อนลำแซะ จ.นครราชสีมา ที่ไหลมาท่วมขังไร่นาบ้านเรือนราษฎรที่จังหวัดบุรีรัมย์ และจะไหลไปรวมกันที่ลำน้ำมาศ ก่อนที่จะไหลลงไปรวมกันยังลำน้ำมูล เกรงว่ามวลน้ำจำนวนมากดังกล่าว ที่ไหลผ่านและท่วม บ้านเรือน ไร่นาราษฎรใน 4 อำเภอ ทางจังหวัดจึงแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ได้เฝ้าระมัดระเตรียมขนย้ายสิ่งของมีค่า สัตว์เลี้ยง หนีน้ำขึ้นที่สูง เพราะเกรงว่าทรัพย์สินจะได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้มวลน้ำบางส่วนได้ไหลอำเภอพิมาย และอำเภอชุมพวง จ.นครราชสีมาแล้ว ทำให้น้ำมีปริมาณน้ำในลำน้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ยังกล่าวต่ออีกว่า น้ำที่ท่วมขังไร่นา บ้านเรือนราษฎร และถนนหลายสายทั้ง 22 อำเภอ ได้ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติในไม่ช้านี้ อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้จัดเตรียมหน่วยแพทย์ เรือท้องแบน และสิ่งอำนวยความสะดวกไว้คอยช่วยเหลือประชาชนใน 4 อำเภอ ที่มวลน้ำเหนือจากจังหวัดนครราชสีมา และน้ำจากหลายลำน้ำที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่จะไหลลงสู่ลำน้ำมูลที่จะเอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎรอีกระลอกไว้อย่างเต็มที่แล้ว



สุรชัย พิรักษา
สวท.บุรีรัมย์ 

ธารน้ำใจทั้งภาครัฐเอกชนที่บุรีรัมย์ยังหลั่งไหลมอบผ่านกาชาดนำไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง

ธารน้ำใจทั้งภาครัฐเอกชนที่บุรีรัมย์ยังหลั่งไหลมอบผ่านกาชาดนำไปช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง ธารน้ำในจากทั้งภาครัฐและเอกชนยังหลั่งไหลมอบเงิน ถุงยังชีพ และสิ่งของ ให้กับเหล่ากาชาดจังหวัด เพื่อนำไปมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยทั้ง 22 อำเภอ หลังประสบภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง ขณะจังหวัดเร่งสรุปข้อมูลเสนอของบพื้นฟูสิ่งสาธารณูปโภค ที่ถูกน้ำท่วมเสียหายอย่างเร่งด่วนแล้ว ( 17 ต.ค. 56 ) ธารน้ำใจจากทั้งภาครัฐและเอกชน ยังหลั่งไหลร่วมบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ให้กับครอบครัวที่เดือดร้อนอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยทางธนาคารอาคารสงเคราะห์พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้นำถุงยังชีพกว่า 220 ชุด หอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับจังหวัดขอนแก่นได้นำเงินจำนวน 50,000 บาท พร้อมด้วยสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดบุรีรัมย์ สังกัดสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 จ.อุบลราชธานี ได้นำสิ่งข้าวสารอาหารแห้ง ที่ได้รับบริจาคจากประชาชนผ่านทางสถานี ที่อาสาเป็นสื่อกลางในการรับบริจาคสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบผ่าน นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และเหล่ากาชาดจังหวัด เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนใน 22 อำเภอ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในเขตพื้นที่ให้คลายความเดือดร้อน หลังทางจังหวัดได้ประกาศให้ทั้ง 22 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยอุทกภัยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 114 ตำบล 1,018 หมู่บ้าน ประชาชนที่ได้รับผลกระทบกว่า 58,000 ครัวเรือน จำนวนราษฎรที่เดือดร้อน 258,597 คน ซึ่งขณะนี้มีผู้จมน้ำเสียชีวิตแล้ว 5 ราย เป็นเด็กลงไปเล่นน้ำ 3 ราย และผู้ใหญ่ที่ลงไปหาปลา 2 ราย นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า ขณะนี้ทางจังหวัดได้สั่งให้ทุกอำเภอร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งสำรวจพื้นที่ พืชสวน ไร่นา ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ร่วมถึงสิ่งสาธารณูปโภค โดยเฉพาะถนนที่เสียหายกว่า 160 สาย เพื่อเสนอของบประมาณนำมาซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพเดิม เพื่อให้ประชาชนสัญจร และนำสินค้าเกษตรออกมาจำหน่ายได้ตามปกติ เป็นการลดปัญหาความเดือดร้อน ให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วนด้วย



สุรชัย พิรักษา / สวท.บุรีรัมย์ 

หอการค้าบุรีรัมย์ยันน้ำท่วมไม่กระทบภาคธุรกิจการพาณิชย์และประชาชนยังมีกำลังซื้อ

หอการค้าบุรีรัมย์ยันน้ำท่วมไม่กระทบภาคธุรกิจการพาณิชย์และประชาชนยังมีกำลังซื้อ หอการบุรีรัมย์ ยืนยันน้ำท่วมไม่ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจ ภาคพาณิชย์ พร้อมเชื่อว่าประชาชนยังมีกำลังชื้อ เพราะรัฐยังมีงบประมาณส่วนหนึ่งออกช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะภาคการเกษตรส่วนใหญ่ยังได้รับผลผลิต ประกอบกับบุรีรัมย์เป็นพื้นที่แห้งแล้งอยู่แล้ว (18 ต.ค.56 ) นายนที เจียรพันธุ์ ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุว่า หลังจากพื้นจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประสบปัญหาอุทกภัย จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นหลายลูกซัดกระหน่ำ ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือน พืชสวน ไร่นาราษฎรในหลายอำเภอ แต่ไม่ส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจ และภาคพาณิชย์ในจังหวัด เพราะส่วนใหญ่อิทธิพลจากน้ำฝน จะท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ได้รับความเสียหายไม่มาก แต่กลับเป็นผลดีกับพื้นที่เกษตรบนที่สูง หรือพื้นที่เกษตรนาดอนจะได้รับประโยชน์จากน้ำฝน เพราะจะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้พื้นที่การเกษตร ของเกษตรกรส่วนใหญ่ประสบปัญหาภัยแล้งอยู่แล้ว ทำให้ฝนที่ตกลงมาจะทำให้พืชสวน ไร่นา ที่ประสบภัยแล้งส่วนมากกลับฟื้นตัว และจะได้รับผลผลิตมากกว่าพื้นที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ทั้งยังเชื่อว่าประชาชนยังมีกำลังซื้อไม่แตกต่างจากทุกปีที่ผ่านมา เพาะส่วนมากเกษตรกรที่มีพืชสวน ไร่นาเสียหายนั้น ก็จะได้รับการชดเชยค่าความเสียจากงบประมาณของรัฐบาล เพื่อนำมาบรรเทาความเดือดร้อนส่วนหนึ่งอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามน้ำท่วมขังครั้งนี้หากไม่ได้รับการชดเชย ของพื้นที่การเกษตรที่สูงหรือพื้นที่ดอนแล้ว น่าจะมีความเสียหายมากกว่าพันล้านบาทอย่างแน่นอน ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ ยังยอมรับว่า กำลังชื้อที่มาจากภาคการเกษตรสูงมากกว่าทุกภาค โดยจะเห็นได้จากรายได้ในจังหวัดจากทุกภาคอยู่ที่ประมาณ 90,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากภาคการเกษตรประ 17,000 ล้านบาท พร้อมยังเชื่อว่าหากรายได้ที่มาจากภาคการเกษตรแข็งแกร่ง ภาคธุรกิจและการพาณิชย์ในจังหวัดอยู่ได้อย่างแน่นอน ทั้งแนวโน้มธุรกิจในจังหวัดปีนี้จะกระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเกษตรกรยังมีรายได้จากผลผลิตทางการเกษตรอย่างเช่นทุกปีถึงแม้น้ำจะท่วมในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ก็ตาม



สุรชัย พิรักษา
สวท.บุรีรัมย์

บุรีรัมย์พ่อค้าแม่ค้าเร่งขนย้ายโต๊ะเก้าอี้ตามซุ้มอาหารที่ถูกน้ำท่วมตั้งตามถนนรองรับนักท่องเที่ยวช่วงออกพรรษา

บุรีรัมย์พ่อค้าแม่ค้าเร่งขนย้ายโต๊ะเก้าอี้ตามซุ้มอาหารที่ถูกน้ำท่วมตั้งตามถนนรองรับนักท่องเที่ยวช่วงออกพรรษา พ่อค้าแม่ค้าที่แหล่งท่องเที่ยวหาดทรายเทียมเขื่อนลำนางรอง จ.บุรีรัมย์ เร่งขนย้ายโต๊ะเก้าอี้ตามซุ้มอาหารที่ถูกน้ำท่วม ขึ้นมาตั้งตามถนนเพื่อเตรียมรับนักท่องเที่ยวที่จะพาครอบครัวมาเที่ยวและรับประทานอาหารช่วงเทศกาลออกพรรษา หลังน้ำในเขื่อนเอ่อท่วมจนต้องปิดร้านขาดรายได้มานานกว่า 2 สัปดาห์ ( 18 ต.ค. 56 ) พ่อค้าแม่ค้าที่บริเวณแหล่งท่องเที่ยวหาดทรายเทียมเขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้เร่งขนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ ตามซุ้มอาหารที่ถูกน้ำจากเขื่อนลำนางรองเอ่อท่วม จนไม่สามารถเปิดขายได้ ขึ้นมาตั้งบนถนนที่ไม่ถูกน้ำท่วม เพื่อเตรียมไว้รองรับให้บริการลูกค้า และนักท่องเที่ยว ที่จะพาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนและรับประทานอาหารในช่วงเทศกาลออกพรรษาที่ใกล้จะถึงนี้ แม้ว่าตามบริเวณร้านอาหารและหาดทรายเทียมจะยังมีน้ำท่วมอยู่ก็ตาม เพราะต่างห็มีความหวังว่าช่วงเทศกาลออกพรรษาจะมีนักท่องเที่ยว เดินทางมาเที่ยว และนั่งรับประทานอาหารเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้พ่อค้าแม่ค้าที่ตัดสินใจขนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ ขึ้นมาตั้งตามถนนเพื่อเปิดขายช่วงเทศกาลออกพรรษา ยังบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า หลังปริมาณน้ำในเขื่อนลำนางรองสูงเกินระดับกักเก็บจนล้นออกสปิลเวย์ และเอ่อเข้าท่วมบ้าน วัด โรงเรียน รวมถึงร้านค้าที่ตั้งอยู่บริเวณหาดทรายเทียน จนไม่สามารถเปิดขายได้ จากผลกระทบดังกล่าวก็ทำให้พ่อค้าแม่ค้าต้องขาดรายได้รายละกว่า 1 หมื่นบาทต่อวัน เป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์แล้ว ด้านนางเรณู วงศ์ที แม่ค้ารายหนึ่ง บอกว่า ขณะนี้ระดับน้ำจะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดขายได้ตามปกติ เพราะยังมีน้ำตามซุ้มนั่งรับประทานอาหาร จึงจำเป็นต้องขนย้ายโต๊ะ เก้าอี้ ขึ้นไปตั้งตามจุดที่ไม่ถูกน้ำท่วมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ที่จะมาเที่ยวและรับประทานอาหารในช่วงเทศกาลออกพรรษา เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว รวมถึงลูกน้อง และเป็นทุนไว้ฟื้นฟูร้านหลังน้ำลดด้วย ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เงินในการปรับปรุงฟื้นฟูร้านที่ถูกน้ำท่วม ไม่ต่ำกว่ารายละ 1 แสนบาท



สุรชัย พิรักษา
สวท. บุรีรัมย์

วิทยาลัยการอาชีพสตึก มีความประสงค์จะประกวดราคาจ้างก่อสร้างอาคารศูนย์วิทยบริหารพร้อมครุภัณฑ์

วิทยาลัยการอาชีพสตึก มีความประสงค์จะประกวดราคาจ้างก่อสร้างอาคารศูนย์วิทยบริหารพร้อมครุภัณฑ์ กำหนดดูสถานที่วันที่ 22 ตุลาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. กำหนดยื่นซองเทคนิคเอกสารประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในวันที่ 24 ตุลาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 12.00 น. ณ สำนักงานพัสดุกลาง วิทยาลัยการอาชีพสตึก และกำหนดเสนอราคาในวันที่ 28 ตุลาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ผู้สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารประกวดราคาด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ในระหว่างวันที่ 16 – 21 ตุลาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ www.sticc.ac.th หรือสอบถามทางโทรศัพท์หมายเลข 0 4468 0114 ในวันและเวลาราชการ

รองนายกรัฐมนตรีนำประชาชนบูชาพระธาตุพนมเพื่อเป็นสิริมงคลวันออกพรรษา

พลตำรวจเอกประชา  พรหมนอก  รองนายกรัฐมนตรี  พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  นำข้าราชการ  พ่อค้า ประชาชน  บูชาพระธาตุพนม  ด้วยผ้าไตร  บายศรี  เครื่องสักการบูชา ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร  อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม   เพื่อบูชาองค์พระธาตุพนมและเพื่อเป็นสิริมงคลกับผู้ที่มางานมหกรรมไหลเรือไฟในวันออกพรรษา  และบูชาท้าวพญาทั้ง 5 องค์ คือ พญาจุลนีพรหมทัต  พญาอิทปัตถนคร  พญาคำแดง  พญานันทเสน  และพญาสุวรรณภิงคา  ที่ร่วมนิมนต์องค์พระอังคธาตุของพระศาสดามาสถาปนาไว้ในองค์พระธาตุพนม  ให้เทวดาและมนุษย์เคารพบูชา  ซึ่งโอกาสนี้รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอพรให้กับประชาชนชาวไทย ได้มีความสุข  พ้นทุกข์ จากเหตุอุทกภัยโดยเร็ว

ต่อจากนั้นเป็นการรำบูชาองค์พระธาตุพนม  6 ชุด โดยนักแสดงจากอำเภอต่างๆของจังหวัดนครพนม  ประกอบด้วย  รำตำนานพระธาตุพนม  รำศรีโคตรบูร  รำผู้ไทย  รำหางนกยูง  รำไทญ้อ และรำขันหมากเบ็ง  และนักแสดงทั้งหมดร่วมรำกับประชาชนที่มาร่วมงานเป็นการบูชาพระธาตุพนม

ทั้งนี้งานมหกรรมไหลเรือไฟ  เพื่อบูชาพระแม่คงคาจะจัดขึ้นในช่วงค่ำ ณ ลานพนมนาคา ริมแม่น้ำโขง  อำเภอเมือง  จังหวัดนครพนม

ธนาคารแห่งประเทศไทยประชุมชี้แจงการบทบาทหน้าที่การให้บริการในด้านการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน

นายอดุลย์ ค้ำชู  ผู้บริหารส่วนส่วนคุ้มครองและให้ความรู้ผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  กล่าวว่า  ธนาคารแห่งประเทศไทย  ร่วมกับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดนครพนม  ประชุมชี้แจงบทบาทหน้าที่ของและยุทธศาสตร์สำคัญของธนาคารแห่งประเทศไทย  โดยเฉพาะด้านการคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน  ซึ่งมีแนวคิดที่จะให้ผู้บริโภคมีความเข้มแข็ง  รู้สิทธิและหน้าที่ของตน  ไม่ถูกเอาเปรียบจากผู้ใช้บริการทางการเงินซึ่งมีอำนาจต่อรองหรือมีข้อมูลที่มากกว่าเนื่องจากผลิตภัณฑ์ทางการเงินในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น  ประกอบกับประชาชนมีความคาดหวังต่อ ธนาคารแห่งประเทศไทยด้านการคุ้มครองผู้บริโภคมากขึ้น  ฉะนั้นบทบาทของการดูแลจึงเน้นเชิงรุก  โดยมุ่งป้องกันปัญหาที่ต้นเหตุ  ให้ประชาชนมีความรู้ทางการเงิน  เพื่อลดการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุคือการร้องเรียนต่างๆ  หากประชาชนมีปัญหาด้านการเงินสามารถสอบถามหรือแจ้งเรื่องร้องเรียนได้ที่ สายด่วนธนาคารแห่งประเทศไทย  โทร.1213

เลขาธิการพรรคฯ เมืองฉงจั่ว สาธารณรัฐประชาชนจีน กระชับความสัมพันธ์เมืองคู่ค้ากับจังหวัดมุกดาหาร

เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เมืองฉงจั่วสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมคณะเดินทางมาเยือนจังหวัดมุกดาหาร เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างเมืองคู่ค้า และหารือแลกเปลี่ยน การค้า การท่องเที่ยว การศึกษา การลงทุนและระบบโลจิสติก หลังจากได้สถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง และได้ตกลงความร่วมมือในเรื่องดังกล่าวให้เกิดเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2556  เวลา 17.00 น. ที่ด่านศุลกากร สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 2 นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และหัวหน้าส่วนราชกากร สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และหอการค้าจังหวัดมุกดาหาร ได้ให้การต้อนรับ นายหวงเค่อ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เมืองฉงจั่ว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสเดินทางมาเยือนมุกดาหาร พร้อมกับได้ประชุมหารือแลกเปลี่ยนในความร่วมมือซึ่งกันและกันในด้านเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยว การศึกษา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และวัฒนธรรม ณ ห้องประชุมด่านศุลกากรมุกดาหาร สะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 2 หลังจากได้สถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้อง และได้ตกลงความร่วมมือในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2554 ให้เกิดเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการค้า การท่องเที่ยว วัฒนธรรมและระบบการขนส่ง

โดยทั้งสองฝ่ายอยากให้มีการปรับปรุงแก้ไขระบบการให้บริการผ่าจุดตรวจ ค่าธรรมเนียมผ่านแดนในราคาเดียวกัน การลดขั้นตอนการตรวจสินค้า รวมไปถึงการกำหนดเส้นทาง (Route) R8 และ R12 อยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (CBTA) บนระเบียงเศรษฐกิจ EWEC เช่นเดียวกับ R9 การพัฒนาปรับปรุงเส้นทางเมืองดงเห็น – ไชยบัวทอง สปป.ลาว ซึ่งเดิมนั้นเป็นถนนลูกรัง เป็นถนนมาตรฐานแอทฟัลส์ ระยะทาง 70 กม. เชื่อมโยงเส้นทาง R9 กับ R12 ผ่านด่านจอหลอ สู่ฮานอย เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ในการลดระยะทางขนส่งถึง 70 กม. เมื่อเทียบกับมุกดาหาร – ลาวบาว โดยจังหวัดมุกดาหารขอให้จีนเป็นผู้ลงทุนการก่อสร้าง เนื่องจากได้รับประโยชน์มากที่สุด จากการส่งออก – นำเข้า มากกว่าประเทศใดๆ บนเส้นทางดังกล่าว หรือเป็นการลงทุนร่วมระหว่าง จีน – ไทย หรือ จีน – ลาว รวมถึงการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีน กับประเทศสมาชิกอาเซียน ในอัตราเดียวกัน กับประเทศที่มีพรมแดนติดกับจีนซึ่งปัจจุบันมีความแตกต่างกันมาก เช่น อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากผลไม้ไทย อัตราร้อยละ 13 ขณะเดียวกันได้จัดเก็บจากเวียดนามอัตราเพียงร้อยละ 5 ทั้งที่เป็นประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนเช่นกัน ซึ่งหากมีการจัดเก็บอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าจีนในอัตราเดียวกัน ปริมาณการค้าและมูลค่าจะเกิดความสมดุลมากขึ้น โดยในปี พ.ศ.2555 จังหวัดมุกดาหารมีมูลค่าการค้าชายแดน โดยผ่านสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 ไปยังลาว เวียดนาม และจีน มีมูลค่าการค้าประมาณ 100,000 ล้านบาท เป็นสินค้าส่งออก ประมาณ 57,859 ล้านบาท สินค้านำเข้า ประมาณ 32,179 ล้านบาท และในปี 2557 คาดว่าน่าจะมีมูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 110,000 ล้านบาท

นายหวงเค่อ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เมืองฉงจั่วสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าวว่าในการเดินทางมามุกดาหารครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์และร่วมมือในด้านต่าง ๆ ต่อกันยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการค้า การท่องเที่ยว หลังจากที่นางสาวยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีของไทยเดินทางไปร่วมงานอาเซียนเอ็กซโป ที่นครหนานหนิง มณฑลกวางสีเมื่อเร็ว ๆนี้ และมีแนวคิดยกเลิกการขอวีซ่าเข้าประเทศของทั้ง 2 ประเทศ ประกอบกับโครงการปรับปรุงระบบการขนส่งรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง เชื่อมไปยังจีน ของรัฐบาลไทย ซึ่งหากประสบความสำเร็จจะทำให้มีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนเดินทางมาไทยปีละหลายล้านคน และเมื่อถึงวันนั้น จะได้นำนักลงทุนมาลงทุนสร้างโรงแรมชั้นหนึ่งที่จังหวัดมุกดาหาร หรือจังหวัดใกล้เคียงก็เป็นได้ ส่วนปัญหาเรื่องภาษีผลไม้ที่ทางจีนเก็บอัตราไม่เท่ากันระหว่างเวียดนาม และไทยนั้น ตอนนี้จีนอยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลเพื่อปรับลดอัตราภาษีให้น้อยลงและในอนาคตจะมีการเพิ่มเครื่องมือและโกดังสินค้า เพื่อช่วยสนับสนุนการตรวจสินค้าด้วย หลังจากที่ได้ประชุมแลกเปลี่ยนหารือ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้นำ นายหวงเค่อ เยี่ยมชมการปฏิบัติงาน การให้บริการผ่านแดนของเจ้าหน้าที่ด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ 2 ก่อนเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำ ณ โรงแรมมุกดาหารแกรนด์ พร้อมจัดชุดแสดงศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น เช่น ลำภูไทของชาวมุกดาหาร ต้อนรับคณะด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมึ่นและมิตรภาพที่ดีต่อกัน

สำหรับเส้นทางการขนส่งสินค้าจากจังหวัดมุกดาหารไปยังเมืองฉงจั่ว มณฑลกวางซี (กวางสี) โดยหลังจากผ่านสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่ ๒ ผ่านสะหวันนะเขต สปป.ลาว ผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษลาวบาว ของเวียดนาม จังหวัดกวางตรี ขึ้นเหนือไปตามถนนหมายเลข 1 ถึงกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระยะทางประมาณ 945 กิโลเมตร และจากกรุงฮานอย ไปยังตอนใต้ของจีน ตามเส้นทางเมืองลังเซิน ไปถึงชายแดนเวียดนาม - จีน ที่ด่านโหยวอวี้กวาน ก่อนเข้าสู่เมืองผิงเสียง เมืองฉงจั่ว นครหนานหนิง มลฑลกว่างซี รวมระยะทางประมาณ 1,340 กิโลเมตร

สสจ.มุกดาหาร ร่วมกับอำเภอหว้านใหญ่จัดกิจกรรมรณรงค์ “คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า”

สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับอำเภอหว้านใหญ่จัดกิจกรรมรณรงค์ "คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า”เนื่องในวันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ วันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี "พระมารดาแห่งการทันตแพทย์ไทย”

วานนี้ ( 18 ต.ค. 56 ) นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดงานโครงการรณรงค์ "คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า”และวันทันตสาธารณสุข วันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับอำเภอหว้านใหญ่และสมาชิก พอ.สว.จัดขึ้น ณ โรงพยาบาลหว้านใหญ่ อำเภอหว้านใหญ่ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี "สมเด็จย่าของปวงชนชาวไทย” สืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน ในอันที่จะช่วยเหลือผู้ทุกข์ยาก ให้พ้นจากโรคในช่องปาก ประกอบกับในปี 2556 กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมูลนิธิ พอ.สว. ในพื้นที่ 60 จังหวัด จัดทำโครงการรณรงค์ คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า ตุลาคม 2556 เดือนแห่งการรณรงค์ดูแลสุขภาพช่องปากคนไทย เพื่อร่วมพลังวิชาชีพด้านทันตกรรม จัดกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพทางช่องปาก แก่ประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กก่อนวัยเรียน เด็กวัยเรียน กลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ

นายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า สำหรับจังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกับอำเภอหว้านใหญ่ จัดกิจกรรม รณรงค์ "คนไทยฟันดี สดุดีสมเด็จย่า” ที่โรงพยาบาลหว้านใหญ่ วันที่ 18 ตุลาคม โดยการให้บริการทันตกรรมแก่ประชาชนทั่วไปโดยไม่คิดมูลมูลค่า ยังจัดให้มีนิทรรศการพระราชกรณียกิจสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นิทรรศการความรู้ด้านสุขภาพ การมอบเกียรติบัตรแกนนำนักเรียนฟันดี ชมรมสายใยรักแห่งครอบครัว การแสดงบนเวที การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และนอกจากนั้นในวันที่ 21 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติให้เป็น วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ ได้ร่วมกับโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพทุกแห่ง ให้บริการทันตกรรม โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด 

ผู้ว่ามุกฯ เชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมงานนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ

จังหวัดมุกดาหารขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมงานนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศระหว่างวันที่ ๑๘-๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี

( ๑๘ ต.ค.๕๖)  นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดการจัดงานนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศภายใต้ชื่องาน "สร้างอนาคตไทย ๒๐๒๐”เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจต่อโครงการ ให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักธุรกิจ นักลงทุน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชานทั่วไป รวมทั้งเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการที่มีผลต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ทั้งในแง่ภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม รวมทั้งเป็นการแสดงความคิดเห็น รวมถึงแนวทางการพัฒนาประเทศของประชาชนทั่วไปในพื้นที่ ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนในด้านการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศไทย

จังหวัดมุกดาหารรวมอยู่ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและจังหวัดใกล้เคียง กำหนดจัดงานที่จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี (ตรงข้ามศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี)โดยกำหนดให้จังหวัดมุกดาหารเข้าร่วมงานในวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ น.ผู้ร่วมงานจำนวน ๒,๐๐๐ คน

จึงขอเชิญชวนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ บุคลากร ประชาชนทั่วไป ผู้บริหารท้องถิ่นร่วมงานนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ภายใต้ชื่องาน "สร้างอนาคตไทย ๒๐๒๐”จังหวัดอุบลราชธานี ตามกำหนดการดังกล่าวโดยทั่วกัน 

มูลนิธิคุณพุ่มมอบทุนการศึกษาให้เด็กออทิสติกและเด็กพิการ จ.ร้อยเอ็ด 128 ทุน

วานนี้ (18 ต.ค.56) เวลา 10.00 น. ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษามูลนิธิคุณพุ่ม ประจำปีการศึกษา 2556 แก่เด็กพิการในจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 128 ทุนๆ ละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 640,000 บาท โดยมี นายประสิทธิ์ แสงศรี ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดร้อยเอ็ด พ.อ.กฤษดา นิยมวิทย์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดร้อยเอ็ด ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด ตลอดจนหน่วยงานราชการเกี่ยวข้อง คณะครูพี่เลี้ยงเด็กพิการ ตลอดจนผู้ปกครอง และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมในพิธีจำนวนมาก
นายประสิทธิ์ แสงศรี ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า สืบเนื่องจากทูลกระ

หม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี องค์ประธานมูลนิธิคุณพุ่ม ได้ทรงมีพระเมตตาประทานทุนสนับสนุนการศึกษาให้แก่เด็กพิการทุกประเภท ซึ่งมีฐานะยากจนทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2550 และต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยทรงเสด็จประทานทุนด้วยพระองค์เอง ให้แก่เด็กพิการในเขตกรุงเทพมหานคร และในส่วนของต่างจังหวัด มูลนิธิคุณพุ่ม ได้ขอความร่วมมืออนุเคราะห์จากผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้แทนพระองค์ในการมอบทุนการศึกษาให้แก่เด็กพิการในจังหวัดนั้นๆ
นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กล่าวอัญเชิญพระราชดำรัส ในพิธีมอบทุนสนับสนุนการศึกษาแก่เด็กออทิสติก และเด็กพิการในมูลนิธิคุณพุ่ม ประจำปี 2556 ว่า "ผู้รับทุนการศึกษาทุกท่าน ข้าพเจ้าขอแสดงความดีใจแก่ผู้ได้รับทุนการศึกษาจากมูลนิธิคุณพุ่ม ประจำปี 2556 ทุนการศึกษาที่ได้รับในครั้งนี้ ขอให้ท่านนำไปใช้ประโยชน์สูงสุด ให้แก่บุตรหลานที่มีความต้องการพิเศษของท่าน เพื่อให้เด็กกลุ่มนี้ได้รับการพัฒนาศักยภาพ และสามารถช่วยเหลือตนเองได้ การพัฒนาบุตรหลานของท่านควรพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทุนการศึกษาจึงเป็นส่วนช่วยแบ่งเบาภาระท่านได้ในระดับหนึ่ง เด็กพิการจะมีศักยภาพ และช่วยเหลือตนเองได้มากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง ข้าพเจ้าขอให้กำลังใจทุกท่าน มีความอดทน มุ่งมั่นในการพัฒนาบุตรหลานเพื่อให้มีศักยภาพ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข



ประเสริฐ อินทา/ข่าว

โรงพยาบาลร้อยเอ็ด จัดกิจกรรมร้อยดวงใจถวายไท้สมเด็จย่า เนื่องในวันพยาบาลแห่งชาติ วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ และวันอาสาสมัครไทย

นายแพทย์เกรียงไกร โกวิทางกูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ด้วยคณะรัฐมนตรีมีมติให้วันที่ 21 ตุลาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระศรีนครินทร์ทราบรมราชชนนี เป็นวันพยาบาลแห่งชาติ วันสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ วันทันตสาธารณสุขแห่งชาติ และวันอาสาสมัครไทย มาตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา ในนามองค์กรวิชาชีพดังกล่าว โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับโรงพยาบาลร้อยเอ็ด จัดกิจกรรมร้อยดวงใจถวายไท้สมเด็จย่าขึ้น ในวันที่ 21 ตุลาคม 2556 เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ทราบรมราชชนนี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ที่ทรงมีต่อองค์กรวิชาชีพ และพสกนิกรชาวไทยในพระเมตตาที่ทรงอุทิศและสละเวลาปฏิบัติพระราชภารกิจในการพัฒนาสุขภาพอนามัยปวงชนชาวไทย

นายแพทย์เกรียงไกร กล่าวเพิ่มเติมว่า กำหนดการจัดงาน วันที่ 21 ตุลาคม 2556 เวลา 07.00 น. พิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด เวลา 08.00 น. เดินเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทร์ทราบรมราชกุมารี (ตั้งขบวนหน้าวัดสว่างอารมณ์) เวลา 09.00 น.พิธีถวายอาศิรวาทราชสดุดี ณ บริเวณหน้าพระบรมรูปฯ บริเวณเกาะกลางบึงพลาญชัย นอกจากนี้โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ยังรับบริจาคโลหิต และการตรวจสุขภาพฟัน ฟรี ทุกสิทธิการรักษา อาทิ ถอนฟัน อุดฟัน ขูดหินปูน โดยเปิดรับบัตรคิวตั้งแต่เวลา 08.00 – 12.00 น. ณ บริเวณอาคารเฉลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ จึงขอเชิญ พี่น้องประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมตามวันเวลาดังกล่าว


ประเสริฐ อินทา/ข่าว

ผู้อำนวยการโครงการชลประทานร้อยเอ็ด แจ้งเตือนภัยสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชี

นายอเนก ไชยคำภา ผู้อำนวยการโครงการชลประทานร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำชีอย่างใกล้ชิด ของโครงการชลประทานร้อยเอ็ด ปรากฏว่าปัจจุบันมวลน้ำชีก้อนใหญ่ที่ไหลมาจาก จังหวัดชัยภูมิ ได้เคลื่อนเข้าสู่อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด แล้วเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำที่บริเวณดังกล่าวเพิ่มระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 10 -15 เซนติเมตร/วัน และขณะนี้ระดับน้ำชีที่สถานี E.66 A อำเภอจังหาร วัดระดับน้ำได้ 9.90 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่งประมาณ 1.60 เมตร ระดับน้ำในแม่น้ำชียังไม่มีแนวโน้ว

ที่จะลดลง นายอเนก กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำชีบริเวณที่ลุ่มต่ำ ประกอบด้วยอำเภอจังหาร โพธิ์ชัย เชียงขวัญ และอำเภอทุ่งเขาหลวง ระมัดระวัง และเตรียมพร้อมอพยพเคลื่อนย้ายสัตว์เลี้ยงและสิ่งของไว้ที่สูง เพื่อป้องกันภัยจากน้ำท่วม ซึ่งทางโครงการชลประทานร้อยเอ็ด จะติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและแจ้งให้ทราบเป็นระยะ ๆ ต่อไป



ประเสริฐ อินทา/ข่าว

อนุบาลอำนาจเจริญเข้าค่ายดนตรี Music camp Mahidon University

นายประยูร เหมือนเหลา ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ แจ้งว่า หลังจากฝึกซ้อมและออกงานมาพอสมควร วงโยธวาทิต โรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญนักเรียน ทั้งชายหญิงกว่า สี่สิบคน ไปเข้าค่ายดนตรี ที่ ม.มหิดล สถาบันทางดนตรีที่มีชื่อเสียงอันดับหนึ่งของไทย เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะให้สูงขึ้น ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก อบจ.อำนาจเจริญ จัดรถปรับอากาศคันใหญ่ ที่นั่งรับส่งนักเรียนและคุณครูผู้ควบคุม ทำให้เด็กตื่นเต้นมาก ผู้ปกครองก็อุ่นใจที่มีคุณครูชายหญิงที่ใจดี เป็นขวัญใจเด็ก ๆ นำโดยคุณครูกั้ง คุณครูรัชมังค์ คุณครูอังสนา คุณครูใหญ่รุจิรา แถมฝ่ายบริการป้าอึ้มไปช่วยกันดูแลเด็ก ๆ อีกด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ กล่าวว่า โรงเรียนอนุบาลอำนาจเจริญ ยินดีที่จะสนับสนุนนงบประมาณด้านการพัฒนาเด็กทุกด้านเพื่อเติมเต็มอัจฉริยภาพในเด็กแต่ละคน นายวินัย ไชยบุตร ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษา กล่าวว่า การส่งน้องมะปราง สมาชิกวงโยธวาทิต มากว่า 3 ปี ไปเข้าค่ายครั้งนี้ถือเป็นโชคดีของลูก ที่น้อยคนจะมีโอกาสเช่นนี้ ผู้ปกครองของ ดญ.ไอโกะ ป.4 อดีต หน.วงเมโลเดียน ปัจจุบันไต่อันดับเข้าสู่ วง Brass marching band ตำแหน่ง trumpet กล่าวในโอกาสเดียวกันว่า แม้จะเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ แต่เชื่อว่าลูกทำได้

เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เปิดงานประเพณีออกพรรษา กวนข้าวทิพย์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2556

เมื่อเวลา 18.30 น. วานนี้ (18 ต.ค.56) นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีออกพรรษา กวนข้าวทิพย์ จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2556 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด ซึ่งจัดขึ้นโดยเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดรอยเอ็ด ส่วนราชการ สถานศึกษา และพี่น้องชาวจังหวัดรอยเอ็ดทุกภาคส่วน เพื่อสืบสาน ส่งเสริมประเพณีออกพรรษา กวนข้าวทิพย์จังหวัดร้อยเอ็ด ให้คงอยู่กับวิถีชีวิตของพุทธศาสนิกชนในท้องถิ่น และเพื่อเป็นการทำนุบำรุงรักษา ศาสนา วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามให้เป็นมรดกแก่ลูกหลานสืบยาวนานต่อไป ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดร้อยเอ็ดทางหนึ่งด้วย ซึ่งได้จัดมาแล้วตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา กิจกรรมในงานประกอบด้วย การแสดงนิทรรศการงานประเพณีออกพรรษา การสาธิตการกวนข้าวทิพย์ จากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม การประกวดประดับประทีปโคมไฟ การประกวดกวนข้าวทิพย์ จากคุ้มวัดต่างๆ ทั้งในเขตเทศบาลและเขตใกล้เคียง จำวน 16 คุ้มวัด การประกวดร้องสรภัญญะอีสาน ประเภทนักเรียนและประเภทประชาชนทั่วไป

บรรยากาศภายในงานคุ้มวัดทั้ง 16 คุ้มวัดได้ตกแต่งร้านด้วยประทีปโคมไฟ และตกแต่งอย่างสวยงามแต่ละร้านได้มีการกวนข้าวทิพย์ด้วยกระทะใบใหญ่พอประมาณ โดยผู้กวนข้าวทิพย์ดังกล่าวได้แต่งกายด้วยผ้าลายสาเกตุซึ่งเป็นลายผ้าประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ยิ่งทำให้บรรยากาศยามค่ำคืนของวันนี้เต็มไปด้วยสีสันที่สวยงาม แม้ว่าจะมีฝนตกลงมาบ้างเล็กน้อยพี่น้องชาวจังหวัดร้อยเอ็ดยังได้เดินทางมาร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคักน่ายินดียิ่ง



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
18 ต.ค.56 

จังหวัดร้อยเอ็ด ประชุมการจัดงานเทศการข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาจากตลาดอาเซียนสู่ตลาดโลก จังหวัดร้อยเอ็ด

วันที่ 18 ต.ค. 56 เวลา 14.30 น. นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด  เป็นประธานประชุมการจัดงานเทศกาลข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาจากตลาดอาเซียนสู่ตลาดโลก จังหวัดร้อยเอ็ด ณ ห้องประชุมพระเวสสันดร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดร้อยเอ็ดที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อเตรียมการจัดงานเทศกาลวันข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาจากอาเซียนสู่ตลาดโลก จังหวัดร้อยเอ็ด

นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม  ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดจัดงานเทศกาลวันข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาจากอาเซียนสู่ตลาดโลก ประจำปี งบประมาณ 2557 ระหว่างวันที่ 1 – 3 ธันวาคม 2556 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสำคัญส่งเสริมแหล่งผลิตเฉพาะ และตราสัญลักษณ์สินค้าข้าวหอมมะลิจังหวัดร้อยเอ็ดให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ, เพื่อระดมแนวคิดของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการพัฒนาการผลิต การแปรรูปและการตราข้าวหอมมะลิทั้งในระบบและเพื่อส่งเสริมนโยบายการท่องเที่ยวตามยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดร้อยเอ็ด พิธีเปิดงาน ในวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์

กิจกรรมในงานจะประกอบด้วย การประชุมสัมมนาวิชาการข้าวหอมมะลิในหัวข้อ "อนาคตข้าวหอมมะลิร้อยเอ็ดในอนาคตตลาดภายในและตลาดต่างประเทศหลังจากได้รับสิทธิบัตรแล้ว”, การเจรจาซื้อขายข้าวหอมมะลิ และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงในการซื้อขายข้าวหอมมะลิ การจัดนิทรรศการเทศกาลข้าวหอมมะลิโลกและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์, การสาธิตและการสอนการจัดทำผลิตภัณฑ์จากแป้งข้าวหอมมะลิ, การประกวดและการแข่งขันกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การหุงข้าวหอมมะลิ, การแข่งขันการทำบายศรีสู่ขวัญ, การประกวดผลิตภัณฑ์จากแป้งข้าวหอมมะลิ, การประกวดข้าวหอมมะลิ, การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง และการแสดงประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าวหอมมะลิ, การแข่งขันกินข้าวหอมมะลิ

เพื่อให้การจัดงานเทศกาลวันข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาจากอาเซียนสู่ตลาดโลก จังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปีงบประมาณ  2557 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ จังหวัดร้อยเอ็ด จึงประชุมคณะกรรมการจัดงานฯ จากทุกภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปีนี้ มติที่ประชุมจะเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์  ชินวัตร เป็นปรานในพิธีเปิดงาน ในวันที่ 1 ธันวาคม 2556 และชาวต่างชาติร่วมเป็นเกียรติในงานด้วย




วิมล  เร่งศึก/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว
บุญมี  เพ็งรัตน์/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
18 ต.ค.56

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงประทานทุนให้เด็กออทิสติก เด็กพิการ ฐานะยากจนที่จังหวัดร้อยเอ็ด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ตุลาคม 2556 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดีทรงมอบให้ นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นผู้แทนพระองค์ มอบทุนการศึกษาให้เด็กออทิสติก เด็กพิการ ในมูลนิธิคุณพุ่ม ที่หอประชุมอำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

สืบเนื่องจาก ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ผู้ประทานกำเนิดมูลนิธิคุณพุ่มทรงเล็งเห็นว่าบุคคลที่มีความบกพร่องในการเรียนรู้ หรือบุคคลออทิสติก ยังไม่ได้รับโอกาสด้านต่างๆ อย่าวทั่วถึงและเท่าเทียม อีกทั้งยังทรงห่วงใยเด็กเยาวชนผู้ด้อยโอกาสและยากไร้ทางสังคม จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นเงินทุนแรกเริ่ม สำหรับจดทะเบียนก่อตั้งเป็นมูลนิธิคุณพุ่ม เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2548 เพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงคุณพุ่มพระโอรสในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้ทรงมีพระเมตาประทานทุนการศึกษาให้เด็กออทิสติก เด็กพิการที่มีฐานะยากจนทั่วประเทศ และในปีการศึกษานี้ จังหวัดร้อยเอ็ดได้รับทุนการศึกษา จำนวน 128 ทุน ๆละ 5,000 บาท เป็นเงิน 640,000 บาท ( หกแสนสี่หมื่นบาทถ้วน ) โดยทางมูลนิธิคุณพุ่มได้ขอความอนุเคราะห์ ให้ นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้แทนพระองค์ในการมอบทุนการศึกษา โดยจังหวัดร้อยเอ็ดมีเด็กออทิสติก เด็กพิการยากจน ทีได้รับทุนครั้งนี้ จำนวน 128 คน



บุญมี/ข่าว/ภาพ
กมลพร คำนึง บก ข่าว
สปชส.ร้อยเอ็ด

โครงการผู้ว่าฯพาทำบุญ ถวายพระกุศล สมเด็จพระสังฆราชฯ

พุทธศาสนิกชนชาวอุดรธานี ทำบุญทำทาน รักษาศีล ทำจิตใจให้บริสุทธิ์เนื่องในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา น้อมถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ในโอกาสงานฉลองพระชันษา 100 ปี พร้อมถือปฏิบัติธรรม รักษาศีล ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสามเรณเนื่องในวันออกพรรษาปี 2556

เมื่อเวลา 07.30 น. ที่วัดอาจสุรวิหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี เช้าวันนี้ (4 ต.ค.56 ) นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานพิธีใส่บาตร โครงการผู้ว่าฯพาทำบุญ เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาประจำปี 2556 ครั้งที่ 7 ครั้งสุดท้าย และนำพุทธศาสนิกชนร่วมประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาเนื่องในวันออกพรรษา โดยมีพันเอกอำนวย จุลโนนยาง เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 24 นายวินัย ตรงจิตพิทักษ์ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุดรธานี นายมาลัยวรณ์ ตั้งอรุณสวัสดิ์ นายอำเภอเมืองอุดรธานี นายวิศววัชร จันทสาร นายหนองแสง นายอิทธิพล ตรีวัฒน์สุวรรณ์ นายกเทศมนตรีนครอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธี

นายวิษณุพงศ์ กลางโยธี นักวิชาการศาลนาชำนาญการ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เล็งเห็นความสำคัญของการบำเพ็ญกุศล โดยการเข้าวัดทำบุญตักบาตร และฟังพระธรรมเทศนาในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อให้ส่วนราชการ ข้าราชการ พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหาร ปัจจัยต่างๆ ตามหลักพุทธศาสนาพร้อมทั้งเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีทางพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาให้มั่นคงตลอดไป จึงได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี จัดทำโครงการผู้ว่าฯพาทำบุญ เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2556 โดยกำหนดการดำเนินงานตามโครงการในช่วงฤดูเข้าพรรษา ในทุกวันแรม 15 ค่ำ และวันขึ้น 15 ค่ำ ในช่วงวันเข้าพรรษาจนถึงวันออกพรรษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ในโอกาสงานฉลองพระชันษา 100 ปี ร่วมฉลองการก่อตั้งเมืองอุดรธานี ครบ 121 ปี เพื่อให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ได้ร่วมกิจกรรมทำบุญเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ร่วมระลึกถึงวันสำคัญและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีทางพุทธศาสนา

นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ในห้วงเทศกาลเข้าพรรษาอยากเห็นพุทธศาสนิกชนร่วมกันทำบุญตักบาตรรักษาศีล ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส เพื่อเพิ่มความสุข เสริมมงคลให้กับชีวิต สิ่งที่ทำให้หลุดพ้นได้คือมรรค 8 เป็นแนวทางดับทุกข์โดยแท้ สำหรับโครงการผู้ว่าฯ พาทำบุญครั้งที่ 7นี้ถือเป็นครั้งสุดท้ายรู้สึกดีใจมากที่เห็นประชาชนจาก 8 ชุมชนในพื้นที่ใกล้วัดอาทิชุมชนหนองเหล็ก 1,2 ชุมชนหนองบัว 1-5 และชุมชนเก่าจาน เดินทางมาร่วมทำใส่บาตร ซึ่งนับว่าเป็นการสืบส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรม และร่วมทอดศาสนาให้คงอยู่คู่ชาติไทย

ในขณะที่ในโอกาสวันออกพรรษา พระครูวุฒิปัญญาภรณ์ เจ้าคณะตำบลหนองบัว ได้แสดงพระธรรมเทศนา ในเรื่องบารมี 10 ประการเพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาใช้เป็นหลักคิดหลักธรรมประจำใจในการดำเนินชีวิต อาทิ ทานบารมี ศีลบารมี เนกขัมมบารมี ปัญญาบารมี วิริยบารมี ขันติบารมี สัจจะบารมี อธิษฐานบารมี เมตตาบารมี และ อุเบกขาบารมี โดยยกตัวอย่างสมเด็จพระสัมมนาสัมพุทธเจ้าที่ให้ธรรมะเป็นทานตั้งแต่ตรัสรู้จนกระทั่งปรินิพาน และหลักธรรมคำสั่นของพระพุทธองค์ยังคงถือปฏิบัติสืบต่อมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ด้วยการที่พุทธศาสนิกชนร่วมประพฤติปฏิบัติ อาทิ 5, ศีล 8 ,ศีล 227สำหรับพระภิกษุสงฆ์ และการที่ผู้รักษาศีลทั้งที่โกนผมและไม่โกนผม เป็นผู้อบรมให้ความรู้แก่ผู้อื่นก็ถือเป็นธรรมะบารมี คนที่มีปัญหามีสติรู่เท่าทันการเปลี่ยนแปลงก็ถือเป็นปะญญาบารมี มีความมุมานะทำให้ได้ตามที่ตั้งใจเป็นวิริยะบารมี อดทนต่อสู่กับสิ่งที่ถูกใจและไม่ถูกใจจนทำในสื่งนั้นๆสำเร็จ คือสันติบารมี และทำตามที่ตนออกปากไปเรียกว่า สัจจะบารมี



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

อธิบดีกรมประมงตรวจเยี่มกลุ่มผู้เลี้ยงปลาดุกที่จังหวัดอุดรธานี

อธิบดีกรมประมงลงพื้นที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกที่อุดรธานี เตรียมนำระบบไอทีเชื่อมนโยบายจากส่วนกลาง แนะหน่วยงานในพื้นที่เร่งขยายผลพื้นที่เลี้ยงปลาดุก เสริมการแปรรูปเพื่อเสริมรายได้แก่เกษตรกร รองรับการเปิดประชาคมอาเซีนปี 2558

เช้าวานนี้ ( 18 ต.ค.56 ) ที่ฟาร์มปลานางประครอง ศรียาคะบุตร บ้านเลขที่ 53 บ้านดงผักหนาม ตำบลนากว้าง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล อธิบดีกรมประมง พร้อมด้วย ผู้ตรวจราชการกรมประมงเขตตรวจาชการที่ 10 และคณะผู้บริหารกรมประมงลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกลุ่มผู้เลี้ยงปลาดุกในเครือข่ายบริษัทเบทาโกเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด ในพื้นที่เขตอำเภอเมืองอุดรธานี โดยมีนายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดอุดรธานี ข้าราชการในสังกัด 5จังหวัดในเขตพื้นที่ตรวจราชการที่ 10 อาทิ อุดรธานี บึงกาฬ หนองคาย เลย หนองบังลำภู และประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกในเครือเบทาโกร บ้านดงผักหนาม เริ่มก่อตั้งเริ่มเมื่อเดือนเมษายน 2553 เริ่มแรกมีสมาชิก 7 ราย ปัจจุบันมีสมาชิก 71 ราย สำนักงานประมงจังหวัดอุดรธานี และศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดอุดรธานี ได้เข้าสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้เพาะเลี้ยงปลาดุกอุยเทศเข้าสู่มาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี (GAP) ซึ่งปัจจุบันมีผู้ผ่านการรับรอง GAP จำนวน 31 ราย

นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล อธิบดีกรมประมง ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนหลังดูบ่อเลี้ยงปลาดุกว่า จังหวัดอุดรธานี ถือเป็นเขตภาคอีสานตอนบนปริมาณน้ำก็ยังดีกว่าอีสานตอนล่าง เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าสามารถที่จะส่งเสริมให้ประชาชนเลี้ยงสัตว์น้ำได้โดยเฉพาะปลา ในภาคอีสานนี้เนื่องจากเราจะเปิด AEC ในปี 2558 ถึงแม้ความพร้อมของน้ำในลาวและเขมรจะมีมากว่า แต่เรื่องเทคโนโลยีบ้านเราเก๋งกว่า เท่าที่ฟังการบรรยายของตัวแทนเกษตรกร รวมถึงเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ของกรมประมง ทำให้ทราบว่าเรายังมีโอกาสที่จะพัฒนาการเลี้ยงปลาโดยเฉพาะปลาดุกของพื้นที่อำเภอ ตำบล หมู่บ้านนี้ ซึ่งการรับฟังทำให้ทราบว่าเขาสามารถพัฒนาการเลี้ยงไปถึงขั้นมาตรฐาน GAP ผลผลิตที่ได้ภายใน 120 วัน สามารถขายเข้าสู่ท้องตลาด และทราบว่ามีกำไรตัวละประมาณ 1 บาท 10 สตางค์ ถึง 1 บาท 20 สตางค์ ซึ่งถ้าเราสามารถที่จะส่งเสริมกลุ่มนี้แปรรูปได้เพื่อที่จะนำไปขายให้เพื่อนบ้านเรา หรือในจังหวัดก็จะทำให้ได้กำไรมากกว่านี้ ตรงนี้ก็เป็นจุดที่ได้สั่งการให้ข้าราชการกรมประมงเร่งขยายผลของพื้นที่ และในการมาครั้งนี้นอกจากจะได้มาพูดคุยกับเกษตรกรแล้ว มีโอกาสได้มาบันทึกทะเบียนเกษตรกร บันทึกพื้นที่ของการเลี้ยงให้ชัดเจนจากแผนที่หรือจากระบบไอทีที่กรมประมงพัฒนา โดยจะใช้ไอที หรือคอมพิวเตอร์ หรือระบบสารสนเทศไปสู่ความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่กับส่วนกลาง เพื่อให้แผนและนโยบายเดินได้

ในขณะที่นางประครอง ศรียาคะบุตร เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุกบ้านดงผักหนาม กล่าวว่า การเลี้ยงปลาดุกทำให้มีรายได้ดี ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันอย่ามีความสุข ให้อาหารวันละ 2 ครั้ง ถ้าฝนตก ตนเลี้ยงปลาดุกในพื้นที่ 20 ไร่ 10 บ่อ รวม400,000 ตัว หรือบ่อละ 40,000 ตัว ในการเลี้ยงปลาดุกใช้แรงงาน 2 คนสามีภรรยา จะมีการจ้างแรงงานเฉพาะในช่วงจับปลาเท่านั้น โดยเลี้ยงเพียง 120 วันก็จับได้ ในเรื่องของรายได้นั้นในปีที่ผ่านมาก็มีรายได้ 2 ครั้ง ๆแรก 150,000 บาท ส่วนครั้งที่ 2 มีรายได้ 210,000 บาท นอกจากการเลี้ยงปลากดุกแล้ว นางประครองฯยังเลี้ยงกบ และปลูกผักปลอดสารพิษไว้บริโภคในครอบครัวอีกด้วย

สำหรับในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ ( 18 ต.ค.56 ) นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล อธิบดีกรมประมง ได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี เพื่อประชุมข้าราชการในสังกัดในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 10 ที่ห้องประชุมพระพุทธบาทบัวบก ชั้น 6 เพื่อติดตามผลการปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2556 ของหน่วยงานในสังกัดทั้ง 5 จังหวัด และได้เข้าพบนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ที่ห้องประชุมภูฝอยลม ชั้น 2 เพื่อหารือข้อราชการ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และอธิบดีกรมประมงได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะ เรื่องการพัฒนาหนองประจักษ์ให้เป็นพิพิธภัณฑ์แบบเปิด พัฒนาเป็นแหล่งเพาะและขยายพันธ์ปลา พัฒนาประมงเชิงอนุรักษ์ พร้อมกันนี้อธิบดีกรมประมง ได้ฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีจัดทำโซนนิ่งด้านการประมง เพาะขยายพันธ์ปลาเศรษฐกิจ ส่งเสริมการและขยายการเลี้ยงปลาสู่มาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี (GAP)

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้นำเสนอเกี่ยวกับการบูรณาการด้านการเกษตรที่ดำเนินการในไร่สวนเงินเวียนมาของผู้ว่าฯ ว่า ได้มีการบูรณาการการเกษตรทั้งปลา พืช สัตว์น้ำ เพื่อเป็นจุดสาธิต และเป็นต้นแบบให้เกษตรกรในพื้นที่ ได้เดินทามาศึกษาดูงาน ซึ่งปัจจุบันมีเกษตรกรในพื้นที่เดินทางมาศึกษาดูงานจำนวนมากและทุกครั้งที่เดินทางมาศึกษางานผู้ว่าจะเลี้ยงข้าว 1 มื้อ  



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

รองนายกรัฐมนตรีและรมต.เกษตรและสหกรณ์ประชุมส่วนราชการรับทราบสถานการณ์อุทกภัยที่อุบลราชธานี

อุบลราชธานี : นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่พร้อมให้เร่งช่วยเหลือผู้เสียหายและเตรียมดำเนินการป้องกันปัญหา

เช้าวันนี้ (19 ต.ค.56) นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะเดินทางมาปฏิบัติราชการรับทราบสถานการณ์การเกิดอุทกภัยพร้อมพบปะประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมีนางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหงวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อนรับและบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น ทั้งการคาดหมายลักษณะอากาศและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบจากอทธิพลของพายุที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ รวมทั้งปัญหาของการเกิดอุทกภัยที่มีสาเหตุจากปริมาณน้ำฝนที่ตกมากในพื้นที่,การก่อสร้างถนนที่ขวางทางน้ำ,ระบบการระบายน้ำในชุมชนเมือง พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาด้วยการบริหารจัดการน้ำ,การใช้สิ่งก่อสร้างป้องกันและแก้ไขปัญหาและการปรับวิถีชีวิตชุมชนที่อาศัยอยู่ตามริมน้ำ

ส่วนการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นได้ระดมความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการและภาคเอกชน ให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้เดือดร้อนอย่างทั่วถึง และหน่วยงานที่เกี่ยวข่องกำลังเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งการเกษตร,ปศุสัตว์,ประมง เพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป ด้านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากากหระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายยุคล ลิ้มแหหลมทอง ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดสำรวจพื้นที่ทางการเกษตรที่ได้รับความเสียหายและให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนอีกทั้งต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ รัดกุมเป็นไปตามระเบียบ ขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนดพร้อมทั้งแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหา เช่นการบริหารจัดการพื้นที่ริมน้ำ โดยให้จังหวัดเสนอแนวทางดำเนินการเพื่อพิจารณาและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูและเรื่องการจัดพื้นที่การเกษตรอีกด้วย จากนั้นได้เดินทางไปพบปะปะชาชนและมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านกุดระงุม ต.บุ่งไหม และบ้านคูสว่าง ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบก่อนที่จะเดินทางไปพบปะปะชาชนที่จังหวัดศรีสะเกษต่อไป

สำหรับจังหวัดอุบลาชธานี ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในพื้นที่ 23 อำเภอ 155 ตำบล 1,533 หมู่บ้าน 104,477 ครัวเรือน จำนวน 451,372 คน ราษฎรอพยพ 3,994 ครัวเรือน และได้อพยพกลับแล้ว จำนวน 1,627 ครัวเรือน ยังคงเหลือที่ไม่อพยพกลับเฉพาะในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.วารินชำราบ



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 19 ต.ค.56

รองนายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดงานสร้างอนาคตไทย 2020 เปิดงาน สร้างอนาคตไทย 2020 ที่อุบลราชธานี

อุบลราชธานี : นายกิตรัตน์ ณ นอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดงานสร้างอนาคตไทย 2020 โดยมีผู้สนใจร่วมชมงานอย่างเนืองแน่น

บ่ายวานนี้วานนี้ ( 18 ต.ค. 56 ) นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นประธานเปิดงานงานสร้างอนาคตไทย 2020 เปิดงาน โรดโชว์ สร้างอนาคตไทย 2020 จังหวัดอุบลราชธานี ที่ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าโอท๊อป องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี โดยมีประชาชนทั่วไปนักเรียน นักศึกษา และ ข้าราชการ จากจังหวัดอุบลราชธานี และประชาชน ทั้ง 25 อำเภอ ร่วมในพิธีเปิดงานพร้อมรับฟังการบรรยายและการเสวนา

ซึ่งผู้ที่ เข้าร่วมชมกิจกรรมภายในงาน สามารถสัมผัสกับประสบการณ์จริงและรับทราบแผนพัฒนาระบบคมนาคมในอนาคตของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี รัฐบาลมีโครงการ สร้างระบบรถไฟรางคู่ โดยจะเริ่มจากจังหวัดนครราชสีมา ที่มีระบบรถไฟความเร็วสูง ซึ่งโครงการสร้างระบบรถไฟรางคู่ จะเป็นการพัฒนาด้านการขนส่งและกระจายสินค้า และเป็นตัวแทนของศูนย์กลางการพัฒนาการท่องเที่ยวทั้งในระดับกลุ่มจังหวัดและระดับประเทศและระดับภูมิภาค คือ ไทย ลาว กัมพูชา ซึ่งอนาคต จะส่งผลที่เป็นประโยชน์ต่อการขนส่ง ทั้งคนและสินค้า เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ทันสมัยและเชื่อมโยงได้ครอบคลุม เป็นการสร้างเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน และเป็นการพัฒนาเมืองในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทยให้เป็นศูนย์กลาง ในการเชื่อมโยงด้านการคมนาคมขนส่งที่สำคัญของภูมิภาคอินโดจีนในอนาคตอีกด้วย.

นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่สนใจจากจังหวัด ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ เข้ามาร่วมชมงานในแต่ละวันอีกด้วย คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่าวันละ 3 หมื่นคน



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 19 ต.ค.56

รอง ผวจ.อุบลราชธานี เปิดงานแข่งเรือยาวชิงถ้วยนายกรัฐมนตรีที่ตระการพืชผล

เมื่อวานนี้ (18 ต.ค. 56) นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวตระการพืชผล ชิงถ้วยนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2556 ที่สวนสาธารณะหนองขุหลุ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม 2556 ซึ่งการจัดงานดังกล่าว เป็นกิจกรรมนันทการที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้แหล่งน้ำ มักจะจัดการแข่งขันเรือยาวขึ้นในช่วงฤดูน้ำหลากเรือในช่วงเดือน 11 ถึงเดือน 12 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในเทศกาลออกพรรษา ควบคู่ไปกับการไหว้พระทำบุญทอดกฐินซึ่งเป็นงานบุญที่จะจัดขึ้นเพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น ขณะเดียวกันการจัดการแข่งขันเรือยาวในแต่ละครั้ง ก็ยังช่วยส่งเสริมให้เกินความรักสามัคคีระหว่างผู้เข้าร่วมการแข่งขันนำไปสู่การร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียง โดยภายในงานประกอบด้วยกิจกรรม อาทิ การแข่งขันเรือยาวประเภทต่างๆ ชิงถ้วยรางวัลจากนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การแข่งขันประกองเชียร์จากผู้แทนชุมชนอำเภอตระการพืชผล มหากรรมคอนเสิร์ตจากศิลปินดัง ตลอดจนงานออกร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคราคาประหยัดมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถเดินทางมาชมงานประเพณีแข่งขันเรือยาวได้ที่สวนสาธารณะหนองขุหลุ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 18-19 ตุลาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป



พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 19 ต.ค.56 

เร่งเกษตรกรรีบขึ้นทะเบียนยาง หวังให้ได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยกรมส่งเสริมการเกษตร เตือนเกษตรกรให้รีบมาขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ก่อนหมดเขตวันที่ 15 ตุลาคม นี้ เพื่อใช้สิทธิประโยชน์อย่างทั่วถึงภายใต้โครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี 2556/57 ของรัฐบาลและคาดว่าเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนด้วยหลักฐานครบถ้วนถูกต้องชัดเจนจะได้รับใบรับรองภายในเดือนพฤศจิกายนศกนี้

นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ผู้ปลูกยางพารา ในโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี 2556/57 ว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขยายเวลาการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ไปจนถึง วันที่ 15 ตุลาคมนี้ มีเกษตรกร มาขึ้นทะเบียนผู้ปลูกยางพารากับกรมส่งเสริมการเกษตรเกินเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยมีจำนวนถึง 1.16 ล้านครัวเรือน (1,161,195) ทั้งนี้ มีเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราผ่านหลักเกณฑ์ของการรับสิทธิ์ประมาณ 556,193 ครัวเรือน (ข้อมูล ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2556) และอยู่ระหว่างคณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่เปิดกรีดยาง เพื่อออกใบรับรองสิทธิซึ่งจะสามารถนำไปรับเงินช่วยเหลือกับธนาคารเพื่อการเกษตร (ธกส.) ต่อไป โดยกรมส่งเสริมการเกษตรเร่งออกใบรับรองให้กับเกษตรที่ผ่านการพิจารณาทันที

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้เกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนฯ ควรตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้อง และครบถ้วน ตามหลักเกณฑ์การรับสิทธิ์ในโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ปี 2557 โดยเกษตรกรที่จะขึ้นทะเบียนต้องมีคุณสมบัติ (1.) มีสัญชาติไทย (2.) เป็นหัวหน้าครอบครัวและขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ทบก.) กับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้ว กรณีที่ไม่สามารถมาขึ้นทะเบียนด้วยตนเอง ให้มอบอำนาจให้สมาชิกในครัวเรือนที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเกษตรกรเป็นผู้ขอขึ้นทะเบียนแทน กรณีที่ยังไม่เคยขึ้นทะเบียนเกษตรกร ให้แจ้งขึ้นทะเบียนและปรับข้อมูลทะเบียนเกษตรกรให้เป็นปัจจุบัน เกษตรกรที่ผ่านเกณฑ์จะได้รับความช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตเป็นเงินสดในอัตราไร่ละ 2,520 บาท ไม่เกิน 25 ไร่ ตามพื้นที่เปิดกรีดจริงผ่าน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) และพื้นที่ปลูกต้องมีเอกสารหรือหนังสือรับรองสิทธิ์ที่กรมป่าไม้รับรอง 46 ประเภท เช่น โฉนดที่ดิน,ตราจอง,นส.3,สปก.4,สปก.4-01ก เป็นต้น ตามเงื่อนไขของมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เพื่อรักษาสิทธิประโยชน์ของเกษตรกรชาวสวนยาง จึงขอเชิญชวนเกษตรกรที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรให้รีบมาขึ้นทะเบียนด่วนก่อนหมดเขต ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูก หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ตั้งแปลงปลูกนัดหมาย



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 18 ต.ค.56

ส.ป.ก.ยโสธร รับสมัครเข้าร่วมโครงการสร้างและพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดยโสธร (ส.ป.ก.ยโสธร) รับสมัครผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสร้างและพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่ ปีงบประมาณ 2557 หลักสูตรการพัฒนาผู้นำเกษตรกรรุ่นใหม่ รุ่นที่ 9

คุณสมบัติของผู้สมัคร จบการศึกษา ม.6 อายุ 20-45 ปี ไม่ติดยาเสพติด กำหนดแผนการเปิดอบรม หลักสูตรการพัฒนาผู้นำเกษตรกร รุ่นใหม่ รุ่นที่ 9 ในช่วงเดือนธันวาคม 2556 โดยมีกลุ่มเป้าหมาย จำนวน 300 ราย สถานที่อบรม ณ วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร และมหาวิทยาลัยนครพนม ยื่นเอกสารและหลักฐานการสมัครด้วยตนเอง สำนักงาน ส.ป.ก. ยโสธร โทร.045-761744 ภายในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556



ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ 18 ต.ค.56

กิจกรรมเนื่องในประเพณีออกพรรษาจังหวัดยโสธร

จังหวัดยโสธร กำหนดจัดโครงการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2556

1. งานสืบสานวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นจุดไฟตูมกาคืนวันออกพรรษา ในวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556 เวลา 19.00 น. ณ วัดบูรพา บ้านทุ่งแต้ ตำบลทุ่งแต้ อำเภอเมืองยโสธร

2. พิธีกวนข้าวทิพย์ ในวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556 เวลา 17.00 น. ณ วัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร

3. พิธีทำบุญตักบาตรเทโวโรหนะ ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556 เวลา 07.00 น. ณ วัดมหาธาตุ (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองยโสธร

จึงขอเชิญข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมกิจกรรมดังกล่าว



ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ 18 ต.ค.56