จ.สุรินทร์ จัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมระดับจังหวัด (ปี 2558-2561)

จังหวัดสุรินทร์ เปิดการสัมมนาเชิงปฎิบัติการโครงการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมระดับจังหวัด (พ.ศ.2558-2561) ระดมความคิดเห็นจากส่วนราชการ เอกชน เพื่อเป็นตัวกำหนดโครงการ กิจกรรม ในการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมในจังหวัด

วันนี้ (18 มี.ค. 57) ที่ห้องประชุมศรีณรงค์ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฎิบัติการ "โครงการการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมระดับจังหวัด (พ.ศ.2558-2561) ประจำปีงบประมาณ 2557 ทั้งนี้เพื่อให้จังหวัดสุรินทร์ มีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมระดับจังหวัด ที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ของกระทรวงอุตสาหกรรม และยุทธศาสตร์ของจังหวัดสุรินทร์บนพื้นฐานสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ที่มีความเป็นปัจจุบัน จะสามารถนำแผนปฎิบัติงาน เพื่อเป็นตัวกำหนดโครงการ กิจกรรม ในการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมในจังหวัดสุรินทร์ได้ในโอกาส ต่อไป โดยมีตัวแทนภาคราชการ ภาคเกษตรกร ประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมที่มีผลได้เสีย จำนวน 60 ท่าน

นายบรรจง สุกรีฑา อุตสาหกรรมจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า โครงการการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมระดับจังหวัด (พ.ศ.2558-2561) ประจำปีงบประมาณ 2557 ในครั้งนี้เพื่อเป็นการทบทวนแผนยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรม ฉบับปี ​2555 ที่ผ่านมา และเป็นการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในการจัดทำแผนยุทธศาสตร์จังหวัดสุรินทร์​​ เพื่อใช้เป็นแนวทางต่อไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ในการสัมมนา โครงการการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมระดับจังหวัด (พ.ศ.2558-2561) ประจำปีงบประมาณ 2557 ในครั้งนี้ มีผู้อภิปราย ได้เสนอความคิดเห็น อย่างกว้างขว้าง อีกด้วย

อุทัย  มานาดี / รยงาน

จ.สุรินทร์ ติวเข้ม Smart Farmer (สมาร์ทฟาร์มเมอร์) ด้านปศุสัตว์

จังหวัดสุรินทร์ ติวเข้ม Smart Farmer ” สมาร์ทฟาร์มเมอร์ "ด้านปศุสัตว์ เพื่อตอบสนองต่อการขับเคลื่อนนโยบายโครงการเกษตรกร มีความรู้ เชี่ยวชาในการประกอบอาชีพเกษตร โดยมีเกษตรกรทุกอำเภอ เข้าร่วมกว่า ​1,000 ราย

วันนี้ (18 มี.ค. 57) ที่หอประชุมสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายสัตวแพทย์ประเสริฐ สรรเพชุดาญาณ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรมโครงการ Smart Farmer ด้านปศุสัตว์ เพื่อให้เกษตรกรไทยมีความพร้อม มีความรู้เชี่ยวชาญ ในการประกอบอาชีพด้านเกษตร ตลอดห่วงคุณค่าการผลิตทางการเกษตรที่เกษตรกรสามารถดำเนินการให้ความสำคัญในการใช้องค์ความรู้ การนำข้อมูล ประกอบการตัดสินใจ การใช้เทคโนโลยี่ ภูมิปัญญา และวิธีปฎิบัติที่ดี และเพื่อตอบสนองต่อการขับเคลื่อนนโยบายโครงการเกษตรกร มีความรู้ เชี่ยวชาในการประกอบอาชีพเกษตร โดยมีเกษตรกรทุกอำเภอ เข้าร่วมกว่า ​1,000 ราย

นายสัตวแพทย์ประเสริฐ สรรเพชุดาญาณ ปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดนโยบายการพัฒนาเกษตรกรให้เป็น Smart Farmer เพื่อให้เกษตรกรมีความรู้ ได้ตระหนักถึงคุณภาพมาตรฐาน และปริมาณตามความต้องการของตลาด ให้มีความปลอดภัยของผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ กรมปศุสัตว์ จึงได้กำหนดแนวทางในการดำเนินงานโครงการเกษตรกรปราดเปรื่อง Smart Farmer ดังกล่าวขึ้น ในส่วนสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินการ ฝึกอบรมเกษตรกร ให้มีความรู้ และความเข้าใจ แบ่งเป็น การสัมมนา และการศึกษาดูงาน สาธิตและการฝึกปฎิบัติในศูนย์การเรียนรู้การเลี้ยงสัตว์ ในแต่ละอำเภอ อีกด้วย

สำหรับ กิจกรรมภายในงาน มีการอภิปรายสัมมนา โดยมี สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ / ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์สุรินทร์ / สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์สุรินทร์ / มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี่ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ และตัวแทนเกษตรกรต้นแบบ มาเป็นวิทยากรให้ความรู้ ในครั้งนี้ ด้วย

อุทัย  มานาดี / รายงาน

จังหวัดอำนาจเจริญ เชิญพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ร่วมถวายราชสักการะพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เนื่องในวันจักรี 6 เมษายน ทุกปี

จังหวัดอำนาจเจริญ ประกอบพิธีวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ วันที่ 6 เมษายน 2557 ที่ หอประชุมพญานาครินทร์ ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ

นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า จังหวัดอำนาจเจริญ กำหนดประกอบพิธีเนื่องในวันพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ ประจำปี 2557 ในวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2557 ณ หอประชุมพญานาครินทร์ ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ เริ่มพิธีตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ขอเชิญชวนพสกนิกรชาวอำนาจเจริญ ทุกหมู่เหล่า ร่วมในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ วางพานพุ่มดอกไม้สด ต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สำหรับการแต่งกาย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พนักงาน ของรัฐ แต่งเครื่องแบบปกติขาว หรือเครื่องแบบตามสังกัด นักเรียน นักศึกษา ลูกเสือ เนตรนารี แต่งเครื่องแบบตามสังกัด และประชาชน องค์กรเอกชน แต่งกายชุดสุภาพ

สิทธิเดช นนทพรหม ข่าว

ชมรมคนรักในหลวงจัดพิธีมอบเสื้อสัญลักษณ์แก่สมาชิกในอำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ

วานนี้ (17 มี.ค. 57) ที่หองประชุมที่ว่าการอำเภอเสนางคนิคม ทางชมรมคนรักในหลวงจังหวัดอำนาจเจริญ ได้จัดให้มีพิธีมอบเสื้อสัญลักษณ์ของชมรมให้กับสมาชิก ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยมี นายมนตรา กอซอ นายอำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานในพิธี นายกิติ จันทรเสนา ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ชมรมคนรักในหลวง เกิดขึ้นจาก คณะบุคคลพอพียง เมื่อปลายปี พ.ศ. 2554 โดยมีเจตจำนงที่จะร่วมดำเนินงานตามโครงการชุมชนพอเพียง ด้วยการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วขยายผลสู่ประชาชนที่เป็นเกษตรกร เพื่อการอยู่ดีมีสุข พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน และปลุกจิตสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยชมรมคนรักในหลวงจังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับการอนุมัติก่อตั้งเป็นจังหวัดที่ 34 เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 มีที่ตั้งชมรมที่บ้านเลขที่ 568 ถนนเจริญผล ตำบลบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีสมาชิกทั้งประชาชนทั่วไป และเยาวชนในสถานศึกษา ชาวอำเภอเสนางคนิคม จังหวัดอำนาจเจริญ เข้ารับเสื้อสัญญาลักษณ์ กว่า 200 คน โดยชมรมได้จัดให้มีพิธีมอบเสื้อสัญลักษณ์ขึ้นอีกในอำเภอที่เหลือ คือ อำเภอเมือง อำเภอพนา อำเภอปทุมราชวงศา และอำเภอ ในเดือนเมษายน 2557 เพื่อใช้ในการดำเนินกิจกรรมของชมรมในสังคมต่อไป

สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว

กาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ ออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ประจำเดือนเมษายน 2557

นางนิภาภรณ์ ชื่นวาริน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ แจ้งว่า สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมกับ โรงพยาบาลอำนาจเจริญ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ กำหนดออกหน่วยรับบริจาคโลหิต ประจำเดือนเมษายน 2557 เพื่อจัดหาโลหิต สำหรับผู้ป่วยและผู้ประสบอุบัติเหตุในพื้นที่ ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ และโรงพยาบาลชุมชน จึงได้กำหนดออกหน่วยดังนี้ วันที่ 3 เมษายน 2557 ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตที่ หอประชุมอำเภอพนา วันที่ 10 เมษายน 2557 ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตที่ หอประชุมเทศบาลตำบลนาวัง วันที่ 17 เมษายน 2557 ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตที่ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี่ วันที่ 22 เมษายน 2557 ออกหน่วยรับบริจาคโลหิตที่ โรงพยาบาลอำนาจเจริญ โดยออกรับบริจาคโลหิตตั้งแต่เวลา 08.30 น.- 12.00 น. สำหรับการเตรียมตัวก่อนการบริจาคโลหิต ควร นอนพักผ่อนให้เพียงพอไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง ควรรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ส่วน สุภาพสตรีไม่อยู่ระหว่างตั้งครรภ์ หรือมีประจำเดือน มีน้ำหนัก 45 กิโลกรัม ขึ้นไป อายุระหว่าง 17-60 ปี สุขภาพ สมบูรณ์ แข็งแรง ส่วนสิทธิพิเศษ สำหรับผู้บริจาคโลหิต 7 ครั้งขึ้นไป โรงพยาบาลสังกัดสภากาชาดไทย ให้ความช่วยเหลือค่าลดหย่อนจากอัตราที่กำหนดไว้ เช่น ค่าห้องพิเศษ ค่าผ่าตัด ค่าผ่าตัดคลอดบุตร จึงขอเชิญประชาชนในแต่ละพื้นที่ร่วมบริจาคโลหิตในวันเวลา สถานที่ดังกล่าวอย่างพร้อมเพียงกัน

สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว

กกต.อุบลฯ จัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์แก่ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม

วันนี้ (18มี.ค.2557) คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดอุบลราชธานี หรือ กกต.จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์แก่ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. ที่ห้องประชุมศูนย์วิทยพัฒนา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยเชิญผู้สมัคร ส.ว.จังหวัดอุบลราชธานี ทั้ง 8 คน เข้าร่วมโครงการ
นายทรงศักดิ์ จันทรุกขา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า โครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์แก่ผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่จะเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ระเบียบ วิธีการปฏิบัติในการเลือกตั้ง ตลอดจนอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง การสร้างการยอมรับในเรื่อง รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย รู้รักสามัคคี การรักษาความเป็นมิตร ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้ง

ในโอกาสนี้ ได้เชิญนักวิชาการ และ กกต.จังหวัด ทำการเสวนา ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส.ว. แก่ผู้สมัครได้รับทราบ ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เพื่อให้การหาเสียงของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 กำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา สามารถหาเสียงเลือกตั้งได้เฉพาะที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ของวุฒิสภา ป้องกันไม่ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ไม่ซื้อสิทธิ ไม่ซื้อเสียง และไม่ใส่ร้ายซึ่งกันและกัน

กกต.จังหวัดอุบลราชธานี มีความคาดหวังว่า จะทำให้การเลือกตั้ง ส.ว.เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และได้บุคคลที่มีความเหมาะสม มีความรู้ ความสามารถ มีความซื่อสัตย์สุจริต มาเป็น สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว.มาใช้อำนาจอธิปไตย ซึ่งจะนำไปสู่การบริหารประเทศชาติให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต

กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ

รายงาน / 18 มี.ค.57

สำนักงาน กกต. จังหวัดอุบลราชธานี กำหนดสถานที่เลือกตั้ง ส.ว. ล่วงหน้านอกเขตจังหวัดและในเขตจังหวัด

นายทรงศักดิ์ จันทรุกขา ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตามที่สมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้งได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2557 และให้มีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 สำนักงาน กกต. จังหวัดอุบลราชธานี กำหนดสถานที่เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัดและในเขตจังหวัด ซึ่งกำหนดลงคะแนนเลือกตั้งทั้งนอกเขตและในเขตวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557 เวลา 08.00-15.00 น. ดังนี้ การเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด สถานที่เลือกตั้งคือ หอประชุมโดมน้อย วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัด สถานที่เลือกตั้งคือ หอประชุมอำเภอ ทั้ง 25 อำเภอ

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 รับสมัคร ครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 ปี 2557 มี 11 กลุ่มวิชาเอก

นายประวิทย์ หลักบุญ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กำหนดให้มีการรับสมัครสอบแข่งขันบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ครั้งที่ 1 ปี 2557 มี 11 กลุ่มวิชาเอก ดังนี้

1. กลุ่มวิชาเอก คณิตศาสตร์ 1 อัตรา
2. กลุ่มวิชาเอก ภาษาไทย 1 อัตรา
3. กลุ่มวิชาเอก ภาษาอังกฤษ 1 อัตรา
4. กลุ่มวิชาเอก วิทยาศาสตร์ทั่วไป 1 อัตรา
5. กลุ่มวิชาเอก เคมี 1 อัตรา
6. กลุ่มวิชาเอก ชีววิทยา 1 อัตรา
7. กลุ่มวิชาเอก นาฏศิลป์ 1 อัตรา
8. กลุ่มวิชาเอก พลศึกษา 1 อัตรา
9. กลุ่มวิชาเอก สังคมศึกษา 1 อัตรา
10. กลุ่มวิชาเอก ภาษาจีน 1 อัตรา
11. กลุ่มวิชาเอก ภาษาญี่ปุ่น 1 อัตรา

สำหรับเอกสารหลักฐานประกอบการสมัคร เช่น สำเนาใบระเบียบแสดงผลการเรียน สำเนาปริญญาบัตรหรือหนังสือรับรองคุณวุฒิ สำเนาใบประกอบวิชาชีพครู สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน ใบรับรองแพทย์ หนังสืออนุญาตให้สมัครสอบ รูปถ่าย ขนาด 1 นิ้ว จำนวน 3 แผ่น หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-สกุล พร้อมเงินค่าสมัคร 200 บาท

รับสมัครระหว่างวันที่ 17-24 มีนาคม 2557 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สำนักงานเขตเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 ถนนเลี่ยงเมือง สี่แยก อ.บ.ต.กุดลาด ต.กุดลาด อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์สอบภายในวันที่ 8 เมษายน 2557

กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ

รายงาน / 18 มี.ค.57

จังหวัดอุบลราชธานี จัดงานวันท้องถิ่นไทย

อุบลราชธานี : เพื่อน้อมรำลึกและสดุดีถึงพระมหากรุณาธิคุณใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีพระคุณอันประเสริฐต่อปวงชนชาวไทย

เช้าวันนี้ (18 มี.ค. 57) นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธาน นำข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น วางพานพุ่มเพื่อสดุดีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวันท้องถิ่นไทย ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ หน้าศาลากลาง(หลังเดิม) จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งการจัดงานดังกล่าวจังหวัดอุบลราชธานี โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีทุกแห่งได้กำหนดการจัดงานขึ้นเป็นประจำทุกปี และนำข้าราชการ,พนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี อ่านสาส์นจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องในวันท้องถิ่นไทย เพื่อผู้บริหารท้องถิ่นและพนักงาน ข้าราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่น จะได้นำไปประพฤติปฏิบัติ ในการให้บริการแก่ประชาชน ในเขตพื้นที่ของตน

วันท้องถิ่นไทย ได้ถือกำเนิดจากการที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดำรัสในที่ประชุมเสนาบดีว่า ตลาดเมืองนครเขื่อนขันธ์ โสโครกเหมือนกับตลาดท่าจีน สมเด็จพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อประชุมหารือ ร่วมกับประชาชนชาวท่าฉลอม จึงได้พร้อมใจกันพัฒนา ก่อสร้างถนนและสะพานขึ้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จเปิดถนน และพระราชทานชื่อถนนแห่งนี้ว่า "ถนนถวาย” และทรงโปรดให้จัดตั้งตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลหัวเมืองแห่งแรก เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2448 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองและถือเป็นการกำเนิดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นครั้งแรกในประเทศไทย จึงได้ถือเอาวันที่ 18 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันท้องถิ่นไทย ตราบจนถึงปัจจุบัน

พงษ์สถิตย์ อรอินทร์

ส.ปชส.อุบลราชธานี

081 924 8609 /ข่าว/ 18 มี.ค.57

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงจังหวัดอุดรธานี วันที่ 18 มีนาคม 2557

สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยหลวงจังหวัดอุดรธานี วันที่ 18 มีนาคม 2557 นายธนนิจ นิ่มวิญญา ประธานคณะทำงานศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาห้วยหลวง แจ้งว่า สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยลวงจังหวัดอุดรธานี ณ วันที่ 18 มีนาคม 2557 สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำห้วยหลวง มีปริมาณน้ำในอ่างทั้งหมด 46.881 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 34.58 ของความจุที่ระดับเก็บกัก 135.567 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งอ่างเก็บห้วยหลวงสามารถส่งน้ำเพื่อการเกษตรหน้าแล้งปี 2556/2557 ได้ 0.065 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 0.280 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำที่ใช้ในการผลิตประปา 0.085 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยน้ำสูญเสียจากการระเหย และรั่วซึมจากอ่งเก็บน้ำห้วยหลวง 0.101 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ ขอความร่วมมือเกษตรกรและประชาชนทุกภาคส่วน ได้ใช้น้ำอย่างคุ้มค่าและประหยัด เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำมีน้อย และขอให้เก็บน้ำสำรองไว้ในสระเก็บน้ำในไร่นา อ่างเก็บน้ำ หนองบึงสาธารณะ แก้มลิง หรือแหล่งน้ำอื่นๆ ไว้ใช้ในหน้าแล้งปีนี้ด้วย

พัฒนเดช ยศกรกุล / ข่าว

ส.ปชส.อุดรธานี 

จังหวัดมุกดาหารจัดพิธีถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เนื่องในวันท้องถิ่นไทย

วันนี้ (๑๘ มี.ค. ๕๗) เวลา ๐๘.๓๐ น.  ณ หอประชุมโรงเรียนมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันท้องถิ่นไทย พร้อมหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดมุกดาหาร ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อน้อมลำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้า ล้นกระหม่อม ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ได้ทรงวางรากฐานการพัฒนาท้องถิ่นรูปแบบการปกครองตนเองให้มีความมั่นคงกระทั่งปัจจุบัน พร้อมกล่าวถวายราชสดุดีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และอ่านสารรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และอ่านสารปลัดกระทรวงมหาดไทย

ในโอกาสเดียวกัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารกล่าวถึงความเป็นมาเนื่องใน "วันท้องถิ่นไทย”ว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้พระราชกำหนดสุขาภิบาลกรุงเทพฯ ร.ศ.๑๑๖ ขึ้น เป็นต้นแบบของการดำเนินงานสุขาภิบาล และประกาศจัดตั้ง "สุขาภิบาลตำบลท่าฉลอม” เป็นสุขาภิบาลหัวเมืองนอกมณฑลกรุงเทพ แห่งแรกของไทย เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๔๔๘ (ร.ศ.๑๒๔) เป็นที่ประจักษ์ว่าพระองค์ทรงมีพระบรมราโชบายที่จะเปิดโอกาสแก่ประชาชนในท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหาราชการ  ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองของประเทศไทย

สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

พิพัฒน์ เพชรสังหาร สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ 

จังหวัดมุกดาหารจัดประชุมคณะอนุกรรมการสมัชชาสตรีและคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัว ระดับจังหวัด

วันนี้ (๑๘ มี.ค. ๕๗) เวลา ๑๐.๓๐ น.  ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจงหวัดมุกดาหาร เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการสมัชชาสตรีและคณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวระดับจังหวัด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนปัญหา ติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงานทางสังคมจังหวัดมุกดาหาร ปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว รวมถึงร่วมหารือแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริง ที่เกิดขึ้นพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร

สำหรับสถานการณ์ปัญหาทางสังคมของจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเกิดขึ้นช่วงปี ๒๕๕๔-๒๕๕๖ มีทั้งปัญหาเด็กและเยาวชน ด้านครอบครัว สตรี และผู้สงอายุ ซึ่งในปี ๒๕๕๗ คณะอนุกรรมการก็ได้พิจารณาร่วมกันนำประเด็นปัญหาดังกล่าว เข้าพิจารณาเพื่อกำหนดนโยบายในการทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว โดยจะนำประเด็นปัญหาเพื่อเข้าหารือในเวทีการประชุมสมัชชาสตรี ครอบครัว สวัสดิการสังคมและวันสตรีสกล "ครอบครัวพอเพียงคู่เคียงภูมิปัญญา พัฒนาสู่อาเซียน” ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๗

สุภาวดี อัมไพพันธ์ สปชส.มุกดาหาร/ข่าว

บึงกาฬจัดกิจกรรมสร้างสายใยรักแห่งครอบครัว

วานนี้ 17-02-57 เวลา 14.00 น. นายธวัชชัย รักขนาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการค่ายสานสายใยรักครอบครัวอบอุ่นรัก ณ วัดอาฮงศิลาวาส ตำบลไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ โดยการร่วมมือของหน่วยงาน สถาบันการเงินชุมชุนต้นแบบบุ่งคล้า ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดบึงกาฬ โดยมี เด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง จำนวน 60 ครอบครัวจากพื้นที่ อำเภอเมือง อำเภอเซกา อำเภอโซ่พิสัย และอำเภอบุ่งคล้า เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อมุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึก ความผูกพันและแสดงความคิดเห็นของสมาชิกในครอบครัวและหวังให้ครอบครัวที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นต้นแบบครอบครัวอบอุ่น  

นางสุจิตรา พินดวง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า จากสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เกิดการแข่งขันสูง ทำให้คนต้องดิ้นรน เพื่อความอยู่รอดของตนเองและครอบครัว ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา คือครอบครัวซึ่งเป็นสถาบันหลักต้องขาดความอบอุ่น ขาดความรัก ความผูกพัน ขาดความเชื่อใจ เนื่องจากไม่ได้อยู่ร่วมกัน ทำให้ครอบครัวเกิดปัญหาจนถึงขั้นครอบครัวแตกแยก ส่งผลให้ลูกที่เกิดมาต้องขาดความรัก ความอบอุ่นจากพ่อแม่ และเด็กอาศัยอยู่กับปู่ ย่า ตา ยาย แทน ทำไห้เกิดช่องว่างระหว่างวัยทำให้เกิดปัญหาเด็กและเยาวชนตามมา เช่น ท้องก่อนวัย ปัญหายาเสพติดซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องแก้ไข โดยเริ่มจากสถาบันครอบครัว อำเภอบุ่งคล้าเป็นพื้นที่ดำเนินงานโครงการศูนย์สามวัยโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวและเป็นตำบลต้นแบบของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันการเงินชุมชุนต้นแบบบุ่งคล้า ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดบึงกาฬ จึงได้จัดทำโครงการสานสายใยครอบครัวอุ่นรักขึ้นเพื่อส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกันเสริมสร้างความรักความเข้าใจ ความผูกพัน ในครอบครัว และเสริมสร้างองค์ความรู้ในครอบครัวได้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในสังคมปัจจุบันเพื่อลดปัญหาครอบครัว นำไปสู่ความเข้มแข็งทางสังคม 

จังหวัดบึงกาฬจัดงาน วันท้องถิ่นไทย

วันนี้ (18-03-57) เวลา09.00 น.  ณ หอประชุมเทศบาลตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกสภา ข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดบึงกาฬ ได้จัดพิธีถวายราชสดุดี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสการจัดงาน วันท้องถิ่นไทย ประจำปี 2557 เพื่อรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์พระปิยมหาราชเจ้า ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ที่ได้กำเนิดวันท้องถิ่นไทยพร้อมกันนี้ยังได้มีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานของ อบต.ที่ได้มีการบริหารการทำงานจนสามารถเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมอันนำมาสู่ความเป็นอยู่ที่ดีและคุณภาพที่ดีของคนในท้องถิ่น

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2448 (ร.ศ.124) ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้ประชาชนในท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง อันเป็นการวางรากฐานที่สำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ปัจจุบัน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศต่างเติบโต และมีความเข้มแข็งมาเป็นลำดับ มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง ในการให้บริการสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ สามารถตอบสนองได้ตรงตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่

เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้มีการจัดตั้งสุขาภิบาลหัวเมืองครั้งแรก ณ ตำบลท่าฉลอม อันเป็นต้นกำเนิดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประกอบกับ พระราชกรณียกิจใหญ่หลวงนานัปการที่เป็นการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่ปวงชนชาวไทย เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นพลังส่งเสริมให้แก่เหล่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการสร้างความเจริญก้าวหน้า ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ให้มีความอยู่ดีกินดี อันจะนำไปสู่ความ มั่งคั่งของประเทศชาติสืบไป ตามมติ คณะรัฐมนตรี ได้กำหนดให้วันที่ 18 มีนาคม ของทุกปีเป็น "วันท้องถิ่นไทย” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2448 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้ประชาชนในท้องถิ่นได้เข้ามา มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง อันเป็นการวางรากฐานที่สำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย และเป็นการพัฒนาไปสู่การกำหนดนโยบายแห่งรัฐในการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง สามารถเป็นกลไกในการพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน ต่อไป

บึงกาฬจัดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

วันนี้ 18-03-57 เวลา 09.00 น. จังหวัดบึงกาฬจัดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ที่โรงเรียนบ้านห้วยก้านเหลือง ต.ปากคาด อ.ปากคาด มีส่วนราชการ หน่วยงานร่วมออกให้บริการแก่ประชาชนมากกว่า ๓๐ หน่วยงาน มีประชาชนมารับบริการเป็นจำนวนมาก

นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวในระหว่างเป็นประธานเปิดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนว่า รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทยกำหนดให้แต่ละจังหวัดดำเนินโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้ส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ได้ออกให้บริการแก่ประชาชนตามภารกิจของตนเอง เป็นการลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางมาติดต่อราชการ และสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ กับประชาชนให้ดียิ่งขึ้น ในวันนี้ออกหน่วยบริการประชาชนที่โรงเรียนบ้านห้วยก้านเหลือง ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ มีกิจกรรมการให้บริการของส่วนราชการ หน่วยงาน กว่า ๓๐ หน่วย ประกอบด้วย แจกถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้ยากจน จำนวน ๑๐๐ ชุด มอบเงินสงเคราะห์แก่เด็กยากจน จำนวน ๒๐ ทุนๆ ละ ๑,๐๐๐ บาท มอบชุดนักเรียน จำนวน ๑๐๐ ชุด มอบผ้าถุง ผ้าขาวม้าแก่ประชาชน ๑๐๐ คน จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจรักษาโรคทั่วไป ทันตกรรม และ การแพทย์แผนไทย หน่วยปศุสัตว์เคลื่อนที่ บริการผ่าตัดทำหมันสุนัข แมว บริการคลินิกด้านการเกษตร ประมง สหกรณ์ ที่ดิน อุตสาหกรรม การป้องกันสาธารณภัย ให้คำแนะนำด้านการประกอบอาชีพ เกษตรทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง ตรวจซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ด้านแรงงาน รับสมัครงานในประเทศและต่างประเทศ ให้ความรู้เกี่ยวกับการขับขี่รถที่ปลอดภัย การใช้พลังงาน รับเรื่องราวร้องทุกข์ รับขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน การจัดนิทรรศการให้ความรู้ของส่วนราชการ หน่วยงานต่างๆ การจำหน่ายสินค้า OTOP สินค้าชุมชน และอื่นๆ อีกมากมาย

นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนผู้ยากจนในพื้นที่ให้มีอาชีพมีรายได้ และอนุรักษ์โค-กระบือ จึงได้จัดกิจกรรมไถ่ชีวิตโค-กระบือ จำนวน ๑ ตัว มอบให้เกษตรกรผู้ยากจน คือ นางสาวเกษร ทะยะราช บ้านไชยพร ต.โนนศิลา อ.ปากคาด นำไปเลี้ยงขยายพันธุ์สร้างรายได้ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมปล่อยพันธุ์ปลา จำนวน ๓๐,๐๐๐ ตัว ลงหนองน้ำสาธารณะเพื่อเป็นอาหารแก่ประชาชนในพื้นที่อีกด้วย สำหรับการจัดโครงการออกหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนในครั้งนี้มีประชาชนมารับบริการเป็นจำนวนมาก

บึงกาฬออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. เคลื่อนที่

วันนี้ 18-03-57 เวลา 09.00 น. ณ โรงเรียนบ้านห้วยก้านเหลือง ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานในการออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. เคลื่อนที่ โดยสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับโรงพยาบาลปากคาดได้ ออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. เคลื่อนที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่อำเภอปากคาด โดยมีประชาชนมารับบริการเป็นจำนวนมาก

ดร. นายแพทย์ไพศาล วรสถิตย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า จังหวัดบึงกาฬได้จัดโครงการหน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้มีโอกาสเข้าถึงบริการจากส่วนราชการ หน่วยงานต่างๆ เป็นประจำทุกเดือนอย่างต่อเนื่อง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ ร่วมกับโรงพยาบาลปากคาด และหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่อำเภอปากคาด ได้จัดหน่วยแพทย์ พอ.สว. เคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนที่อยู่ห่างไกลร่วมกับทางจังหวัดบึงกาฬเช่นเดียวกัน โดยในวันนี้ ออกให้บริการในพื้นที่อำเภอปากคาด ณ โรงเรียนบ้านห้วยก้านเหลือง ต.ปากคาด กิจกรรมให้บริการประกอบด้วย ด้านการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค บริการด้านทันตกรรม บริการแพทย์แผนไทย ตลอดจนชี้แจงข้อมูลข่าวสาร รณรงค์ให้ความรู้ต่างๆ แก่ประชาชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้กับกลุ่มเสี่ยงด้วย

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบึงกาฬ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อำเภอปากคาดที่พบส่วนใหญ่เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด โรคระบบทางเดินอาหาร โรคเหงือกและฟัน นอกจากนี้ยังพบว่ามีโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีแนวโน้มสูงขึ้น คือ ในปี 2556 มีผู้ป่วย 223 ราย แยกเป็น โรคเบาหวาน 126 ราย โรคความดันโลหิตสูง 70 ราย โรคหัวใจและหลอดเลือด 16 ราย และโรคเรื้องรังอื่นๆ 11 ราย 

จังหวัดนครราชสีมา จัดงานวันท้องถิ่นไทย เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงวางรากฐานการกระจายอำนาจในประเทศไทย

วันนี้ (18 มี.ค. 57) ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานถวายสักการะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และเปิดงานวันท้องถิ่นไทยของจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีลงมติอนุมัติให้วันที่ 18 มี.ค.ของทุกปี เป็นวันท้องถิ่นไทย เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีต่อการปกครองท้องถิ่นไทย โดยทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะ ต.ท่าฉลอม ขึ้นเป็น "สุขาภิบาลท่าฉลอม” นับเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้ประชาชนในท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และเป็นการวางรากฐานในการปกครองท้องถิ่นทีสำคัญยิ่ง อันนำไปสู่การวางรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยในเวลาต่อมา

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ตรวจเยี่ยมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่นครราชสีมา ๑ ที่มาให้บริการรับแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๗ (เวลา ๐๘.๓๐ น.) นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ตรวจเยี่ยมคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสรรพกรพื้นที่นครราชสีมา ๑ ณ ห้องประชาสัมพันธ์ ศาลากลาง ชั้น ๑ จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นางอุไรวรรณ อภัยพงษ์ และคณะ ให้การต้อนรับ สำนักงานสรรพกรพื้นที่นครราชสีมา ๑ ได้มาให้บริการรับแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมาทุกหน่วยงาน วันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น. – ๑๖.๓๐ น. โดยมีข้าราชการ พนักงานและเจ้าหน้าที่ให้ความสนใจเป็นอย่างดี สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา โทรศัพท์ ๐-๔๔๒๕-๑๘๑๘, ๐-๔๔๒๕-๔๙๒๘ โทรสาร ๐-๔๔๒๕-๔๙๒๗

ข้อเขียนจังหวดขอนแก่นนครแห่งไมซ์ซิตี้ของมิสเตอร์ เหวียน ด๊อก ฮวง ชาวเวียดนาม ได้รับรางวัลชนะเลิศ โครงการเผยแพร่ศักยภาพของไมซ์ซิตี้ในประเทศไทย

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจงหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่าคณะกรรมการพัฒนาอุตสาหกรรม MICE และคณะทำงานขับเคลื่อนจังหวัดขอนแก่น เป็นนครแห่ง MICE เข้าประชุมเพื่อรายงานผลการปฏิบัติงานและรับทราบแผนแม่บทในการขับเคลื่อนจังหวัดขอนแก่นเป็นนครแห่ง MICE ซึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่นนำเสนอ ผู้แทนสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน. ได้แจ้งผลการประกวดรางวัลโครงการ Thailand MICE Destimation Review Competition ซึ่งเป็นโครงการเผยแพร่ศักยภาพของไมซ์ซิตี้ในประเทศไทยทั้ง 5 จังหวัด ในรูปแบบของการคัดเลือกนักจัดการมืออาชีพและกลุ่มล็อกเกอร์จากทั่วโลก 5 คน มาเยี่ยมชมธุรกิจโรงแรม ศูนย์ประชุมและสถานที่ท่องเที่ยวใน 5 จังหวัดไมซ์ซิตี้ เพื่อเขียนบทความแนะนำประชาสัมพันธ์ไมซ์ซิตี้ผ่านสื่อออนไลน์เฟสบุ๊คไปทั่วโลก ผลปรากฏว่าข้อเขียนเพื่อประชาสัมพันธ์ แนะนำจังหวัดไมซ์ซิตี้ จังหวัดขอนแก่นของมิสเตอร์เหวียน ด๊อก ฮวง ชาวเวียดนาม มีผู้เข้าชมมากที่สุด 612,762 คน ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินสดจาก สสปน. 5,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 165,000 บาท

ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี

ส.ปชส.ขอนแก่น 

จังหวัดขอนแก่นทำพิธีมุทิตาสักการะพระราชปริยัติโสภณในโอกาสได้รับพระบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นรูปใหม่

วันนี้พระเดชพระคุณพระพรหมเวที เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกกรรมการมหาเถระสมาคมเป็นประธานมอบพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้งพระราชปริยัติโสภณ รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น เจ้าอาวาสวัดหนองกุง อำเภอน้ำพอง เป็นเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นรูปใหม่ โดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นผู้อ่านพระบัญชา มีพระเถระผู้ใหญ่ในภาคอีสานและญาติโยมมาร่วมพิธีจำนวนมากถือเป็นเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นรูปที่ 8  สำหรับพระราชปริยัติโสภณ เดิมชื่อ ถนอม เหลาลาภะ เกิดเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2493 ที่หมู่ 4 ตำบลทรายมูล อำเภอน้ำพองเริ่ม อุปสมบทเมื่อวันที่20 พฤษภาคม 2514  ที่วัดอีสาณ ตำบลท่ากระเสริม อำเภอน้ำพองรวมอายุ 63 ปี บวชมาแล้ว 43 พรรษา การศึกษาจบนักธรรมเอก จบเปรียญธรรม 6  ประโยค สอบไล่ได้ประกาศนียบัตรประโยคครู พ.ม. และสำเร็จการศึกษาพุทธศาสนาบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย งานปกครอง ปี 2520 เป็นรองเจ้าอาวาสวัดชัยศรี อำเภอน้ำพอง  2523 เป็นเจ้าอาวาสวัดหนองกุงและเจ้าคณะตำบลหนองกุง อำเภอน้ำพอง ปี 2527 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอน้ำพอง ปี 2532 เป็นพระอุปัชาย์ ปี 2541 เป็นเจ้าคณะอำเภอน้ำพอง ปี 2544 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นและวันที่ 18 มีนาคม 2557 ได้รับพระบัญชาจากสมเด็จพระสังฆราชแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นรูปใหม่เป็นรูปที่ 8

ชาวนาเมืองหมอแคนหาอาชีพเสริมช่วงหน้าแล้ง หันมาจำหน่ายลูกตาลริมถนนมะลิวัลย์ ชี้รายได้กว่า 1,500 บาทต่อวัน

ชาวนาจังหวัดขอนแก่นหันมาทำอาชีพเสริมขายลูกตาลที่ริมถนนมะลิวัลย์ช่วงบ้านทุ่ม ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีพ่อค้าแม่ค้านำลูกตาลมาวางจำหน่าย และได้รับความสนใจจากประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาจอดรถซื้อตลอดทั้งวัน โดยราคาจำหน่ายลูกตาลถุงละ 30 บาท น้ำลูกตาลขวดละ 20 บาท สร้างรายได้อย่างงาม จนทำให้ลูกตาลที่เตรียมมา วันละกว่า 500 กิโลกรัมหมดในช่วงบ่าย

นายประเสริฐ  ยศธสาร พ่อค้าลูกตาล เปิดเผยว่า ตนประกอบอาชีพทำนาปี หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตเมื่อปลายเดือนธันวาคมก็หันมาจำหน่ายลูกตาล ในช่วงหน้าแล้ง โดยจ้างคนขึ้นต้นตาลในพื้นที่ อ.ชนบท อ.หนองเรือ และ อ.น้ำพอง จากนั้นนำมาแกะลูกตาลสดๆจำหน่ายริมถนนมะลิวัลย์ บริเวณบ้านทุ่ม

ซึ่งสร้างรายได้เป็นอย่างดี โดยในวันจันทร์ถึงวันศุกร์ไม่ต่ำกว่าวันละ 1,500 บาท ส่วนวันหยุดและวันเสาร์-อาทิตย์วันละ 3,000 บาทขึ้นไป ถือว่าเป็นอาชีพในช่วงหน้าแล้งได้เป็นอย่างดี เพราะช่วงนี้ลูกตาลจะออกลูกเยอะ แม้จะต้องเสี่ยงต่อมีดที่จะบาดมือก็ตาม

กอล์ฟรายการ สิงห์ออลไทยแลนด์ เปิดฤดูกาลที่ขอนแก่น มีโปรดังๆ มาร่วมแข่งเพียบ

ศึกดวลวงสวิงสิงห์ออลไทยแลนด์กอล์ฟทัวร์ฤดูกาล 2014 ประเดิมสนามแรกด้วยรายการ "สิงห์อีสานโอเพ่น” แข่งขันระหว่างวันที่ 20-23 มีนาคมนี้ ที่สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ โดยมีเงินรางวัลให้นักกอล์ฟชายชิงชัยรวม 3 ล้านบาท และนักกอล์ฟหญิงอีก 2 แสนบาท สำหรับรายการนี้เป็นรายการจัดร่วมกับ อาเซียน พีจีเอ ทัวร์ ซึ่งเป็นทัวร์ระดับนานาชาติ และมีนักกอล์ฟจากต่างชาติเข้าร่วมแข่งขันมากกว่า 15 ประเทศทั่วโลก โดยนักกอล์ฟชายแข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 72 หลุม ตัดตัวนักกอล์ฟจำนวน 55 อันดับร่วม หลังจากจบ 36 หลุม ส่วนนักกอล์ฟหญิงแข่งขัน 54 หลุม

สำหรับโปรกอล์ฟชื่อดังที่ลงประชันฝีมือในครั้งนี้ อาทิ ประหยัด มากแสง อดีตแชมป์เก่า 2 สมัย ในปี 2007 และ 2013 ถาวร วิรัตน์จันทร์ ธรรมนูญ ศรีโรจน์ เชาวลิต ผลาผล พรหม มีสวัสดิ์ ชัพชัย นิราช อุดร ดวงเดชา และ ชินรัตน์ ผดุงศิลป์ ร่วมด้วยโปรต่างชาติอย่าง มาร์ดัน มามัต จากสิงคโปร์ ไซมอน เยสต์ จากสกอตแลนด์ เบค ซอค เฮียน จากเกาหลีใต้ แอนโธนี่ คัง และเบอร์รี่ เฮนสัน จากสหรัฐฯ

จังหวัดขอนแก่นเดินหน้ายืมหมีแพนด้ามาโชว์ที่สวนสัตว์เขาสวนกวาง

รายงานพิเศษเรื่อง จ.ขอนแก่นเดินหน้ายืม "แพนด้า” โชว์สวนสัตว์เขาสวนกวาง เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระชนมายุครบ 60พรรษา

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า โครงการยืมหมีแพนด้าจากจีนมาจัดแสดงได้มีการประชุมหารือกันหลายครั้งล่าสุดได้ข้อสรุปหลักเกณฑ์การขอยืมแพนด้าแล้ว ประกอบด้วยความเหมาะสมของการยืมแพนด้ามาจัดแสดงที่จังหวัดขอนแก่น ความพร้อมของเส้นทางคมนาคมระบบขนส่ง แหล่งอาหารที่มีปริมาณเพียงพอสามารถเลี้ยงแพนด้าได้ตลอดปี มีสถาบันทางวิชาการแพทย์สนับสนุน รวมทั้งเรื่องงบประมาณในการก่อสร้างส่วนจัดแสดงแพนด้าที่ต้องใช้งบประมาณถึง 80-100 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งจะขอรับการสนับสนุนจากแหล่งทุนหรือองค์กรต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนโครงการวิจัยแพนด้าปีละ 1 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงการทำประกันชีวิตให้กับแพนด้า กรณีเสียชีวิตจะต้องชดใช้เป็นเงินจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐต่อแพนด้า 1 ตัว จังหวัดขอนแก่นได้จัดทำเป็นเอกสารเสนอให้ทางรัฐบาลพิจารณาแล้ว ซึ่งทุกเงื่อนไขหลักเกณฑ์ทางจังหวัดมีความพร้อมและได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหอการค้าจังหวัดขอนแก่น ที่ยินดีสนับสนุนจังหวัดนำแพนด้ามาเลี้ยงและจัดแสดงในสวนสัตว์ขอนแก่นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้ขยายตัวมากขึ้น ตามแผนงานโครงการเราต้องการให้สามารถจัดแสดงแพนด้าที่สวนสัตว์เขาสวนกวางขอนแก่นให้ได้ภายในปี 2558 ถือเป็นอีกจุดดึงดูดที่สำคัญที่จะยกระดับการท่องเที่ยวของขอนแก่นและกลุ่มจังหวัดในภาคอีสาน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า กรณีที่จังหวัดมีเจตจำนงขอยืมหมีแพนด้ามาเลี้ยงและมาจัดแสดงที่สวนสัตว์ขอนแก่นเพื่อ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯสยามบรมราชกุมารี พระชนมายุครบ 60พรรษาและเพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในภาคอีสานและทั่วไปได้เที่ยวชมเช่นเดียวกับที่ จ.เชียงใหม่ เพราะสวนสัตว์ขอนแก่นมีพื้นที่มากกว่า 2,000 ไร่มีบรรยากาศที่เหมาะสมมาก เมื่อ

จ.ขอนแก่นเป็นจังหวัดอยู่กึ่งกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมกับอยู่ใกล้กับนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ประชาชนลาวมาที่ จ.ขอนแก่นโดยรถยนต์ประมาณ 2.30 ชั่งโมง และขอนแก่นยังเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศความร่วมมือของกลุ่มเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ถือเป็นอีกจุดดึงดูดที่สำคัญที่จะยกระดับการท่องเที่ยวของขอนแก่นและกลุ่มจังหวัดในภาคอีสาน จะมีนักท่องเที่ยวทั้งในระดับพื้นที่และต่างประเทศเข้ามาใช้จ่ายและท่องเที่ยวในจังหวัดในอัตราที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นถ้า จ.ขอนแก่น ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย และรัฐบาลจีน ส่งแพนด้ามาเลี้ยง หรือจัดแสดงที่สวนสัตว์ขอนแก่นประชาชนทั่วไปจะได้มาเที่ยวชมหมีแพนด้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนภาคอีสานและพี่น้องอีก 6 ชาติ ในกลุ่มความร่วมมือลุ่มน้ำโขงอีก 6 ชาติก็จะเข้ามาเที่ยวชมหมีแพนด้าในสวนสัตว์ขอนแก่นด้วย และสวนสัตว์ขอนแก่นมีหมีแพนด้า จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมหมีแพนด้าจำนวนมากในแต่ละวัน อีกทั้งจังหวัดมีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่มีคณะสัตวแพทย์มีหน่วยงานวิจัยโรคสัตว์ของกรมปศุสัตว์ ซึ่งจะเป็นหน่วยงานที่ดูแลเลี้ยงหมีแพนด้าในสวนสัตว์ขอนแก่น เพราะจะเป็นผู้ดูแลปฐมพยาบาล และเลี้ยงดูมีแพนด้าตลอด ไม่ว่าจะกี่เดือน กี่ปีก็ตามจังหวัดขอนแก่นจึงเหมาะสมที่จะเลี้ยงหมีแพนด้าและนำหมีแพนด้ามาจัดแสดงในสวนสัตว์ขอนแก่นขณะนี้ได้นำข้อมูลส่วนหนึ่งประสานไปที่รัฐบาลไปแล้ว เพื่อให้รัฐบาลไทยติดต่อไปถึงรัฐบาลจีนเห็นชอบด้วยในการสนับสนุนหมีแพนด้ามาเลี้ยงที่สวนสัตว์ขอนแก่น ต่อไป

ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี

ส.ปชส.ขอนแก่น 

มข.ประทับใจภาพ 20 ธันวาคม 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเปิดมหาวิทยาลัยขอนแก่น

มข.ประทับใจภาพ 20 ธันวาคม พ.ศ.2510 : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิด มหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันอายุครบ 50 ปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นครบรอบ 50 ปี ปี 2557 ประทับใจภาพ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2510 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินประกอบพิธีเปิด มหาวิทยาลัยขอนแก่น อย่างเป็นทางการ มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มมีการก่อสร้างในรัฐบาล จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อปี 2507 โดยมีมติจัดตั้งสถาบันการศึกษาชั้นสูงด้านวิศวกรรมศาสตร์ และเกษตรศาสตร์ และเสนอชื่อสถาบันนี้ว่า มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาในปี 2508 คณะรัฐมนตรีมีมติให้เปลี่ยนชื่อเป็นมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันเปิดสอน 17 คณะ เปิดสอนในระดับปริญญาตรี โท และเอก สีประจำมหาวิทยาลัยคือสีดินแดง ดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัยคือ ดอกกัลปพฤกษ์

ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี

ส.ปชส.ขอนแก่น 

โคราชพร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้ง ที่ 43 ปลายปีนี้ ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ปรับปรุงสนาม ชูหมู่บ้านนักกีฬาแห่งแรกในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ

วันนี้ (18 มี.ค. 57) นายพาณิชย์ สินสุข ผู้อำนวยการศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 43 ที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 9-15 ธค 2557 นี้ ภายใต้ชื่อ นครราชสีมา เกมส์ ว่า ขณะนี้จังหวัดนครราชสีมามีความพร้อมทุกด้านอยู่แล้วในการรองรับการจัดการแข่งขันกีฬาระดับชาติ ที่ผ่านมาจังหวัดนครราชสีมาได้ผ่านการจัดการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติมาแล้วหลายครั้ง ทำให้รู้แนวทางในการจัดการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ๆ และมั่นใจว่าจังหวัดนครราชสีมามีความพร้อมอย่างมาก ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา สำหรับการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 43 นครราชสีมา เกมส์ ในครั้งนี้ สัญลักษณ์ กำหนดให้เป็นรูปย่าโม สัตว์นำโชคเป็นช้างถือคบเพลิง ชื่อ สีมา ส่วนคำขวัญประจำการแข่งขัน คือ สร้างมิตรไมตรี สร้างสามัคคี ด้วยกีฬา มีชนิดกีฬาแข่งขั้นทั้งหมด 43 ชนิดกีฬา 630 เหรียญทอง สำหรับความพร้อมของสนาม สนามกีฬาหลัก จะใช้สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 และสนามกีฬาภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และได้กำหนดที่พักไว้ในหมู่บ้านนักกีฬามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของกีฬาแห่งชาติ ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็นจังหวัดแรกที่ยกมาตรฐานในด้านของที่พักนักกีฬา เช่นเดียวกับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ที่ผ่านมา ส่วนความพร้อมของสนามการแข่งขันได้มีการจัดเตรียมงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในการปรับปรุงทุกสนามเพื่อรองรับการแข่งขัน ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมามีความพร้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 43 ทั้งสนามการแข่งขัน สนามฝึกซ้อม อุปกรณ์ละเทคนิค ที่พักนักกีฬา บุคลากรในการจัดการแข่งขัน การคมนาคม การขนส่ง และการประชาสัมพันธ์ เนื่องจากจังหวัดนครราชสีมา เคยจัดกีฬาระดับนานาชาติมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ในปี 2550 การจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2013 และการแข่งขันวอลเล่ย์บอลชิงแชมป์เอเชีย 2013 ซึ่งทุกสนามการแข่งขันได้มาตรฐานสากลอย่างแน่นอน นายพาณิชย์ กล่าว

ผู้ว่าฯมหาสารคาม ขอความร่วมมือสื่อฯในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์แก้ปัญหาสาธารณภัย

ผู้ว่าฯมหาสารคาม ขอความร่วมมือสื่อฯในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์แก้ปัญหาสาธารณภัย สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม จัดประชุมชี้แจงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ขอความร่วมมือสื่อมวลชนในพื้นที่ เป็นสื่อกลางประชาสัมพันธ์แก้ไขปัญหาสาธารณภัย รณรงค์ลดอุบัติเหตุทางถนนในเทศกาลสงกรานต์

(18-3-57) ในการประชุมชี้แจงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต ตามโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาสาธารณภัยและภาวะวิกฤต ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ที่กรมประชาสัมพันธ์ โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้น มีสื่อมวลชนท้องถิ่น นักจัดรายการวิทยุกระจายเสียง อาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน และเคเบิลทีวี ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง รวม 60 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ความรู้ ข้อมูล ข่าวสาร เกี่ยวกับมาตรการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของหน่วยงานภาครัฐ แก่ประชาชนและแนวทางปฏิบัติในการเตรียมความพร้อมให้เข้าถึงประชาชนและนำไปสู่การปฏิบัติในเบื้องต้น โดยมีวิทยากรจาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมหาสารคาม หน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม และบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบจากรถ จังหวัดมหาสารคาม ร่วมให้ความรู้

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดการประชุม ว่า การประชาสัมพันธ์เพื่อนำข้อมูลข่าวสารด้านสาธารณภัย ไปสู่ประชาชน โดยผ่านสื่อมวลชน เป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถรับมือกับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่อาจะเกิดขึ้นได้อย่างทันทีท่วงที ทั้งก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย พร้อมร่วมกันรณรงค์เพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน ในเทศกาลสงกรานต์ ที่กำลังจะมาถึง

ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองมหาสารคาม รวบสองหนุ่มค้ายาบ้า พร้อมของกลาง

(18-3-57) พ.ต.อ.ประยุทธ์ พิทักษ์เผ่าสกุล พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ รักษาราชการแทนผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม พ.ต.ต.อดิศักดิ์ ทองหลาง สวป.ฯ ร.ต.ท.สุรชัย วงศ์จันดา,ร.ต.ต.ทองปาน เสนาจักร ,ร.ต.ต.คมสันต์ บุพตา พร้อมชุดปราบปรามยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม ร่วมกัน แถลงข่าวจับกุม ผู้ต้องหา 2 ราย โดยรายแรก นายจักรพงษ์ หรือเหนี่ยว ถนอมชีพ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 148 หมู่ที่ 10 ตำบลผักปรัด อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ จับกุมได้พร้อมของกลางคือ ยาบ้า จำนวน 160 เม็ด อาวุธปืนจำนวน 2 กระบอก รถจักรยานยนต์จำนวน 1 คัน โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนติดตัวไปใน เมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

รายที่สอง นาย อรรคพลหรือเซ็น สระแก้วทอง อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 ถนนธรรมวงศ์สวัสดิ์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยของกลางคือ ยาบ้า จำนวน 100 เม็ด โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

โดยพฤติการณ์การจับกุม จากการสืบสวนของชุดจับกุมทราบว่า นายเหนี่ยว หรือนายจักรพงษ์ ผู้ต้องหารายแรก มีพฤติการณ์ลักลอบนำยาบ้ามาจำหน่ายในเขตตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และได้ร่วมกันวางแผนติดตามพฤติการณ์จนสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าวและได้ทำ การสอบสวนขยายผลไปจับกุม นาย อรรคพลหรือเซ็น สระทองแก้ว เพื่อนร่วมขบวนการ ผู้ต้องหารายที่สอง พร้อมของกลางยาบ้าอีก 100 เม็ด ที่บริเวณหอพักแห่งหนึ่ง

จากการสอบถาม นาย จักรพงษ์ฯรับว่ายาบ้าจำนวนดังกล่าวตนรับซื้อมาจากเอเย่นต์ชาวจังหวัด อุบลราชธานี ในราคาถุงละ 17,000 บาท และมาจำหน่ายต่อในราคาเม็ดละ 300-400 บาท โดยทำมาแล้ว 4 ครั้ง จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม เพื่อดำเนินคดีต่อไป

ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม ประกาศผลการพิจารณาข้าราชการดีเด่น ประจำปี 2556

จังหวัดมหาสารคาม ประกาศผลการพิจารณาผู้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นข้าราชการดีเด่น ประจำปี 2556 ทั้งในสายผู้อำนวยการต้น นักวิชาการและผู้ปฏิบัติงาน โดยปีนี้มีผู้ได้รับการคัดเลือก จำนวน 4 ราย

นายเสนอ พิศเพ็ง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า คณะอนุกรรมการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2556 จังหวัดมหาสารคาม ได้ดำเนินการคัดเลือกข้าราชการพลเรือน และลูกจ้างประจำ ที่มีผลงาน มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนด ให้เป็นข้าราชการดีเด่น สังกัดจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งกลุ่มข้าราชการที่ได้รับการคัดเลือก ประกอบด้วย กลุ่มที่ 2 ตำแหน่งประเภทผู้อำนวยการ ระดับต้น ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ ระดับชำนาญการพิเศษ ประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ได้แก่ นายสุริยันต์ สายเมือง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเหล่า อำเภอกันทรวิชัย นางวนิดชา ตั้งใจ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคาม นางบุญเรียง บัวละคุณ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโคกไร่ อำเภอแกดำ และกลุ่มที่ 4 ลูกจ้างประจำ ได้แก่ นางลำดวน นามมนตรี ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขอำเภอนาเชือก

ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม จะได้จัดงานวันข้าราชการพลเรือนประจำปี 2557 ในวันที่ 31 มีนาคม 2557 ณ หอประชุมจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งผู้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นจังหวัดมหาสารคาม ก็จะได้เข้ารับเกียรติบัตร จากผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในวันดังกล่าวด้วย

ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ด เปิดกองทุนช่วยเหลือชาวนา มีผู้มาสมทบยอดกว่า 50 ล้านบาท

วันนี้ (18 มีนาคม 2557) เวลา 14.30 น.   ณ บริเวณด้านหน้า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาร้อยเอ็ด นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดโครงการ "กองทุนช่วยเหลือชาวนา” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน และสื่อมวลชนร่วมงานจำนวนมาก

นายมงคล พรงาม ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า กองทุนช่วยเหลือชาวนา มีวัตถุประสงค์เป็นการช่วยเหลือชาวนาทุกภาคส่วน ในขั้นต้นของการดำเนินการ กลุ่มเป้าหมายคือ เกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินตามมูลค่าข้าวเปลือกในใบประทวนโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/57 มีผู้บริหารของธนาคาร จำนวน 7 คน เป็นคณะกรรมการบริหารกองทุน กองทุนช่วยเหลือชาวนา เป็นมาตรการระยะสั้น ระหว่างรอรับเงินจากการระบายข้าวของรัฐบาล ช่วงระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม – 31 ธันวาคม 2557 เงินที่ได้รับเข้ากองทุนครั้งนี้ ไม่จำกัดว่าผู้บริจาค ผู้สมทบกองทุนฯ ต้องเป็นใคร เช่น ประชาชนทั่วไป วัด มัสยิด มูลนิธิ ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัท ห้าง ร้าน สหกรณ์ สมาคมฯลฯ

สำหรับรูปแบบการบริจาคและสมทบ มี 3 รูปแบบ รูปแบบที่ 1 แบบเงินบริจาค สามมารถบริจาคเข้าบัญชีออมทรัพย์ ไม่จำกัดจำนวนเงิน รูปแบบที่ 2 แบบไม่มีผลตอบแทน รูปแบบที่ 3 แบบมีผลตอบแทน กำหนดอัตราผลตอบแทนร้อยละ 0.63 ต่อปี โดยในรูปแบบที่ 2 และ 3 มีกำหนดรับเงินคืนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ทุกท่านสามารถบริจาคได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา ตั้งแต่บัดนี้ ถึง ทุกท่านสามารถบริจาคได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา ตั้งแต่บัดนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2557 หรือจนกว่าธนาคารจะแจ้งปิดรับการบริจาคเงินสมทบตามโครงการดังกล่าว

จากนั้นนายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานกล่าวเปิดงาน และเชิญชวนผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานบริจาคและสมทบ โดยมีผู้มาบริจาคและสมทบเข้ากองทุนช่วยเหลือชาวนาจำนวนกว่า 30 ราย เป็นเงินกว่า 50 ล้านบาท

ประเสริฐ อินทา/ข่าว

การประปาส่วนภูมิภาค เชิญเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตร “การควบคุมคุณภาพน้ำ”

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ว่า กำหนดจัดฝึกอบรม เพื่อเสริมสร้างความรู้ให้ผู้ปฏิบัติงาน ให้สามารถผลิตน้ำประปาได้อย่างถูกต้องและได้ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก วิทยากรที่ภายในของ กปภ.และวิยากรภายนอกมาร่วมบรรยาย ระยะเวลาการฝึกอบรม 4 วัน ระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคม 2557 ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การประปาส่วนภูมิภาค หมายเลขโทรศัพท์ 0 5327 8014 ต่อ 107-9 โทรสาร ต่อ 128 

จังหวัดสุรินทร์ เตือนอากาศแปรปรวนขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพในช่วงนี้

นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ช่วงนี้จังหวัดสุรินทร์อากาศแปรปรวนมาก ในช่วง 17-19 มีนาคม 2557 จะมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ จังหวัดสุรินทร์ จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สิน ที่จะเกิดจากพายุและลมกระโชกแรง โดยกราตรวจสอบ สิ่งก่อสร้างบ้านอยู่ในลักษณะแข็งแรง ในขณะเดียวกันขอให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสิ่งก่อสร้างป้ายโฆษณาในแต่ละพื้นที่ ถ้าพบภัยดังกล่าว ขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยด่วน เช่น ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตำรวจที่สายด่วน 191 บาดเจ็บฉุกเฉินสายด่วน 1669 หรือสามารถแจ้งได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ โทร. 0-4414-3059 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

จ.สุรินทร์ เตรียมประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดได้แต่งตั้งคณะกรมการศูนย์การปฏิบัติป้องกันและลดอุบัติเหตุทารงถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2557 จังหวัดสุรินทร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สามารถลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุทางถนนผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2557 ให้ลดลงเหลือน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเทกาลสงกรานต์ ปี 2556 ซึ่งกำหนดประชุม 20 มีนาคม 2557 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุมสุรินทร์ภักดี (ชั้น 3 ) ศาลากลาง จึงขอเชิญประชุมในวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกันบ็บ

เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์กำหนดแผนออกรับบริจาคโลหิตเดือนมีนาคม

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่าเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกับสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ และธนาคารเลือดโรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ จัดทำแผนรับบริจาคโลหิตเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อออกรับบริจาคโลหิตตามหน่วยงาน ราชการ อำเภอ และสถานศึกษา ต่างๆตามพื้นที่จังหวัด จึงขอเชิญชวนผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ สำหรับกำหนดการออกรับบริจาคโลหิต ประจำเดือนมีนาคม 2557 มีดังนี้ วันที่ 18 มีนาคม 2557 ที่หอประชุมอำเภอกาบเชิง วันที่ 20 มีนาคม 2557 ที่หอประชุมอำเภอศรีณรงค์ 25 มีนาคม 2557 ที่หอประชุมอำเภอพนมดงรัก 27 มีนาคม 2557 ที่หอประชุมอำเภอสนม ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคโลหิตได้ตามวัน และสถานที่ดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป 

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดงานวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้าและงานวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2557

ขอเชิญชวนส่วนราชการ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคประชาชนทั่วไปร่วมงานวันที่ระลึกพระบาท สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้าและงานวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2557 ในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2557 นี้ ที่หอประชุมพญานาครินทร์ ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เปิดเผยว่า จังหวัดอำนาจเจริญ กำหนดจัดงานวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้าและงานวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2557 ขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2557 ที่หอประชุมพญานาครินทร์ ศาลากลางจังหวัด โดยในงานจะประกอบพิธีสงฆ์ พิธีถวายราชสดุดีพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้าและพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณข้าราชการพลเรือนดีเด่น จังหวัดอำนาจเจริญ ประจำปี 2557 จำนวน 10 ราย โดยพิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป จึงขอเชิญชวนข้าราชการทุกหน่วยงาน,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,ผู้นำหมู่บ้าน,ชุมชน และประชาชนทั่วไป ร่วมในพิธีดังกล่าวได้โดยทั่วกัน ทั้งนี้จะมีพิธีทอดผ้าป่าสมทบกองทุนพัฒนาเด็กชนบทในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี สำหรับการแต่งกาย ข้าราชการแต่งเครื่องแบบปกติขาว หรือตามสังกัด ชุดสุภาพ

สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว/ตรวจ

จังหวัดสุรินทร์ จัดงานถนนคนเดิน OTOP MOBILE TO THE FACTORY AND FESTIVAL 21-27 มี.ค. นี้

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับเครือข่าย OTOP จังหวัดสุรินทร์ และธนาคารออมสิน เขตสุรินทร์ ได้กำหนด จัดงาน ถนนคนเดิน OTOP ประทายสะเร็น "OTOP MOBILE TO THE FACTORY AND FESTIVAL” จังหวัดสุรินทร์ " เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า สร้างงานสร้างอาชีพ ให้กับประชาชนในการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านผลิตภัณฑ์หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งกำหนดจัดขึ้น ในวันที่ 21 มีนาคม 2557 เวลา 16.30 น. ณ เวทีกลางการจัดงาน ถนนคนเดิน OTOP ประทายสะเร็น "OTOP MOBILE TO THE FACTORY AND FESTIVAL” จังหวัดสุรินทร์ " สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ 

จังหวัดสุรินทร์เตือนผู้ปกครองระวังอันตราย เด็กจมน้ำเสียชีวิต

นายสอาด  วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ช่วงนี้เด็ก  ๆ เริ่มปิดเทอมตั้งแต่เดือนเดือนมีนาคม-พฤษภาคม เป็นช่วงอากาศร้อน เด็กนิยมไปเล่นน้ำคลายร้อน ทำให้กระทรวงสาธารณสุขพบสถิติการจมน้ำมากที่สุด ข้อมูลในรอบ 11 ปีตั้งแต่ 2546-2556 พบเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี จมน้ำเสียชีวิตถึง 15,495 คน เฉลี่ยปีละ 1,291 คน

สำหรับข้อแนะนำเพื่อป้องกันการจมน้ำเสียชีวิตของเด็ก มีดังนี้คือ

1.  ไม่ควรปล่อยให้เด็กไปเล่นน้ำตามลำพัง แม้ว่าเด็กจะว่ายน้ำเป็นแล้วก็ตาม ควรที่จะให้ผู้ใหญ่ที่ว่ายน้ำได้ ดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย

2. สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ไม่ควรใส่น้ำในภาชนะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ เช่น โอ่ง หรือ กะละมัง ควรที่จะเททิ้งหรือปิดฝาให้เรียบร้อย

3. ถ้าต้องเดินทางทางเรือ ควรสอนให้เด็กใช้ชูชีพ และกำชับว่าไม่ควรเล่นกันบนเรือ

4. สำหรับแหล่งน้ำที่ค่อนข้างอันตรายและสุ่มเสี่ยงต่อการจมน้ำของเด็ก ควรมีการสร้างรั้วหรือตะแกรงกั้นล้อมรอบไว้ แล้วเขียนป้ายเตือนอันตรายให้ชัดเจน

5. ควรสังเกตป้ายเตือนทุกครั้งและกำชับให้เด็กปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

6. ไม่ควรหยอกล้อกันริมน้ำ เพราะอาจจะพลัดตกลงไปได้ และไม่ควรผลักเด็กลงน้ำ ในขณะยังไม่ได้เตรียมตัว เพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้

7. ควรพาเด็กไปเล่นน้ำในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้เฉพาะ ไม่ควรให้เด็กเล่นน้ำตามแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีอันตราย

8. ควรอบอุ่นร่างกายก่อนลงเล่นน้ำเสมอ เพื่อป้องกันการเป็นตะคริว

9. ควรฝึกฝนให้เด็กรู้จักว่ายน้ำและรู้จักว่ายน้ำเพื่อเอาตัวรอดในกรณี

จึงย้ำเตือนผู้ปกครอง และหากพบเห็นผู้จมน้ำสามารถโทรแจ้งขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1669 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

แพทย์เตือนภัยวันนอนหลับโลก หากนอนกรน นอนไม่หลับ อย่าปล่อยทิ้งไว้

ศ.นพ.ประพาฬ ยงใจยุทธ นายกสมาคมโรคจากการหลับแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทั่วโลกพบปัญหาการนอนหลับกว่าร้อยละ 10-15 ส่วนประเทศไทย มีปัญหาป่วยจากการนอนในอัตรา 7 ต่อ 100 คน ส่วนใหญ่คือผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีภาวะโรคอ้วน สำหรับวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคที่เป็น ซึ่งบางกรณีสามารถแก้ไขได้ทันที อาทิ เรื่องน้ำหนักตัว นอนตะแคง นอนหนุนหมอนหรือยกหัวเตียงสูงหลีกเลี่ยงการรับประทานยานอนหลับ

หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี จัดโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน

หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี ร่วมกับส่วนราชการ อำเภอกาบเชิง จัดโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน ร่วมกับโครงการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนในพื้นที่ชายแดน (People to People Connectivity) เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและโครงการเข้าวัด ทำบุญฟังธรรมโดยการออกหน่วยบริการ อำเภอยิ้มเคลื่อนที่ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 5-8 มีนาคม 2557 ที่วัดทับทิมนิมิต บ้านหนองกระทม หมู่ 18 ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายเอกรัตน์ อังคสิทธิ์ ปลัดจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน มีราษฎรไทย จำนวน 50 คน และราษฎร กพช. จำนวน 69 คน เข้าอบรม

จ.สุรินทร์ จัดอบรมโครงการตรวจสอบบัญชีของส่วนราชการในจังหวัดสุรินทร์ รุ่นที่ 10

นางสาววราภรณ์ ลิ้มทรัพย์ คลังจังหวัดสุรินทร์ เผยว่า วันนี้ (17 มี.ค. 57) เวลา 08.30 น. ที่ห้องสำนักงานคลังจังหวัดสุรินทร์ ให้ความรู้ ความเข้าใจและสามารถตรวจสอบข้อมูลในงบทดลองในระบบ GFMIS ปรับปรุงข้อผิดพลาดทางบัญชีเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานด้านบัญชีของส่วนราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 และเจ้าหน้าที่บัญชีของส่วนราชการมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถตรวจสอบข้อมูลบัญชีในงบทดลองในระบบ GFMIS ปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดทางบัญชีได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ จำนวน 14 รุ่นๆ ละ 1 วัน ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนสิงหาคม 2557

วัดดอกจานรัตนาราม จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรภาคฤดูร้อน

วัดดอกจานรัตนาราม จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสามเณรภาคฤดูร้อน ระหว่างวันที่ 2 – 25 เมษายน 2557 ที่วัดดอกจานรัตนาราม – วัดโพธิ์ศรีสว่าง ตำบลทับใหญ่ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ผู้สนใจร่วมทำบุญผ่านบัญชีธนาคาร สามารถโอนเข้าบัญชีธนาคารออมสิน สาขารัตนบุรี อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ เลขที่บัญชี 05263100395-2 ชื่อบัญชี "บวชเณรภาคฤดูร้อน” ประเภทบัญชี ออมทรัพย์ ดูรายละเอียดได้ทาง www.dokjanvoice.org หรือโทร. 08-6243-4774

จังหวัดสุรินทร์ มอบเงินช่วยเหลือครอบครัว หนุ่มร่างยักษ์

นายถาวร  กุลโชติ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดสุรินทร์

ได้กำหนดจัดพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวของนายพรชัย  เสาศรี หนุ่มร่างยักษ์ เพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพให้แก่ครอบครัว เป็นเงินจำนวน 10,000 บาท ในวันพุธที่ 19 มีนาคม 2557 เวลา 13.00 น. ณ บ้านเลขที่ 71/1 หมู่ 3 บ้านตาแก้ว ตำบลกันตรวจระมวล อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์

ขอเชิญผู้สื่อข่าว ร่วมทำข่าวประชาสัมพันธ์ในครั้งนี้โดยทั่วกัน ตามวันและเวลาดังกล่าว

กรรณิกา  สำราญจริง/ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

ผู้คนแห่ซื้อสินค้าตลาดช่องจอม สร้างรายได้เสาร์อาทิตย์ นับ 10 ล้านบาท

ตลาดการค้าช่องจอม พัฒนาอย่างต่อเนื่องหลังยุติสงครามสู้รบกัน ผู้คนแห่ออกไปใช้จับจ่ายซื้อของ ยิ่งในช่วงเสาร์- อาทิตย์ มีมูลค่านับ10 ล้านบาท

นายพัฒนา ชื่นยง ผู้จัดการตลาดช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดช่องจอมมีแนวโน้มดีขึ้นตั้งแต่หลังเหตุการณ์สมรภูมิสู่รบยุติลง ปัญหาการค้าขายด้านนี้ มีแนวโน้มของการพัฒนาในแนวทางที่ดีขึ้น นักท่องเที่ยวทั้งฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชาได้แห่ ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า ทุกประเภท สร้างรายได้เป็นจำนวนมาก ยิ่งในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ มีตลาดนัดด้วย มีมูลค่า กว่า 10 ล้านบาท ในด้านปัญหาการพัฒนาตลาดนั้นก็มีอยู่บ้าง คือทางตลาดการค้ายังไม่มั่นคง ทางด้านที่ดิน หรือแม้แต่ร้านคา ยังไม่มีมาตรฐานไม่ว่าฝั่งไทยหรือว่าฝั่งกัมพูชา ทางตลาดพายามปรับปรุงให้มีมาตรฐานเดียวกัน ในอนาคตอันใกล้นี้

นายพัฒนา ชื่นยง ผู้จัดการตลาดช่องจอม กล่าวอีกว่า ขณะนี้ตลาดกำลังขยายร้านค้า นับ1,000 ร้านค้า ซึ่งที่ดินอยู่ในที่ดินราชพัสดุ กรมธนารักษ์ ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้พยายามที่จะพัฒนา ปรับปรุง ได้ประสานกรมธนารักษ์เพื่อขยายเป็นตลาดให้มากขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น

อุทัย  มานาดี / รายงาน

ไฟไหม้วอดอาคารเรียน เบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจร

ไฟไหม้วอดอาคารเรียนเหลือเพียงตอตะโก เบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากสภาพอากาศแห้งแล้งและร้อนจัด เจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบและประเมินค่าเสียหาย

เมื่อวานนี้(17 มี.ค.57 ) เมื่อเวลา 15.45 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สายรุ้ง แย้มงาม พนักงานสอบสวน สบ.3 สภ.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านเกิดไฟลุกไหม้อาคารเรียนในโรงเรียนเกษตรถาวร บ้านเกษตรถาวร ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ขอให้มาตรวจสอบและ ช่วยประสานในการดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ด้วย -หลังรับแจ้งได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานไปยังเทศบาลตำบลกาบเชิงและ อบต.ด่าน รวมทั้ง อบต.ตะเคียน และอบต.ที่อยู่ใกล้เคียง สนับสนุนรถน้ำดับเพลิงเข้าระงับเหตุ โดยเร่งด่วน -ที่เกิดเหตุเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวจำนวน 7 ห้องเรียน ซึ่งแบ่งเป็นห้องเรียนชั้น ป.1-ป.3 มีห้องสมุด 1 ห้อง และแบ่งเป็นห้องสำนักงานเครือข่ายจัดการศึกษาช่องจอม ไฟได้ลุกไหม้ขึ้นอย่างวดเร็ว เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมรถน้ำนับ 10 คัน เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อาสารักษาดินแดน อำเภอกาบเชิง ได้ช่วยพยายามฉีดน้ำเข้าไฟ แต่ไม่สามารถดับได้ เนื่องจากว่า อากาศแห้งแล้งและมีลมกรรโชกแรงเป็นช่วง ทำให้ไฟได้ลุกลามและไหม้อาคารหมดทั้งหลังใช้เวลาเพียง 20 นาที

นาย ชัยโรจน์ นนทิจันทร์ ผอ.โรงเรียนบ้านเกษตรถาวร ระบุว่า อาคารที่เกิดเหตุไฟไหม้ พบว่าอาคารเรียนชั้นเดียว อาคารไม้ สร้างมาตั้งแต่ปี 2513 มีอายุใช้งานถึง 43 ปี มีห้องเรียน 3 ห้อง ชั้ง ป.1- ป.3 ห้องเก็บเอกสารการเรียน ห้องเก็บโต๊ะเก้าอี้ ที่เป็นของเก่า อุปกรณ์การเรียนการสอน คอมพิวเตอร์ เอกสารต่างๆ ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด ค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท      

สำหรับสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตัวอาคาร พร้อมอาคารเรียนมีสภาพเก่า อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและทำให้เกิดไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่กองวิยาการ ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เข้ามาตรวจโดยละเอียดอีกครั้ง พร้อมประเมินค่าเสียที่เกิดขึ้นต่อไป ซึ่งไฟไหม้ในครั้งนี้โชคดีไม่มีผู้ได้รับเจ็บและเสียชีวิต แต่อย่างใด

อุทัย  มานาดี /รายงาน

อนาถ 3 เด็กหญิงลงเล่นน้ำคลายร้อนจมน้ำดับ

เมื่อวานนี้ (17 มี.ค. 57 ) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยสุรินทร์และทีมเวชกิจฉุกเฉินโรงพยาบาลสุรินทร์ พยายามช่วยชีวิต 3 เด็กหญิงซึ่งลงเล่นน้ำคลายร้อนหลังกลับจากโรงเรียน บริเวณสระน้ำกลางทุ่งนาบ้านโคกเพชร ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ก่อนจมน้ำหายไป แต่ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้กระโดดลงไปช่วยกันงมหานานกว่า 5 นาที จึงนำร่าง 3 หนูน้อยขึ้นจากน้ำได้ แต่แม้เจ้าหน้าที่จะทุ่มเทความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ก็ไม่สามารถยื้อมัจจุราชได้ เด็กหญิงทั้ง 3 คนที่เสียชีวิต ทราบชื่อ คือ เด็กหญิง ธาราวดี เสียงวังเวง หรือ น้องน้ำ ,เด็กหญิง ณิชกานต์ แสงทอง หรือ น้องแพรวา และ เด็กหญิง ฉัตรชฏาพร ใจหมายดี หรือ น้องน้ำ ทั้งหมดเรียนอยู่ชั้น ป.3 โรงเรียนสำโรง โคกเพชร ต.ท่าสว่าง ท่ามกลางความเสียใจของพ่อ-แม่และญาติพี่น้อง รวมทั้งชาวบ้านที่เดินทางมายังที่เกิดเหตุอย่างเศร้าสลด

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า หลังจากเลิกเรียนเด็กทั้งสามได้มาลงเล่นน้ำ แต่คุณตาที่เป็นเจ้าของสระได้เรียกให้เด็กทั้งหมดขึ้นจากน้ำ เนื่องจากมีข่าวบ่อยครั้งเรื่องเด็กจมน้ำเสียชีวิต แต่เมื่อคุณตาออกไปรดน้ำผัก เด็กทั้งหมดได้กลับมาเล่นน้ำอีก จนกระทั่งคุณตาได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ จึงรีบวิ่งมาที่สระ จึงพบเด็กทั้งหมดจมน้ำหายไป จึงตะโกนให้คนช่วยและลงไปงมหา แต่ก็ไม่สามารถช่วยเด็กทั้งสามได้ทัน กล่าว ซึ่งจากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่าเด็กน่าจะเป็นตะคริวหรือไม่ก็ลื่นลงไปในจุดที่น้ำลึก ให้ที่เหลือพยายามช่วยกัน ประกอบกับยังเป็นเด็กไร้เดียงสาอาจจะดึงและกอดกันจมน้ำไปด้วยกัน ทำให้เสียชีวิตทั้งหมด

อุทัย  มานาดี / รายงาน

ยโสธรมีผู้สมัคร ส.ว. 3 คน กกต.ยโสธร จัดโครงการเลือกตั้ง สว.สมานฉันท์

จังหวัดยโสธร มีผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ( ส.ว.) จำนวน 3 คน ซึ่งจะมีการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม นี้ เลือกได้ จังหวัดละ 1 คนเท่านั้น

ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง ส.ว. คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยโสธร จัดโครงการเลือกตั้ง ส.ว. เชิงสมานฉันท์ (17 มีนาคม 2557 เวลา 09.00 น.) ที่โรงแรมเดอะกรีนปาร์ค อำเภอเมืองยโสธร โดยมีนายจรรยา สุคนธ์คันธชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธาน โดยมีผู้สมัคร ส.ว. ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย

นายวิฑูรย์ วงษ์ไกร หมายเลขผู้สมัคร 1

นางประยูร เหล่าสายเชื้อ หมายเลขผู้สมัคร 2

นายศราวุธ พาลพล หมายเลขผู้สมัคร 4

เข้าร่วมพิธีลงนามพันธสัญญา ว่าจะเลือกตั้ง ส.ว. ให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่ซื้อสิทธิ์-ขายเสียง จะปราศรัยหาเสียงให้ถูกต้องตามกฎหมายเลือกตั้ง ส.ว.

และจัดให้ผู้สมัคร ส.ว. ทั้ง 3 คน ปราศรัยหาเสียง,แนะนำตัว และผลงานคนละ 10 นาที ให้กับ คณะผู้บริหาร,นักศึกษา จากสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.ยส.) จากทุกอำเภอและ ดี.เจ.ประชาธิปไตย จำนวน 300 คน ได้รับฟังด้วย

ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 กำหนดให้มี ส.ว. จำนวน 150 คน โดยมาจากการเลือกตั้ง จังหวัดละ 1 คน จำนวน 77 คน และมาจากการสรรหา จำนวน 73 คน

โดยกำหนดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง และนอกเขตเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม นี้ เวลา 08.00 – 15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้ง ที่จังหวัดนั้น ๆ ประกาศ

และวันเลือกตั้ง ส.ว.ทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2557 เวลา 08.00 – 15.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่ท่านมีชื่ออยู่

ส.ปชส.ยโสธร/ไพชยนต์ ชนะกาญจน์

17 มี.ค.57

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 13 อุบลราชธานี ประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากสถานการณ์อุทกภัย ระดับกลุ่มจังหวัด ประจำปี 2557

(17 มี.ค. 57) ที่ประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 13 อุบลราชธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมฝึกซ้อมแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากสถานการณ์อุทกภัย ระดับกลุ่ม จังหวัด ปรกอบด้วย จังหวัดยโสธร ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 โดยมี หัวหน้าส่วนราชการ อปท. ศูนย์ อปพร. และมูลนิธิ เข้าร่วมประชุมเพื่อสร้างความเข้าใจในการฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 ตามนโยบายกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยในที่ประชุมได้กำหนดรูปแบบการซ้อมแผน ในวันที่ 24 มีนาคม 2557 ซึ่งจะมีการฝึกซ้อมแบบบนโต๊ะ ที่ห้องประชุมศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 13 อุบลราชธานี ระหว่างเวลา 09.00 – 16.00 น. ส่วนการ ฝึกซ้อมเฉพาะเจ้าหน้าที่และการฝึกซ้อมเต็มรูปแบบ ได้กำหนดพื้น วันที่ 26 มีนาคม 2557 ระหว่างเวลา 09.00 – 16.00 น.ณ องค์การบริหารส่วนตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมาเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุสถานการณ์ทกภัยที่รุนแรง

บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 จัดการอบรมเป็นวิทยากร ครู เพื่อป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ ในสถานศึกษา

เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2557 เวลา 11.30 น.   ที่ห้องประชุมจิตตสปา 2 โรงแรมบ้านสวนอุบลคุณตา กอล์ฟ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดการอบรมวิทยากรเพื่อป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ โดยบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานีได้บูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 ในการคัดเลือกครูที่รับผิดชอบงานระบบดูแลนักเรียนในโรงเรียน ในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 อุบลราชธานี สหวิทยาเขต จำนวน 50 คน เพื่อเข้ารับการอบรมเป็นวิทยากร ครู ก ในการให้ความรู้ สร้างความตระหนักให้กับเด็กและเยาวชนในสถานศึกษา ให้รู้ถึงภัยอันตรายของการล่อลวงด้วยกลวิธีต่างๆ ตลอดจนเป็นการสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังในการป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ สำหรับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในปัจจุบันยังคงทวีความรุนแรง ซับซ้อน และเชื่อมโยงกับการย้ายถิ่นเพื่อไปทำงานในเมืองหรือต่างประเทศ ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กเยาวชน ซึ่งเพิ่งจบการศึกษา หรือผู้ที่จบแล้วแต่ว่างงาน ไม่มีโอกาสศึกษาต่อ จัดเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการย้ายถิ่นสูง มีโอกาสตกอยู่ในสถานการณ์ถูกชักจูงจากนายหน้าค้ามนุษย์ในชุมชน เพื่อแสวงหาประโยชน์ การค้ามนุษย์เป็นอาชญากรข้ามชาติ ได้ขยายการล่อลวงเด็กและหญิงจากประเทศใกล้เคียง เช่น ลาว กัมพูชา จีน เวียดนาม และพม่า เพื่อค้าปเวณี ขอทาน แรงงาน ในประเทศไทยหรือส่งต่อไปยังประเทศอื่น ทำให้ประเทศไทยมีสถานะเป็นทั้งประเทศต้นทาง ทางผ่านและปลายทาง ในวงจรของการค้ามนุษย์