เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไม้พะยูงและรถตู้ของกลางทั้งหมด โดยกล่าวหา มีความผิดตาม พรบ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 มีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน สภ. นิคมคำสร้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556
ตชด. 234 มุกดาหาร ตรวจยึดรถตู้ลักลอบขนไม้พะยูงมูลค่า3ล้านบาท
เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไม้พะยูงและรถตู้ของกลางทั้งหมด โดยกล่าวหา มีความผิดตาม พรบ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 มีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน สภ. นิคมคำสร้อย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด่านศุลกากรมุกดาหารสนธิกำลังจับสาวยัดยาบ้าในเสื้อชั้นใน
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2556 นายวรพัฒน์ เชาว์วิศิษฐ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ร่วมกับ พ.อ. ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รองผู้อำนวยการรักษาความสงบภายในจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร นาวาตรี กรภัทร ศรีพิพัฒน์ หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร ชุดสุนัขทหาร กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี เจ้าหน้าที่ นรข.มุกดาหาร เข้าตรวจค้นเพื่อป้องกันการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาในประเทศ ที่ด่านพรแดนสะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 2 ร่วมกันจับกุม นางสาว ไกรลาศ โคตรศรี อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 150 หมู่ 13 ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด่านพรมแดนมุกดาหาร สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 จนกระทั่ง พบ นางสาว ไกรลาศ โคตรศรี ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ทางรถยนต์โดยสารของระหว่างประเทศ หลังจากผู้ต้องหาผ่านการประทับตราหนังสือเดินทางจากตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร (ตม.)แล้ว เดินทางมายังจุดตรวจของเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทำหน้าที่ในการร่วมกันตรวจค้นตัว และสัมภาระของผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร พบว่านางสาว ไกรลาศ โคตรศรี ผู้ต้องหามีท่าทางพิรุธ จึงได้เชิญผู้ต้องหาไปเอ็กซเรย์หาสิ่งเสพติด ในร่างกายผลปรากฏว่าพบวัตถุเป็นเม็ดจำนวน 4ห่อซุกซ่อนอยู่ในบริเวณเสื้อชั้นในทั้ง 2 ข้าง ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าเป็นยาบ้า เมื่อเจ้าหน้าที่นำยาบ้าออกมาตรวจนับแล้ว พบยาบ้าจำนวน 796 เม็ด
จากการสอบสวนนางสาว ไกรลาศ โคตรศรี ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้เดินทางไปซื้อยาบ้าที่ประเทศเพื่อนบ้าน และมีชายไม่ทราบชื่อ ขับรถยนต์มารับ ที่บริเวณวงเวียนไดโนเสาฝั่งประเทศลาว เพื่อไปรับยาบ้าจำนวน 4 ห่อ จำนวน 796 เม็ด โดยตนเองได้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทให้เป็นค่ายาบ้า และหลังจากรับยาบ้าแล้วชายดังกล่าวได้ขับรถยนต์มาส่งที่เดิม จากนั้นตนได้ยัดยาบ้าเข้าที่เสื้อชั้นในทั้งสองข้างและได้นั่งรถสามล้อเครื่องมาขึ้นรถโดยสารที่ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ 2 ฝั่งลาว และกลับมายังฝั่งประเทศไทย ส่วนยาบ้าตนเองจะนำไปจำหน่ายให้กับกลุ่มลักลอบตัดไม้ในเขตตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร จึงมาถูกจับได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า ส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
จากการสอบสวนนางสาว ไกรลาศ โคตรศรี ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้เดินทางไปซื้อยาบ้าที่ประเทศเพื่อนบ้าน และมีชายไม่ทราบชื่อ ขับรถยนต์มารับ ที่บริเวณวงเวียนไดโนเสาฝั่งประเทศลาว เพื่อไปรับยาบ้าจำนวน 4 ห่อ จำนวน 796 เม็ด โดยตนเองได้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทให้เป็นค่ายาบ้า และหลังจากรับยาบ้าแล้วชายดังกล่าวได้ขับรถยนต์มาส่งที่เดิม จากนั้นตนได้ยัดยาบ้าเข้าที่เสื้อชั้นในทั้งสองข้างและได้นั่งรถสามล้อเครื่องมาขึ้นรถโดยสารที่ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ 2 ฝั่งลาว และกลับมายังฝั่งประเทศไทย ส่วนยาบ้าตนเองจะนำไปจำหน่ายให้กับกลุ่มลักลอบตัดไม้ในเขตตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร จึงมาถูกจับได้ดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองไว้เพื่อจำหน่าย เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางยาบ้า ส่งพนักงานสอบสวน สภ. เมืองมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ร้อยเอ็ดจัดงาน "มหกรรมอาหารและสินค้าชุมชน ชิม ชม ช็อป” กระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 19.30 น.นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมอาหารและสินค้าชุมชน ชิม ชม ช็อป” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ณ ถนนรัชชูปการ หน้าโรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด อ.เมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 15 - 21 ตุลาคม 2556
นายนิพนธ์ แก้วกาหลง ประธานเครือข่าย OTOP จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดร้อยเอ็ด จากการที่รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนผู้ผลิต และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ให้ใช้ภูมิปัญญาและทรัพยากรในชุมชนได้ผลิตและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ และมีมาตรฐาน ตลอดจนกาสนับสนุนการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น อันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดร้อยเอ็ด อีกด้านหนึ่ง และเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ยังได้ใช้เวทีนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์เรื่องการผลิตและการตลาด เพื่อนำไปปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และช่องทางการตลาดต่อไป สำหรับกิจกรรรมในงาน ประกอบด้วย การจัดจำหน่ายอาหารอร่อย OTOP จากทุกภาค การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง อันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์สอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตในแต่ละจังหวัด ทั่วประเทศ โดยมีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นเข้าร่วมจำหน่าย จำนวน 140 ราย ขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียง เลือกซื้อสินค้าในงานมหกรรมอาหารและสินค้าชุมชน ชิม ชม ช็อป ”เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ระหว่างวันที่ 15 - 21 ตุลาคม 2556 บริเวณถนนรัชชูปการ หน้าโรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด
นายนิพนธ์ แก้วกาหลง ประธานเครือข่าย OTOP จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดร้อยเอ็ด จากการที่รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนผู้ผลิต และผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ให้ใช้ภูมิปัญญาและทรัพยากรในชุมชนได้ผลิตและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ และมีมาตรฐาน ตลอดจนกาสนับสนุนการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้มากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้แก่กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น อันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดร้อยเอ็ด อีกด้านหนึ่ง และเป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ยังได้ใช้เวทีนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์เรื่องการผลิตและการตลาด เพื่อนำไปปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์และช่องทางการตลาดต่อไป สำหรับกิจกรรรมในงาน ประกอบด้วย การจัดจำหน่ายอาหารอร่อย OTOP จากทุกภาค การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง อันเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์สอดคล้องกับวัฒนธรรมประเพณี และวิถีชีวิตในแต่ละจังหวัด ทั่วประเทศ โดยมีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่นเข้าร่วมจำหน่าย จำนวน 140 ราย ขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียง เลือกซื้อสินค้าในงานมหกรรมอาหารและสินค้าชุมชน ชิม ชม ช็อป ”เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ระหว่างวันที่ 15 - 21 ตุลาคม 2556 บริเวณถนนรัชชูปการ หน้าโรงเรียนเมืองร้อยเอ็ด
ประเสริฐ อินทา/ข่าว
คณะกรรมการสรรหา กกต.ร้อยเอ็ด คัดสรร กกต.ท้องถิ่นเตรียมการเลือกตั้ง
วันนี้ (17 ต.ค.56) เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดร้อยเอ็ด นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธาน โดยมีนายประพนธ์ สุมารินทร์ หัวหน้างานสืบสวนสอบสวนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะกรรมการสรรหา คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด ประกอบด้วย อัยการจังหวัด ปลัดจังหวัด ผู้บังคับการจังหวัดทหารบก ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานกลุ่มประชาชนพัฒนาประชาธิปไตยร้อยเอ็ด ประธานหอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด และนายกสมาคมสื่อมวลชนร้อยเอ็ด จัดประชุมพิจารณาคัดเลือกบุคคลเพื่อเสนอแต่งตั้ง เป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลโพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร และองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์สัย อำเภอศรีสมเด็จ ซึ่งครบวาระในเดือนพฤศจิกายน 2556 รวม 2 แห่ง ซึ่งรับสมัครระหว่างวันที่ 7-11 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา จึงประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ เพื่อพิจารณาคัดเลือกจากผู้สมัครแต่ละแห่งให้เหลือ 8 คน โดยเทศบาลตำบลโพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร มีผู้สมัคร 9 คน ต้องคัดเลือกให้เหลือ 8 คน โดยวิธีลับ แต่จากการตรวจสอบในที่ประชุมพบว่า ผู้สมัครลำดับที่ 7 นางนิภาพร ศรีษะเกษ ขาดคุณสมบัติที่อยู่ตามทะเบียนบ้านไม่ได้อยู่ในเขตอำเภอพนมไพร จึงตัดชื่อออก ผู้สมัครครบ 8 คนพอดี จึงไม่มีการลงมติคัดเลือก ประกอบด้วย น.ส.สุจินตนา โชติแสง นายอนุสรณ์ ทาสะคู ว่าที่ ร้อยตรี มานะ สมบูรณ์ ด.ต.สมหมาย จำปาทอง ว่าที่ ร้อยตรี เดชา สิงหทองกุล นายศักดา วิเศษวงษา นายบุญธง ยับยั้ง และ นายสุจิตร์ โสดา สำหรับผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์สัย อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด มีผู้สมัคร จำนวน 9 คน ต้องคัดเลือกให้เหลือเพียง 8 คน โดยวิธีลับ ผลปรากฏว่า ผู้สมัครหมายเลข 3 นายทองสุข จังหวะ ได้คะแนนต่ำสุดไม่ผ่านการคัดสรร สำหรับผู้ที่ผ่านการคัดสรร จำนวน 8 คน ได้แก่ นางมณฑกานต์ ศิริมา นายศุภชาติ บุตรมารศรี นางสุธิดา สุริหาร จ.ส.อ.ปรีดา แพงมา นางกฤติยา พละสุ นายนภัสกร อันทรง นายปรมินทร์ จันทะวงษ์, และ นางละอองเพชร พุฒิพัฒน์พาณิชย์ จากนั้น นำรายชื่อผู้ผ่านการคัดสรรทั้งสองตำบลๆละ 8 คน เสนอ กกต.ร้อยเอ็ดเพื่อคัดเลือกให้เหลือเพียง 4 คน เพื่อเป็นผู้ดำเนินการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโพธิ์ชัย อำเภอพนมไพร และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์สัย อำเภอศรีสมเด็จ ประมาณต้นเดือนธันวาคม 2556 ต่อไป
ประเสริฐ อินทา/ข่าว
สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ แนะนำประชาชนให้ ใช้หลัก “3 ห้าม 2 ให้” เพื่อป้องกันการจมน้ำ ในช่วงน้ำท่วม
นายแพทย์สอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 17 อำเภอ 146 ตำบล 1,603 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 781,003 คน 252,780 ครัวเรือน เสียชีวิต 17 ราย จากสาเหตุ หาปลาและเด็ก ๆ มักชวนกันไปเล่นน้ำขณะที่มีน้ำไหลหลาก จึงขอแนะนำประชาชนให้ ใช้หลัก "3 ห้าม 2 ให้” เพื่อป้องกันการจมน้ำ ได้แก่ 3 ห้าม คือ ห้ามหาปลา/ เก็บผัก ห้ามดื่มสุรา ห้ามเล่นน้ำ และ 2 ให้ คือ ให้สวมเสื้อชูชีพ หรือนำอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ติดตัวไปด้วย เช่น ถังแกลลอน/ขวดน้ำพลาสติกเปล่าปิดฝา ให้เดินทางเป็นกลุ่ม หากพื้นที่ใดยังมีน้ำท่วมอยู่ไม่ควรลงไปเล่นน้ำ ควรสำรวจและเฝ้าระวังรอบๆ บ้านและรอบชุมชนที่เสี่ยงต่อการพลัดตกน้ำและจมน้ำ ส่วนผู้ประกอบอาชีพทางน้ำ เช่น หาปลา งมหอย ควรเตรียมความพร้อมของร่างกาย ให้เหมาะสม ไม่ควรออกไปตามลำพัง ผู้มีโรคประจำตัวไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เช่นผู้ป่วยโรคลมชัก เครียด ความดันโลหิตต่ำ ไม่ควรอยู่ตามลำพัง ในกรณีช่วยเหลือเด็กที่จมน้ำ ห้ามจับเด็กที่จมน้ำอุ้มพาดบ่าหรือวางบนกระทะคว่ำเพื่อเอาน้ำออก เพราะเป็นวิธีที่ผิด และจะทำให้เด็กขาดอากาศหายใจนานยิ่งขึ้น ควรรีบช่วยด้วยการเป่าปากและนวดหัวใจ พร้อมทั้งรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญชวนทุกภาคส่วนร่วมพิธีวันปิยมหาราช 23 ต.ค.นี้ หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์
นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า วันปิยมหาราช ตรงกับวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงเป็นที่รักใคร่อย่างล้นเหลือของพสกนิกรทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พระองค์จึงได้รับการถวายพระราชสมัญญานามว่า "สมเด็จพระปิยมหาราช" ซึ่งมีความหมายว่า "พระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน" ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ รัฐบาลจึงได้ประกาศให้วันที่ 23 ตุลาคม เป็น "วันปิยมหาราช" และพสกนิกรทั่วประเทศพร้อมใจกันจัดงานในวันดังกล่าว สำหรับ จังหวัดสุรินทร์ กําหนดจัดงานพิธีวันปิยมหาราชจังหวัดสุรินทร์ประจําปีพ.ศ. 2556 ในวันพุธที่ 23 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โดยช่วงเช้า วางพวงมาลาถวายราชสักการะ กล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพร้อมเพรียงกันทุกหมู่เหล่า
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เตือนประชาชนระวังเรื่องพายุนารี ติดตามพยากรณ์อากาศ ประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจรติ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประชาสัมพันธ์ผ่านรายการผู้ว่าพบประชาชน ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ที่อ่อนกำลังลงจากพายุ "นารี” ยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และมหาสารคาม ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และชลบุรี หย่อมความกดอากาศต่ำนี้ยังคงเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกและจะเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ส่งผลให้มีฝนเพิ่มขึ้นในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกจะเริ่มมีฝนลดลงและจะกลับเข้าสูปกติในวันที่ 18 ตุลาคม 2556 จึง แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขาใน 17 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและลมแรง จากพายุนารี ช่วงนี้
จังหวัดสุรินทร์ เตือนระวังจุดพลุประทัดลอยกระทง
เทศกาลลอยกระทงที่จะมีขึ้นในเดือนหน้านี้ (17 พ.ย. 56) ถือเป็นเทศกาลที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ และใช้โอกาสนี้ขอขมาต่อพระแม่คงคา อีกทั้งยังมีการจัดกิจกรรมรื่นเริงในหลายพื้นที่ ซึ่งขอความร่วมมือจากประชาชนอย่าจุดประทัด พลุ หรือดอกไม้ไฟด้วยความคึกคะนอง เนื่องจากที่ผ่านมามักเกิดอุบัติเหตุ ทำให้มีผู้ได้รับอันตรายจากการดัดแปลงวิธีการเล่นจนทำให้ได้รับบาดเจ็บพิการหรือเสียชีวิต นอกจากนี้หากมีการจุดประทัด พลุหรือดอกไม้ไฟในพื้นที่ชุมชน ประกายไฟอาจพุ่งไปตกบนหลังคาบ้านหรืออาคารก็อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.สาธารณสุข พ.ศ. 2535 ทั้งนี้ จึงเตือนประชาชนในช่วงเทศกาลลอยกระทงมักมีการนำลูกโป่งสวรรค์มาตกแต่งสถานที่หรือให้เด็กถือเล่นในบริเวณงาน ผู้บริโภคจึงควรมีความระมัดระวังโดย ทั้งนี้ขอเสนอแนะให้ใช้ลูกโป่งสวรรค์ที่บรรจุด้วยก๊าซฮีเลียม ซึ่งเป็นก๊าซเฉื่อยไม่ติดไฟ เพื่อความปลอดภัยในเบื้องต้น
จังหวัดสุรินทร์ แจ้งผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ขยายเวลายื่นคำร้องรับเงินช่วยเหลือเยียวยาไปจนถึง 31 ตุลาคมนี้
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ประธานคณะทำงานช่วยเหลือเยียวยาด้านการเงินตามหลักมนุษยธรรม สำหรับผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ พ.ศ.2548 – 2553 ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ทรัพย์สินเสียหายจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองที่ได้แจ้งลงทะเบียนไว้แล้ว จำนวน 15,220 ราย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2555 และได้ประกาศรายชื่อ ผ่านทางเว็บไซด์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย www.disaster.go.th และเว็บไซด์สำนักนายกรัฐมนตรี www.opm.go.th ทั้งนี้ เนื่องจากได้เกิดปัญหาอุทกภัยขึ้นหลายพื้นที่ เป็นเหตุให้ประชาชนไม่สามารถไปยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาได้ทันภายในระยะเวลาที่กำหนด จึงได้ขยายระยะเวลาการยื่นคำร้องเพื่อลงทะเบียนจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง จากเดิมออกไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2556 สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์
โทร. 0-4414-3059
โทร. 0-4414-3059
จังหวัดสุรินทร์ออกบริการตามโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้มแก่ประชาชนที่อยู่ห่างไกล
นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำส่วนราชการทั้งระดับจังหวัด และอำเภอ ออกให้บริการแก่ประชาชนตามโครงการ สุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม ให้กับประชาชนในพื้นที่ของตำบลบ้านจารย์ อ. สังขะ จ.สุรินทร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่อยู่ห่างไกลไม่ต้องเดินทางเข้าไปรับบริการในตัวอำเภอ หรือจังหวัดเป็นการลดค่าใช้จ่าย และไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทาง โดยได้มอบบ้านธารน้ำใจของโครงการฯ ให้กับนางพุด สามัญญา อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 65/1 หมู่ 2 ตำบลบ้านจารย์ อ. สังขะ จ. สุรินทร์ ซึ่งเป็นผู้ยากไร้ไม่มีที่ทำกิน ไม่มีที่อยู่อาศัยที่แข็งแรง ไม่มีครอบครัว อาศัยอยู่คนเดียว พิการตาข้างซ้ายมองไม่เห็น มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ทำให้รายได้ไม่เพียงพอ ปัจจุบันอาศัยเบี้ยเลี้ยงชีพคนพิการเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นผู้ที่ได้รับการประชาคมจากชาวบ้านให้ได้รับบ้านธารน้ำใจในครั้งนี้
พร้อมกันนี้ คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้เดินทางเพื่อประกอบพิธียกเสาเอกในการสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ โครงการของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ จากนั้นคณะของผู้ว่าราชการจึงหวัดสุรินทร์ เดินทางที่จุดให้บริการประชาชนตามโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม ณ บริเวณโรงเรียนบ้านจารย์ ม. 1 ต. บ้านจารย์ อ. สังขะ จ. สุรินทร์ และพบปะกับประชาชน และมอบทุนการศึกษา มอบรถจักรยานให้แก่นักเรียนทีเรียนดีแต่ยังขาดแคลนจำนวน 12 คัน มอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ยากไร้และคนชรา มอบโฉลดที่ดินแก่เกษตรกร และมอบปัจจัยการผลิตทางการเกษตร พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมส่วนราชการค่างๆที่ออกให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งในการออกหน่วยให้บริการแก่ประชาชนตามโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้มของจังหวัดสุรินทร์ในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวบ้านจารย์ และตำบลใกล้เคียงมารับบริการกันเป็นจำนวนมาก
พร้อมกันนี้ คณะของผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้เดินทางเพื่อประกอบพิธียกเสาเอกในการสร้างบ้านให้แก่ผู้ยากไร้ โครงการของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ จากนั้นคณะของผู้ว่าราชการจึงหวัดสุรินทร์ เดินทางที่จุดให้บริการประชาชนตามโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม ณ บริเวณโรงเรียนบ้านจารย์ ม. 1 ต. บ้านจารย์ อ. สังขะ จ. สุรินทร์ และพบปะกับประชาชน และมอบทุนการศึกษา มอบรถจักรยานให้แก่นักเรียนทีเรียนดีแต่ยังขาดแคลนจำนวน 12 คัน มอบเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ยากไร้และคนชรา มอบโฉลดที่ดินแก่เกษตรกร และมอบปัจจัยการผลิตทางการเกษตร พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมส่วนราชการค่างๆที่ออกให้บริการแก่ประชาชน ซึ่งในการออกหน่วยให้บริการแก่ประชาชนตามโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้มของจังหวัดสุรินทร์ในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวบ้านจารย์ และตำบลใกล้เคียงมารับบริการกันเป็นจำนวนมาก
อิทธิพล จากพายุไต้ฝุ่น นารี ส่งผลให้เกิดฝนตกทั่วทั้งจังหวัดสุรินทร์ตลอดคืน
จากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเกิดพายุไต้ฝุ่น "นารี” (NARI) เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม และอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พายุดีเปรสชั่นและหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางทั่วไป โดยที่จังหวัดสุรินทร์ มีฝนตกตลอดคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ (16 ต.ค.56) มีฝนตกโปรยโปรายอย่างต่อเนื่อง
ด้านนายเจษฎา บุญสุยา ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุรินทร์ ได้แจ้งเตือนประชาชน ที่อยู่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงให้ระวังน้ำท่วมอีกรอบ เนื่องจากทางชลประทาน ได้เปิดประตูระบายน้ำที่ระดับ 60 ซม. เพื่อไม่ให้น้ำล้นสปริลเวย์ และให้น้ำไหลลงสู่ลำห้วยเสนง ป้องกันน้ำเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวและหมู่บ้านบริเวณท้ายอ่าง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ประสบอุทกภัยที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือที่ อ.ชุมพลบุรี อ.ท่าตูม และอ.รัตนบุรี เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลมาจากนครราชสีมา ผ่านบุรีรัมย์ เข้าสู่จังหวัดสุรินทร์ ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 3-5 เซนติเมตร และเอ่อล้นตลิ่งไหลท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรบริเวณสองฝั่งแม่น้ำมูล รวมพื้นที่เสียหายแล้ว 3 อำเภอ 20 ตำบล 126 หมู่บ้าน
ด้านนายเจษฎา บุญสุยา ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุรินทร์ ได้แจ้งเตือนประชาชน ที่อยู่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงให้ระวังน้ำท่วมอีกรอบ เนื่องจากทางชลประทาน ได้เปิดประตูระบายน้ำที่ระดับ 60 ซม. เพื่อไม่ให้น้ำล้นสปริลเวย์ และให้น้ำไหลลงสู่ลำห้วยเสนง ป้องกันน้ำเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวและหมู่บ้านบริเวณท้ายอ่าง อย่างไรก็ตาม พื้นที่ประสบอุทกภัยที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือที่ อ.ชุมพลบุรี อ.ท่าตูม และอ.รัตนบุรี เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลที่ไหลมาจากนครราชสีมา ผ่านบุรีรัมย์ เข้าสู่จังหวัดสุรินทร์ ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 3-5 เซนติเมตร และเอ่อล้นตลิ่งไหลท่วมพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนราษฎรบริเวณสองฝั่งแม่น้ำมูล รวมพื้นที่เสียหายแล้ว 3 อำเภอ 20 ตำบล 126 หมู่บ้าน
กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว
ผู้แทนสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ
ผู้แทนสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ นายพินิจ วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ รายงานว่า วันนี้ ( 17 ต.ค.56 ) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมเล่าขาน ชั้น 2 ศาลาจังหวัดศรีสะเกษ หลังเก่า นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ รับมอบเงินช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม จำนวน 30,000 บาท จากผู้แทนสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษต่อไป
ชาวอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ชวนนักท่องเที่ยว ขนคิงลุก กับ งานท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โฮมบุญข้าวใหม่ปลามัน ลุ่มแม่น้ำมูล-ลุ่มแม่น้ำชี เทิดไท้องค์ราชัน
ชาวอำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ชวนนักท่องเที่ยว ขนคิงลุก กับ งานท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โฮมบุญข้าวใหม่ปลามัน ลุ่มแม่น้ำมูล-ลุ่มแม่น้ำชี เทิดไท้องค์ราชัน เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ต.ค.56 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหนองแก้ว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ นายณรงศักดิ์ พลศักดิ์ นายอำเภอกันทรารมย์ เป็นประธานในการประชุมร่วมกับคณะกรรมการงานท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เพื่อเตรียมความพร้อม ในการจัดงาน โฮมบุญข้าวใหม่-ปลามัน วัฒนธรรมลุ่มน้ำมูล-ลุ่มน้ำชี เทิดไท้องค์ราชันย์ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม 2556 ที่วัดจำปาบ้านหัวหนา ตำบลหนองแก้ว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเป็นการประสานแนวคิด และความร่วมมือกันระหว่าง พุทธสมาคมจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ และ องค์กรเครือข่าย ได้ร่วมกันจัดงานนี้ ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวอำเภอกันทรารมย์ ให้ประชาชน คนรุ่นหลัง ได้รู้จัก และร่วมกันสืบทอดต่อไป นายณรงศักดิ์ พลศักดิ์ นายอำเภอกันทรารมย์ กล่าวว่า งาน โฮมบุญข้าวใหม่-ปลามัน วัฒนธรรมลุ่มน้ำมูล-ลุ่มน้ำชี เทิดไท้องค์ราชันย์ จะมีกิจกรรมการออกซุ้มนิทรรศการประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานต่างๆ การแสดงละเล่นต่างๆ เช่น เล่านิทานก้อม หมอลำกลอน การแต่งกายของทูตวัฒนธรรมซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น จาก อปท. ทั้ง 15 แห่ง และการแข่งจันฝีพายเรือหาปลา 3 ฝีพาย จากกลุ่มเครือข่าย อปท. 2 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดศรีสะเกษ และ จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งตนมั่นใจว่า คนที่มาเที่ยวงาน จะต้องรู้สึกประทับใจ หรือภาษาทางอีสาน เรียกว่า ปลื้มใจจนขนคิงลุก กับงานในครั้งนี้ อย่างแน่นอน ทั้งนี้ สำหรับงาน โฮมบุญข้าวใหม่-ปลามัน วัฒนธรรมลุ่มน้ำมูล-ลุ่มน้ำชี เทิดไท้องค์ราชันย์ จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 25 ตุลาคม 2556 เวลา 09.00 น. ที่วัดจำปาบ้านหัวหนา ตำบลหนองแก้ว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ
19 ตุลาคมนี้ กกต.อำนาจเจริญ พร้อมแล้วกับการเลือกตั้ง อปท. 36 แห่ง ในจังหวัดอำนาจเจริญ
คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ จังหวัดอำนาจเจริญ มีความพร้อมในการจัดการการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 36 แห่งแล้ว แยกเป็น องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 36 แห่ง ซึ่งครบวาระพร้อมกันทั้งหมดในวันที่ 5 ก.ย. 2556 และวันสุดท้ายที่ต้องเลือกตั้ง คือ วันที่ 19 ตุลาคม 2556
นายปริญญา นากลาง ผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ในวันที่ 19 ตุลาคม 2556 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 36 แห่ง ในจังหวัดอำนาจเจริญ จะมีการเลือกตั้งทั้งผู้บริหารและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้ง 36 แห่ง อยากเชิญชวนผู้มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ไปใช้สิทธิ์กันมากๆ เพราะถือว่าเป็นเรื่องการเมืองที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน โดยการเชิญชวนคนข้างเคียงไปใช้สิทธิ์ และช่วยเป็นหู เป็นตา ในการหาเสียงของผู้สมัครว่าฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งหรือไม่ ล่าสุดขณะนี้เหตุการณ์ยังปกติอยู่ ผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมาทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ส่งอาสาสมัครการเลือกตั้งทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สอดส่อง การหาเสียงของผู้สมัครตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมแล้ว และมีการอบรมให้ความรู้ เรื่องการเลือกตั้งแก่บุคลากรเลือกตั้งท้องถิ่น และได้จัดโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์ขึ้น ด้วยการอบรมผู้สมัครและทีมงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ กกต.ท้องถิ่น ให้มีความรู้ ความเข้าใจการเลือกตั้งและกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่รุนแรง เพราะเป็นจังหวัดเล็ก ผู้สมัครต่างก็รู้จักกันดี
นายปริญญา นากลาง ผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า ในวันที่ 19 ตุลาคม 2556 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง 36 แห่ง ในจังหวัดอำนาจเจริญ จะมีการเลือกตั้งทั้งผู้บริหารและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้ง 36 แห่ง อยากเชิญชวนผู้มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ไปใช้สิทธิ์กันมากๆ เพราะถือว่าเป็นเรื่องการเมืองที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน โดยการเชิญชวนคนข้างเคียงไปใช้สิทธิ์ และช่วยเป็นหู เป็นตา ในการหาเสียงของผู้สมัครว่าฝ่าฝืนกฎหมายการเลือกตั้งหรือไม่ ล่าสุดขณะนี้เหตุการณ์ยังปกติอยู่ ผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมาทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ส่งอาสาสมัครการเลือกตั้งทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สอดส่อง การหาเสียงของผู้สมัครตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมแล้ว และมีการอบรมให้ความรู้ เรื่องการเลือกตั้งแก่บุคลากรเลือกตั้งท้องถิ่น และได้จัดโครงการเลือกตั้งสมานฉันท์ขึ้น ด้วยการอบรมผู้สมัครและทีมงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ กกต.ท้องถิ่น ให้มีความรู้ ความเข้าใจการเลือกตั้งและกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่รุนแรง เพราะเป็นจังหวัดเล็ก ผู้สมัครต่างก็รู้จักกันดี
สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว/ตรวจ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๖
อำเภอตระการพืชผล แถลงข่าวการแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2556
ที่โรงแรมทอแสง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นางนภา สกุลตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานแถลงข่าว งานประเพณีการแข่งขันเรือยาวตระการพืชผล ชิงถ้วยนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2556 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในโอกาสการก่อตั้งอำเภอตระการพืชผล ครบ 150 ปี และส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างความรัก ความสามัคคีของคนในชุมชน
ภายในงานมีการแข่งขันเรือยาว 9 ฝีพาย ชิงถ้วยรางวัลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งประเภทเรือในชุมชน เรือทั่วไป การแข่งขันชกมวยน้ำ การประกวดกองเชียร์ การแสดงดนตรี การแสดงหมอลำ พบกับดารานักแสดงจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี
จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดอุบลราชธานีและผู้สนใจ เข้าร่วมงานประเพณีการแข่งขันเรือยาวตระการพืชผล ชิงถ้วยนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 18 – 19 ตุลาคม 2556 ณ สวนสาธารณะหนองขุหลุ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี เริ่มเวลา 08.00 น.
ภายในงานมีการแข่งขันเรือยาว 9 ฝีพาย ชิงถ้วยรางวัลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งประเภทเรือในชุมชน เรือทั่วไป การแข่งขันชกมวยน้ำ การประกวดกองเชียร์ การแสดงดนตรี การแสดงหมอลำ พบกับดารานักแสดงจากสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สี
จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดอุบลราชธานีและผู้สนใจ เข้าร่วมงานประเพณีการแข่งขันเรือยาวตระการพืชผล ชิงถ้วยนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 18 – 19 ตุลาคม 2556 ณ สวนสาธารณะหนองขุหลุ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี เริ่มเวลา 08.00 น.
กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ
สปข.2 รายงาน / 17 ต.ค.56
ขนส่งอุบลราชธานี ประกาศขอกำหนดเส้นทางเดินรถโดยสารประจำทางหมวด 4
นายธีระพล อรุณะกสิกร ขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี แจ้งว่าด้วยห้างหุ้นส่วนจำกัด อุบลสัญลักษณ์ทัวร์ ได้ยื่นเรื่องขอกำหนดเส้นทางการเดินรถโดยสารประจำทางหมวด 4 จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างสถานีขนส่งผู้โยสารจังหวัดอุบลราชธานี ถึงบ้านปากแซง อ.นาตาล เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชน โดยเส้นทางเดินรถเริ่มจากสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดอุบลราชธานี ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2050 ผ่านอำเภอตระการพืชผล อำเภอโพธิ์ไทร อำเภอนาตาล ไปสิ้นสุดเส้นทาง ณ สถานที่จอดรถโดยสารประจำทางบ้านปากแซง ระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร
สำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้ประกาศมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกันและตรวจสอบข้อมูลการขอกำหนดเส้นทางการเดินรถดังกล่าว หากมีข้อโต้แย้งหรือคัดค้านหรือแก้ไขประการใด ขอให้มีหนังสือแจ้งขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2556 หากพ้นกำหนดสำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี จะไม่รับไว้เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลในการนำเสนอคณะกรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อพิจารณาต่อไป
สำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้ประกาศมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกันและตรวจสอบข้อมูลการขอกำหนดเส้นทางการเดินรถดังกล่าว หากมีข้อโต้แย้งหรือคัดค้านหรือแก้ไขประการใด ขอให้มีหนังสือแจ้งขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2556 หากพ้นกำหนดสำนักงานขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี จะไม่รับไว้เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลในการนำเสนอคณะกรมการควบคุมการขนส่งทางบกประจำจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อพิจารณาต่อไป
พงษ์สถิตย์ อรอินทร์
ส.ปชส.อุบลราชธานี
081- 924 8609 /ข่าว/ 17 ต.ค.56
กรม ปภ. เชิญส่งคลิปวิดีโอ การขี่รถจักรยานยนต์ ที่ปลอดภัยเข้าประกวด
นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รับการประสานงานจากสมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทยว่า ได้จัดให้มีการประกวดการจัดทำคลิปวิดีโอ ความปลอดภัยทางถนน พ.ศ.2556 เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์รณรงค์ส่งเสริมการใช้รถใช้ถนนที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย โดยเชิญชวนนักเรียน นักศึกษาแบะประชาชนทั่วไป ส่งคลิปวิดีโอ ความยาวไม่เกิน 90 วินาที ไม่จำกัดแนวคิดและรูปแบบการนำเสนอ ในแต่ละคลิปจะต้องมีภาพรถจักรยานยนต์ที่มีผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายที่สวมใส่หมวกนิรภัยอย่างถูกต้อง อีกทั้งให้มีเนื้อหาส่งเสริมการขับขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภัย เช่น เมาไม่ขับ ขับขี่ไม่เร็ว ไม่ประมาท และในคลิปที่ส่งเข้าประกวดจะต้องมีชื่อและโลโก้ สมาคมผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์ไทย อยู่ในคลิปด้วย
ผู้สนใจส่งผลงานคลิปวิดีโอเข้าประกวด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 02 – 229 – 3147 หรือ e-mail: tmea@tmea.or.th ได้ระหว่างวันที่ 15 ก.ย. – 30 พ.ย.56 โดยจะตัดสินการประกวดในวันที่ 5 ธ.ค.56 ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 50,000.-บาท,รองชนะเลิศ 30,000.-บาท และ 20,000.- บาทตามลำดับ ทั้งประเภทนักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป
ผู้สนใจส่งผลงานคลิปวิดีโอเข้าประกวด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 02 – 229 – 3147 หรือ e-mail: tmea@tmea.or.th ได้ระหว่างวันที่ 15 ก.ย. – 30 พ.ย.56 โดยจะตัดสินการประกวดในวันที่ 5 ธ.ค.56 ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 50,000.-บาท,รองชนะเลิศ 30,000.-บาท และ 20,000.- บาทตามลำดับ ทั้งประเภทนักเรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป
พงษ์สถิตย์ อรอินทร์
ส.ปชส.อุบลราชธานี
081- 924 8609 /ข่าว/ 17 ต.ค.56
อุบลราชธานี แถลงข่าวจัดแข่งเรือยาวชิงถ้วยนายกรัฐมนตรี
วันนี้ (17ต.ค.56) นางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีพร้อมด้วยนางจันทนา พิทักษ์พรพัลลภ นายกเทศมนตรีตำบลตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ร่วมกันเปิดงานแถลงข่าว การจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวตระการพืชผล ชิงถ้วยนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2556 ที่ ห้องจงกลณี โรงแรมทอแสง อุบลราชธานี ซึ่งงานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 18-19 ตุลาคม 2556 ที่ สวนสาธารณะหนองขุหลุ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ซึ่งนางจันทนา พิทักษ์พรพัลลภ นายกเทศมนตรีตำบลตระการพืชผล กล่าวว่า ประเพณีการแข่งขันเรือยาวเป็นกิจกรรมนันทการที่สืบทอดกันมา โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้แหล่งน้ำสำคัญๆ มักจะจัดการแข่งขันเรือยาวขึ้นในช่วงฤดูน้ำหลากเรือในช่วงเดือน 11 ถึงเดือน 12 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเนื่องในเทศกาลออกพรรษา ควบคู่ไปกับการทำบุญทอดกฐิน ซึ่งเป็นงานบุญที่จะจัดขึ้นเพียงปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น ขณะเดียวกันการจัดการแข่งขันเรือยาวในแต่ละครั้ง ก็ยังช่วยส่งเสริมให้เกินความรักสามัคคีระหว่างผู้เข้าร่วมการแข่งขันนำไปสู่การร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้เคียง นับเป็นการยกระดับทรัพยากรมนุษย์ของประเทศชาติให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับอำเภอตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เป็นพื้นที่ที่มีการจัดประเพณีแข่งขันเรือยาวเป็นประจำทุกปี และเนื่องในปี พ.ศ.2556 นี้ อำเภอตระการพืชผล จะครบรอบ 150 ปี ของการสร้างเมือง สำนักงานการท่องเที่ยว และกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้ร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานีในการกำหนดจัด "การแข่งขันเรือยาวตระการพืชผลชิงถ้วยนายกรัฐมันตรี ประจำปี 2566” ให้ยิ่งใหญ่เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระดังกล่าว โดยในงานจะมีการแข่งขันเรือยาวประเภทต่างๆ ชิงถ้วยรางวัลจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี การแข่งขันประกองเชียร์จากผู้แทนชุมชนอำเภอตระการพืชผล มหกรรมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ตลอดทั้งออกร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคในราคาประหยัด จึงเชิญชวนผู้สนใจมาเที่ยวชมงานประเพณีแข่งขันเรือยาวได้ที่สวนสาธารณะหนองขุหลุ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 18-19 ตุลาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนำงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.อุบลราชธานี หมายเลขโทรศัพท์ 045-311228 หรืออีเมล์ ubonratchatani@mots.go.th ได้เช่นกัน
สำหรับอำเภอตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เป็นพื้นที่ที่มีการจัดประเพณีแข่งขันเรือยาวเป็นประจำทุกปี และเนื่องในปี พ.ศ.2556 นี้ อำเภอตระการพืชผล จะครบรอบ 150 ปี ของการสร้างเมือง สำนักงานการท่องเที่ยว และกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี จึงได้ร่วมกับจังหวัดอุบลราชธานีในการกำหนดจัด "การแข่งขันเรือยาวตระการพืชผลชิงถ้วยนายกรัฐมันตรี ประจำปี 2566” ให้ยิ่งใหญ่เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระดังกล่าว โดยในงานจะมีการแข่งขันเรือยาวประเภทต่างๆ ชิงถ้วยรางวัลจากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี การแข่งขันประกองเชียร์จากผู้แทนชุมชนอำเภอตระการพืชผล มหกรรมคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ตลอดทั้งออกร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคในราคาประหยัด จึงเชิญชวนผู้สนใจมาเที่ยวชมงานประเพณีแข่งขันเรือยาวได้ที่สวนสาธารณะหนองขุหลุ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ในวันที่ 18-19 ตุลาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เป็นต้นไป หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนำงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.อุบลราชธานี หมายเลขโทรศัพท์ 045-311228 หรืออีเมล์ ubonratchatani@mots.go.th ได้เช่นกัน
พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 081- 924 8609 /ข่าว/ 17 ต.ค.56
การค้นหาผู้เสียชีวิตกรณีเครื่องบินลาวตก เป็นไปด้วยความลำบาก
เจ้าหน้าที่กู้ภัย จาก จ.อุบลราชธานี นครราชสีมา สุรินทร์ และศรีสะเกษ กว่าร้อยนาย ได้นำอุปกรณ์ในการค้นหา ทั้งเรือท้องแบน เครื่องอัดอากาศ มาลงที่ท่าเรือบักเก่า บ้านสาระคำ เมืองปากเซ แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องนั่งเรือท้อ งแบนเข้าไปยังจุดเกิดเหตุซึ่ง ห่างจากท่าเรือออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีนายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราช ธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่จากแขวงจำปาสัก ที่ร่วมในการค้นหาผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์เครื่องบินของสายกา รบินลาวแอร์ไลน์ตกเมื่อวานนี้(1 6ต.ค.56) ซึ่งคาดว่าลูกเรือและผู้โดยสารทั้ง 49 ราย จะเสียชีวิตทั้งหมด
สำหรับสาเหตุของอุบัติเหตุเครื่ องบินตกในครั้งนี้เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เกิดจากสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาอ ย่างหนักและมีลมกระโชกแรง ทำให้ทัศนวิสัยในการบินไม่เอื้อ อำนวยต่อการบังคับเครื่องบินได้ ตามปกติ และทำให้นักบินไม่สามารถควบคุมเ ครื่องบินได้ คาดว่าเครื่องบินน่าจะร่อนลงชนกับต้นไม้ก่อนกระแทกกับพื้นทำให้เครื่องบินขาดเป็น 2 ท่อน และกระเด็นตกลงไปในแม่น้ำโขง จนเกิดเหตุสลดดังกล่าว
จากการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในบ ริเวณ ดอนพะลีง เกาะกลางน้ำของแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นจุดที่เครื่องบินตก หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำที่ได้ทำการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า จากการดำน้ำลงไปเพียง 5 เมตร จากความลึกของแม่น้ำโขงตรงจุดนั้น 10 เมตร พบว่าไม่สามารถดำลงไปต่อได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ตลอดเวลาและสีน้ำค่อนข้างขุ่นมา ก ทำให้ตลอดทั้งวันนี้ไม่สามารถค้ นหาซากของเครื่องบินและร่างของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมจากเมื่อวานนี้ ที่พบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ศพ คาดว่าผู้โดยสารที่เสียชีวิตขณะ โดยสารนั้น น่าจะรัดเข็มขัดนิรภัยไว้ ทำให้ศพยังคงติดอยู่ในซากเครื่องตรงชิ้นส่วนของห้องโดยสาร จึงไม่พบศพในวันนี้ แต่คาดว่าภายใน 48 ชม. น่าจะเริ่มพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
สำหรับสาเหตุของอุบัติเหตุเครื่ องบินตกในครั้งนี้เบื้องต้นสันนิษฐานว่า เกิดจากสภาพอากาศที่มีฝนตกลงมาอ ย่างหนักและมีลมกระโชกแรง ทำให้ทัศนวิสัยในการบินไม่เอื้อ อำนวยต่อการบังคับเครื่องบินได้ ตามปกติ และทำให้นักบินไม่สามารถควบคุมเ ครื่องบินได้ คาดว่าเครื่องบินน่าจะร่อนลงชนกับต้นไม้ก่อนกระแทกกับพื้นทำให้เครื่องบินขาดเป็น 2 ท่อน และกระเด็นตกลงไปในแม่น้ำโขง จนเกิดเหตุสลดดังกล่าว
จากการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในบ ริเวณ ดอนพะลีง เกาะกลางน้ำของแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นจุดที่เครื่องบินตก หนึ่งในเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำที่ได้ทำการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า จากการดำน้ำลงไปเพียง 5 เมตร จากความลึกของแม่น้ำโขงตรงจุดนั้น 10 เมตร พบว่าไม่สามารถดำลงไปต่อได้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ตลอดเวลาและสีน้ำค่อนข้างขุ่นมา ก ทำให้ตลอดทั้งวันนี้ไม่สามารถค้ นหาซากของเครื่องบินและร่างของผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมจากเมื่อวานนี้ ที่พบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 5 ศพ คาดว่าผู้โดยสารที่เสียชีวิตขณะ โดยสารนั้น น่าจะรัดเข็มขัดนิรภัยไว้ ทำให้ศพยังคงติดอยู่ในซากเครื่องตรงชิ้นส่วนของห้องโดยสาร จึงไม่พบศพในวันนี้ แต่คาดว่าภายใน 48 ชม. น่าจะเริ่มพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม
จรัสพร อยู่สุข / คำภู โพธิ์ดี สทท.อบ. รายงาน
จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมจัดงาน สร้างอนาคตไทย 2020
วันนี้ ( 17 ต..56) นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานประชุม เตรียมความพร้อมการจัดงานนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ ภายใต้ชื่องาน สร้างอนาคตไทย 2020 ที่ห้องประชุมศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมและติดตามดูความพร้อมของการจัดงาน ตามที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ทั้งด้านสถานที่ การจราจร การอำนวยการ การอำนวยความสะดวก ความปลอดภัย เพื่อให้เกิดความพร้อมในการจัดงาน ระหว่างวันที่ 18 – 20 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี
รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้จังหวัดมีความพร้อม ทั้งด้านสถานที่ จราจร และอำนวยการ ในการจัดงาน การจัดงานดังกล่าว เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจต่อโครงการให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในภาคส่วนต่างๆ และในวันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 เวลา 13.30 น. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิธีเปิดงาน "สร้างอนาคตไทย 2020” จากนั้น มีกิจกรรมปาฐกถาพิเศษโดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ปาฐกถาพิเศษอีกเรื่อง โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่อด้วยกิจกรรมเสวนา ในหัวข้อ "เปิดมิติเศรษฐกิจท่องเที่ยวการค้าการลงทุน”
นอกจากนี้ในงานยังมีการจำหน่ายสินค้า หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ จากทั่วประเทศ อีกด้วย จึงขอเชิญชวนภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักธุรกิจ นักลงทุน สื่อมวลชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ในจังหวัดอุบลราชธานีและเชิญชวนประชาชน ที่สนใจและหน่วยงานราชการจากจังหวัด ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ มุกดาหาร และนครพนม เข้าร่วมชมงานและเลือกซื้อสินค้า โอท๊อปจากทั่วประเทศ ได้ในงานนี้ด้วย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้จังหวัดมีความพร้อม ทั้งด้านสถานที่ จราจร และอำนวยการ ในการจัดงาน การจัดงานดังกล่าว เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจต่อโครงการให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในภาคส่วนต่างๆ และในวันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 เวลา 13.30 น. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิธีเปิดงาน "สร้างอนาคตไทย 2020” จากนั้น มีกิจกรรมปาฐกถาพิเศษโดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ปาฐกถาพิเศษอีกเรื่อง โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่อด้วยกิจกรรมเสวนา ในหัวข้อ "เปิดมิติเศรษฐกิจท่องเที่ยวการค้าการลงทุน”
นอกจากนี้ในงานยังมีการจำหน่ายสินค้า หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ จากทั่วประเทศ อีกด้วย จึงขอเชิญชวนภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักธุรกิจ นักลงทุน สื่อมวลชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชน ในจังหวัดอุบลราชธานีและเชิญชวนประชาชน ที่สนใจและหน่วยงานราชการจากจังหวัด ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ มุกดาหาร และนครพนม เข้าร่วมชมงานและเลือกซื้อสินค้า โอท๊อปจากทั่วประเทศ ได้ในงานนี้ด้วย
พงษ์สถิตย์ อรอินทร์
ส.ปชส.อุบลราชธานี
081 924 8609 /ข่าว/ 17 ต.ค.56
รอง ผวจ.อุบลราชธานี ลงพื้นที่ประสบอุทกภัยถวายสิ่งของให้วัดที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ อ.เมืองและ อ.วารินชำราบ
วันนี้ (17 ต.ค. 56) นางนภา ศกุนตนาค รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นางกรกมล เพชรล้อมทอง วัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี ลงพื้นที่นำสิ่งของถวายและปัจจัยถวายวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอวารินชำราบซึ่งยังมีวัดในเขตอำเภอวารินชำราบและ อ.เมือง ที่ยังมีน้ำท่วมสูงการออกบิณฑบาตร บางวัดต้องอาศัยเรือจากกรมเจ้าท่าช่วยเหลือ
ซึ่งอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก และนอกจากนี้ยังสร้างความลำบากให้แก่พระภิกษุและสามเณร ในการปฏิบัติศาสนกิจในช่วงเข้าพรรษา กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จึงได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี บูรณาการงานร่วมกับทางจังหวัดอุบลราชธานี นำสิ่งของและปัจจัย ไปถวายช่วยเหลือวัดที่ประสบอุทกภัย ซึ่งการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ในเขตอำเภอเมือง จำนวน 2 วัด คือ วัดบ้านคูเดื่อ และวัดท่ากกแห่ ส่วนอำเภอวารินชำราบ จำนวน 3 วัด 1 สำนักสงฆ์ ได้แก่ วัดกุดปลาขาว วัดหาดสวนสุข วัดเสนาวงศ์ (ท่าบ้งมั่ง) และสำนักสงฆ์หายโศก ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพระภิกษุและสามเณร ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น
ซึ่งอุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก และนอกจากนี้ยังสร้างความลำบากให้แก่พระภิกษุและสามเณร ในการปฏิบัติศาสนกิจในช่วงเข้าพรรษา กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม จึงได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี บูรณาการงานร่วมกับทางจังหวัดอุบลราชธานี นำสิ่งของและปัจจัย ไปถวายช่วยเหลือวัดที่ประสบอุทกภัย ซึ่งการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ในเขตอำเภอเมือง จำนวน 2 วัด คือ วัดบ้านคูเดื่อ และวัดท่ากกแห่ ส่วนอำเภอวารินชำราบ จำนวน 3 วัด 1 สำนักสงฆ์ ได้แก่ วัดกุดปลาขาว วัดหาดสวนสุข วัดเสนาวงศ์ (ท่าบ้งมั่ง) และสำนักสงฆ์หายโศก ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพระภิกษุและสามเณร ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น
พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ /ข่าว
ประชุมชี้แจงโครงการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการจังหวัดอุดรธานี
จังหวัดอุดรธานีจัดประชุมชี้แจงโครงการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยการน้ำแบบบูรณาการระดับจังหวัด จังหวัดอุดธานี ครั้งที่ 1 หารือ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินโครงการและร่วมกำหนดแผนการดำเนินงานแบบบูรณาการร่วมกับ
ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดธานี เช้าวันนี้ ( 17 ต.ค.56 ) นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานการประชุมชี้แจงระดับจังหวัด ครั้งที่ 1 โครงการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยการน้ำแบบบูรณาการจังหวัดอุดรธานี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับจังหวัด และอำเภอร่วมประชุมร่วมกว่า 40 คน อาทิ ปลัดจังหวัด ชลประทาน ทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดิน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โยธาธิการและผังเมือง เกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัด นายอำเภอจาก 20 อำเภอ ยุทธศาสตร์จังหวัด เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัด ทรัพยการน้ำภาค ทรัพยากรน้ำบาดาล เขต สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประปาส่วนภูมิภาค ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร หอการค้า สภาอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากการพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศที่ผ่านมา ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์หลักของการพัฒนาที่ยั่งยืน เนื่องจากแผนส่วนใหญ่กำหนดโดยหน่วยงานกลาง และหน่วยงานระดับรัฐ ที่มีลักษณะโครงการแบบ Top Down ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งไม่เข้าใจขาดการยอมรับจากประชาชนในระดับพื้นที่ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง อันนำไปสู่การไม่สามารถบรรลุถึงหลักของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในปี พ.ศ.2554 จังหวัดสระแก้ว ได้นำเสนอแนวทาการบูรณาการจัดทำแผนพัฒนาแหล่งน้ำจังหวัดสระแก้วที่มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และประชาชนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน จังหวัดอุดรธานี ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แนวทางการดำเนินงานของโครงการดังกล่าวมีความเหมาะสม และเป็นทางเลือกในการบรรเทาปัญหาจึงให้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยการน้ำแบบบูรณาการระดับจังหวัด จังหวัดอุดธานีขึ้น โดยแผนที่จัดทำขึ้นจะมีลักษระของโครงการแบบ Bottom Up ที่มีความชัดเจนเรื่องพื้นที่ปัญหา อาทิ น้ำท่วม น้ำแล้ง สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในระดับพื้นที่ ผ่านกระบวนการสำรวจพื้นที่จริงและหารือระดับต่างๆ อาทิ ระดับตำบล อำเภอ จังหวด พร้อมนำเสนอในรูปแบบบูรณาการแผนที่โครงการที่สามรถระบุตำแหน่งในระบบพิกัดทางภูมิศาสตร์ เพื่อใช้ประกอบความเข้าใจร่วมกัน เป็นกรอบแผนที่ปฏิบัติการบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำระดับจังหวดที่มาจากการสำรวจสภาพปัญหาและความต้องการ ผ่านกระบวนการปรึกษาหารือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกระดับ
ที่ห้องประชุมคำชะโนด ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดอุดธานี เช้าวันนี้ ( 17 ต.ค.56 ) นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานการประชุมชี้แจงระดับจังหวัด ครั้งที่ 1 โครงการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยการน้ำแบบบูรณาการจังหวัดอุดรธานี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งระดับจังหวัด และอำเภอร่วมประชุมร่วมกว่า 40 คน อาทิ ปลัดจังหวัด ชลประทาน ทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดิน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โยธาธิการและผังเมือง เกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ องค์การบริหารส่วนจังหวัด นายอำเภอจาก 20 อำเภอ ยุทธศาสตร์จังหวัด เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัด ทรัพยการน้ำภาค ทรัพยากรน้ำบาดาล เขต สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ประปาส่วนภูมิภาค ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตร หอการค้า สภาอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ทั้งนี้สืบเนื่องจากการพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศที่ผ่านมา ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์หลักของการพัฒนาที่ยั่งยืน เนื่องจากแผนส่วนใหญ่กำหนดโดยหน่วยงานกลาง และหน่วยงานระดับรัฐ ที่มีลักษณะโครงการแบบ Top Down ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งไม่เข้าใจขาดการยอมรับจากประชาชนในระดับพื้นที่ ส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง อันนำไปสู่การไม่สามารถบรรลุถึงหลักของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในปี พ.ศ.2554 จังหวัดสระแก้ว ได้นำเสนอแนวทาการบูรณาการจัดทำแผนพัฒนาแหล่งน้ำจังหวัดสระแก้วที่มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และประชาชนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน จังหวัดอุดรธานี ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า แนวทางการดำเนินงานของโครงการดังกล่าวมีความเหมาะสม และเป็นทางเลือกในการบรรเทาปัญหาจึงให้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยการน้ำแบบบูรณาการระดับจังหวัด จังหวัดอุดธานีขึ้น โดยแผนที่จัดทำขึ้นจะมีลักษระของโครงการแบบ Bottom Up ที่มีความชัดเจนเรื่องพื้นที่ปัญหา อาทิ น้ำท่วม น้ำแล้ง สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในระดับพื้นที่ ผ่านกระบวนการสำรวจพื้นที่จริงและหารือระดับต่างๆ อาทิ ระดับตำบล อำเภอ จังหวด พร้อมนำเสนอในรูปแบบบูรณาการแผนที่โครงการที่สามรถระบุตำแหน่งในระบบพิกัดทางภูมิศาสตร์ เพื่อใช้ประกอบความเข้าใจร่วมกัน เป็นกรอบแผนที่ปฏิบัติการบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำระดับจังหวดที่มาจากการสำรวจสภาพปัญหาและความต้องการ ผ่านกระบวนการปรึกษาหารือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกระดับ
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ
จังหวัดอำนาจเจริญออกหน่วยโครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุขสร้างรอยยิ้มให้ประชาชนและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่บริการประชาชนที่อำเภอลืออำนาจ
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2556 เวลา 09.30 น. ที่โรงเรียนบ้านหนองหิ้ง เทศบาลตำบลสามหนอง อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดโครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. กิจกรรมที่จัดขึ้นประกอบด้วย พิธีเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และเปิดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. โดยมี นางนิภาภรณ์ ชื่นวาริน นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและอำเภอ ภาคเอกชน นำกิจกรรมต่างๆ ออกไปให้บริการ ท่ามกลางสายฝน โดยมีประชาชนไปร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
โครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดอำนาจเจริญครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน จำนวนกว่า 30 หน่วยงาน ได้มีโอกาสใกล้ชิดสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่และรับทราบปัญหาของประชาชน และนำบริการต่างๆ ไปสู่ประชาชนในพื้นที่โดยตรง ซึ่งเทศบาลตำบลสามหนอง อำเภอลืออำนาจ เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำจึงประสบปัญหาเรื่องถนนหนทางชำรุด และปัญหาระบบไฟฟ้าแสงสว่างบริเวณถนนสัญจรหน้าโรงเรียนบนถนนหลัก รวมทั้งปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาความเดือดร้อนและประชาชนมีความต้องการให้ทางราชการช่วยเหลือ ซึ่งทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและจะนำไปพิจารณาให้การช่วยเหลือตามลำดับความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนต่อไป ส่วนกิจกรรมมีทั้งการออกหน่วยบริการ การจัดนิทรรศการให้ความรู้ ปรึกษาแนะนำด้านการประกอบอาชีพ คลินิกพืช คลินิกสัตว์ การแสดงและจำหน่ายสินค้าOTOP รวมทั้งการให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย การบริการตรวจร่างกาย รักษาโรคของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ บริการนวดแผนไทย และบริการตัดผมเสริมสวยฟรี เหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ มอบชุดยาพระราชทานแก่ชุมชน ถุงยังชีพ เครื่องนุ่งห่มกันหนาว แก่ผู้สูงอายุ /ผู้ด้อยโอกาส จำนวน 50 ราย มอบอุปกรณ์การศึกษาเด็กนักเรียน
โอกาสนี้ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ยังได้ประชาสัมพันธ์การจัดงาน ครบ 20 ปี จังหวัดอำนาจเจริญ โดยได้ขอความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรื่องการโยงด้ายสายสิน ในช่วงพิธีสมโภช ศาลหลักเมือง ที่จะมีการโยงด้ายสายสิน จากศาลหลักเมืองไปทั่ว ทั้งจังหวัด ในทุกๆตำบล ทุกหมู่บ้านและเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอำนาจเจริญร่วมกันทำบุญเนื่องในโอกาส ครบ 20 ปี ของจังหวัดอำนาจเจริญอีกด้วย
โครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน และการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดอำนาจเจริญครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อให้หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน จำนวนกว่า 30 หน่วยงาน ได้มีโอกาสใกล้ชิดสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่และรับทราบปัญหาของประชาชน และนำบริการต่างๆ ไปสู่ประชาชนในพื้นที่โดยตรง ซึ่งเทศบาลตำบลสามหนอง อำเภอลืออำนาจ เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำจึงประสบปัญหาเรื่องถนนหนทางชำรุด และปัญหาระบบไฟฟ้าแสงสว่างบริเวณถนนสัญจรหน้าโรงเรียนบนถนนหลัก รวมทั้งปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาความเดือดร้อนและประชาชนมีความต้องการให้ทางราชการช่วยเหลือ ซึ่งทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและจะนำไปพิจารณาให้การช่วยเหลือตามลำดับความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนต่อไป ส่วนกิจกรรมมีทั้งการออกหน่วยบริการ การจัดนิทรรศการให้ความรู้ ปรึกษาแนะนำด้านการประกอบอาชีพ คลินิกพืช คลินิกสัตว์ การแสดงและจำหน่ายสินค้าOTOP รวมทั้งการให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย การบริการตรวจร่างกาย รักษาโรคของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ บริการนวดแผนไทย และบริการตัดผมเสริมสวยฟรี เหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ มอบชุดยาพระราชทานแก่ชุมชน ถุงยังชีพ เครื่องนุ่งห่มกันหนาว แก่ผู้สูงอายุ /ผู้ด้อยโอกาส จำนวน 50 ราย มอบอุปกรณ์การศึกษาเด็กนักเรียน
โอกาสนี้ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ยังได้ประชาสัมพันธ์การจัดงาน ครบ 20 ปี จังหวัดอำนาจเจริญ โดยได้ขอความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเรื่องการโยงด้ายสายสิน ในช่วงพิธีสมโภช ศาลหลักเมือง ที่จะมีการโยงด้ายสายสิน จากศาลหลักเมืองไปทั่ว ทั้งจังหวัด ในทุกๆตำบล ทุกหมู่บ้านและเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดอำนาจเจริญร่วมกันทำบุญเนื่องในโอกาส ครบ 20 ปี ของจังหวัดอำนาจเจริญอีกด้วย
สุรพล บุตรวงศ์/ข่าว กฤษดา เนตรพันธ์/ภาพ
จังหวัดอำนาจเจริญจัดประชุมเตรียมความพร้อมคณะกรรมการฝ่ายการจัดกิจกรรมทำบุญงานฉลองซาวปี ฮุ่งเฮือง เมืองอำนาจ
จังหวัดอำนาจเจริญจัดประชุมเตรียมความพร้อมคณะกรรมการฝ่ายการจัดกิจกรรมทำบุญงาน ฉลองซาวปี ฮุ่งเฮือง เมืองอำนาจ เพื่อเฉลิมฉลองการจัดงาน ครบ ๒๐ ปี จังหวัดอำนาจเจริญ
วันที่ 17 ต.ค. 56 เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่ห้องประชุมพระมงคลมิ่งเมือง ศาลากลางจังหวัด ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมคณะกรรมการฝ่ายการจัดกิจกรรมทำบุญงาน ฉลองซาวปี ฮุ่งเฮือง เมืองอำนาจ โดยมีนายอภิชาติ งามกมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธาน ทั้งนี้การกำหนดรูปแบบการจัดกิจกรรม การโยงสายสิญจน์จากองค์พระมงคลมิ่งเมืองไปยังทุกอำเภอ ทุกตำบล หมู่บ้าน การบริจาคสายสิญจน์ การประดับธงทิว และจะอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญองค์จำลองเข้าร่วมพิธี และมีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ กิจกรรมปฏิบัติธรรม เจริญภาวนา พิธีพุทธาภิเษกสมโภชตลอดคืน กิจกรรมการตั้งโรงทาน การทำบุญมหาสังฆทาน ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์
นายอภิชาติ งามกมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการฝ่ายในการจัดกิจกรรมทำบุญงาน ฉลองซาวปี ฮุ่งเฮือง เมืองอำนาจ แต่ละหน้าที่ได้ดำเนินตามรูปแบบตามที่มีการกำหนดตามหน้าที่รับผิดชอบ โดยจะมีการจัดกิจกรรมเฉลอมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคลโดยจะยึดถือแนวทางวิถีธรรมของชาวอำนาจเจริญมาเป็นแนวทางในการจัดงาน ระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน – ๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ นี้
วันที่ 17 ต.ค. 56 เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่ห้องประชุมพระมงคลมิ่งเมือง ศาลากลางจังหวัด ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมคณะกรรมการฝ่ายการจัดกิจกรรมทำบุญงาน ฉลองซาวปี ฮุ่งเฮือง เมืองอำนาจ โดยมีนายอภิชาติ งามกมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธาน ทั้งนี้การกำหนดรูปแบบการจัดกิจกรรม การโยงสายสิญจน์จากองค์พระมงคลมิ่งเมืองไปยังทุกอำเภอ ทุกตำบล หมู่บ้าน การบริจาคสายสิญจน์ การประดับธงทิว และจะอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญองค์จำลองเข้าร่วมพิธี และมีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ กิจกรรมปฏิบัติธรรม เจริญภาวนา พิธีพุทธาภิเษกสมโภชตลอดคืน กิจกรรมการตั้งโรงทาน การทำบุญมหาสังฆทาน ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์
นายอภิชาติ งามกมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จึงได้มอบหมายให้คณะกรรมการฝ่ายในการจัดกิจกรรมทำบุญงาน ฉลองซาวปี ฮุ่งเฮือง เมืองอำนาจ แต่ละหน้าที่ได้ดำเนินตามรูปแบบตามที่มีการกำหนดตามหน้าที่รับผิดชอบ โดยจะมีการจัดกิจกรรมเฉลอมฉลองอย่างยิ่งใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคลโดยจะยึดถือแนวทางวิถีธรรมของชาวอำนาจเจริญมาเป็นแนวทางในการจัดงาน ระหว่างวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน – ๑ ธันวาคม ๒๕๕๖ นี้
ประกาศิต สุวะทอง/ข่าว/ภาพ
พ่อเมืองลำดวน ลั่น กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ศรีสะเกมส์ เน้น ใช้อุปกรณ์กีฬาที่มีคุณภาพ มาตรฐานสากล
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ต.ค.56 ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสนิท ขาวสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ประชุมร่วมกับคณะกรรมการกีฬาจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 30 ศรีสะเกษเกมส์ ซึ่งจะจัดในระหว่างวันที่ 13-13 มีนาคม 2557 สำหรับวาระการประชุมที่สำคัญ ในวันนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินการของคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ ตลอดจนอุปสรรค ในการดำเนินงาน โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวในที่ประชุมว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งขัน กีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้ ควรเป็นอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน เพื่อให้นักกีฬาได้ใช้อุปกรณ์ที่มีอุปกรณ์ ที่มีคุณภาพ เทียบเท่าระดับสากล แม้จะเป็นการแข่งขันกีฬาในระดับเยาวชนก็ตาม
รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ แนะ เกษตรกร กักตุน เสบียงอาหารสัตว์ รับพายุนารี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ต.ค.56 วัดบ้านโพนทราย ตำบลหนองบัว อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสัตวแพทย์ธนิตย์ อเนกวิทย์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นประธานในการมอบเสบียงสัตว์ ประกอบด้วย หญ้าแห้งอัดฟ่อนสำหรับโค- กระบือ จำนวน 4,000 กิโลกรัม หญ้าแห้งสำหรับสัตว์ จำนวน 5,000 กิโลกรัม และชุดเวชภัณฑ์ จำนวน 200 ชุด ให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในด้านปศุสัตว์ โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ พละศักดิ์ นายอำเภอกันทรารมย์ พร้อมด้วย นายสัตวแพทย์นัทธ์เวโรจน์ บูชาพัฒน์ ปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ข้าราชการในสังกัดกรมปศุสัตว์ ตลอดจน ประชาชนในพี้นที่ มาให้การต้อนรับ ในโอกาสนี้ ทางสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ประสานความร่วมมือกับปศุสัตว์อำเภอกันทรารมย์ นำทีมสัตวแพทย์ ออกหน่วยให้บริการ ฉีควัคซีน โค-กระบือ และ บริการทำหมันสุนัข และแมว ฟรี ให้กับประชาชนชาวอำเภอกันทรารมย์ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่ อีกทางหนึ่งด้วย โดยมีประชาชน นำสัตว์เลี้ยงมาเข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก นายสัตวแพทย์ธนิตย์ กล่าวว่า ในด้านการช่วยเหลือประชาชนในขณะนี้ ทางกรมปศุสัตว์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าลงให้การช่วยเหลือเกษตรกรและสัตว์ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมทั้งแจกจ่าย เสบียงอาหารและเวชภัณฑ์ ตามพื้นที่ประสบภัย อีกทั้งยังมีการ จัดหน่วยเคลื่อนที่เร็ว เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ด้านปศุสัตว์ อย่างทันท่วงที ซึ่งหลังจากสถานการณ์น้ำเริ่มลดลงแล้วนั้น จะได้มีการลงพื้นที่สำรวจ ว่ามีพืชได้รับความเสียหาย เท่าใด หรือสัตว์ ได้รับความบาดเจ็บ ล้มตาย และสูญหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมมากหรือไม่ เพื่อประเมินความเสียหาย และดำเนินการ เรื่องการชดเชย เยียวยา ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ตามขั้นตอนต่อไป นายสัตวแพทย์ธนิตย์ กล่าวต่อไปว่า สืบเนื่องมาจากขณะนี้ พายุนารีเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามแล้ว และในวันที่ 16 ต.ค. จะอ่อนกำลังลงเป็นความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลไห้จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้ ห และเพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมรับกับสาธารณภัย เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ควรจัดทำเสบียง อาหารสัตว์ไว้ เพื่อไม่ให้สัตว์ ขาดแลคนอาหาร และมีร่างกาย ที่สมบูรณ์ เพราะหากสัตว์ขาดสารอาหาร จะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วย และล้มตาย ได้ง่าย ซึ่งอาจเป็นเหตุให้เกษตรกร ต้องสูญเสียรายได้ อย่างไม่จำเป็น
ร้อยเอ็ดจัดงานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2556 ยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 17 – 18 ตุลาคมนี้
จังหวัดร้อยเอ็ด จัดงานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 17 – 18 ตุลาคม 256 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด เพื่อรักษาและสืบทอดประเพณีวัฒนธรรมของไทยให้คงไว้สืบไป
นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดโดยเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนราชการ สถานศึกษา พ่อค้าและประชาชนภายในเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด กำหนดจัดงานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2556 ขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 18 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด เพื่อเป็นการอนุรักษ์และรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงไว้สืบไป ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดร้อยเอ็ด กิจกรรมจะมีการประกวดข้าวทิพย์ 16 คุ้มวัด การประกวดประดับประทีปโคมไฟ (ไต้น้ำมัน) การประกวดร้องสรภัญญะอีสาน รับเงินรางวัลและประกาศเกียรติบัตร โดยกำหนดให้มีพิธีเปิดงานในวันที่ 18 ตุลาคม 2556 เวลา 18.00 น. ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด
จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปร่วมชมงานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2556 ชมกิจกรรมการประกวดดังกล่าวข้างต้น
นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดโดยเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ส่วนราชการ สถานศึกษา พ่อค้าและประชาชนภายในเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด กำหนดจัดงานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2556 ขึ้นระหว่างวันที่ 17 – 18 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด เพื่อเป็นการอนุรักษ์และรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงไว้สืบไป ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดร้อยเอ็ด กิจกรรมจะมีการประกวดข้าวทิพย์ 16 คุ้มวัด การประกวดประดับประทีปโคมไฟ (ไต้น้ำมัน) การประกวดร้องสรภัญญะอีสาน รับเงินรางวัลและประกาศเกียรติบัตร โดยกำหนดให้มีพิธีเปิดงานในวันที่ 18 ตุลาคม 2556 เวลา 18.00 น. ณ บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด
จึงขอเชิญนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปร่วมชมงานประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2556 ชมกิจกรรมการประกวดดังกล่าวข้างต้น
วิมล เร่งศึก/ข่าว
ผู้ฝึกสอนและนักกีฬาในสังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดเข้าคารวะนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ดก่อนเดินทางไปร่วมแข่งขันนักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที 31
วันนี้ (17 ต.ค.56) เวลา 09.00 น. ณ บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ผู้ฝึกสอนและนักกีฬา จำนวน 356 คน จากโรงเรียนในสังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด 8 โรงเรียน จำนวน 356 คน ได้เข้าคารวะและรับฟังโอวาทจาก นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด ในโอกาสที่จะเดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 31 รอบคัดเลือกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ " มอหินขาวเกมส์ " ระหว่างวันที่ 21 – 30 ตุลาคม 2556 ที่จังหวัดชัยภูมิ
เทศบาลเมืองชัยภูมิ จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 31 รอบคัดเลือกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ "มอหินขาวเกมส์” ระหว่างวันที่ 21 – 30 ตุลาคม 2556 เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดได้ส่งนักกีฬาร่วมการแข่งขันกีฬาดังกล่าว จำนวน10 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ฟุตบอล ฟุตชอล วอลเลย์บอล วอลเลย์บอลชายหาด เซปักตะกร้อ เซปักตะกร้อ เทเบิ้ลเทนนิส เปตอง กรีฑา แบ่งเป็น 4รุ่น ๆ 12 ปี รุ่น 14 ปี รุ่น 16 ปี และรุ่น 18 ปี รวมนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ 356 คน
นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด กล่าวในโอกาสนี้ว่า ขอให้นักกีฬาทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีด้วยการตั้งใจฝึกซ้อม และร่วมการแข่งขันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งกีฬายังเป็นการสร้างความเข้มแข็งทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ ให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์นำทักษะการแข่งขันที่ถูกต้องกลับมาพัฒนาตนเองและทีม และขอให้ประสบผลสำเร็จในการแข่งขันและกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ
เทศบาลเมืองชัยภูมิ จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 31 รอบคัดเลือกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ "มอหินขาวเกมส์” ระหว่างวันที่ 21 – 30 ตุลาคม 2556 เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดได้ส่งนักกีฬาร่วมการแข่งขันกีฬาดังกล่าว จำนวน10 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ฟุตบอล ฟุตชอล วอลเลย์บอล วอลเลย์บอลชายหาด เซปักตะกร้อ เซปักตะกร้อ เทเบิ้ลเทนนิส เปตอง กรีฑา แบ่งเป็น 4รุ่น ๆ 12 ปี รุ่น 14 ปี รุ่น 16 ปี และรุ่น 18 ปี รวมนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ 356 คน
นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด กล่าวในโอกาสนี้ว่า ขอให้นักกีฬาทุกคนตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีด้วยการตั้งใจฝึกซ้อม และร่วมการแข่งขันเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งกีฬายังเป็นการสร้างความเข้มแข็งทั้งด้านร่างกาย และจิตใจ ให้เก็บเกี่ยวประสบการณ์นำทักษะการแข่งขันที่ถูกต้องกลับมาพัฒนาตนเองและทีม และขอให้ประสบผลสำเร็จในการแข่งขันและกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ
วิมล เร่งศึก/ข่าว
เชิญชมนิทรรศการการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งในงบ 2.2 ล้านล้านบาท ชื่องาน “สร้างอนาคตไทย 2020”
นายไพชยนต์ ชนะกาญจน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร รายงานว่า รัฐบาลกำหนดจัดงานแสดงนิทรรศการโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งด้วยงบ 2.2 ล้านล้านบาท ภายใต้ชื่อคน "สร้างอนาคตไทย 2020” โดยมอบหมายให้ภาคเอกชนดำเนินการจัด แสดงการลงทุนการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่ง,รถไฟความเร็วสูง,รถไฟรางคู่ และการขนส่งทางถนน เป็นการพัฒนาประเทศครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และเป็นการขยายความเจริญไปสู่ทุกภูมิภาค ในระยะเวลา 5-6 ปี เมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะมีการเชื่อมโยงกับประเทศอาเซียนอย่างไร จะนำความเจริญมาสู่ประเทศไทย จะส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างไร ประชาชนชาวไทยควรจะรับรู้ และนักธุรกิจจะมีการวางแผนต่อยอดอย่างไร
โดยมีกำหนดจัดแสดง 12 ครั้ง 12 จังหวัดทั่วประเทศ ในภาคอีสาน จัด 4 จังหวัด ที่จังหวัดอุบลราชธานี กำหนดจัดในวันที่ 18-20 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์แสดงสินค้า OTOP อบจ.อุบลราชธานี ขอเชิญประชาชนเข้าชมฟรี
จากนั้น จัดที่จังหวัดขอนแก่น วันที่ 25-27 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น และที่จัดผ่านมาแล้ว 2 จังหวัด ที่หนองคาย เมื่อวันที่ 4-6 ตุลาคม 2556 , ที่จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 11-13 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจแห่เข้าชมจำนวนมาก
โดยมีกำหนดจัดแสดง 12 ครั้ง 12 จังหวัดทั่วประเทศ ในภาคอีสาน จัด 4 จังหวัด ที่จังหวัดอุบลราชธานี กำหนดจัดในวันที่ 18-20 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์แสดงสินค้า OTOP อบจ.อุบลราชธานี ขอเชิญประชาชนเข้าชมฟรี
จากนั้น จัดที่จังหวัดขอนแก่น วันที่ 25-27 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น และที่จัดผ่านมาแล้ว 2 จังหวัด ที่หนองคาย เมื่อวันที่ 4-6 ตุลาคม 2556 , ที่จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 11-13 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา มีประชาชนให้ความสนใจแห่เข้าชมจำนวนมาก
ไพชยนต์/ ข่าว
หน่วยทันตกรรมพระราชทาน โดยคณะทันตแพทย์ศาสตร์จุฬาฯ 160 คน มาให้บริการชาวยโสธร 4 จุด 11-14 พ.ย. นี้
นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา 5 ธันวาคม 2556 หน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมกับจังหวัดยโสธร จัดหน่วยบริการทันตกรรมเคลื่อนที่แก่ประชาชน ฟรี โดยคณาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญจาก คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวน 160 คน มาทำงานแบบจิตอาสาพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ชุดใหญ่ 130 ชุด มาให้บริการ ถอนฟัน,อุดฟัน,ขุดหินปูน,รักษาคลองรากฟัน, และผ่าฟันคุด ,ใส่ฟันเทียม แบบครบวงจร เสร็จภายใน 1 วัน
มีกำหนดมาให้บริการ 4 จุด คือ
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 ที่โรงเรียนมหาชนะชัยวิทยาคม
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 ที่โรงเรียนกุดชุมวิทยาคม
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2556 ที่โรงเรียนเลิงนกทา
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 ที่โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
ซึ่งหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยคณะอาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ และคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะออกปฏิบัติงาน ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
ได้ออกหน่วยบริการประชาชนมาแล้ว 35 ปี และเคยมาให้บริการที่จังหวัดยโสธร 1 ครั้ง เมื่อปี 2538 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
จึงขอเชิญประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงไปรับบริการ ฟรี โดยทั่วกัน
มีกำหนดมาให้บริการ 4 จุด คือ
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2556 ที่โรงเรียนมหาชนะชัยวิทยาคม
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 ที่โรงเรียนกุดชุมวิทยาคม
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2556 ที่โรงเรียนเลิงนกทา
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 ที่โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป
ซึ่งหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยคณะอาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญ และคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะออกปฏิบัติงาน ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น
ได้ออกหน่วยบริการประชาชนมาแล้ว 35 ปี และเคยมาให้บริการที่จังหวัดยโสธร 1 ครั้ง เมื่อปี 2538 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
จึงขอเชิญประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงไปรับบริการ ฟรี โดยทั่วกัน
ไพชยนต์/ ข่าว
สมัครสาวงามประกวดนางสาวไทยปี 2556
บริษัท อสมท.จำกัด (มหาชน) (บจ.อสมท.) ร่วมกับสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2556 เพื่อเฟ้นหาสาวงามมากความสามารถจากทั่วประเทศ มาประกวดบนเวทีอันทรงคุณค่าเพื่อครองมงกุฎเพชรและตำแหน่งนางสาวไทยคนที่ 48 โดยจะจัดการประกวดรอบตัดสินในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์ อารีน่า ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ถ่ายทอดสดการประกวดทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี โดยกองประกวดจะเปิดรับสมัครผู้สนใจจากทั่วประเทศเข้าประกวดนางสาวไทยประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 26-29 ตุลาคม 2556 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ลานอีเดน ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลด์เวิลด์
ไพชยนต์/ ข่าว
สำนักงานประมงจังหวัดยโสธร ขอเชิญร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคีกรมประมง ณ วัดพระพุทธบาทยโสธร
นายไพรัตน์ ขนันไทย ประมงจังหวัดยโสธร ขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมทำบุญกุศลบริจาคทรัพย์ตามกำลังศรัทธา ได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดยโสธร ถนนแจ้งสนิท หมู่ที่ 12 ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร หมายเลขโทรศัพท์/โทรสาร 045-722096 หรือ วัดพระพุทธบาทยโสธร หมายเลขโทรศัพท์ 045-799477 หมายเลขโทรสาร 045-799499 ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และขออนุโมทนาในกุศลเจตนาบริจาคมา ณ โอกาสนี้
ปิยะนุช/ ข่าว
ยโสธรเลือกตั้ง อบต.ที่ครบวาระ ครั้งยิ่งใหญ่ 43 แห่ง 20 ตุลาคม นี้
นายนเรศ สุวรรณกูฎ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดยโสธร กล่าวว่า สมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ในจังหวัดยโสธร ครบวาระเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2556 จำนวน 43 แห่ง ถือเป็นการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ครึ่งจังหวัด และกำหนดเลือกตั้งใหม่พร้อมกันในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556
จากเลือกตั้ง อบต. 43 แห่ง มีการเลือกตั้งทั้งสมาชิก อบต. และนายก อบต. จำนวน 39 แห่ง มีการเลือกตั้งเฉพาะสมาชิก อบต. จำนวน 4 แห่ง และมี อบต. ที่ผู้สมัครนายก อบต. เพียงคนเดียว มี 7 อบต. แต่ก็จะต้องมีการเลือกตั้งเช่นเดิม ซึ่งจะต้องได้คะแนนมากกว่า 10% ของผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
และมี อบต. ที่มีการแข่งขันกันสูง จำนวน 4 อบต. คือมีผู้สมัคร นายก อบต. แห่งละ 4 คน ได้แก่ อบต.สิงห์ อ.เมืองยโสธร, อบต.สามแยก อ.เลิงนกทา,อบต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย และ อบต.หนองแหน อ.กุดชุม จังหวัดยโสธร เคยได้ชื่อว่า "ยโสธรเมืองประชาธิปไตย” เป็นศักดิ์ศรี ความภูมิใจของชาวยโสธร ดังนั้น จึงขอเชิญผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิก อบต. เลือได้ 2 หมายเลข นายก อบต. เลือกได้ 1 หมายเลข ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556 เวลา 08.00 – 15.00 น.
จากเลือกตั้ง อบต. 43 แห่ง มีการเลือกตั้งทั้งสมาชิก อบต. และนายก อบต. จำนวน 39 แห่ง มีการเลือกตั้งเฉพาะสมาชิก อบต. จำนวน 4 แห่ง และมี อบต. ที่ผู้สมัครนายก อบต. เพียงคนเดียว มี 7 อบต. แต่ก็จะต้องมีการเลือกตั้งเช่นเดิม ซึ่งจะต้องได้คะแนนมากกว่า 10% ของผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
และมี อบต. ที่มีการแข่งขันกันสูง จำนวน 4 อบต. คือมีผู้สมัคร นายก อบต. แห่งละ 4 คน ได้แก่ อบต.สิงห์ อ.เมืองยโสธร, อบต.สามแยก อ.เลิงนกทา,อบต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย และ อบต.หนองแหน อ.กุดชุม จังหวัดยโสธร เคยได้ชื่อว่า "ยโสธรเมืองประชาธิปไตย” เป็นศักดิ์ศรี ความภูมิใจของชาวยโสธร ดังนั้น จึงขอเชิญผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งสมาชิก อบต. เลือได้ 2 หมายเลข นายก อบต. เลือกได้ 1 หมายเลข ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2556 เวลา 08.00 – 15.00 น.
ไพชยนต์ /ข่าว
ไทย ลาว ร่วมพิธีเปิดงานประเพณีแข่งเรือออกพรรษาจังหวัดมุกดาหาร
วันนี้ (๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๖) นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และท่าน ดร.คำเผย ผันทะจอน รองเจ้าแขวง แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ร่วมเป็นประธานเปิดงานประเพณีแข่งเรือออกพรรษาไทย-ลาว ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ประจำปี ๒๕๕๖ ซึ่งเทศบาเมืองมุกดาหาร จัดขึ้นเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีของท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดและความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน ณ บริเวณศาลาเรารักมุกดาหาร ท่าน้ำเขื่อนริมโขง ตลาดอินโดจีน โดยมีประชาชนไทยและลาวจากแขวงสะหวันนะเขตร่วมในพิธีเปิดงานจำนวนมาก
นายถาวร คูณคำตา ปลัดเทศบาลเมืองมุกดาหารรักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า งานประเพณีแข่งเรือออกพรรษา ไทย –ลาว จังหวัดมุกดาหาร เดิมเรียกว่าบุญส่วงเฮือ เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลออกพรรษาขึ้น ๑๓ –๑๕ ค่ำ ณ บริเวณท่าน้ำเขื่อนริมโขงตลาดอินโดจีน ประกอบกับช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่ประชาชนว่างเว้นจากการทำนาจึงจัดประชันแข่งขันพายเรือ และแห่เรือเพื่อความสนุกสนาน ความสามัคคีระหว่างประชาชนในชุมชน จนกลายเป็นประเพณีความเชื่อของชาวมุกดาหารนอกจากเพื่อความสนุกสนานแล้วและเป็นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลุ่มน้ำโขงที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่างานประเพณีแข่งเรือออกพรรษาไทย ลาว มุกดาหาร-สะหวันนะเขต เป็นงานประเพณีสองฝั่งโขงเพราะมีประชาชน ๒ ฝั่งแม่น้ำโขงมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก สำหรับปีนี้จัดขึ้นระหว่าง วันที่ ๑๗ –๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยวันที่ ๑๗ ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกของงาน หลังพิธีเปิดงาน ได้มีการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดมุกดาหารนับถือ และขบวนแห่ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทั้งทางบกและทางน้ำ การประกวดขบวนแห่เรือทางบก ประกวดเรือสวยงาม เรือเซิ้งประเพณีท้องถิ่น เรือมิตรภาพมุกดาหาร-สะหวันนะเขตและการแข่งขันเรือพายประเภทความเร็ว ๔ รุ่น ประกอบด้วยเรือรุ่นจิ๋ว(๑๒-๑๕)ฝีพาย ส่วนในวันที่ ๑๘-๑๙ ตุลาคม จัดให้มีพิธีตีช้างน้ำนอง ในการแข่งขันเรือยาวประเพณีออกพรรษาไทย-ลาว ลุ่มน้ำโขงจังหวัดมุกดาหาร ต่อด้วยการแข่งขันเรือประเภทความเร็ว รุ่นเล็ก ๓๐ ฝีพาย รุ่นกลาง ๔๐ ฝีพาย และรุ่นใหญ่ ๖๐ ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีพร้อมเงินรางวัล ๑๐๐,๐๐๐ บาท ตามลำดับ
นายถาวร คูณคำตา ปลัดเทศบาลเมืองมุกดาหารรักษาราชการแทนนายกเทศมนตรีเมืองมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า งานประเพณีแข่งเรือออกพรรษา ไทย –ลาว จังหวัดมุกดาหาร เดิมเรียกว่าบุญส่วงเฮือ เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลออกพรรษาขึ้น ๑๓ –๑๕ ค่ำ ณ บริเวณท่าน้ำเขื่อนริมโขงตลาดอินโดจีน ประกอบกับช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่ประชาชนว่างเว้นจากการทำนาจึงจัดประชันแข่งขันพายเรือ และแห่เรือเพื่อความสนุกสนาน ความสามัคคีระหว่างประชาชนในชุมชน จนกลายเป็นประเพณีความเชื่อของชาวมุกดาหารนอกจากเพื่อความสนุกสนานแล้วและเป็นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลุ่มน้ำโขงที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ปัจจุบันอาจกล่าวได้ว่างานประเพณีแข่งเรือออกพรรษาไทย ลาว มุกดาหาร-สะหวันนะเขต เป็นงานประเพณีสองฝั่งโขงเพราะมีประชาชน ๒ ฝั่งแม่น้ำโขงมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก สำหรับปีนี้จัดขึ้นระหว่าง วันที่ ๑๗ –๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๖ โดยวันที่ ๑๗ ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกของงาน หลังพิธีเปิดงาน ได้มีการอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวจังหวัดมุกดาหารนับถือ และขบวนแห่ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ทั้งทางบกและทางน้ำ การประกวดขบวนแห่เรือทางบก ประกวดเรือสวยงาม เรือเซิ้งประเพณีท้องถิ่น เรือมิตรภาพมุกดาหาร-สะหวันนะเขตและการแข่งขันเรือพายประเภทความเร็ว ๔ รุ่น ประกอบด้วยเรือรุ่นจิ๋ว(๑๒-๑๕)ฝีพาย ส่วนในวันที่ ๑๘-๑๙ ตุลาคม จัดให้มีพิธีตีช้างน้ำนอง ในการแข่งขันเรือยาวประเพณีออกพรรษาไทย-ลาว ลุ่มน้ำโขงจังหวัดมุกดาหาร ต่อด้วยการแข่งขันเรือประเภทความเร็ว รุ่นเล็ก ๓๐ ฝีพาย รุ่นกลาง ๔๐ ฝีพาย และรุ่นใหญ่ ๖๐ ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีพร้อมเงินรางวัล ๑๐๐,๐๐๐ บาท ตามลำดับ
สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
ป.ป.ช.มหาสารคาม รับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการ ป.ป.จ.
นายประทีป จูฑะศร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมหาสารคาม (ป.ป.ช.) กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้มีการสรรหาคณะกรรมการสรรหา ที่มาจาก 9 องค์กร เพื่อเข้ามาทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสรรหา กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมหาสารคาม (ป.ป.จ.) แล้วนั้น ในระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม -5 พฤศจิกายน 2556 สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมหาสารคาม จะเปิดรับสมัครบุคคลทั่วไปที่ต้องการสมัครเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการ ป.ป.จ. มหาสารคาม โดยผู้สมัครจะต้องเป็นผู้ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรู้ ความสามารถและมีผลงานเป็นที่ยอมรับในด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 45 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 70 ปี บริบูรณ์ รับหรือเคยรับราชการในระดับไม่ต่ำว่าผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่า หรือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์หรือมีผลงานเป็นที่ยอมรับในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต หรือเป็นผู้ซึ่งองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพที่มีกฎหมายรับรองและปฏิบัติงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 10 ปี โดยองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพให้การรับรอง นอกจากนี้ยังต้องเป็นผู้ไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 103/11 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554
ผู้สนใจสามารถกรอกใบสมัคร 1 ชุด สำเนา 9 ชุด พร้อมติดภาพถ่ายและรับรองสำเนาถูกต้อง แนบมาพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ภาพถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่นตาดำ ขนาด 2 นิ้ว ซึ่งติดใบสมัคร จำนวน 10 ภาพ และส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ 2 ภาพ สำเนาวุฒิการศึกษา ใบรับรองแพทย์ สำเนาแสดงรายการผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และเอกสารการนำเสนอวิสัยทัศน์ ไม่เกิน 3 หน้ากระดาษ A4 ฉบับจริง 1 ชุด สำเนา 9 ชุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมหาสารคาม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข 043- 777412 / 043- 777438 ในวัน เวลา ราชการ
ผู้สนใจสามารถกรอกใบสมัคร 1 ชุด สำเนา 9 ชุด พร้อมติดภาพถ่ายและรับรองสำเนาถูกต้อง แนบมาพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ภาพถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่นตาดำ ขนาด 2 นิ้ว ซึ่งติดใบสมัคร จำนวน 10 ภาพ และส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ 2 ภาพ สำเนาวุฒิการศึกษา ใบรับรองแพทย์ สำเนาแสดงรายการผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และเอกสารการนำเสนอวิสัยทัศน์ ไม่เกิน 3 หน้ากระดาษ A4 ฉบับจริง 1 ชุด สำเนา 9 ชุด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมหาสารคาม ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์หมายเลข 043- 777412 / 043- 777438 ในวัน เวลา ราชการ
รัฐบาลขยายเวลาการยื่นเสนอโครงการพัฒนาเมือง
นายยุทธเดช พลอยสังวาล ท้องถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะเลขานุการคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมือง ได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่ชุมชนเมืองจังหวัดต่าง ๆ และกรุงเทพมหานคร ขอขยายเวลาการยื่นเสนอโครงการออกไปอีก เนื่องจากมีความสนใจที่จะขอรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาเมือง หากแต่อยู่ระหว่างการดำเนินกระบวนการ ประกอบกับ พบว่าโครงการบางส่วนอยู่ระหว่างการนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัด และคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองกรุงเทพมหานคร และบางโครงการอยู่ระหว่างการจัดประชุมประชาคม เพื่อเสนอโครงการเข้าสู่กระบวนการพิจารราของคณะทำงานฯ เพื่อนำส่งเข้าพิจารณาในคณะอนุกรรมการ ตามลำดับ ซึ่งอาจจะไม่ทันตามระยะเวลาสิ้นสุดการนำเสนอโครงการที่ได้กำหนดไว้ภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2556
เลขานุการคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองส่วนกลาง จึงได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุม ครั้งที่ 13/2556 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 เพื่อขอความเห็นชอบในการขยายเวลาการยื่นเสนอโครงการพัฒนาเมือง คณะกรรมการฯ ได้มีมติ เห็นชอบให้มีการขยายระยะเวลาการยื่นเสนอโครงการพัฒนาเมือง ปี 2556 จากเดิมภายในวันที่ 31 ตุลาคม ออกไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 ชุมชนเมืองใดที่สนใจจะเสนอโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดมหาสารคาม หรือที่สำนักงานเทศบาลเมืองมหาสารคาม
เลขานุการคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองส่วนกลาง จึงได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุม ครั้งที่ 13/2556 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2556 เพื่อขอความเห็นชอบในการขยายเวลาการยื่นเสนอโครงการพัฒนาเมือง คณะกรรมการฯ ได้มีมติ เห็นชอบให้มีการขยายระยะเวลาการยื่นเสนอโครงการพัฒนาเมือง ปี 2556 จากเดิมภายในวันที่ 31 ตุลาคม ออกไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 ชุมชนเมืองใดที่สนใจจะเสนอโครงการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดมหาสารคาม หรือที่สำนักงานเทศบาลเมืองมหาสารคาม
ฝนตกตลอด 2 วัน ส่งผลระดับน้ำชีที่มหาสารคามเพิ่มสูงขึ้น
อิทธิพลจากพายุนารี ทำให้มีฝนตกในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำชีขึ้นมาอยู่ที่ 6.10 เมตร ขณะที่ราษฎรริมฝั่งน้ำชี เตรียมพร้อมอพยพ ขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูงหากน้ำชีเอ่อล้น
จากอิทธิพลของพายุนารี ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศ ส่งผลให้มีฝนฟ้าคะนองตกลงมาในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ประกอบกับมวลน้ำจากจังหวัดชัยภูมิ และเขื่อนอุบลรัตน์จังหวัด ขอนแก่น ที่ได้ปล่อยลงสู่แม่น้ำชี ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำชีวันนี้ (17-10-56) ที่จังหวัดมหาสารคาม ขึ้นมาอยู่ที่ 6.10 เมตร และเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่นาบางส่วนของราษฎรในเขตอำเภอเมือง โกสุมพิสัยและกันทรวิชัย
ด้านนายฉลาม สุนทรพิศ ราษฎรหมู่ 11 บ้านดินดำ ตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม บอกว่า พื้นที่ที่ตนอยู่เป็นพื้นที่ต่ำ หากน้ำชีขึ้นสูง ก็จะเอ่อล้นทุกปี แต่ก็พออยู่ได้ ไม่เดือดร้อน หากน้ำมีระดับสูงมากขึ้น ก็ได้เตรียมที่จะอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของ และสัตว์เลี้ยงขึ้นไปไว้ที่สูง
ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม ได้มีการตั้งศูนย์เฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม ประจำปี 2556 ที่มีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง หน่วยงานในระดับท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัด สามารถแจ้งข้อมูลเพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ทันที
จากอิทธิพลของพายุนารี ที่อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศ ส่งผลให้มีฝนฟ้าคะนองตกลงมาในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ประกอบกับมวลน้ำจากจังหวัดชัยภูมิ และเขื่อนอุบลรัตน์จังหวัด ขอนแก่น ที่ได้ปล่อยลงสู่แม่น้ำชี ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำชีวันนี้ (17-10-56) ที่จังหวัดมหาสารคาม ขึ้นมาอยู่ที่ 6.10 เมตร และเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่นาบางส่วนของราษฎรในเขตอำเภอเมือง โกสุมพิสัยและกันทรวิชัย
ด้านนายฉลาม สุนทรพิศ ราษฎรหมู่ 11 บ้านดินดำ ตำบลเกิ้ง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม บอกว่า พื้นที่ที่ตนอยู่เป็นพื้นที่ต่ำ หากน้ำชีขึ้นสูง ก็จะเอ่อล้นทุกปี แต่ก็พออยู่ได้ ไม่เดือดร้อน หากน้ำมีระดับสูงมากขึ้น ก็ได้เตรียมที่จะอพยพเคลื่อนย้ายสิ่งของ และสัตว์เลี้ยงขึ้นไปไว้ที่สูง
ทั้งนี้ จังหวัดมหาสารคาม ได้มีการตั้งศูนย์เฉพาะกิจเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม ประจำปี 2556 ที่มีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง หากเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง หน่วยงานในระดับท้องถิ่น อำเภอ และจังหวัด สามารถแจ้งข้อมูลเพื่อขอรับความช่วยเหลือได้ทันที
จังหวัดมหาสารคามเสนอโครงการพัฒนาเมือง 16 โครงการ รอกลั่นกรองจากคณะทำงานฯส่วนกลาง
นายยุทธเดช พลอยสังวาลย์ ท้องถิ่นจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะเลขานุการคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายดำเนินโครงการพัฒนาเมือง เพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมแห่งความเป็นพลเมือง ในการร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ไขปัญหาของชุมชนอย่างรับผิดชอบร่วมกัน ตามวิถีของระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนในเขตเมือง ส่งเสริมให้เป็นเมืองน่าอยู่ ปลอดภัย เป็นเมืองแห่งสุขภาพ มีพื้นที่สร้างสรรค์ ตลอดจนเสริมสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และเป็นการกระจายอำนาจการตัดสินในการพัฒนาเมืองไปสู่ประชาชนในพื้นที่ชุมชนเมือง นั้น สำหรับจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งมีเทศบาลเมืองมหาสารคาม เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการขับเคลื่อน ให้ชุมชนนำเสนอโครงการพัฒนาเมือง ได้มีการนำเสนอโครงการเพื่อส่งให้คณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมหาสารคาม พิจารณาแล้วทั้งสิ้น 16 โครงการ โดยเป็นโครงการที่มีลักษณะของการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ เช่น โครงการก่อสร้างอาคารเมรุวัดปัจฉิมทัศน์ เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากเตาเผาของเมรุเดิม โครงการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในชุมชนบ้านแมด เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม โครงการติดตั้งกล้อง CCTV เพื่อรักษาความปลอดภัยในชุมชนธัญญา 3 เพื่อป้องกันเหตุร้าย สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับชุมชน เป็นต้น
โครงการพัฒนาเมืองทั้ง 16 โครงการ เทศบาลเมืองมหาสารคาม ได้นำเสนอเพื่อให้คณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมหาสารคาม พิจารณากลั่นกรอง และได้ส่งรายละเอียดโครงการดังกล่าว เพื่อให้คณะทำงานในส่วนกลางพิจารณาอนุมัติแล้ว
โครงการพัฒนาเมืองทั้ง 16 โครงการ เทศบาลเมืองมหาสารคาม ได้นำเสนอเพื่อให้คณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมหาสารคาม พิจารณากลั่นกรอง และได้ส่งรายละเอียดโครงการดังกล่าว เพื่อให้คณะทำงานในส่วนกลางพิจารณาอนุมัติแล้ว
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยที่จังหวัดชัยภูมิ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานความช่วยเหลือแก่ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม อำเภอคอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดคลี่คลายไปแล้ว 12 อำเภอ ยังคงมีน้ำท่วมขัง 4 อำเภอ
เวลา 14.30น. วันที่ 17 ตุลาคม 2556 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอกณรงค์ ยุทธวงศ์ รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายการจัดการและประสานงานทั่วไป และคณะ นำถุงยังชีพพระราชทาน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อำเภอคอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ จำนวน 300 ชุด ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านคอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ด้วยทรงตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นอำเภอสุดท้ายของจังหวัดชัยภูมิ ที่รองรับมวลน้ำ จากลำน้ำชี และน้ำจากลำน้ำต่างๆ ที่ไหลเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร อาคารบ้านเรือน สิ่งสาธารณูปโภค ได้รับความเดือดร้อน 5 ตำบล 34 หมู่บ้าน 2,780
ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร ประมาณ 45,000 ไร่
ด้านนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า จังหวัดชัยภูมิ ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำตามลำห้วย และลำน้ำสายหลัก คือแม่น้ำชี แม่น้ำพรม และแม่น้ำเซิน มีระดับสูงขึ้น เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำ ทั้งพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎร มีพื้นที่ประสบภัย 16 อำเภอ 112 ตำบล 1,244 หมู่บ้าน ราษฎร 106,399 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย
และยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อำเภอจัตุรัส เมืองชัยภูมิ เนินสง่า และอำเภอคอนสวรรค์ ขณะนี้ได้มอบหมายให้องค์กรปกครองท้องถิ่น เร่งสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
เวลา 14.30น. วันที่ 17 ตุลาคม 2556 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โปรดเกล้าฯ ให้พลเรือเอกณรงค์ ยุทธวงศ์ รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายการจัดการและประสานงานทั่วไป และคณะ นำถุงยังชีพพระราชทาน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อำเภอคอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ จำนวน 300 ชุด ณ หอประชุมโรงเรียนบ้านคอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ด้วยทรงตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นอำเภอสุดท้ายของจังหวัดชัยภูมิ ที่รองรับมวลน้ำ จากลำน้ำชี และน้ำจากลำน้ำต่างๆ ที่ไหลเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร อาคารบ้านเรือน สิ่งสาธารณูปโภค ได้รับความเดือดร้อน 5 ตำบล 34 หมู่บ้าน 2,780
ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร ประมาณ 45,000 ไร่
ด้านนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า จังหวัดชัยภูมิ ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำตามลำห้วย และลำน้ำสายหลัก คือแม่น้ำชี แม่น้ำพรม และแม่น้ำเซิน มีระดับสูงขึ้น เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำ ทั้งพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎร มีพื้นที่ประสบภัย 16 อำเภอ 112 ตำบล 1,244 หมู่บ้าน ราษฎร 106,399 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 4 ราย
และยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ อำเภอจัตุรัส เมืองชัยภูมิ เนินสง่า และอำเภอคอนสวรรค์ ขณะนี้ได้มอบหมายให้องค์กรปกครองท้องถิ่น เร่งสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
สุระพงค์ สวัสดิ์ผล / ข่าว
ปภ.เตือนประชาชนระวังพายุนารี ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจรติ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นประชาสัมพันธ์ผ่านรายการผู้ว่าพบประชาชน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2556 ว่าประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา"พายุ นารี" ฉบับที่ 19 ลงวันที่ 16 ตุลาคม 2556 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ที่อ่อนกำลังลงจากพายุ "นารี” ยังคงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และมหาสารคาม
ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และชลบุรี หย่อมความกดอากาศต่ำนี้ยังคงเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกและจะเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนล่างในวันพรุ่งนี้ ส่งผลให้มีฝนเพิ่มขึ้นในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกจะเริ่มมีฝนลดลงและจะกลับเข้าสูปกติในวันที่ 18 ตุลาคม 2556
แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขาใน 17จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและลมแรง จากพายุนารี ช่วงวันที่ 15-16 ตุลาคมนี้ โดยขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศ ประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือ ได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และชลบุรี หย่อมความกดอากาศต่ำนี้ยังคงเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกและจะเข้าปกคลุมภาคเหนือตอนล่างในวันพรุ่งนี้ ส่งผลให้มีฝนเพิ่มขึ้นในภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกจะเริ่มมีฝนลดลงและจะกลับเข้าสูปกติในวันที่ 18 ตุลาคม 2556
แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย บริเวณที่ราบลุ่มริมแม่น้ำ ที่ลาดเชิงเขาใน 17จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากภาวะฝนตกหนักและลมแรง จากพายุนารี ช่วงวันที่ 15-16 ตุลาคมนี้ โดยขอให้ติดตามพยากรณ์อากาศ ประกาศแจ้งเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยติดต่อแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือ ได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขาในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ข่าว/พิมพ์
ประมงจังหวัดขอนแก่นให้เจ้าของฟาร์มจระเข้พระยืน เฝ่าระวัง 24 ชม.ขณะที่น้ำชีมีปริมาณมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านโต้น อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจสอบฟาร์มจระเข้ที่บ้านหนองแวงข้าวนก หมู่ 6 ตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน ของนางแสงนภา สีพระบุ เจ้าของฟาร์มจระเข้ หลังน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งกำลังท่วมเข้าถึงท้ายฟาร์มจระเข้จากการตรวจสอบพบว่าฟาร์มจระเข้มีการเลี้ยงจระเข้ไว้ทั้งสิ้น 277 ตัว ซึ่งแต่ละตัวอายุประมาณ 1 ปี ถึง 2 ปี ความยาวของจระเข้ตั้งแต่ 1 เมตร ถึง 1.50 เมตร ขณะที่บ่อเลี้ยงทางเจ้าของฟาร์มได้ก่อขอบบ่อสูง 1 เมตรจากพื้น และมีตะแกรงปิดปากบ่อ ยกเว้นบ่อเลี้ยงขนาดใหญ่ที่ทำขอบบ่อสูง 1.70 เมตรในปี 2554 ที่ผ่านมาฟาร์มแห่งนี้เคยถูกน้ำท่วมเข้าถึงฟาร์ม ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้ทำตะแกรงครอบบ่อทำให้ต้องขนย้ายจระเข้ไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย จนมีข่าวลือว่ามีจระเข้หลุดออกจากฟาร์ม ทำให้ชาวบ้านใกล้เคียงเกิดหวาดระแวงสำหรับในปีนี้ทางฟาร์มได้มีการเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำชีอยู่ตลอดเวลา แต่น้ำยังไม่ถึงจุดเสี่ยง แต่ได้เตรียมความพร้อมที่จะเคลื่อนย้ายจระเข้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งได้ก่อสร้างกรงเหล็กไว้อย่างแน่นหนาแล้ว
นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ข่าว/พิมพ์
ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรชายา นำถุงยังชีพพระราชทานมอบราษฎรที่ถูกน้ำท่วม ที่จังหวัดขอนแก่น
ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ มอบถุงยังชีพพระราชทาน 1,000 ชุด ช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น
เช้าวันนี้ พฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556 เวลา 10.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ร้อยเอกไพบูลย์ สุขเจตนี รองผู้อำนวยการกองงาน พระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 1,000 ถุง ไปมอบให้แก่ราษฎรที่กำลังประสบอุทกภัย ณ หอประชุมที่ว่าการ อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้เป็นราษฎรจาก ตำบลชนบท 490 ครัวเรือน ตำบลศรีบุญเรือง 473 ครัวเรือน เทศบาลตำบลชนบท 37 ครัวเรือน โดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขก. และหัวหน้าส่วนราชการร่วมมอบถุงยังชีพพระราชทานด้วย การนี้ ได้ถวายถุงพระราชทานแด่วัดที่ประสบภัยจำนวน 7 แห่ง ถวายแด่พระภิกษุสามเณรจำนวนทั้งหมด 30 รูป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มาตรวจรักษาผู้ประสบอุทกภัยที่มีอาการเจ็บป่วยด้วย จังหวัดขอนแก่น
โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชนบท ได้ประสบอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2556 เป็นต้นมา ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำขนาดใหญ่ ไหลผ่านจากพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มาตามแม่น้ำชี เข้าสู่พื้นที่อำเภอชนบท จึงเป็นสาเหตุให้แม่น้ำชีล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎร และถนนทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย ราษฎรได้รับผลกระทบในด้านต่างๆเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะสิ่งสาธารณประโยชน์ และพื้นที่ทางการเกษตร ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยยังไม่ยุติ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลชนบท ตำบลศรีบุญเรือง ตำบลโนนพะยอม ตำบลวังแสง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 28 หมู่บ้าน 4,485 ครัวเรือน 14,822 คน ทั้งนี้ มีหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดเส้นทางจราจรไปมาลำบาก จำนวน 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน 1,668 ครัวเรือน ราษฎรส่วนใหญ่ มีความต้องการด้านสิ่งอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นขั้นพื้นฐาน พนังกั้นน้ำลำแม่น้ำชี ขุดลอกแหล่งน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ เพื่อเป็นแก้มลิง ยกระดับถนนที่อยู่ในระดับต่ำมีน้ำท่วมขังเป็นประจำทุกปี ให้มีระดับที่สูงขึ้น เพื่อสัญจรได้ทุกฤดูกาล และต้องการให้หน่วยงานภาครัฐให้การช่วยเหลือด้านส่งเสริมอาชีพหลังน้ำลด
เช้าวันนี้ พฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556 เวลา 10.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ร้อยเอกไพบูลย์ สุขเจตนี รองผู้อำนวยการกองงาน พระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 1,000 ถุง ไปมอบให้แก่ราษฎรที่กำลังประสบอุทกภัย ณ หอประชุมที่ว่าการ อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้เป็นราษฎรจาก ตำบลชนบท 490 ครัวเรือน ตำบลศรีบุญเรือง 473 ครัวเรือน เทศบาลตำบลชนบท 37 ครัวเรือน โดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขก. และหัวหน้าส่วนราชการร่วมมอบถุงยังชีพพระราชทานด้วย การนี้ ได้ถวายถุงพระราชทานแด่วัดที่ประสบภัยจำนวน 7 แห่ง ถวายแด่พระภิกษุสามเณรจำนวนทั้งหมด 30 รูป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มาตรวจรักษาผู้ประสบอุทกภัยที่มีอาการเจ็บป่วยด้วย จังหวัดขอนแก่น
โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชนบท ได้ประสบอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2556 เป็นต้นมา ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำขนาดใหญ่ ไหลผ่านจากพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มาตามแม่น้ำชี เข้าสู่พื้นที่อำเภอชนบท จึงเป็นสาเหตุให้แม่น้ำชีล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎร และถนนทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย ราษฎรได้รับผลกระทบในด้านต่างๆเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะสิ่งสาธารณประโยชน์ และพื้นที่ทางการเกษตร ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยยังไม่ยุติ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลชนบท ตำบลศรีบุญเรือง ตำบลโนนพะยอม ตำบลวังแสง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 28 หมู่บ้าน 4,485 ครัวเรือน 14,822 คน ทั้งนี้ มีหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดเส้นทางจราจรไปมาลำบาก จำนวน 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน 1,668 ครัวเรือน ราษฎรส่วนใหญ่ มีความต้องการด้านสิ่งอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นขั้นพื้นฐาน พนังกั้นน้ำลำแม่น้ำชี ขุดลอกแหล่งน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ เพื่อเป็นแก้มลิง ยกระดับถนนที่อยู่ในระดับต่ำมีน้ำท่วมขังเป็นประจำทุกปี ให้มีระดับที่สูงขึ้น เพื่อสัญจรได้ทุกฤดูกาล และต้องการให้หน่วยงานภาครัฐให้การช่วยเหลือด้านส่งเสริมอาชีพหลังน้ำลด
สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/พัณณิตา นศ.ฝึกงาน/พิมพ์
โครงการพัฒนาเมือง ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชุมชนเมืองขอนแก่น
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาเมืองเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เปิดตัวโครงการไปเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๖งบประมาณ ๑,๓๐๐ ล้านบาท โดยมีสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบและบริหารจัดการโครงการในระดับนโยบาย สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการเพื่อช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการ วัตถุประสงค์ของโครงการพัฒนาเมือง เพื่อลดช่องว่างในการเข้าถึงงบประมาณโครงการ แต่มีพื้นที่บางแห่ง เช่น หมู่บ้านจัดสรรบางแห่งไม่ต้องการปรับสถานะเป็นชุมชน เนื่องจากไม่ต้องการให้พื้นที่หมู่บ้านกลายเป็นพื้นที่สาธารณะ จึงไม่สามารถขอรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML) ได้ หรือกรณีพื้นที่ที่เป็นบ้านเช่า จะไม่สามารถขอรับการสนับสนุนงบประมาณโครงการได้เช่นกัน ข้อจำกัดในการจัดประชาคม เนื่องจากบางชุมชนเป็นชุมชนที่มีขนาดใหญ่และมีจำนวนประชากรมาก ทำให้ไม่สามารถจัดหาพื้นที่เพื่อจัดการประชุมประชาคมหรือรวบรวมกลุ่มคนได้จากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ปัญหาและความต้องการในการพัฒนาของแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันให้มีความครอบคลุม เหมาะสมและตรงกับความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมให้เกิดขึ้นกับคนในชุมชนเพื่อพัฒนาพื้นที่ชุมชนให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ และคนในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แนวทางในการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ใช้หลักเกณฑ์กลุ่มของประชาชนที่รวมตัวกันเป็นเกณฑ์ โดยพิจารณาอนุมัติโครงการและกรอบวงเงินค่าใช้จ่ายให้กับผู้เสนอโครงการในพื้นที่ชุมชน ประโยชน์ต่อส่วนรวม ทั้งคนในชุมชนและบริเวณรอบชุมชนด้วย เพื่อให้ชุมชนเมืองเป็นเมืองที่มีคุณภาพ เมืองปลอดภัย เมืองมั่นคง เมืองสิ่งแวดล้อม เมืองท่องเที่ยว เมืองแห่งการเรียนรู้ สรุปคือทำให้เมืองเป็นเมืองน่าอยู่ และคนในชุมชนเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ เทศบาลนคร ในแต่ละจังหวัด ๗๖ จังหวัด และเมืองพัทยา สามารถยื่นคำขอรับการสนับสนุนเงินอุดหนุนได้ที่สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดในแต่ละจังหวัดจังหวัด
ขอนแก่นมีครงการศูนย์อุ่นใจสานรักคนเมือง ของชุมชน 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนศรีหมอน ชุมชนจัดสรร ชุมชนตลาด 123 และชุมชนโนนสวรรค์ เทศบาลเมืองบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เป็นโครงการที่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวสร้างสรรค์พื้นที่ในการดูแลเด็ก เยาวชนและคนชรา ตลอดจนทำให้ชุมชนมีศูนย์กลางในการทำกิจกรรมร่วมกันและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้ของคนในชุมชนทุกกลุ่มวัยให้มีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องโดยชุมชน ภายใต้การสนับสนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ขอนแก่นมีครงการศูนย์อุ่นใจสานรักคนเมือง ของชุมชน 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนศรีหมอน ชุมชนจัดสรร ชุมชนตลาด 123 และชุมชนโนนสวรรค์ เทศบาลเมืองบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น เป็นโครงการที่เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัวสร้างสรรค์พื้นที่ในการดูแลเด็ก เยาวชนและคนชรา ตลอดจนทำให้ชุมชนมีศูนย์กลางในการทำกิจกรรมร่วมกันและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้ของคนในชุมชนทุกกลุ่มวัยให้มีการดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องโดยชุมชน ภายใต้การสนับสนุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ข่าว/พิมพ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นมอบนโยบายการให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรชาวสวนยาง
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่าได้ประชุมคณะกรรมการโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบ ของจังหวัดขอนแก่น ขอให้กรรมการทุกคนทั้งนายอำเภอ เกษตรอำเภอได้ทำความเข้าใจและตั้งคณะกรรมการในแต่ละตำบลเพื่อตรวจสอบพื้นที่การปลูกยางพารารวมทั้งพื้นที่การเปิดกรีดยางทั้ง 26 อำเภอซึ่งมีปลัดเทศบาลหรือปลัด อบต.ในพื้นที่เป็นประธานมีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่กองทุนสวนยางเป็นกรรมการทำหน้าที่ออกไปตรวจสวนยางในเขตตำบลนั้นๆ สำหรับขอนแก่นมีเกษตรกรปลูกยางพารา 5,733ครัวเรือน มีการมายื่นคำร้องรับขึ้นทะเบียนแล้ว 4,879 ครัวเรือน มีพื้นที่ปลูกยาง81,284 ไร่มีพื้นที่เปิดกรีดยางแล้ว 49,919 ไร่พื้นที่ปลูกยางพารามากที่สุดที่อำเภอกระนวนจำนวน 38,8559 ไร่รองลงมาคืออำเภอน้ำพอง 7,252 ไร่ สำหรับหลักเกณฑ์การออกตรวจแปลงปลูกยางพาราเพื่อรับเงินชดเชยตามนโยบายรัฐบาลต้องเป็นไปตามที่กรมส่งเสริมการเกษตรกำหนดได้แก่แปลงที่เปิดกรีดยางมีต้นยางสูงกว่าพื้นดินไม่น้อยกว่า150 ซม.วัดรอบต้น 50 ซม.เปิดกรีดยางมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน หรืออยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมการในพื้นที่ทั้ง 26 อำเภอเมื่อคณะกรรมการพื้นที่ออกตรวจแปลงปลูกยางพาราแล้วให้รีบรายการเข้าคณะกรรมการระดับจังหวัดอย่างเร่งด่วนโดยมีสำนักงานกองทุนสวนยางเป็นเลขาคณะกรรมการระดับจังหวัด การจัดทำการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราของจังหวัดขอนแก่นให้แก่ตัวแทนสำนักงานเกษตรอำเภอทั้ง 26 อำเภอ เพื่อทำความเข้าใจหลักเกณฑ์และขั้นตอนการขึ้นทะเบียนโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบปี 2557 ให้ปฏิบัติงานได้ถูกต้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
จากนั้นจะมีการตรวจสอบรายชื่อและจำนวนพื้นที่ปลูกยางพาราของเกษตรกร ก่อนที่จะมีการรับรองและได้ให้ความช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตเป็นเงินสดในอัตราไร่ละ 1,260บาทผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แก่เกษตรกรรายละไม่เกิน 10 ไร่ตามพื้นที่เปิดกรีดจริง และต้องเป็นเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิหรือสิทธิทำกิน สำหรับจังหวัดขอนแก่นมีเกษตรกรปลูกยางพาราทั้งสิ้น 4,915ครัวเรือน รวมพื้นที่ปลูกยางพารา 64,000 ไร่ โดยเป็นพื้นที่เปิดกรีดยาง 24,000 ไร่ และเป็นพื้นที่ปลูกใหม่ 40,000 ไร่
จากนั้นจะมีการตรวจสอบรายชื่อและจำนวนพื้นที่ปลูกยางพาราของเกษตรกร ก่อนที่จะมีการรับรองและได้ให้ความช่วยเหลือค่าปัจจัยการผลิตเป็นเงินสดในอัตราไร่ละ 1,260บาทผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร แก่เกษตรกรรายละไม่เกิน 10 ไร่ตามพื้นที่เปิดกรีดจริง และต้องเป็นเกษตรกรที่มีเอกสารสิทธิหรือสิทธิทำกิน สำหรับจังหวัดขอนแก่นมีเกษตรกรปลูกยางพาราทั้งสิ้น 4,915ครัวเรือน รวมพื้นที่ปลูกยางพารา 64,000 ไร่ โดยเป็นพื้นที่เปิดกรีดยาง 24,000 ไร่ และเป็นพื้นที่ปลูกใหม่ 40,000 ไร่
นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ข่าว/พิมพ์
รับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น กรรมการ ป.ป.จ.กาฬสินธุ์
นายจำเนียร มูลสาร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์เปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือ กรรมการ ป.ป.จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งจังหวัดกาฬสินธุ์มีการกรรมการ ป.ป.จ.ได้จำนวน 3 คน มีวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี และจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 1 วาระไม่ได้ ไม่ว่าในจังหวัดใด ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและยื่นใบสมัครเข้ารับการสรรหาฯ พร้อมหลักฐานด้วยตนเอง ต่อประธานกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.กาฬสินธุ์ ระหว่างวันที่ 28 ตุลาคม – 5 พฤศจิกายน 2556 ณ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ อาคารสำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ชั้น 2 อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ โทร. 0 4381 6398-9
สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว
แขวงการทางกาฬสินธุ์เตือนผู้ใช้ทางช่วงสะพานข้ามลำน้ำพานเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ
นายพูลศักดิ์ สาระคร ผู้อำนวยการแขวงการทางกาฬสินธุ์แจ้งว่า แขวงการทางกาฬสินธุ์ได้ตรวจสอบสะพานในทางหลวงหมายเลข 12 สาย อำเภอยางตลาด-กาฬสินธุ์ สะพานคู่ กม.626+128 สะพานข้ามลำน้ำพาน ทิศทางมาจากอำเภอยางตลาด เนื่องจากสะพานด้านซ้ายทาง ที่ก่อสร้างมาตั้งแต่ ปี 2509 มีสภาพชำรุด คือรอยต่อระหว่างช่วงสะพานแตกชำรุด ส่วนสะพานทางด้านขวาทางเกิดการแตกร้าวเป็นแนวยาว ตามทางรถวิ่งและรอยต่อระหว่างช่วงสะพานเกิดความชำรุดเช่นเดียวกัน เนื่องจากสภาพอายุการใช้งานมานาน
แขวงการทางกาฬสินธุ์จึงจะดำเนินการซ่อมและบูรณะสะพานประมาณวันที่ 14 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2556 โดยจะเริ่มซ่อมรอยต่อช่วงสะพานด้านซ้ายก่อน และจะปิดช่องจราจรให้เหลือ 1 ช่อง สลับไปมา ในขณะซ่อมฯ เสร็จแล้วจึงจะทำการซ่อมพื้นและรอยต่อช่วงสะพานด้านขวาทาง จะปิดการจราจรมาใช้สะพานด้านซ้ายทั้งหมด ซึ่งรถจะต้องวิ่งสวนทางการกันข้างละ 1 เลน จึงขอให้ผู้ใช้ทางได้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยการชะลอความเร็ว และปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรโดยเคร่งครัดด้วย
แขวงการทางกาฬสินธุ์จึงจะดำเนินการซ่อมและบูรณะสะพานประมาณวันที่ 14 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2556 โดยจะเริ่มซ่อมรอยต่อช่วงสะพานด้านซ้ายก่อน และจะปิดช่องจราจรให้เหลือ 1 ช่อง สลับไปมา ในขณะซ่อมฯ เสร็จแล้วจึงจะทำการซ่อมพื้นและรอยต่อช่วงสะพานด้านขวาทาง จะปิดการจราจรมาใช้สะพานด้านซ้ายทั้งหมด ซึ่งรถจะต้องวิ่งสวนทางการกันข้างละ 1 เลน จึงขอให้ผู้ใช้ทางได้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ ด้วยการชะลอความเร็ว และปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจรโดยเคร่งครัดด้วย
สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว
จังหวัดสุรินทร์จัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์
นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ แจ้งว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ครั้งที่ 53 ระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 รวม 12 วัน ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ เพื่อแสดงถึงความสามารถของช้าง และเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ในงานจะมีการจัดนิทรรศการ การออกร้านจำหน่ายสินค้า การออกร้านของส่วนราชการ การจำหน่ายสินค้าโอท็อป การประกวดผลิตผลทางการเกษตร การประกวดของดีเมืองสุรินทร์ การแสดงดนตรี การแสดงศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งการออกร้านธารากาชาดของเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ และการแสดงช้าง ซึ่งแสดงถึงวิถีชีวิตความผูกพันระหว่างช้างกับชาวสุรินทร์ การจำลองพิธีกรรมเกี่ยวกับการเลี้ยงช้าง เช่น การคล้องช้าง การชักเย่อคนกับช้าง ช้างแข่งฟุตบอล การจำลองขบวนช้างศึกสงครามยุทธหัตถี การแสดงความสามารถของช้าง การแสดงของช้างน้อยน่ารักแสนรู้เป็นต้น
สุวรรณ ศรีอาภรณ์
จ.กาฬสินธุ์ รับสมัครการประกวดราชินีไหซองในงานวิจิตรแพรวา ราชินีแห่งไหม ประจำปี 2556
นางสุคนธา จันโทมุข รองผู้อำนวยการวิทยาลัยนาฎศิลป์กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำหนดจัดงานวิจิตรแพรวาราชินีแห่งไหม ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 1-7 พฤศจิกายน 2556 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ้าไหมแพรวา ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดกาฬสินธุ์ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดกาฬสินธุ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ภายในงานมีกิจกรรมการเดินแบบผ้าไหมแพรวา, การประกวดผ้าไหมแพรวา การจำหน่ายผ้าไหมแพรวา, สินค้า OTOP, การประกวดต่าง ๆ มากมาย และพิเศษสุดในปีนี้มีการจัดการประกวดราชินีไหซอง เพื่อส่งเสริม สืบสาน ศิลปวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบไป
สำหรับการประกวดราชินีไหซอง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทนักเรียน นักศึกษา ซึ่งต้องมีคำรับรองของหัวหน้าสถานศึกษา และประเภทประชาชนทั่วไป โดยรางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินสด 7,000.-บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินสด 5,000.-บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินสด 3,000.-บาท และรางวัลชมเชย 2 รางวัล ๆ ละ 1,000.-บาท พร้อมเกียรติบัตรทุกรางวัล กำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 11-25 ตุลาคม 2556 เวลา 09.00-16.00 น. เว้นวันหยุดราชการ ที่ห้องธุรการ สำนักงานอำนวยการ วิทยาลัยนาฎศิลปกาฬสินธุ์ โทรศัพท์ 043-811317 หรือที่ นางสาวบัวผัน ภูษาจารย์ โทร. 087-2186429, นางพรสวรรค์ พรดอนก่อ โทร. 085-7409974, นางสุคนธา จันโทมุข โทร.086-4557660 สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://cdaks.bpi.ac.th
สำหรับการประกวดราชินีไหซอง แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทนักเรียน นักศึกษา ซึ่งต้องมีคำรับรองของหัวหน้าสถานศึกษา และประเภทประชาชนทั่วไป โดยรางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินสด 7,000.-บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 เงินสด 5,000.-บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 เงินสด 3,000.-บาท และรางวัลชมเชย 2 รางวัล ๆ ละ 1,000.-บาท พร้อมเกียรติบัตรทุกรางวัล กำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 11-25 ตุลาคม 2556 เวลา 09.00-16.00 น. เว้นวันหยุดราชการ ที่ห้องธุรการ สำนักงานอำนวยการ วิทยาลัยนาฎศิลปกาฬสินธุ์ โทรศัพท์ 043-811317 หรือที่ นางสาวบัวผัน ภูษาจารย์ โทร. 087-2186429, นางพรสวรรค์ พรดอนก่อ โทร. 085-7409974, นางสุคนธา จันโทมุข โทร.086-4557660 สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://cdaks.bpi.ac.th
ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว
ผู้ว่าฯเชิญชวนสาวกาฬสินธุ์เข้าร่วมประกวดนางสาวไทยประจำปี2556
นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่า ตามที่ บริษัท อสมท จำกัด มหาชน ร่วมมือกับสมาคมศิษย์เก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2556 เพื่อเฟ้นหาสาวงามมากความสามารถจากทั่วประเทศ มาประกวดบนเวทีอันทรงคุณค่าเพื่อครองมงกุฎเพชรและตำแหน่งนางสาวไทยคนที่ 48 โดยจะจัดการประกวดรอบตัดสินในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ณ เซ็นทรัลเวิลด์ไลฟ์ ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เปิดรับสมัครผู้สนใจจากทั่วประเทศในวันที่ 26-29 ตุลาคม 2556 เวลา 10.00-20.00 น. ณ ลานอีเดน ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จึงขอเชิญชวนสาวกาฬสินธุ์สมัครเข้าร่วมการประกวดนางสาวไทยประจำปี 2556 เพื่อเป็นตัวแทนของจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าร่วมประชันความงามและความสามรถบนเวทีอันทรงเกียรตินี้
สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว
จังหวัดขอนแก่นขอเชิญชมงานโรดโชว์นิทรรศการสร้างอนาคตไทย 2020 ของรัฐบาล
นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น แจ้งว่า รัฐบาลได้กำหนดจัดนิทรรศการและเสวนาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศภายใต้ชื่องาน "สร้างอนาคตไทย 2020” ใน 12 จังหวัด โดยในส่วนของจังหวัดขอนแก่น กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมีเนื้อหาในการจัดนิทรรศการและเสวนา ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นส่วนของการจัดนิทรรศการ แยกเป็น 2 ส่วน คือ เป็นนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟรางคู่ โครงการสร้างโครงข่ายถนน 4 เลน และนิทรรศการที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง จะได้รับประโยชน์จากโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ส่วนที่ 2 เป็นการจัดเสวนาและรับฟังความคิดเห็นจากคนในพื้นที่โดยมีนายกิติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมการเสวนา ส่วนที่ 3 เป็นกิจกรรมสาระและบันเทิง มีการแข่งขันประกวดอาหารภูมิภาค เพื่อหาผู้ชนะเลิศไปแข่งขันระดับประเทศ เป็นผู้ประกอบอาหารปิ่นโตบนรถไฟความเร็วสูง และการทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงจำลอง พบกับดารา นักแสดงจากหลายค่าย และรับมอบของแจกของที่ระลึกจำนวนมาก ส่วนที่ 4 เป็นการจำหน่ายสินค้า OTOP จากทั่วประเทศ และสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดจากกระทรวงพาณิชย์
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น แจ้งด้วยว่า เพื่อเป็นการรับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริงของโครงการนี้ให้ถูกต้อง ตลอดจนรัฐบาลเองก็อยากได้รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปปรับปรุงโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ จังหวัดขอนแก่นจึงขอเชิญชวน ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ไปชมและร่วมงานนิทรรศการและการเสวนา "สร้างอนาคตไทย 2020” ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระหว่างวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2556 นี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น แจ้งด้วยว่า เพื่อเป็นการรับทราบข้อมูล ข้อเท็จจริงของโครงการนี้ให้ถูกต้อง ตลอดจนรัฐบาลเองก็อยากได้รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล เพื่อเป็นแนวทางในการนำไปปรับปรุงโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ จังหวัดขอนแก่นจึงขอเชิญชวน ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ไปชมและร่วมงานนิทรรศการและการเสวนา "สร้างอนาคตไทย 2020” ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระหว่างวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2556 นี้
สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)