วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

จังหวัดขอนแก่นปล่อยแถวจู่โจมกวาดล้างยาเสพติดตามนโยบายขอนแก่นปลอดยาเสพติดยั่งยืน

เมื่อเวลา 05.00 น. วันนี้ (28 เม.ย. 2557 ) นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นพร้อมด้วยพลตำรวจตรีชอบ คิสาลัง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น พันเอกจตุพงษ์ บกบน รอง ผอ.กอ.รมน.ขอนแก่นร่วมกันปล่อยแถว ตำรวจ ร่วมกับปปส.ภาค 4  ตชด. กรมการปกครอง บูรณาการทำงานเพื่อจู่โจมตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายแพร่ระบาดยาเสพติดในจังหวัดขอนแก่นจำนวน 100 จุดครอบคลุมทั้ง 26 อำเภอซึ่งแยกการทำงานในแต่ละอำเภอ และในเวลา 10.30 น. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ได้นำชุดจับกุมร่วมกันจะมีการแถลงข่าวผลการกวาดล้างในครั้งนี้ที่หน้ากองบังคับการตำรวจจังหวัดขอนแก่น  ซึ่งการกวาดล้างครั้งนี้สามารถ จับกุมผู้ที่กระทำผิดตามหมายศาลพร้อมตรวจยึดยาเสพติดได้หลายรายการมีผู้ต้องหา 23 คน ยาบ้า 123 เม็ด กัญชา 1.76 กรัม 3 ห่อ 3 ต้น ยาไอซ์  1 กรัม อาวุธปืน 8 กระบอก กระสุนปืน 149 นัด ไม้พยุง 5 ท่อนมีการตรวจปัจสาวะเบื้องต้นในกลุ่มเป้าหมาย 100 คนพบสีม่วง 59 คนการตรวจค้นครั้งนี้ถือเป็นไป ตามโครงการ "จังหวัดขอนแก่น ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดอย่างยั่งยืน” ปี 2557  เพื่อป้องกันปราบปรามยาเสพติดให้หมดจากจังหวัดขอนแก่น   เป็นมาตรการด้านการป้องกันยาเสพติดในจุดเสี่ยงต่อการค้าและแพร่ระบาด ยาเสพ ซึ่งเน้นปฏิบัติการ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการป้องกันในทุกจุดเสี่ยง ครอบคลุมทุกพื้นที่ ได้แก่ หมู่บ้าน ชุมชน  ศาสนสถาน วัด โบสถ์ มัสยิด โรงเรียน โรงงาน  สถานบริการ  ร้านเกมคาราโอเกะ  หอพัก  เรือนจำ และโรงพัก  ด้านการปราบปรามผู้ค้า ผู้ผลิตยาเสพติด  และด้านการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด  สำหรับการจู่โจมตรวจค้น พื้นที่เป้าหมายทั้งจังหวัดครั้งนี้ เป็นการป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งถือเป็นจุดเสี่ยงต่อการค้าและแพร่ระบาดของยาเสพติด  รวมทั้งเพื่อลดระดับปัญหายาเสพติดไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต ระบบเศรษฐกิจ และความสงบสุขของประชาชน ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ยุติโดยเร็ว

กรมประชาสัมพันธ์จัดสัมมนาสื่อมวลชนสัญจรจาก 11 จังหวัดภาคอีสาน ตามโครงการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนประชาคมอาเซียน และชายแดนใต้

กรมประชาสัมพันธ์จัดสัมมนาสื่อมวลชนสัญจรจาก 11 จังหวัดภาคอีสาน ตามโครงการประชาสัมพันธ์ สนับสนุนประชาคมอาเซียน และชายแดนใต้ เมื่อวันที่ (25 เมษายน 2557) ที่ผ่านมา ที่ห้องพันล้าน คอนเวนชั่น โรงแรมพันล้าน บูติค รีสอร์ท อำเภอเมืองหนองคาย ได้มีพิธีเปิดการจัดการสัมมนาสื่อมวลชนสัญจรตามโครงการประชาสัมพันธ์สนับสนุนประชาคมอาเซียน และการเสวนาร้อยรวมใจเพื่อใต้สันติสุข ตามแผนยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ของกรมประชาสัมพันธ์ในปี 2557 โดยมี นายอโณทัย ธรรมกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา

นายสมพงษ์ ปัตตานี ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่าในปีงบประมาณ 2557 กรมประชาสัมพันธ์ได้จัดสรรงบประมาณตามยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ของรัฐให้สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น ในฐานะสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดผู้แทนภาค 1 ซึ่งประกอบด้วย 11 จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน คือ จังหวัดนครราชสีมา , ชัยภูมิ , เลย , หนองบัวลำภู, อุดรธานี, หนองคาย, บึงกาฬ, สกลนคร, ขอนแก่น , มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ จัดกิจกรรมในรูปแบบของการบูรณาการร่วมกันทั้ง 11 จังหวัด รวม 2 กิจกรรม คือ 1. กิจกรรมการเสวนาหัวข้อร้อยรวมใจ เพื่อใต้สันติสุข ตามโครงการประชาสัมพันธ์สนับสนุนการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ และกิจกรรมการเสวนาสื่อมวลชนสัญจร หัวข้อ การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตามโครงการสร้างและพัฒนาเครือข่ายด้านการประชาสัมพันธ์ประชาคมอาเซียน ในระหว่างวันที่ 25 – 26 เมษายน 2557 ผู้เข้าร่วมการเสวนาประกอบด้วยประชาสัมพันธ์จังหวัด ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย สื่อมวลชน นักจัดรายการวิทยุ และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชน (อป.มช.)จาก 11 จังหวัดๆละ 10 คน จำนวน 110 คน         

วัตถุประสงค์ของการจัดเสวนาเพื่อให้ผู้เข้าร่วมเสวนามีความรู้ มีความเข้าใจเรื่องสถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย เพื่อให้รับทราบหลักคำสอนในพุทธศาสนาและศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อันจะเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตที่จะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันภายในสังคมและประเทศอย่างสันติสุข บนพื้นฐานของความแตกต่างทางศาสนา เพื่อให้ผู้เข้าร่วมเวทีเสวนาได้รับทราบถึงการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจากมุมมองของภาคราชการ และภาคเอกชน โดยเฉพาะในจังหวัดหนองคาย ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนของไทยว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้อย่างไรบ้าง นอกจากเสวนาในห้องประชุมแล้วยังได้กำหนดนำผู้เข้าร่วมเสวนาไปศึกษาวิถีชีวิตความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ สังคม ของประเทศเพื่อนบ้านซึ่งเป็นประเทศสมาชิกอาเซียน ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และด่านการค้าขายชายแดน ลาว โดยผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย – ลาว ที่จังหวัดหนองคายด้วย.




สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว

แกนนำ นปช. เดินสายปราศรัย ที่ชัยภูมิ

แกนนำ นปช. เปิดเวทีปราศรัย ที่ชัยภูมิ ต่อต้าน การเสนอชื่อนายก มาจากคนกลาง ชักชวน คนเสื้อแดงทั่วประเทศ ไปชุมนุมใหญ่ กรุงเทพ 6 พฤษภาคม นี้

เมื่อเวลา 16.49 น. วันนี้ 27 เมษายน 2557 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. พร้อมด้วย นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ วีระกานต์ มุสิกพงศ์ เข้าทำพิธีบวงสรวง เจ้าพ่อพญาแล เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก ที่วงเวียนอนุสาวรีย์ กลางเมืองชัยภูมิ ก่อนจะนำ แกนนำ และ ตัวแทน นปช.จากจังหวัดต่างๆ เดินเท้า จาก อนุสาวรีย์ เจ้าพ่อพญาแล สู่ เวทีปราศรัย สนามกีฬาจังหวัดชัยภูมิ ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร

เวลา 18.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ได้นำแกนนำ ขึ้นเวที นำพลังมวลชน ชาว นปช. จากจังหวัดต่างๆ กว่า 1 หมื่นคน ยืนตรงเคารพธงชาติ ก่อนจะปราศรัยเป็นคนแรก ชักชวน นปช.ชัยภูมิ ไปร่วมชุมนุมใหญ่ ที่กรุงเทพ วันที่ 6 พฤษภาคม นี้ แสดงพลัง ปกป้องประชาธิปไตย จากนั้นได้เปิดเวที ให้นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ สส.ชัยภูมิ หลายสมัย ในฐานะเจ้าของบ้าน กล่าวแสดงความขอบคุณ จากนั้นแกนนำได้ผลัดกันขึ้นเวที

เวลา 18.302 น. วีระกานต์ มุสิกพงศ์ ได้กล่าวโจมตี ระบอบอำมาตย์ ที่ อยู่เบื้องหลังนายสุเทพ ฯ ว่า เป็นระบอบที่ ทำลายประชาธิปไตย โจมตีการทำงานฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดีทุจริตโครงการจำนำข้าว คดีโยกย้ายข้าราชการประจำ ตอบโต้ นายสุเทพฯ กรณีไล่นายกออกจากตำแหน่ง แล้ว แล้วหานายกคนกลาง ตามด้วยนางธิดา ถาวรเศรษฐ และปิดท้ายด้วยนาณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ

ผู้สื่อข่าวว่า รายงานว่า การเปิดเวที ของ นปช. ที่ชัยภูมิ ครั้งนี้ มีการวางระบบรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ตำรวจชัยภูมิ ใช้กำลังกว่า 300 นาย ทั้งใน และนอกเครื่องแบบ และชุดควบคุมฝูงชน รักษาความเรียบร้อยด้านนอกสนามกีฬา จัดชุด รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ตั้งชุดสะแกน หาวัตถุอันตราย ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมทุกคน นอกจากนี้ด้านใน ยังมีการ์ด นปช. สวมชุดดำ กว่า 100 คน ยืนเป็นแนว คอยรักษาความปลอดภัย รอบๆเวที และทางเข้า-ออก หลังเวที อย่างเข้มข้น ไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป ยกเว้นแต่ การ์ด และ นักข่าวเท่านั้น



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

มมส ร่วมจัดคอนเสิร์ต ดนตรีบรรเลง ขับเพลงประสาน

จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดการแสดงคอนเสิร์ต ดนตรีบรรเลง ขับเพลงประสาน โดยวงดุริยางค์เยาวชนไทยในพระอุประถัมภ์ พระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนไทย

ที่ ห้องประชุมชั้น 3 วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม และวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้จัดการแสดงคอนเสิร์ต ดนตรีบรรเลง ขับเพลงประสาน โดยวงดุริยางค์เยาวชนไทยในพระอุประถัมภ์ พระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนไทย โดยมี นายนพวัชร สิงห์ ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงาน

นางดาวลดา พันธ์วร ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่วงดุริยางค์เยาวชนไทยในพระอุประถัมภ์ พระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และคณะนักร้องประสานเสียงเยาวชนไทย ได้มาอบรมเชิงปฏิบัติการทางดนตรีสากลและขับร้องประสานเสียง ประจำปี 2557 ณ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในช่วงวันที่ 24-28 เมษายน 2557 หลังการอบรมจึงได้จัดการแสดงคอนเสิร์ตให้ผู้สนใจได้เข้าชม โดยกิจกรรมดังกล่าว ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนไทย ที่มีความสามารถด้านดนตรีสากลและการขับร้องประสานเสียงได้รับการถ่ายทอดความ รู้ และพัฒนาการบรรเลงดนตรีและการขับร้องประสานเสียงอย่างถูกหลักวิธี จากวิทยากรผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มพูนทักษะ และเสริมสร้างประสบการณ์ ที่จะก้าวไปสู่ขั้นมาตรฐานสากล




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

กาชาดมหาสารคาม มอบของช่วยผู้ประสบวาตภัย

คณะกรรมการเหล่าชาดมหาสารคาม มอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชนที่ประสบวาตภัย ลมพายุพัดบ้านเรือนเสียหายที่ตำบลบัวค้อ อ.เมืองมหาสารคาม

(28-04-57) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบัวค้อ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม นางพูลทรัพย์ สิงห์ศักดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม นำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ไม้และสังกะสี มอบให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน บ้านเรือนเสียหายจากเหตุวาตภัย ลมพายุพัดกระหน่ำบ้านเรือน เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2557 ที่ผ่านมา ในช่วงเวลาประมาณ 19.20 น. ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนในตำบลบัวค้อเสียหาย จำนวน 146 หลังคาเรือน

นายนิโรจน์ ไชยกองชา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบัวค้อ กล่าวว่า อบต.บัวค้อ มี 10 หมู่บ้าน ประชากรประมาณ 6,200 คน 1,264 ครัวเรือน จากเหตุพายุพัดกระหน่ำบ้านเรือนที่เกิดขึ้นกระจายไปทั่วตำบล ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนบ้านพังเสียหายจำนวนมาก ในส่วนของ อบต.เอง ได้เร่งสำรวจและให้การช่วยเหลือด้านวัสดุอุปกรณ์ในการซ่อมแซมบ้าน และช่วยเหลือด้านอื่นๆ ไปในเบื้องต้นแล้ว ซึ่งขณะนี้ประชาชนได้ซ่อมแซมบ้านที่เสียหายเป็นที่เรียบร้อยและเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว




ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

ชาวนาจังหวัดมหาสารคามร้องให้รัฐบาลจำนำข้าว

ชาวนาจังหวัดมหาสารคาม เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดุแลเรื่องราคาข้าวเนื่องจากราคาตกต่ำ พร้อมกับให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว

บ่ายวันนี้ (28 เม.ย. 57) เกษตรชาวนา อำเภอกันทรวิชัย โกสุมพิสัย และอำเภอเมืองมหาสารคามประมาณ 200 คน รวมตัวยื่นหนังสือถึงผ่าน นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องราคาข้าว เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังและนำข้าวเปลือกไปขายให้โรงสีหรือพ่อค้ารับซื้อข้าว ได้ในราคาตันละ 5,600 บาท เกษตรกรต้องประสบปัญหากับการขาดทุน ทั้งนี้เกษตรกรต้องการราคาข้าวเปลือกอย่างต่ำราคาตันละ 10,000 บาท พร้อมกับเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อจะได้มีรัฐบาลที่มีอำนาจในการช่วยเหลือชาวนาอย่างแท้จริงต่อไป

นายเมธี สุพรรณฝ่าย ปลัดจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จะนำข้อเรียกร้องและปัญหาของเกษตรกรเพื่อเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป สร้างความพึงพอใจให้กับเกษตรกรต่างก็แยกย้ายกันกลับ




ส.ปชส.มค./ ภาพ-ข่าว

นครชัยแอร์ พร้อมเปิดเส้นทางเดินรถสายมหาสารคาม-กทม. ขยายตลาดลูกค้าอีสาน

บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเส้นทางเดินรถ สายมหาสารคาม-กรุงเทพฯ ด้วยมาตรฐาน วีไอพี 32 ที่นั่ง ขยายตลาดลูกค้าภาคอีสาน ด้วยมาตรฐาน ความปลอดภัย ตรงเวลา สะดวกสบายตลอดการเดินทาง

(28-4-57) นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีเปิดเส้นทางใหม่ สายมหาสารคาม-กรุงเทพมหานคร ของบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด ที่บริเวณด้านหน้าศูนย์บริการลูกค้านครชัยแอร์ จังหวัดมหาสารคาม โดยมีนายจักรรินทร์ วงศ์เบญจรัตน์ ประธานผู้ก่อตั้งบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด คณะผู้บริหาร และผู้แทนส่วนราชการจังหวัดมหาสารคาม ร่วมพิธีเปิดเดินรถเที่ยวปฐมฤกษ์

นายยิ่งกมล มั่นภักดี ผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด กล่าวว่า เส้นทางสายมหาสารคาม-กรุงเทพมหานคร ที่เปิดให้บริการวันนี้ นับเป็นเส้นทางใหม่ล่าสุด โดยเป็นเส้นทางลำดับที่ 18 ของบริษัท เป็นรถโดยสารระดับมาตรฐานวีไอพี ขนาด 32 ที่นั่ง เน้นความปลอดภัย สะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการ มาตรฐานชั้นเดียว ความสูงไม่เกิน 3.90 เมตร ผ่านการทดสอบด้านความปลอดภัย โดยการทรงตัวบนพื้นเอียง 30 องศา ตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก มีอุปกรณ์ทันสมัย พร้อมเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง มีการติดตามความเคลื่อนไหวด้วยกล้องวงจรปิด ที่นั่นรูปแคปซูลที่ปรับเอนนอนไม่กระทบผู้โดยสารด้านหลัง ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบนวดอัตโนมัติ ติดตั้ง TV หลงเบาะด้วยระบบทรัชสกรีน รถ 1 คันมีพนักงานขับรถ 2 คน สับเปลี่ยนกัน ใช้ระบบ GPS ควบคุมชั่วโมงการขับ กำหนดความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมให้บริการประชาชนชาวจังหวัดมหาสารคาม และทั่วไป เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่จังหวัดมหาสารคาม จะมีอายุครบ 150 ปี ในปี พ.ศ. 2558 ด้วย

การให้บริการเส้นทาง สายมหาสารคาม-กรุงเทพมหานคร ของบริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เบื้องต้น จะเปิดให้บริการวันละ 2 เที่ยว ไป-กลับ คือ เวลา 08.40 น. และ 21.40 น. อัตราค่าโดยสาร 443 บาท สนใจสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง หรือสำรองที่นั่ง ได้ที่ Call Center 1624 ตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น. หรือที่ศูนย์บริการลูกค้าจังหวัดมหาสารคาม โทร 043 020207 และที่ www.nakhonchaiair.com



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว