วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แม่ค้าล็อตเตอรี่หวิดสูญเงินกว่า 60,000.-บาท หลังล็อตเตอรี่ชุดใหญ่เตรียมส่งลูกค้าหายโชคดีคุณตาวัย 63 เก็บได้นำส่ง สภ.เมืองกาฬสินธุ์

คนขายล็อตเตอรี่หวิดสูญเงินกว่า 6 หมื่นบาท หลังล็อตเตอรี่งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 ที่เตรียมนำส่งลูกค้าหายไป วิ่งแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ยังโชคดีคุณตาวัย 63 ปี พบวางอยู่ท้ายรถปิกอัพที่จอดไว้ก่อนนำมอบให้ตำรวจส่งมอบคืนเจ้าของ

เมื่อเวลา 08.40 น. วันนี้ (14 กรกฎาคม 2556) ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ นายสมพงษ์ โชติยเวชวัฒน์ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 229/3 ถ.อนรรฆนาค ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้หอบล็อตเตอรี่เลขชุดปึกใหญ่งวดประจำวันที่ 16 กรกฎาคม 2556 มามอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อติดตามหาเจ้าของ หลังตนเองพบล็อตเตอรี่ดังกล่าวเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 2556 อยู่ในถุงพลาสติกวางอยู่ท้ายรถปิกอัพอีซูซุ หมายเลขทะเบียน กข 4279 ที่จอดไว้ตรงข้าม สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่าเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 13 กรกฎาคม 2556 มีนางสาวภาพูน เพ็งวิชัย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 5 ต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น มีอาชีพขายล็อตเตอรี่ได้มาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ว่าล็อตเตอรี่เป็นเลขชุดประมาณ 500 กว่าใบได้หายไปอาจถูกลักขโมยไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้โทรศัพท์ไปแจ้งให้กับนางสาวภาพูน มาตรวจสอบล็อตเตอรี่ดังกล่าวที่มีผู้เก็บได้ว่าใช่ของตนหรือไม่ และเมื่อนางสาวภาพูน มาตรวจสอบก็พบว่าเป็นของตนเองจริง และได้กล่าวขอบคุณนายสมพงษ์ โชติยเวชวัฒน์ และหลานชาย ที่นำล็อตเตอรี่ดังกล่าวมาส่งคืนให้เพราะล็อตเตอรี่ชุดนี้ตนต้องนำไปส่ง ลูกค้า มีมูลค่าถึง 60,000.-บาทเลยทีเดียว พร้อมนี้นางสาวภาพูน ได้มอบล็อตเตอรี่เลขชุดให้กับนายสมพงษ์ หลานชาย พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองกาฬสินธุ์ คนละ 1 ชุด เพื่อเป็นการขอบคุณด้วย

นางสาวภาพูน เพ็งวิชัย กล่าวว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 13 กรกฎาคม 2556 ที่ผ่านมา ตนและผู้ค้าล็อตเตอรี่ได้วางขายอยู่ที่บริเวณถนนเทศบาล 24 บริเวณตรงข้ามร้านเหรียญทองการไฟฟ้าและกำลังจะเก็บของเตรียมกลับบ้านโดยเอา ล็อตเตอรี่เลขชุดที่เตรียมนำส่งให้ลูกค้ามัดใส่ถุงไว้อย่างดีวางไว้ จากนั้นก็มีลูกค้า 2 ราย มาซื้อล็อตเตอรี่ได้แล้ว 1 ใบ แล้วก็ขออีก 1 ใบ จากนั้นตนก็ไม่รู้สึกอะไรจนกระทั่งเดินมาที่หน้าโรงพักจึงสะดุ้งมองหาถุง ล็อตเตอรี่ของตัวเอง จึงคิดว่าอาจจะเป็นแก๊งค์ลักขโมยล็อตเตอรี่แต่โชคดีที่ว่าคุณตาสมพงษ์ กับลูกชายเก็บได้ ทำให้ตนไม่ต้องสูญเสียเงินกว่า 60,000.-บาท และเหตุการณ์แบบนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับคนขายล็อตเตอรี่อยู่เป็นประจำบางรายเจอ วิ่งมากระชากแผงไปเลยก็มี



ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

สอนเด็กเรียนรู้การทำนานอกห้องเรียน

โรงเรียนบ้านคลองเจริญ ต.นางแดด อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ สอนเด็กนักเรียน ทำนานอกห้องเรียน หวังสร้างชาวนารุ่นใหม่ ที่ตั้งใจทำนาโดยคำนึงถึงคุณค่าของข้าว มากกว่ามูลค่าของข้าว จุดประกายเล็กๆ ในสังคมชนบท ก่อนจะขยายผลไปยังกลุ่มผู้สนใจ

ที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรธรรมชาติ บ้านวังตอตั้ง ต.นางแดด อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ คณะครูโรงเรียนบ้านคลองเจริญ ต.นางแดด ได้นำเด็กนักเรียนชั้นมัธยมต้น ประมาณ 50 คน เข้าไปเรียนรู้การทำนาแบบย้อนยุค ซึ่งมีความแตกต่างจากการทำนาในปัจจุบัน ที่มุ่งทำนาเพื่อจำหน่าย มีการใช้ปุ๋ยเคมี ใช้สารเคมี เพื่อเพิ่มผลผลิต โดยไม่คำนึงถึงคุณค่าของข้าว ผลตามมาคือ ผลผลิตข้าวที่ออกสู่ตลาดมีคุณภาพด้อยลง เกษตรกรต้องใช้ต้นทุนสูง เสี่ยงต่อโรคภัยที่มาจากสารเคมี หวังเอาไว้ว่าเด็กๆที่เข้ามาเรียนรู้ จะซึมซับขบวนการ สามารถนำไปปรับใช้ในอนาคต เชื่อว่าวิธีการนี้ จะเป็นทางเลือกใหม่ให้กับชาวนาไทย ในการผลิตข้าวเพื่อบริโภคและจำหน่าย ที่ปลอดภัยจากสารเคมี ข้าวมีคุณภาพสูง เป็นที่ต้องการของตลาด รองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน

สำหรับการทำนาที่ศูนย์การเรียนรู้เกษตรธรรมชาติ แห่งนี้ เริ่มจากการทดลองนำพันธุ์ข้าว สายพันธุ์ต่างๆ ทั้งข้าวจ้าว ข้าวเหนียว ที่เคยปลูกในพื้นที่ และได้รับการพัฒนาจากสถานีทดสอบและขยายพันธุ์ข้าว กว่า 30 สายพันธุ์ มาขยายพันธุ์ตามกรรมวิธีดั้งเดิม ที่เรียนรู้มาจาก จ.มหาสารคาม โดยคัดเมล็ดข้าวที่สมบูรณ์ที่สุด มาเพาะกล้า พออายุได้ 20 วัน ก็ถอนมาปักดำ เป็นการดำนากลีบเดียว ห่างกัน 30 คูณ 30 ซ.ม. ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิม ที่ต้องการให้ต้นข้าวแตกกอดี รวงใหญ่ เม็ดโต ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ

นายสรศักดิ์ บุญจันทร์ ผู้แลศูนย์และนำวิธีการนี้มาใช้ เปิดเผยว่า จริงๆแล้ววิธีนี้ ต้องการนำพันธุ์ข้าวมาถามดินก่อน ว่าปลูกแล้ว ข้าวชนิดไหน เจริญเติบโต ให้ผลผลิตดี เหมาะกับดินและน้ำในพื้นที่ เมื่อวัดผลผลิตตามหลักวิชาการ ได้แล้ว จึงจะนำมาขยายพันธุ์ และแจกจ่ายให้สมาชิกนำไปปลูก นอกจากนี้ยังนำข้าวทนแล้ง พันธุ์ดั้งเดิมของชัยภูมิ คือข้าวหอมดง มาทดลองปลูกด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้เกษตรกรปลูกไว้บริโภค เพราะแถบนี้เป็นที่สูง ปลูกข้าวไม่ค่อยได้ ชาวบ้านจึงรุกป่าปลูกอ้อย ปลูกมัน ถ้าปลูกข้าวกินได้ปัญหารุกป่า น่าจะน้อยลง ข้าวทุกแปลงที่น่า ปลูกแบบไร้สารเคมี เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับข้าวไทย เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน ข้าวปลอดสารพิษตัวนี้ จะเป็นสินค้าที่อยู่ได้

ผู้สนต้องการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กับศูนย์การเรียนรู้เกษตรธรรมชาติ บ้านวังตอตั้ง ต.นางแดด อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 08-8349-7044




สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว
ขอบคุณ พี่งามนิด ทองสัมพันธ์ 

ที่แนะนำข่าวดีๆ สร้างสรรสังคมมาให้ครับ 

ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาด เปิดงาน OTOP และร่วมเดินแฟชั่นโชว์ ในงานมหกรรม “สุดยอดภูมิปัญญาไทย สินค้าโอทอป และผ้าไหมโคราช” ที่เดอะมอลล์นครราชสีมา

(๑๒ ก.ค. ๕๖) เวลา ๑๔.๐๐ น. ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานมหกรรม "สุดยอดภูมิปัญญาไทย สินค้าโอทอป และผ้าไหมโคราช” The Premium Silk & The Best OTOP of KORAT ๒๐๑๓ ณ ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา

มหกรรม "สุดยอดภูมิปัญญาไทย สินค้าโอทอป และผ้าไหมโคราช” The Premium Silk & The Best OTOP of KORAT ๒๐๑๓ จังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้นเพื่อจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์ไหม และสินค้าOTOP ระดับคุณภาพจากอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่สินค้า โอทอป และผ้าไหมจากอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดนครราชสีมา ทั้ง 32 อำเภอ แบ่งเป็น 6 กลุ่มอำเภอ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชุมชนให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เป็นการหาตลาดและเพื่อเป็นการสร้างกระบวนการเรียนรู้ด้านการผลิต สร้างช่องทางการตลาด สร้างรายได้ และเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้า

กิจกรรมภายในการจัดงานครั้งนี้ อาทิ กิจกรรมแชร์บุญ "สืบสานวัฒนธรรมบูชากี่ ไถ่ชีวีหนอนหม่อนไหม สัมผัสวิถีชีวิตท่องเที่ยวหมู่บ้านวัฒนธรรมไหม (จำลอง)” กิจกรรมต่อหางนกยูงจากผ้าไหม กิจกรรมไฮไลต์ของงาน นอกจากจะมีบู๊ทขายผ้าไหม และสินค้าโอทอปมากมายแล้ว คือ การเดินแฟชั่นโชว์ ของหนุ่มลำตะคอง หญิงงามเมืองย่า และคู่ภริยากับนายอำเภอต่าง ๆ สุดยอดด้วยการเดินกิตติมศักดิ์ของ ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กับนางราตรี บัวประดิษฐ์ นายกเหล่าชาดจังหวัดนครราชสีมา รวมเดินแฟชั่นโชว์ในงานดังกล่าวด้วย ท่ามกลางเสียงปรบมือและชื่นชมในความสวยและสง่างาม

สำหรับงาน "สุดยอดภูมิปัญญาไทย สินค้าโอทอป และผ้าไหมโคราช” The Premium Silk & The Best OTOP of KORAT ๒๐๑๓ จัดระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ที่ ชั้น ๓ ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา จึงขอเชิญผู้สนใจทุกท่าน ชมและเลือกซื้อสินค้าไหมและผลิตภัณฑ์ OTOP ภายในงานดังกล่าว


สนง.ปลัดกระทรงกลาโหม เชิญชวนเยาวชน ร่วมประกวดภาพถ่าย สปอต ทีวี.และสร้างสรรค์บทเพลงเข้าประกวดในหัวข้อ “ความเมตตา...ปรารถนาดีต่อกัน”

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า สำนักงานปลัดกระทรงกลาโหม เชิญชวนเยาวชน ร่วมประกวดภาพถ่าย สปอต ทีวี.และสร้างสรรค์บทเพลงเข้าประกวดในหัวข้อ "ความเมตตา...ปรารถนาดีต่อกัน” ยื่นใบสมัครภายในวันที่ 30 กรกฏาคม 2556 และส่งผลงานภายใน 15 สิงหาคม 2556

พลเรือเอก ดำรงศักดิ์ ห้าวเจริญ รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงาน โครงการ "จิตสำนึกรักเมืองไทย ปี 5” ที่ หอศิลป์ กรุงเทพมหานคร เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พลตรี ชัยพฤกษ์ พูนสวัสดิ์ เลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ประธานดำเนินโครงการฯ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็น "กิจกรรมการประกวดภาพถ่าย สปอตโทรทัศน์ และสร้างสรรค์บทเพลงจิตสำนึกรักเมืองไทย ปีนี้ (2556) เป็นปีที่ ๕ แล้ว ใช้ชื่อหัวข้อว่า "ความเมตตา...ปรารถนาดีต่อกัน” ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่มีความสาคัญสำหรับเราชาวกลาโหม เพราะเป็นช่องทางที่จะได้สัมผัสกับความรู้สึกนึกคิดของน้องๆเยาวชนปัจจุบัน ว่าเขาคิดอย่างไรกับสังคมบ้านเมืองประเทศชาติ และสะท้อนมุมมองของพวกเขาให้ออกมาอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจากการจัดในปีที่ผ่านๆมา มีผลตอบรับดีมาก มีความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือจากบุคคลที่มีชื่อเสียง ในวงการถ่ายภาพ วงการโฆษณา และบทเพลง ได้รับการตอบรับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาหลายแห่ง มาร่วมสนับสนุนและร่วมกิจกรรมในรูปแบบของภาคีเครือข่ายช่วยสานต่อโครงการนำ แนวคิดจากการประกวดไปบูรณาการต่อยอดอีกด้วย โดยในแต่ละปีจะมีการพิจารณาหัวข้อการประกวดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในห้วง เวลาต่างๆ

สำหรับปีนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้กำหนดหัวข้อ โครงการว่า"จิตสำนึกรักเมืองไทย ปี 5” โดยกำหนดให้มีการประกวดผลงาน ภาพถ่าย สปอตโทรทัศน์ และ สร้างสรรค์บทเพลงหัวข้อ "ความเมตตา...ปรารถนาดีต่อกัน” ส่วนคณะกรครมการที่จัดไว้เพื่อการตัดสิน อาทิ คุณปารเมศร์ รัชไชยบุญ, คุณพิสิฐ เสนานันท์สกุล, ฟองเบียร์ คุณปฏิเวธ อุทัยเฉลิม, คุณไกวัล กุลวัฒโนทัย, คุณอนุชัยศรี จรูญพู่ทอง, คุณเชาวลิต พุ่มโพธิ์ และ คุณ พิสุทธิ์ วงศ์พันธ์ เป็นต้น
 
จึงขอฝากประชาสัมพันธ์โครงการฯ เชิญชวนน้องๆ เยาวชนอายุ 15 - 25 ปี ร่วมส่งผลงานภาพถ่าย สปอตโทรทัศน์ และสร้างสรรค์บทเพลงเข้าประกวดในหัวข้อ "ความเมตตา...ปรารถนาดีต่อกัน” ชิงรางวัลมูลค่ารวม 400,000 บาท   ยื่นใบสมัครภายในวันที่ 30 กรกฏาคม 2556 และส่งผลงานภายใน 15 สิงหาคม 2556
 

รายละเอียดเพิ่มเติม / สมัคร / ส่งผลงาน / โหวตภาพ และ ผลงานที่ได้รับรางวัลปีก่อนๆ www.จิตสำนึกรักเมืองไทย.com

มหาสารคาม เร่งจัดระเบียบสังคม ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม รับนายกฯลงพื้นที่

ตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม และกันทรวิชัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทีมจัดระเบียบสังคม ออกตรวจสถานบริการ กวาดล้างอาชญากรรม เตรียมความพร้อมก่อนนายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจราชการที่จังหวัดมหาสารคาม
 
นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พล.ต.ต.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทีมจัดระเบียบสังคม เขตอำเภอเมืองมหาสารคาม ร่วมปล่อยแถว ระดมกวาดล้างอาชญากรรม สร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน ตลอดจนเป็นการจัดระเบียบสังคม ของสถานบริการ เตรียมความพร้อมในโอกาสที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ในระหว่างวันที่ 14-15 กรกฎาคม 2556 โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติการในเขตอำเภอเมืองกว่า 100 นาย
 
นอกจากนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ยังได้ร่วมกันออกตรวจสถานบันเทิง สถานบริการ ในเขตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม อำเภอกันทรวิชัย ซึ่งเป็นจุดที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางลงพื้นที่มาตรวจราชการด้วย โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ระดมออกตรวจรวมกว่า 100 นาย
 
ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันสร้างความสงบเรียบร้อย รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนในพื้นที่ ตลอดจนผู้ที่เดินทางมาเยือนจังหวัดมหาสารคาม




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ส.ส.มหาสารคาม ผลักดันการปรับปรุงทางหลวงรองรับโครงข่ายคมนาคม นำข้อมูลเสนอนายกรัฐมนตรี

ส.ส. มหาสารคาม ผลักดันโครงการปรับปรุงทางหลวงเพิ่มศักยภาพด้านการขนส่งในพื้นที่จังหวัดมหา สาคาม รองรับโครงข่ายคมนาคมของรัฐบาล เตรียมเป็นข้อมูลนำเสนอในโอกาสที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ตรวจราชการและ มอบนโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด ที่มหาสารคาม

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม เขต 3 อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาตรวจราชการและมอบนโยบายยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัด ที่จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 14-15 กรกฎาคม 2556 ว่า จังหวัดได้มีการเตรียมข้อมูลเพื่อนำเสนอถึงศักยภาพในด้านการคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะจังหวัดมหาสารคามเป็นจังหวัดที่อยู่กึ่งกลาง ได้ชื่อว่าเป็นสะดืออีสาน ที่มีการคมนาคมเชื่อมโยงไปสู่จังหวัดในภูมิภาคต่าง ๆ โดยเส้นทางสำคัญที่เป็นโครงการนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงเป็นสี่ช่องจราจร ประกอบด้วย เส้นทางจากจังหวัดขอนแก่น-มหาสารคาม เส้นทางจากอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม-บุรีรัมย์ เชื่อมต่อไปยังท่าเรือ จังหวัดในภาคตะวันออก ตามเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจ ซึ่งจะสามารถขนส่งสินค้าทางการเกษตร โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิ มันสำปะหลัง และอ้อย ออกไปจำหน่ายยังภูมิภาคอื่นได้สะดวก

ทั้งนี้ โครงการปรับปรุงทางหลวงเพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งของจังหวัดมหาสารคาม ที่จะนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีนั้น นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังเป็นการรองรับโครงการสร้างทางรถไฟ ตาม พ.ร.บ.ไทยแลนด์ 2020 ที่เชื่อมระหว่างอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น- อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม –จังหวัดมุกดาหาร ด้วย




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ม.มหาสารคาม ประกวดโครงงานคุณธรรม จริยธรรม เฉลิมพระเกียรติฯ

กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดประกวดโครงงานคุณธรรม จริยธรรม เฉลิมพระเกียรติ " เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง” ระดับอุดมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ประจำปี 2556
 
ที่อาคารพลศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม   รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย สมัปปิโต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงานโครงการประกวดโครงงานคุณธรรม จริยธรรม เฉลิมพระเกียรติ " เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง” ระดับอุดมศึกษา และระดับมัธยมศึกษา ประจำปี 2556 ที่ กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดขึ้น ซึ่งการจัดประกวดโครงงานในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของ 3 สถาบัน คือ มูลนิธิเปรมติณสูลานนท์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 26 และมหาวิทยาลัยมหาสารคามคาม โดยจัดรวมกัน 3 โครงการ ได้แก่ การประกวดโครงงานคุณธรรม จริยธรรม เฉลิมพระเกียรติระดับอุดมศึกษา เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง ประจำปีการศึกษา 2556 หัวข้อ "เยาวชนไทยร่วมใจทำความดี” ซึ่งวันนี้มีทีมที่เข้าร่วมประกวดทั้งหมดจำนวน 23 ทีม โดยจะคัดเลือกโครงงาน จำนวน 6 ทีมของนิสิต นักศึกษา ระดับอุดมศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเข้าร่วมประกวดในรอบตัดสิน ระดับอุดมศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเข้าร่วมประกวดในรอบตัดสินที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ในเดือนสิงหาคม
 
นอกจากนี้ยังมีการประกวดโครงงานคุณธรรมจริยธรรม ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นการประกวดโครงงานระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายที่สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 26 จังหวัดมหาสารคาม มีทีมส่งประกวดจำนวนทั้งสิ้น 9 ทีม โดยจะคัดเลือกให้เหลือ 2 ทีม เพื่อเป็นตัวแทนของเขตในการประกวดรอบตัดสินต่อไป ที่จังหวัดนครราชสีมาเช่นกัน และการนำเสนอโครงการของนิสิตที่ลงเรียนวิชาการพัฒนานิสิตของมหาวิทยาลัย มหาสารคาม จำนวน 1,222 คน แบ่งเป็น 32 ทีม ซึ่งเป็นกิจกรรมประกอบการเรียนการสอน ที่เน้นการส่งเสริมให้นิสิตมีกิจกรรมเสริมหลักสูตรนอกห้องเรียน ฝึกให้นิสิตจัดทำโครงการเป็น มีการทำงานร่วมกับคนอื่นอย่างมีความสุข และส่งเสริมให้นิสิตทำความดี มีจิตอาสา




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

นายกฯยิ่งลักษณ์ เปิดป้ายสะดืออีสานที่ บึงกุย จ.มหาสารคาม

นายกรัฐมนตรีเปิดป้ายสัญลักษณ์สะดือแห่งอีสาน ที่บึงกุย อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ท่ามกลางประชาชนมาร่วมต้อนรับนับหมื่นคน

(14-7-56) เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมายังบริเวณบึงกุย อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่จังหวัดบุรีรัมย์แล้ว โดยภารกิจแรกเมื่อเดินทางมาถึง ก็ได้มากดปุ่มเปิดป้ายจุดกึ่งกลางภาคอีสาน หรือ สะดือแห่งอีสาน ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณบึงกุย อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม  

สำหรับบริเวณจุดกึ่งกลางภาคอีสาน หรือสะดือแห่งอีสาน ที่บึงกุย อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ได้รับการจัดสรรงบประมาณในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ จังหวัดอุดรธานี เมื่อปี 2555 จำนวน 30 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงอาคารแปดเหลี่ยม ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ เพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดมหาสารคาม

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ก็ได้ขึ้นเวทีพบปะกับประชาชนทั้งที่มาจากจังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดใกล้เคียงมาร่วมต้อนรับนับหมื่นคน โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเดินทางมาที่จังหวัดมหาสารคาม ว่า เพื่อมารับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะเรื่องของน้ำท่วม น้ำแล้ง ตลอดจนทบทวนการพัฒนายุทธศาสตร์จังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ เพื่อสร้างความอยู่ดีมีสุขให้กับประชาชนให้มากที่สุด  

สำหรับวันพรุ่งนี้ (15-7-56) นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อทบทวนยุทธศาสตร์ การพัฒนาจังหวัด โดยมีคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (กบจ.) จังหวัดมหาสารคามและบุรีรัมย์ เข้าร่วมประชุม
 



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ไฟไหม้อาคารเรียนคอมพิวเตอร์ วอดทั้งหลัง สาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 13 ก.ค. 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.ไชยา แก้วยก พนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุไฟไหม้ที่ ร.ร.กำแพง ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมทั้งได้ประสานขอรถดับเพลิงจาก อบต.สำโรง เทศบาล ต.สระกำแพงใหญ่ และรถดับเพลิงจากบริเวณใกล้เคียง จากนั้น จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบไฟกำลังโหมลุกไหม้อาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ 3 ชั้น อยู่ด้านทิศตะวันตกของโรงเรียน ซึ่งเป็นอาคารเรียนคอมพิวเตอร์ และมีห้องโสตทัศนศึกษา และห้องเก็บเอกสารของโรงเรียน นายวิทยา หอมจิต อายุ 25 ปี ครูสอนวิชาภาษาจีน ซึ่งได้อยู่เวรในช่วงกลางคืน ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนนอนอยู่ห้องครูเวร ต่อมา ได้มีเจ้าหน้าที่ รปภ.ของโรงเรียน ซึ่งนอนอยู่ชั้นล่างของอาคารที่เกิดไฟไหม้ ได้วิ่งมาปลุกตน และบอกว่า เกิดไฟไหม้ ตนจึงได้รีบลุกขึ้นมาดู ก็เห็นไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง จากนั้น จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ นายวิทยา กล่าวต่อไปว่า อาคารหลังดังกล่าวเป็นอาคารเก่า สร้างมาตั้งแต่ปี 2516 ไม้จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการสำรวจความเสียหาย พบว่า ไฟได้ไหม้ห้องเรียนไป 5 ห้อง แต่ยังไม่สามารถประเมินค่าเสียหายได้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คาดว่า สาเหตุอาจเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่ก็จะต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ จ.ศรีสะเกษ ให้มาตรวจพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ต่อไป