วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

จังหวัดสุรินทร์ แจ้งผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อย หาบเร่ แผงลอย ขึ้นทะเบียนเพื่อชดเชยการปรับราคาก๊าซหุงต้ม

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงาน มีนโยบายที่จะปรับราคาก๊าซหุงต้มเพิ่มสูงขึ้นเดือนละ 0.50 บาท/กิโลกรัม ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 และมีมาตรการช่วยเหลือลดผลกระทบโดยการจ่ายชดเชยให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็ก (พื้นที่ไม่เกิน 50 ตารางเมตร) หาบแร่ แผงลอย และเพื่อให้กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบได้รับการช่วยเหลือ/ชดเชยอย่างทั่วถึง โดยผู้ประกอบการร้านอาหารต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

1. กรณีที่เป็นร้านอาหารขนาดเล็ก(ร้านอาหารที่มีผนังห้อง) ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 50 ตารางเมตรหรือประมาณอาคารพาณิชย์ 1 คูหา อาจมีที่นั่งรับประทานอาหาร โดยใช้พื้นที่สาธารณะได้ โดยไม่นับพื้นที่รวมกัน

2. กรณีที่เป็นแผงลอย คือ ลักษณะร้านค้าที่ไม่มีผนัง แต่มีที่ตั้งร้านเป็นประจำ อาจเป็นรถเข็น หรือรถยนต์ที่มีท้ายขายของ มีจุดจอดขายประจำที่ หรือมีรถเข็น แล้วมีโต๊ะ-เก้าอี้ สำหรับนั่งรับประทาน เช่น ร้านบะหมี่เกี๊ยวชายสี่ ร้านก๋วยเตี๋ยวโฮเด้ง เป็นต้น

3. กรณีเป็นหาบเร่ คือผู้ค้าที่ไม่มีที่ตั้งขายประจำ ลักษณะเวียนขายเปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ เช่น รถเข็นขายลูกชิ้นทอด ข้าวโพดต้ม ถั่วต้ม ขนมจีบ ซาลาเปา โรตี เป็นต้น

4. ผู้ประกอบการที่ได้ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพลังงานแล้ว ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียนอีก


ผู้ที่สนใจขึ้นทะเบียนร้านอาหารขนาดเล็ก  หาบเร่ แผงลอยอาหาร สามารถติดต่อขอขึ้นทะเบียนได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ตำบลในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ ภายในวันที่ 28 มิถุนายน 2556 ในวันและเวลาราชการ โทรศัพท์ 0-4451-1384



กิติวรรณ  มณีล้ำ / สวท.สุรินทร์ /ข่าว

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ จัดประชุมพนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการร้านค้าตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551

นายอุทัย  พลพวก วัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์  กล่าวว่า ปัจจุบันร้านเกมและร้านคาราโอเกะเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อเด็กและเยาวชน ทั้งยังเป็นกลุ่มที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของยาเสพติด การก่ออาชญากรรมต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่จะต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด และมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม โดยช่วยสอดส่องดูแลเด็กเยาวชนที่เข้าไปใช้บริการ ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินโครงการ 1 อำเภอ 1 ร้านเกมสีขาว ประจำปี 2556 เพื่อให้ผู้ประกอบการร้านเกมได้มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม ตลอดจนพัฒนาร้านเกมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ตามอัธยาศัยของเด็กและเยาวชนด้วย

สำหรับการประชุมในวันนี้ มีนายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมีทีมวิทยากรจากกระทรวงวัฒนธรรม มาบรรยายเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในแนวทางการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 กฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบต่างๆ ให้แก่ พนักงานเจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบกิจการ และผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ปลัดเทศบาล ปลัดองค์การบริการส่วนตำบล เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สายงานสืบสวนและงานป้องกันปราบปราม และผู้ประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 200 คน



กิติวรรณ  มณีล้ำ/  สวท.สุรินทร์ /ข่าว

สำนักงาน ป.ป.ช ประจำจังหวัดสุรินทร์ ประกาศผลการคัดเลือกกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุรินทร์แล้ว

นายมงคล สาริสุต  ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุรินทร์ หรือกรรมการ ป.ป.จ. สุรินทร์ โดยเชิญผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กร 9 กลุ่มองค์กรได้แก่ องค์กรครู องค์กรด้านกฎหมาย องค์กรแรงงาน องค์กรธุรกิจ องค์กรเอกชน องค์กรเกษตรกร กลุ่มอาสาสมัคร สื่อสารมวลชนและหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ส่งผู้แทนเข้าร่วมเป็นกรรมการสรรหา เพื่อคัดเลือกกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุรินทร์หรือกรรมการ ป.ป.จ. สุรินทร์ และบัดนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว จึงขอประกาศรายชื่อคณะกรรมการสรรหา กรรมการป้องกันปละปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 9 คน ดังนี้

นายดาวรุ่ง  ผลเกิด ผู้แทนสมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจ เป็นประธานกรรมการ และกรรมการสรรหา ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์ อินทรามะ ผู้แทนสมาคมทางด้านการศึกษา นายชาญยุทธ เหงกระโทก ผู้แทนสภาทนายความหรือผู้ประกอบการวิชาชีพกฎหมาย นายสุพจน์ ภัทรไพศาลสิน ผู้แทนสภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัด นายอรชุน หลายประเสริฐ ผู้แทนกลุ่มอาสาสมัคร นายสังเวียน ประเดิมดี ผู้แทนองค์กรเอกชน นายโรจนินทร์ ทองศิริกุลรัตน์ ผู้แทนองค์กรเกษตรกร นายประสิทธิ์ บูรณ์เจริญ ผู้แทนสมาคมหรือชมรมสื่อมวลชน และนายถาวร กุลโชติ ผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด



กิติวรรณ  มณีล้ำ/  สวท.สุรินทร์ /ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ พร้อมจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย ในวันที่ 22 และ 23 มิถุนายน นี้

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การจัดเวที “พูดจาหาทางออกประเทศไทย” จำนวน 108 เวทีทั่วประเทศของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นการแก้ไขปัญหาเพื่อหาทางออกประเทศไทย สร้างความเข้าใจร่วมกันของสังคมต่อแนวทางหาทางออกประเทศไทย และหาข้อเสนอที่สร้างสรรค์ในการยุติความขัดแย้ง
สำหรับจังหวัดสุรินทร์ ได้แต่งตั้งคณะทำงานและประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดเวที โดยกำหนดจัดเวทีพูดจาหาทางออกประเทศไทย 2 เวที ที่โรงแรมเพชรเกษม อำเภอเมืองสุรินทร์ ดังนี้ เวทีที่ 1 จัดในวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 มีผู้เข้าร่วมเวทีเป็นตัวแทนของภาคส่วนต่างๆ จากเขตเลือกตั้งที่ 1 - 4 จำนวน 800 คน ส่วนเวทีที่ 2 จัดในวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556 มีผู้เข้าร่วมเวทีจากเขตเลือกตั้งที่ 5 - 8 จำนวน 800 คน โดยมีผศ.กฤษณา วงษาสันต์ อาจารย์มหาวิทยาลับราชภัฏสุรินทร์ หัวหน้าคณะวิทยากร พร้อมด้วยคณะวิทยากรกระบวนการ จากจังหวัดบุรีรัมย์และศรีสะเกษ ร่วมดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศไทย
สำหรับการจัดเวที “พูดจาหาทางออกประเทศไทย” ที่จะจัดขึ้นนี้ จะมีการถ่ายทอดเสียงการจัดเวทีทั้ง 2 เวที ทาง สวท.สุรินทร์ ระบบF.M.93.5 MHz. ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. และ 14.00 – 17.00 น. นับเป็นกระบวนการปรองดองที่จะนำไปสู่การสร้างความเข้าใจร่วมกันในสังคม เพื่อเผยแพร่ความรู้และการมีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อความเข้าใจร่วมกันของสังคมในการก้าวข้ามความขัดแย้งในสื่อต่างๆ อย่างเต็มที่และถูกวิธี จะเป็นการสร้างองค์ความรู้ที่สำคัญที่จะนำพาสังคมไทยไปสู่สังคมประชาธิปไตยที่มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อไป



กิติวรรณ  มณีล้ำ/  สวท.สุรินทร์ /ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ พร้อมจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย ในวันที่ 22 และ 23 มิถุนายน นี้

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การจัดเวที “พูดจาหาทางออกประเทศไทย” จำนวน 108 เวทีทั่วประเทศของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นการแก้ไขปัญหาเพื่อหาทางออกประเทศไทย สร้างความเข้าใจร่วมกันของสังคมต่อแนวทางหาทางออกประเทศไทย และหาข้อเสนอที่สร้างสรรค์ในการยุติความขัดแย้ง
สำหรับจังหวัดสุรินทร์ ได้แต่งตั้งคณะทำงานและประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดเวที โดยกำหนดจัดเวทีพูดจาหาทางออกประเทศไทย 2 เวที ที่โรงแรมเพชรเกษม อำเภอเมืองสุรินทร์ ดังนี้ เวทีที่ 1 จัดในวันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน 2556 มีผู้เข้าร่วมเวทีเป็นตัวแทนของภาคส่วนต่างๆ จากเขตเลือกตั้งที่ 1 - 4 จำนวน 800 คน ส่วนเวทีที่ 2 จัดในวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556 มีผู้เข้าร่วมเวทีจากเขตเลือกตั้งที่ 5 - 8 จำนวน 800 คน โดยมีผศ.กฤษณา วงษาสันต์ อาจารย์มหาวิทยาลับราชภัฏสุรินทร์ หัวหน้าคณะวิทยากร พร้อมด้วยคณะวิทยากรกระบวนการ จากจังหวัดบุรีรัมย์และศรีสะเกษ ร่วมดำเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศไทย
สำหรับการจัดเวที “พูดจาหาทางออกประเทศไทย” ที่จะจัดขึ้นนี้ จะมีการถ่ายทอดเสียงการจัดเวทีทั้ง 2 เวที ทาง สวท.สุรินทร์ ระบบF.M.93.5 MHz. ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. และ 14.00 – 17.00 น. นับเป็นกระบวนการปรองดองที่จะนำไปสู่การสร้างความเข้าใจร่วมกันในสังคม เพื่อเผยแพร่ความรู้และการมีส่วนร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อความเข้าใจร่วมกันของสังคมในการก้าวข้ามความขัดแย้งในสื่อต่างๆ อย่างเต็มที่และถูกวิธี จะเป็นการสร้างองค์ความรู้ที่สำคัญที่จะนำพาสังคมไทยไปสู่สังคมประชาธิปไตยที่มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนต่อไป



กิติวรรณ  มณีล้ำ/  สวท.สุรินทร์ /ข่าว

เทศบาลเมืองสุรินทร์จัดเก็บขยะเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเร่งด่วน

นายวรรธนินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์  กล่าวว่า เทศบาลเมืองสุรินทร์นำเจ้าหน้างานป้องกัน กองช่าง กองสาธารณสุขฯ ร่วมกับจังหวัดทหารบกสุรินทร์ เรือนจำกลางสุรินทร์ และพี่น้องชาวชุมชนพรหมเทพ ศรีเทพ ศรีดอกจาน ฯลฯ ขุดลอกคูเมือง ทำแก้มลิง ตามโครงการเร่งด่วนป้องกันน้ำท่วม ทั้งนี้เนื่องมาจาก ช่วงนี้เป็นฤดูฝน มีฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมขังในเขตเทศบาลเมืองเป็นประจำ ก่อให้เกิดความเดือดร้อนในพื้นที่จึงร่วมใจจัดเก็บขยะเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเร่งด่วน ขุดลอกคูเมือง ทำแก้มลิง เพื่อร่วมใจกันแก้ไขน้ำท่วมให้เป็นระบบ



กัญญรัตน์  เกียรติสุภา  /ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ เร่งสร้างโอกาสเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้เข้าเรียน กศน. และฝึกอาชีพตามความต้องการของตลาดแรงงาน

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ในปี 2554 จ.สุรินทร์ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 จังหวัดดีเด่นในโครงการสังคมไทยร่วมกันคืนครูดีให้ศิษย์ เชิดชู ยกย่องครูสอนดี ภายใต้การดำเนินงานของคณะกรรมการเพื่อการคัดเลือกครูสอนดีและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจังหวัดและท้องถิ่นสุรินทร์ แต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นของมิติใหม่ในการทำงานร่วมกันด้านการศึกษาระหว่างจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ และภาคเอกชน โดยมีการขยายผลการทำงานสู่การออกแบบการจัดการศึกษาของจังหวัด จังหวัดสุรินทร์ จึงได้มีการจัดเวทีระดมความคิดเห็นเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมกันในการปฏิรูปการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน จังหวัดสุรินทร์ โดยพบปัญหาการศึกษาของเด็กและเยาวชนจังหวัดสุรินทร์ มีทั้งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ำทั้งในระดับประถมและมัธยมศึกษา ขาดทักษะในการคิดวิเคราะห์และการแก้ไขปัญหา มาตรฐานของครูผู้สอน ปัญหาเด็กที่มาจากครอบครัวและสังคม รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบตัวเด็ก
จึงนำสู่การกำหนดทิศทางปฏิรูปการศึกษาแก่เด็กในจังหวัดสุรินทร์ร่วมกัน 3 ด้าน คือ

1) เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสต้องได้รับการดูแลจนจบการศึกษาภาคบังคับและมีทักษะที่จำเป็นซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วนในการดำเนินการ

2) ในกลุ่มเด็กและเยาวชนทั่วไปต้องได้รับการพัฒนาให้เต็มตามศักยภาพ และ

3)กลุ่มเด็กเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษต้องได้รับการพัฒนาส่งเสริมสู่ความเป็นเลิศ

พร้อมกันนี้ได้มีการจัดทำฐานข้อมูลด้านการศึกษาเพื่อเห็นระดับความรุนแรงของปัญหาในแต่ละพื้นที่และเป็นพื้นที่นำร่องของการแก้ไขปัญหา โดยพบว่ามีเด็กจำนวน 564 คน ทั่วทั้งจังหวัดที่ยังไม่จบการศึกษาภาคบังคับ ได้มีการรณรงค์เชิญชวนเข้าศึกษาต่อที่ กศน.ในแต่ละอำเภอ ส่วนเด็กที่ออกกลางคันและยังไม่จบมัธยมศึกษาตอนปลาย ได้มีการเชิญชวนให้เข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยการอาชีพอำเภอปราสาทและที่อำเภอสังขะ และจะดำเนินการสร้างแรงจูงใจ เช่น ช่วยค่าอุปกรณ์การศึกษาให้เด็กที่มาเข้าเรียนด้วย ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนมีโอกาสเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อมีส่วนในการพัฒนาสังคมให้ยั่งยืนสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 นี้



กัญญรัตน์  เกียรติสุภา  /ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

พลังงานจ.สุรินทร์ เดินหน้าสร้างจิตสำนึกและเสริมสร้างทักษะด้านพลังงานให้แก่ครู และผู้นำชุมชน


วันนี้ (18 พ.ค. 56) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายวิทิต พิทยธาราธร ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดอบรมสัมมนาโครงการสร้างจิตสำนึกและเสริมสร้างทักษะด้านพลังงานให้แก่ครูกศน.และผู้นำชุมชนในพื้นที่เป้าหมาย กว่า 60 คน เพื่อสร้างจิตสำนึกในด้านการประหยัดพลังงานและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยได้เชิญนายเชฎฐ์ ทับทอง วิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากบริษัทกรีน เอิร์ธ จำกัด มาบรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ พลังงานกับภาวะโลกร้อน ปัญหา ผลกระทบจากลูกโซ่ที่เกิดจากภาวะโลกร้อน พร้อมแนะนำมาตรการประหยัดไฟฟ้า เพื่อให้นำไปใช้ปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้
นอกจากนี้ ยังได้แบ่งกลุ่มย่อยระดมสมองช่วยกันค้นหามาตรการประหยัดพลังงานในพื้นที่ปฏิบัติงานและจัดสาธิตการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านและสำนักงาน เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเห็นการสิ้นเปลืองไฟฟ้าจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทต่างๆ และสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในครัวเรือนและขยายผลสู่ชุมชนต่อไป



กิติวรรณ  มณีล้ำ / สวท.สุรินทร์ /ข่าว

จ.สุรินทร์ จัดงานเทศกาลของดีชายแดนใต้ ศอ.บต. ,ถนนคนเดิน OTOP ประทายสะเร็น และโครงการ OTOP MOBILE TO THE FACTORY AND FESTIVAL ประจำปี 2556

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ เครือข่าย OTOP จังหวัดสุรินทร์ และ ศอ.บต. ได้กำหนดจัดงาน เทศกาลของดีขายแดนใต้ ศอ.บต.,ถนนคนเดิน OTOPประทายสะเร็น และโครงการ OTOP MOBILE TO THE FACTORY AND FESTIVALประจำปี 2556ระหว่างวันที่ 21-30 มิถุนายน ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ รวม 10 วัน โดยจะมีพิธีเปิดงานในวันที่ 25 มิถุนายน 2556 เวลา 18.00 น. โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า สร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับประชาชนในการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านผลิตภัณฑ์ หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) กิจกรรมภายในงาน มีการจำหน่ายสินค้า OTOP กระเป๋าผ้าปาเต๊ะ เครื่องแต่งกายมุสลิม หมวกกะปิเยาะ อาหารเลิศรส และการแสดงฟื้นบ้าน และดนตรีเยาวชน จังหวัดสุรินทร์ จึงขอเชิญประชาชนทั่วไป เที่ยวชม และซื้อสินค้าในครั้งนี้โดยทั่วกัน



กรรณิกา สำราญจริง/ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญสั่งซื้อผลผลิตด้านการเกษตร จากจังหวัดจันทบุรี

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยรัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาเกษตรกร อันเนื่องมาจากผลผลิตทางการเกษตร และการกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค โดยการจัดทำโครงการกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค 74,963 หมู่บ้าน (MOI Distribution Center) และขอให้จังหวัดจัดตั้งศูนย์ประสานการกระจายผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภคระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน เพื่อรองรับผลผลิตด้านการเกษตรจากทุกภูมิภาค

จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญสั่งซื้อเงาะและผลไม้ชนิดอื่น ๆ มังคุด ลองกอง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยจะบรรจุเป็นตะกร้า ๆ ละ 20 กิโลกรัม จำหน่ายในราคาจัดส่งถึงจังหวัดปลายทาง กิโลกรัมละ 12 บาท โดยขอให้สั่งซื้อไปยังที่ทำการปกครองจังหวัดจันทบุรี ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ทางโทรสารหมายเลข 0 3931 2755 หรือสั่งจองซื้อผลไม้ได้ที่ปกครองจังหวัดสุรินทร์ ภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2556 และโทรสารหมายเลข 044 515472 เพื่อจักได้ตรวจสอบและพิจารณาสั่งซื้อจากจังหวัดจันทบุรี ต่อไป



กำชัย  วันสุข /ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

จังหวัดสุรินทร์เตรียมคัดเลือกสตรีทำงานในภาคเศรษฐกิจและสตรีแรงงานนอกระบบดีเด่น

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้กำหนดจัดการคัดเลือกสตรีทำงานในภาคเศรษฐกิจและสตรีแรงงานนอกระบบดีเด่น   เพื่อยกย่องและเผยแพร่เกียรติคุณผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสตรีทำงานในภาคเศรษฐกิจและสตรีแรงงานนอกระบบ ส่งเสริมให้เป็นที่รู้จักในสังคม เพื่อสังคมได้ตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่อันสำคัญ ส่งเสริมให้ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมาย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์   กล่าวว่า  ปัจจุบันสตรีร้อยละ 60-70 ทำงานในภาคเศรษฐกิจหรือสตรีที่เป็นแรงงานนอกระบบ เป็นกำลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้า ตลอดจนขับเคลื่อนสังคมให้พัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน   สตรีทำงานในภาคเศรษฐกิจและสตรีแรงงานนอกระบบ จึงควรได้รับการดูแล ยกย่องและเผยแพร่เกียรติคุณ ให้เป็นที่รู้จักในสังคม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจึงได้จัดกิจกรรมคัดเลือกสตรีที่ทำงานในภาคเศรษฐกิจและสตรีแรงงานนอกระบบขึ้น ปี 2556 เป็นปีแรก โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณา ประกอบด้วย

ส่วนที่ 1 ผลงาน  ผู้เสนอผลงานต้องมีส่วนร่วมในการทำงาน การสร้างรายได้ การคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การเป็นผู้นำด้านหนึ่งด้านใด มาตรฐานหรือได้รับการรับรองเกี่ยวกับการทำงาน รวมถึงประวัติการได้รับการยกย่องหรือรางวัลผลงานต่างๆ โดยการแนบภาพถ่ายกิจกรรมการมีส่วนร่วมต่อชุมชน สังคม คะแนน 30 คะแนน

ส่วนที่ 2 การดำรงตนเป็นผู้ประพฤติดี  การดูแลครอบครัวและสมาชิกในครอบครัว และเป็นแบบอย่างของสังคมได้ คะแนน 30 คะแนน

ส่วนที่ 3 การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคม  ในการบำเพ็ญประโยชน์การมีส่วนร่วมในกิจกรรมของส่วนรวมหรือชุมชน เป็นสมาชิกที่ดี เป็นที่ยอมรับของสังคม และสมควรเป็นแบบอย่าง คะแนน 40 คะแนน

สำหรับจังหวัดสุรินทร์ จะเปิดรับสมัครสตรีทำงานในภาคเศรษฐกิจและสตรีแรงงานนอกระบบไม่จำกัดจำนวน  และพิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 5 คน โดยผู้ที่ได้รับคัดเลือกลำดับที่ 1 จะส่งชื่อเพื่อเข้ารับรางวัลระดับประเทศ ส่วนอีก 4 คน ให้ได้รับโล่รางวัลระดับจังหวัด

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสุรินทร์   โทรศัพท์ / โทรสาร 044-513981



สุจิตรา  สีคำ /ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

อปมช.สุรินทร์ ได้รับคัดเลือกเป็นสตรีไทยดีเด่นจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2556

นางสาวกัญญรัตน์  เกียรติสุภา  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์  ได้จัดกิจกรรมวันสตรีไทยอย่างต่อเนื่องทุกปี  ตั้งแต่ปี 2547  เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ  เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12  สิงหาคม 2556  และเฉลิมฉลองวันสตรีไทย วันที่ 1 สิงหาคม 2556 โดยได้จัดโครงการคัดสรรสตรีไทยดีเด่น เพื่อสรรหา  ยกย่อง  และประกาศเกียรติคุณสตรีไทยที่ได้อุทิศตนสร้างผลงานดีเด่น มีบทบาทสำคัญต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม  โดยขอความร่วมมือจังหวัดพิจารณาคัดเลือกสตรีไทยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม  สมควรได้รับการประกาศเกียรติคุณเป็นสตรีไทยดีเด่น จังหวัดละ 1 คน
สำหรับจังหวัดสุรินทร์มีสตรีส่งประวัติและผลงานให้จังหวัดพิจารณาจำนวน 4 ราย ได้แก่
นางประจวบ แก้วกลม  อายุ 43  ปี  ตำบลปราสาททะนง  อำเภอปราสาท
นางธนิดา น่วมจะโป๊ะ อายุ  50  ปี ตำบลชุมพลบุรี อำเภอชุมพลบุรี
นางรัฐาพร สนใจ อายุ 46 ปี ตำบลนอกเมือง  อำเภอเมืองสุรินทร์
นางเพียรพิศ  อนุสรณ์ทรางกูร  อายุ 58 ปี  ตำบลอาโพน  อำเภอบัวเชด
โดยจังหวัดสุรินทร์ได้คัดเลือก นางเพียรพิศ  อนุสรณ์ทรางกูร อำเภอบัวเชด  อายุ  58 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 198  หมู่ที่ 7  ตำบลอาโพน  อำเภอบัวเชด  ซึ่งเป็น อปมช.จังหวัดสุรินทร์ รุ่นที่ 1 เป็นสตรีไทยดีเด่นจังหวัดสุรินทร์  ปี 2556 ซึ่งจะได้รับโล่และประกาศเกียรติคุณจากสภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ส่วนอีก 3 ราย จะได้รับประกาศเกียรติคุณจากจังหวัดสุรินทร์ ต่อไป
ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ  องค์อุปถัมภิกา สภาสตรีแห่งชาติฯ  ได้พระราชทานพระราชดำรัสเนื่องในวันสตรีไทย  ปี 2546 ว่า สตรีไทยมีหน้าที่สำคัญเบื้องต้น 4 ประการ คือ  พึงทำหน้าที่ของแม่ให้สมบูรณ์  พึงทำหน้าที่ของแม่บ้านให้สมบูรณ์  พึงรักษาเอกลักษณ์ของความเป็นสตรีไทย  และพึงฝึกฝนตนเองให้มีความสามารถยิ่งขึ้น หากปฏิบัติได้ทั้ง 4 ประการ ย่อมส่งผลให้ครอบครัวไทย  สังคมไทย  และประเทศชาติมีความสุข  ความเจริญ  นำไปสู่การพัฒนาด้านอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง  และสตรีไทยจักเป็นที่ยอมรับยกย่องชื่นชมของสังคมโลกตลอดไป



สมทรง เผือกผล/ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

จังหวัดสุรินทร์เตรียมจัดงานมหกรรมแห่เทียนพรรษา สวยงาม อลังการ ด้วยขบวนแห่กว่า 1,500 คน จาก 12 คุ้มวัด

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน กำหนดจัดงาน มหกรรมแห่เทียนพรรษาในวันที่ 20-21 กรกฎาคม  2556  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนส่งเสริมประเพณีที่ดีงามของท้องถิ่นให้คงไว้สืบไป และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์  โดยในงานจะมีการตั้งขบวนแห่เทียนพรรษาในวันที่ 20  กรกฎาคม 2556  เวลา 15.00 น. ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง  จากนั้นจะเคลื่อนขบวนไปตามถนนในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์  ประกอบด้วยขบวนแห่เทียนพรรษาจากวัดในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์จำนวน 12 คุ้มวัด  ได้แก่ วัดใหม่ศรีมากทอง  วัดจุมพลสุทธาวาส  วัดศาลาลอยพระอารามหลวง  วัดป่าโยธาประสิทธิ์  วัดกลางสุรินทร์  วัดบูรพารามพระอารามหลวง  วัดโคกบัวราย  วัดพรหมสุรินทร์  วัดจำปาสุรินทร์  วัดหนองบัว  วัดเทพสุรินทร์  และวัดประทุมเมฆ  ขบวนแห่จะตกแต่งสวยงามอลังการ  มีขบวนฟ้อนรำรวมทุกขบวนไม่น้อยกว่า 1,500 คน  แต่ละขบวนจะฟ้อนรำให้ประชาชนชมรวม 3 จุด ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง  วงเวียนน้ำพุ  และหน้าโรงยิมเทศบาลเมืองสุรินทร์
ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์  กล่าวว่า งาน มหกรรมแห่เทียนพรรษาปี 2556  จะมีการประกวดขบวนแห่เทียนพรรษาและการประกวดรถต้นเทียนด้วย  โดยผู้ชนะการประกวดขบวนแห่เทียนพรรษา  จะได้รับเงินรางวัล 40,000 บาท 35,000 บาท 30,000  บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร  และรางวัลชมชย 9 รางวัล ๆ ละ 20,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร  ส่วนผู้ชนะการประกวดรถต้นเทียน  ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท 25,000  บาท 20,000  บาท พร้อมโล่รางวัลและเกียรติบัตร  และรางวัลชมเชย 9 รางวัล ๆ ละ 15,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร



สมทรง เผือกผล/ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว