วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สุรินทร์ร่วมใจรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก เนื่องในวัน “ไข้เลือดออกอาเซียน”

เทศบาลเมืองสุรินทร์ นำนักเรียน นักศึกษา ในตัวเมืองสุรินทร์ เดินรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก เนื่องในวัน "ไข้เลือดออกอาเซียน”

วันที่ 15 มิ.ย. 56 ที่เทศบาลเมืองสุรินทร์ นายธนธัช รุ่งธนเกียรติ รองนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองสุรินทร์ เป็นประธานเปิดการเดินรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือด เนื่องในวัน "ไข้เลือดออกอาเซียน” (Asean dengne day) โดยนำเยาวชน นักเรียน นักศึกษาจากสถาบันการศึกษา อาสาสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนชาวจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกิจกรรม การเดินรณรงค์ เนื่องในวัน ไข้เลือดออกอาเซียน ไปรอบเขตตัวเมืองสุรินทร์

ทั้งนี้เนื่องจากกลุ่มประเทศอาเซียน 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย กัมพูชา บรูไน มาเลเซีย ลาว พม่า ฟิลิปปินส์ เวียดนาม อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ได้มีมติร่วมกันในการแก้ปัญหาโรคไข้เลือดออก ซึ่งเป็นปัญหาระดับภูมิภาค โดยกำหนดให้วันที่ 15 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันไข้เลือดออกอาเซียน (Asean dengne day) ประกอบกับสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปัจจุบันได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น

นอกจากนี้ จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ณ วันที่ 30 เมษายน 2556 ที่ผ่านมา จังหวัดสุรินทร์พบผู้ป่วยที่เป็นไข้เลือดออกกว่า 661 ราย เสียชีวิต 2 ราย ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์พบผู้ป่วยจำนวน 14 ราย เสียชีวิต 1 ราย อัตราป่วยพบมากในเด็กอายุ 10 – 14 ปี ซึ่งเป็นเด็กนักเรียนในสถานศึกษา จากการสำรวจดัชนีลูกน้ำยุงลายในชุมชนมีค่าเฉลี่ย 26.36 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนด คือ 10 ทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรค

เทศบาลเมืองสุรินทร์ จึงได้ร่วมกับโรงพยาบาลสุรินทร์ ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ สถาบันการศึกษาในจังหวัดสุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดโครงการรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก เนื่องในวันไข้เลือดออกอาเซียนขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันกำจัดลูกน้ำยุงลาย และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบ้านเรือน ชุมชน และสถานศึกษาทุกแห่งอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอครอบคลุมทุกพื้นที่ พร้อมแจกเอกสารความรู้เรื่องการป้องกันโรคไข้เลือดออก และแจกทรายอะเบท ตามเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนผ่าน



กำชัย วันสุข ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเปิดงานของดีอำเภอน้ำยืน ปี 2556 ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายผลไม้ สินค้าการเกษตร และผลิตภัณฑ์โอท๊อป บริเวณสนามที่ว่าการอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี โดยกำหนดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14-18 มิถุนายน นี้

วันนี้ (15 มิ.ย. 56) ที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิด ของดีอำเภอน้ำยืน ประจำปี 2556 โดยมีนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย นายสมคิด เชื้อคง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี นายอำเภอ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้การต้อนรับ การจัดงาน ของดีอำเภอน้ำยืน ประจำปี 2556 โดยเริ่มจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-18 มิถุนายน 2556 นี้ ที่บริเวณสนามที่ว่าการอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี

โดย กิจกรรมภายในงาน มีการออกร้านจำหน่ายสินค้าการเกษตรราคายุติธรรมประชาชนอำเภอน้ำยืนที่ได้นำ ผลผลิตทางการเกษตรภายในสวน อาทิ เงาะ ทุเรียน มังคุด แก้วมังกร และมะม่วง ผลิตภัณฑ์โอท๊อป ที่มีคุณภาพดีนำออกมาจำหน่ายภายในงาน การแสดงนิทรรศการข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอน้ำยืน งานจิตรกรรมภาพเขียนวิถีไทย การประกวดสินค้าทางการเกษตร ผลผลิตของชุมชน ของดีอำเภอน้ำยืน การจัดงานของดีอำเภอน้ำยืนในครั้งนี้ จะเป็นการส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว เปิดโอกาสให้เกษตรกร มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมงานดังกล่าวเพราะถือว่าจะได้ชิมผลไม้ทุกภาคได้ที่อำเภอน้ำยืน โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนพฤษภาคมของทุกปี


 

จักรกฤษณ์ มาลาสาย /ข่าว

รมว.ทส.และมท.3 ปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดอุดรธานี

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินโครงการปลูกป่าและฟื้นฟูต้นน้ำและโครงการประชา อาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินีฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 35 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดอุดธานี

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ ( 15 มิ.ย. 56 ) ที่ห้องประชุมทองใหญ่ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นร่วมประชุมชี้แจงแนวทางทางการดำเนินโครงการปลูกป่าและฟื้นฟูต้นน้ำและ โครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินี ซึ่งกระทรวงทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกระทรวง มหาดไทย จัดขึ้นเพื่อเป็นการซ้กซ้อมแนวทางการการทำงานภายใต้โครงการดังกล่าวแก่ผู้ ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนผู้ปฏิบัติงานในสังกัดกระทรวงทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 35 จังหวัด ให้ทราบและเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานได้ในทันนีที่ได้รับงบปะมาณ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยได้จัดสรรเงินกู้สำหรับดำเนินการตามแผนงานฟื้นฟู อนุรักษ์ป่า และระบบนิเวศ ในปี2555 จำนวน 925.57 ล้านบาท เพื่อให้กรมป่าไม่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินการจัดทำฝาย เพาะชำกล้าไม้ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และได้รับอนุมัติแผนแม่บทการฟื้นฟูป่าและอนุรักษ์ป่าและระบบนิเวศ (25 ลุ่มน้ำ) ซึ่งเป็นแผน 5 ปี (2556-2560) วงเงิน 10,000 ล้านบาท โดยในปี 2556 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติวงเงินดำเนินโครงการ 2,085.3361 ล้านบาท ให้ กระทรวงทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กำหนดขั้นตอน วีธีการทำงาน โดยจัดตั้งคณะทำงานปฏิบัติงานระดับจังหวัด เพื่อสำรวจ คัดเลือก และรับรองความถูกต้องของพื้นที่ รวมทั้งจัดทำพิกัดของหน่วยงานที่รับผิดชอบเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละ จังหวัด ลงนามรับรองความถูกต้องของข้อมูล และมีการตั้งคณะกรรมการติดตามผลการดำเนินงานของโครงการ เพื่อรายงานผลการดำเนินงานให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะต่อไป ซึ่งกรมป่าไม้ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการทุกกิจกรรมจัดทำราย ละเอียดการดำเนินงานทุกขั้นตอนให้เกิดความโปร่งใสและพร้อมที่จะตรวจสอบได้ ตลอดเวลา

นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัยพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการดำเนินงานฯนั้นทั้ง 3 กระทรวงต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน ฝากผู้ว่าราชการทุกจังหวัดดูแลตามศักยภาพทุกขั้นตอน โดยทุกจังหวัดต้องเร่งดำเนินการสำรวจ คัดเลือกและรับรองพื้นที่ เสนออธิบดีกรมป่าไม้ /อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ตรวจสอบและรับรอง เพื่อนำเสนอขอรับงบประมาณ ซึ่งงบประมาณจะโอนให้ผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีที่มีการโยกย้ายก็ให้มีการรับช่วงต่อกันอย่างให้เกิดปัญหา



ทีมข่าวส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

กศน.บรบือ จ.มหาสารคาม อบรมภาษาอังกฤษในการซื้อขายแก่กลุ่มอาชีพ เตรียมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

กศน.อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เพิ่มศักยภาพ พัฒนากลุ่มอาชีพชุมชน ในการโฆษณาผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต และทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในการซื้อและจำหน่ายสินค้า เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558

ที่หอประชุมอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม สำนักงาน กศน.อำเภอบรบือ นำกลุ่มอาชีพ นักศึกษาวิชาชีพระยะสั้น นักศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้สนใจจากตำบลต่างๆ ในพื้นที่อำเภอบรบือ จำนวน 616 คน เข้ารับการฝึกอบรมด้านการประชาสัมพันธ์สินค้าผ่านสื่ออินเทอร์เน็ต การใช้ภาษาอังกฤษในการซื้อขายและชมการสาธิตด้านบริหารจัดการของศูนย์ฝึก อาชีพชุมชน OTOP Mini MBA โดยมีนายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงาน และมอบเกียรติบัตรแก่ผู้ชนะเลิศการแข่งขันแต่งกลอน และร้องเพลงจากตำบลต่างๆ ซึ่งการอบรมครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนวิทยากรจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และในงานมีการจัดแสดงสินค้าจากกลุ่มอาชีพในพื้นที่อำเภอบรบือ อาทิ กลุ่มอาชีพทำขนม กลุ่มทอเสื่อกก กลุ่มทอผ้าเช็ดเท้า กลุ่มสารตะกร้าพลาสติกดีไซด์ กลุ่มทำดอกไม้ประดิษฐ์ และกลุ่มผู้เลี้ยงกบ เป็นต้น ทั้งนี้การจัดอบรมแก่กลุ่มอาชีพดังกล่าว จัดขึ้นเพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพของกลุ่มอาชีพต่างๆ ในด้านการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การใช้อินเทอร์เน็ต การฝึกทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในการซื้อและขายสินค้า พร้อมทั้งเรียนรู้เทคนิคการพัฒนาการบริหารจัดการกลุ่มอาชีพ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดเศรษฐกิจประชาคมอาเซียน ในปี 2558



ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

จ.มหาสารคาม หยุดไข้เลือดออกระดมพลกำจัดลูกน้ำยุงลายในชุมชน

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโนนเพ็ก ตำบลแวงน่าง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับโรงเรียนและชุมชน รณรงค์กำจัดลูกน้ำยุงลายป้องกันภัยไข้เลือดออก โดยขณะนี้จังหวัดมหาสารคามมีผู้ป่วยสะสมแล้ว 627 ราย

นางอารีจิตร ไชยคำภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโนนเพ็ก ตำบลแวงน่าง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม นางนงค์เยาว์ ทุมวัน นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ และ นายเทวินทร์ ปลายขอก ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดงน้อย นำ อสม. ผู้นำชุมชน ครูและนักเรียน กว่า 300 คน แต่งกายด้วยชุดยุงลาย เดินรณรงค์ไปตามหมู่บ้าน/ชุมชน 7 หมู่บ้าน ในเขตรับผิดชอบของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโนนเพ็ก ประกอบด้วยบ้านดงน้อย ม.4,บ้านดอนบม ม.6,บ้านหินตั้ง ม.7 ,บ้านร่วมใจม.13,บ้านโนนเพ็ก ม.14,บ้านดอนหันพัฒนา ม.16 และบ้านดงน้อย ม.17 เพื่อสร้างกระแสให้เกิดความตระหนักในการกำจัดลูกน้ำ ยุงลายซึ่งเป็นสัตว์พาหนะโรคไข้เลือดออก ตามโครงการชุมชนร่วมใจกำจัดลูกน้ำยุงลายป้องกันภัยไข้เลือดออก

โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองมหาสารคาม ทีม srrt.จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม และโรงพยาบาลมหาสารคาม

สำหรับสถานการณ์ของผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก จนถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2556 จังหวัดมหาสารคาม มีผู้ป่วยสะสมแล้วจำนวน 627 ราย ซึ่งการรณรงค์ในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันสร้างความตระหนักให้เกิดขึ้นทั้ง ในโรงเรียน หมู่บ้านและชุมชน เพื่อร่วมกันกำจัดลูกน้ำ ยุงลาย สัตว์พาหนะโรคไข้เลือดออกให้หมดไป
 
 


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ม.มหาสารคาม จัดพิธีมอบหมวกและเสื้อแก่นิสิตพยาบาลฯ

คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดพิธีมอบหมวกและเสื้อนิสิตหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 3 ประจำปีการศึกษา 2556 พร้อมทุนการศึกษา "Dean’s Scholarship”

รองศาสตราจารย์ ดร. ดรุณี รุจกรกานต์ คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ เป็นประธานในพิธีมอบหมวกและเสื้อ แก่ นิสิตหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 3 จำนวน 103 คน พร้อมมอบทุนการศึกษา "Dean’s Scholarship”แก่นิสิต จำนวน 2 ทุน และกล่าวให้โอวาทแก่นิสิตที่ร่วมพิธี

ทั้งนี้ นิสิตพยาบาลที่รับหมวกและเสื้อ เป็นผู้ที่ผ่านการปฏิบัติงานในวิชาปฏิบัติการพยาบาลเบื้องต้นมาแล้ว และจะเริ่มฝึกปฏิบัติในวิชาปฏิบัติการพยาบาลแต่ละสาขา อันได้แก่ปฏิบัติการพยาบาลเด็ก ปฏิบัติการพยาบาลผู้ใหญ่ และปฏิบัติการพยาบาล ผู้รับบริการที่มีสุขภาพจิตเบี่ยงเบน ซึ่งถือว่าเป็นก้าวแรกของการก้าวเข้าสู่วิชาชีพพยาบาล การมอบหมวกและเสื้อ จึงเป็นการให้นิสิตได้รับทราบถึงความเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถที่ คณาจารย์มีต่อนิสิต ในการให้การพยาบาลแก่ผู้รับบริการอย่างมีความรับผิดชอบและยึดมั่นใน จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ทั้งยังบอกถึงความภาคภูมิใจและการเห็นคุณค่าในตนเองของนิสิต ในการศึกษาเล่าเรียนและฝึกปฏิบัติงาน
 



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารเปิดโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้านชุมชนชายแดน

หอประชุมอำเภอเมืองมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้านชุมชน ชายแดน ของอำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอเมืองมุกดาหาร ได้จัดขึ้นเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหายาเสพติด และเสริมสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้าน ชุมชนชายแดน หรือเครือข่ายตาสับปะรดให้มีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในโอกาสนี้ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอเมืองมุกดาหาร ได้มอบรถจักรยานให้ชุมชนละ 3 คัน พร้อมเสื้อกั๊กสะท้อนแสง 3 ตัว เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีผู้แทนจากหมู่บ้าน ชุมชนตามแนวชายแดน ของอำเภอเมืองมุกดาหาร เข้ารับมอบและรับการอบรมจำนวน 375 คน

นายจิรพงษ์ แก้วมณี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า คาดว่าผู้เข้ารับการอบรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งหมู่บ้านชุมชนชายแดนใน ครั้งนี้ จะสามารถนำความรู้ ความเข้าใจในปัญหายาเสพติด ไปใช้แก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งและขึ้นเป็นหูเป็นตาช่วยภาครัฐ ในการเฝ้าระวัง แจ้งเบาะแสผู้เสพ ผู้ค้ายาเสพติด เพื่อขจัดยาเสพติดให้หมดสิ้นไป



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

คณะกรรมการประกวดโครงการ TO BE NUMBER ONE ลงพื้นที่ตรวจประเมินผลการดำเนินงานของจังหวัดมุกดาหาร

บริษัทสหเรือง จำกัด จังหวัดมุกดาหาร คณะอนุกรรมการตัดสินการประกวด TO BE NUMBER ONE ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชุดที่ 1 นำโดยนายไพบูลย์ ทาสระคู ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักนโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานในพื้นที่จริงของชมรม TO BE NUMBER ONE ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ที่ บริษัทสหเรือง จำกัด จังหวัดมุกดาหาร และโรงเรียนคำชะอีวิทยาคาร โดยมีนายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยส่วนราชการ แกนนำ ครอบครัว ชุมชน อสม. ครู นักเรียน นักศึกษา และสถานประกอบการที่ดำเนินงานกิจกรรม TO BE NUMBER ONE ให้การต้อนรับ

สำหรับจังหวัดมุกดาหาร ได้เข้าร่วมประกวดกิจกรรมในโครงการ TO BE NUMBER ONE รอบคัดเลือกระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และได้รับการคัดเลือกผ่านเข้าสู่การประกวดระดับประเทศ ประจำปี 2556จำนวน 2ประเภท คือ ในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดีเด่น และสถานประกอบการขนาดใหญ่ ระดับเงิน ดังนั้นเพื่อให้การประกวดกิจกรรม TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 – 15 กรกฎาคม 2556 ณ ศูนย์ประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย คณะกรรมการตัดสินการประกวดฯ จึงได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานจริงของชมรมและเก็บคะแนนระดับ ประเทศรอบที่ 1 โดยจะมีคะแนนการตรวจเยี่ยมพื้นที่จริง จำนวน 50คะแนน ซึ่งคะแนนที่ได้จะนำไปรับกับคะแนนประเมินผลระดับประเทศ ในงานมหกรรม TO BE NUMBER ONE ณ ศูนย์ประชุมอิมแพค เมืองทองธานี ต่อไป



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดมุกดาหารจัดสรรทุนการศึกษามูลนิธิคุณพุ่ม ปีการศึกษา ๒๕๕๖

นางสาววัชราภรณ์ ผิวขำ ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ด้วยศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดมุกดาหาร สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับจัดสรรทุนการศึกษามูลนิธิคุณพุ่ม ปีการศึกษา ๒๕๕๖ จำนวน ๑๐๓ ทุน ทุนละ ๕,๐๐๐ บาท รวมเงินทั้งสิ้น ๕๑๕,๐๐๐ บาท

ผู้สนใจส่งแบบขอรับทุนการศึกษา ได้ตั้งแต่วันที่ ๓ –๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดมุกดาหาร โทร.๐๔๒-๖๙๔๐๓๕ หรือ www.psecmukdanan.com





สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว 

มหาสารคามคัดเลือกสถานศึกษา 5 แห่ง ที่มีการดำเนินงานสร้างความปลอดภัยการใช้รถใช้ถนนเข้ารับคัดเลือกระดับภาค

นายสตวัน มะโนเครื่อง ขนส่งจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ตามที่กรมการขนส่งทางบกร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้จัดให้มีโครงการประกวดสถานศึกษาร่วมใจ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนนประจำปี 2556 ทั้งระดับจังหวัดและระดับภาค เพื่อมอบโล่รางวัลให้สถานศึกษานั้น ในส่วนของจังหวัดมหาสารคามได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือก และประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้สถานศึกษาส่งกิจกรรม "สถานศึกษาร่วมใจสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน” ประจำปี 2556 เพื่อพิจารณาคัดเลือกหาผู้มีผลงานดีและครบทั้ง 5 ด้าน แห่งความปลอดภัยตามที่องค์การสหประชาชาติกำหนด คือ การบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนน , มีถนนและการสัญจรอย่างปลอดภัย , มียานพาหนะที่ปลอดภัย , นักเรียนมีพฤติกรรมในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย และมีการตอบสนองหลังเกิดอุบัติเหตุ ปรากฏว่า มีสถานศึกษา ส่งผลการดำเนินงานตามเกณฑ์ที่กำหนดเข้าให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือก จำนวน 40 แห่ง


ขนส่งจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยต่อไปว่า ผลการพิจารณาคัดเลือกของคณะกรรมการระดับจังหวัดของจังหวัดมหาสารคาม ปรากฏว่า มีสถานศึกษา 5 แห่ง ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวแทนของจังหวัดมหาสารคาม เข้ารับการคัดเลือกในระดับภาค ต่อไปคือ 1.โรงเรียนผดุงนารี , 2.โรงเรียนนาเชือกพิยาสรรค์ , 3.โรงเรียนโกสุมวิทยาสรรค์ , 4.โรงเรียนบ้านดอนหว่านหัวหนอง และ 5.โรงเรียนบ้านหนองนาไร่เดียว



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว ศิรินทรา แก้วบุญเรือง/พิมพ์

มนุษยศาสตร์ มมส.จัดโครงการสถานทูต ผู้ประกอบการ ก้าวใหม่ในชีวิตประชาคมอาเซียนพร้อมอภิปรายการทำงานกับแรงงานข้ามชาติ

ศูนย์ภาษา วัฒนธรรมและการพัฒนาอาเซียนร่วมกับภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดโครงการสถานทูต ผู้ประกอบการ ก้าวใหม่ในชีวิตประชาคมอาเซียนพร้อมอภิปรายการทำงานกับแรงงานข้ามชาติพร้อม อภิปรายการทำงานกับแรงงานข้ามชาติเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนิสิต เกี่ยวกับการทำงานในภูมิภาคอาเซียน 13-06-56 ที่ห้องประชุมแม่น้ำของ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ศูนย์ภาษา วัฒนธรรมและการพัฒนาอาเซียนร่วมกับภาควิชาภาษาไทยและภาษาตะวันออก จัดโครงการสถานทูต ผู้ประกอบการ ก้าวใหม่ในชีวิตประชาคมอาเซียนพร้อมกับการจัดอภิปรายการทำงานกับแรงงานข้าม ชาติโดยมีเอกอัครราชทูตที่ปรึกษาประจำสถานทูตลาวประจำประเทศไทย เลขานุการเอกและกงสุลประจำสถานทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เลขานุการเอกและกงสุลประจำสถานทูตลาวประจำประเทศไทย ร่วมเวทีอภิปรายให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและการทำงานในภูมิภาคอาเซียน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทวีศิลป์ สืบวัฒนะ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ละสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า การก้าวสู่ความเป็นประชาคมอาเซียนของคนไทย โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนที่สมัครเข้าศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนในระดับ อุดมศึกษา ความมั่นใจในการศึกษาและเป้าหมายที่จะก้าวไปในอนาคตเป็นสิ่งสำคัญในการเล่า เรียน หน่วยงานและบุคลากรที่รับผิดชอบโดยตรงและเครือข่ายต้องร่วมกันสร้างให้เกิด ขึ้น เนื่องจากการก้าวไปสู่ความเป็นประชาคมอาเซียนเป็นสิ่งจำเป็นของคนในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทุกคน ทางคณะฯจึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้นเพื่อให้นิสิตได้มีโอกาสฟังบรรยายและ พบปะกับสถานทูตในประเทศอาเซียนและสถานประกอบการที่อยู่ในภูมิภาคอาเซียนด้วย นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการที่มีฐานการผลิตตั้งอยู่ในภูมิภาคอาเซียนมาร่วม อภิปราย ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานร่วมกับแรงงานข้ามชาติ ซึ่งได้รับความสนใจจากนิสิตเป็นจำนวนกว่า 300 คน



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ทอ.มหาสารคาม มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม

สถานีวิทยุกระจายเสียงทหารอากาศ 014 มหาสารคาม มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม

ที่โรงเรียนบ้านร่วมใจ 1 อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สถานีวิทยุกระจายเสียงทหารอากาศ 014 มหาสารคาม มอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ในพื้นที่จังหวัด มหาสารคาม โดยมีนาวาอากาศเอกไชยศ เทียนคำศรี ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงทหารอากาศ 014 มหาสารคามเป็นตัวแทนมอบ ให้แก่นักเรียนโรงเรียนนิคมบ้านหัน โรงเรียนบ้านร่วมใจ 1 โรงเรียนบ้านเขวา จำนวน 30 ทุนๆละ 1,000 บาท นอกจากนั้นยังมอบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะให้กับโรงเรียนนิคมบ้านหันเพื่อใช้เป็น สื่อการเรียนการสอนจำนวน 5 ชุดพร้อมทั้งอุปกรณ์กีฬาและทุนทรัพย์เพื่อใช้ซ่อมแซมอาคารเรียนที่ชำรุดให้ กับโรงเรียนบ้านร่วมใจ 1 เป็นเงิน 200,000 บาท                 



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคามเร่งประชาสัมพันธ์ภารกิจหน้าที่ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ

คณะกรรมการธรรมาภิบาลหรือ กธจ.ของจังหวัดมหาสารคาม ให้ความเห็นชอบแผนประชาสัมพันธ์ที่ที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์เสนอเพื่อ เร่งประชาสัมพันธ์ภารกิจหน้าที่ของ กธจ.ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ

นายสุพล วัฒนกิติคุณ รองประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีการสรรหาผู้แทนภาคประชาสังคม , ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประกอบด้วย ผู้แทนสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด , ผู้แทนสมาชิกสภาเทศบาล , ผู้แทนสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน จำนวน 15 คน เข้ามาดำรงตำแหน่งคณะกรรมการธรรมาภิบาล หรือ กธจ. ของจังหวัดต่างๆ โดยมีผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด เพื่อทำหน้าที่ในการสอดส่องและเสนอแนะการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรัฐใน จังหวัดให้ใช้วิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และไม่มีการละเลยการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมีการทุจริต ฯ แต่เนื่องจากปัจจุบันยังพบว่า ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชน ในท้องถิ่นยังไม่รู้จักคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดว่ามีใครบ้าง และมีบทบาทภารกิจหน้าที่อะไร กธจ.จังหวัดมหาสารคามจึงได้มอบหมายให้ประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม ในฐานะที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ จัดทำแผนประชาสัมพันธ์ กธจ.มหาสารคามตลอดจนภารกิจหน้าที่ของ กธจ. เพื่อเสนอให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 12 ในฐานะประธาน กธจ.มหาสารคาม พิจารณาอนุมัติแผนงานโครงการ และงบประมาณต่อไป


รองประธาน กธจ.มหาสารคาม เปิดเผยต่อไปว่า เมื่อเร็วๆนี้ กธจ.มหาสารคาม ได้ร่วมกันพิจารณาให้ความเห็นชอบ แผนประชาสัมพันธ์ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม ปี 2556 เรียบร้อยแล้วก่อนเสนอให้ประธาน กธจ.อนุมัติ โดยประกอบไปด้วย 5 กิจกรรม คือ 1.กิจกรรมการผลิตรายการวิทยุชื่อรายการ "สาระน่ารู้กับ กธจ. มหาสารคาม” ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดมหาสารคาม ระบบ FM 106.50 MHz ระบบ AM 531 KHz ทุกวันเสาร์ เวลา 14.35 – 15.00 น. เริ่มออกอากาศมาตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา , 2.การผลิตสปอตแนะนำบทบาทภารกิจหน้าที่ของ กธจ.จังหวัด เพื่อเผยแพร่ทางสถานีวิทยุหลัก และวิทยุชุมชนในจังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2556 เป็นต้นไป , 3.การเผยแพร่ภาพ,ชื่อ,ภารกิจหน้าที่,หมายเลขโทรศัพท์ของ กธจ. มหาสารคาม ผ่านทาง เว็บไซต์ของจังหวัด , เว็บไซต์ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด , 4.การจัดทำโปสเตอร์แนะนำ กธจ. , ที่ปรึกษา และภารกิจหน้าที่นำไปเผยแพร่ตามสถานที่ราชการ อำเภอ อบต. หมู่บ้านต่างๆ ให้ประชาชนรู้จัก และ 5.การจัดทำป้ายคัตเอาท์แนะนำ กธจ.มหาสารคาม โดยนำไปติดตั้งตามที่สาธารณต่างๆ ให้ประชาชนรู้จักและรับทราบด้วย



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว ศิรินทรา แก้วบุญเรือง/พิมพ์

พิธีทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค และมอบประกาศนียบัตรประโยค ๑-๒ แก่พระภิกษุสามเณรในเขตปกครองคณะสงค์หนตะวันออกภาค ๘-๙ ในจังหวัดมหาสารคาม

จังหวัดมหาสารคามจัดเตรียมพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค และมอบประกาศนียบัตรประโยค ๑-๒ แก่พระภิกษุสามเณรในเขตปกครองคณะสงค์หนตะวันออกภาค ๘-๙ ในจังหวัดมหาสารคาม อย่างยิ่งใหญ่

(๑๔/๐๖/๕๖) ณ วัดมหาชัย พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ได้จัดประชุมปรึกษาหารือ เตรียมการจัดงานพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค และมอบประกาศนียบัตรประโยค ๑-๒ แก่พระภิกษุสามเณรในเขตปกครองคณะสงค์หนตะวันออกภาค ๘-๙ ในจังหวัดมหาสารคาม ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชานุญาตถวายผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระ สังฆราช ประกอบพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค และจังหวัดมหาสารคามกำหนดจัดพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค และมอบประกาศนียบัตรประโยค ๑-๒ แก่พระภิกษุสามเณรในเขตปกครองคณะสงค์หนตะวันออกภาค ๘-๙ ในวันอังคารที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๓๐ น.วัดมหาชัย พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม โดยมีพระภิกษุสามเณรที่เข้ารับมอบพัดเปรียญธรรม ๓ ประโยคจำนวน ๑๑๒ รูป และมีพระภิกษุสามเณรเข้ารับมอบประกาศนียบัตร ๑-๒ จำนวน ๗๑๖ รูป รวม ๘๒๘ รูป

การจัดพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค เป็นพระราชประเพณีที่พระเจ้าแผ่นดิน ทรงตั้งเปรียญธรรมถวายพระภิกษุสามเณรที่มีความรู้ความสามารถสอบไล่ได้ แก่พระภิกษุสามเณรในเขตปกครองคณะสงฆ์หนตะวันออกภาค ๘-๙ ตามหลักสูตรการสอบบาลีสนามหลวง อีกประการหนึ่งก็เพื่อเป็นการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในเจริญรุ่งเรืองต่อไป

โอกาสนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ขออาราธนาพระภิกษุสามเณรที่สอบได้เปรียญธรรม ๓ ประโยคทุกรูป โปรดไปรับการตั้งเปรียญธรรม และขอเชิญพุทธศาสนิกชนไปร่วมพิธี และถวายการต้อนรับองค์ประธาน ตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าวโดยพร้อมเพียงกัน




ภาณุวัชร คนเชี่ยว ภาพ/ข่าว

มหาสารคาม จัดกิจกรรมวางแผนครอบครัวสุนัขและแมว แก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัด

ปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม ร่วมมือเทศบาลเมืองมหาสารคาม เปิดให้บริการผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมวฟรี เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดอย่างยั่งยืน

ที่ศูนย์กีฬาเยาวชนเทศบาลเมืองมหาสารคาม สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับสำนักงานเทศบาลเมืองมหาสารคาม จัดกิจกรรมวางแผนครอบครัวสุนัขและแมวขึ้น โดยมีนายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งมีกิจกรรมประกอบด้วย การเปิดบริการผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมว การบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในสัตว์ที่มีอายุตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป การฉีดยาคุมกำเนิดแก่สุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป โดยไม่คิดค่าบริการ การบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมสัตว์ ให้คำแนะนำในการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าทั้งในคนและในสัตว์ที่ถูกวิธี การจัดนิทรรศการให้ความรู้ การแข่งขันตอบปัญหาชิงรางวัล ทั้งนี้เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดอย่างยั่งยืน ภายใต้นโยบายกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยอย่างถาวรภายในปี พ.ศ. 2563 โดยกรมปศุสัตว์ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่บริการผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมวแบบถาวร ฟรี ในเขตพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 11-30 มิถุนายน 2556 และในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม เปิดบริการ 3 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 ศูนย์กีฬาเยาวชนเทศบาลเมืองมหาสารคาม จุดที่ 2 บริเวณวัดส่องเหนือ และจุดที่ 3 ศาลาเอนกประสงค์วัดธัญญาวาส โดยมีประชาชนนำสุนัขและแมวมาใช้บริการจำนวนมาก

 


ส.ปชส.มหาสารคาม / ข่าว

ตำรวจภูธรกันทรวิชัย มหาสารคาม แถลงข่าวจับยาบ้าและกลุ่มวัยรุ่นแต่งรถซิ่ง

เจ้าหน้าที่ตรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า พร้อมของกลางยาบ้า 395 เม็ด และจับกุมกลุ่มวัยรุ่นรถแต่งซิ่ง ดัดแปลง จำนวน 20 คัน
ที่สถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย พันตำรวจเอกณัฐพล มิ่งพันธ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยพันตำรวจเอกณัฐพล คงบุญ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย พันตำรวจโทปรีชา เก่งสารกิจ รองผู้กำกับการปราบรามสถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย ร่วมกันแถลงข่าวการจับนายทรงพล หรือไก่ คำน้ำแดง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.3 ต.จิกสังข์ทอง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 395 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิ๊ก จำนวน 1 คัน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่านายทรงพล หรือไก่ คำน้ำแดง แอบลักลอบขายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในเขตพื้นที่ ต.ศรีสุข อ.กันทรวิชัย จึงได้วางแผนล่อซื้อยาบ้าจากนายทรงพล และทำการจับกุมได้ที่บริเวณริมถนนก่อนถึงทางเข้าธารทิพย์ บังกะโล บ้านน้ำเที่ยง ต.ศรีสุข ซึ่งจากการตรวจค้นพบยาบ้าบรรจุอยู่ในซองพลาสติกสีน้ำเงินพันทับด้วยเทปกาวสี ดำ จำนวน 2 ถุง มียาบ้าอยู่ข้างในจำนวน 395 เม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหามียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกำหมาย และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนั้น ตำรวจภูธรกันทรวิชัย ยังได้ตรวจจับยึดรถกลุ่มวัยรุ่น ที่ออกมาแข่งรถจักรยานยนต์บนท้องถนน ซึ่งเป็นรถที่แต่งซิ่ง ดัดแปลงสภาพรถ และแต่งท่อไอเสียให้มีเสียงดังรบกวนประชาชน จำนวน 20 คัน โดยผู้ขับขี่ส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชนที่มีอายุระหว่าง 13-19 ปี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาขับขี่รถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ขับขี่รถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และดัดแปลงสภาพรถ พร้อมเชิญผู้ปกครองของเยาวชนที่ถูกจับกุมมารับทราบข้อกล่าวหา และให้ว่ากล่าวตักเตือนบุตรหลานเนื่องจากประพฤติตนไม่เหมาะสมด้วย

ทั้งนี้ สถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย ได้มีการตั้งจุดสกัดบนถนนทุกเส้นทาง เพื่อกวดขันเรื่องการขับขี่รถจักรยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่น ในลักษณะหวาดเสียวและดัดแปลงสภาพรถ โดยพบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นกระทำผิดจำนวนมาก และจากการจับกุมภายใน 2 วัน สามารถทำการจับกุมยึดรถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงสภาพได้ถึง 20 คัน




ส.ปชส.มหาสารคาม /ข่าว

กรมพละศึกษา จัดงาน กีฬาสร้างชาติ นันทนาการสร้างสุข ที่จังหวัดนครราชสีมา นำนักกีฬาทีมชาติไทยมาให้เยาวชนกระทบไหล่และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านกีฬา

วันนี้ (14 มิ.ย. 56) เวลา 10.00 น ที่บริเวณลานอนุสาวรียท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นางแสงจันทร์ วรสุมันต์ อธิบดีกรมพลศึกษา เป็นประธานในพิธีเปิดเทศกาลกีฬาสร้างชาติ นันทนาการสร้างสุข ครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนหันมารักการเล่นกีฬาโดยเปิดโอกาสให้เยาวชนในต่าง จังหวัดที่รักการเล่นกีฬาได้มีการแสดงออก สำหรับงานจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13-17 มิถุนายน 2556 โดยกิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 ต่อจาก กรุงเทพฯ และ จ.แพร่ ที่เคยประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ทำให้กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นแม่งานใหญ่ได้ขยายกิจกรรมนี้ออกสู่หัวเมืองใหญ่ในแต่ละภูมิภาค ภายในงานมีการจัดกิจกรรมนิทรรศการ กษัตริย์นักกีฬา และอัครศิลปินของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมถึงนิทรรศการกีฬาสร้างชาติ ซึ่งจะมีฮีโร่ขวัญใจชาวไทยที่จะมาร่วมพูดคุย และให้ความรู้รวมถึงทักษะทางด้านกีฬาแก่เยาวชน เช่น ต๋อง ศิษย์ฉ่อย, ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, "น้องเล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ รวมถึงกิจกรรมนันทนาการ การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยของเหล่านักเรียน นักศึกษาจากเวทีชิงช้าสวรรค์ และหุ่นละครโรงเล็ก รวมถึงมินิคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดังมากมายทั้งเพลงลูกทุ่งและเพลงไทยสากล และร้านขายของต่างๆ มากมาย โดยดารา-ศิลปินที่จะไปให้ชาวจ.นครราชสีมา ได้กระทบไหล่ ทั้ง 5 วัน อย่างใกล้ชิด นำโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ, โฬม พัชฏะ, พอร์ช ศรัณย์, เวียร์ ศุกลวัฒน์, "มิน” พีชญา, หยาดทิพย์ ราชปาล, ป๊อด โมเดิร์นด็อก, อ๊อฟ ปองศักดิ์, เจ เจตริน, ตั๊กแตน ชลดา, แช่ม แช่มรัมย์
 

นางแสงจันทร์ วรสุมันต์ อธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า "เทศกาลกีฬาสร้างชาติ นันทนาการสร้างสุข” ถือเป็นอีกกิจกรรมหลักของกรมพลศึกษาที่ส่งเสริมให้เยาวชนหันมารักการเล่น กีฬา โดยเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนในต่างจังหวัดที่รักการเล่นกีฬาได้มีการ แสดงออก ซึ่งมีผู้นำเป็นไอดอลของพวกเขาอย่างนักกีฬาทีมชาติ กิจกรรมที่น่าสนใจคือ ตรวจสุขภาพเบื้องต้น จากสำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา บริการฟรีผู้ที่มาร่วมงาน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมนันทนาการที่ส่งเสริมการประกอบอาชีพให้กับผู้ปกครอง ที่พาลูกหลานมาร่วมงาน โดยเป็นการสาธิตวิธีการทำขนมไทย การเย็บปักถักร้อย กิจกรรมสาธิตงานฝีมือ เพื่อสร้างความเพลิดเพลิน และอาจสร้างรายได้เสริมให้กับผู้ที่เข้ามาทดลองทำและนำกลับไปบ้านต่อยอดได้ อีกทางหนึ่ง

เปิดงาน “ งานมหกรรมวิชาการโคราช 1 รวมพลังรวมใจสร้างภูมิคุ้มกันเด็กไทยก้าวไกลสู่ประชาคมอาเซียน ” KORAT 1 Acedermic Expo 2013

นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน " งานมหกรรมวิชาการโคราช 1 รวมพลังรวมใจสร้างภูมิคุ้มกันเด็กไทยก้าวไกลสู่ประชาคมอาเซียน ” KORAT 1 Acedermic Expo 2013 และรับมอบภาพเขียน เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2556 ณ เอ็มซีซีฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์นครราชสีมา

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 1 ได้กำหนดการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนในสังกัดให้มีเป้าหมายและทิศทางใน การพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพนักเรียน จึงมีนโยบายการพัฒนา เรียกว่านโยบาย 10+1 ได้แก่ อ่านออกเขียนได้ 100 เปอร์เซ็นต์ มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์เป็นเลิศ ก่อเกิดงานอาชีพ เร่งรีบพัฒนาเทคโนโลยี มีการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา อ่านพูดภาษาอังกฤษ ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์ บ่มเพาะคุณธรรม น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง คู่เคียงระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ก้าวสู่ประชาอาเซียนด้วยความภาคภูมิใจ โรงเรียนในสังกัดได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเผยแพร่ผลงานการพัฒนาโรงเรียนต่อสาธารณชน
 

ดังนั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1 จึงได้กำหนดจัดงานมหกรรมวิชาการโคราช 1 สู่อาเซียน " Korat1 Academic ASEAN Expo.2013" ระหว่างวันที่ 11-12 มิถุนายน 2556 ณ ห้องเอ็มซีซีฮอลล์ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา ชั้น 3

จังหวัดขอนแก่นเซ็น MOU กับนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการนำนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคมไปใช้

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นมอบหมายให้นายเสน่ห์ นนทะโชติ ปลัดจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการนายอำเภอทั้ง 26 อำเภอเพื่อมาร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยเพื่อสนองนโยบายการจัดระเบียบสังคมของรัฐบาลซึ่ง เป็นการบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งนายอำเภอ ผู้กำกับการตำรวจ สรรรพสามิต วัฒนธรรม สาธารณสุข พาณิชย์จังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพราะปัจจุบันแนวโน้มสถานบริการจะมีการขออนุญาตน้อยเพราะมีขีดกำกัดเยอะแต่ มีการหลีกเลี่ยงมาขอเป็นร้านขายเหล้าแทนเพราะขออนุญาตง่ายแต่ลักษณะการ บริการแทบจะเหมือนสถานบริการทุกอย่างทำให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนที่ อาศัยอยู่ใกล้เคียงและเอื้อต่อการค้ามนุษย์ เอื้อต่อปัญหายาเสพติดระบาด ดังนั้นนายอำเภอทุกอำเภอทั้ง 26 อำเภอต้องไปประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการร้านค้าขาย เครื่องดื่มทั้งที่เปิดเผยและที่แอบแฝงเพื่อให้ทุกแห่งมาตกลงที่จะปฏิบัติ ให้ถูกต้องตามกฏหมายรวมทั้งการบังคับเวลาเปิดปิดต้องทำตามกฏหมายด้วย และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีการกวดขัน ตรวจตา ควบคุม รวมทั้งจับกุมทุกแห่งที่มีการกระทำผิด ซึ่งจังหวัดขอนแก่นได้ตั้งศูนย์รับแจ้งเบาะแสสถานบริการ ร้านจำหน่ายสุราและแหล่งอบายมุขที่ส่งผลเอื้อต่อปัญหายาเสพติด ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่นในส่วนอำเภอให้ใช้ศูนย์อำนวยความเป็นธรรมอำเภอเป็น สถานที่แจ้งเบาะแส ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้กล่าวเพิ่มเติมว่าต่อไปต้องเข้มงวดการขาย เครื่องดื่มขายเหล้าให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีร้านอาหารขายเหล้าต้องไม่มีนักร้องเด็กเสริฟมานั่งกับลูกค้าไม่ให้มีการ เต้นหรือกรณีที่มีการแสดงดนตรีหรือแสดงอื่นๆเพื่อความบันเทิงต้องปิดภายใน 24.00น. เมื่อประชาชนพบเห็นร้านลักษณะดังกล่าวหากมีพฤติกรรมแบบนั้นและทางตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครองในพื้นที่อำเภอใดไม่ดำเนินการตักเตือนหรือจับปรับก็ให้ แจ้งได้ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นได้

ธนาคารแห่งประเทศไทยสำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือขอนแก่นจัดสัมมนาวิชาการอินโดจีน

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน 2556 เวลา 09.00 น. ได้กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมสัมมนาวิชาการอินโดจีน เรื่อง จากลุ่มน้ำโขงสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน: สถานการณ์ปัจจุบันและทิศทางในอนาคต (From CLMVT to AEC : Current Situation and Future Prospects) ณ โรงแรมเซ็นทาราคอนเวนชันเซ็นเตอร์ขอนแก่น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท.สภอ.) ร่วมกับคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ร่วมจัดสัมมนาวิชาการขึ้นเพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ถึง ทิศทาง แนวคิด นโยบายของประเทศเพื่อนบ้านในมุมมองของ AEC และพร้อมปรับตัวเข้าหากันอย่างราบรื่น อันจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนแก่ภูมิภาคและท้องถิ่น โดยมีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากหัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการ สมาชิกของหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ชมรมธนาคาร อาจารย์ และนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหัวข้อการสัมมนาในวันนี้นับว่ามีความสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อ พวกเราทุกคนที่จะต้องเตรียมความพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงกับกระแส AEC ทั้งในด้านการค้าการลงทุน เป็นการรู้เขารู้เรามากขึ้น และจากการสัมมนาในวันนี้ทุกท่านจะได้รับความรู้หลายๆด้าน เนื่องจากได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทั้งในประเทศและจากประเทศ ที่มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ที่จะเล่าให้เห็นถึงแก่นสาระอันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการวางแผนของทุก ท่านในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้กล่าว เพิ่มเติมว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดที่อยู่ใจกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ ของการรวมกลุ่มประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง การเป็นเมืองศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง การบริหารราชการแผ่นดิน การค้า การลงทุนและการบริการ รวมทั้งการศึกษา การสาธารณสุขของภูมิภาค ทำให้เป็นจังหวัดที่มีนักลงทุนผู้ประกอบการจากต่างถิ่นให้ความสนใจเข้ามาดู ลู่ทางในการประกอบธุรกิจต่างๆ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจที่จะเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน และธุรกิจอื่นๆ ที่จะอาศัยความได้เปรียบจากการเปิดเสรีด้านต่างๆ มากขึ้น สิ่งสำคัญที่นักลงทุนรวมทั้งพวกเราทุกคนจะต้องเติมเต็มมากขึ้น คือการได้มุมมองอีกด้านหนึ่งจากผู้เชี่ยวชาญของประเทศในกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขง ( CLMVT ) และจากประเทศที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจในภูมิภาค ในการสัมมนาทางวิชาการในวันนี้      

กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยกาฬสินธุ์กว่าสี่พันคนแจ้งความจำนงรับการช่วยเหลือจากรัฐบาล

เวลา 16.00 น. วานนี้ ( 13 มิถุนายน 2556 ) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.อ.จักรพงษ์ กระจ่างพุ่ม รองผู้อำนวยกองรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ , นายอุดม สมรส รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และ พล.ต.ต.คณิตศร น้อยนารถ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เชิญแกนนำ ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรือ ผรท.ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าพบเพื่อหารือกับกลุ่มพัฒนาชาติไทยในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์บางส่วน ที่ยังไม่ได้แสดงความจำนงส่งรายชื่อใช้สิทธิ์ในการรับความช่วยเหลือจาก รัฐบาล
 
พ.อ.จักรพงษ์ กระจ่างพุ่ม รองผู้อำนวยกองรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากนโยบายรัฐบาลโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของ ผรท.ตามมติที่ประชุมของกรรมการระดับชาติ โดยสรุปดังนี้1.ยึดถือคุณสมบัติและเงื่อนไขเดิม คือให้ความช่วยเหลืออดีตกองกำลังติดอาวุธ(เฉพาะทหารหลัก) หรืออดีตกรรมการพรรค(พคท.) โดยให้กรรมการระดับจังหวัดคัดกรองและส่งรายชื่อให้กับ กอ.รมน.ภาค เพื่อเสนอรัฐบาลพิจารณา ช่วยเหลือค่าครองชีพเป็นรายครอบครัว ๆ ละ 225,000 บาท 2.มีมติเห็นชอบในหลักการให้มีการช่วยเหลือ ผรท.ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์การช่วยเหลือ เช่น เป็นมวลชน หรือครอบครัวของ ผรท. โดยให้ กอ.รมน.จังหวัด และ กอ.รมน.ภาค รวบรวมรายชื่อ แยกประเภทความต้องการเป็นกลุ่มๆ เช่นกลุ่มที่ต้องการที่ดินทำกิน ก็จะประสานกับ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม สำหรับกลุ่มที่ต้องการช่วยเหลือด้านปศุสัตว์ ก็จะประสานกับกรมปศุสัตว์ เป็นต้น ทั้งนี้รัฐ ได้ ปิดการรับคำร้องในวันที่ 15 พ.ค. 56 และจะต้องคัดกรองให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฏาคม 2556 โดยจังหวัดกาฬสินธุ์ มีผู้ยื่นความจำนงรับสิทธิ์ดังกล่าวจำนวน 4,826 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างคัดกรอง ขณะที่กลุ่มของนายบุญใส ก้อนดินจี่ บางส่วนยังไม่แจ้งความจำนง เนื่องจากยังไม่เข้าใจไปในทิศทางเดียวกันกับภาครัฐ และในวันนี้จึงได้พูดคุยเพื่อหาทางออก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับข้อเสนอต่างๆของกลุ่มของนายบุญใส ก้อนดินจี่ พร้อมรวบรวมนำเสนอต่อไปยังส่วนกลางในทันที
 
 


วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว

กฟผ.จัดแข่งขัน อภิปราย หัวข้อ “ขยับความคิด พิชิตปัญหาพลังงานไฟฟ้าไทย”เพื่อสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมเรื่องพลังงานไฟฟ้าของประเทศ

บ่ายวานนี้ ( 13 มิ.ย. 56 ) วันนี้ 13 มิถุนายน 2556 ที่หอประชุมเทศบาลตำบลยางตลาด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ร่วมกับอำเภอยางตลาดได้จัดแข่งขัน การอภิปราย ในหัวข้อ "ขยับความคิด พิชิตปัญหาพลังงานไฟฟ้าไทย” ตามโครงการสร้างเยาวชนเพื่อเป็นเครือข่ายการสื่อสาร โดยมีเป้าหมายให้นักเรียนในเขตพื้นที่อำเภอยางตลาด ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นถึงพลังงานไฟฟ้าของประเทศอย่างสร้างสรรค์ ในกิจกรรมการอภิปรายตามหัวข้อที่กำหนด ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3 ระดับ คือ ระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-5 มุ่งเน้นให้เยาวชนได้รู้จักและเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต การฝึกทักษะการสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชน ทั้งนี้ทีมชนะเลิศในทุกระดับ จะได้รับเงินรางวัลและเป็นตัวแทนเข้าแข่งขันในระดับประเทศ ที่สำนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556 โดยแบ่งประเภทของการแข่งขันออกเป็น 3 ระดับคือ 1. การแข่งขันในระดับประถมศึกษาปีที่ 4-6 2. ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 และระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-5 ซึ่งในครั้งนี้มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มากประสบการณ์ อาทิ ผู้แทนจากพลังงานจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้แทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 24 จังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้แทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 และ ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าร่วมเป็นกรรมการตัดสิน 

โดยเยาวชนจากทุกโรงเรียนที่เข้าแข่งขันฯทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จะมีการจัดนำไปทัศนศึกษาดูงานโครงการของการไฟฟ้าฯ ณ ภูมิภาคต่าง ๆ ต่อไป และ ทีมที่ชนะเลิศในทุกระดับ จะได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนในสิ้นปีนี้



วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว

เหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ รับบริจาคโลหิตเนื่องในวันผู้บริจาคโลหิตโลก 2556

เหล่ากาชาดจังหวัด กาฬสินธุ์ ร่วมกับโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลกมลาไสย ภาครัฐ ภาคเอกชน ออกรับบริจาคโลหิตจากชาวอำเภอกมลาไสย เนื่องในวันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2556 เพื่อเก็บสำรองเลือดเข้าธนาคารเลือดไว้ใช้รักษาผู้ป่วย
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556 ณ หอประชุมอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ นางราณี สุบงกฎ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ นางดวงใจ ลือชาธนานนท์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมคณะกรรมการเหล่ากาชาด แพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลกมลาไสย ออกรับบริจาคโลหิตจากชาวอำเภอกมลาไสย เพื่อเก็บสำรองเลือดเข้าธนาคารเลือดไว้รักษาผู้ป่วย เนื่องเป็นวันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2556 โดยมีเจ้าหน้าที่ ทั้งภาครัฐและภาคเอชน นักเรียน นักศึกษา พ่อค้าประชาชน ร่วมกันรับบริจาคโลหิตเป็นจำนวนมาก
นางราณี สุบงกฎ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากการที่สหพันธ์สภากาชาดสากล องค์การอนามัยโลก สหพันธ์ผู้บริจาคโลหิตระหว่างประเทศ และสมาคมบริการโลหิตระหว่างประเทศ ได้กำหนดให้วันที่ 14 มิถุนายน ของทุกปีเป็นวันผู้บริจาคโลหิตโลก (World Blood Donor Day) เพื่อระลึกถึง ดร.คาร์ล แลนด์สไตเนอร์ ผู้ค้นพบหมู่โลหิตระบบเอบี ซึ่งถือว่าเป็นการค้นพบที่มีความสำคัญยิ่งต่องานบริการโลหิตทั่วโลก จึงสมควรอย่างยิ่งที่สภากาชาดทั่วโลกจะได้ร่วมจัดกิจกรรมเพื่อเป็นการส่ง เสริมงานด้านบริการโลหิต รวมทั้งร่วมกันเป็นผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ตามเจตนารมณ์องค์กรที่เกี่ยวข้องกับงานบริการโลหิต สำหรับในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์ เหล่ากาขาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ร่วมกับโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลกมลาไสย จัดกิจกรรมการรับบริจาคโลหิตขึ้นภายใต้แนวคิด "Every Blood Donation Is a Gift Of Life” มอบโลหิตเป็นของขวัญต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ โดยรณรงค์เชิญชวนประชาชนทั่วไป ส่วนราชการ หน่วยงาน ภาครัฐภาคเอกชน สถานศึกษา องค์กรต่างๆ มาร่วมบริจาคโลหิตซึ่งผู้บริจาคโลหิตจะได้รับเสื้อยืดที่ระลึก และร่วมจับสลากลุ้นรางวัลพิเศษอีกมากมาย เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณผู้บริจาคโลหิต อีกด้วย



ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารเปิดงาน “ผลไม้ไทย ผลไม้ดีมีที่ภาคตะวันออก จากระยองสู่มุกดาหาร ปี ๒๕๕๖

วันนี้ (๑๔ มิ.ย. ๕๖) ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดงาน "ผลไม้ไทย ผลไม้ดีมีที่ภาคตะวันออก จากระยองสู่มุกดาหาร ปี ๒๕๕๖” ขึ้นในระหว่างวันที่ ๑๔ – ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ โดยมีผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ ๓ จังหวัดระยอง หัวหน้าแผนกกสิกรรมและป่าไม้แขวงสะหวันนะเขต เกษตรจังหวัดระยอง หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดมุกดาหาร และพี่น้องเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชนจังหวัดระยอง จังหวัดเชียงรายนำสับปะรดนาแลมาจำหน่าย รวมแล้ว จำนวน ๒๕ กลุ่ม ผลไม้ประมาณ ๑๐๐ ตัน เกษตรกรจำนวน ๑,๒๐๐ คนที่มาร่วมงาน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า พี่น้องชาวจังหวัดมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จะได้รับประทานผลไม้ที่มีคุณภาพดีของภาคตะวันออกและได้สนับสนุนช่วยเหลือพี่ น้องเกษตรกรชาวสวนผลไม้จังหวัดระยอง เพราะผลไม้เป็นผลผลิตทางการเกษตรที่มีปัญหาการเน่าเสียได้ง่ายหลังจากเก็บ เกี่ยวจะต้องรีบนำไปจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคหรือนำไปเพื่อแปรรูป การจำหน่ายก็ต้องมีตลาดที่แน่นอนรองรับปริมาณผลผลิตผลไม้ที่จะออกสู่ตลาด ทั้งภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ ถือว่าเป็นการส่งเสริมการขยายตลาดภายในประเทศและส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคผล ไม้ให้มากขึ้น

นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า การจัดงานครั้งมีกิจกรรมมากมาย การจำหน่ายผลไม้คุณภาพดีของจังหวัดระยอง ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ฯ ผลิตภัณฑ์สินค้าแปรรูปและอาหารทะเลแห้ง และการเจรจาการค้าระหว่างพ่อค้าขายส่ง/ขายปลีกจังหวัดมุกดาหารกับกลุ่ม เกษตรกร/วิสาหกิจชุมชนจังหวัดระยอง ชิมฟรีผลไม้ดีจากเมืองระยอง นาทีทองผลไม้ราคาถูก ลด แลก แจกแถม สาธิตการเก็บผลไม้ การแข่งขันกินผลไม้จากนานาชาติถึง ๕ ประเทศ เช่น ฝรั่ง ลาว ไทย ญี่ปุ่น เวียดนาม



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

กองกำลังสุรนารีกระทำพิธีเนื่องในวันสถาปนากองกำลัง ครบรอบปีที่ 35

กองกำลังสุรนารี ทำบุญเนื่องในวันสถาปนา ครบรอบปีที่ 35 กับภารกิจป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย รักษาความสงบมั่นคงของประเทศ
 
วันที่ 14 มิ.ย.56 เวลา 09.19 น. ที่ กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี ค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พลตรีชลิต เมฆมุกดา ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี นำข้าราชการนายทหาร กระทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในกองกำลังสุรนารี ซึ่งประกอบด้วยพระสยามเทวาธิราช , ท้าวมหาพรหม , พระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และ นำข้าราชการทหาร ตำรวจ และหัวหน้าส่วนราชการ แขกผู้มีเกียรติ ประกอบพิธีการทางศาสนาบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันสถาปนากองกำลังสุรนารีครบรอบปี ที่ 35

ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีมีมติให้กองทัพบกจัดตั้งกองกำลังป้องกันชายแดน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2521 เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยจากภายนอกประเทศ ตลอดจนพิทักษ์ชีวิตและทรัพย์สินของราษฏรไทย ในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง และได้มอบให้กองทัพภาคที่ 2 รับผิดชอบจัดตั้งกองกำลังสุรนารี เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2521 กองกำลังสุรนารีจึงได้ถือเอาวันที่16 มิถุนายน 2521 เป็นวันสถาปนากองกำลังสุรนารีมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีพื้นที่รับผิดชอบประกอบด้วย พื้นที่ชายแดน 5 จังหวัด ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างคือบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี และอำนาจเจริญ เป็นระยะทางตามแนวชายแดนประมาณ 750 กิโลเมตร พื้นที่ชายแดนที่เป็นพื้นดิน ตลอดแนวเทือกเขาพนมดงรัก ความยาวประมาณ 562 กิโลเมตร พื้นที่ชายแดนที่เป็นพื้นน้ำ เป็นแม่น้ำโขงความยาวประมาณ 188กิโลเมตร จากแนวชายแดนเข้ามา 5-10 กิโลเมตร ได้ควบคุมให้เป็นพื้นที่ป่าไม้ชายแดน ซึ่งยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ โดยประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ 4 แห่ง ป่าสงวน 12 แห่ง และเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า 2 แห่ง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว เป็นต้นกำเนิดลำห้วยและแม่น้ำสำคัญของภาคอีสานตอนล่าง คือ แม่น้ำมูล และ แม่น้ำชี

กองกำลังสุรนารี จึงได้ยึดมั่นและถือปฏิบัติด้วยความภูมิใจในการปกป้องประเทศชาติ ศาสนา พระมากษัตริย์ รักษาความมั่นคง ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีต่อปะเทศเพื่อนบ้าน




ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข / ข่าว
อนุชา  หาญนึก / ภาพ

จังหวัดอุบลราชธานี จัดงาน วันผู้บริจาคโลหิตโลก ประจำปี 2556 เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจเรื่องการจัด หาผู้บริจาคโลหิต โดยมุ่งเน้นการบริจาคที่สมัครใจโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อเพิ่มจำนวนผู้บริจาคโลหิตใหม่ และกระตุ้นผู้บริจาคโลหิตเป็นประจำ

วันที่ 14 มิถุนายน 2556 ที่ หอประชุมไพรพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานีและโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จัดงาน "วันผู้บริจาคโลหิตโลก ( World Blood Donor Day ) ประจำปี 2556” เนื่องจากวันที่ 14 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันเกิดของ คาร์ล แลนด์สไตเนอร์ ผู้ค้นพบระบบหมู่โลหิตเอบีโอ ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่องานบริการโลหิตของโลก ดังนั้นองค์การอนามัยโลก ร่วมกับ สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ ได้กำหนดให้วันที่ 14 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันผู้บริจาคโลหิตโลก โดยเริ่มครั้งแรกเมื่อ พ.ศ 2547 ซึ่งในปีนี้ได้มีแนวคิดหลักในการจัดงาน คือ การมอบโลหิตเป็นของขวัญต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ ”

นางมัณฑนา สุทธิวรชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า การจัดงานในปีนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจเรื่องการจัด หาผู้บริจาคโลหิต โดยมุ่งเน้นการบริจาคที่สมัครใจโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน และเพื่อเพิ่มจำนวนผู้บริจาคโลหิตใหม่และกระตุ้นผู้บริจาคโลหิตเป็นประจำให้ บริจาคอย่างสม่ำเสมอ สำหรับสถิติการรับบริจาคโลหิตในปี 2555 มียอดรับบริจาคจำนวน 60,480 ยูนิต ซึ่งมีจำนวนสูงมากเป็นอันดับต้นของโรงพยาบาลในประเทศ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย โดยในปี 2556 ได้กำหนดเป้าหมายการบริจาคโลหิต 65,000 ยูนิต เพื่อให้มีเพียงพอในการรักษาผู้ป่วยทั้งในโรงพยาบาลระดับจังหวัดและระดับ อำเภอในจังหวัดอุบลราชธานี

สำหรับกิจกรรมภายในงานวันนี้ประกอบไปด้วย พิธีมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้บริจาคโลหิตสูงสุด และผู้บริจาคเกล็ดเลือดสูงสุด 3 อันดับแรก การจัดนิทรรศการความรู้เรื่องบริจาคโลหิตและเกล็ดโลหิต การเผยแพร่ความรู้โดยการตอบปัญหาชิงรางวัล และการรับบริจาคโลหิตจากประชาชนทั่วไปพร้อมทั้งมอบของที่ระลึก


 
จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

จังหวัด อุบลราชธานี ร่วมกับ ชาวตำบลท่าเมือง อำเภอดอนมดแดง จัดประเพณีลงแขกทำนา โดยไม่พึ่งพาเครื่องจักรกล เพื่อสร้างความรักความสามัคคีของคนในชุมชน และเป็นการรื้อฟื้นประเพณีลงแขกทำนาให้คนรุ่นหลังได้รู้จัก

วันที่ 14 มิถุนายน 2556 ที่ แปลงนาทดลอง บ้านท่าเมือง ตำบลท่าเมือง อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธาน เปิดงานประเพณีลงแขกดำนา โดยไม่พึ่งพา เครื่องจักรกล โดย ชาวบ้านตำบลท่าเมือง อำเภอดอนมดแดง จัดขึ้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้เกษตรกรและสร้างความรักความสามัคคีของคนใน ชุมชน และเป็นการ อนุรักษ์สืบทอดประเพณีลงแขกทำนา ให้เยาวชน รุ่นหลังได้รู้จัก ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรทำนา โดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องจักรกล เพื่อลดต้นทุนในการทำนา โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การลงแขกดำนา โดยมีชาวบ้าน จาก 10 หมู่บ้าน ในตำบลท่าเมือง จำนวน 250 คน มาลงแขกดำนาช่วยกัน /การแข่งขันจับปลาไหล /การแข่งขันดำนาชาย /การแข่งขันดำนาหญิง/ การแข่งขันดำนานักเรียน/ การแข่งขันหว่านแห และ การจัดนิทรรศการตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงวิถีชีวิตชาวนา จากหน่วยงานต่างๆ ตลอดจน การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โอท็อป ของตำบลท่าเมือง ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แสดงให้เห็นถึงความสมัครสมานสามัคคี และ ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวบ้าน โดยเฉพาะกิจกรรมแข่งขันจับปลาไหล เรียกเสียงฮือฮา จากกองเชียร์ได้มากที่สุด โดยชาวบ้านที่มาร่วมงานต่างส่งเสียงเชียร์ ผู้เข้าแข่งขันซึ่งเป็นตัวแทนของแต่ละหมูบ้าน จำนวน 10 ทีม กองเชียร์บางคนได้ออกลีลา ท่าทาง ฟ้อนรำ ตามจังหวะเสียงเพลงจากกลองยาวด้วยความสนุกสนาน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ตามที่ กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย ให้ทุกจังหวัด จัดโครงการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบABC โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมายอย่างน้อย อำเภอละ 1 ตำบล โดย อำเภอดอนมดแดง ได้คัดเลือกให้ตำบลท่าเมือง เป็นตำบลเป้าหมาย โดยมีการจัดเก็บข้อมูล ครบทั้ง 10 หมู่บ้าน ทั้งสิ้น1456 ครัวเรือน พบว่าปัญหาของคนตำบลท่าเมือง คือ ต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรค่อนข้างสูง รายจ่ายหมดไปกับค่าจ้างแรงงาน ค่ารถไถนา ค่าเม็ดพันธ์ข้าว ค่าปุ๋ยเคมี และ ค่ารถเกี่ยวข้าว โดยการ จัดประเพณี ลงแขกทำนา ไม่พึ่งพาเครื่องจักรกล ขึ้น เพื่อให้ชาวบ้านได้รื้อฟื้น การลงแขกดำนา เพื่อลดต้นทุนในการผลิต



จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

กาชาดอุดรธานีรับบริจาคโลหิตเนื่องในวันผู้บริจาคโลหิตโลก ปี 56

สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี ร่วมกับธนาคารเลือดโรงพยาบาลอุดรธานี ออกรับบริจาคโลหิตเนื่องในวันผู้บริจาคโลหิตโลก พร้อมมอบเสื้อยืด จัดเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวและข้าวราดแกง ผลไม้ น้ำหวาน ไอศกรีม แก่ผู้บริจาคโลหิตเพื่อขอบคุณ ซึ่งทุกคนที่มาร่วมบริจาคโลหิตในวันนี้ได้ทั้งบุญอิ่มทั้งท้อง

ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองอุดรธานี ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานีเช้าวันนี้ ( 14 มิ.ย. 56 ) นางช่อผกา จิตตเกษม นายกเหล่ากาชาดจังวัดอุดรธานี พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี และนางจุติรุ่ง แพทย์โอสถ หัวหน้าธนาคารเลือด โรงพยาบาลอุดรธานีคณะแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอุดรธานี ร่วมออกหน่วยออกรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ โดยมีนายมาลัยวรณ์ ตั้งอรุณสวัสดิ์ และนางณีรบล ตั้งอรุณสวัสดิ์ ภริยาให้การต้อนรับและมอบหมายให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของที่ว่าการอำเภอ เมืองอุดรธานี คอยอำนายความสะดวกด้านสถานที่และให้บริการประชาชนที่มาร่วมบริจาคโลหิต ซึ่งในวันนี้มีจำนวนประชาชนมาร่วมบริจาคโลหิตจำนวนมากกว่าทุกๆครั้งที่ออก หน่วยรับบริจาคโลหิตในพื้นที่ 20 อำเภอของจังหวัดอุดรธานี

นางช่อผกา จิตตเกษม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จากการที่องค์การอนามัยโลก ร่วมกับ สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ สหพันธ์ผู้บริจาคโลหิตระหว่างประเทศ และสมาคมบริการโลหิตระหว่างประเทศ กำหนดให้วันที่ 14 มิถุนายน เป็นวันผู้บริจาคโลหิต เพื่อเป็นการระลึกถึง ดร.คาร์ล แลนด์สไตเนอร์ ผู้ค้นพบหมู่โลหิต เอบีโอ

เหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานีมีภารกิจสำคัญในการจัดหาโลหิตให้เพียงพอต่อความ ต้องการของชาวจังหวัดอุดรธานี และเป็นฟันเฟืองหนึ่งของสภากาชาดไทยในการจัดกิจกรรมเพื่อขอบคุณผู้บริจาค โลหิตภายใต้แนวคิดมอบโลหิตเป็นของขวัญต่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ หรือ Every blood donation is a gift of life เหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานีจึงได้จัดทำโครงการวันผู้บริจาคโลหิตโลก 2556อุดรธานีขึ้น เพื่อยกย่องเชิดชูและขอบคุณผู้บริจาคโลหิต รณรงค์เพิ่มจำนวนผู้บริจาคโลหิตใหม่ให้บริจาคโลหิตเป็นประจำอย่างยั่งยืน โดยมิหวังผลตอบแทน เพื่อเป็นกิจกรรมสนับสนุนโครงการ 65 ล้านดวงใจ บริจาคโลหิตถวายพ่อของแผ่นดิน โดยผู้ร่วมบริจาคโลหิตทุกคนจะได้รับมอบเสื้อยืด รับประทานก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง ไอศกรีม น้ำหวาน และผลไม้ เรียกว่าทุกคนที่เดินทางมาร่วมบริจาคโลหิตวันนี้ได้บุญแถมอิ่มท้อง

และถือเป็นเรื่องที่น่ายกย่องอย่างยิ่งเมื่อนายประสิทธิ์ พระสีเหลือง ผู้พิการทางสายตามาตั้งแต่กำเนิดชาวบ้านหนองคอนแสน ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง ผู้มีจิตอันเป็นกุศล แม้ร่างกายพการแต่ใจบุญเสียสละเดินทางมาร่วมบริจาคโลหิตกับเหล่ากาชาด จังหวัดอุดรธานี ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ในขณะที่นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี มองว่านายประสิทธิ์ เป็นคนดีที่น่ายกย่องแม้ร่างกายจะพิการแต่หัวใจเต็มไม่ได้พิการและเต็มไป ด้วยบุญกุศลที่ต้องการบริจาคเลือดเพื่อช่วยชีวิตเพื่อมนุษย์ถือว่าเป็น ตัวอย่างที่ดีและในสังคมไทยมีผู้พิการอีกจำนวนมากที่เป็นผู้มีจิตอันเป็น กุศลและน่ายกย่องอย่งนายประสิทธิ์ ฯ

สำหรับยอดผู้บริจาคโลหิตในวันนี้เดิมเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานีตั้งเป้าหมาย ไว้ที่ 400 คน แต่จากการตรวจสอบหลังเสร็จการรับบริจาคโลหิตมีผู้มาร่วมบริจาคโลหิตทั้งสิ้น 431 คน (431x400) ได้โลหิตร่วม 172,400 ซีซี



 ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

กกต.อด.จัดโครงการส่งเสริมสตรีมีส่วนร่วมทางการเมือง ปี 56

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานี จัดโครงการส่งเสริมสตรีมีส่วนร่วมทางการเมือง เสริมความรู้สร้างความเข้าใจ กระตุ้นให้กลุ่มสตรีในพื้นที่เข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง ใช้สิทธิของตนด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรม

ที่โรงแรมการิน อำเภอเมืองอุดรธานี วันนี้ ( 14 มิ.ย. 56 ) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานี จัดโครงการส่งเสริมสตรีมีส่วนร่วมทางการเมือง ประจำปี 2556 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างวิถีประชาธิปไตย เสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุข การเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ ส่งเสริมความเสมอภาคของหญิงและชาย เสริมสร้างเครือข่ายสตรีกับการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยมีผู้เข้าอบรมประกอบด้วย คณะกรรมการพัฒนาสตรีกลุ่มอำเภอเมืองอุดรธานี และคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี รวม 50 คน

ในการจัดโครงการครั้งนี้จัดให้มีการบรรยายพิเศษเรื่อง การมีส่วนร่วมของประชาชน กับการพัฒนาประชาธิปไตย โดยนายนิรันดร์ ยั่งยืน กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานี การเสวนาประสาผู้หญิง ในหัวข้อ "ผู้หญิงกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตย จะไปด้วยกันได้อย่างไร” ผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย ดร.ประกายแก้ว รัตนนาคะ นายกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนจังหวัดอุดรธานี นางดาวศิริ อยู่ประเสริฐ ผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุดรธานี นางนิสิต ศักยพันธ์ ที่ปรึกษาสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดอุดรธานี ผู้นำสตรีมุสลิมที่ทำคุณประโยชน์แก่สังคมด้านการเมือง ดำเนินรายการโดยนางสาวปรัชญานันท์ เวียงนนท์ และการบรรยายเรื่องการเลือกตั้งในความรับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการการ เลือกตั้งหรือ กกต.โดยนายเฉลิมพล ชัยกิตติภรณ์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอุดรธานี ปิดท้ายด้วยการตอบข้อซักถามและสรุปประเด็นปัญหา



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ

อบรมเพิ่มศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน ปี 56

ที่ทำการปกครองจังหวัดอุดรธานีจัดอบรมเพิ่มศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน จังหวัดอุดรธานีประจำปี 2556 โดยวิทยากรกระบวนการโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัด

ที่โรงแรมอุดรโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี วันนี้ ( 14 มิ.ย.56 ) ที่ทำการปกครองจังหวัดอุดรธานี ได้จัดให้มีการฝึกอบรมเพิ่มศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้านจังหวัดอุดรธานีประจำ ปี 2556 โดยวิทยากรกระบวนการโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัดตามแนวทางการขับ เคลื่อนการดำเนินงานของคณะกรรมการหมู่บ้านที่กรมการปกครองกำหนดไว้

ทั้งนี้กรมการปกครองได้กำหนดให้ทุกจังหวัดจัดตั้งโรงเรียนนักปกครองท้องที่ ประจำจังหวัด หรือ รร.นปท.จ.ขึ้นทุกจังหวัดเพื่อให้จังหวัดมีองค์กรหลักในการพัฒนาซักยภาพ บุคลากรด้านการปกครองท้องที่ เช่นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน หนทอ กม. อาสาสมัครของหน่วยงานหรือองค์กรต่างๆในพื้นที่ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตน ตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามที่ได้รับมอบหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้จังหวัดอุดรธานีได้จัดตั้งโรงเรียนนักปกครองท้องที่ประจำจังหวัดขึน ณ กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดอุดรธานี หรือ ร้อย อส.จ.อด. ที่ 1

ในปีงบประมาณ พ.ศ.2556 กรมการปกครองได้อนุมัติงบประมาณให้จังหวัดอุดรธานี จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน ประจำปี 2556 จำนวน 6 รุ่นรุ่นละ 100 คน ที่ทำการปครองจังหวัดอุดรธานีจึงจัดทำโครงการดังกล่าวโดยแบ่งเป็น 2 ห้วง คือ รุ่นที่ 1-3 จัดอบรมระหว่างวันที่ 14-15 มิถุนายน และรุ่นที่ 4-6 จัดอบรมระหว่างวันที่ 17-18 มิถุนายน 2556 โดยเป้าหมายผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วยคณะกรรมการหมู่บ้านจากหมู่บ้านที่มี ผลการปฏิบัติงานของ กม.ดี(B) หมู่บ้านละ 5 คน อาทิ ผู้ใหญ่บ้าน 1 คน, สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 คน, อาสาสมัครสาธารณสุข 1 คนและคณะกรรมการหมู่บ้านที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน สำหรับการจัดอบรมในครั้งนี้เป็นการอบรมในรุ่นที่ 1-3 มีผู้เข้ารับการอบรมจาก10 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองอุดรธานี ,หนองวัวซอ ,วังสามหมอ ,กุมภวาปี ไชยวาน เพ็ญ บ้านผือ กู่แก้ว ศรีธาตุและโนนสะอาดรวม 300 คน



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว

อบรมครูแนะแนว สพฐ.1

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต 1 จัดอบรมการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะด้านงานอาชีพของผู้เรียน

ที่โรงแรมอุดรโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี วันนี้ (14 มิ.ย.56)สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต 1 จัดให้มีการอบรมครูผู้สอนวิชาการงานพื้นฐานอาชีพ หลักสูตรการพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะด้านงานอาชีพของ ผู้เรียน โรงเรียนในสังกัด ประกอบด้วย 8 กลุ่มเครือข่ายโรงเรียน 259 โรงเรียนในพื้นที่อำเภอเมือง อำเภอเพ็ญ อำเภอสร้างคอมและอำเภอหนองวัวซอ เขตรับผิดชอบของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต 1 เพื่อเสริมความรู้และพัฒนาทักษะแก่บุคลากร ก่อนนำไปขยายผลแก่นักเรียน


ทีม ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว

นักเรียนชั้น ม.6 ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย ผุดไอเดียลทำพานไหว้ครู รูปโลโก้ facebook และรูปโลโก้ Line เพื่อให้ทุกคนได้รู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน

นายพินิจ  วงษ์โสภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ รายงานว่า  เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2556 ที่ห้องประชุมกิจเจริญไทย ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายปริญญา ผาคำ ผอ.ร.ร.ศรีสะเกษวิทยาลัย ได้จัดให้มีพิธีไหว้ครู เพื่อเป็นการระลึกถึงพระคุณของครู บูรพาจารย์ และเพื่อเป็นการให้โอกาสลูกศิษย์ได้แสดงออกถึงความกตัญญูกต เวทิตาต่อครู อาจารย์ ที่ได้อบรมสั่งสอนลูกศิษย์ ให้มีทั้งวิชาความรู้ติดตัว และให้เติบโตเป็นคนดี เพื่อให้ศิษย์ได้ขอขมาลาโทษครู อาจารย์ ที่ศิษย์อาจได้กระทำสิ่งที่ผิดพลาดพลั้ง ลบหลู่อาจารย์ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ว่าจะได้ตั้งใจ หรือไม่ได้ตั้งใจ ทั้งในด้านกายกรรม วจีกรรม หรือมโนกรรมก็ตาม ขอให้ได้รับการอโหสิกรรมจากครู อาจารย์ และเพื่อให้ศิษย์ทุกคนได้มีวิชาความรู้ตามที่มุ่งหวัง และเป็นคนดีของสังคมสืบต่อไป ซึ่งในปีนี้มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม จำนวนประมาณ 4,000 คน ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความรักและความอบอุ่นของคณะครู และนักเรียน สำหรับพานไหว้ครูในปีนี้ นักเรียนแต่ละชั้นต่างพากันตั้งใจทำพานไหว้ครูที่มีสีสันสวยงามมาอวดโฉมกัน อย่างมายมาย ซึ่งในปีนี้มีนักเรียนชั้น ม.6 ห้อง 13 ได้ร่วมกันทำพานไหว้ครูที่แปลกไปกว่าทุก ๆ ชั้น คือ นักเรียนกลุ่มนี้ได้ทำพานไหว้ครูเป็นรูปโลโก้ facebook และรูปโลโก้ Line ซึ่งถือเป็นพานไหว้ครูที่แปลกกว่าทุก ๆ ปีที่มีมา ซึ่งได้สร้างความสนใจให้กับคณะครู อาจารย์ และนักเรียนเป็นอย่างมาก
 
 น.ส.สุรภา พรหมภา นักเรียนชั้น ม.6 ห้อง 13 ที่ร่วมกันทำพานไหว้ครูรูปโลโก้ facebook และรูปโลโก้ Line กล่าวว่า การที่พวกตนได้ทำพานไหว้ครูรูปโลโก้ facebook และรูปโลโก้ Line นี้ขึ้นมา ก็เนื่องจากว่า โลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลง และทันสมัยมมากขึ้น ซึ่ง facebook และ Line ถือเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ทุกวันนี้ใช้ในการ ติดต่อสื่อสารกัน ดังนั้น พวกตนจึงได้ทำพานไหว้ครูรูปโลโก้ facebook และรูปโลโก้ Line นี้ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่า โลกของเราทุกวันนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงและมี facebook กับ Line ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว

 

จิรภัทร หมายสุข

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ

เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย บริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด

นายจำนง สายรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงาน คปภ.จังหวัดยโสธร แจ้งว่า ด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 576/2556 เรื่องเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย บริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2556 เนื่องจากปรากฏหลักฐานต่อนายทะเบียนว่า บริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด ไม่ส่งงบการเงินตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินในรอบปีที่ผ่านมา ทำให้งบการเงินของบริษัทฯ ขาดความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้ไม่ทราบฐานะการเงินที่แท้จริง

นายทะเบียนได้ให้โอกาสและเวลาในการดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาด ที่เกี่ยวข้องกับฐานะ แต่บริษัทฯ ก็มิได้ดำเนินการอย่างจริงจัง หากให้บริษัทฯ ประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อไปจะเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอา ประกันหรือประชาชน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของบริษัทฯ ดังกล่าว

 


ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 14 มิถุนายน 2556

ผช.เลขาธิการ ปปช.ลงพื้นที่ ยโสธร

ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงพื้นที่ ยโสธร ให้ ความรู้เกี่ยวกับ การยื่นบัญชีแสดง รายการทรัพย์สินและหนี้สิน ให้กับ ปปช. ที่ห้องแกรนด์รูมโรงแรมเจพี เอ็มเมอรัลด์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร นายประหยัด พวงจำปา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานเปิดการอบรมกฎหมายเกี่ยวกับ การยื่นบัญชีแสดง รายการทรัพย์สินและหนี้สิน ให้ ปปช.ตรวจสอบ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดยโสธร ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร ดำเนินการจัดฝึกอบรมขึ้น เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายการยื่นบัญชี การแสดงรายการทรัพย์สินและหนีสิน และการจัดทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคล และประโยชน์ส่วนร่วม ตลอดจนกฎระเบียบข้อบังคับในการสรรหา คณะกรรมการสรรหา กรรมการ ป.ป.ช. ประจำจังหวัด โดยมีผู้ข้าร่วมการอบรม ประกอบด้วย ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น/ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร/ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองยโสธร / / หัวหน้าส่วนราชการ / ข้าราชการ / และนักธุรกิจ ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป เข้ารับฟังเป็นจำนวนมาก 

ยโสธรแถลงข่าวพร้อมจัดงานมหกรรมศึกษาท้องถิ่น

เทศบาลเมืองยโสธรเปิดแถลงข่าว พร้อมเป็นเจ้าภาพในการจัดงานมหกรรม การจัดการศึกษาท้องถิ่น ภาคตะวันออกเฉลียงเหนือ ห้องประชุมสัตบรรณ โรงเรียนเทศบาล 1 สุขวิทยากร ตั้งตรงจิต 15 อ.เมือง จังหวัดยโสธรนายวีระวัฒน์ ภักตรนิกร นายยกเทศมนตรีเมืองยโสธร เปิดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน และผู้บริหารโรงเรียนในสังกัดเทศบาล ถึงความพร้อมในการจัดงาน มหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเทศบาลเมืองยโสธร ได้รับเกียรติจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นกระทรวงมหาดไทย ให้เป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมการจัดการศึกษาท้องถิ่น ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2556 ครั้งที่ 21 เพื่อคัดเลือกตัวแทนนักเรียน ในโรงเรียนสังกัดองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าร่วมการแข่งขันทักษะทางวิชาการ ระดับประเทศ และเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ความรู้ทางวิชาการของนักเรียน ภายในงานมีกิจกรรมประกอบด้วย การจัดนิทรรศการการแสดงผลงานทางวิชาการ การประกวดแข่งขันทักษะทางวิชาการ จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 19 -21 มิถุนายน 2556 ที่สวนพญาแถน นายวีระวัฒน์ ภักตรนิกร นายยกเทศมนตรีเมืองยโสธร กล่าวว่า ทางเทศบาลเมืองยโสธรมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในทุกๆด้าน พร้อมกับให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวเชิญชวนให้ประชาชนชาวจังหวัดยโสธรทุกคน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง เป็นเจ้าบ้านที่ดี สร้างไมตรีจิตให้เป็นที่ประทับใจแก่ผู้มาร่วมงาน ผู้ประกอบการร้านค้า /ที่พัก /ก็ขอให้คิดราคาปกติ และคาดว่าจะทำให้เศรษฐกิจจังหวัดยโสธร ดีขึ้นอย่างแน่นอน