วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองนครพนม จับยาบ้ากว่า 70,000 เม็ด

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  ได้อำนวยการสั่งการให้  นายอำเภอเมืองนครพนม  ซึ่งได้รับรายงานจากสายลับว่าจะมีการขนยาบ้า  จึงได้สั่งการให้กองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองนครพนม  นำกำลัง อส.อ.เมืองนครพนม สนธิกำลังกับผู้ใหญ่บ้าน  ชุดรักษาความปลอดภัย  ตำรวจ ตชดที่ 236 .ตำรวจภูธร  สถานีเรือนครพนม  สถานีเรือตำรวจน้ำ  จึงได้วางกำลังจับกุมผู้ลักลอบขนยาเสพติดจากฝั่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว   ซึ่งนำมาวางไว้ริมแม่น้ำโขงฝั่งไทย  โดยผู้ลักลอบได้นั่งเรือกลับไปฝั่งลาว  เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังตรวจค้น  พบยาบ้า 77,671  เม็ด และถังบรรจุก๊าซ ปตท.สีเขียวขนาดบรรจุ 10.กิโลกรัม  ซึ่งภายในบรรจุยาบ้า  เจ้าหน้าที่จึงได้นำมาดำเนินคดีต่อไป 

ปชช.นักท่องเที่ยวแห่ชมปากปล่องภูเขาไฟและศึกษาตำนานพันธุ์ไม้พื้นเมืองบนยอดภูเขาไฟกระโดงบุรีรัมย์ช่วงหยุดยาว

ปชช.นักท่องเที่ยวแห่ชมปากปล่องภูเขาไฟและศึกษาตำนานพันธุ์ไม้พื้นเมืองบนยอดภูเขาไฟกระโดงบุรีรัมย์ช่วงหยุดยาว ปชช.นักท่องเที่ยวแห่พาครอบครัวขึ้นไปเที่ยวสะพานแขวนข้ามปากปล่องภูเขาไฟ ที่มอดดับสนิทมาแล้วกว่า 9 แสนปี พร้อมชมหินลอยน้ำที่มีเพียงแห่งเดียว และศึกษาตำนาน "ต้นโยนีปีศาจ” พันธุ์ไม้พื้นเมืองหายาก ในช่วงหยุดยาววันมาฆบูชาคึกคัก วันนี้ (15 ก.พ.57) นักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์และต่างจังหวัด ต่างพาครอบครัวเดินทางขึ้นไป กราบสักการะพระสุภัทรบพิตรจำลององค์ใหญ่ ที่ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟกระโดง ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ในช่วงวันหยุดยาวคึกคัก ทั้งนี้นักท่องเที่ยวยังได้ขึ้นไปเที่ยวชมสะพานแขวนข้ามปากปล่องภูเขาไฟ ที่มอดดับสนิทมาแล้วประมาณ 9 แสนปี มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 265 เมตร โดยปากปล่องภูเขาไฟดังกล่าวจะเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งซีก ยอดเนินเขาเป็นขอบปล่องด้านทิศใต้เรียกว่า เขาใหญ่ ส่วนยอดเนินเป็นขอบปล่องด้านทิศเหนือเรียกว่า เขาน้อย หรือเขากระโดง ส่วนบริเวณที่เป็นขอบปล่องปะทุคือ บริเวณที่เป็นหุบเขา ปัจจุบันมีสภาพเป็นสระน้ำ เป็นซากภูเขาไฟที่ยังคงสภาพดีและมีอายุน้อยที่สุดในประเทศไทย มีเส้นทางเดินชมรอบปล่อง และมีสะพานแขวนให้ยืนชมจากมุมสูงได้อย่างชัดแจน

ทั้งนี้นักท่องเที่ยวยังได้ชมหินลอยน้ำที่มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย และศึกษาตำนาน "ต้นโยนีปีศาจ” ที่ได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองหายาก ที่ภาษาถิ่นหรือคนเขมรเรียกว่า "ต้น กะนุยขมอย” ด้านนายรณภพ ณรงค์ หัวหน้าวนอุทยานภูเขาไฟกระโดง กล่าวว่า วนอุทยานภูเขาไฟกระโดงถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด แต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมปีละไม่น้อย 150,000 – 200,000 คน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือที่มีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน จะมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมคึกคักเป็นพิเศษ เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวจะมากราบสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังได้สัมผัสธรรมชาติบนยอดเขา และศึกษาตำนานประวัติความเป็นมาของภูเขาไฟกระโดงดังกล่าวด้วย

                         
สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์

7 ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมงานมหกรรมวัฒนธรรมสมบัติอีสานใต้สู่อาเซียนที่ม.ราชภัฏบุรีรัมย์

7 ประเทศสมาชิกอาเซียนร่วมงานมหกรรมวัฒนธรรมสมบัติอีสานใต้สู่อาเซียนที่ม.ราชภัฏบุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมสมบัติอีสานใต้สู่อาเซียน เพื่ออนุรักษ์ ส่งเสริมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอีสานใต้ ศิลปวัฒนธรรมระดับชาติ และระดับอาเซียน ทั้งเป็นการเชื่อมสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มประเทศอาเซียน ก่อนก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยมี 7 ประเทศสมาชิกเข้าร่วมงาน ( 15 ก.พ.57) พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน "ราชภัฏมหกรรมวัฒนธรรมสมบัติอีสานใต้สู่อาเซียน” ที่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์จัดขึ้น บริเวณเวทีกลางแจ้งภายในมหาวิทยาลัยฯ เพื่ออนุรักษ์ส่งเสริมเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอีสานใต้ ศิลปวัฒนธรรมระดับชาติ และศิลปวัฒนธรรมระดับอาเซียน

ทั้งเป็นการเชื่อมสัมพันธอันดีระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน ก่อนจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ที่ใกล้จะถึงอีกด้วย โดยภายในงานมีสมาชิกลุ่มประเทศอาเซียน 7 ประเทศ อาทิ ตัวแทนจากประเทศไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ศรีลังกา จีน เวียดนาม กัมพูชา และสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์ ร่วมแสดงศิลปวัฒนธรรมของแต่ละประเทศอย่างสวยงามตระการตา พร้อมกันนี้ยังมีการรับประทานอาหารแบบโฮปบายดินเนอร์หรือขันโตก ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านพร้อมชมการแสดงควบคู่ไปด้วย โดยการจัดงานในครั้งนี้ได้มีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก รองศาสตราจารย์มาลิณี จุโฑปะมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ กล่าวว่า การจัดมหกรรมวัฒนธรรมสมบัติอีสานใต้สู่อาเซียน ที่ทางมหาวิทยาลัยฯ จัดขึ้นในครั้งนี้เป็นปีที่ 2 เพื่อต้องการอนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมอีสานใต้ ศิลปวัฒนธรรมระดับชาติ และระดับอาเซียน ทั้งยังเป็นการเชื่อมสัมพันธอันดีกับประเทศกลุ่มสมาชิกอาเซียน เพื่อเตรียมพร้อมก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ที่จะถึงนี้อีกด้วย

สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์

กล้องวงจรปิดบันทึกภาพหญิงสาว บุกเดี๋ยวเข้าขโมยทรัพย์สินในร้านจำหน่ายอาหารญี่ปุ่น

กล้องวงจรปิดบันทึกภาพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี บุกเดี๋ยวเข้าขโมยทรัพย์สินในร้านจำหน่ายอาหารญี่ปุ่นและร้านเสริม สวย ที่อยู่ติดกัน ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ พร้อมทั้งกิน และเอาหารญี่ปุ่น ที่เตรียมไว้ขาย มีราคาสูง ไปหลายรายการ

ตามที่มีข่าวว่า ได้มีคนร้ายซึ่งเป็นผู้หญิงอายุประมาณ 30 ปี เข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านในช่วงกลางคืน เวลาประมาณ 23 .00 น. ของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ร้านอาหารซุซิ อาหารญี่ปุ่นและร้านเสริมสวยชื่อจุ่ม เลขที่ 65 ซ.ตาดอก ในเขตเทศบาลเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ โดยกล้องวงจรปิดที่ติดหน้าร้านสามารถบันทึกภาพได้อย่างชัดเจน ซึ่งเจ้าของร้านได้ ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ไว้แล้ว แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยังไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้

นายธนวัฒน์ พาชื่น อายุ 29 ปี เจ้าของร้าน บอกว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบคนร้ายเป็นหญิงอายุประมาณ 30 ขึ้นไป สวมกางเกงขาสั้น เสื้อคลุมลาย ขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียว วิ่งผ่านหน้าร้านไป ราว 100 เมตร แล้วจอดรถจากนั้นได้เดินย้อนทางมาที่ร้าน เดินเข้ามาที่ประตูบ้านเวลาประมาณ ห้าทุ่มเศษๆ จากนั้นเปิดเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ในร้านค้า ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงเดินออกมาพร้อมของที่ขโมย โดยใช้เสื้อคลุมห่อทรัพย์สิน ที่ขโมยไว้ ส่วนหลักฐานตัวคนร้าย พบที่ด้านหลังคนร้ายพบมีรอยสักด้วย พอออกจากร้านแล้ว ได้เดินหลบหนีไปอย่างลอยนวล สำหรับทรัพย์สินที่หายไปประกอบด้วย คอมพิวเตอร์ โน็ตบุ๊ก 1 เครื่อง และเงินสดจำนวนหนึ่ง และอาหารญี่ปุ่นที่เตรียมไว้ขาย ซึ่งอาหารญี่ปุ่น มีราคาแพงหลายรายการ คนร้ายได้กิน และนำกลับติดตัวออกไปด้วย มีห่อหมกปลาไหลญี่ปุ่น ที่ลุกค้าสั่งจองไว้ ก็หายไปด้วย ซึ่งเสียใจมาก

หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์แล้ว จึงอยากขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วเพราะเกรงว่าจะไปสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนคนอื่นๆอีก


อุทัย  มานาดี / รายงาน

จ.สุรินทร์ จัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ

จังหวัดสุรินทร์ จัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ ทั้งระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด ครั้งที่ 2 รับมือภัยแล้ง

รศ.ดร.ประสิทธิ์ ประคองศรี คณะที่ปรึกษาของจังหวัดสุรินทร์ ในการจัดจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ ได้เปิดเผย ภายหลังประชุมส่วนที่เกี่ยวข้องระดับตำบล อำเภอ และจังหวัด ครั้งที่ 2 ที่ห้องประชุมโรงแรมทองธารินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ว่าเป็นการชี้แจง สร้างการรับรู้ ความเข้าใจและร่วมกันปรึกษาหารือ พิจารณา ตรวจสอบ ความถูกต้อง ครบถ้วนของแผนงาน โครงการ กิจกรรมการบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำในจังหวัด เพื่อการป้องกันแก้ไขและบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ปัญหาอุทกภัยและภัยพิบัติอื่นที่เกี่ยวกับน้ำแบบบูรณาการ ตามที่คณะที่ปรึกษาได้ศึกษา สำรวจ รวบรวมและประมวลผลจากหน่วยงาน องค์กรสถาบันที่เกี่ยวข้องและตามความจำเป็นของชุมชนที่ได้จากการประชุมครั้งที่ 1 ที่ผ่านมาโดยผู้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการในระดับจังหวัดและอำเภอ รัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เข้าร่วมประชุม

รศ.ดร.ประสิทธิ์ ประคองศรี คณะที่ปรึกษาการจัดทำแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ กล่าวว่า การจัดการประชุมในครั้งนับเป็นครั้งที่ 2 เพื่อที่จะรับฟังความคิดเห็น โครงการที่มีการเสนอมาจากจากการประชุมครั้งที่ 1 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการเสนอถึง 630 โครงการ จากนั้นก็จะรวบรวมข้อคิดเห็นบทสรุปต่างๆที่ได้ นำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการกำหนดและเสนองบประมาณในการดำเนินการจัดการบริหารน้ำ ในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความยังยืน อย่างไรก็ตาม

การประชุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย การนำเสนอ การอภิปราย การประชุมกลุ่มย่อย เพื่อระดมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกระบวนการคิดร่วมกัน เพื่อกำหนดแผนบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะได้แผนงาน โครงการที่สอดคล้องกับความต้องการของพื้นที่ มีความเชื่อมโยงกับบทบาท และหน้าที่ของชุมชนตามตามศักยภาพของพื้นที่ การประชุมดังกล่าวจะใช้เวลา 1 วัน จากนั้นจะรวบรวมข้อมูลที่ได้เสนอส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป


อุทัย  มานาดี / รายงาน

ว.เทคนิคสุรินทร์ เตรียมความพร้อมด้านภาษาและเทคโนโลยี่เข้าสู่ AEC

วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ ได้เตรียมความพร้อมตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 ที่ผ่านมาเพื่อเตรียมความทั้งด้านภาษาอังกฤษ และด้านเทคโนโลยี่ เพื่อให้นักศึกษาที่จะจบการศึกษา ได้เข้าสู่ตลาดแรงงานทั้งในและนอกประเทศ สู่ประชาคมอาเซียน

นายวโรภาส ศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ ได้เปิดเผย ภายหลังจากทำพิธีเปิดโครงการ Open House ว่า เพื่อเปิดประตูสู่ประชาคมอาเซียนและเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ในเขตจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียง ได้รับทราบข้อมูลและภารกิจของวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ เป็นการประชาสัมพันธ์ผลงานของนักเรียน นักศึกษา ด้านทักษะวิชาชีพ และผลงานในรายวิชาโครงการของนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย ระดับ ปวช. และ ระดับ (ปวส.) ได้แสดงศักยภาพของวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ ในการผลิตนักเรียนนักศึกษาสู่ตลาดแรงงาน นิทรรศการการจัดการเรียนการสอน 10 แผนกวิชา การแนะแนวการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ การแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์หุ่นยนต์ มากมาย

นายวโรภาส ศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ในส่วนการเตรียมตัวเข้าสู่ AEC ซึ่งทางวิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ ได้เตรียมความพร้อมได้ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น ปีการศึกษา 2556 ที่ผ่านมา ได้เตรียมนักศึกษาที่จะสำเร็จการศึกษาออกไปประกอบอาชีพ สู่ตลาดแรงงาน ทั้งในประเทศและนอกประเทศ โดยเฉพาะในด้านภาษาอังกฤษ และทางด้านเทคโนโลยี่ใหม่ๆ พร้อมกันนี้ให้ความรู้เรื่องวัฒนธรรมในสังคมอาเซียน เพื่อที่จะพัฒนานักเรียนนักศึกษา จะได้ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ ได้เปิดรับสมัครนักเรียนใหม่ ที่จะเข้ามาศึกษาต่อระดับ ปวช.และระดับ ปวส. ในปีการศึกษา 2557 ตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ – 24 มีนาคม 2557 นี้อีกด้วย



อุทัย  มานาดี /รายงาน

อำเภอปทุมรัตต์ จัดงานประเพณีบุญคูณลานสู่ขวัญข้าวสืบสานฮีตสิบสองคลองสิบสี่คู่ชีวิตชาวนา

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2557 นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงานบุญคูณลานสู่ขวัญข้าว อำเภอปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด ณ สนามที่ว่าการ อำเภอปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายวัยวุฒิ  อาศรัยผล  นายอำเภอปทุมรัตต์ กล่าวต้อนรับ

นางนวรัตน์  พาโคกทม  สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เขตอำเภอปทุมรัตน์ กล่าวว่า อำเภอปทุมรัตน์ ได้จัดงานประเพณีบุญคูณลานสู่ขวัญข้าวสืบสานฮีตสิบสองคลองสิบสี่ ตั้งแต่ปี 2529 เป็นต้นมา ในช่วงเดือน มกราคม - กุมภาพันธ์ ของทุกปี เพื่อส่งเสริมให้เป็นเอกลักษณ์ประจำอำเภอ  รวบรวมข้าวเปลือกที่ได้จากการบริจาคสบทบทุนกองทุนบุญคูณลานเพื่อช่วยเหลือราษฎรที่ขาดแคลนข้าวบริโภค , ให้กลุ่มอาชีพในหมู่บ้านยืมเงินไปลงทุนประกอบอาชีพ ,ให้ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่ามีความสมัคสมานสามัคคี และส่งเสริมสินค้า หนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ อีกด้วย

กิจกรรมในครั้งนีมีการแข่งขันสาวไหม  การประกวดธิดาบุญคูณลาน การออกบูทแสดงการสาธิตเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ จาก อปท. ทุกแห่งใน อ.ปทุมรัตต์และ  การแสดงของเยาวชนจากโรงเรียนบ้านโคกทมและโรงเรียนปทุมรัตต์พิทยาคม และอื่นๆ อีกมากมาย ประชาชนร่วมงาน นับหมื่น



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ  กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว

ร้อยเอ็ด จัดงานวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 ที่ วัดบึงพระลานชัย พระอารามหลวง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.00น. นายพลากร บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระปริยัติธีรวงศ์ เจ้าคณะอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ฝ่ายธรรมยุต เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  นำ ภาครัฐและเอกชน พ่อค้าและพุทธศาสนิกชนชาวร้อยเอ็ด การจัดงานวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 ณ วัดบึงพระลานชัย พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยการดำเนินงานของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด

กิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย ได้แก่ การจัดนิทรรศการวันมาฆบูชา การแข่งขันตอบปัญหาธรรมะ / แข่งขันสวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ พิธีแสดงตนเป็นพุทธมามะ ฟังพระธรรมเทศนา พิธีเวียนเทียน และถือศีลปฏิบัติธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา ซึ่งตรงกับวันแห่งความรัก หรือ วันวาเลนไทน์ เทศกาลแห่งความรักของคริสต์ศาสนา  ทั้งนี้จังหวัดร้อยเอ็ดได้กำหนดจัดขึ้นพร้อมกัน  จำนวน 1,503 วัด  20 อำเภอ                 

การเวียนเทียนภาคกลางคืน จังหวัดร้อยเอ็ด เชิญพุทธศาสนิกชนชาวร้อยเอ็ด ร่วมกิจกรรมดังกล่าว ตามวัดที่จังหวัดกำหนด หรือที่วัดเปลือยใหญ่ อำเภอเมืองร้อยเอ็ด วัดมิ่งเมือง อำเภอเสลภูมิ วัดบูรพาภิราม(พระอารามหลวง) และ วัดกลางมิ่งเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด , วัดวิมลนิวาส อ.เมืองร้อยเอ็ด เป็นต้น ตั้งแต่ ในเวลา 19.30น.  เป็นต้นไป  



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ กมลพร  คำนง  บก.ข่าว

เหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด มอบสิ่งของเครื่องใช้ให้ผู้ต้องขังหญิงเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด เนื่องในวันมาฆบูชาและวันวาเลนไทน์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ได้นำคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด มอบสิ่งของเครื่องใช้ให้ผู้ต้องขังหญิงเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด ณ เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 192 คน เนื่องในวันมาฆบูชา และวันวาเลนไทน์ ประจำปี 2557 เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกา สภากาชาดไทย โดยมี นายสุทัศน์ พันพลู หัวหน้าฝ่ายควบคุมเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด ให้การต้อนรับ      

นางภาวดี เงินหมื่น รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นองค์กรการกุศล มีภารกิจในการบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติ การรับบริจาคโลหิต ดวงตาและอวัยวะ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นองค์สภานายิกา สภากาชาดไทยและมีคณะกรรมการเหล่ากาชาดซึ่งเป็นผู้มีจิตอันเป็นกุศลร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงาน เหล่ากาชาดจังหวัดไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณแต่อย่างใดรายได้ที่นำมาช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ ส่วนใหญ่มาจากการออกร้าน "มัจฉากาชาด" ในงานปีใหม่และกาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลปีใหม่ การมอบสิ่งของเครื่องใช้ให้ผู้ต้องขังหญิงเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ดในวันนี้ เพื่อแสดงความรักความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชน เนื่องในวันมาฆบูชา และวันวาเลนไทน์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สภานายิกา สภากาชาดไทย



คมกฤช  พวงศรีเคน ข่าว/ภาพกมลพร  คำนึง  บก.ข่าว

ร้อยเอ็ด เปิดงาน“บุญข้าวจี่ของดีเมืองโพธิ์ชัย” ประจำปี 2557 สัมผัสข้าวจี่ใหญ่ที่สุดในโลก หนักกว่า 1 ตัน สืบสานวัฒนธรรมอีสาน

เมื่อเวลา เวลา 16.00 น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงาน "บุญข้าวจี่ของดีเมืองโพธิ์ชัย" ประจำปี 2557 ณ บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอโพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด โดยมีนายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด หัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมเปิดงาน

นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า  งานบุญข้าวจี่ ของดีเมืองโพธิ์ชัย ได้เริ่มจัดครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2536 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจรรโลงและรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและเผยแพร่ศิลปะการแสดงดนตรีและการละเล่นอื่นๆ นำมิติทางวัฒนธรรมแก้ไขปัญหา เสริมสร้างความสามัคคีและสร้างความปรองดองของคนในชาติ นำทุนทางวัฒนธรรมกระตุ้นให้เกิดการสร้างความคุ้มค่าทางสังคมและผลผลิตจากภูมิปัญญา และวัฒนธรรมเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ และสนับสนุนให้มีการผลิตและจำหน่ายสินค้า ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ และสินค้าทางการเกษตร ที่เรียกว่า ของดีเมืองโพธิ์ชัย ในท้องถิ่นของอำเภอโพธิ์ชัย และใกล้เคียงให้เป็นที่รู้จักแก่สาธารณชนทั้งในและต่างประเทศ การจัดงานครั้งนี้ จัดระหว่างวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ 2557 คณะกรรมการจัดงานได้กำหนดให้จัดกันแบบประหยัด สอดคล้องกับสภาพทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ยังคงอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมอันดีของชาวเมืองโพธิ์เอาไว้ อันได้แก่ขบวนแห่ปั้นข้าวจี่ใหญ่ที่สุดในโลกหนักกว่า 1 ตัน ทำจากข้าวสารเหนียว 5-10 กระสอบ ไข่ไก่กว่า 1 หมื่นฟอง  อันเป็นสัญลักษณ์ของการจัดงาน จำนวน 9 ขบวน การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง การออกร้านนิทรรศการจากทุกภาคส่วน การประกวดผลผลิตทางการเกษตรที่เรียก "ของดีเมืองโพธิ์ชัย” การประกวดนางงามบุญข้าวจี่ การแข่งขันกีฬาฟุตซอล การแข่งขัน เดิน – วิ่งมินิบุญข้าวจี่ และงานพาแลง การจัดงานครั้งนี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด สนับสนุนงบประมาณ 250,000 บาท เทศบาลตำบล 4 แห่ง ๆ ละ 30,000 บาท องค์การบริหารส่วนตำบลอีก 6 แห่ง ๆ ละ 20,000 บาท และได้รับการสนับสนุนจากส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สภาวัฒนธรรมอำเภอ พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่า รวมเป็นเงิน 540,000บาท

"บุญข้าวจี่” เป็นงานบุญประจำเทศกาลของชาวอีสาน เป็นการทำบุญตามฮีต 12  ซึ่งกำหนดทำบุญในวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 บุญข้าวจี่นี้ นับเป็นงานบุญพิเศษเทียบเท่าบุญผะเหวดและบุญกฐิน และมีความเชื่อว่า หากบ้านใดไม่ทำบุญข้าวจี่ อาจทำให้เกิดความเดือดร้อนในหมู่บ้านได้


คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพกมลพร  คำนึง  บก.ข่าว

ผู้ว่าร้อยเอ็ด นำพุทธศาสนิกชนเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดบ้านเปลือยใหญ่ ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 19.30น. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พระพุทธสารมุนี เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ฝ่ายมหานิกาย เจ้าอาวาสวัดบ้านเปลือยใหญ่ ต.รอบเมือง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ จัดกิจกรรมวันมาฆบูชา ณ วัดบ้านเปลือยใหญ่ ด้วยวันมาฆบูชา เป็นวันที่มีความสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง กล่าวคือ เป็นวันที่พระสงฆ์สาวกขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ ซึ่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดงโอวาทปาติโมกข์ในที่ประชุมสงฆ์เหล่านั้น

พระพุทธสารมุนี เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ได้แสดงธรรม เรื่อง ความสำคัญของวันมาฆบูชา ให้สาธุชนได้สดับ หลังจากนั้นนำพระสงฆ์เวียนและพุทธศาสนิกชนเวียนเทียนรอบอุโบสถ เป็นอันเสร็จพิธี มีพุทธศาสนิกชนร่วมงานมากมาย


คมกฤช พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ
กมลพร คำนึง  บก.ข่าว

พระครูวิมลบุญโกศล นำพุทธศาสนิกชน ประกอบพิธีเนื่องใน วันมาฆบูชา ประจำปี 2557 ที่ วัดวิมลนิวาส อำเภอเมืองร้อยเอ็ด

เมื่อเวลา 19.30 0น. วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 พระครูวิมลบุญโกศล เจ้าอาวาสวัดวิมลนิวาส ต.เหนือเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด   เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  นำ ภาครัฐและเอกชน พ่อค้าและพุทธศาสนิกชนชาวร้อยเอ็ด การจัดงานวันมาฆบูชา ประจำปี 2557  ที่ วัดวิมลนิวาส ต.เหนือเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด

กิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วย ได้แก่ การจัดนิทรรศการวันมาฆบูชา   พิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ รับฟังพระธรรมเทศนา พิธีเวียนเทียน และถือศีลปฏิบัติธรรม เนื่องในวันมาฆบูชา พิธีสะเดาะเคราะห์ สวดส่งชะตาเสริมบารมี ณ เกาะกลางน้ำ หน้าวัดวิมลนิวาส ซึ่งได้จัดกิจกรรมนพร้อมกัน  จำนวน 1,503 วัด  20 อำเภอและ ที่ วัดวิมลนิวาสมีพุทธศาสนิกชน ร่วมกิจกรรม มากมายจนเสร็จพิธี



 คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ

มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จัดมหกรรมเยือนถิ่นแผ่นดินปราชญ์

มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ดึงปราชญ์ท้องถิ่นร่วมถ่ายทอดความรู้ และระดมความคิดเห็น เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเมืองบุรีรัมย์ให้น่าอยู่ ขณะ "องคมนตรี”ระบุทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันถึงจะประสบผลสำเร็จ

ที่หอประชุมวิชชาอัตตศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พล.อ.อ. ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงวิชาการเครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ในหัวข้อ "เยือนถิ่นแผ่นดินปราชญ์ปีที่ ๒” ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จัดขึ้นเพื่อนำเสนอพัฒนาการสร้างเครือข่ายการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ ระหว่างศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน สถาบันการศึกษา และภาคีเครือข่ายต่างๆ และเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชน ได้มีเวทีในการแสดงความคิดเห็น และแสดงศักยภาพด้านการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเชิงสาธารณะ โดยมีภาคีเครือข่ายท้องถิ่นทั้ง ปราชญ์ชาวบ้าน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน นักเรียน นักศึกษา

โดยภายในงานยังได้มีการปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "การขับเคลื่อนบุรีรัมย์เมืองเมืองน่าอยู่ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”จากนายสุวัฒน์ เทพอารักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ สำนักงาน กปร. และเวทีการเสวนาของภาคีเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน อาทิ พ่อคำเดื่อง ภาษี ประธานเครือข่ายปราชญ์ชาวบ้าน พ่อผาย สร้อยสระกลาง และ อ.ไพรัตน์ ชื่นศรี ปราชญ์ชาวบ้าน นอกจากนี้ยังได้มีการจัดนิทรรศการของชุมชน ที่ประสบผลสำเร็จจากการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ขององค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในชีวิตประจำวัน และการจำหน่ายพืช ผัก ผลไม้ ปลอดสารพิษ ซึ่งเป็นผลผลิตของเกษตรกรดังกล่าวด้วย

พล.อ.อ.ชลิต กล่าวตอนหนึ่งว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประชาชนชาวบุรีรัมย์ ที่ได้ร่วมกันคิด ร่วมกันวางแผน และร่วมปฎิบัติกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างจังหวัดบุรีรัมย์ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ ซึ่งความน่าอยู่จะเกิดขึ้นจริงได้นั้น จะต้องเกิดจากความร่วมของชาวบุรีรัมย์ทุกภาคส่วน และนับเป็นโอกาสที่ดีที่กลุ่มปราชญ์ชาวบ้าน ได้ตระหนักคิดถึงผลกระทบทางสังคมที่เกิดการเปลี่ยนแปลง เนื่องมาจากความเจริญก้าวหน้าของโลกและเทคโนโลยี จึงได้ร่วมกันสร้างเกราะป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ที่นำมาซึ่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตมรกดทางวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม

จังหวัดนครพนม ตักบาตรข้าวเหนียววันมาฆบูชา

พุทธศาสนิกชนชาวนครพนมตักบาตรข้าวเหนียว  เนื่องในวันมาฆบูชา  ลานกันเกรา  ริมฝั่งแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองนครพนม

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  นำข้าราชการ  รัฐวิสาหกิจ  พ่อค้า ประชาชน  นักท่องเที่ยว และพุทธศาสนิกชนตักบาตรข้าวเหนียว  เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 ณ ลานกันเกรา ตลาดอินโดจีน  โดยประชาชนร่วมใส่ชุดขาวและชนเผ่า  นั่งบนเสื่อตักบาตรท่ามกลางอากาศหนาวเย็นริมฝั่งแม่น้ำโขง  ระยะทางยาว 100 เมตร  เพื่อเป็นการฟื้นฟูการทำบุญแบบชาวศรีโคตรบูรณ์ให้กลับคืนมา  โดยจังหวัดนครพนมจะทำการตักบาตข้าวเหนียวทุกวันพระสำคัญทางพุทธศาสนา  เช่น  วันมาฆบูชา  วันวิสาขบูชา  เป็นต้น  ไปทุกอำเภอ  โดยเฉพาะอำเภอธาตุพนม  จะทำการตักบาตรข้าวเหนียวทุกวันพระหน้าองค์พระธาตุพนมจากนี้เป็นต้นไป      

ขอเชิญร่วมเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา

จังหวัดนครพนมจัดเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชาทุกอำเภอ

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  จังหวัดนครพนมจัดเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา  ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร และในวัดต่างๆ ทุกอำเภอ โดยที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร  ร่วมรับฟังพระธรรมเทศนา  เวลา 19.00น.  โดยพระเทพวรมุนี  เจ้าคณะจังหวัดนครพนมและเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม  จากนั้นร่วมเวียนเทียนประทักษิณองค์พระธาตุพนม 3 รอบ

อบจ.นครพนม ปิดปรับปรุงสนามกีฬาจังหวัด

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  ปิดปรับปรุงสนามกีฬาจังหวัด  ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรมเสียหายจากการใช้งานมานานและต่อเนื่อง

นายสมชอบ   นิติพจน์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  ได้ประกาศงดให้บริการสนามกีฬาจังหวัดนครพนมเป็นการชั่วคราว  เพื่อดำเนินการปรับปรุงและฟื้นฟูสภาพสนามกีฬา  รวมทั้งบริเวณโดยรอบ  ให้สามารถรองรับการจัดบริการสาธารณะแก่ประชาชนทั่วไปได้อย่างสะดวกและเหมาะสม  องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  จึงของดการให้บริการเพื่อปิดปรับปรุงเป็นการชั่วคราวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป (10 ก.พ.57)

รับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลนาหว้า

นายคุมพล  บรรเทาทุกข์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  สมาชิกสภาเทศบาลตำบลนาหว้า  อำเภอนาหว้า  จังหวัดนครพนม  จะครบวาระดำรงตำแหน่งวันที่ 10 เมษายน  2557  ซึ่งต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วันนับแต่วันครบวาระ  คณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดนครพนม  มีมติในการประชุมครั้งที่ 8/2557  เมื่อวันที่  14 พฤศจิกายน 2556  ให้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลนาหว้า  โดยกำหนดรับสมัครระหว่างวันที่ 24-28  กุมภาพันธ์  2557  เวลา 08.30-16.30 น.  ณ สำนักงานเทศบาลตำบลนาหว้า  หรือที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ศาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังเดิม)  ชั้น 2 ถนนอภิบาลบัญชา  ตำบลในเมือง  อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม  โทรศัพท์ 0-4251-5790

พระราชทานเพลิงศพพระราชสารโกศล อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครพนมและอดีตเจ้าอาวาสวันสารภาณนิมิต

พระมหาวัฒนา  ภทฺทเสวี   รักษาการเจ้าอาวาสวัดสารภาณนิมิต  เปิดเผยว่า  พระราชสารโกศล  อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครพนมและอดีตเจ้าอาวาสวัดสารภาณนิมิตได้มรณภาพลงเมื่อ  วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2556  วัดสารภาณนิมิตได้จัดบำเพ็ญกุศลตลอดมา จังหวัดนครพนมจัดงานพระราชทานเพลิงศพขึ้นในพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์  2557

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557  เวลา 08.00 น. พิธีบวชศีลจารี –ศีลจาริณี  เวลา 09.30 น. เคลื่อนย้ายโลงศพไปยังเมรุชั่วคราววัดสารภาณนิมิต

          วันที่ 27  กุมภาพันธ์  2557  เวลา 21.00 น. ประชุมเพลิง

          วันที่ 28  กุมภาพันธ์  2557  เวลา 06.30 น. พิธีสามหาบ

จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชน  ร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน

พิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตร ประจำปี 2557

สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จัดพิธีพระราชทานสัญญาบัตร
พัดยศ  และผ้าไตร ประจำปี 2557 ให้กับพระสงฆ์ที่ได้รับการคัดเลือกจากมหาเถรสมาคม  เพื่อให้เลื่อน และตั้งสมณศักดิ์ใหม่

นายสมนึก  ดีหะสิงห์  ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่าสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์  เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม  และผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช  จะเดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจเป็นประธานในพิธีพระราชทานสัญญาบัตร พัดยศ  และผ้าไตร ประจำปี 2557  แก่พระสงฆ์ในเขตปกครองคณะสงฆ์หนตะวันออก ภาค 10 , 11 และ 12  รวม 14 จังหวัด

ภาค 10 ประกอบด้วย  นครพนม  มุกดาหาร  ยโสธร  อำนาจเจริญ  อุบลราชธานี   ศรีสะเกษ

ภาค  11 ประกอบด้วย  นครราชสีมา  บุรีรัมย์  สุรินทร์  และชัยภูมิ

ภาค  12  ประกอบด้วย  นครนายก  ปราจีนบุรี  สระแก้ว  ฉะเชิงเทรา

ที่ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์  และแต่งตั้งสมณศักดิ์ใหม่  เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  วันที่ 5 ธันวาคม 2556  ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตำบลธาตุพนม  อำเภอธาตุพนม  จังหวัดนครพนม  ในวันเสาร์ที่ 22 กุมภาพันธ์  2557  เวลา 13.30 น. จำนวน 538 รูป  จึงขอนิมนต์พระภิกษุ  สามเณร  และเชิญชวนพุทธศาสนิกชนในจังหวัดนครพนม จังหวัดใกล้เคียงไปร่วมพิธีและร่วมถวายการต้อนรับ  เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์             ผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช  ที่มาปฏิบัติศาสนกิจในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน 

อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ จัดงานจดทะเบียนสมรส ส่งเสริมการท่องเที่ยว ลำห้วยทับทัน สายน้ำแห่งชีวิต

อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ จัดงานจดทะเบียนสมรส ส่งเสริมการท่องเที่ยว ลำห้วยทับทัน สายน้ำแห่งชีวิต นายอารยันต์ ท่าใหญ่ นายอำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า อำเภอศรีณรงค์ ร่วมกับ อบต.ศรีสุข จัดกิจกรรมจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรัก ประจำปี 2557 ในวันนี้( 14 กุมภาพันธ์) ณ ห้อยทับทัน ตำบลศรีสุข อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวห้วยทับทัน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ของอำเภอศรีณรงค์ ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป รวมทั้งส่งเสริมให้คู่สมรสจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีคู่สมรสร่วมโครงการ 29 คู่ สำหรับกิจกรรมในงานประกอบด้วย การจัดขบวนแห่ขันหมากตามศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาวศรีณรงค์ พิธีบายศรีสู่ขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ให้แก่คู่บ่าวสาว การจดทะเบียนสมรสและบันทึกภาพความทรงจำที่แสนโรแมนติก พาคู่บ่าวสาวและแขกผู้มีเกียรติร่วมล่องเรือในลำห้วยทับทัน สายน้ำแห่งชีวิต ชมเสน่ห์แห่งสายน้ำอันงดงาม และงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสกับแขกผู้มีเกียรติ ณ กุดหวาย แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ธรรมชาติอันงดงาม



กิติวรรณ มณีล้ำ / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ จัดงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างเน้นความขลังของประเพณีแต่งงานแบบโบราณอย่างยิ่งใหญ่

จ. สุรินทร์ จัดงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างเน้นความขลังของประเพณีแต่งงานแบบโบราณอย่างยิ่งใหญ่ วันนี้(14 ก.พ) จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยองค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปภัมภ์ องค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ องท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดงาน " จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง หรือประเพณี แต่งงานของชุมชนชาวกูยโบราณ หรือ ซัตเต ประจำปี 2557 ซึ่งจัดเป็นเป็นปีที่ 8 ระหว่างวันที่ 13 – 14 ก.พ. 2557 ณ ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ต. กระโพ อ. ท่าตูม จ. สุรินทร์ เพื่อส่งเสรมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ เสริมสร้างความเข้มแข็ง ความอบอุ่น และความผูกพันระหว่างสามีและภรรยา ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณีการแต่งงานของชุมชนชาวกูยโบราณ หรือ ซัตเต อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง อันจะนำไปสู่โครงการ Elepphant World แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลกอีกด้วย นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในปีนี้จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดงานขึ้นอย่างยางใหญ่กว่าทุกปี เน้นการความขลังของประเพณีแต่งงานแบบชาวกูยโบราณ หรือ ซัตเต ความสวยงามและยิ่งใหญ่ของขบวนแห่ขันหมากของเจ้าบ่าวที่มีช้างเข้าร่วมกว่า 50 เชือก และความยิ่งใหญ่ของการจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งในปีนี้ มีคูบ่าว – สาว ร่วมจดทะเบียนในงาน จำนวน 34 คู่ โดยมีชาวต่างชาติร่วมจดทะเบียนด้วย จำนวน 3 คู่



กิติวรรณ มณีล้ำ / รายงาน

วันมาฆบูชา วันส่งเสริมให้ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์"

วันมาฆบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง และได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง โดย วันมาฆบูชา 2557 ตรงกับวันศุกร์ ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 คำว่า "มาฆะ" นั้น เป็นชื่อของเดือน 3 ย่อมาจากคำว่า "มาฆบุรณมี" หมายถึง การบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือนมาฆะตามปฏิทินของอินเดีย หรือเดือน 3 การกำหนดวันมาฆบูชาตามปฏิทินจันทรคติของไทยนั้นจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 แต่ถ้าปีใดมีเดือนอธิกมาส คือมีเดือน 8 สองครั้ง วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 และมักตรงกับเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม ความสำคัญของวันมาฆบูชา คือเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง "โอวาทปาติโมกข์" แก่พระสงฆ์เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้มาแล้วเป็นเวลา 9 เดือน ซึ่งหลักคำสอนนี้เป็นหลักการ และวิธีการปฏิบัติต่างๆ หากสรุปเป็นใจความสำคัญ จะมีเนื้อหาว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์"

ทั้งนี้ในวันมาฆบูชาได้เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นพร้อมๆ กันถึง 4 ประการ อันได้แก่ 1.วันนั้นตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ซึ่งพระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ 2.มีพระสงฆ์จำนวน 1,250 รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ เพื่อสักการะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
3.พระสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมดล้วนแต่เป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6 และ4.พระสงฆ์ทั้งหมดได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า หรือ "เอหิภิกขุอุปสัมปทา"
และเพราะเกิดเหตุอัศจรรย์ 4 ประการข้างต้น ทำให้วันมาฆบูชา เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" ซึ่งคำว่า "จาตุรงคสันนิบาต" นี้ มีความหมายตามการแยกศัพท์คือ จาตุร แปลว่า 4 องค์ แปลว่า ส่วน สันนิบาต แปลว่า ประชุม ดังนั้น "จาตุรงคสันนิบาต" จึงหมายความว่า "การประชุมด้วยองค์ 4"

ทั้งนี้วันมาฆบูชาถือว่าเป็นวันพระธรรม ขณะที่วันวิสาขบูชาถือว่าเป็นวันพระพุทธ ส่วนวันอาสาฬหบูชา เป็นวันพระสงฆ์ นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2549 รัฐบาลไทยประกาศให้วันมาฆบูชา ให้เป็นวันกตัญญูแห่งชาติอีกด้วย สำหรับหลักการ 3 คือหลักคำสอนที่ควรปฏิบัติ ได้แก่ การไม่ทำบาปทั้งปวง คือ การลด ละ เลิก ทำบาปทั้งปวง อันได้แก่ อกุศลกรรมบถ 10 ซึ่งเป็นทางแห่งความชั่ว 10 ประการที่เป็นความชั่วทางกาย (การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม) ทางวาจา (การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ) และทางใจ (การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม) การทำกุศลให้ถึงพร้อม คือ การทำความดีทุกอย่างตาม กุศลกรรมบถ 10 ทั้งความดีทางกาย (ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ไม่ประพฤติผิดในกาม) ความดีทางวาจา (ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดเพ้อเจ้อ) และความดีทางใจ (ไม่โลภอยากได้ของผู้อื่น มีความเมตตาปรารถนาดี มีความเข้าใจถูกต้องตามทำนองคลองธรรม) และการทำจิตใจให้ผ่องใส คือ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หลุดจากนิวรณ์ที่คอยขัดขวางจิตใจไม่ให้เข้าถึงความสงบ ได้แก่ ความพอใจในกาม, ความพยาบาท, ความหดหู่ท้อแท้, ความฟุ้งซ่าน และความลังเลสงสัย

ซึ่งทั้ง 3 หลักการนั้น คือใจความสำคัญในการ "ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์"

อำเภอเมืองสุรินทร์ จัดงานจดทะเบียนสมรส "รักนิรันดร์ ณ โรบินสันสุรินทร์” ส่งเสริมให้คู่สมรสจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย

อำเภอเมืองสุรินทร์ จัดงานจดทะเบียนสมรส "รักนิรันดร์ ณ โรบินสันสุรินทร์” ส่งเสริมให้คู่สมรสจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัว วันนี้(14 ก.พ) ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก อำเภอเมืองสุรินทร์ ได้จัดงานจดทะเบียนสมรส "รักนิรันดร์ ณ โรบินสันสุรินทร์” เพื่อส่งเสริมให้คู่สมรสจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย และสร้างความเข้มแข็งให้ครอบครัว โดยมีคู่สมรสให้ความสนใจร่วมจดทะเบียนที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสันสุรินทร์ นายวัลลพ เรืองพรเจริญ นายอำเภอเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า งานที่จัดขึ้นในวันนี้ เป็นการส่งเสริมให้คู่สมรสได้ร่วมกิจกรรมในวันแห่งความรัก โดยมีพิธีจดทะเบียนสมรส เก็บภาพความทรงจำที่สวยงาม การจัดการแสดงของศิลปินพื้นบ้าน "น้ำผึ้งเมืองสุรินทร์” การแสดงวงออเคสตร้า จากโรงเรียนเขวาสินรินทร์ การเดินแฟชั่นผ้าพื้นเมืองของ คู่รัก V.I.P



กิติวรรณ มณีล้ำ / รายงาน

กีฬาจัตุรมิตรสัมพันธ์ “รู้รักสามัคคี 4 เขตพื้นที่การศึกษา จังหวัดสุรินทร์” ครั้งที่ 3

กีฬาจัตุรมิตรสัมพันธ์ "รู้รักสามัคคี 4 เขตพื้นที่การศึกษา จังหวัดสุรินทร์” ครั้งที่ 3 เจ้าภาพ สพฐ.2 จัดเต็ม ผู้บริหารแปลงโฉมเรียกเสียงฮา

วันที่ (13 ก.พ.57) ที่สนามกีฬาสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 2 อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และในฐานะประธานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 2 เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาจัตุรมิตรสัมพันธ์ "รู้รักสามัคคี 4 เขตพื้นที่การศึกษา จังหวัดสุรินทร์” ครั้งที่ 3 โดยมีนายจัตุพร บุญระดม ผอ.สพป.สุรินทร์ เขต 2 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดการแข่งขันกีฬาจัตุรมิตรสัมพันธ์ ได้เริ่มการแข่งขันครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2555 ในชื่อการแข่งขัน"รู้รักสามัคคี 4 เขตพื้นที่การศึกษา จังหวัดสุรินทร์” โดยมีหน่วยงานเข้าร่วมการแข่งขัน 4 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การมัธยมศึกษา เขต 33 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1,2และ 3 จัดครั้งแรกโดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 1 เป็นเจ้าภาพ ครั้งที่2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 เป็นเจ้าภาพ และครั้งที่ 3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 เป็นเจ้าภาพ มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีต่อกัน การรู้รักสามัคคีเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อประโยชน์ในการประสานงาน การใช้ข้อมูลและทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อเสริมสร้างและปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรให้เกิดขึ้น กับบุคลากรในเขตพื้นที่การศึกษา

สำหรับ การแข่งขันภายในวันเดียว ประเภทการแข่งขันกีฬาได้แก่ กีฬาเปตองVIP เป็นการแข่งขันทีมผู้บริหารของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กีฬาเปตอง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ทีมชาย ทีมหญิง กีฬาวอลเล่ย์บอล แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ทีมชาย ทีมหญิง และกีฬาฟุตบอลชาย 7 คน



อุทัย  มานาดี / รายงาน

นักเรียนชายแดน ร่วมเวียนเทียนพร้อมกวาดและล้างห้องน้ำ ถวายเป็นพุทธบูชาในวันมาฆะ

นักเรียนชายแดนจูงมือมือถือดอกไม้เดินเท้าเรียงแถวยาวกว่า 2 ก.ม.ร่วมเวียนเทียนพร้อมกวาดและล้างห้องน้ำ ถวายเป็นพุทธบูชาในวันมาฆะบาปีนี้อย่างอบอุ่น

วันที่ 13 ก.พ.57 ครูอาจารย์ได้นำเด็กๆนักเรียนโรงเรียนบ้านปวงตึก ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กว่า 300 คน จูงมือกันถือดอกไม้ธูปเทียนเดินเท้าเรียงแถวบนถนนราดยาง ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรจากโรงเรียนเพื่อไปยังวัดสะพานใหม่สักสีมาพนาราม เพื่อร่วมกันประกอบพิธีเวียนเทียนรอบศาลาการเปรียญวัด ซึ่งวัดดังกล่าวยังไม่มีงบประมาณสร้างอุโบสถ จึงใช้ศาลาการเปรียญในการประกอบพิธีเวียนเทียนแทน เนื่องในวันมาฆะบูชาที่จะมาถึงในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ.) ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและน่ารักของเด็กๆนักเรียนชายแดนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้กิจกรรมที่โรงเรียนชายแดนแห่งนี้จัดขึ้นเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกให้เด็กนักเรียนได้รู้จักประเพณีวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา และจรรโลงจิตใจให้ร่วมกันสืบทอดพระพุทธศาสนา อันจำนำไปสู่การพัฒนาภาวะจิตใจให้เป็นคนดี รู้จักมีความเมตตาปราณี กรุณาให้อภัยซึ่งกันและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อันจะนำไปสู่การเป็นเยาวชนที่ดีของชาติสืบไป

หลังจากเด็กนักเรียนเดินทางไปถึงทั้งหมดได้พร้อมใจกันนั่งฟังเทศน์ฟังธรรมม จากเจ้าอาวาส วัด ก่อนที่จะร่วมกันพัฒนาวัดด้วยการเก็บกวาดเศษขยะใบไม้ต่างๆรวมทั้งขัดล้างห้องน้ำ ด้วยบรรยากาศที่อบอุ่นและน่ารักอย่างยิ่งในช่วงใกล้ถึงวันมาฆะบูชาและวันแห่งความรักในปีนี้



อุทัย  มานาดี / รายงาน

ตำรวจทางหลวง นำช้างมอบดอกกุหลาบ น้ำดื่มและ ผ้าเย็น ในวันแห่งความรัก และวันมาฆบูชา

ตำรวจทางหลวงนำช้างมอบดอกกุหลาบ น้ำดื่มและ ผ้าเย็น ในวันแห่งความรัก และวันมาฆบูชาที่หยุดยาวหลายวันหวัง ลดอุบัติเหตุ สร้างภาพลักษณ์ให้กับตำรวจทางหลวงที่มีความหวังดีต่อประชาชน

วันที่ 14 ก.พ.57 ที่ถนนหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม บริเวณหน้าป้อมยามตำรวจทางหลวง อ.ปาสารท จ.สุรินทร์ พ.ต.ต.วสุวัตน์ โชติช่วง สว.ส.ทล. กก.6 บก.ทล.ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสุรินทร์ พนักงานลูกจ้าง อาสาจราจรตำรวจทางหลวง กว่า 20 นาย จัดกิจกรรมวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก เดินทางปลอดภัย จากใจตำรวจทางหลวงสุรินทร์ มอบดอกกุหลาบ น้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลัง กาแฟ และผ้าเย็น ให้กับประชาชนที่ขับรถสัญจรไปมาผ่านเส้นทางดังกล่าว เนื่องในวันแห่งความรักและวันมาฆบูชาที่มีวันหยุดยาวต่อกันหลายวัน โดยตำรวจทางหลวงสุรินทร์ที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อแสดงออกถึงความรักความหวังดีที่ตำรวจทางหลวงสุรินทร์มีให้กับประชาชน และเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนระหว่างเดินทาง พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนขับรถอย่างระมัดระวังและไม่ประมาท ทั้งเมาไม่ขับ ง่วงไม่ขับ ทั้งนี้เพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนน และไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียขึ้นพร้อมกันนี้ยังนำช้างพังเดือนฉาย จากศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้างตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม มาร่วมสร้างสีสันด้วยการผูกป้ายที่ข้างลำตัวช้าง พร้อมกับให้ช้างใช้งวงจับน้ำดื่มมอบให้ประชาชนที่สัญจรไปมา ซึ่งสามารถเรียกความสนใจจากประชาชนที่สัญจรไปมา และยังสร้างสีสันให้กับกิจกรรมวันแห่งความรักของตำรวจทางหลวงสุรินทร์รวมทั้งยังสามารถสร้างภาพลักษณ์และความรู้สึกที่ดีให้กับประชาชนที่มีต่อตำรวจทางหลวงสุรินทร์มากขึ้นอีกด้วย

พ.ต.ต.วสุวัตน์ โชติช่วง สว.ส.ทล. กก.6 บก.ทล. กล่าวว่า เนื่องจากพวกเราเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสุรินทร์ เป็นคนของประชาชน ในวันแห่งความรัก 14 ก.พ. เป็นวันที่มีความหมายสำหรับทุกคน เป็นการมอบความรักให้แก่กันและกัน ตำรวจก็เป็นคนๆหนึ่งที่ต้องมีความรัก เพราะฉะนั้นเมื่อมีบทบาทเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ต้องมอบความรัก สิ่งดีๆให้กับประชาชน มีรอยยิ้ม โดยเฉพาะวันวันแห่งความรักทุกคนจะต้องมีรอยยิ้ม เป็นความภาคภูมิใจของตำรวจทางหลวงสุรินทร์ ภายใต้สโลแกน "Vaientine วันแห่งความรัก เดินทางปลอดภัย จากใจ ตำรวจทางหลวงสุรินทร์” ซึ่งกิจกรรมในวันนี้ตลอดทั้งวันจะมีการ แจกดอกกุหลาบ น้ำดื่ม กาแฟ ผ้าเย็น ประชาชนที่สัญจรกลับบ้านในพื้นที่จังหวัดอีสานใต้ ที่บางคนอาจจะมีอาการง่วงนอน ซึม จะได้มีการพูดคุยกันระหว่างผู้ใช้รถใช้ถนนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง สุรินทร์ เพื่อรณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในวันแห่งความรัก



อุทัย  มานาดี / รายงาน

ชาวนา จังหวัดสุรินทร์ หันมาปลูก”แตงโม”

ชาวนาจังหวัดสุรินทร์ ช้างไม่รอเงินจำนำข้าวหันปลูก”แตงโม”ขายประทังชีวิตช่วงหน้าแล้ง

วันที่ 14 ก.พ.57 ขณะนี้เกษตรกร บ้านหนองคู ม.4 ต.คาลาแมะ อ.ศีรขรภูมิ จ.สุรินทร์ และเกษตรกรชาวอ.สนม และอำเภอรัตนบุรี กว่า 100 ครัวเรือน หลังเสร็จฤดูการทำนาได้หันมาปลูกแตงโมพันธุ์กินรี พืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อย ใช้เวลาปลูกเพียง 60 วันหรือ 2 เดือนเท่านั้น ก็ขายเป็นรายได้เสริมช่วงหน้าแล้ง แทนการเพาะปลูกข้าวนาปรังที่ใช้น้ำมาก เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนน้ำและผลผลิตเสียหาย โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้าจากทั้งในและต่างจังหวัดมารับซื้อถึงสวน เฉลี่ยไร่ละ 8,000-10,000 บาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้เสริมช่วงหน้าแล้งให้กับเกษตรกร หรือบางรายนำมาวางขายสองข้างทางบริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 31ถนนศีขรภูมิ-รัตนบุรี ทั้งยังเป็นการลดปัญหาการอพยพเคลื่อนย้ายออกไปขายแรงงานยังต่างถิ่นได้ในอีกทางหนึ่งด้วย

นางบุญซ้อน พนาริน อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 บ้านหนองคู ม.4 ต.คาลาแมะ อ.ศีรขรภูมิ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตนปลูกแตงโมงแล้วนำมาวางจำหน่ายในราคาถุงละ 20 บาท ขายดีแทบทุกวันทำให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัว แม้ว่าจะยังไม่ได้รับเงินตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ทำให้ตนและครอบครัวไม่ได้รับความเดือดร้อน และคิดว่าเมื่อถึงเวลารัฐบาลก็จะนำเงินมาจ่ายให้ชาวนาเอง อยากฝากถึงเพื่อนชาวนาว่า หลังฤดูการทำนาแล้วอยากให้หันมาปลูกพืชหมุนเวียนระยะสั้น เช่น ปลูกแตงโม ข้าวโพด พริก ปีนี้ตนปลูกแตงโมง ข้าวโพดและพริก อย่างละ 3-4ไร่ ทุกปีก็จะขายได้เงินดีแต่ปีนี้แตงโมงถูกฝนทำให้เน่าทิ้งไปเยอะ

นายทองอิน พนาริน อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่40 บ้านหนองคู ม.4 ต.คาลาแมะ อ.ศีรขรภูมิ จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ต้นปลุกแตงโม พันธุ์นนทรีช้างดำ ปลูก 60 วันก็เก็บขายได้แล้ว ตนปลูก 3 ไร่ลงหมุนหมดไปหมื่นกว่าบาทเพราะเมล็ดพันธุ์แตงโมแพง กำไรปีนี้ไม่ต้องพูดถึงขอขายเอาแค่ทุน ตนคิดว่าเงินตามโครงการรับจำนำข้าว เมื่อรัฐบาลรับจำนำไปแล้วก็คงต้องหาเงินมาจ่ายให้ชาวนา ขอให้ชาวนาใจเย็นๆรอไปก่อน หันมาปลูกแตงโม ปลูกข้าวโพด หรือพืชพันธุ์อะไรก็ได้ที่ขายได้ หมุนวียนเมื่อเสร็จจากการทำนา นิดๆหน่อยๆให้พออยู่ได้



อุทัย  มานาดี / รายงาน

คู่รักจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 34 คู่

คู่รักจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง -สมรสทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จำนวน 34 คู่ ประกอบพิธีทำบุญตักบาตร ในวันมาฆบูชา และจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง อย่างยิ่งใหญ่ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

วันที่ (14 ก.พ. ) เวลา 10.30 น. ที่ศูนย์คชศึกษาบ้านตากลาง อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นวันมาฆบูชา หรือวัน วันจาตุรงคสันนิบาต วันสำคัญทางพระพุทธสาสนา เป็นวันที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าได้แสดงโอวาทพระปาฎิโมกข์ และ เป็น วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ,องค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ ,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ (ททท.สุรินทร์ )ชาวบ้านตากลาง ได้จัดกิจกรรม "จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง” วันวาเลนไทน์ และทำบุญตักบาตร ในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นวันเดียวกัน ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 โดยมีนายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานจัดกิจกรรมวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรัก ในปีนี้มีคู่บ่าวสาว ชาวไทยและชาวต่างชาติ ร่วมจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง จำนวน 34 คู่ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ และเสริมสร้างความอบอุ่น ความเข้มแข็ง ความผูกพันของคู่สามี ภรรยา ให้แน่นเฟ้นมากยิ่งขึ้น

สำหรับพิธีแต่งงานแบบชาวกวยหรือพิธีซัตเต ของชาวพื้นเมืองสุรินทร์ มีการประกอบพิธีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ตั้งแต่งการแต่งกายของเจ้าบ่าวจะต้องนุ่งโสร่งไหม เสื้อแขนยาวสีขาว ผ้าไหมพาดบ่า พร้อมด้ายมงคลสามสีสวมศีรษะ ( ด้ายสีแดง ขาว น้ำเงินและทาด้วยข้าวเหนียว ) เจ้าสาวต้องนุ่งผ้าไหมซิ่นลายกวย เสื้อแขนกระบอกสีอ่อน ( ขาว ครีม หรือชมพู ) พาดด้วยสไบสีแดง และศีรษะสวม "จะลอม” (มงกุฎที่ทำจากใบตาล) เจ้าบ่าวจัดขบวนขันหมากช้างไปรับเจ้าสาว ก่อนจูงมือกันเข้าประกอบพิธีตามลำดับ เริ่มจาก พิธีสวมด้ายมงคลบ่าวสาว บายศรีสู่ขวัญและพิธีถอดคางไก่เสี่ยงทายชีวิตคู่บ่าวสาว โดยหมอพราหมณ์ รวมถึงเลี้ยงบุฟเฟ่ต์อาหารช้างเพื่อความเป็นสิริมงคล และการจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนเดินทางไปยังบริเวณวังทะลุ (ที่ลำน้ำชีและลำน้ำมูลไหลมาบรรจบกัน) เพื่อบอกกล่าวศาลปู่-ตา ให้รับทราบถึงการครองคู่เป็นสามีภรรยากัน คู่รักที่สนใจร่วมจดทะเบียนบนหลังช้างและพิธีซัตเต

อย่างไรก็ตาม คู่บ่าวทุกคู่ทีจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง จะได้รับใบทะเบียนสมรสที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมทั้งของที่ระลึกที่เป็นรูปช้าง ที่สวยงาม และไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และได้ถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ละลึกครั้งหนึ่งในชีวิตของการสมรส ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก



อุทัย มานาดี / รายงาน

ตา อายุกว่า 69 ปี ควงยาย 59 ปี จดทะเบียนสมรสอำเภอเมืองสุรินทร์ ปีนี้มีคู่รัก จำนวน 45 คู่

วันที่ (14 ก.พ.57) ที่ห้างโรบินสัน ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนายวัลลพ เรืองพรเจริญ นายอำเภอเมืองสุรินทร์ ร่วมกันมอบใบทะเบียนสมรสให้กับผู้ที่เดินทางมาจดทะเบียนสมรส จำนวน 45 คู่ เนื่องใน วันแห่งความรัก และวันมาฆะบูชา ซึ่งในปีนี้สำนักงานทะเบียนราษฎ อำเภอเมือง ร่วมกับห้างโรบินสัน ได้จัดขึ้นตามโครงการ"รักนิรันดร์ ณ.โรบินสันสุรินทร์" ทั้งนี้เพิ่อส่งเสริมความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันที่มีความสำคัญอย่างมากที่จะพัฒนาคนและประเทศชาติ โดยมีผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คู่รัก และญาติพี่น้องเข้าร่วมงาน จำนวนมาก

นายยุทธยา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า วันี้เป็นวันวาเลนไทม์และวันมาฆะบูชา จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดกิจกรรม มากมาย อาทิ อำเภอท่าตูมจัดจดทะเบียนบนหลังช้าง อำเภอเมือง จัดจดทะเบียนสมรสที่ห้างโรบินสันแห่งนี้ ซึ่งหากทุกครอบครัวมีความรักความอบอุ่นก็จะเป็นเกราะป้องกันปัญหาต่างๆ ให้กับครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเด็กๆที่เกิดมาในครอบครัวที่มีความรักความเอื้ออาทร ก็จะได้หล่อหลอมกล่อมเกลา ให้มีอุปนิสัยที่ดีและเป็นทุนทรัพย์ยากรที่มีคุณค่าของชาติในอนาคต ซึ่งในวันนี้มีคู่รักจำนวนถึง 45คู่ที่ได้มาจดทะเบียนสมรส ในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ในการจดทะเบียนในครั้งนี้ มีคู่รักทุกวัยจำนวน 45คู่ โดยเฉพาะนายเปือย มณีสด อายุ 69 ปีได้ควงแขนภรรยานางยันต์ มณีสด อายุ 59 ปีอยู่บ้านเลขที่ 68/7 บ้านท่าสว่าง ต. ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ อยู่อยู่กินมานานถึง40 ปี มีลูก 3 คน ซึ่งลูกชายคนโต ปัจจุบันอายุ 39 ปี พร้อมกันนี้ยังมีคู่รัก จากสายสื่อมวลชนจังหวัดสุรินทร์ อีกด้วย



อุทัย มานาดี / รายงาน

จังหวัดอุบลราชธานี จัดพิธีจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรักที่ปราสาทบ้านเบ็ญจ์มีอายุมากกว่า พันปี เพื่อให้ความรักยืนยาวเหมือนตัวปราสาท

วันที่ (14 ก.พ.57)  นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีจดทะเบียนสมรสแก่คู่บ่าวสาว57คู่ เนื่องในวันแห่งความรัก ณ ปราสาทบ้านเบ็ญจ์ ตำบลหนองอ้มอำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งถือเป็นโราณสถานอันสำคัญ ก่อสร้างในราวพุทธศตวรรษที่ 15-16 มีอายุประมาณ1000 ปี

สำหรับวันแห่งความรักในปีนี้ตรงกับวันมาฆบูชา ชาวอำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี จึงจัดกิจกรรมจดทะเบียนสมรส ครั้งนี้ขึ้น เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่คู่บ่าวสาวให้ครองรักกันยั่งยืนประดุจปราสาทบ้านเบ็ญจ์ รวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์ปราสาทบ้านเบ็ญจ์แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง กิจกรรมในวันนี้มีการจัดขบวนแห่กลองยาวนำคู่บ่าวสาว57คู่เข้าสู่พิธีจดทะเบียนสมรส การแสดงศิลปวัฒนธรรมของเด็กๆและเยาวชนในชุมชน เพื่อเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่จดทะเบียนสมรส พร้อมนำคู่บ่าวสาวและผู้ร่วมงาน กราบนมัสการปราสาทบ้านเบ็ญจ์ เพื่อความเป็นสิริมงคล



กรกช  ภูมี / สวท.อุบลฯรายงาน 

คู่บ่าวสาวกว่า 30 คู่ร่วมจดทะเบียนสมรสบนหลังและร่วมประเพณีแต่งงานแบบโบราณหรือ ซัตเต ของชุมชนชาวกูยสุรินทร์

ที่ศูนย์คชศึกษาหมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ต. กระโพ อ. เมือง จ. สุรินทร์ วันที่ ( 14 ก.พ. 2557 ) ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก และวันมาฆบูชาซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปภัมภ์ และองค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ อ. ท่าตูม จังหวัดสุรินทร์  จัดงาน " จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง หรือเพณี แต่งงานของชุมชนชาวกูยโบราณ หรือ ซัตเต ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ประจำปี 2557 ซึ่งเป็นปีที่ 8  โดยมีนายถาวร  กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์เป็นประธานในการเปิดงาน พร้อมอวยพร และมอบใบทะเบียนให้กับคู่บ่าวสาว ทั้งนี้เพื่อส่งเสรมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ เสริมสร้างความเข้มแข็ง ความอบอุ่น และความผูกพันระหว่างสามีและภรรยา ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก่อให้เกิดสิทธิประโยชน์ต่างๆมากมาย รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์ วัฒนธรรมประเพณีการแต่งงานของชุมชนชาวกูยโบราณ หรือ ซัตเต  อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง อันจะนำไปสู่โครงการ Elepphant  World แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลกอีกด้วย

โดยในปีนี้จังหวัดสุรินทร์จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เหมือนเช่นทุกปี เน้นการความขลังของประเพณีแต่งงานแบบชาวกูยโบราณ หรือ ซัตเต  ความสวยงามและยิ่งใหญ่ของขบวนแห่ขันหมากของเจ้าบ่าวที่มีช้างเข้าร่วมกว่า 50 เชือก  และความยิ่งใหญ่ของการจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก   โดยมีคูบ่าว – สาวจากจังหวัดต่างๆ และชาวต่างประเทศร่วมในพิธีปีนี้จำนวน 34 คู่ พร้อมกันนี้เนื่องจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ตรงกับวัน มาฆบูชาด้วยจึงได้จัดให้มีพิธีตักบาตรของคู่บ่าว – สาว ด้วย  โดยได้รับความสนใจจากชาวจังหวัดสุรินทร์และนักท่องเที่ยวร่วมในพิธีเป็นจำนวนมาก



ประนนท์  ไม้หอม/ข่าว/ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน







พุทธศาสนิกชนร่วมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคี เนื่องในวันมาฆบูชา

พุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวกัมพูชาจำนวนมาก ร่วมกันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐาน ณ พระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร วัดช้างหมอบ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ แหล่งรวมใจพุทธศาสนิกชนแห่งใหม่ ชายแดนไทย – กัมพูชา และร่วมกันทำบุญทอดผ้าป่าสมทบทุนก่อสร้างพระปรางค์ เนื่องในวันมาฆบูชา

วันที่ 14 ก.พ.57  ณ วัดมงคลคชาราม (วัดช้างหมอบ) อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พระพิมลพัฒนาทร (หลวงพ่อพวน วรมงฺคโล) เจ้าคณะตำบลคอโค เจ้าอาวาสวัดมงคลคชา ประธานฝ่ายสงฆ์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานพร้อมด้วย พลโท ชวลิต ชุนประสาน แม่ทัพน้อยที่ 2 , พล.ต.ธรากร ธรรมวินทร ผบ.กองกำลังสุรนารี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ พระสารีริกธาตุพระสาวกและพระอรหันต์ธาตุ ประดิษฐาน ณ ยอดพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร วัดมงคลคชาราม แห่งนี้             

พระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร วัดช้างหมอบ แห่งนี้ มีความสำคัญยิ่งพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระพิมลพัฒนาทร (หลวงพ่อพวน วรมังคะโล) ได้มีดำริที่จะจัดสร้างเนื่องจากในปีนี้เป็นปีพุทธชะยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า และเป็นการเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนพรรษา ครบ 85 พรรษา และสมเด็จ พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเจริญพระชันษา 99 ปี จังหวัดสุรินทร์ จึงได้ขอประทานพระบรมสารีริกธาตุ จากพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งพระองค์ทรงเมตตาประทาน พระบรมสารีริกธาตุ เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานไว้ ณ พระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร วัดมงคลวราภรณ์ บ้านช้างหมอบ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อเป็นที่สักการะ บูชา เป็นที่ตั้งมั่นแห่งพระพุทธศาสนา เป็นสิริมงคล และเป็นกำลังใจแก่คณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน

พร้อมกันนี้พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าทั้งไทยและกัมพูชา ร่วมกันแห่ต้นผ้าป่าสามัคคี ซึ่งที่ผ่านมา จังหวัดสุรินทร์ได้เชิญชวนผู้มีจิตศัทธาร่วมเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ เพราะเป็นวันมาฆบูชา วันสำคัญทางพุทธศาสนา และให้พุทธศาสนิกชนร่วมสมทบทุนในการก่อสร้างพระปรางค์กุญชรมณีศรีไตรยอดเพชร เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะ และเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและเพื่อพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดสุรินทร์อีกแห่งหนึ่ง โดยยอดผ้าป่าคั่นต้นเป็นเงินจำนวนประมาณ 3 ล้านบาท



ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข ข่าว/ไวยวิทย์ สุขเก่า ภาพ

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นำชาวพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง เนื่องในวันมาฆะบูชา

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 07.00 น . ที่บริเวณห้างเซนทรัลพลาซ่าอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนางมัณฑะนา สุทธิวรชัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา และพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง เเนื่องในวันมาฆะบูชา แด่พระสงฆ์ จำนวน 99 รูป และเป็นวันที่ตรงกับวันแห่งความรัก วันที่ 14 กุมภาพันธ์ โดยกิจกรรมในวันนี้เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์วันสำคัญทางพุทธศาสนา วันมาฆบูชา หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือน 3 เนื่องในโอกาสคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ในวันสำคัญนี้มีเหตุการณ์อัศจรรย์คือ พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน 1,250 รูป พร้อมใจกันมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย โดยมิได้นัดหมายกัน และพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ในที่ประชุมสงฆ์ในครั้งนั้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นำพุทธศาสนิกชนเวียนเทียนวัดมหาวนาราม เนื่องในวันมาฆบูชา

เมื่อค่ำวันที่ (14 ก.พ.57) ที่วัดมหาวนาราม หรือวัดป่าใหญ่ (พระอารามหลวง) อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีเจริญพุทธมนต์ เนื่องในวันมาฆบูชา โดยมีข้าราชการ และพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมกิจกรรม จากนั้นได้ประกอบพิธีเวียนเทียนรอบวิหาร เพื่อระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องในวันมาฆบูชาซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 มีความสำคัญเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทแก่พระอรหันต์ 1,250 องค์ ที่ไปชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมายล่วงหน้า.

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ และท้องถิ่น ปลูกต้นไม้ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี

วันนี้ ศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ตำบลแจระแม อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานีนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นำหัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างของส่วนราชการ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลูกต้นไม้ ปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ประเภทต้นไม้ที่ปลูกต้นไม้ยืนต้น ประเภทให้ดอกสวยงาม ออกดอกต่างเวลากัน แบ่งเป็น 8 ชนิด จำนวน 51 ต้น โดยมีขนาดลำต้นเส้นผ่าศูนย์กลาง 5-7 นิ้ว ความสูงตั้งแต่ 5 เมตรขึ้นไป ประกอบไปด้วย ต้นแคนา ต้นจาน(ทองกวาง) ต้นคูณต้นหางนกยูงฝรั่ง ต้นอินทนิล ต้นหูกระจง ต้นปีป และต้นเสลา การดำเนินการปลูกต้นไม้ รอบบริเวณอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ในครั้งนี้เพื่อลดความร้อน เพิ่มพื้นที่สีเขียว เพื่อเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบ ๆ บริเวณอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ให้สวยงาม เหมาะกับการเป็นศูนย์ราชการแห่งใหม่ของจังหวัดอุบลราชธานี และเป็นการแสดงออกถึงการร่วมแรงร่วมใจของข้าราชการ พนักงาน ของส่วนราชการที่ปฏิบัติงานในอาคารศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี และส่วนราชการอื่น ๆ ของจังหวัดอุบลราชธานี



จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

พุทธศาสนิกชนชาวอุดรธานี ร่วมเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557

พุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดอุดรธานี ร่วมเวียนเทียนน้อมรำลึกเหตุการณ์ในวันมาฆบูชาและร่วมปฏิบัติตามหลักโอวาทปาติโมกข์ เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 ณ วัดใกล้บ้าน

ที่วัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวง อำเภอเมืองจังหวัดอุดรธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเวียนเทียน เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557 จังหวัดอุดรธานี โดยมีประชาชนพุทศาสนิกชนร่วมประกอบพิธีจำนวนมาก

การจัดงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เห็นความสำคัญของวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา น้อมรำลึกเหตุการณ์ในวันมาฆบูชาและร่วมปฏิบัติตามหลักโอวาทปาติโมกข์ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้นำประชาชนพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาร่วมงาน ประกอบพิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันมาฆปูรมี คือวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 เป็นวันที่พระภิกษุสงฆ์ ที่เป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา หรือได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้า ที่ล้วนเป็นพระอรหัน 1,250 รูปมาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ เวฬุวันมหาวิหารโดยมิได้นัดหมาย ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงพระโอวาทปาติโมกข์อันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนาซึ่งประกอบด้วยการไม่ทำบาปทั้งปวง การทำกุศลให้ถึงพร้อมและการทำจิตใจให้ผ่องใส

พร้อมกันนี้จังหวัดอุดรธานียังจัดให้มีกิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2557อาทิ วัดป่าบ้านค้อ ตำบลเขือน้ำ อำเภอบ้านผือ ตั้งแต่วันที่ 8-14 กุมภาพันธ์ 2557 กิจกรรมประกอบด้วยการบวชชีพราหมณ์ ปฏิบัติธรรม ฟังธรรมเทศนา สรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ การแสดงตนเป็นพุทธมามกะ เวียนเทียน และพิธีสดุดีเทิดพระเกียรติ ที่วัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวง ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี มีกิจกรรมการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ฟังพระธรรมเทศนา และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ วัดโพธิสมภรณ์ พระอารามหลวง ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีกิจกรรมการแสดงตนเป็นพุทธมามกะ ฟังพระธรรมเทศนา และเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ส่วนอำเภอต่างๆได้มอบหมายให้นายอำเภอประสานงานกับเจ้าคณะอำเภอ เชิญชวนพุทธศาสนิกชนประกอบกิจกรรมทำบุญตักบาตร ฟังพระธรรมเทศนา รณรงค์ ลด ละ เลิกอบายมุขและเวียนเทียน



 ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/พิมพ์ พันศักดิ์ วีระชัย ภาพ

จังหวัดอำนาจเจริญ จัดพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในวันมาฆบูชา ณ พุทธอุทยานพระมงคลมิ่งเมือง

ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  พร้อมด้วย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ  หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ  พ่อค้า  ประชาชน  นักเรียน  นักศึกษา และพุทธศาสนิกชนจำนวนมากในจังหวัดอำนาจเจริญ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร  ข้าวสาร อาหารแห้ง  ณ  พุทธอุทยานพระมงคลมิ่งเมือง อำเภอเมือง  จังหวัดอำนาจเจริญ เนื่องในวันมาฆบูชา

วันที่ (14 มี.ค. 2557)  เวลา 07.00 น. ที่พุทธอุทยาน พระมงคลมิ่งเมือง  นายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง   เนื่องในวันมาฆบูชา  ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา   เพื่อเปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชน ได้ร่วมปฏิบัติธรรมบำเพ็ญกุศล เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 86 พรรษา  และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา  81  พรรษา    โดยกิจกรรมที่จัดขึ้น ประกอบด้วย การทำบุญตักบาตร  แสดงธรรมเทศนา การจัดนิทรรศการวันมาฆบูชา  พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และบำเพ็ญกุศลเป็นพุทธบูชา  พิธีเวียนเทียนและปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ



ประกาศิต  สุวะทอง / ข่าว / ภาพ

กระทรวงยุติธรรมลงพื้นที่ยโสธร

กระทรวงยุติธรรม โดยศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม สถาบันพระปกเกล้า   นำผู้นำท้องถิ่นและผู้นำชุมชน เปิดเวที่เสวนาการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม  ที่โรงแรมเดอะกรีนปาร์คแกรนด์ จังหวัดยโสธร  พ.ต.ท.วิชัย  สุวรรณประเสริฐ  ผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษ เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เป็นประธานเปิดเวทีเสวนาเชิงปฏิบัติการ ดรีมอีสาน – อนาคตภาคอีสานกับการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าทีม Dream Esarn: Equity of justice System  

โดยมี ผู้นำท้องถิ่น/ ผู้นำชุมชน  และ และเยาวชนคนรุ่นใหม่ในสถานศึกษา ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมเวทีเสวนา กว่า 100 คน โดยพ.ต.ท.วิชัย  สุวรรณประเสริฐ ผู้เชี่ยวชาญด้านคดีพิเศษ เลขานุการศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม     กล่าวว่า เป็นการเปิดพื้นที่สาธารณะให้ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชนเยาวชนรุ่นใหม่ในภาคอีสานได้สะท้อนสภาพปัญหาเกี่ยวกับการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และให้ข้อเสนอแนะ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียม  /สร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนในภาคอีสานเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม พร้อมนำข้อเสนอแนะและประเด็นปัญหามากำหนดเป็นนโยบายเกี่ยวกับการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมในอนาคต   ซึ่งจังหวัดยโสธรเป็นจังหวัดนำร่อง กระทรวงยุติธรรม โดยศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม สถาบันพระปกเกล้า   ก็จะได้จัดเสวนาที่จังหวัดอื่นต่อไป

ยโสธร จัดงานวันร่วมน้ำใจช่วยกาชาด

สำนักงานจังหวัดยโสธร จัดงานวันร่วมน้ำใจช่วยกาชาด เปิดรับบริจาคสิ่งของปัจจัยต่างๆในการออกร้านเหล่ากาชาด ในงานวันสถาปนาและงานกาชาดจังหวัดยโสธร 1-10 มีนาคม 2557 นี้  ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร นายประวัติ  ถีถะแก้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมด้วยนางโสภิดา   ถีถะแก้วนายกเหล่ากาชาดจังหวัด  เป็นประธานรับมออบสิ่งของเครื่องใช้ พร้อมเงินสดจาก ผู้มีจิตศรัทธา และหน่วยงานต่างๆ ซึ่งสิ่งของที่ได้รับบริจาคในวันนี้ จะนำมาเป็นของรางวัลในการออกร้านมัจฉาการชาด ทางจังหวัดยโสธรได้กำหนดจัดงานวันสถาปนาและงานกาชาดจังหวัดยโสธรในวันที่ 1-10 มีนาคม 2557 นี้  การเปิดรับบริจาคในวันนี้ปรากฏว่า มีกลุ่มองค์กร/ หน่วยงานราชการ/  รัฐวิสาหกิจ/ ผู้มีจิตศรัทธา  ร่วมบริจาคเป็นจำนวนเงิน 384,410 บาท พร้อมสิ่งของอุปโภคบริโภค เครื่องใช้ต่างๆอีกจำนวนมาก

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นำพุทธศาสนิกชนร่วมกิจกรรมงานส่งเสริมพระพุทธศาสนาทำบุญตักบาตร เนื่องในเทศกาลมาฆบูชา ประจำปี ๒๕๕๗

วันที่ (๑๔ ก.พ.๕๗) เวลา ๐๖.๓๐ น. นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตร เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ณ วัดคำสายทอง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร นายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้าประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร ร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นวันสำคัญยิ่งทางพุทธศาสนา เป็นวันที่พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์แก่บรรดาพระอรหันต์ จำนวน ๑,๒๕๐ รูป ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ โอวาทปาติโมกข์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ได้แก่ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ พุทธศาสนิกชนควรจะได้รำลึกถึงพระคุณของพระองค์ด้วยการสวดมนต์ รักษาศีล เจริญจิตภาวนา รวมถึงปฏิบัติกิจกรรมถวายเป็นพุทธบูชา ในปีนี้วันมาฆบูชาตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

ทั้งนี้ ในส่วนของจังหวัดมุกดาหาร กำหนดจัดกิจกรรมเนื่องในวันมาฆบูชาในวันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เพื่อความเป็นสิริมงคลขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวมุกดาหารร่วมกิจกรรมเวียนเทียนในเวลา ๑๕.๐๐ น.ที่วัดศรีบุญเรือง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยมี นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และในเวลา ๑๙.๐๐ น.จัดกิจกรรมเวียนเทียน ณ วัดคำสายทอง อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร โดยมี นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธาน ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดมุกดาหารร่วมกิจกรรมในตอนเย็นสวดมนต์ไหว้พระ ฟังพระธรรมเทศนา นั่งสมาธิภาวนา เวียนเทียน ณ วัดใกล้บ้าน เพื่อร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยพร้อมเพรียงกัน



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

วันที่ (๑๔ ก.พ.๕๗) เวลา ๑๕.๐๐ น. นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธี

วันที่ (๑๔ ก.พ.๕๗) เวลา ๑๕.๐๐ น. นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีบำเพ็ญกุศล เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี ๒๕๕๗ ณ วัดศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยนายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร, นายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้าประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกิจกรรมสวดมนต์ไหว้พระ ฟังพระธรรมเทศนา เวียนเทียนเป็นจำนวนมาก และขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดมุกดาหารร่วมกิจกรรมในตอนเย็นสวดมนต์ไหว้พระ ฟังพระธรรมเทศนา นั่งสมาธิภาวนา เวียนเทียน ณ วัดใกล้บ้าน เพื่อร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระพุทธคุณแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยพร้อมเพรียงกัน



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

มหาสารคาม-แห่เวียนเทียนรอบองค์พระธาตุนาดูนวันมาฆบูชา

ผู้ว่ามหาสารคาม นําเหล่าพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญและเวียนเทียนที่พุทธมนทลอีสาน เนื่องในวันมาฆบูชา

14-02-57 ที่พระบรมธาตุนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคามนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามนําเหล่าพุทธศาสนิกชน ประกอบพิธีเวียนเทียนรอบองค์พระบรมธาตุนาดูน เป็นการระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ และเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า เนื่องในวันมาฆบูชาซึ่งในปีนี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 มีความสำคัญเป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงโอวาทแก่พระอรหันต์ 1,250 องค์ ที่ไปชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมายล่วงหน้า ส่งผลให้ชาวพุทธน้อมนำมาปฏิบัติกันอยู่ทุกวันนี้ โดยตลอดทั้งวันมีเหล่าพุทธศาสนิกชนเดินทางไปนมัสการพระบรมธาตุนาดูนและเวียนเทียนเนื่องในสัปดาห์วันมาฆบูชาอย่างไม่ขาดสาย            

ทั้งนี้พระบรมธาตุนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม นับเป็นพุทธมณฑลแห่งอีสาน เป็นเขตที่มีการขุดพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของนครจำปาศรีมาก่อน และที่สำคัญยิ่งก็คือการขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13 -15 สมัยทวาราวดี และนำไปบรรจุไว้ที่พระบรมธาตุนาดูน จึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวพุทธในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาจะมีเหล่าพุทธศาสนิกชนไปร่วมกันทำบุญและเวียนเทียนขอพรกันเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ที่วัดมหาชัย พระอารามหลวง จังหวัดมหาสารคามยังได้จัดงานส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในวันมาฆบูชาและร่วมเวียนเทียนในเวลา 19.00 น.และยังจัดพิธีเวียนเทียนทุกวัดทั่วทั้งจังหวัดจํานวน 977 วัด สํานักปฏิบัติธรรมประจําจังหวัดจํานวน 53 แห่ง



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

บุรีรัมย์ - พุทธศาสนิกชนชาวบุรีรัมย์ หลั่งไหลร่วมกันทำบุญตักบาตร เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว

เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ (14 ก.พ.57) นายธงชัย  ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันมาฆบูชา ที่วัดกลางอารามหลวงพระอารามหลวง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยมีพุทธศาสนิกชน ข้าราชการ พ่อค้า และประชาชนจำนวนมาก พร้อมใจแต่งกายด้วยชุดสีขาว นำข้าวสาร อาหารแห้ง ร่วมทำบุญตักบาตรแด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว และร่วมรำลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

พร้อมกันนี้พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญยังได้ร่วมกันแสดงตนเป็นพุทธมามกะเนื่องในมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของพระพุทธศาสนา และตั้งจิตอธิษฐานให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง ส่วนในช่วงเย็นจะร่วมกันประกอบพิธีเวียนเทียน เพื่อสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของชาวพุทธด้วย

อำเภอโนนไทย ร่วมกับเทศบาลตำบลโนนไทย นครราชสีมา จัดพิธีจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์บนยอดตาล

เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า เมื่อเวลา 09.59 น. วันที่ (14 ก.พ.2557) นายวิสูตร ชัชวาลวงศ์ นายอำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานขึ้นสู่เวทีการจดทะเบียนสมรส ณ ต้นตาลหน้าที่ว่าการอำเภอโนนไทย เนื่องจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันวาเลนไทน์ และเป็นวันครอบครัว วันแห่งการเ.ฉลิมฉลองแห่งความรัก อำเภอโนนไทยได้จัดทำโครงการจดทะเบียนสมรสบนยอดตาล เพื่อให้ผู้ที่อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาที่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ได้มาจดทะเบียนสมรสในวันแห่งความรักเพื่อเป็นสามีภรรยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้เกิดสิทธิและหน้าที่ของสามีภรรยาโดยชอบ บุตรที่เกิดมาจะเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดา การใช้ชื่อโครงการว่าจดทะเบียนสมรสบนยอดตาลนั้น ก็เนื่องจากว่าอำเภอโนนไทยในอดีตที่ผ่านมา มีต้นตาลเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ได้ถูกทำลายและใกล้จะหมดไปทุกวัน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชาวอำเภอโนนไทยปลูกต้นตาลไว้ให้ลูกหลานใช้ และเป็นการเพิ่มมู่ลค่าตาลโตนด รองรับประชาคมอาเซียนในปี 2558

ในวันนี้จึงได้เลือกวิธีการจดทะเบียนสมรสบนยอดตาลโดยกล่าวกันว่า ต้นตาลนั้นเป็นต้นไม้ที่มีต้นสูง สง่า สวยงาม มีอายุยืนยาวประมาณ 400 ปี ขึ้นไปและมีผลและน้ำตาลของตาลนั้นมีรสหวาน การจดทะเบียนสมรสบนยอดตาลน่าจะเป็นสิริมงคลให้กับคู่สมรส คือจะมีความสูง สง่า สวยงามเหมือนต้นตาล อายุยืนยาวไม่ต่ำกว่า 400 ปี และเป็นที่มีความอ่อนหวาน เหมือนลักษณะของต้นตาล

โดยมีผู้ร่วมการจดทะเบียนสมรสในวันนี้ มีคู่มาขอจดทะเบียนสมรสจำนวน 10 คู่ จาก 10 ตำบล ของอำเภอโนนไทย คู่สมรสอาวุโส อายุมากที่สุดฝ่ายชายอายุ 72 ปี ฝ่ายหญิงอายุ 65 ปี และในพิธีจดทะเบียนสมรสได้รับเกียติจากอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดนครราชสีมา นางทัศนียา รัตนะเศรษฐ พร้อมในกิจกรรมประกอบไปด้วย ขบวนกลองยาวแห่ขันหมากของเจ้าบ่าวออกจากหน้าลานอนุสาวรีย์ท่านท้าวสุรนารีเดินผ่านประตูเงินประตูทองจะมีหญิงแต่งชุดวนิดาจำนวน 30 คน กั้นประตูเงินประตูทองไปศาลาเรือนตาล เจ้าบ่ายรับเจ้าหน้าที่ศาลาเรือนตาลเดินขึ้นเวทีจดทะเบียนสมรสทีละคู่ และมีเจ้าหน้าที่ขึ้นนวดตาลนำน้ำตาลจากยอดต้นตาลส่งให้คู่สมรสและนายทะเบียน และคู่สมรสดื่มน้ำตาลพระจันทร์ (น้ำตาลสด) เป็นสัญลักษณ์แทนการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ และคืนนี้จะมีคอนเสิร์ต/ก๊อต จักรพันธ์ อาบครบุรี มาแสดงให้ชาวอำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา ได้ชมฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย งานนี้มีพิธีจดทะเบียนสมรสวันวาลเนไทน์ที่ยิ่งใหญ่ของอำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา                           



อาฒยา ทองเฟื่อง/รายงาน/สมศักดิ์ ฉายาวรรณ /ภาพ