วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ธนาคารกรุงไทยสาขาศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญย้ายที่ทำการใหม่ ไปยู่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ

นายอุดมศักดิ์  เอี๊ยวชัยพร  ผู้จัดการธนาคารกรุงไทยสำนักงานเขตมุกดาหาร  เปิด เผยว่า ธนาคารกรุงไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของประเทศ ประกอบธุรกิจมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2509 มีนโยบายหลักคือ การเพิ่มศักยภาพเพื่อให้บริการตามความต้องการของลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน โดยดำเนินงานปรับปรุงระบบงาน การพัฒนาพนักงานให้มีคุณภาพ การปรับปรุงสำนักงานสาขา การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่จะขยายเครือข่าย และช่องทางการให้บริการลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการเดินทางมากยิ่งขึ้น

สำหรับ ธนาคารกรุงไทยสาขา หน้าศูนย์ราชการจังหวัดอำนาจเจริญได้ย้ายที่ทำการจากสาขาศาลากลางจังหวัด อำนาจเจริญ ด้วยที่ทำการเดิมมีพื้นที่คับแคบไม่สะดวกต่อการให้บริการลูกค้า โดยได้ย้ายมาอยู่ ณ  ที่ทำการแห่ง ใหม่ บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ และเปลี่ยนชื่อเป็น สาขาหน้าศูนย์ราชการจังหวัดอำนาจเจริญ โดยจะเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 18.00 น.  โดยมี คุณธัญญา  พัฒนธัญญา  เป็นผู้จัดการสาขา มีพนักงานทั้งสิ้น จำนวน 6 คน  และในวันนี้ได้มีพิธีเปิดที่ทำการสาขาหน้าศูนย์ราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  โดยมีนายวีระวัฒน์  ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานในพิธีเปิด เพื่อความเป็นศิริมงคล สำหรับสาขาแห่งนี้จะให้บริการรับฝากถอนเงิน , บริการสินเชื่อ , เปิดบัญชีใหม่ , ทำบัตร ATM และแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ    จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนไปใช้บริการธนาคารกรุงไทย สาขาหน้าศูนย์ราชการจังหวัดอำนาจเจริญได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป    

จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างโรงเรียนส่วนภูมิภาค และการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ประจำปี 2556

กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้จังหวัดอำนาจเจริญ ดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างโรงเรียนส่วนภูมิภาค ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 19 30 สิงหาคม 2556 และให้เป็นเจ้าภาพดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ประจำปี 2556 รอบคัดเลือกนักกีฬาตัวแทนเขต 3 ภาคอีสานตอนล่าง ระหว่างวันที่ 16 24 พฤศจิกายน 2556  ณ  จังหวัดอำนาจเจริญ โดยจะมีนักกีฬา  ผู้ ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ของจังหวัดต่างๆ ภายในเขต 3 จำนวน 10 จังหวัดเข้าร่วมทำการแข่งขันกว่า 4,000 คน ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา  อุบลราชธานี  มุกดาหาร  ร้อยเอ็ด  บุรีรัมย์  ชัยภูมิ  สุรินทร์      ศรีสะเกษ  ยโสธร และจังหวัดอำนาจเจริญ

นายวิฑูรย์  ศิริบูลย์ภักดี  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า เพื่อให้การจัดการแข่งขันกีฬา ระหว่างโรงเรียนส่วนภูมิภาค และจัดการแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ประจำปี 2556 รอบคัดเลือกนักกีฬาตัวแทนเขต 3 ภาคอีสานตอนล่าง ประจำปี 2556 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และบรรลุตามวัตถุประสงค์ จังหวัดอำนาจเจริญจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดการแข่งขัน และจัดประชุมเพื่อเตรียมความพร้อม ณ  ห้องประชุมฝ้ายขิดคำพระ  ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ โดยที่ประชุมมีมติให้ใช้ชื่อเกมส์การแข่งขัน "อำนาจเจริญเกมส์




จรูญ  พิตะพันธ์ / ข่าว

คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ หรือ ค.ต.ป. กลุ่มจังหวัด คณะที่ 5 จัดสัมมนา “การกำกับดูแลและการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการไปสู่การปฏิบัติ”

วันนี้ (10 มิ.ย. 56) นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธาน เปิดการสัมมนา "การกำกับดูแลและการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการควบคุมภายในและการบริหารความ เสี่ยงของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการไปสู่การปฏิบัติ” ณ โรงแรมลายทองจังหวัดอุบลราชธานี

คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ หรือ ค.ต.ป. กลุ่มจังหวัด คณะที่ 5 จัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของการควบคุมภายในและการ บริหารความเสี่ยง ให้ความรู้แก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติราชการระดับเจ้าหน้าที่ของ จังหวัด โดยมุ่งเน้นการนำความรู้ในเชิงวิชาการไปประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติงานได้ อย่างบรรลุผลสัมฤทธิ์ในหัวข้อเรื่อง "การกำกับดูแลและการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการควบคุมภายในและการบริหารความ เสี่ยงของผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการไปสู่การปฏิบัติ” ให้แก่ผู้กำกับดูแลและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการควบคุมภายในและบริหาร ความเสี่ยง ในพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อ.ค.ต.ป. กลุ่มจังหวัด คณะที่ 5 จำนวน 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกี่ยวกับการกำหนดแนวทางวิธีการ การตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการได้ปรับปรุงแนวทางการสอบทานและการประเมินผล ด้านการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลคณะต่าง ๆ สามารถตรวจสอบ ได้อย่างถูกต้องและมีรูปแบบการรายงานที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน และสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานด้านการควบคุมภายในตามที่สำนักงานการตรวจ เงินแผ่นดินกำหนด โดยจัดการสัมมนาครั้งที่ 2 ในวันนี้มีจังหวัดในกลุ่มจังหวัด คณะที่ 5 ให้กับหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้ปฏิบัติงาน ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ นคราชสีมา บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร อุบลราชธานี และมุกดาหาร โดยมีการบรรยายให้ความรู้ "หลักการบริหารราชการอย่างมีประสิทธิภาพและได้ผล กรณี การควบคุมภายและการบริหารความเสี่ยง” จากนั้นจะเป็นการบรรยายและการจัดทำ Workshop ในเรื่อง "แนวทางและวิธีการดำเนินการด้านการควบคุมภายในและการบริหาราความเสี่ยง”
 


จักรกฤษณ์ มาลาสาย /ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

สำนักงานส่งเสริม และพัฒนาการเกษตรเขต3 จังหวัดระยอง ลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการปฏิบัติงานของ สำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้ว เพื่อคัดเลือกบุคคลและหน่วยงานดีเด่น ประจำปี 2556

วันนี้ (10 มิถุนายน 2556 ) เวลา 11.00 น. ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้ว นายชูศักดิ์ ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานในการต้อนรับคณะกรรมการจากสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขต 3 จังหวัดระยอง นำโดยนายมนตรี กล้าขาย ผู้อำนวยการกลุ่มวิชาการและฝึกอบรม ,นายวิทยา พลเยี่ยม ผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ และคณะผู้ติดตาม ซึ่งเดินทางมาตรวจประเมินการปฏิบัติงานของสำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้ว โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้ว เป็น 1 ใน 3 จังหวัด ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินในรอบที่ 2


นายมนตรี กล้าขาย ผู้อำนวยการกลุ่มวิชาการและฝึกอบรม กล่าวว่า การ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานของสำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้วในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริม สนับสนุนให้บุคลากร และหน่วยงานที่สร้างผลงานดีเด่น และเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร องค์กรของเกษตรกร สังคมและชุมชน ได้รับการยกย่อง เผยแผ่เกียรติคุณ และเกิดความภาคภูมิใจในการร่วมแรงร่วมใจ และสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานจนได้รับรางวัลดีเด่น อีกทั้งเพื่อเป็นการกระตุ้นให้บุคลากร และหน่วยงานในสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตรเกิดการพัฒนาและแข่งขันการปฏิบัติงานตามแบบอย่างที่ดี อันจะนำไปสู่การพัฒนาองค์กรที่ยั่งยืนสืบไป สำหรับการประเมินในครั้งนี้ มีนายสมจิตร ธีระบุญชัยกุล เกษตรจังหวัดสระแก้ว เป็นผู้นำข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัดของสำนักงานเกษตรจังหวัดสระแก้ว เข้ารับการประเมินเพื่อคัดเลือกบุคคลและหน่วยงานดีเด่น ประจำปี 2556

สระแก้วจัดประชุมหารือจัดกิจกกรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด ประจำปี 2556

ที่ ห้องประชุมสระแก้ว  ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ชั้น 3 นายชูศักดิ์  ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดการประชุมการจัดกิจกรรมเนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด ตามโครงการสระแก้วหัวใจสีขาว ร่วมต้านยาเสพติด ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดซึ่งประเทศไทยได้ยึดถือปฏิบัติและยืนยันเจตนารมณ์ อย่างแน่วแน่ที่จะร่วมกับประชาคมโลกในการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดและทางรัฐบาล ก็ได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยมียุทธศาสตร์ "พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” เป็นยุทศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลด้วยการ ระดมกำลังของทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเป็นพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด รวมถึงการรณรงค์และจัดกิจกรรมให้สอดรับกับแผนและยุทธศาสตร์การดำเนินงานการ แก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล


นายชูศักดิ์  ตรีสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า  ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดสระแก้วจึงได้จัดทำโครงการ สระแก้วหัวใจสีขาวร่วมต้านยาเสพติด ขึ้นโดยได้จีดกิจกรรมโครงการสัปดาห์รณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยจัดให้มีกิจกรรมดังนี้ กิจกรรมกองทุนแม่ของแผ่นดิน โดย สำนักงานพัฒนาชุมชนและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้ว  การรณรงค์และการแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONEโดยสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว  การรณรงค์และการแก้ไขปัญหายาเสพติดของเยาวชนในสถานศึกษาและการรณรงค์และการแก้ไขปัญหายาเสพติด นอกสถานศึกษา โดยสังกัดกระทรวงสาธารณสุข  สำนักงานสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดสระแก้ว ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระแก้วและกิจกรรมคนสระแก้วหัวใจสีขาว ร่วมต้านยาเสพติด โดยศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดสระแก้วโดยกิจกรรมดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 26 มิถุนายน 2556 ณ ห้องประชุมปางสีดา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว จึงขอเชิญร่วมกิจกรรมตามวันและเวลาดังกล่าว

ประกาศสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว เรื่อง ผลการคัดเลือกผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตประจำจังหวัดสระแก้ว

นายปรีดา บุญฉิม เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริตเชี่ยวชาญ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการ

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ได้มีประกาศสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว

เรื่อง ผลการคัดเลือกผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตประจำจังหวัดสระแก้ว

ตามที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว ได้ดำเนินการจัดให้มีการเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรให้เหลือประเภทละหนึ่งคนเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด เมื่อวันที่ 28 – 30 พฤษภาคม 2556 นั้น

เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติว่าด้วย

กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๒๓ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด จึงประกาศผลการคัดเลือกผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสระแก้ว ดังนี้

๑. สมาคมหรือชมรมครู อาจารย์ หรือสมาคมทางด้านการศึกษา ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหา ได้แก่ นายวินัย รื่นกลิ่น

๒. สภาทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหา  ได้แก่ นายกริชรัตน์ เฮงเจริญ

๓. สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือสภาแรงงาน หรือสหภาพแรงงาน ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหา ได้แก่ นายโกสินธุ์ มังคละคีรี

๔. สภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัดหรือชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัด            ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหา ได้แก่ นางสาวนนัญญ์อร นราเศรษฐวัฒน์

๕. กลุ่มอาสาสมัคร  ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหา ได้แก่ นายพัฒนา พรมเผ่า

๖. องค์กรเอกชน  ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหา ได้แก่ นายสมชาย แก้วสุทธิ

๗. องค์กรเกษตรกร  ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหา ได้แก่ นายนิธิโชติ นวมมณีรัตน์

๘. สมาคมหรือชมรมสื่อมวลชน ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหา ได้แก่ นายสมศักดิ์ สารการ

๙. หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นกรรมการสรรหา ได้แก่  นางสาวอรนุช ไวนุสิทธิ์

ทั้งนี้ ผู้มีส่วนได้เสียผู้ใดประสงค์จะโต้แย้งหรือคัดค้านการคัดเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดสระแก้ว สามารถยื่นคำร้องด้วยตนเองตามแบบ ป.ป.จ. 18 ต่อผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว ภายใน             เจ็ดวันนับแต่วันที่ 4 - 10 มิถุนายน ๒๕๕๖ เวลา 08.30 น. – 16.30 น.
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสระแก้ว
เบอร์โทรศัพท์ 037 – 425353 – 5


จังหวัดนครราชสีมาทำพิธีปลุกเสกเหรียญย่าโม 1 แสนเหรียญมอบให้ผู้ร่วมเดิน-วิ่งโอลิมปิกเดย์ 2013 พร้อมตรวจสอบเส้นทางเดิน-วิ่ง ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร

เช้าวันนี้ (10 มิ.ย. 2556) เวลา 08.00 น. ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยพลเอกยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, พลตรีจารึก อารีราชการัณย์ เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย, ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมากว่า 500 คน ได้ร่วมกันจัดพิธีพุทธาภิเษกเหรียญท้าวสุรนารี หรือเหรียญย่าโม จำนวน 1 แสนเหรียญ ที่เตรียมไว้มอบเป็นที่ระลึกให้กับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมเดิน-วิ่ง โอลิมปิกเดย์ 2013 ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน 2556 ที่จังหวัดนครราชสีมา ในโอกาสที่เมืองโคราชมีอายุครบ 357 ปี พร้อมกันนี้คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ยังได้เดินทางไปสำรวจความพร้อมของเส้นทางการเดิน-วิ่ง โอลิมปิกเดย์ 2013 ด้วย ซึ่งพบว่าการเตรียมการทุกอย่างเรียบร้อยเป็นอย่างดี สำหรับพิธีปลุกเสกเหรียญที่จะมอบเป็นที่ระลึกแก่ประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรม ในครั้งนี้ คณะกรรมการจัดงานฯ ได้เตรียมเหรียญท้าวสุรนารีไว้จำนวน 1 แสนเหรียญ ซึ่งเหรียญดังกล่าวจะมีสัญลักษณ์โอลิมปิก และรูปเหมือนท้าวสุรนารีประดับไว้บนเหรียญ และคาดว่าในวันดังกล่าวจะมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมมากถึง 1 แสนคน ซึ่งคณะกรรมการจัดงานฯ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดูแลเรื่องรักษาความปลอดภัยอย่างเข้ม งวดด้วยโดยกิจกรรมในวันดังกล่าวแบ่งเป็น การเดินระยะทาง 3 กิโลเมตร และการวิ่งระยะทาง 10.5กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางเริ่มต้นจากอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ผ่านไปตามถนนสายต่างๆ ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา และกลับมาเข้าเส้นชัยที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

รายงานพิเศษ..โรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองมหาสารคาม..ค่ายบำบัดเยาวชนห่างไกลยาเสพติด

เยาวชนในจังหวัดมหาสารคาม ที่หลงผิดเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถูกนำมาเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ในรูปแบบค่ายของโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง หวังปรับทัศนคติ พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ห่างไกลจากยาเสพติด โดยไม่หวนกลับไปเสพซ้ำ ติดตามได้จากรายงาน...

ตลอดระยะเวลา 15 วัน ของโครงการปรับทัศนคติและพัฒนาคุณภาพชีวิต โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง โดยฝ่ายปกครอง จังหวัดมหาสารคาม ที่ได้นำเยาวชนกลุ่มเสี่ยงที่หลงผิดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จำนวน 60 คน มาเข้ารับการบำบัดรักษาในระบบสมัครใจบำบัด โดยผ่านกระบวนการค่ายบำบัดหลักสูตรโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองและหลักสูตร Fast Model อย่างย่อของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ เพื่อมุ่งหวังที่จะฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย จิตใจให้เยาวชนได้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม กลับเป็นคนดีที่มีคุณภาพของสังคม โดยไม่หวนกลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก

ตรี ตัวแทนเยาวชนกลุ่มเสี่ยง ที่มาเข้าค่ายโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่เสพยาบ้าเพราะการชักชวนจากเพื่อน การมาเข้าค่ายบำบัดรักษาครั้งนี้ เพราะสงสารครอบครัว ต้องการจะเลิกโดยเด็ดขาด หลังผ่านจากค่ายนี้ไปอยากประกอบอาชีพที่ถนัดคือการทำเฟอร์นิเจอร์ และสัญญาว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก

ขณะที่ ชาย อายุ 18 ปี เริ่มเสพยาเสพติด ตั้งแต่เรียนชั้นมัธยมปลาย ยอมรับว่าเสียใจที่หลงผิด สงสารแม่ ไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้ ก็เลยมาเข้ารับการบำบัดในค่ายของโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองแห่งนี้ เมื่อออกจากค่ายนี้แล้ว จะออกไปทำงานหาเงินเลี้ยงแม่

ด้านนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืนปี พ.ศ. 2556 ได้เน้นในเรื่องของการบำบัดรักษา ซึ่งจังหวัดมหาสารคาม ได้ดำเนินการแล้วกว่าร้อยละ 70 เชื่อมั่นว่าเยาวชนที่เข้ารับการบำบัดในหลักสูตร 15 วันของโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง นี้ จะสามารถกลับไปเป็นคนดีที่มีคุณภาพของสังคมได้

ค่ายโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองจังหวัดมหาสารคาม จึงเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบำบัดฟื้นฟู พร้อมทั้งฝึกอบรมด้านอาชีพตามความถนัด เพื่อให้พวกเขาได้มีความรู้ สามารถนำไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ช่วยเหลือตนเองและครอบครัว…
 




สิงหา โพธิแท่น ถ่ายภาพ
ชนกพร โพธิสาร สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดมหาสารคาม/รายงาน

รองผู้ว่าฯสารคามนำคณะกรรมการลงพื้นที่คัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงชนะเลิศระดับจังหวัดของจังหวัดมหาสารคาม

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามนำคณะ กรรมการระดับจังหวัดลงพื้นที่พิจารณาคัสรรหาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงชนะเลิศ ระดับจังหวัดเข้ารับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ที่ศาลากลางบ้าน บ้านแก่นเท่า ตำบลโนนราศี อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม

นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ได้นำคณะกรรมการคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงอยู่เย็น เป็นสุข ประจำปี 2556 ของจังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่พิจารณาคัดสรรหาผู้ชนะเลิศหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข ของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โดยผู้แทนนายอำเภอบรบือ หัวหน้าส่วนราชการ กรรมการหมู่บ้าน และราษฎรบ้านแก่นเท่า ให้การต้อนรับ บรรยายสรุปผลการดำเนินงานตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของหมู่บ้าน พร้อมนำเยี่ยมชมกิจกรรมของหมู่บ้าน


สำหรับหมู่บ้านแก่นเท่า หมู่ที่ 11 ตำบลโนนราศี อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เป็น 1 ใน 4 หมู่บ้านที่ผ่านการคัดเลือกในรอบที่ 1 จากทั้งหมด 13 อำเภอ ของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อคัดเลือกให้เหลือ 1 หมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข ชนะเลิศ ของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อเข้ารับรางวัลโล่พระราชทาน โดยหมู่บ้านแก่นเท่า มีประชากร 124 ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา และได้นำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ โดยการเลี้ยงโคนม , ทอเสื่อกก , ทำปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ดออกจำหน่าย และใช้เองในกลุ่มสมาชิก ปลูกพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ นอกจากนี้ยังเป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด มีการบูรณาการการทำงานร่วมกันของทั้งประชาชน , วัด , โรงเรียน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเป็นหมู่บ้านปลอดหนี้นอกระบบ ประชาชนมีการตั้งกลุ่มออมทรัพย์ ตั้งกองทุนหมู่บ้าน กองทุนแม่ของแผ่นดิน จนได้รับคัดเลือกจากอำเภอให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว ศิรินทรา แก้วบุญเรือง/พิมพ์

บ้านดงน้อย หมู่ 4 ต.พระธาตุ อำเภอนาดูน ได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข ชนะเลิศ ปี 56 ของ จ.มหาสารคาม

ชาวบ้านดงน้อย หมู่ 4 ตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาใช้ปลูกพืช ผัก สวนครัว เพาะเห็ด เลี้ยงกบ มีรายได้ มีเงินเก็บทุกครัวเรือน จนได้รับคัดเลือกให้เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข ชนะเลิศ ของจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2556

บ้านดงน้อย หมู่ 4 ตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กมีประชากร เพียง 68 ครัวเรือน ประชากรส่วนใหญ่มีอาชีพหลักในการทำนา แต่ด้วยความที่ชาวบ้านดงน้อยมีความเพียร มีผู้นำชุมชนที่ห่วงใยในความเป็นอยู่ของราษฎร และโดยเฉพาะที่ชาวบ้านดงน้อยทั้ง 68 ครัวเรือน ได้พร้อมใจกัน นำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มาใช้ในการดำรงชีวิตของตนเองและครอบครัว นอกจากชาวบ้านดงน้อยจะประกอบอาชีพทำนาแล้ว ยังได้พร้อมใจกันลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ด้วยการทำอาชีพเสริม ปลูกพืชผักสวนครัว รั้วกินได้ โดยยึดเอาหลักที่ว่าปลูกทุกอย่างที่กินได้ และกินทุกอย่างที่ปลูก นอกจากนี้ยังตั้งกลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มเลี้ยงกบ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่พันธุ์พื้นเมือง กลุ่มทอผ้าไหม กลุ่มเพาะเห็ด กลุ่มเยาวชน มีการจัดทำบัญชีครัวเรือน จัดตั้งธนาคารข้าว มีกองทุนหมู่บ้านที่ทุกคนยึดหลักความซื่อสัตย์ สุจริต มีวินัย ในการใช้เงินจนกองทุนหมู่บ้าน 1 ล้านบาทไม่มีหนี้เสีย มีเงินปันผลให้สมาชิกทุกปี ทำให้หมู่บ้านดงน้อย หมู่ 4 ตำบลพระธาตุ อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม ได้รับพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดสรรหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข ของจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2556 ซึ่งมี


นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคามเป็นประธานกรรมการ และมีคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆตัดสิน ให้หมู่บ้านดงน้อยเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข ชนะเลิศของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อเข้ารับโล่พระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า หมู่บ้านดงน้อย ยังเป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด ปลอดการพนัน ชาวบ้านมีการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วยการปลูกป่าชุมชน ให้มีความร่มรื่น เพิ่มพื้นที่ป่าและยังเป็นแหล่งอาหารทางธรรมชาติของคนในหมู่บ้านด้วย และผลกำไรของกองทุนและกลุ่มต่างๆ ในหมู่บ้านจะมีการจัดสรรกำไร 5 เปอร์เซ็นต์ เข้าเป็นกองทุนเพื่อนำไปพัฒนาหมู่บ้าน นอกจากนี้ ชาวบ้านดงน้อย ยังเป็นอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ปฏิเสธเงินกองทุนหมู่บ้านล้านที่ 2 จากรัฐบาล เพื่อไม่ให้ชาวบ้านต้องมีภาระหนี้สิน คณะกรรมการคัดสรร มีมติเป็นเอกฉันท์คัดเลือกหมู่บ้านดงน้อย หมู่ที่ 4 เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข ชนะเลิศประจำปี 2556 ของจังหวัดมหาสารคาม



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว ศิรินทรา แก้วบุญเรือง/พิมพ์

กมธ.การกีฬา วุฒิสภา ติดตามแผนฯพัฒนากีฬาจังหวัดมหาสารคาม ผลักดันสู่เมืองแห่งการกีฬาภาคอีสาน

ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา ติดตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากีฬาจังหวัดมหาสารคาม ระยะ 5 ปี หวังผลักดันให้เป็นจังหวัดนำร่อง เพื่อก้าวสู่เมืองแห่งการกีฬาภาคอีสาน

นายจรัล จึงยิ่งเรืองรุ่ง ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา พร้อมคณะ ได้เดินทางมาที่จังหวัดมหาสารคาม เพื่อติดตามความก้าวหน้าและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการหาแนวทางที่จะ ผลักดันแผนยุทธศาสตร์พัฒนากีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 5 ไปสู่ระดับภูมิภาค ของจังหวัดมหาสารคาม โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยคณะกรรมการกีฬาจังหวัดมหาสารคาม ร่วมให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬา วุฒิสภา กล่าวว่า ได้เล็งเห็นศักยภาพของจังหวัดมหาสารคาม ที่มีความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน ทั้งความพร้อมของบุคลากรที่มีความชำนาญทางการกีฬาในสถาบันการศึกษา การมีศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ มีสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนและผลิตบุคลากรด้านพลศึกษา กีฬาและนันทนาการ ตลอดจนสถานที่รองรับการจัดแข่งขันกีฬาในระดับชาติที่ผ่านมา จึงมีแนวทางที่จะผลักดันให้เป็นจังหวัดนำร่องในการนำแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติลง สู่แผนพัฒนาจังหวัด

สำหรับร่างยุทธศาสตร์การกีฬาจังหวัดมหาสารคามระยะ 5 ปี (2555-2559) ได้กำหนดเป็นวิสัยทัศน์ว่า "จังหวัดมหาสารคามจะเป็นจังหวัดศูนย์กลางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มุ่งส่ง เสริมสนับสนุนความเป็นเลิศทางด้านการกีฬาและการออกกำลังกายให้เป็นวิถีชีวิต เพื่อพัฒนาคนในสังคมอย่างมีคุณภาพ พร้อมสู่ระดับนานาชาติ” โดยกำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ไว้ 6 ประเด็น คือ พัฒนาการออกกำลังกายและการกีฬาขั้นพื้นฐาน พัฒนาการออกกำลังกายและการเล่นกีฬาเพื่อมวลชน พัฒนากีฬาเพื่อความเป็นเลิศ พัฒนาการกีฬาเพื่อการอาชีพ แผนพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา และ แผนพัฒนาการบริหารการกีฬาและการออกกำลังกาย
 



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารประกาศเตือนภัย “ฝนตกหนักและคลื่นลมแรง”

นายบุญช่วย น้อยสันเทียะ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า ด้วยมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาค ตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง สำหรับบริเวณรับลมมรสุมด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ ๑๑ – ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงทำให้ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกหนาแน่น และมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังแรงโดยมีคลื่นสูง ๒ – ๓ เมตร ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ และชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย


 

สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

กรมการขนส่งทางบกเปิดรับคำขอรับจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ

กรมการขนส่งทางบก ได้กำหนดให้มีการเปิดรับคำขอรับจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ อันเนื่องมาจากการประสบภัยที่เกิดจากการใช้รถใช้ถนน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2556 ในส่วนที่นอกเหนือจากค่าสินไหมทดแทนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัย จากรถ พ.ศ.2535 ในระหว่างวันที่ 3-14 มิถุนายน 2556

ผู้พิการที่สนใจจะขอรับจัดสรรเงินเป็นค่าอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้พิการ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สำนักงานกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้ รถใช้ถนน กรมการขนส่ง ทางบก โทรศัพท์หมายเลข 02-2718705-8 หรือ 02-2718888 ต่อ 2515 หรือ 1584


 


ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 10 มิถุนายน 2556

ร้องเรียน สคบ. ต้องพิจารณา...ดีกว่าเสียเวลาและเสียสิทธิ

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ดำเนินงานตามนดยบายและยุทธศาสตร์ที่สำคัญ โดยกำหนดให้การคุ้มครองผู้บริโภคเป็นภารกิจหลักและดำเนินการคุ้มครองสิทธิ ของผู้บริโภคตามวิสัยทัศน์ที่ว่า "เป็นองค์กรกลางในการคุ้มครองผู้บริโภคของชาติในระดับสากล” เพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับความปลอดภัยและเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและ บริการ รวมถึงยังสนับสนุนให้ประชาชนผู้บริโภคและเห็นความสำคัญในสิทธิผู้บริโภค ซึ่งหากผู้บริโภคเอารัดเอาเปรียบหรือได้รับความไม่เป็นธรรมจากผู้ประกอบการ สามารถใช้สิทธิของตนเองร้องเรียนเพื่อขอรับความเป็นธรรม แต่เรื่องที่จะร้องเรียนนั้น สคบ. ขอทำความเข้าใจกับผู้บริโภคก่อนว่าจะต้องไม่เข้าข่ายลักษณะดังต่อไปนี้

1. เรื่องร้องเรียนที่ผู้บริโภคได้ไปใช้สิทธิดำเนินคดีทางศาลด้วยตนเองแล้ว

2. เรื่องที่มีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาลหรือเรื่องที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเสร็จเด็ดขาด

3. เรื่องที่ประชาชนได้ใช้สิทธิทางศาลด้วยตนเอง แต่จะให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือคณะกรรมการคุ้มครองผู้ บริโภคดำเนินการบังคับคดีตามพิพากษาให้

4. เรื่องที่อยู่ในกระบวนการล้มละลายหรือการฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายว่าด้วยล้มละลาย

5. เรื่องที่อายุความในการดำเนินคดีสิ้นสุดแล้ว

6. เรื่องร้องเรียนที่ผู้บริโภคได้ยื่นไว้ไม่มีความชัดเจน ไม่สามารถทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระที่ร้องเรียน ไม่มีการลงลายมือชื่อของผู้ร้องเรียน ไม่ปรากฏเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ประกอบการเรื่องร้องเรียน หรือไม่มีการติดหรือชำระค่าอากรแสตมป์ให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด

7. เรื่องร้องทุกข์ที่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ร้องเรียนไม่ใช่ผู้บริโภค ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคฯ

8. เรื่องร้องทุกข์หรือร้องเรียนที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้มี หนังสือแจ้งให้ผู้ร้องเรียนมาพบหรือชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติม แต่ผู้ร้องเรียนไม่มาพบ ไม่ส่งเอกสารหรือให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ดังนั้น ก่อนที่จะร้องเรียนทุกครั้ง โปรดแน่ใจว่าเรื่องของท่านไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขเหล่านี้ เพื่อที่ท่านจะได้ไม่เสียเวลาโดยใช่เหตุ ซึ่งท่านสามารถใช้สิทธิผู้บริโภคของตนร้องเรียนได้หลายช่องทาง ดังนี้

- ระบบร้องเรียน online ผ่าน http://www.ocpb.go.th/

- ทางไปรษณีย์ ด้วยจดหมาย หรือแบบฟอร์มการร้องเรียน (รับได้ที่ 7-11 ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ร้านจิฟฟี่ ในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และศูนย์การค้า แฟชั่นไอส์แลนด์)

- ด้วยตัวเอง ที่ สคบ.ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ชั้น 5 อาคาร B ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

- หรือปรึกษาได้ที่ สายด่วน สคบ.1166 ต่างจังหวัดร้องเรียนได้ที่ ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ เทศบาล อบต. และศูนย์ กศน.ตำบล



 

ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 10 มิถุนายน 2556

การค้าภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ขายไข่ไก่ธงฟ้าทุกวันศุกร์

นายจีระศักดิ์ ศรีเพชร นักวิชาการพาณิชย์ชำนาญการ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่า สำนักงานการค้าภายในจังหวัดกาฬสินธุ์จัดจำหน่ายไข่ไก่ธงฟ้า เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนผู้บริโภคจากภาวะราคาไข่ไก่ในท้อง ตลาดที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจัดจำหน่ายไข่ไก่ เบอร์ 3 ในราคาแผงละ 100 บาท ทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ในเดือนมิถุนายน 2556 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณด้านหน้าแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ตของห้างกาฬสินธุ์พลาซ่า สาขา 2 อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
 
 


สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว

เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์พ่นยา และแจกทรายอะเบท เพื่อกำจัดยุงลายป้องกันโรคไข้เลือดออก

เจ้าหน้าที่สำนักการสาธารณ สุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้ออกพ่นยากำจัดยุงลายตามบริเวณบ้านเรือนประชาชน และเติมทรายอะเบทตามแหล่งน้ำ โอ่งน้ำ บ่อน้ำ เพื่อกำจัดยุงลาย ที่เป็นพาหะการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2556 เจ้าหน้าที่จากสำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ได้ดำเนินการออกพ่นยากำจัดยุงลายบริเวณบ้านเรือน ประชาชน โรงเรียน ในเขตพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ ภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ โดยจะพ่นยาอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุม ทั้ง 36 ชุมชน พร้อมเติมทรายอะเบท ตามแหล่งน้ำ โอ่งน้ำ ท่อระบายน้ำ บริเวณป่าไม้รก ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลายที่เป็นพาหะการแพร่ระบาดของโรคไข้ เลือดออก เพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออกที่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูฝน

ซึ่งจากการสำรวจของเจ้าหน้าที่สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ พบว่าในหลายพื้นที่มียุงชุกชุมโดยเฉพาะบริเวณบ้านที่อยู่ใกล้ป่ารกและบริเวณ ท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย และจากสภาพอากาศที่เข้าสู่ฤดูฝนที่เอื้อต่อการระบาดของโรคไข้เลือดออก ที่มักจะเกิดกับเด็กอายุ 2-15 ปี อาการของโรคไข้เลือดออก คือ ตัวร้อน ซึม เบื่ออาหาร ปวดท้อง พบจุดเลือดตามแขนขาและอวัยวะภายใน ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ สำหรับในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 เป็นต้นมา ได้รับแจ้งและยืนยันมาทั้งหมด 4 ราย แต่ในรายที่หมอสงสัยทางเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ก็ได้พ่นยา กำจัดแหล่งน้ำขังต่าง ๆ แจกทรายอะเบทเพื่อกำจัดลูกน้ำยุงลายให้แก่ประชาชนในทั้ง 36 ชุมชน ซึ่งหากประชาชนต้องการก็ติดต่อขอรับได้ที่สำนักการสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้ในวัน เวลา ราชการ
 



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ชาวชัยภูมิลุกขึ้นต่อต้านขบวนการสร้างบ้านหวังเงินชดเชย หนุนรัฐบาลเร่งสร้างอ่างเก็บน้ำ

ชาวชัยภูมิแสดงพลังต้านขบวนการสร้างบ้านหวังเงินชดเชย พร้อมให้กำลังใจผู้ว่าฯ เดินหหน้าสร้างอ่างเก็บน้ำ ช่วยภัยแล้ง น้ำท่วมให้กับชาวบ้านให้แล้วเสร็จ หลังรอความหวังมานานกว่า 20 ปี

เมื่อเวลา 13.00น. วันที่ 10 มิถุนายน 2556 ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ลำเชียงทา และชาวบ้านดั้งเดิม ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร บ้านห้วยหินฝน บ้านทับนาย อำเภอหนองบัวระเหว และบ้านบุ่งเวียน อ.เทพสถิต นำโดย นายสาคร สีใส พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน ที่ได้รับผลประโยชน์จากโครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุง อ.หนองบัวแดง นำโดยนายนิคม อบมาลี นายก อบต.หนองแวง และ ตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร นำโดยนายธรรมเนียม เบ้าลี นายก อบต.หนองบัวบาน อ.จัตุรัส ประมาณ 50 คน ได้เดินทางไปที่ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ พร้อมมอบช่อดอกไม้เพื่อให้กำลังใจนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ หลังพบการสร้างบ้านลักษณะชั่วคราว พร้อมออกบ้านเลขที่จำนวนมาก กว่า 600 หลัง ในบริเวณพื้นที่ จะมีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ซึ่ง ครม.สัญจรที่ จ.สุรินทร์ เห็นชอบให้ กบอ. ดำเนินการสร้างแหล่งกักเก็บน้ำ 3 แห่ง ที่ชัยภูมิ พื้นที่ต้นแม่น้ำชี ประกอบด้วยอ่างเก็บน้ำน้ำโปร่งขุนเพชร อ่างเก็บน้ำยางนาดี และอ่างเก็บน้ำลำสะพุง เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม และภัยแล้ง ให้กับประชาชนชาวชัยภูมิ และอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน
 
นายสาคร สีใส ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ลำเชียงทา กล่าวว่า ทางกลุ่มเป็นชาวบ้านดั้งเดิม ปู่ย่า ตายาย เป็นชาวบน ร็ว่ามีคนมาสร้างบ้านชั่วคราวจำนวนมาก ก็ตกใจ ไม่นึกว่าจะมากขนาดนี้ ความจริงทางกลุ่มไม่มีเจตนาคัดค้านสร้างอ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร กั้นลำเชียงทา ปี2536 กรมชลประทานจ่ายเงินชดเชยให้ทางกลุ่มแล้ว แต่เห็นวาขั้นตอนยังไม่ครบถ้วน จึงไปร่วมกับกลุ่มสมัชชาคนจน เรียกร้องให้ชะลอโครงการเอาไว้ก่อน เพื่อศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและด้านสังคมก่อน การศึกษาแล้วเสร็จปี 2553 โดย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จากนั้น 20 ก.ค.2555 ทางกลุ่ม ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นกรัฐมนรตี ในคราวประชุม ครม.สัญจร ที่ สุรินทร์ เพื่อขอความเป็นธรรมในการจ่ายค่าชดเชย และให้ดำเนินการก่อสร้างให้แล้วเสร็จ โดยไม่ได้ขัดขวาง วันนี้ได้เข้ามาให้กำลังใจผู้ว่าฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ขอให้ดำเนินโครงการต่อไป

ด้านนายธรรมเนียม เบ้าลี นายก อบต.หนองบัวบาน อ.จัตุรัส กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาชัยภูมิประสบภัยแล้ง ลำพังบึงละหานแห่งเดียวเอไม่อยู่ หากมีเขื่อโปร่งขุนเพชรมาช่วย เก็กกักน้ำ แล้วส่งมาเลี้ยงบึงละหาน ลงสู่แม่น้ำชี ก็จะเกิดประโยชน์อย่างมาก ส่วนที่มีการสร้างบ้านผี จากการเข้าไปดูแล้ว เป็นคนจากที่อื่นเข้ามาทำ จึงขอฝากรัฐบาลช่วยดูแล และให้เร่งสร้างอ่างเก็บน้ำเพราะรอมานานหลายสิบปีแล้ว

เช่นเดียวกับนายนิคม อบมาลี นายก อบต.หนองแวง อ.หนองบัวแดง ซึ่งอยู่ในเขตก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำสะพุง หลังร็ข่าวเกิดบ้านผี ได้รวมกลุ่มกัน หากมีคนมาสร้างในพื้นที่ ทางกลุ่มเป็นคนแจ้งจับเอง จะจัดการปัญหานี้ด้วยตัวของเราเอง โยไม่ให้เกิดความเสียหายต่อจังหวัด มั่นใจว่า หนองบัวแดงไม่มีบ้านผี 100 เปอร์เซ็นต์

ด้านนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้กล่าวยืนยันว่า เรื่องบ้านและการออกเลขที่บ้าน ไม่โปร่งใส จะใช้มาตรการทางกฎหมาย เริ่มจากเบา ไปหาหนัก เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ จนถึงขณะนี้คิดว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ สามารถแยกกลุ่มคนต่างถิ่น และกลุ่มชาวบบ้านดั้งเดิม ออกจากกันได้ ส่วนการออกบ้านเลขที่บ้านก็กำลังเข้าสู่กระบวนการเพิกถอนต่อไป ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนด้วยว่า ขณะนี้ได้มีกลุ่มบุคคล แพร่ข้อมูลข่าวสารเท็จ ว่าทางการเข้ารื้อถอนบ้าน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆของราษฎรที่อยู่ในพื้นที่อ่างสร้างอ่างเก็บน้ำโปร่ง ขุนเพชรและยางนาดี ซึ่งข่าวนี้ไม่เป็นความจริง ทางราชการไม่มีมาตรการ หรือแนวทางอย่างนั้น หากมีบุคคล หรือกลุ่มคน เข้าไปให้ข้อมูลดังกล่าว ขออย่างได้หลงเชื่อ หากสงสัยสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ หมายเลข 0-44821-433



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว