วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เรือนจำกลางสุรินทร์นำผู้ต้องขังทำนาเกษตรอินทรีย์ เนื้อที่กว่า 100 ไร่ โดยการน้อมนำแนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาต่อยอดและขยายผล

นายวิชัย  โชติปฎิเวช ผู้บัญชาเรือนจำกลางจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า เรือนจำกลางสุรินทร์  ได้นำผู้ต้องขังชั้นดีที่เคยเป็นเกษตรกร จำนวน 50 คน ออกมาทำนาปลูกข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่ ที่มีคุณภาพสูง ไม่ใช้สารเคมี ในพื้นที่เรือนจำชั่วคราวโคกตะบัน และพื้นที่บ้านไทย หมู่ที่ 3 ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ในพื้นที่กว่า 100 ไร่ เพื่อเป็นแหล่งบริการความรู้การปลูกข้าวให้กับผู้ต้องขัง หลังพ้นโทษ และขยายผลในพื้นที่สู่พื้นที่ใกล้เคียง เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ และเอกชนขนาดใหญ่เพื่อการพัฒนาสังคม ซึ่งสังคมเกิดการรับรู้ข้อมูลที่แท้จริงของผู้ต้องขัง นำไปสู่การเห็นใจและยอมรับพร้อมให้โอกาสเมื่อผู้ต้องขังกลับสู่สังคม โดยเฉพาะการน้อมนำแนวคิดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาต่อยอดและขยายผล เพื่อให้ชาวนาสามารถพึ่งตนเอง และสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้กับชุมชน ด้านนายวรรณรัก ไชยตามาตย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านไทย ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ทางเรือนจำกลางสุรินทร์ เห็นความสำคัญ และเลือกพื้นที่บ้านไทย เป็นพื้นที่ดำเนินการ ซึ่งจะใช้ข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่ มาปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ทางเกษตรกรในหมู่บ้านไทยทุกคนพร้อมให้ความร่วมมือและร่วมลงแปลงทำนา อีกด้วย สำหรับเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่ ได้มาจากการเก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ของโครงการการปลูกข้าวเพื่อสุขภาพโดยอินทัช ในปี 2555 ณ.ตำบลธรรมามูล อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท และคาดว่าจะเป็นแบบอย่างและแนวทางที่ดีสำหรับนักโทษเมื่อพ้นโทษออกไปเป็นคนดีของสังคมต่อไป



กัญญรัตน์ เกียรติสุภา  ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น