วันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ผู้แทนคนสมาคมส่งเสริมอาชีพ – กีฬา คนตาบอดใช้สิทธิเลือกกรรมการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์

ผู้แทนสมาคมส่งเสริมอาชีพและสมาคมส่งเสริมกีฬาคนตาบอดจังหวัดกาฬสินธุ์ ใช้สิทธิเลือกตั้งสรรหากรรมการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อคัดเลือกหาคนดีเป็นตัวแทนทำหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในจังหวัดกาฬสินธุ์

นายจำเนียร มูลสาร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 สำนักทะเบียนเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ได้ดำเนินการคัดเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ระหว่างวันที่ 30 กันยายน ถึง 4 ตุลาคม 2556 โดยมีหน่วยงานหรือองค์กรที่เลือกกันเอง ประกอบด้วย สมาคมหรือชมรมครู อาจารย์ หรือสมาคมทางด้านการศึกษา, สภาทนายความ หรือผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย, สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือสภาแรงงาน หรือสหภาพแรงงาน, สภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หรือชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัด,กลุ่มอาสาสมัคร, องค์กรเอกชน, องค์กรเกษตร, สมาคมหรือชมรมสื่อมวลชน, หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด

นายจำเนียร มูลสาร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์มีองค์กร/สมาคม ผู้พิการ ที่มาขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นกรรมการสรรหา ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 2 สมาคม คือ สมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอดจังหวัดกาฬสินธุ์ และสมาคมส่งเสริมกีฬาคนตาบอดจังหวัดกาฬสินธุ์ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะผู้พิการได้เข้ามาร่วมสรรหากรรมการ ป.ป.ช.และทาง สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งของผู้พิการ มีการแจ้งไปยังส่วนกลางตั้งแต่การจัดทำบัตรทาบลงคะแนน อักษรเบลรายชื่อผู้คัดเลือก การลงคะแนนเลือกตั้ง และ บัตรลงคะแนนอักษรเบล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ ปรากฏว่าตัวแทนสมาคมคนตาบอดสามารถอ่านอักษรเบลได้ตรงตามองค์กรต่าง ๆ ที่ได้มาลงทะเบียนไว้ นับว่าเป็นความหลากหลายของการคัดเลือกสรรหากรรมการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ผู้พิการให้ความสนใจ ให้ความร่วมมือเข้ามามีส่วนร่วมในการสรรหาบุคคลที่จะมาปฏิบัติหน้าที่สำคัญในการส่งเสริม ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในจังหวัดกาฬสินธุ์

สำหรับการคัดเลือกสรรหากรรมการป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วจากนั้นวันที่ 7 ตุลาคม 2556 ประกาศรายชื่อผู้ได้คัดเลือก, วันที่ 8-14 ตุลาคม 2556 รับเรื่องคัดค้านการเลือกตั้ง, วันที่ 15-17 ตุลาคม 2556 ถ้ามีเรื่องคัดค้าน จะสรุปเรื่อง วินิจฉัยคำร้อง เสนอต่อส่วนกลาง หากไม่มีเรื่องคัดค้านจะเชิญกรรมการที่ได้รับคัดเลือกเพื่อดำเนินการคัดเลือกประธาน 1 คน กรรมการ 8 คน และวันที่ 18 ตุลาคม 2556 สรุปรายงานไปยังส่วนกลางเพื่อดำเนินการต่อไป



ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

ขอนแก่น ใช้โลโก้รูปเส้นใยพริ้วไหวของผ้าไหม และธงชาติกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 6 ชาติ เป็นโลโก้ประชาสัมพันธ์งานไหมนานาชาติฯ ขอนแก่น ปี 56

นายสมพงษ์ ปัตตานี ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดขอนแก่น ได้กำหนดจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2550 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในปีนี้เป็นปีแรกที่จังหวัดขอนแก่น ได้ยกระดับการจัดงานไหมให้ไปสู่ระดับนานาชาติ โดยเชิญ 6 ชาติสมาชิกอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง คือ กัมพูชา จีน ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ร่วมงานประชุมทางวิชาการ การจับคู่เจรจาธุรกิจผ้าไหม การจำหน่ายสินค้า การแสดงศิลปวัฒนธรรม และผลิตภัณฑ์ผ้าไหมจากทั้ง 6 ชาติ เพื่อเป็นการพัฒนางานไหมและผ้าไหมขอนแก่นให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและผู้นิยมผ้าไหม ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ดังนั้น เพื่อให้มีสื่อในการประชาสัมพันธ์งานให้เป็นที่รู้จัก จังหวัดขอนแก่น โดย นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้มอบหมายให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์งาน โดย มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตขอนแก่น ออกแบบโลโก้ เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์การจัดงาน ซึ่งคณะกรรมการจัดงานฯ ได้เลือกเอารูปแบบโลโก้ที่มีเส้นไหมที่มีลักษณะพริ้วไหวคล้ายเกลียวคลื่นที่ลอยอยู่เหนือธงชาติของ 6 ชาติสมาชิกอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งประกอบด้วยชาติ กัมพูชา จีน ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ที่เรียงกันตามลำดับตัวอักษรที่อยู่ในกรอบลายมัดหมี่ ลายผ้าไหม เอกลักษณ์ของ จังหวัดขอนแก่น ด้านล่างธงชาติมีตัวหนังสืองานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2556 และ ภาษาอังกฤษ INTERNATIONAL SILK FESTIVAL "POOK XIAO” TRADITION AND RED CROSS FAIR IN KHON KAEN 2013

ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยต่อไปว่า หน่วยงานราชการที่ประสงค์จะใช้โลโก้ไปประชาสัมพันธ์การจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว และงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ประจำปี 2556 ระหว่าง 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2556 ติดต่อได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ชั้น 3



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/อารมย์/พิมพ์/4 ต.ค.56

29 พ.ย. - 10 ธ.ค.2556 งานเทศกาลไหมนานาชาติที่ขอนแก่น

29 พ.ย. 2556  - 10 ธ.ค. 2556 จังหวัดขอนแก่นขอเชิญเที่ยวงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น เป็นการยกระดับงานเทศกาลไหมฯที่มีการจัดมากว่า34 ปีเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ในงานมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมนานาชาติจากประเทLจีน เวียตนาม ลาว ในเวทีกลางชาติละ 2 คืนในงานมีการประกวดผ้าไหมของดีเมืองขอนแก่น การจัดนิทรรศการผ้าไหมจากทั่วประเทศและการเดินแบบผ้าไหมแฟชั่น พร้อมทั้งการจัดแสดงและการจำหน่ายสินค้าจาก 6 ประเทศลุ่มน้ำโขงไทย จีน เวียตนาม ลาว พม่า กัมพูชา การแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินหลากหลายค่ายเพลงดัง การประกวดนางงามไหมขอนแก่น การเดินแบบแฟชั่นผ้าไหมที่สวมใส่ได้ในทุกวัยผ่านผู้แสดงจากหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า นักธุรกิจภาคเอกชนรวมทั้งดารานางแบบนายแบบมากมาย อย่าลืมหน้าหนาวปีนี้มาเที่ยวงานเทศกาลไหมนานาชาติที่ขอนแก่น 

ขอนแก่นขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากสมเด็จฯ ขอชุดผ้าไหมฉลองพระองค์มาแสดงในงานไหมนานาชาติขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่น ขอพระราชทาน พระบรมราชานุญาตจากสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ขอชุดผ้าไหมฉลองพระองค์มาแสดงในงานไหมนานาชาติขอนแก่น ระหว่าง 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 56 และเชิญนายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธานเปิดงาน

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดขอนแก่นร่วมกับกรมหม่อนไหม , สถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง และ ททท. ได้กำหนดจัดให้มีงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาดจังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2556 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ซึ่งในปีนี้จังหวัดขอนแก่นมีนโยบายในการยกระดับงานไหม ให้เป็นงานระดับนานาชาติ โดยจะมีกลุ่มประเทศสมาชิกในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งประกอบด้วย จีน ลาว เวียดนาม พม่า กัมพูชา และไทย เดินทางเข้ามาร่วมการประชุมวิชาการ และจับคู่เจรจาธุรกิจการแลกเปลี่ยนธุรกิจผ้าไหม การแสดงและจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม นอกจากนี้ กรมหม่อนไหมก็จะมาร่วมจัดนิทรรศการเกี่ยวกับกระบวนการผลิตผ้าไหมครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตลอดจนการคิดแสดงลวดลายผ้าไหม นวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตผ้าไหม การแสดงแบบแฟชั่นผ้าไหมให้ประชาชน นักท่องเที่ยวผู้สนใจได้ชม ภายในงานตลอด 12 วัน และเพื่อให้งานนี้เป็นการยกระดับสู่สากล และมีมาตรฐานแตกต่างจากทุกครั้งที่จัดมา จังหวัดจึงได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ขอชุดฉลองพระองค์ ที่เป็นชุดผ้าไหมและผ้าไหมที่ได้รับตรารับรองตรานกยูง มาจัดแสดงนิทรรศการให้ประชาชนที่มาเที่ยวงานได้ชมโดยใกล้ชิด

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้จังหวัดขอนแก่นยังได้ทำหนังสือกราบเรียนเชิญ ฯพณฯ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานเปิดงานในช่วงบ่ายวันที่ 29 พฤศจิกายน 2556




สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/สุรเดช/พิมพ์/4 ต.ค.56

กระทรวงแรงงานเตรียมสรุปผลการดำเนินงานโครงการจังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

นายสมศักดิ์ วรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธาน การประชุมเตรียมงานสรุปการจัดกิจกรรมสรุปผลการดำเนินงานโครงการจังหวัดขอนแก่น ไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด ครั้งที่ 1/2556 ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ห้องประชุมไร่สาธิต บริษัท ฟินิกซ์ พลัช แอนด์ เพเพอร์ จำกัด (มหาชน)เรื่อง การมอบหมายภารกิจ เพื่อเตรียมความพร้อม ในการสรุปผลการดำเนินโครงการ "จังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด” โดยกระทรวงแรงงานได้กำหนด ในที่ 28 ตุลาคม 2556 ที่จะเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (ร.ต.อ.ดร. เฉลิม อยู่บำรุง) มาเป็นประธานรับทราบผลการดำเนินงานโครงการ "จังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด” และกล่าวให้โอวาทแก่ผู้รับเกียรติบัตร/ธง จากนั้นประธานในพิธีจะเดินทางไปเปิดป้าย โครงการประกาศพื้นที่ประกอบกิจการ กุดน้ำใส-ม่วงหวาน สีขาวต่อต้านยาเสพติด บริเวณพื้นที่จัดงาน บมจ. ฟินิกซ์ พลัช แอนด์ เพเพอร์ โดยมีอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณสนามกีฬา บมจ. ฟินิกซ์ พลัช แอนด์ เพเพอร์ อ.น้ำพอง จังหวัดขอนแก่น



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ผักสดขอนแก่นปรับตัวขึ้นรับเทศกาลกินเจปี 2556

ผักสดหลายชนิดปรับราคาขึ้นรับช่วงเทศกาลกินเจ รับงานเทศกาลถือศีลกินเจเดือนเก้าประจำปี 2556

ที่โรงเจฮกเซี่ยงตึ้ง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ทางโรงเจได้เตรียมสถานที่เพื่อรองรับในงานเทศกาลกินเจประจำปี 2556 ที่จะเริ่มพิธีขึ้นในเช้าวันนี้ 4 ต.ค.นี้ ทำพิธีอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่นมาประทับประจำพิธี และสวดมนต์ ก่อนที่โรงเจจะทำอาหารแจกประชาชนในวันที่ 5ต.ค.ซึ่งเรียกพิธีนี้ว่า พิธีรับเจ้า และวันสุดท้ายของเทศกาลคือวันที่ 14ต.ค.จะมีพิธีอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลับสู่สรวงสวรรค์ หรือพิธีส่งเจ้า ขณะนี้ทางโรงเจได้เตรียมข้าวสาร ผักสด และอุปกรณ์ทำอาหาร เพื่อรองรับประชาชนที่จะมารับประทานอาหารเจที่โรงทานเตรียมจัดไว้บริการประชาชนตลอดช่วงเทศกาลกินเจในปีนี้ ส่วนที่ตลาดศรีเมืองทอง ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งผักจังหวัดขอนแก่นพบว่า ราคาผักสดทุกชนิดปรับราคาสูงขึ้นตามช่วงเทศกาลกินเจ โดยผักกะหล่ำปลีส่งถุง 10 กิโลกรัมราคา 80-90 บาท แตงกวาถุง 10 กิโลกรัม ส่งถุงราคา 90 บาท ถั่วฝักยาวถุง 10 กิโลกรัม ส่งถุงละ 180-190 บาท ผักกวางตุ้งถุง 5 กิโลกรัม ส่งถุงละ 70 บาท

แม่ค้าผักในตลาดศรีเมืองทอง กล่าวว่า ตนรับผักมาจากอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ขายส่งให้ลูกค้าที่ตลาดศรีเมืองทอง จังหวัดขอนแก่น เฉลี่ยวันละ 7,000 กิโลกรัม ซึ่งช่วงนี้ผักปรับราคาขึ้น แต่คาดว่าราคาจะไม่ปรับขึ้นสูงเกินไปกว่านี้ ปัจจัยที่ทำให้ผักปรับราคาสูงนั้นเพราะเป็นช่วงเทศกาลกินเจ ทุกจังหวัดต้องการบริโภคผักมากขึ้น โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ทำให้ผักไม่พอต่อความต้องการ อีกทั้งหลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหาย



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

เทศบาลนครขอนแก่นจัดงานประเพณีออกพรรษา ไต้ประทีปบูชา พุทธกตัญญูปี 2556 17-20 ตค นี้

เทศบาลนครขอนแก่น จัดงาน "ประเพณีออกพรรษา ไต้ประทีปบูชา พุทธกตัญญู ประจำปี 2556” วันที่ 17-20 ต.ค. นี้

วันที่ 3 ต.ค. 56  ที่ห้องศาลาไทย ชั้น 4 โรงแรมพูลแมน จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ร่วมแถลงข่าว "ประเพณีออกพรรษา ไต้ประทีปบูชา พุทธกตัญญู ประจำปี 2556" โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชนร่วมกิจกรรม

นายธีระศักดิ์ กล่าวว่า เทศบาลกำหนดจัดงานประเพณีออกพรรษา ไต้ประทีป บูชาพุทธกตัญญู ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 17-20 ตุลาคม ที่ริมบึงแก่นนคร เพื่อย้อนรอยวัฒนธรรมอีสาน สืบสานตำนานท้องถิ่น ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัด โดยร่วมกับจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานขอนแก่น ชุมชน 91 แห่ง 20 คุ้มวัดในเขตเทศบาล สถานศึกษา ตลอดทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน

ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย อาทิ ขบวนแห่ประทีปโคมไฟ ถือเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการจัดงาน เพราะจะมีประชาชนรอชมขบวนประทีปโคมไฟที่ส่องสว่างงดงาม 14 ขบวน เริ่มขบวนที่บริเวณศาลหลักเมือง สิ้นสุดที่บึงแก่นนคร พิธีกวนข้าวทิพย์โดยมีความเชื่อว่าก่อนวันออกพรรษา เหล่าพุทธบริษัทได้จัดทำขึ้นในวันเปิดโลก เพื่อให้พุทธบริษัทที่เฝ้ารับเสด็จ ได้ร่วมกันทำบุญตักบาตรด้วยอาหารทิพย์ตามอัตภาพแห่งตน จึงเรียกการทำบุญนี้ว่า "วันตักบาตรเทโวโรหะนะ" ซึ่งข้าวทิพย์ ถือเป็นอาหารที่มีรสอร่อยคล้ายของทิพย์ เมื่อกวนเสร็จแล้วจะแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน เพื่อระงับโรคภัยไข้เจ็บในร่างกาย เพราะก่อนประกอบพิธีจะอันเชิญเทวดามาช่วยอภิบาลรักษา ให้เกิดสวัสดิ์มงคลแก่ผู้ที่ได้รับประทานเข้าไป จึงถือได้ว่าศักดิ์สิทธิ์ด้วยอำนาจพระปริตรและเทวานุภาพ

การแสดงแสงสีเสียงพุทธกตัญญู-พิธีทางศาสนาและลอยกระทง โดยนิมนต์พระเถระเจริญพระพุทธมนต์เพื่อเป็นพุทธบูชา จากนั้นพระสงฆ์จะเดินนำขบวนพาพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานลอยกระทงและลอยประทีปบูชา บริเวณท่าน้ำลานเจ้าแม่กวนอิม เพื่อเป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิต สนุกเพลิดเพลินกับการประกวดจิ๊กโก๋คนดี จิ๊กกี๋คนงาม และกิจกรรมตะไลเข้าบ่วงอีกทั้งมีกิจกรรมงานอดิเรกที่ชื่นชอบ โดยเทศบาลนครขอนแก่น ได้รับความร่วมมือจากองค์กรภาคเอกชน ซึ่งสนใจงานอดิเรกร่วมกันจัดซุ้มแสดงสินค้า นิทรรศการ ได้แก่ ชมรมบอนไซ ชวนชม ไม้ดอกไม้ประดับ ชมรมปลาสวยงามจัดนิทรรศการให้ความรู้ปลาสวยงาม ชมรมรักการอ่านจัดกิจกรรมทางศิลป์ มหกรรมตำนานอาหารอีสาน และการแสดงมหรสพ ชมฟรีทุกคืน




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

รองนายกรัฐมนตรีเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วม อ.เมืองชัยภูมิ

รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ เยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัย น้ำชีเอ่อท่วมพื้นที่การเกษตร มากกว่า 10 วัน นาข้าวเน่าตายกว่า 2 แสนไร่ ย้ำหากท่วมพื้นที่การเกษ๖ร ติดต่อกัน นานกว่า 7 วัน สามารถจ่ายค่าชดเชย 5,000 บาท ได้ตามระเบียบ

เวลา 10.30น. วันนี้ 4 ตุลาคม 2556 นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทาง ไปเยี่ยม มอบถุงยังชีพ และเวชภัณฑ์ยา ผู้ประสพภัยน้ำท่วมในพื้นที่ 9 หมู่บ้าน ในตำบลหนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งถูกน้ำในแม่น้ำชี ไหลเอ่อ เข้าท่วมบ้านเรือนกว่า 1,000 ครอบครัว ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 4,000 กว่าคน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย กว่า 10,000 ไร่ ถนนทางเข้าหมู่บ้านปึกคงคา บ้านหนองโง้ง ต.หนองนาแซง ท่วมสูง 80-150 ซ.ม. รถยนต์ไม่สามารถผ่านได้ ชาวบ้านต้องใช้รถขนาดใหญ่ และเรือท้องแบน เป็นพาหนะเข้าออกหมู่บ้าน โดยนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ ได้สรุปสถานการณ์น้ำท่วม ของจังหวัดชัยภูมิว่า ขณะนี้สถานการณ์ ได้คลี่คลายไปแล้ว 7 อำเภอ พื้นที่ที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง มี 9 อำเภอ ท่วมหนักสุด อยู่ที่ อ.จัตุรัส บ้านเข้วา หนองบัวระเหว เทพสถิต และบำเหน็จณรงค์ พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมขังมาแล้วกว่า 10 วัน คาดว่าจะเสียหาย 2 แสนกว่าไร่

 นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความเป็นห่วงผู้ประสบภัยน้ำท่วม ได้สั่งการให้รองนายก ลงมาเยี่ยม และรับทราบปัญหา นำไปหาแนวทางแก้ไข พื้นที่แห่งนี้ทราบว่า เป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก หลักน้ำไม่นานก็จะแล้งทันที โครงการต่างๆของรัฐบาล ที่จะช่วยบรรเทาเรื่องน้ำท่วมน้ำแล้งได้ ก็คือโครงการ 3 แสน 5 หมื่น ล้าน ของรัฐบาล ในการบริหารจัดการน้ำทั่วประเทศ อย่างที่ชัยภูมิ ก็มีหลายโครงการ ที่จะสร้างอ่างเก็บน้ำ แก้มลิง ขุดลอก โครงการเหล่านี้เชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ ส่วนการช่วยเหลือเยียวยา ผู้ประสบภัย โดยเฉพาะนาข้าว ซึ่งแถบนี้จมมากว่า 10 วัน และยังจมต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 7 วัน ชาวบ้านบอกว่า อยากได้พันธ์ข้าว ปุ๋ย เพื่อปลูกหลังน้ำลด ซึ่งหากปลูกได้ รัฐบาลจะจัดสรรตรงนี้ให้ แต่ถ้าปลูกไม่ได้ ก็จะหาทางบรรเทาความเดือดร้อนทางอื่นให้ ส่วนการจ่ายเงินค่าชดเชย นายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย และสั่งการ มายัง ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ดูว่าพื้นที่ใดท่วมเกิน 7 วัน สามารถจ่าย 5,0 00 บาทได้เลย ตามระเบียบ



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ในหลวงพระราชทานน้ำสรง และผ้าไตร ถวายวัดเกิดครบรอบ 90 ปีหลวงพ่อคูณที่โคราช ศิษยานุศิษย์แห่กราบนมัสการแน่นวัดบ้านไร่

วันที่ 4 ต.ค. 56  เวลา 14.00 น. ที่วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสรง และผ้าไตร ถวายแด่พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 90 ปี โดยมีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อัญเชิญน้ำสรง และผ้าไตรถวาย ท่ามกลางศิษยานุศิษย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศหลายพันคน ที่เดินทางไปร่วมกราบสักการะหลวงพ่อคูณจนแน่นวัดบ้านไร่ ขณะที่คณะกรรมการวัดบ้านไร่ได้จัดทำเค้กวันเกิด ขนาดใหญ่ 500 ปอนด์ แจกจ่ายให้กับศิษยานุศิษย์ที่เดินทางไปร่วมงานเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อคูณปีนี้ ศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่อคูณได้ทำพิธีปล่อยปลากว่า 10,000 ตัว เพื่อทำบุญเสริมอายุให้หลวงพ่อคูณ แต่งดพิธีตักบาตรเงินสด เพราะหลวงพ่อคูณไม่ได้ออกมาร่วมประกอบพิธีด้วย เนื่องจากทุกฝ่ายต้องช่วยกันถนอมสุขภาพของหลวงพ่อคูณ เนื่องจากหลวงพ่อคูณมีอายุมากแล้ว และภูมิต้านโรคต่ำเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ทางวัดบ้านไร่จึงต้องงดพิธีตักบาตรเงินสดเหมือนทุกปี

กลุ่มเครือข่าย Korat for the world ร่วมบริจาคถุงยังชีพ ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม

วันที่ 4 ต.ค. 56 ที่ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา กลุ่มเครือข่าย Korat for the world "โคราชรักษ์โลก" บริจาคถุงยังชีพ และน้ำดื่ม เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในเขตจังหวัด ปราจีนบุรี สุรินทร์ ศรีษะเกส และอุบลราชธานี โดยส่งผ่านให้กับมูลนิธิหลักเสียงเสี่ยงตึ๊ง มูลนิธิพุทธธรรม ฮุก 31 นครราชสีมา และกลุ่มเครือข่ายอนุรักษ์เขาใหญ่ เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดต่างๆต่อไป จำนวน 550 ถัง และน้ำดื่มกว่า 950 แพ๊ค นอกจากนี้ยังได้มอบเงินช่วยเหลือเพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัยในเขตจังหวัดภาคอีสาน ประกอบด้วย สุรินทร์ ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี จังหวัดละ 10,000 บ. รวมเป็นเงิน 30,000 บ. โดยมี นางสุบงกช วงศ์วิชยาภรณ์ กรรมการหอการค้าไทยและประธานหอการค้านครชัยบุรินทร์ เป็นผู้รับมอบ

มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ มอบถุงยังชีพพระราชทานแก่ผู้ประสบอุทกภัยที่บุรีรัมย์

มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มอบถุงยังชีพพระราชทาน แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์

เมื่อเวลา10.00 น. วันนี้ (5 ต.ค.56) มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ได้มอบหมายให้นายมนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ เป็นประธานในพิธีมอบถุงยังชีพพระราชทานตามโครงการ "หนึ่งใจช่วยเหลือผู้ประสบภัย” โดยได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถุงยังชีพพระราชทานแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ ที่ว่าการอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ จำนวน 510 ครัวเรือน เป็นพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 10 รูป และประชาชน 500 คน จากตำบลทุ่งวัง กระสัง และชุมแสง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์

ด้วยพระองค์ทรงทราบถึงปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จึงทรงมีพระดำริให้ มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และจังหวัดบุรีรัมย์เข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยโดยเร่งด่วน

ทั้งนี้พระองค์ทรงมีพระดำรัสว่า จะทรงเป็นกำลังใจให้ประชาชนชาวไทยทุกคน ในการต่อสู้กับทุกข์ภัยต่างๆ ซึ่งถ้าประชาชนมีจิตใจที่เข็มแข็งแล้ว ก็สามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆ ไปได้ ข้าพเจ้าหวังว่าเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการหนึ่งใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อน สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยได้เป็นอย่างดี




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

สภาเกษตรกรรับสมัครพนักงานขับรถด่วน

ประกาศสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยโสธร

รับสมัครลูกจ้างสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยโสธร ตำแหน่ง พนักงานขับรถยนต์ จำนวน 1 อัตรา อัตราค่าจ้างเดือนละ 9,000.-บาท  คุณสมบัติผู้สมัคร

   1 สัญชาติไทย

   2 เพศชาย อายุไม่ต่ำกว่า 35-55  ปีบริบูรณ์

   3 มีความสูงไม่น้อยกว่า 160 ซม.

   4 ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับ ปวส.หรือเทียบเท่าทุกสาขา

   5  ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือตำแหน่งตามคำสั่งที่สภาเกษตรกรแห่งชาติกำหนด

   6 มีความสามารถในการขับรถยนต์ได้เป็นอย่างดี สามารถดูแลเครื่องยนต์เบื้องต้นได้และมีใบอนุญาตเป็นผู้ขับขี่สาธารณะตาม พรบ.ขนส่งทางบก ไม่น้อยกว่า 3 ปี (ไม่นับอายุใบอนุญาตส่วนบุคคล)

  7 สามารถพิมพ์และใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ได้ดี

 8 มีภูมิลำเนาในจังหวัดยโสธร รู้จักเส้นทางในจังหวัดยโสธรและต่างอำเภอ รวมถึงกรุงเทพมหานครและพื้นที่ปริมณฑลเป็นอย่างดี (หากมีประสบการณ์ในการทำงานมีหนังสือรับรองจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ)

9 ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากส่วนราชการ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะเหตุกระทำผิดทางวินัย ยกเว้น แต่จะได้รับการล้างมลทิน

ให้ผู้ที่มีความประสงค์สมัครและยื่นใบสมัครพร้อมหลักฐานการรับสมัครได้ที่ สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยโสธร เลขที่ 268 หมู่ 8 ถนนอรุณประเสริฐ ตำบลตาดทอง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร โทรศัพท์    045-714-332 ตั้งแต่วันที่ 1-9 ตุลาคม 2556 ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น.ในวันและเวลาราชการ

ตามหาคนหาย 2

ประกาศบุคคลสูญหาย   ด้วยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร ได้รับหนังสือประสานจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์  ว่าได้รับแจ้งจากนางสาวเสาวนีย์  พิศลืม อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 67/2 ม.18 ต.เฉลียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ว่าพี่ชายชื่อ นายพิทยา  พิศลืม อายุ 57 ปี เป็นคนพิการทางการได้ยิน (เป็นใบ้,หูหนวก) เดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ซอยพัฒนาการ 20 คลองตัน กรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ได้หายตัวไป ปัจจุบันไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าอาจได้รับอันตราย และอาจถูกล่อลวงไปในทางที่เสียหายหรือตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์

ใครพบเห็นแจ้งได้ที่  สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร (หลังเก่า) ตำบล   ในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร โทรศัพท์ 0-4571-1579 

ตามหาคนหาย 1

ประกาศบุคคลสูญหาย

ด้วยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร ได้รับหนังสือประสานจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยะลา ว่าได้รับแจ้งจากนางสะปีนา สะอง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19/1 ตำบลเกะรอ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นมารดาของนายคอลาฟี  สะอง (บุตร) อายุ 23 ปี แจ้งว่าเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2556 บุตรชายคือ นายคอลาฟี  สะอง หายออกจากบ้านโดยไม่ได้บอกบิดาและมารดา จากการสอบถามจากเพื่อนบ้าน ทราบว่า (ผู้สูญหาย) ออกจากบ้านช่วงละหมาดซุบฮี สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำ ข้างในใส่เสื้อสีขาวห่านคู่ กางเกงสีดำ ออกจากบ้านโดยขับขี่รถจักรยานยนต์ไปสถานีรถไฟยะลา หายออกจากบ้านโดยไม่ได้รับการติดต่อ ปัจจุบันไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าอาจได้รับอันตราย และอาจถูกล่อลวงไปในทางที่เสียหายหรือตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์

ใครพบเห็นแจ้งได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร ศาลากลางจังหวัดยโสธร (หลังเก่า) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร โทรศัพท์ 0-4571-1579 หรือ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300

สนง.กองสลากมอบเครื่องกรองน้ำช่วยชุมชนที่ยโสธร

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงพื้นที่มอบ เครื่องกรองน้ำให้กับชาวบ้าน  ที่อำเภอป่าติ้วจังหวัดยโสธรที่บ้านโพธิ์ศรี หมู่ที่ 2  ตำบลโพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว จังหวัดยโสธร นางวิมลลักษณ์  บุญยิ่งสถิตย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานกินแบ่งรัฐบาล ลงพื้นที่ มอบเครื่องกรองน้ำดื่มให้กับชาวบ้าน โดยมีนายนิรันดร์  สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมหัวหน้าส่วนระดับอำเภอ และชาวบ้านให้การต้อนรับ  การมอบเครื่องกรองน้ำในครั้งนี้ เป็นการ ร่วมมือระหว่าง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล / ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการขึ้น เพื่อตอบแทนสังคม  ให้ประชาชนได้ดื่มน้ำที่สะอาดถูกหลักผ่านการกรองถูกต้องตามหลักอนามัยทางวิชาการ มีคุณภาพดี  ทำให้ร่างกายแข็งแรง ซึ่งเครื่องกรองน้ำที่มอบให้ ผลิตโดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  สามารถผลิตน้ำได้ 1,500 ลิตรต่อวัน เป็นเครื่องกรองน้ำดื่มชนิดหยอดเหรียญ โดยให้มีกรรมการจัดการน้ำ ของหมู่บ้านเป็นผู้ดูแล  สามารถเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน และอยู่บนความพอเพียงตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงตั้งปณิธานเอาไว้  การมอบเครื่องกรองน้ำดื่มให้กับชาวบ้าน บ้านโพธิ์ศรี ในครั้งนี้ เนื่องจากว่า เป็นชุมชนเข้มแข็งต้นแบบ ของอำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร




วรรณทอง  ภูโสภา
ส.ปชส.ยโสธร/ภาพ/ข่าว

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขเผยโรคไข้เลือดออกของประเทศไทยมีตัวเลขลดลง และเมื่อเทียบกับประเทศอื่นแล้วยังน้อยกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้กับสื่อมวลชนที่จังหวัดร้อยเอ็ด ถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกของประเทศไทยได้มีตัวเลขลดลงแล้ว และเมื่อเทียบจำนวนเท่าแล้วยังน้อยกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค แต่ที่น่าเป็นห่วงคือมีสถิติของผู้เสียชีวิตจำนวนสูง ซึ่งมีสาเหตุจากความห่างใกล้สถานพยาบาลและพฤติกรรมของผู้ป่วย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังได้แนะนำให้ประชาชนทั่วไปถ้ารู้ว่าได้รับการแพร่เชื้อจากยุ่งแล้วให้รีบไปพบแพทย์ หรือ พยาบาลใกล้บ้าน เพื่อรับการรักษาต่อไป      



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.
ข่าว 5 ต.ค. 56

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดพบปะ อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แนะนำระวัง “โรคภัยที่มากับน้ำช่วงปลายฝนต้นหนาว

วันนี้ (5 ต.ค. 56) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสารณสุข และคณะได้เดินทางมาพบปะเยี่ยมเยียนอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ในพื้นที่อำเภอเมืองร้อยเอ็ด และอำเภออาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยภาคเช้าเวลา 10.00 น. ได้พบปะ อสม.อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ณ บ้านหนองเรือ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมี อสม.อำเภอเมืองและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ให้การต้อนรับ กว่า 1,500 คน โดยมีนายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวต้อนรับ นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวรายงานสถานการณ์พื้นที่ของจังหวัดร้อยเอ็ดได้ถูกน้ำท่วม โอกาสนี้ นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบเครื่องวัดความดันโลหิตแก่เครือข่าย อสม. และกล่าวกับผู้ให้การต้อนรับว่า จากการประเมินสถานการณ์น้ำท่วม 33 จังหวัด มีพื้นที่ประสบภัยที่ระดับเริ่มลด 9 จังหวัด รวมทั้งที่ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ยโสธร และสุรินทร์ ซึ่งเป็นช่วงของการฟื้นฟูให้กับคืนสู่ภาวะปกติด โดยในช่วงหลังน้ำลด โรคที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ลิดคือโรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซีส ซึ่งเชื้อโรคที่อยู่ในฉี่ของหนู ทั้งหนูหรือหนูบ้าน จะปนเปื้อนอยู่ตามแอ่งน้ำ พื้นดินเป็นดินโคลนซื้อและเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายคนบางบาดแผล หากไม่มีการป้องกันดีพออาจเสี่ยงติดเชื้อโรคนี้ได้ กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำหมู่บ้านให้ความรู้ประชนในพื้นที่ประสบภัยและน้ำลดแล้ว

จากนั้น คณะของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขและคณะได้ไปพบปะกับอาสาสมัครอาสาธารณสุข กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ณ หอประชุมอำเภออาจสามารถ โดยมี นายประดิษฐ์ ศรีประสิทธิ์ กล่าวต้อนรับ ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้มอบเครื่องวัดความดันโลหิตแก่เครือข่าย อสม.และพบปะกับผู้ให้การต้อนรับ โดยแนะนำให้ประชาชนทั่วไปให้รักษาสุขภาพ และป้องกันโรคภัยที่มากับน้ำในช่วงปลายฝนต้นหนาว อาทิ โรคฉี่หนู โรคทางเดินหายใจ โรคตาแดง หากพบอาการไม่ปกติให้ไปพบแพทย์ หรือพยาบาลในสถานพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็ว                  



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
5 ต.ค. 56

จังหวัดร้อยเอ็ดรับน้องแนน “ทัดดาว นึกแจ้ง” แชมป์วอลเลย์บอล ลูกหลานชาวร้อยเอ็ด กลับบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ

จังหวัดร้อยเอ็ดรับน้องแนน "ทัดดาว นึกแจ้ง” แชมป์วอลเลย์บอล ลูกหลานชาวร้อยเอ็ด กลับบ้านเกิดอย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ ด้วยขบวนแห่รอบเมือง สักการะสิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมือง และพิธีบายศรีสู่ขวัญ เพื่อความสิริมงคล

วันที่ 4 ต.ค. 56   เวลา 14.00 น. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีแสดงความชื่นชมยินดีให้กับนางสาวทัดดาว นึกแจ้ง (น้องแนน) นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาตไทย แชมป์เอเชีย ปี 2013 (ครั้งที่ 17) ลูกหลานชาวอำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ณ สนามหน้าทีว่าการอำเภอจตุรพักตรพิมาน โดยมีนักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชนชาวอำเภอจตุรพักตรพิมาน ให้การต้อนรับกว่าเป็นจำนวนมาก โดยผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดได้กล่าวแสดงความชื่นชมยินดีและมอบประกาศเกียรติคุณเยาวชนต้นแบบที่สร้างชื่อเสียงให้จังหวัดร้อยเอ็ด และเงินรางวัล โดยมีผู้มีร่วมแสดงความยินดีมอบเงินและทองคำ รวมกว่า 200,000 บาท

โอกาสที่ นางสาวทัดดาว นึกแจ้ง เดินทางกลับบ้านเกิด อำเภอจตุรพักตรพิมานและเทศบาลตำบลโคกล่ามให้จัดแสดงความชื่นชมยินดีให้กับนางสาวทัดดาว อย่างยิ่งใหญ่และสมเกียรติ ด้วยการจัดขบวนแห่ด้วยรถสโมสรร้อยเอ็ดยูไนเต็ด แห่รอบเมือง มีพิธีบายศรีสู่ขวัญ และงานแสดงความยินดี การสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้าน คู่เมือง ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ศาลเจ้าปู่ชินราช และศาลท้าวมหาพรหม เพื่อความเป็นสิริมงคลด้วย

นางสาวทัดดาว นึกแจ้ง อายุ 19 ปี คุณพ่อชื่อ นายรังสรรค์ นึกแจ้ง คุณแม่ชื่อนางอรุณี ซุมสิทธิ์ อยู่บ้านเลขที่ 126 บ้านหนองสิม ตำบลโคกล่าม อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน เป็นผู้มีความขยันอดทน อยู่กับยายตั้งแต่เด็ก คุณพ่อคุณแม่มีอาชีพรับจ้างกรีดยางพาราที่จังหวัดระยอง เริ่มเล่นกีฬาวอลเลย์บอลครั้งแรกอายุ 11 ปี และได้เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลของโรงเรียนมาตลอด ได้ร่วมแข่งขันกีฬาระดับประเทศ อาทิ การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ติดทีมชาติระดับเยาวชน เล่นระดับนานาชาติ ครั้งแรก คือ รายการวอลเลย์บอลหญิงเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
4 ต.ค. 56 

บสย. ลุยช่วย SMEs ชาวร้อยเอ็ดให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน

บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) จัดงาน "มหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน จังหวัดร้อยเอ็ด” และเปิดคลินิกให้คำปรึกษากับ SMEs ที่ติดขัดเรื่องการขอสินเชื่อให้กับชาวร้อยเอ็ด โดย บสย. จับมือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด สภาอุตสาหกรรมจังหวัดร้อยเอ็ด และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) พร้อมร่วมเปิดบูธบริการเช็คเครดิตบูโรให้ฟรีภายในงาน รวมถึงบูธของธนาคารในพื้นที่แนะนำบริการทางด้านการเงิน ช่วยให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายยิ่งขึ้น

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ 4 ตุลาคม 2556 นายธัชชัย  สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุน จังหวัดร้อยเอ็ด” และคลินิกให้คำปรึกษากับ SMEs   ณ  ห้องประดับเงินประดับทองโรงแรมเพชรรัชต์กาเดนท์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด   นางปิยะธิดา  ตั้งวิไลเสถียร  ผู้จัดการสาขาสำนักงานสาขานครราชสีมา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า บสย. ในฐานะเป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ค้ำประกันสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่ยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารแต่มีหลักประกันไม่เพียงพอ โดย บสย.จะทำหน้าที่ค้ำประกันสินเชื่อในส่วนที่ขาดหลักประกัน เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้สินเชื่อเต็มตามจำนวนที่ต้องการ ในปี 2556 บสย.มีโครงการมหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุนและเปิดคลินิกค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อให้คำปรึกษากับผู้ประกอบการ SMEs ที่ติดขัดเรื่องการขอสินเชื่อ โดยมีการจัดงานในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ และในวันนี้นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ บสย.ได้มาจัดงานให้กับชาวจังหวัดร้อยเอ็ด โดยภายในงานจะมีการเสวนาให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ และมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสถาบันต่าง ๆ มาให้ความรู้ไม่ว่าจะเป็น บสย.  ธนาคารแห่งประเทศไทย  บริษัทข้อมูลเครดิจแห่งชาติจำกัด (เครดิตบูโร) และยังมีปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "จับกระแสเศรษฐกิจอีสาน” จากนายธเนศชัย อังวราวงศ์ ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น และช่วงเสวนา "กู้ได้ กู้ง่าย กู้ถูก” เพื่อเป็นแนวทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ SMEs นอกจากนี้ บสย. ยังเปิดคลินิกค้ำประกันสินเชื่อ เพื่อให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจและการขอสินเชื่อกับผู้ประกอบการ รวมถึงการรับทราบปัญหาและประสานงานกับธนาคารเพื่อให้ SMEs ได้สินเชื่อตามต้องการ และในกรณีที่ผู้ประกอบการขาดหลักประกัน บสย. ก็พร้อมที่จะค้ำประกันด้วยผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสินเชื่อประเภทต่าง ๆ เช่น โครงการ Portfolio Guarantee Scheme 5 (PGS 5) โครงการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการใหม่ (New/Start-Up SMEs) โครงการค้ำประกันสินเชื่อรายสถาบัน และโครงการค้ำประกันสินเชื่อพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ เป็นต้น

นายมโนท  ศรีพรมทอง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขา  กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในวันนี้ บสย. ได้ ลงพื้นที่ต้องการให้ผู้ประกอบการได้รู้จักบทบาทหน้าที่ และภารกิจ ของ บสย. เชิญธนาคาร และหน่วยงานพันธมิตร มาร่วมเปิดบูธแนะนำผลิตภัณฑ์สินเชื่อ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวร้อยเอ็ด และจังหวัดใกล้เคียงที่ต้องการขอสินเชื่อ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปติดต่อเอง ดังนั้นการมาจัดงานของ บสย.ในวันนี้เป็นภารกิจสำคัญที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้ บสย.ทำหน้าที่พัฒนาผู้ประกอบการให้มีศักยภาพแข็งแกร่ง นอกเหนือจากบทบาทหลักในการให้การค้ำประกันสินเชื่อ จึงคาดว่าผู้ประกอบการ SMEs จะได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมงานนี้เป็นจำนวนมาก

ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยคนใหม่เน้นนโยบายในการทำงานเพื่อคนเมืองเลย

นายวิโรจน์  จิวะรังสรรค์  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  ได้เดินทางมานมัสการพระธาตุศรีสองรัก อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย  หลังได้มารับตำแหน่งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  จากนั้นได้เดินทางไปอำเภอนาแห้ว เพื่อเน้นนโยบายที่เข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าจังหวัดเลย โดยมีนายจตุรศักดิ์  โกมลวิภาค  นายอำเภอนาแห้ว หัวหน้าส่วนราชการ  กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  รอให้การต้อนรับ   โดยได้มอบนโยบายว่าทุกคนจะต้องรู้อัตลักษณ์ขอตนเองว่า ผมเป็นข้าราชการอาชีพ  ต้องบอกว่าผมเป็นผู้จงรักภัคดีต่อชาติ  ศาสนา  พระมหากษัตริย์    ทำงานสนองนโยบายของรัฐบาล จะนำนโยบายของรัฐบาลไปฏิบัติ   เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ จากนโยบายนั้น   เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคน ที่จะต้องอยู่ตรงกลางระหว่างรัฐกับประชาชน    ประการสุดท้ายทำอย่างไรให้จังหวัดที่ตนรับราชการอยู่นั้น ได้บรรลุวิสัยทัศน์ที่เขาต้องการ    จังหวัดเลยเป็นเมืองน่าอยู่    เป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยว    เมืองแห่งการค้าชายแดน  การลงทุน    สิ่งต่าง  ๆ   เหล่านี้เป็นตัว กำหนดที่เราจะต้องก้าวเดินไปข้างหน้า และกำหนดจากศักยภาพของจังหวัดเลยเอง เห็นชัดว่าการท่องเที่ยวของจังหวัดเลยนำความเจริญและรายได้มาให้  จังหวัดเลยอยู่ใกล้กับเวียงจันทร์ หลวงพระบาง แขวงไชยบุรี  ที่จะเชื่อมโยงกับจังหวัดเลยได้ดี   มีภูมิประเทศที่เหมาะสมกับการเกษตร  ซึ่งการเกษตรสามารถพัฒนาต่อยอดที่แปรรูปไปสู่ระดับที่สูงขึ้นได้    เกษตรกรของจังหวัดเลย จะทำการเกษตรเพียงด้านเดียว การปลูกยางเพื่อขายยางแผ่น ขี้ยาง การปลูกข้าวโพด   ปลูกอ้อย   จะต้องมีการปรับปรุงต่อยอดใหม่ เพื่อให้มูลค่าเพิ่มของผลิตผลทางเกษตรเพิ่มขึ้น  ในขณะเดียวกันก็ต้องสอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก  คือการการเกษตรที่มีคุณภาพและเกษตรเพื่อสุขภาพ   การพัฒนาเมืองเลยบางส่วนมีการพัฒนาไปสู่การสร้างรายด้านทางอุตสาหกรรม   แต่บางส่วนก็สวนทางอาจจะเกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ผลกระทบเหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ก็ต้องมีการศึกษา   ถ้าเกิดผลกระทบต่อประชาชนจริงทุกฝ่ายเราก็ยอมรับ

‘เลย’ จัดเทควันโดแชมป์เปี้ยนชิพ ครั้งที่ 1

นางสาวกฤษณา  ทองอิสาณ  เลขานุการชมรมกีฬาเทควันโดจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ชมรมกีฬาเทควันโดจังหวัดเลย (LMC TAEKWONDO) จะจัดการแข่งขัน "เลยซิตี้เทควันโดแชมป์เปี้ยนชิพ” ครั้งที่ 1 ปี 2556 ในวันที่ 19 ตุลาคม 2556  ณ  สนามสมาคมพ่อค้าจังหวัดเลย อำเภอเมืองเลย  โดยเปิดรับสมัครนักกีฬาทั่วไป  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งหมด 4 ประเภท   คือ  ประเภทต่อสู้บุคคล (เคียวรูกิ) ประเภทร่ายรำบุคคลเดี่ยว (พุมเซ่เดี่ยว) ประเภทร่ายรำบุคคลคู่  (พุมเซ่คู่)  และประเภทร่ายรำทีม 3 คน (พุมเซ่ทีม) ตั้งแต่ระดับยุวชนอายุไม่เกิน 6 ปี จนถึงระดับประชาชนทั่วไปชาย-หญิง และเป็นการแข่งขันเก็บคะแนนในรุ่นที่เป็นมาตรฐาน TAEKWONDO LEAGUE ESAN  ซึ่งจัดโดยชมรมผู้ฝึกสอนเทควันโดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สนามที่  2    จึงขอเชิญชวนชมรมกีฬาเทควันโด ผู้ฝึกสอนกีฬาเทควันโด  ผู้สนใจกีฬาเทควันโดทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ  ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันรายการ "เลยซิตี้เทควันโดแชมป์เปี้ยนชิพ” ครั้งที่ 1 ตั้งแต่บัดนี้ จนถึง วันที่ 18  ตุลาคม  2556  ทางเว็บไซต์ www.facebook.com/Esan.Taekwondo.League หรือทางอีเมล์ที่ tkitsana@hotmail.com    โทรศัพท์ 081-391-9448 

ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย คนใหม่ ยืนยันจัดงานเทศกาลคริสต์มาสภูเรือปีที่ 2

ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย คนใหม่ ยืนยัน สานต่องานผู้ว่าราชการจังหวัดเลยคนเก่า ยืนยันจัดกิจกรรม  "เทศกาลต้นคริสต์มาส ภูเรือ ครั้งที่ 2 ” ตามมติของผู้นำท้องถิ่นอำเภอภูเรือ เพราะข้อมูลด้านการท่องเที่ยวมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 39 เปอร์เซ็นต์  และจะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัด เพิ่มเป็นกว่า 2,600 ล้านบาท

นายวิโรจน์  จิวะรังสรรค์  ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  ประชุมหารือกับผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอภูเรือ  ถึงแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวนี้    โดยได้เน้นไปที่การจัดงานเทศกาลเทศกาลต้นคริสต์มาส  ซึ่งอำเภอภูเรือเป็นแหล่งปลูกไม้ประดับชนิดนี้มากที่สุดของประเทศไทย  ภายหลังการประชุม ได้ไปพบปะกับผู้นำท้องถิ่นของอำเภอภูเรือ  สอบถามความเห็นเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อหารายได้เข้าสู่อำเภอ สร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง ปรากฏว่า ผู้นำท้องถิ่นของอำเภอภูเรือทุกภาคส่วน มีความพึงพอใจผลการจัดงานเทศกาลต้นคริสต์มาสภูเรือ ครั้งที่ 1  เมื่อปี 2555  ซึ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยว และรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  ทุกฝ่ายจึงมติเห็นชอบขอให้จังหวัดเลย จัดกิจกรรม "เทศกาลต้นคริสต์มาสภูเรือ ครั้งที่ 2 "  ขึ้นอีกในปีนี้  จากข้อมูลของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พบว่า จากการจัดงานเทศกาลต้นคริสต์มาสภูเรือ ครั้งที่ 1   ปี  2555   มีส่วนผลักดันให้จำนวนนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดเลย เพิ่มขึ้นเป็น 1,800,000 คน หรือ 39% ของปีที่ผ่านมา  และจะทำให้จังหวัดเลยมีรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเป็น  2,600 ล้านบาท    นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ยังแนะนำแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวอำเภอภูเรือให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นว่า ทุกภาคส่วนของอำเภอภูเรือจะต้องทำให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจ ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน  และมีความรู้สึกว่าอำเภอภูเรือเป็นสังคมที่สงบ ร่มเย็น และชาวภูเรือทุกคนจะต้องทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี

จัดระเบียบขี้ยางครั้งใหญ่ เลยนำร่องจังหวัดแรกของประเทศ

สสจ.เลย จับมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกระเบียบธุรกิจรับซื้อ-ขาย และขนส่งขี้ยางพาราเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย หลังถูกประชาชนร้องเรียนอื้อ เดือดร้อนกลิ่นเหม็น  ถนนลื่นเกิดอุบัติเหตุอุบัติทำลายบรรยากาศเมืองท่องเที่ยว วางมาตรการจุดที่ตั้งต้องห่างจากชุมชนไม่ต่ำกว่า 500 เมตร  โกดังต้องปิดมิดชิด  ทำระบบบำบัดน้ำเสีย  รถขนขี้ยางห้ามทำน้ำหกเรี่ยราด  ฝ่าฝืนไม่ต่อใบอนุญาต-สั่งปิดถาวร

นายกายสิทธิ์  แก้วยาศรี  รองนายแพทย์ สสจ.เลย เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมพิจารณาข้อกำหนดเรื่อง "การควบคุมสถานประกอบกิจการและดำเนินกิจการรับซื้อ  สะสมยางก้อน หรือยางก้อนถ้วย พ.ศ…..”  โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ  องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  สถาบันการศึกษา  ผู้ประกอบการ  ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเกษตรกร และสื่อมวลชน

นางปณิศา  อุทังบุญ  หัวหน้างานอนามัยสิ่งแวดล้อม สสจ.เลย กล่าวว่า  การจัดประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากจังหวัดเลย ได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ครอบคลุมทุกอำเภอ และมีแนวโน้มการปลูกเพิ่มขึ้นทุก ๆ  ปี    โดยเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราส่วนใหญ่มีการแปรรูปเป็นยางก้อน หรือยางก้อนถ้วย   แต่คนส่วนมากนิยมเรียกว่าขี้ยาง   การขายยางก้อนของเกษตรกรในจังหวัดเลย มี 2  ลักษณะคือ  ขายโดยวิธีประมูลตามจุดประมูล ที่ดำเนินการโดยสำนักงานสงเคราะห์กองทุนการทำสวนยาง (สกย.) หรือการรวมกลุ่มของเกษตรกร และขายให้แก่สถานประกอบกิจการรับซื้อยางก้อน หรือยางก้อนถ้วย ซึ่งสามารถขายได้ทุกวันจึงเป็นที่นิยมของเกษตร เนื่องจากไม่ต้องจัดหาสถานที่สะสมยางก้อน  เพื่อรอจำหน่ายที่จุดประมูล  สถานประกอบกิจการรับซื้อยางก้อนจึงมีกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางการปลูกยางพารา

จากการที่ผู้ประกอบกิจการของสถานประกอบกิจการรับซื้อยางก้อนทุกวัน  จึงมีการสะสมยางก้อนไว้ที่สถานประกอบกิจการ  เพื่อรอขนส่งไปจำหน่ายที่โรงงานครั้งละหลายตัน  ประหยัดต้นทุนในการขนส่ง  ก่อให้เกิดเหตุรำคาญและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงสถานประกอบกิจการ เนื่องมาจากกลิ่นเหม็นจากก้อนยางและน้ำเสีย นำไปสู่การร้องเรียนเกี่ยวกับเหตุรำคาญจากกลิ่นเหม็น โดยในปีงบประมาณ 2555-2556  สสจ.เลย ได้รับเรื่องร้องเรียนเนื่องจากกลิ่นเหม็นที่มีสาเหตุมาจากสถานประกอบกิจการรับซื้อ หรือสะสมยางก้อน จำนวน 15 ครั้ง ร้องเรียนไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย 1 ครั้ง และสื่อมวลชน 1  ครั้ง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สั่งปิดกิจการไปแล้ว 2 แห่ง  ที่ผ่านมาการดำเนินการเพื่อระงับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว  ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากกิจการรับซื้อสะสมยางก้อนนี้ถูกกำหนดไว้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกตามความในมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535  หมวด 7  ว่าด้วยเรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ข้อ 5 (2) การล้าง การอบ การรม การสะสมยางดิบ แต่ยังไม่มีข้อกำหนดกับเกี่ยวกับสุขลักษณะของสถานที่ตั้งและการดำเนินกิจการ ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2555-2556  สสจ.เลยโดยงานอนามัยสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำโครงการแก้ปัญหาเหตุรำคาญจากการประกอบกิจการรับซื้อสะสมยางก้อน โดยจัดทำสุขลักษณะของสถานที่ตั้งและการดำเนินกิจการรับซื้อ สะสมยางก้อน และข้อกำหนดท้องถิ่น เรื่องการควบคุมสถานประกอบกิจการและการดำเนินกิจการรับซื้อ หรือสะสมยางก้อน  เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และเจ้าพนักงานท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางในการตรวจ แนะนำ  เพื่อการออกใบอนุญาต และควบคุมกำกับการประกอบกิจการ   ไม่ก่อให้เกิดเหตุรำคาญ ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ขอเชิญเที่ยวงานประเพณีออกพรรษาและผาสาดลอยเคราะห์เมืองเชียงคาน ประจำปี ๒๕๕๖

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเลย ขอเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานประเพณีออกพรรษาและผาสาดลอยเคราะห์เมืองเชียงคาน ประจำปี ๒๕๕๖ วันที่ ๑๓-๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ ณ  หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงคาน และลานวัฒนธรรม   วัดท่าคก

นางสาวยุพา ปานรอด ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเลย เปิดเผยว่า งานออกพรรษาเป็นประเพณีดั้งเดิมของเชียงคาน โดยพระยาศรีอรรคฮาด นายอำเภอคนแรก ได้ริเริ่มให้ราษฎรแต่ละคุ้มวัดในเขตอำเภอเชียงคาน ร่วมจัดทำปราสาทผึ้ง และแข่งขันเรือยาว นอกจากนี้ชาวเชียงคานยังทำผาสาดลอยเคราะห์ที่ทำจากหยวกกล้วยคล้ายกระทง ตกแต่งด้วยดอกผึ้ง เทียน ดอกไม้ ของคาว และของหวาน ลอยลงสู่แม่น้ำโขงเพื่อเสริมดวงชะตา และระลึกถึงพระคุณแม่น้ำโขง (พระเมตตา) ถือว่าเป็นวัฒนธรรมเก่าแก่ และนับว่ามีเพียงแห่งเดียวที่อำเภอเชียงคาน นักท่องเที่ยวจะได้   ชมวิถีประเพณีดั้งเดิมแห่งเมืองเชียงคาน ร่วมเชียร์การแข่งขันเรือยาวกลางแม่น้ำ งดงามกับการไหลเรือไฟและผาสาดลอยเคราะห์สว่างไสวทั่วสายนทีโขง  กิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่ การแข่งขันเรือยาว ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนฯ  ราชสุดา สยามบรมราชกุมารี การแข่งขันฟุตบอลเชียงคานคัพ ต้านยาเสพติด  ชิงถ้วยพระราชทานพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ขบวนแห่ปราสาทผึ้ง   การไหลเรือไฟ ผาสาดลอยเคราะห์   การจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์   ขบวนของดีจากตำบลต่าง ๆ จากคุ้มวัดในเขตเทศบาลตำบล    เชียงคาน และหมู่บ้านวัฒนธรรมในพื้นที่เข้าร่วมงาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อำเภอเชียงคาน    โทร. ๐-๔๒๘๒-๑๕๙๗ เทศบาลตำบลเชียงคาน โทร. ๐ ๔๒๘๒ ๑๙๑๔

แถลงข่าวเปิดฤดูการท่องเที่ยวเมืองเลย

วันที่ 4 ต.ค. 56 นายภานุ  แย้มศรี  รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย  นายชัยณรงค์ ดูดดื่ม หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า    ภูหลวง, นายฑิตศักดิ์ สุริยาชัยวัฒนะ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง, นายสำเร็จ ภูแสนศรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย,นายรณภพ  คัชมาตย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูเรือ และนายไชยรัช  ตียานุกูลมงคล      นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเลย ร่วมแถลงข่าว "หนาวนี้ที่เลย  บนยอดภู”  ณ  ห้องใบทอง โรงแรมใบบุญเพลส  อำเภอเมือง  จังหวัดเลย     บรรยากาศของการแถลงข่าวว่าด้วยการพัฒนา การบริหารจัดการ และการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว”หนาวนี้ที่เลย บนยอดภู” ประจำปี 2557 บนยอดภูของจังหวัดทั้ง 4  แห่ง  อันเป็นช่วงฤดูแห่งการท่องเที่ยว  หรือไฮซีซัน จังหวัดเลย เช่น อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวและพักแรมบนยอดภู  ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม  2556  พักค้างคืนได้วันละ 5,000 คน เป็นกฎระเบียบที่ห้ามไว้ แต่อุทยานฯ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจะไม่จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว    จึงขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยวช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ด้วยการเข้าร่วมโครงการอาสาสมัครพิทักษ์ภูกระดึง และโครงการมัดจำบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งห้ามมิให้นำเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้ามาในเขตอุทยานฯ ทุกแห่ง ไม่จำเป็นต้องเตรียมอาหาร เครื่องดื่มขึ้นบนภูกระดึง เพราะว่าอุทยานฯ มีจุดบริการร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม  ตลอดเส้นทางขึ้นเขาและที่พักแรมอย่างเพียงพอ  โดยมีอัตราจ้างหาบหามสัมภาวะขึ้นเขา 30 บาท/กก. นักท่องเที่ยวสำรองที่พักได้ที่ www.dnp.go.th  หรือโทร.042-871333

รมว.คมนาคมนั่งรถไฟฟรีลงอุดร

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นั่งรถไฟฟรีจากกรุงเทพฯ ลงที่สถานีกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี รถไฟวิ่งเข้าสถานีช้า 2 ชั่วโมง ก่อนรีบเดินทางไปเปิดถนนที่อำเภอศรีธาตุ และเดินทางไปสัมมนาที่หนองคาย

วันที่ 4 ต.ค. 56  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่ากากรคมนาคม เดินทางโดยสารรถไฟฟรีออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 2 ทุ่ม 45 นาที โดยมีกำหนดการไปงานสัมมนาที่จังหวัดหนองคาย โครงการสร้างอนาคตไทย 2020

ซึ่งท่านรัฐมนตรี ได้เล่าถึงการนั่งรถไฟฟรีผ่านเฟสบุ๊คข้อความตอนหนึ่ง ว่า "รถออกจากหัวลำโพง สองทุ่มสี่สิบห้า ตรงเวลาเป๊ะ (ส่วนใหญ่ออกตรงเวลา แต่ตอนถึงอีกเรื่องนะครับ) กำหนดถึงหนองคาย 9:45 ครับ ฝนตกปรอยๆ อากาศเย็นสบาย รถแน่นพอสมควรครับ รถสะอาดเรียบร้อยดี ถามลุงที่นั่งตรงข้ามและใช้รถไฟประจำ ท่านบอกว่ารถไฟสะอาดขึ้น และเมื่อนั่งรถไฟผ่านมาใกล้ถึงขอนแก่นทางรัฐมนตรีฯ ก็ได้โพสต์ลงในเฟสบุ๊คอีกว่า "ตอนนี้รถไฟผ่านบ้านไผ่ ขอนแก่นมาแล้วครับ กำลังวิ่งเข้าเมืองขอนแก่น ช้าไปเกือบสองชั่วโมงครับที่บางซื่อ ประธานบอร์ดรถไฟ รศ.ดร.บุญสม ขึ้นมาร่วมขบวนด้วย ก็ได้หารือกันในหลายๆเรื่องครับเมื่อคืนอากาศเย็นสบายทั้งคืนครับ ผมก็นั่งหลับๆตื่นๆมา เดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่ ผู้โดยสาร ก็ได้ข้อมูลดีครับ ปัญหาที่พบของรถฟรีคือ ตอนไปออกตั๋วออกมาหลายใบ (ใช้บัตรประชาชนหลายใบ) แต่เวลามาจริงมาคนเดียวและใช้ที่ว่างวางของหรือนอน ทำให้คนอื่นเสียสิทธิ์ครับอีกสักสามชั่วโมง คงถึงหนองคายครับ”  การเดินทางมาด้วยรถไฟฟรีครั้งนี้ เพื่อต้องการทราบปัญหาของการเดินทางรถไฟ โดยกำหนดการ ครั้งแรกมีแผนที่จะลงสถานีรถไฟอุดรธานี แต่ได้ปรับแผนลงที่สถานีรถไฟกุมภวาปี ตำบลพันดอน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เพื่อเดินทางไปเปิดถนนสร้างใหม่ที่อำเภอศรีธาตุรอยต่ออำเภอวังสามหมอ ซึ่งกำหนดการเดินทางถึงของรถไฟเที่ยวนี้ เป็นขบวนรถไฟเร็ว 133 ออกจากสถานที่หัวลำโพงที่กรุงเทพฯ เวลา 20.45 น.จะมาถึงที่สถานีกุมภวาปี 07.49 น. แต่เอาเข้าจริง มาถึงในเวลา 10.15 นาที ซึ่งช้าไป 2 ชม.กว่าและพอลงจากรถไฟฟรี

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็รีบเดินทางไปทำภารกิจเปิดถนนทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟทราบว่า รถไฟช้าแบบนี้มาเป็นเวลานานหลายปีแล้ว แต่ชาวบ้านก็รอ เพื่อที่จะเดินทาง สาเหตุหนึ่งที่ทำให้รถไฟเดินทางมาถึงสถานีช้ากว่ากำหนดนั้น เนื่องจากรถไฟฟรีจะไม่ขับเร็ว จะขับอยู่ที่ 50-60 กม.ต่อชั่วโมง แม้จะจอดทุกสถานีก็ตาม และรถไฟขบวนอื่นๆ ก็ช้าเช่นกัน ส่วนบรรยากาศทั่วๆ ไปในสถานี ยังมีประชาชนมารอขึ้นรถไฟ แต่จำนวนคนไม่มากเหมือนสถานีขนส่งประเภทอื่นๆ



เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ ส.ปชส.อด.

โครงการผู้ว่าฯ พาทำบุญ ถวายพระกุศล สมเด็จพระสังฆราชฯ

พุทธศาสนิกชนชาวอุดรธานี ทำบุญทำทาน รักษาศีล ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา น้อมถวายเป็นพระราชกุศลสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ในโอกาสงานฉลองพระชันษา 100 ปี      

ที่วัดโพธิ์ชัยบ้านเหล่านาดี เช้าวันที่ 4 ต.ค. 56   นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรตามโครงการผู้ว่าฯพาทำบุญ เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาประจำปี 2556 ครั้งที่ 6 โดยมีนายมาลัยวร ตั้งอรุณสวัสดิ์ นายอำเภอเมืองอุดรธานี พันเอกอำนวย จุลโนนยาง เสนาธิการมฯฑลทหารบกที่ 24 หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ร่วมพิธี

นายธวัฒชัย ทองสุกนอก รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เล็งเห็นความสำคัญของการบำเพ็ญกุศล โดยการเข้าวัดทำบุญตักบาตร และฟังพระธรรมเทศนาในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อให้ส่วนราชการ ข้าราชการ พุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหาร ปัจจัยต่างๆ ตามหลักพุทธศาสนาพร้อมทั้งเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีทางพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาให้มั่นคงตลอดไป จึงได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี จัดทำโครงการผู้ว่าฯพาทำบุญ เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2556 โดยกำหนดการดำเนินงานตามโครงการในช่วงฤดูเข้าพรรษา ในทุกวันแรม 15 ค่ำ และวันขึ้น 15 ค่ำ ในช่วงวันเข้าพรรษาจนถึงวันออกพรรษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ถวายเป็นพระกุศลแด่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ในโอกาสงานฉลองพระชันษา 100 ปี ร่วมฉลองการก่อตั้งเมืองอุดรธานี ครบ 121 ปี เพื่อให้พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ได้ร่วมกิจกรรมทำบุญเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ร่วมระลึกถึงวันสำคัญและสืบสานวัฒนธรรมประเพณีทางพุทธศาสนา

นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ในห้วงเทศกาลเข้าพรรษาอยากเห็นพุทธศาสนิกชนร่วมกันทำบุญตักบาตรรักษาศีล ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส เพื่อเพิ่มความสุข เสริมมงคลให้กับชีวิต สิ่งที่ทำให้หลุดพ้นได้คือมรรค 8 เป็นแนวทางดับทุกข์โดยแท้ พร้อมใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ โครงการรับจำนำข้าวเปลือกปีการผลิต 2555/56 ซึ่งจังหวัดอุดรธานี จะเปิดรับจำนำได้ประมาณกลางเดือนตุลาคม 2556 โดยมีโรงสีเข้าร่วมโครงการ 8 โรง เปิดรับจำนำนอกพื้นที่โรงสี 4 แห่ง ประกอบด้วยอำเภอบ้านดุง เพ็ญ บ้านผือ กุมภวาปี รวมเป็น 12 จุด ราคารับจำนำเหมือนปีที่ผ่านมา คือหมอมะลิ 42 กรัม ตันละ 20,000 บาท ข้าวเหนียวเมล็ดยาว 42 กรัม ตันละ 16,000 บาท ข้าวเหนียวเมล็ดสั้น 42 กรัม ตันละ 15,000 บาท พร้อมประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรหันมาปลูกอ้อยให้มากขึ้น เนื่องจากที่จังหวัดอุดรธานีมีโรงงานน้ำตาล 5 แห่ง มีปริมาณความต้องการอ้อยจำนวนมากกว่า 1,080,000 ตันต่อปี

สำหรับโครงการผู้ว่าฯ พาทำบุญครั้งที่ 7 ครั้งสุดท้าย กำหนดจัดในวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2556 ณ วัดอาจสุรวิหาร จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวอุดรธานีทุกหมู่เหล่าร่วมโครงการผู้ว่าพาทำบุญในวันดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

มันนี่เอ็กโปร์ อุดรธานี ครั้งที่ 1

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดงานมหกรรมการเงินอุดรธานี ครั้งที่ 1 Money Expo Udonthani 2013 จัดงานระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2556 ยกทัพ 30 ธนาคาร สถาบันการเงิน แข่งสินเชื่อบ้าน เอสเอ็มอี ดอกเบี้ย 0% แจกทองคำ iPhone 5 เที่ยวต่างประเทศ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ต.ค. 56   ที่อุดรธานีฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา อุดรธานี นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานมหกรรมการเงินอุดรธานี ครั้งที่ 1 Money Expo Udonthani 2013 ภายใต้แนวคิด สีสันแห่งเงินตรา Money Carnival โดยมีนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานมหากรรมการเงิน Money Expo สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี ธนาคารและสถาบันการเงินร่วมงาน

งานมหกรรมการเงินอุดรธานี ครั้งที่ 1 Money Expo Udonthani 2013 มีธนาคาร สถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐและอกชน เข้าร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการภายในงานรวม 30 แห่ง เพื่อให้ประชาชนในอุดรธานี และ 7 จังหวัดตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่ หนองคาย เลย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น สกลนคร หนองบัวลำภู และนครพนม ได้เลือกใช้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร อาทิสินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเพื่อการศึกษา สินเชื่อเอสเอ็มอี บัตรเครดิต บัตรเงินสด เงินฝากทุกประเภท รวมทั้งประกันชีวิต ประกันภัย และประกันสุขภาพ โดยธนาคารและสถาบันการเงินเตรียมแคมเปญโปรโมชั่นสุดพิเศษในรอบปีมานำเสนอให้กับลูกค้าทั้งลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เริ่มต้น 0% นาน 3-6 เดือนฟรีค่าจดทะเบียนจำนอง ค่าประกันอัคคีภัย ค่าธรรมเนียมธนาคารทุกประเภท อัตตราดอกเบี้ยงเงินฝากออมทรัพย์พิเศษ 8 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.25 % ต่อปี และเงินฝากประจำ 18 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3.6 % พร้อทชิงโชคลุ้นของรางวัลทองคำ iPhone 5 แพ็กเกจท่องเที่ยวญี่ปุ่น-สิงคโปร์ –ฮ่องกง

ในขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับตลาดอนุพันธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ( บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ( บลจ.) และบริษัทผู้ค้าทองคำ มาเปิดพื้นที่ "SET-TFEX เชื่อมภูมิภาค ศุ่การลงทุน นำบริการทางการลงทุนมาให้เลือกลงทุน อาทิ หุ้น ฟิงเจอร์ ทอง กองทุนรวม ภายใต้แนวคิด เริ่มด้วยหุ้นลงทุนแบบมือใหม่ เริ่มหาโอกาสทำกำไรด้วยฟิงเจอร์ส” พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญที่มาให้คำปรึกษาเรื่องการลงทุนอย่างเหมาะสม และยังจะได้รับ 5 Permier Stock Lists ชุดหุ้นเด่น 5 สไตล์ หุ้นโตต่อเนื่อง 5 ปี หุ้นปันผลหุ้น 3 ปี โต 100 เท่า ,หุ้น ROE สูงและหุ้นสำหรับมือใหม่ พร้อมกันนี้ กรมสรรพากร ได้ออกบูทเผยแพร่ความรู้ด้านการเงินการลงทุน และภาษี ให้กับผู้เข้าชมงานด้วย

นอกจากนี้ประชาชนที่มาร่วมงานยังจะไดกระทบไหล่ดาราสุดฮอต เจมส์ มาร์ หรือคุณชายณรพีร์ และเกรม วรินทร หรือคุณชายธราธร จากละครดัง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ และพระเอกหนุ่มหล่อ อเล็กซ์ เรนเดลล์ ชมมินิคอนเสริ์ตจากศิลปินชื่อดัง ตู่ ภพธร ,เอ๊ะ จิรากร ,รุจ ศูภรุจ ,นันทิว AF5,รอน ภัทรภณ AF5,เบล สุพล, กุ๊ด –เฟื้อง KPN และการแสดงอูคูเลเล่ จากน้องตุ๊กตา จมาพร แสงทอง



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ มอบน้ำดื่มและถุงยังชีพ แก่ประชาชนในพื้นที่ ต.ดอนมดแดง อ.ดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี

ที่วัดดงบังเหนือ บ้านดงบังเหนือ ต.ดอนมดแดง อ.ดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี ดอกเตอร์วิจารย์ สิมาฉายา รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ เดินทางมามอบน้ำดื่มและถุงยังชีพ จำนวน 200 ชุด ให้กับตัวแทนประชาชน บ้านดงบังหมู่ 2 หมู่ 5 หมู่ 9,บ้านหนองสิม หมู่ 14 , บ้านโนนยาง หมู่ 4 และบ้านโนนงาม หมู่ 13 ต.ดอนมดแดง อ.ดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่ง ต.ดอนมดแดง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยน้ำท่วมบ้านเรือน 189 หลัง ท่วมนาข้าว 996 ราย พื้นที่นาข้าวที่คาดว่าจะเสียหาย 13,700 ไร่ ด้านประมงคาดว่าจะเสียหาย 182 ราย รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยว่าได้มีการช่วยเหลือในเรื่องน้ำดื่ม โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาลซึ่งผลิตน้ำดื่มที่สะอาดและสามารถแจกจ่ายให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัยได้มีน้ำอุปโภคบริโภคที่เพียงพอและมีคุณภาพในช่วงวิกฤต ทั้งนี้โดยสำนักน้ำบาดาลเขตอุบลราชธานีได้ผลิตน้ำดื่มคุณภาพดีแจกจ่ายและสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้โดยสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 11 อุบลราชธานีในครั้งนี้อีกด้วย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ตรวจดูสายทางของกรมทางหลวงชนบท ที่ถูกน้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

นายพ้อง ชีวานันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและคณะ เดินทางมาตรวจราชการ ที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยได้ลงพื้นที่ อ.ดอนมดแดง ตรวจดูสายทางของกรมทางหลวงชนบทที่ถูกน้ำท่วม ในสายทาง อบ.4026 แยกทางหลวงหมายเลข 2050 ถึง บ้านโอด ถึงบ้าน ดงบัง อ.ดอนมดแดง ซึ่งถูกน้ำท่วมลึกประมาณ 1 เมตร เป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร การจราจรผ่านไม่ได้ ทั้งนี้ ข้อมูลการเกิดอุทกภัยในเขตจังหวัดอุบลราชธานี มีถนนของกรมทางหลวงชนบทได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งสิ้น 29 สายทาง ปัจจุบันประชาชนสามารถสัญจรได้แล้ว 21 สายทาง คงเหลือสายทางที่ยังถูกน้ำท่วมสูงไม่สามารถสัญจรได้ 8 สายทาง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้มาตรวจเยี่ยมเพื่อดูสภาพสายทางที่ถูกผลกระทบจาก น้ำท่วม พบว่ามี 10 กว่าสายทางที่ขณะนี้รถยังผ่านไม่ได้ โดยได้บอกให้ส่วนงานของกระทรวงคมนาคม อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ขณะเดียวกันก็เตรียมแผนสำรวจความเสียหายของสายทางต่างๆเพื่อให้เสนอเข้าไปที่กระทรวงคมนาคมเพื่อของบประมาณฟื้นฟูบูรณะถนนที่ได้รับความเสียหายโดยเร็ว สำหรับสายทาง 4026 ที่มาดูครั้งนี้ หลังน้ำลดจะมีงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรมาแล้วส่วนหนึ่งมาบูรณะ ส่วนถนนที่ยังชำรุดเสียหายอยู่ ก็จะหางบประมาณมาบูรณะเพิ่มเติมต่อไป จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางไปที่วัดดงบังเหนือ ต.ดอนมดแดง อ.ดอนมดแดงเพื่อมอบถุงยังชีพให้แก่ตัวแทนประชาชน อ.ดอนมดแดง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจำนวน 996 ชุด สำหรับ อ.ดอนมดแดง ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวม 4 ตำบล 34 หมู่บ้าน 2,118 ครัวเรือน 8,370 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 166 หลัง น้ำท่วมนาข้าวและพื้นที่การเกษตร รวม 27,109 ไร่ โรงเรียนถูกน้ำท่วม 1 แห่ง วัด 1 แห่ง ถนนได้รับความเสียหาย 2 สาย ด้านประมง มีบ่อปลาถูกน้ำท่วม 507 บ่อ ด้านปศุสัตว์ 147 ตัว สัตว์ปีก 1,390 ตัว 

มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ มอบสิ่งของพระราชทานตามโครงการ "หนึ่งใจ...ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ” ที่จังหวัดสุรินทร์

มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ฯ มอบสิ่งของพระราชทานตามโครงการ "หนึ่งใจ...ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ” ที่จังหวัดสุรินทร์

วันที่ 5 ต.ค.56  เวลา 13.45 น. มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ นายมนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ เป็นประธานในพิธีมอบถุงยังชีพพระราชทานตามโครงการ "หนึ่งใจช่วยเหลือผู้ประสบภัย”เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัย ณ ที่ว่าการอำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีทางด้าน นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นผู้กล่าวรายงานถึงสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในจังหวัดสุรินทร์ นายมนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน (มูลนิธิมิราเคิล ออฟไรฟ์ฯ) ประธานและคณะหัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 510 ชุด เป็นพระภิกษุสงฆ์ จำนวน 10 รูป และประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจำนวน 500 ชุด

ด้วยพระเมตตาของทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ที่ทรงมีให้แก่ประชาชนชาวไทย พระองค์ทรงทราบถึงปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จึงทรงฝากความห่วงใยและประทานความช่วยเหลือมายังผู้ประสบภัย และทรงดำรัสว่า "จะทรงเป็นกำลังใจให้ประชาชนชาวไทยทุกคน ในการต่อสู้กับทุกข์ภัยต่างๆ ที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ซึ่งถ้าประชาชนมีจิตใจที่เข้มแข็งแล้วก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆ ไปได้"

จังหวัดสุรินทร์ ได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่น ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2556 เป็นต้นมาทำให้หลายพื้นที่ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก รวม 17 อำเภอ 139 ตำบล 1,497 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 776,903 คน 252,541 ครัวเรือน เสียชีวิต 12 ราย จากการจมน้ำ หาปลา ไร่นา/พืชสวน เสียหายเกือบ 5 แสนไร่ ส่วนอำเภอศรีณรงค์ ได้รับผลกระทบ 5 ตำบล 62 หมู่บ้าน ซึ่งจังหวัดได้ดำเนินการช่วยเหลือในเบื้องต้นไปแล้ว