วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

จังหวัดสุรินทร์ เปิดการแข่งขันกีฬา "สิงห์สุรินทร์เกมส์ 2013” เพื่อสร้างความรักความสามัคคีแก่นักปกครอง

วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 13.30 น. นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬา "สิงห์สุรินทร์เกมส์ 2013” ที่สนามกีฬาศรีณรงค์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ และข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ทั้ง 17 อำเภอ กว่า 200 คน ร่วมการแข่งขัน




นายถาวร กุลโชติ ปลัดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวรายงานว่า การจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าว เป็นความร่วมมือกันระหว่างปกครองจังหวัดสุรินทร์ร่วมกับชมรมคนปกครองจังหวัดสุรินทร์ จัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าส่วนราชการฝ่ายปกครอง พนักงานราชการ ลูกจ้าง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมให้บุคคลากรในสังกัดได้มีโอกาสออกกำลังกาย และเพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่ข้าราชการฝ่ายปกครองทุกระดับ โดยมีการแข่งขันกีฬาพื้นเมือง อาทิ ตีกอล์ฟมะเขือยาว วิ่งสามขา วิ่งกระสอบ กีฬาแชร์บอล การแข่งขันชักเย่อ และไฮไลท์ของงานคือ การเตะปิ๊ปไปให้ไกลที่สุด ของข้าราชการฝ่ายปกครอง โดยผู้ที่ได้ที่ 1 คือ นายอำเภอบัวเชด ที่ 2 นายอำเภอกาบเชิง ที่ 3 ปลัดจังหวัด ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้อันดับ 4 จากนั้นเป็นการแข่งขันฟุตบอล สิงห์เฒ่ากับสาววัยทีน โดยฝ่ายสาวไม่มีกติกาใด ๆ แถมมีจำนวนไม่จำกัดด้วย ซึ่งการจัดการแข่งขันกีฬาจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

จ.สุรินทร์ ขอเชิญนักท่องเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้านเครื่องเงินหมู่บ้านโชค อ.เขวาสินรินทร์ อายุหลายร้อยปีในช่วงเทศกาล “มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์”

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ/เอกชน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยไทย (ททท.) กำหนดจัดงาน "มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” ประจำปี 2556 ขึ้นในระหว่างวันที่ 8-19 พฤศจิกายน 2556 ณ บริเวณสนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ นอกจากนี้ จังหวัดสุรินทร์ยังเป็นดินแดนด้านวัฒนธรรมที่เก่าแก่ และมีหมู่บ้านที่ทำเครื่องเงิน หรือ ประเกือม คำว่าประเกือม เป็นภาษาเขมร ซึ่งใกล้เคียงกับภาษาไทยว่า ประคำ ใช้เรียกเม็ดเงิน เม็ดทองชนิดกลม ที่นำมาร้อยเป็นเครื่องประดับ ประเกือม สุรินทร์ เป็นลูกกลมทำด้วยเงิน เช่นเดียวกับที่อื่นๆ แต่สิ่งที่แตกต่างคือ มีหลากหลายรูปแบบและลวดลาย เนื่องจากทำด้วยแผ่นเงินบางๆ ที่ตีเป็นรูปต่างๆ พร้อมกับอัดครั่งไว้ภายใน ทำให้สามารถแกะลายได้สะดวก ประเกือมมีตั้งแต่ขนาดเล็กที่สุดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณครึ่งเซ็นติเมตร ไปจนถึงขนาดใหญ่ประมาณ 2.5 - 3 เซ็นติเมตร มีหลายลวดลาย ได้แก่ ถุงเงิน หมอน แปดเหลี่ยม หกเหลี่ยม กรวย แมงดา กระดุม โอ่ง มะเฟือง ตะโพน ฟักทอง จารย์(ตะกรุด) ส่วนใหญ่จำลองมาจากธรรมชาติ เช่น ลายตาราง ลายกลีบบัว ลายดอกพิกุล ลายดอกจันทร์ ลายพระอาทิตย์ ลายดอกทานตะวัน ลายตากบ ประเกือมส่วนใหญ่จะรมดำเพื่อให้ลายเด่นชัด ความสวยงามของประเกือมจึงอยู่ที่ลายที่แกะด้านนอก และความแวววาวของเนื้อโลหะเงิน เส้นทางสู่หมู่บ้านเครื่องเงิน หมู่บ้านโชค ต.เขวาสินรินทร์ อำเภอเขวาสินรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ นับเป็นหมู่บ้านแรกที่ทำประเกือมขึ้น เมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว เชื่อว่าสืบทอดมาจากบรรพบุรุษที่อพยพมาจากเขมร โดยสมัยก่อนมีการทำทั้งเครื่องเงิน และเครื่องทองด้วย ต่อมาความต้องการของตลาดเพิ่มขึ้น การผลิตก็ขยายตัวเกือบทั่วทั้งตำบลเขวาสินรินทร์ แต่บริเวณที่ยังคงเป็นสถานที่หลักที่มีผู้ประกอบการมากที่สุดคือ หมู่ที่ 3 บ้านโชค และหมู่ที่ 4 บ้านโชคหัวแรด ถ้าหากเราเดินทางจากเทศบาลเมืองสุรินทร์ข้ามทางรถไฟไปตามถนนสายสุรินทร์ - ร้อยเอ็ด ถึงหลัก กม. 14 ก็มีทางลาดยางเลี้ยวขวาจะมีป้ายบอกบ้านเขวาสินรินทร์ ” หมู่บ้านทอผ้าไหม ” อีกป้ายหนึ่ง ” หมู่บ้านหัตถกรรมเครื่องเงิน ” พอเข้าไปได้ 2 กม. จึงถึงบ้านนาโพธิ์ เลยไปอีกประมาณ 2 กม. จะถึงบ้านเขวาสินรินทร์ ไปอีก 1 กม. จะถึงบ้านโชค และอีก 2 กม. จะถึงบ้านสดอทั้งหมดนี้ คือหมู่บ้านเครื่องเงินของจังหวัดสุรินทร์ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่มาชมงาน "มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” อย่าลืมแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจังหวัดด้วย

จ.สุรินทร์ เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง เน้นขอให้ประชาชนระวังอย่าเล่นน้ำหรือหาปลาตามลำพัง เพรามีผู้เสียชีวิตแล้ว 14 ราย

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดสุรินทร์ ประสบภัยนำพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมทั้งจังหวัด รวม 17 อำเภอ 146 ตำบล 1,585 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนจำนวน 781,003 คน เสียชีวิต 14 ราย บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 3,290 หลังคาเรือน นั้น จังหวัดสุรินทร์ได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยทุกภาคส่วน ได้ระดมสรรพกำลัง เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ เครื่องจักรกล รถบรรทุก เครื่องมือ-อุปกรณ์ สิ่งของบรรเทาทุกข์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่แล้ว ด้านสิ่งของบรรเทาทุกข์ ได้แก่ ถุงยังชีพ 51,479 ชุด,ข้าวกล่อง 44,630 กล่อง,ข้าวสาร 17,000 ถุง น้ำดื่ม 7,210 แพ๊ก,ยาเวชภัณฑ์ 4,400 ชุด ด้านปศุสัตว์ ได้แก่ หญ้าแห้ง 8,000 ก้อน,ฟางอัดก้อน 746 ก้อน,แร่ธาตุ 200 ก้อน ด้านเครื่องมือ-อุปกรณ์ เครื่องจักรกล ได้แก่ เรือท้องแบน 50 ลำ,เครื่องยนต์เรือ 10 เครื่อง, รถบรรทุก 38 คัน,รถกู้ภัยเอนกประสงค์ 6 คัน,รถบรรทุกน้ำดื่ม 6 คัน,เครื่องสูบน้ำอัตโนมัติใต้ดิน 4 เครื่อง,เครื่องสูบน้ำ 8,10,12 นิ้ว 16 เครื่อง,กำลังพลทหาร 100 นาย,อส. 30 นาย ,อปพร. 1,500 นาย,กระสอบทราย 13,000 ใบ,ทราย 19 คันรถบรรทุก นอกจากนี้ จังหวัดสุรินทร์ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ณ บริเวณหน้าสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน-7 ตุลาคม 2556 มีผู้บริจาคเงินสด 312,031.50 บาท,ข้าวสาร 503 ถุงๆละ 5 กก.,น้ำดื่ม 291 แพ็ค,ถุงยังชีพ 617 ถุง,อื่นๆ 12 รายการ,กรมศาสนา จำนวน 12,000 บาท ในการจัดซื้อเครื่องอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นสำหรับพระสงฆ์ที่ประสบภัย และกระทรวงพาณิชย์ ได้จัดข้าวสารบรรจุถุง จำนวน 20,000 ถุงๆละ 4 กิโลกรัม โดยจะแจกจ่ายให้กับอำเภอๆละ1,000 ถุง(รวม 17,000 ถุง) และมอบให้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 3,000 ถุง ส่วนผู้เสียชีวิต 14 รายส่วนใหญ่จะเป็นการเสียชีวิตจากการจมน้ำ จึงขอให้ประชาชนหากจะไปหาปลาหรือไปดูแลไร่นาที่จมน้ำ ขอให้ระมัดระวังน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก ควรมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตด้วย

จังหวัดสุรินทร์ จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมสั่งจองวัตถุมงคลรุ่น "เสริมปัญญารับทรัพย์อนันต์”

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่น "เสริมปัญญารับทรัพย์อนันต์” เพื่อขยายการช่วยเหลือผู้พิการทางสติปัญญา ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันช่วยได้เพียง 6,000 กว่าคน โดยจะทำพิธีเททองหล่อนำฤกษ์ ณ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง) และทำพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ทั้งนี้ จังหวัดสุรินทร์ จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจร่วมสั่งจองวัตถุมงคลรุ่น "เสริมปัญญารับทรัพย์อนันต์” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 085-0572777, 085-0572888 หรือ สำนักงานจังหวัดโทรศัพท์หมายเลข 0-4451-2039

ชาวบ้าน อ.สังขะ จ.สุรินทร์ พบปลาบึกยักษ์ น้ำหนักกว่า 180 กก.

ประมงจังหวัดสุรินทร์เดินทางไปตรวจสอบหลังทราบข่าว ชาวบ้านตะกอยอด อ.สังขะ จับปลาบึก ยาว 2.20 เมตร หนัก 180 กก.และอีกตัวมียาว 2 เมตร 150 กก. คาดว่าจะใหญ่ที่สุดในจังหวัดสุรินทร์

วานนี้ (10 ต.ค.56) ที่ ลำห้วยทำนบหนองตะกอยอด หมู่ที่ 6 บ้านตะกอยอด ต.บ้านซบ อ.สังขะ จ.สุรินทร์ นายณรงค์ ชัยพลรัตน์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมและพัฒนาประมง พร้อมด้วยนายโชควัตร ภูมิรินทร์ณัฐภูมิ หัวหน้าฝ่ายบริหารจัดการการประมง สำนักงานประมงจังหวัดสุรินทร์ ได้เดินทางไปตรวจสอบปลาบึก หลังจากนางลำหวน  จงหาญ ผู้ใหญ่บ้านตะกอยอด ได้แจ้งให้สำนักงานประมงจังหวัดสุรินทร์ ให้มาตรวจสอบหาที่มาที่ไปของปลาบึกสองตัวที่ชาวบ้านช่วยกันจับขึ้นมา พร้อมเล่าให้ฟังว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา มีชาวบ้านเห็นปลาขนาดใหญ่ว่ายน้ำไปมาข้าง หนองตะกอยอด ชาวบ้านเลยชวนกันมาจับ ซึ่งชาวบ้านรวมตัวกันกว่า 10 คน ได้ช่วยกันจับ โดยใช้อุปกรณ์ที่มีในหมู่บ้าน ทั้งอวน (มุ้งเขียว) และแห ลงจับตั้งแต่เช้ายันบ่าย จึงสามารถจับปลาได้ทั้ง 2 ตัว ตัวแรกมีขนาดความยาว 2.20 เมตร หนักถึง 180 กก. อีกตัวมีความยาว 2 เมตร หนัก 150 กก.

ทั้งนี้ นางลำหวน  จงหาญ ผู้ใหญ่บ้านตะกอยอด เล่าให้ฟังอีกว่า หนองตะกอยอด มีพื้นที่ 50 ไร่ เคยทำหนังสือขอปลาบึกจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสุรินทร์ จำนวน 4 ตัว มาปล่อยไว้ เมื่อปี 2537 หรือ 19 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านก็เคยจับได้แต่ตัวไม่ใหญ่ขนาดนี้ และปลาบึกที่จับได้ในครั้งนี้สร้างความฮือฮาให้กับชาวในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียง  และในเวลาต่อมาปลาบึกตัวที่มีน้ำหนัก 180 กก. ก็ตายลง ส่วนปลาบึกที่จับได้อีกตัว ได้นำไปปล่อยคืนหนองน้ำตะกอยอดเพื่ออนุรักษ์และไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ ต่อไป



อุทัย  มานาดี /ข่าว

โรงพยาบาลสุรินทร์ เชิญชวนทำบุญทอดกฐินมหากุศลเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ตามวัดต่างๆ

ดร.นพ.ธงชัย ตรีวิบูรย์วณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ คณะข้าราชการและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ขอเชิญทำบุญทอดกฐินมหากุศลเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์วัดต่างๆ ดังนี้ วันพฤหัสที่ 25 ตุลาคม 2556 เวลา 09.42 น. ประกอบพิธีทอดกฐินมหากุศล ณ วัดปราสาทจอมพระ อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ ,วันอังคาร ที่ 29 ตุลาคม 2556 เวลา 10.00 น. ประกอบพิธีทอดกฐินมหากุศล ณ วัดไตรรัตนาราม ลาวลา อ.เมือง จ.สุรินทร์, วันอาทิตย์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2556เวลา 10.12 น. ประกอบพิธีทอดกฐินมหากุศล ณ วัดศาลา อ. บัวเชด จ.สุรินทร์ จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมทำบุญทอดกฐินมหากุศลในครั้งนี้ ได้ที่กลุ่มการเงินโรงพยาบาลสุรินทร์ โทร 044-511030 บริจาคเข้าบัญชี "กฐินมหากุศล โรงพยาบาลสุรินทร์" ธ.กรุงไทย สาขาถนนหลัดเมือง จ.สุรินทร์หมายเลขบัญชี 382-0-31632-8

พ่อค้า - แม่ค้า ที่ตลาดช่องจอม เร่งสั่งผ้าห่มและเสื้อกันหนาวมือ 2 กักตุนไว้จำหน่ายรับลมหนาว

วันนี้ (11 ต.ค. 56) ที่ ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมคึกคักเพราะใกล้ถึงฤดูหนาว ส่งผลให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ประมาณกว่า 70 - 80 ร้าน ต่างพากันซื้อผ้าห่มกันหนาวมือสอง นำเข้าจากประเทศเกาหลีเข้ามากักตุนเตรียมไว้จำหน่ายให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวชาวไทยที่นิยมมาเลือกซื้อสินค้าในตลาดการค้าชายแดนช่องจอมจำนวนมาก ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ซึ่งใกล้จะมาถึง โดยเฉพาะผ้าห่มกันหนาวมือ 2 ที่ได้รับความนิยมในช่วงฤดูหนาว จากทั้งประชาชนชาว นักท่องเที่ยวและบรรดาพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยที่มักจะมารับซื้อไปขายต่ออีกทอด  ซึ่งมีมาจากหลายจังหวัดทั้งภาคกลางและภาคอีสาน                      

นาย ชอน เดีย พ่อค้าชาวกัมพูชารายหนึ่ง  เปิดเผยว่า ผ้าห่มกันหนาวมือ 2 นำเข้าจากประเทศเกาหลีมาขายที่นี่ 6 ปีแล้ว  ซึ่งผ้าห่มมือ 2 ก็มีขายทุกวัน  แต่ขายไม่ดี โดยเฉพาะปีไหนที่อากาศหนาวเย็นมาก มักจะขายดีกว่า 3 เท่าตัวจากฤดูปกติ ซึ่งมีตั้งแต่ราคาผืนละ 50, 120, จนถึงผืนละ 200 บาท แล้วแต่ขนาดและชนิดของเนื้อผ้า ปีนี้ได้ซื้อของมากักตุนไว้ล่วงหน้า  เพราะเมื่อถึงฤดูหนาวแล้วเกรงจะไม่มีของขาย  อย่างไรก็ตามคาดหวังว่าปีนี้อากาศจะหนาว
     
ทางด้านนายพัฒนา ชื่นยง ผจก.ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมฯ  กล่าวว่า ปีนี้พบว่า พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชานำสินค้าเครื่องกันหนาว เข้ามากักตุนที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอมเพื่อไว้หน่ายจำนวนมาก โดยเฉพาะเสื้อผ้ากันหนาวและผ้าห่มกันหนาวมือ 2 ที่มีการนำเข้ามาจำนวนมาก เพื่อเตรียมไว้ขายในช่วงหน้าหนาวที่จะถึงนี้ และคาดว่าปีนี้อากาศคงจะหนาวเย็น ทำให้สินค้าเสื้อผ้ากันหนาวมือ 2 และผ้าห่มมือ 2 สามารถทำให้เงินสะพัดในช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึงนี้



อุทัย  มานาดี / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญร่วมแข่งขันเรือยาวชิงความเป็นหนึ่งแห่งสายน้ำมูล

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อำเภอท่าตูม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่อำเภอท่าตูม เทศบาลตำบลท่าตูม และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดจัดงาน "ประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ จังหวัดสุรินทร์” ประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 26-27 ตุลาคม 2556 ที่ ลำน้ำมูล บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 เทศบาลตำบลท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ลำน้ำมูล สายน้ำที่เปรียบเสมือนสายเลือดใหญ่ของชาวอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนมาเป็นเวลาช้านานมากกว่า 100 ปี ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของความเป็นเมืองท่า อันมีความสำคัญด้านคมนาคมทางน้ำที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ ชาวท่าตูมจึงมีความผูกพันกับสายน้ำมูล ดังนั้นหลังฤดูกาลเก็บเกี่ยวชาวท่าตูมทุกหมู่บ้านจะร่วมกันเฉลิมฉลองพร้อมร่วมรำลึกพระคุณของแม่น้ำมูล โดยนำเรือยาวมาทอดกฐินเพื่อทอดถวายพร้อมกัน และนำเรือยาวมาแข่งขันกันเพื่อความสนุกสนานรื่นเริงพร้อมสร้างความสามัคคี ซึ่งได้ถือปฏิบัติกันมาจวบจนปัจจุบัน จังหวัดสุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้กำหนดจัดงาน "ประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ จังหวัดสุรินทร์” ประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 26-27 ตุลาคม 2556 ที่ ลำน้ำมูล บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 6 รอบ 12 สิงหาคม 2547 เทศบาลตำบลท่าตูมจังหวัดสุรินทร์ กิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ ขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานบนหลังช้าง ขบวนพาเหรดวิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง การแข่งขันเรือใหญ่ 55 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การแข่งขันเรือยาวกลาง 40 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ การแข่งขันเรือยาวกลาง เรือท้องถิ่น 40 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และการแข่งขันเรือยาวเล็ก 30 ฝีพายชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และการแสดงสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP)

ทั้งนี้ สามารถเดินทางท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเทศบาลตำบลท่าตูม โทร. 0-4459-1166 โทรสาร. 0-4459-1058 ททท. สำนักงานสุรินทร์ โทร. 0 4451 4447- 8 โทรสาร. 0 4451 8530 E-mail : tatsurin@tat.or.th www.tourismthailand.org/surin Facebook : www.facebook.com/TATSurinOffice หรือโทร. 1672

เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ กำหนดแผนออกรับบริจาคโลหิตช่วงตุลาคม 56 นี้

นายนิรันดร์  กัลยาณมิตร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกับสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ และธนาคารเลือดโรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ จัดทำแผนรับบริจาคโลหิตเป็นประจำทุก 3 เดือน เพื่อออกรับบริจาคโลหิตตามหน่วยงาน ราชการ อำเภอ และสถานศึกษาต่างๆ ตามพื้นที่จังหวัด จึงขอเชิญชวนผู้บริจาคโลหิตและประชาชนที่ประสงค์จะบริจาคโลหิตให้เหล่ากาชาดทราบโดยทั่วกัน

สำหรับกำหนดการออกรับบริจาคโลหิต ประจำเดือนตุลาคม 2556  มีดังนี้ วันที่ 22 ตุลาคม 2556 ที่หอประชุมอำเภอลำดวน วันที่ 24 ตุลาคม 2556 ที่ศาลาการเปรียญวัดเทพมงคล ตำบลโนน อำเภอศรีณรงค์ วันที่ 28 ตุลาคม 2556 ที่หอประชุมโรงเรียนขนาดมอญพิทยาคม และวันที่ 30 ตุลาคม 2556 ที่หอประชุมอำเภอศีขรภูมิ ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคโลหิตได้ตามวัน และสถานที่ดังกล่าว ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป

นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้บริจาคโลหิตครบ 50, 75 และ 100 ครั้ง จะได้รับเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 3, 2 และ 1 ตามลำดับ ส่วนผู้ที่บริจาคโลหิตครั้งแรก และครบครั้งที่ 7 จะได้รับเข็มผู้บริจาคโลหิตครบครั้ง และสิทธิอื่นๆ อีกด้วย



สุวิทย์ เอี่ยมสอาด / ข่าว

จ.สุรินทร์ ส่งเสริมคุณค่าทางอาหารของไข่

กรมปศุสัตว์กล่าวถึงคุณค่าทางอาหารของไข่ ว่า ไข่ เป็นแหล่งอาหารที่ดี ส่วนประกอบที่สำคัญของไข่ คือ โปรตีน และยังอุดมไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่ที่สำคัญ โดยเฉพาะไข่ขาว เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ และไข่แดง ก็มีคุณค่าอาหารสูง ประกอบด้วยไขมัน และโปรตีนเล็กน้อย วิตามิน เอ ดี อี เกลือแร่ แร่ธาตุต่างๆ ได้แก่ ฟอสฟอรัส เหล็ก แคลเซียม และมีสังกะสี ไอโอดีน และซีลีเนียม สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินบีโฟเลต ไขมันไม่อิ่ม ข้อควรปฏิบัติเมื่อรับประทานไข่

1. ควรเก็บไข่ไว้ในตู้เย็น เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์

2. ควรบริโภคไข่ให้หมดภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากซื้อ

3. ล้างมือทุกครั้งทั้งก่อนและหลังสัมผัสไข่

4. เช็ดเปลือกไข่ที่สกปรกให้สะอาด

5. ไม่ควรบริโภคไข่ที่เปลือกไข่แตก หรือ บุบ ร้าว

6. ไม่บริโภคไข่ที่หมดอายุ หากไม่แน่ใจ ให้ทดสอบโดยนำไข่ไปลอยน้ำ หากไข่จมแสดงว่าไข่ยังสดอยู่ แต่ถ้าลอยหรือมีกลิ่นแสดงว่าไข่เน่าเสีย คำแนะนำในการบริโภคไข่ไก่ให้เป็นประโยชน์
       1. เด็ก ๆ ควรรับประทานไข่วันละ 1 ฟอง
       2. วัยหนุ่มสาวควรบริโภคไข่ไก่ไม่เกินวันละ 2 ฟอง
       3. ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรบริโภคไข่ไก่ไม่เกิน วัน ละ 1 ฟอง
      4. แต่สำหรับชายวัยฉกรรจ์ไข่ไก่มีประโยชน์อย่างยิ่ง - ไข่ไก่ช่วยให้ร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่า กระชุ่มกระชวย ช่วยให้พลังงานกับร่างกายอย่างเต็มที่ - ไข่ไก่ช่วยทดแทนพลังงานที่ร่างกายสูญเสียไป ไข่กับโคเลสเตอรอล

คนส่วนใหญ่มักคิดว่าการกินไข่มาก ๆ ทำให้ปริมาณคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง เพิ่มอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งที่ไข่ประกอบด้วย คลอเลสเตอรอล 200 มิลลิกรัม ในแต่ละวัน ร่างกายต้องการคลอเรสเตอรอลจากอาหารวันละ 300 มิลลิกรัม ดังนั้นการกินไข่มีผลต่อระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดเพียงเล็กน้อย และบางครั้งการกินไข่ อาจไม่มีผลต่อระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดมากเท่ากับการกินเนื้อสัตว์ที่มีปริมาณไขมันชนิดอิ่มตัวสูง

จ.สุรินทร์ พบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 14 ราย พร้อมแนะ "3 ห้าม 2 ให้” ป้องกันจมน้ำเสียชีวิต หลังฝนตกหนัก น้ำท่วมสูง

นายแพทย์สอาด วีระเจริญ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่าจังหวัดสุรินทร์พบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ ในช่วงวันที่ 19 กันยายน – 10 ตุลาคม 2556 สูงถึง 14 ราย จึงขอแนะนำประชาชนให้ ใช้หลัก "3 ห้าม 2 ให้” เพื่อป้องกันการจมน้ำ ได้แก่ 3 ห้าม คือ ห้ามหาปลา/ เก็บผัก ห้ามดื่มสุรา ห้ามเล่นน้ำ และ 2 ให้ คือ ให้สวมเสื้อชูชีพ หรือนำอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ติดตัวไปด้วย เช่น ถังแกลลอน/ขวดน้ำพลาสติกเปล่าปิดฝา ให้เดินทางเป็นกลุ่ม หากพื้นที่ใดยังมีน้ำท่วมอยู่ไม่ควรลงไปเล่นน้ำ ควรสำรวจและเฝ้าระวังรอบๆ บ้านและรอบชุมชนที่เสี่ยงต่อการพลัดตกน้ำและจมน้ำ ผู้ประกอบอาชีพทางน้ำ เช่น หาปลา งมหอย ควรเตรียมความพร้อมของร่างกาย ให้เหมาะสม ไม่ควรออกไปตามลำพัง ผู้มีโรคประจำตัวไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เช่นผู้ป่วยโรคลมชัก เครียด ความดันโลหิตต่ำ ไม่ควรอยู่ตามลำพัง ในกรณีช่วยเหลือเด็กที่จมน้ำ ห้ามจับเด็กที่จมน้ำอุ้มพาดบ่าหรือวางบนกระทะคว่ำเพื่อเอาน้ำออก เพราะเป็นวิธีที่ผิด และจะทำให้เด็กขาดอากาศหายใจนานยิ่งขึ้น ควรรีบช่วยด้วยการเป่าปากและนวดหัวใจ พร้อมทั้งรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

เรือนจำกลางสุรินทร์ จัดงานวันสถาปนากรมราชทัณฑ์ครบรอบ 98 ปี

นายเทิดศักดิ์ อังพัฒนพงษ์ นักทัณฑวิทยาชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า เนื่องด้วยในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2556 เป็นวันสถาปนากรมราชทัณฑ์ครอบรอง 98 ปี เพื่อให้นักโทษเด็ดขาดได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม เรือนจำกลางสุรินทร์ ได้จัดกิจกรรมในวันที่ 13 ตุลาคม 2556 เวลา 07.00 น. ประกอบพีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง และประกอบพิธีอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ต้องขังที่ล่วงลับไปแล้ว ที่ บริเวณภายในเรือนจำกลางสุรินทร์ เวลา 09.00 น ให้นักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการอนุมัติให้ออกทำงานนอกเรือนจำ จำนวน 56 ราย ร่วมกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยกำหนดให้ความช่วยเหลือในการซ่อมแซมปรับปรุงอาคารสถานที่ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่น ๆ ที่ โรงเรียนบ้านหนองเตา บ้านละเอาะ ตำบลเฉนียง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ขอเชิญเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้โดยทั่วกัน ตามวันและเวลาดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

จังหวัดสุรินทร์ เปิดการแข่งขันกีฬา “สิงห์สุรินทร์เกมส์ 2013” เพื่อสร้างความรักความสามัคคีแก่นักปกครอง


จังหวัดสุรินทร์ เปิดการแข่งขันกีฬา "สิงห์สุรินทร์เกมส์ 2013” เพื่อสร้างความรักความสามัคคีแก่นักปกครอง วันนี้ (11 ต.ค.) เวลา 13.30 น.

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดการแข่งขันกีฬา "สิงห์สุรินทร์เกมส์ 2013” ที่สนามกีฬาศรีณรงค์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายอำเภอทุกอำเภอ และข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ทั้ง 17 อำเภอ กว่า 200 คน ร่วมการแข่งขัน นายถาวร กุลโชติ ปลัดจังหวัดสุรินทร์ กล่าวรายงานว่า การจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าว เป็นความร่วมมือกันระหว่างปกครองจังหวัดสุรินทร์ร่วมกับชมรมคนปกครองจังหวัดสุรินทร์ จัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างหัวหน้าส่วนราชการฝ่ายปกครอง พนักงานราชการ ลูกจ้าง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมให้บุคคลากรในสังกัดได้มีโอกาสออกกำลังกาย และเพื่อสร้างความสามัคคีในหมู่ข้าราชการฝ่ายปกครองทุกระดับ โดยมีการแข่งขันกีฬาพื้นเมือง อาทิ ตีกอล์ฟมะเขือยาว วิ่งสามขา วิ่งกระสอบ กีฬาแชร์บอล การแข่งขันชักเย่อ และไฮไลท์ของงานคือ การเตะปิ๊ปไปให้ไกลที่สุด ของข้าราชการฝ่ายปกครอง โดยผู้ที่ได้ที่ 1 คือ นายอำเภอบัวเชด ที่ 2 นายอำเภอกาบเชิง ที่ 3 ปลัดจังหวัด ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้อันดับ 4 จากนั้นเป็นการแข่งขันฟุตบอล สิงห์เฒ่ากับสาววัยทีน โดยฝ่ายสาวไม่มีกติกาใด ๆ แถมมีจำนวนไม่จำกัดด้วย ซึ่งการจัดการแข่งขันกีฬาจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี 

สรรพสามิตพื้นที่สาขาเมืองนครพนมประกาศห้ามจำหน่ายสุราในงานประเพณีไหลและงานกาชาด ประจำปี 2556

นายชัยสิทธิ์  ธรรมกิจไพโรจน์  สรรพสามิตพื้นที่สาขาเมืองนครพนม  เปิดเผยว่า   จังหวัดนครพนมนครพนมจัดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัด ประจำปี 2556  ระหว่างวันที่ 12-20 ตุลาคม  2556  ณ บริเวณจัดงานเริ่มจากสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนมต่อเนื่องไปยังสถานที่ราชการอื่น  สวนสาธารณะ  ถนนสาธารณะ และบริเวณริมฝั่งโขง  ซึ่งการจัดงานของปีที่ผ่านมา  ได้มีผู้มาขอยื่นคำขอรับใบอนุญาตขายสุราเพื่อจะนำไปขายในบริเวณงาน  ทำให้เกิดปัญหาความไม่เข้าใจในกรณีที่เจ้าพนักงานสรรพสามิตไม่พิจารณาออกใบอนุญาตขายสุราให้  เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น  จึงขอให้ผู้มีความประสงค์ดังกล่าวทราบว่า  กรณีมีผู้มายื่นคำขอใบอนุญาตขายสุราเพื่อขายในบริเวณงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาด  เจ้าพนักงานสรรพสามิตจะไม่พิจารณาออกใบอนุญาตให้  เนื่องจากเป็นสถานที่ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551  จึงขอประกาศให้ทราบทั่วกัน

ประกาศหาบุคคลสูญหาย (นายพิทยา พิศลืม)

นายอนุศาสตร์  พลายวิเคราะห์  นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ  รักษาราชการแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  ศูนย์ปฏิบัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดนครพนม  ได้รับการประสานงานจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์  ว่ามีบุคคลสูญหาย 1 ราย  ซึ่งนายพิทยา  พิศลืม  อายุ 57 ปี  เป็นคนพิการทางการได้ยิน (เป็นใบ้ หูหนวก)  เดินทางไปทำงานก่อสร้างที่ซอยพัฒนาการ 20 คลองตัน  กรุงเทพมหานคร  เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์  2556 ได้หายตัวไป  ปัจจุบันไม่สามารถติดต่อได้  เกรงว่าอาจได้รับอันตรายและถูกล่อลวงไปในทางที่เสียหายหรืออาจตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์  เพื่อเป็นการคุ้มครองสวัสดิภาพ  หากผู้ใดมีข้อมูล  เบาะแส  หรือพบเห็นบุคคลดังกล่าว  แจ้งไปที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม  ศาลากลางจังหวัดนครพนม  (หลังใหม่) ชั้น 1 โทรศัพท์ 0-4251-1022 , 0-4251-1506  หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์  โทรศัพท์ 0-4451-1058  หรือแจ้งไปที่นางสาวเสาวนีย์  พิศลืม บ้านเลขที่ 67/2  หมู่ที่ 18  ตำบลเฉนียง  อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์  โทรศัพท์ 08-8349-1032  ในวันเวลาราชการ

จังหวัดนครพนมจัดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาด

จังหวัดนครพนมจัดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาด  เพื่ออนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรม

นายอดิศักดิ์  เทพอาสน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  จังหวัดนครพนมจัดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาด ประจำปี 2556  ระหว่างวันที่ 12-20 ตุลาคม 2556 ณ  บริเวณศาลากลางจังหวัด  ริมฝั่งแม่น้ำโขง  โดยมีกิจกรรมลอยกระทงสาย ไหลเรือไฟโชว์ทุกคืน ชมการประกวดบีบอย  วงดนตรีสตริง  การแสดงศิลปวัฒนธรรม  การแสดงคอนเสิร์ต  สำหรับวันไหลเรือไฟวันที่ 19 ตุลาคม 2556 ชมพิธีรำบูชาองค์พระธาตุพนม  วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร  พิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์ การแห่ปราสาทผึ้ง  เรือโบราณ  ณ บริเวณหน้าศาลหลักเมืองนครพนม  ช่วงคำชมพิธีปล่อยเรือไฟโบราณ  พิธีเปิดงานมหกรรมประเพณีไหลเรือไฟและงานพาข้าวแลง ณ ลานพนมนาคา ริมแม่น้ำโขง  วันที่ 20 ตุลาคม  2556 พิธีตักบาตรเทโว ณ บริเวณหน้าวัดโอกาสอำเภอเมืองนครพนม  สำหรับพิธีเปิดวันที่ 12 ตุลาคม 2556  ชมพิธีเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาด  ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม และรับฟังการถ่ายทอดเสียง ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดนครพนม  เอฟ.เอ็ม. 90.25 เม็กกะเฮิร์ต  ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป

มท.3 เปิดงานประเพณีทอดเทียนโฮม และมอบถุงยังชีพผู้ประสบอุทกภัย จ.ร้อยเอ็ด

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงานประเพณีทอดเทียนโฮม มอบถุงยังชีพน้ำผู้ประสบอุทกภัย อ.เสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 3,000 ชุด มอบนโยบายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ.เสลภูมิ และ อ.ทุ่งเขาหลวง และเป็นประธานเปิดการแข่งขันชกมวยการกุศล วันนี้ (11 ตุลาคม 2556) เวลา 09.00น. นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะเดินทางไปราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่ออนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประจำปี 2556

"ประเพณีทอดเทียนโฮม" ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนตำบลนางาม ตำบลนาเลิง ตำบลขวาว ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน จัดขึ้น ณ โรงเรียนบ้านน้ำเที่ยง ตำบลนางาม อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด โดยมี นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด นายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยนายอำเภอเสลภูมิ หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้า ประชาชน ให้การต้อนรับ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มอบถุงยังชีพให้กับตัวแทนราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วมตำบลนางาม จำนวน 16 หมู่บ้าน 1,607 ครอบครัว ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ประมาณ 8,000 คน ที่นาข้าวถูกน้ำชีและน้ำยังล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมนาข้าวเสียหายสิ้นเชิง กว่า 25,000 ไร่ สร้างความยินดีแก่ราษฎรเป็นอย่างยิ่ง จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะเดินทางไปตรวจโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง บ้านโพธิ์ตาก หมู 6 ต.นางาม ตรวจพื้นที่ประสบอุทกภัย บ้านโพธิ์ชัน หมู่ 5,14, และ 16 ต.นางาม และพื้นที่บ้านคุ้งสะอาด หมู่ 5 ต.นาเลิง อ.เสลภูมิ เสร็จแล้วเดินทางไปมอบนโยบายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ณ หอประชุมอำเภอเสลภูมิ จำนวน 789 คน และหอประชุมอำเภอทุ่งเขาหลวง จำนวน 500 คน จุดสุดท้าย จะเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันชกมวยการกุศล เพื่อหารายได้สมทบกองทุนชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอเสลภูมิ ณ เวทีมวยชั่วคราว บ้านสวน ทองทวีฟาร์ม พักแรมที่บ้านพัก ส.ส.นิรันดร์ นาเมืองรักษ์ เป็นเสร็จภารกิจที่จังหวัดร้อยเอ็ด และรุ่งเช้าเดินทางไปราชการต่อไปที่จังหวัดอุดรธานี


ประเสริฐ อินทา/ข่าว

กกต.ร้อยเอ็ด เชิญชวนเลือกตั้งท้องถิ่น 54 แห่ง 12 ตุลาคม นี้

นายสุวิทย์ ญาตินิยม ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดร้อยเอ็ด มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ครบวาระ จำนวน 54 แห่ง และกำหนดให้วันเสาร์ที่ 12 ตุลาคม 2556 เป็นวันเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในพื้นที่ ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น โดยพร้อมเพรียงกัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น.

หลักฐานที่ใช้แสดงตนในการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรหมดอายุใช้ได้) ใบรับคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชน หรือเปลี่ยนบัตรประจำตัวประชาชนใหม่(ใบเหลือง) ที่ติดรูปถ่ายและประทับตราเจ้าหน้าที่ ใบแทนรับคำขอมีบัตรประจำตัวประชาชนที่ติดรูปถ่ายและประทับตราเจ้าหน้าที่(ใบชมพู) บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับบำเหน็จบำนาญ และบัตรประจำตัวหรือหลักฐานที่ทางราชการออกให้ โดยต้องมีรูปถ่ายและหมายเลขประจำตัวประชาชาชน เช่า ใบขับขี่รถยนต์ หนังเดินทาง(พาสปอร์ต) เป็นต้น

นายสุวิทย์ สำหรับข้อห้ามการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่สำคัญ ๆ เช่น ห้ามซื้อเสียงหรือจัดเตรียมซื้อเสียง ห้ามทำบัตรเลือกตั้งชำรุด ห้ามนายจ้างขัดขวางการไปใช้สิทธิของลูกจ้าง ห้ามจงใจทำเครื่องหมายเพื่อเป็นที่สังเกตไว้ที่บัตรเลือกตั้ง ห้ามเล่นการพนันขันต่อใด ๆ เกี่ยวกับผลการเลือกตั้ง ห้ามรับเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดเพื่อลงคะแนนเลือกตั้ง ห้ามหาเสียงและห้ามขายหรือจัดเลี้ยงสุราตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง ห้ามมิให้ผู้ที่รู้ว่าตนเป็นผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง พยายามลงคะแนนเลือกตั้ง พบเห็นการทำผิดกฎหมายแจ้ง กกต.ร้อยเอ็ด โทร.0-4352-2816-7 "ท้องถิ่นก้าวหน้า ประชาธิปไตยก้าวไกล พร้อมใจเลือกตั้ง”


ประเสริฐ อินทา/ข่าว

นายก อบจ.ร้อยเอ็ด เปิดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน “จากทุ่งกุลาสดใส ก้าวไกลสู่ อาเชียน

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2556 เวลา 09.39 น. ณ อาคารเอนกประสงค์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2 ตำบลดอกไม้ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด นายมังกร ยนต์ตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน "จากทุ่งกุลาสดใส ก้าวไกลสู่ อาเซียน” ปี 2556

นายสกล คามบุศย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2 เปิดเผยว่า ภารกิจของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2 มีจุดเน้นที่จะพัฒนาคุณภาพของนักเรียนให้เป็นคนดี มีความรู้ อยู่อย่างมีความสุข ตามหลักการ จุดหมายของหลักสูตร และพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติได้ตระหนักและเล็งเห็นความสำคัญของการจัดงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรมซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเวทีกิจกรรมให้นักเรียนแสดงความสามารถที่เป็นเลิศด้านทักษะทางวิชาการ ด้านศิลปะ กีฬา ดนตรี การนำ

เสนอผลงานของนักเรียน ครู ให้ปรากฏแก่สาธารณชน มุ่งสู่ความเป็นเลิศและความเป็นสากลในอาเซียน คัดเลือกนักเรียน ครู ผู้บริหารเข้าประกวดแข่งขันในระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 63 ปี 2556 สู่รางวัลทรงคุณค่า

สพฐ. OBEC AWARD ที่จังหวัดนครพนมและมุกดาหาร กำหนดจัดงาน ระหว่างวันที่ 7 – 10 ตุลาคม 2556 ณ บริเวณสำนักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2 โรงเรียนเมืองสุวรรณภูมิ โรงเรียนเมืองใหม่สุวรรณภูมิ โรงเรียนบ้านยางเลิง และวิทยาลัยเทคโนโลยีบริหารธุรกิจรักไทย โดยมีกิจกรรมประกอบด้วยการแข่งขันทักษะทางวิชาการนักเรียน ทั้งภาคความรู้ งานทักษะ งานฝีมือ งานศิลปะ ดนตรี กิจกรรมนิทรรศการผลงานการจัดการศึกษา แลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมครู ผู้บริหาร และอื่น ๆ หลากหลาย ตามนโยบาย Roi-Et 2 Model ซึ่งมีนักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ตลอดทั้งประชาชนผู้สนใจทั่วไป เข้าร่วมและชมงานเป็นจำนวนหลายพันคน


ประเสริฐ อินทา/ข่าว

ตร.บุรีรัมย์เร่งสอบญาติและแรงงานลาวบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหมู่เสียชีวิต 20 คนเจ็บ 6 คน

ตร.บุรีรัมย์เร่งสอบญาติและแรงงานลาวบาดเจ็บจากอุบัติเหตุหมู่เสียชีวิต 20 คนเจ็บ 6 คน พนักงานสอบสวน สภ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เร่งสอบสวนญาติที่เดินทางมารับศพและแรงงานชาวลาวที่บาดเจ็บอุบัติเหตุหมู่ ล่าสุดเสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บนอน รพ.6 ราย เพื่อสาวหาถึงผู้ขบวนการขนแรงงานเถื่อน ทั้งเตรียมออกหมายเรียกสถานประกอบการที่จ้างแรงงานสอบข้อเท็จจริง ( 10 ต.ค. 56 ) พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.บ้านด่าน เร่งสืบสวนสอบสวนญาติแรงงานชาวลาวที่ได้รับบาดเจ็บ และญาติผู้ที่เสียชีวิต จากอุบัติเหตุรถปิคอัพที่ขนแรงงานชาวลาวเดินทางมาจาก จังหวัดสมุทรปราการ ปลายทางอุบลราชธานี มาประสบอุบัติเหตุหมู่ที่บ้านโนนสวรรค์ ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่ได้เดินทางและนำหลักฐานมาแสดงกับเจ้าหน้าที่เป็นญาติ ก่อนจะรับตัวผู้ป่วยกลับไปรักษาต่อ ทั้งมาขอรับศพแรงงานที่เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ที่บ้านเกิดยังประเทศลาว จนถึงขณะนี้ได้มีผู้เสียชีวิตทั้งที่เกิดเหตุและที่โรงพยาบาลแล้วรวม 20 คน บาดเจ็บสาหัส 3 คน พ้นขีดอันตรายแล้ว 3 คน จากที่เดินทางมาทั้งหมด 26 คน ส่วนมากญาติที่มารับจะเดินทางมาจากแขวงสาละวัน 5 คน จำปาสัก 1 คน และแขวงสวรรค์เขต 1 คน รวม 7 คน และญาติยังติดต่อเข้าขอรับศพอยู่อย่างต่อเนื่อง จากการสอบสวนญาติผู้บาดเจ็บและญาติผู้เสียชีวิตชาวลาว มีทั้งเดินทางมาทำงานที่ถูกกฎหมาย และไม่ถูกฎหมาย และยังไม่รู้ที่ไปที่มาของการรับส่งแรงงานดังกล่าว รู้เพียงว่าผ่านนายหน้าอีกทอดหนึ่ง ก่อนที่จะบอกทางบ้านให้ทราบว่าเดินทางกลับเท่านั้น พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนในท้องที่เกิดเหตุ ให้เร่งสอบสวนสาวหาข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน เพราะเป็นเรื่องสำคัญระหว่างประเทศ หากคำให้การของพยานกล่าวอ้างถึงใคร ทั้งเจ้าของรถ ตัวบุคคล และสถานประกอบการที่ถูกอ้างถึง ก็ต้องออกหมายเรียกมาสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อให้คดีดังกล่าวคลี่คลายลงโดยเร็ว ว่ากรณีดังกล่าวเกี่ยวเนื่องกับกลุ่มขบวนการค้าแรงงานข้ามชาติหรือไม่



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์ 

บุรีรัมย์น้ำท่วมขยายวงกว้างล่าสุดประกาศภัยพิบัติเกือบยกจังหวัดราษฎรเดือดร้อนกว่า 58,000 ครัวเรือนเสียชีวิต 2 รายสูญยับกว่า 100 ล้าน

บุรีรัมย์น้ำท่วมขยายวงกว้างล่าสุดประกาศภัยพิบัติเกือบยกจังหวัดราษฎรเดือดร้อนกว่า 58,000 ครัวเรือนเสียชีวิต 2 รายสูญยับกว่า 100 ล้าน บุรีรัมย์สถานการณ์น้ำท่วมยังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ล่าประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว 22 อำเภอเกือบยกจังหวัด ราษฎรเดือดร้อนกว่า 58,000 ครัวเรือน อพยพอยู่ศูนย์พักพิงกว่า 300 ครอบครัว และมีผู้จมน้ำเสียชีวิตแล้ 2 ราย นาข้าวจมน้ำกว่า 189,000 ไร่ คาดมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน ( 11 ต.ค. 56) สถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดบุรีรัมย์ยังขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากอุทกภัยแล้ว 22 อำเภอ จากที่ทั้งจังหวัดมีทั้งหมด 23 อำเภอ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 113 ตำบล 1,010 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 58,825 ครัวเรือน ประชากร 256,847 คน ในจำนวนมีราษฎรที่ประสบอุทกภัยที่ต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิง ที่ว่าการอำเภอโนนดินแดง และวัดบ้านหนองกก กว่า 300 ครอบครัว ทั้งยังชาวบ้านที่ถูกกระแสน้ำพัดเสียชีวิต 2 ราย เป็นเด็ก 1 ราย ผู้ใหญ่ 1 ราย ที่อ.โนนสุวรรณ และจากการสำรวจพบว่าขณะนี้มีพื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วมมากถึง 189,228 ไร่ เสียหายแล้วกว่า 48,000 ไร่ ถนนทั้งสายหลักสายรองถูกน้ำท่วมขังและกัดเซาะพังเสียหาย 262 สาย บ่อปลา 4,567 บ่อ ฝาย ทำนบ 10 แห่ง วัด 3 แห่ง โรงเรียน 4 แห่ง และขณะนี้สถานการณ์น้ำที่ท่วมขังบ้านเรือน ถนน และไร่นาในหลายพื้นที่ยังไม่ลดระดับ ด้านนายณัฐวัฒน์ อ่อนสุวรรณ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำทาง ปภ. รวมถึงส่วนราชการ และภาคเอกชน หลายหน่วย ก็ได้ระดมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งเรือ ถุงยังชีพ น้ำดื่ม ยารักษาโรค และจากการประเมินค่าความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ คาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์
11 ต.ค. 56

บุรีรัมย์ทหาร อปพร.ชาวบ้านเร่งอพยพคนชราผู้พิการและขนข้าวในยุ้งหนีน้ำหลังน้ำมาศเอ่อท่วม 2 ตำบลอ.ชำนิ

บุรีรัมย์ทหาร อปพร.ชาวบ้านเร่งอพยพคนชราผู้พิการและขนข้าวในยุ้งหนีน้ำหลังน้ำมาศเอ่อท่วม 2 ตำบลอ.ชำนิ มวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำแซ๊ะโคราช และน้ำป่าจากเทือกเขาในป่าดงใหญ่ ที่ไหลมาสมทบลงลำน้ำมาศ ได้เอ่อล้นตลิ่งหลากเข้าท่วม 2 ตำบล อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ บ้านเรือน ยุ้งข้าวกว่า 200 หลังจมบาดาล จนท.เร่งอพยพคนชรา ผู้พิการออกจากพื้นที่ไว้จุดปลอดภัย ทั้งระดมขนย้ายข้าวในยุ้งหนีน้ำ ( 10 ต.ค. 56) มวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำแซ๊ะ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา และน้ำป่าจากเทือกในเขตป่าดงใหญ่ ที่ไหลมาสมทบลงลำน้ำมาศ ได้เอ่อล้นตลิ่งหลากเข้าท่วม 2 ตำบล ในพื้นที่อ.ชำนิ มีบ้านเรือนราษฎร ใน 4 หมู่บ้าน มีบ้านหมวดหมู ม. 6 , บ้านละลวด ม.3 ต.ละลวด และ ม.5 ม.7 ต.ช่อผกา ถูกน้ำท่วมเกือบ 200 หลังคาเรือน ทั้งยังมียุ้งข้าวของชาวบ้านจมน้ำอีกกว่า 40 หลัง โดยระดับน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร ไปจนถึง 2 เมตร จนบางครัวเรือนไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ ทางอำเภอต้องประสานกำลังทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ อบต. อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และชาวบ้านกว่า 50 คน เร่งอพยพคนชรา ผู้พิการ และผู้ป่วยที่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ ไปพักอาศัยตามบ้านญาติและตามเต็นท์บนที่สูงที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ ซึ่งขณะนี้ที่ต้องอพยพออกจากบ้านแล้วกว่า 10 หลังคาเรือน ส่วนที่เหลือก็อาศัยอยู่บนชั้นสองของบ้าน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ช่วยกันขนย้ายข้าวเปลือกในยุ้งฉาง ไปไว้บนที่สูงเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกน้ำท่วมเน่าเสียหายด้วย ขณะที่ชาวบ้านบ้านหมวดหมูก็ไม่สามารถใช้รถสัญจรเข้า-ออกหมู่บ้านได้ ทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ก็นำได้เรือมาไว้ให้บริการชาวบ้าน 4 ลำ และทหารก็ได้นำรถ จีเอ็มซี มาให้บริการรับส่งชาวบ้านเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้ว ด้านนางสุพิน สวัสดี ชาวบ้านบ้านหมวดหมู บอกว่า น้ำจากลำน้ำมาศได้เอ่อล้นตลิ่งหลากเข้าท่วมหมู่บ้านแล้ว 3 วัน แต่ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้จะนำกระสอบทรายมาปิดกั้นทางเข้าออกตัวบ้านแล้ว แต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้น้ำยังทะลักเข้าตัวบ้านจนไม่อาศัยอยู่ได้ ทำให้ต้องย้ายพ่อและแม่ที่สูงอายุออกไปอยู่บ้านญาติชั่วคราว ส่วนตนและลูกยังต้องอาศัยอยู่บนชั้นสองของบ้าน เพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน ขณะที่ทรัพย์สินและข้าวของภายในบ้านบางอย่างไม่สามารถขนย้ายได้ทัน ต้องปล่อยจมน้ำเสียหาย แต่สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดขณะนี้คือรองเท้าบู๊ท และยารักษาโรค เพราะต้องเดินลุยน้ำเข้าออกบ้านทุกวัน



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์

เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ มอบหมายให้ผู้แทนคณะ นำเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 500 ชุด มอบให้วัดและประชาชนทีประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ

เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ มอบหมายให้ผู้แทนคณะ นำเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 500 ชุด มอบให้วัดและประชาชนทีประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ต.ค.56 ที่วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ มอบหมายให้ พระราชมังคลาจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ และ พระปีฏกเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เป็นผู้แทนคณะในการนำเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 500 ชุด มอบให้พระภิกษุ สามเณร และประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีพระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะสงฆ์ และหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับ นายวิรอด ไชยพรรณณา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวรายงานถึงสถานการณ์ของวัดและที่พักสงฆ์ ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม นายวิรอด ไชยพรรณณา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหนัก ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้พระภิกษุ สามเณร ตลอดจนวัดและที่พักสงฆ์ ในพื้นที่ 16 อำเภอ จาก 22 อำเภอในจังหวัดศรีสะเกษ ประกอบด้วย อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอกันทรารมย์ อำเภอขุขันธ์ อำเภอขุนหาญ อำเภอบึงบูรพ์ อำเภอปรางค์กู่ อำเภอพยุห์ อำเภอโพธ์ศรีสุวรรณ อำเภอไพรบึง อำเภอภูสิงห์ อำเภอเมืองจันทร์ อำเภอยางชุมน้อย อำเภอวังหิน อำเภอศรีรัตนะ อำเภอห้วยทับทัน และอำเภออุทุมพรพิสัย ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำท่วมปิดทางเข้าออกวัด ทำให้ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ ตามกิจของสงฆ์ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า มีวัด และ ที่พักสงฆ์ ได้รับความเสียหายจำนวน 148 แห่ง พระภิกษุ และสามเณร จำนวน 1,187 รูป ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ทั้งนี้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้นำสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยารักษาโรค ไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ตามวัดต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญเปิดงานประเพณีแข่งเรือยาว ไทย-ลาว ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2556 ที่อำเภอชานุมาน

อำเภอชานุมาน ร่วมกับ เทศบาลตำบลชานุมาน กำหนดจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2556 ในวันที่ 11 – 12 ตุลาคม 2556 ที่ บริเวณแม่น้ำโขง สำนักงานเทศบาลตำบลชานุมาน วันนี้เวลา 09 00 น ที่เทศบาลตำบลชานุมาน นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานพิธีเปิดงานแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2556 โดยมีคณะเจ้าเมืองไซพูทอง คณะเจ้าเมืองสองคอน และชาวเรือจากประเทศ สปป.ลาว เดินทางข้ามลำแม่น้าโขงพร้อมคณะมาร่วมงานเป็นจำนวนมากและยังได้นำเรือจากประเทศลาวเข้ามาร่วมทำการแข่งขันเพื่อเชื่อมความสัมพันธไมตรีไทย-ลาวจำนวนหลายลำอีกด้วยนับว่าเป็นการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทย-ลาวแต่ดั่งเดิม และเป็นการเชื่อมความสัมพันธไมตรี และตลอดจนเป็นการส่งเสริมการค้าของทั้งสองประเทศเป็นอย่างดี และจะมีการเปิดเป็นด่านถาวรไทยลาวที่อำเภอชานุมานในเร็วๆนี้อีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้เศรษฐกิจทั้งสองประเทศดีขึ้นอีกหลายเท่าตัว อีกทั้งยังมีเรือส่งเข้าทำการแข่งขันด้วย โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน

ต่อจากนั้น เวลา 09.30 น. ชมการแข่งขันเรือประเพณี 3 ชุมชน และเริ่มทำการแข่งขันเรือทุกรุ่นในรอบคัดเลือกไปตามลำดับ ซึ่งในปีนี้ จัดให้มีการแข่งขันเรือยาว จำนวน 3 รุ่น ได้แก่ เรือรุ่นจิ๋ว ฝีพายไม่น้อยกว่า 8 คน แต่ไม่เกิน 10 คน , เรือรุ่นเล็ก ฝีพายไม่น้อยกว่า 30 คน แต่ไม่เกิน 35 คน และเรือรุ่นใหญ่ ฝีพายตั้งแต่ 36 คนขึ้นไป ในวันที่ 12 ตุลาคม 2556 ช่วงเช้า เวลา 09.30 น. เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ และในช่วงบ่าย เวลา 14.00 น. เป็นการแข่งขันรองชิงชนะเลิศทั้ง 3 รุ่น สำหรับในปีนี้มีเรือเข้าร่วมการแข่งขันและกองเชียร์ร่วมกิจกรรม ประกอบด้วย 1 บ้านนาสีดา (รุ่นขุนเดช, เพชรน้ำหนึ่ง) 2 บ้านนาสีดาน้อย (เรือนางพญาหงส์คำ) 3 บ้านศรีสมบูรณ์ (เรือเทพพระศิวะ 1, เรือเทพพระศิวะ 2) 4 บ้านยักษ์คุ (เรือเทพพรชัย) 5 บ้านชานุมาน (เรือศรีมิ่งเมือง 1, เรือศรีมิ่งเมือง 2) 6 บ้านคันสูง (เรือสาวสวยคันสูง) 7 บ้านบุ่งเขียวบุ่งสมบัติ (เรือเจ้าแม่ไทรทอง 99) นอกจากการแข่งขันเรือยาวแล้ว ในภาคกลางคืนในงานยังมีการแสดงมหรสพของนักร้องศิลปินชื่อดัง คืนวันที่ 11 ตุลาคม ชมคณะบัวริมบึง , เสถียร ทำมือ , และเอิ้นขวัญ วรัญญา คืนวันที่ 12 ตุลาคม ชมคณะน้องใหม่เมืองชุมแพ โอกาสนี้จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยว ไปเที่ยวชมงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2556 ที่ บริเวณแม่น้ำโขง สำนักงานเทศบาลตำบลชานุมาน อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ 

ขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญ จัดโครงการออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการ โดยรถโมบายสำหรับใช้ในการทดสอบภาคทฤษฏี เพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-exam) ประจำเดือนตุลาคม 2556

ขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญ การออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการ โดยรถโมบายสำหรับใช้ในการทดสอบภาคทฤษฏี เพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-exam) ประจำเดือนตุลาคม ที่อำเภอเสนางคนิคม นายรัตนะ เวชวิทยาขลัง ขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญจะเปิดให้บริการ เพื่อขอรับใบอนุญาตขับรถอย่างทั่วถึง ในวันหยุดทำการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระหว่างวันที่ 19 ตุลาคม 2556 - 21 กันยายน 2557 เพื่อบริการประชาชนที่อยู่ท้องถิ่นห่างไกล ให้ได้รับบริการด้านใบอนุญาตขับรถอย่างทั่วถึง และได้รับความรู้ด้านกฏหมายที่เกี่ยวข้องในการขับรถให้ปลอดภัย ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ ซึ่งให้บริการจำนวนจำกัด วันละ 100 คน สำหรับอัตราค่าธรรมเนียม รถยนต์ส่วนบุคคล จำนวนเงิน 605 บาท รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล จำนวนเงิน 355 บาท สำหรับเดือนตลาคม 2556 มีกำหนดการ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเสนางคนิคม ในวันที่ 19-20 ต.ค. 2556 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ทั้งนี้ ผู้สนใจติดต่อขอทราบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายทะเบียนรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดอำนาจเจริญ โทรศัพท์หมายเลข 0-4552-4034-35 ในวันเวลาราชการ



สิทธิเดช นนทพรหม /ข่าว
ตรวจ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๖

กฟผ. เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 8 บานของเขื่อนปากมูล อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เพื่อลดระดับน้ำท่วมในชุมชน 2 ฝั่งแม่น้ำมูล

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 8 บานของเขื่อนปากมูล อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี เพื่อลดระดับน้ำท่วมในชุมชน 2 ฝั่งแม่น้ำมูล

จังหวัดอุบลราชธานี แม้ระดับแม่น้ำมูลปรับตัวลดลงต่อเนื่องเฉลี่ยวันละ 10-15 เซนติเมตร แต่ยังมีผลกระทบต่อประชาชนในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบและเทศบาลนครอุบลราชธานี ยังต้องอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพ เพราะบ้านยังมีระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1-2 เมตร เช่นเดียวกับทางหลวงเชื่อมระหว่าง 2 อำเภอดังกล่าว ยังมีน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร รถเล็กไม่ควรผ่าน นายครรชิต คงสมของ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระบุว่า ประชาชน จำนวน 1,627 ครอบครัว หรือ 5,831 คน สามารถอพยพกลับไปอยู่ในบ้านได้ตามปกติ ส่วนอีก 2,367 ครอบครัว หรือ 7,051 คน ยังต้องอยู่ในศูนย์อพยพทั้ง 37 แห่งในอำเภอเมืองอุบลราชธานี และเทศบาลเมืองวารินชำราบ เพราะบ้านเรือนยังมีน้ำท่วมสูง สำหรับระดับน้ำที่สะพานเสรีประชาธิปไตย อ.เมืองอุบลราชธานี สูง 8.79 เมตร จึงยังมีน้ำล้นตลิ่งอยู่ 1.79 เมตร ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ยังเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 8 บานของเขื่อนปากมูล อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ซึ่งใช้กั้นแม่น้ำมูลก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อลดระดับน้ำท่วมในชุมชน 2 ฝั่งแม่น้ำมูล ทั้งนี้ เขื่อนปากมูล ทำการระบายน้ำออกจากเขื่อน วันละกว่า 160 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้ระดับน้ำหน้าเขื่อนปากมูลต่ำกว่าระดับกักเก็บที่ถึง 7 เมตร ตามปกติหากไม่มีปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ด้านเหนือน้ำ เขื่อนปากมูลจะปิดประตูระบายน้ำตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นมา ตามมติ ครม.ที่ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เปิดประตูระบายน้ำเขื่อนปากมูลทั้ง 8 บาน เพื่อให้ปลา และสัตว์น้ำจากแม่น้ำโขงว่ายขึ้นมาวางไข่ในแม่น้ำมูลระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เป็นเวลา 4 เดือนเป็นประจำทุกปีด้วย



Rewriter.....อังกฤษ ทองสัมฤทธิ์
08-0625-2538 ทีมข่าว สวท.อุบลราชธานี
สปข.2 /11 ตุลาคม 2556 

เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ มอบหมายให้ผู้แทนคณะ นำเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 500 ชุด

เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ มอบหมายให้ผู้แทนคณะ นำเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 500 ชุด มอบให้วัดและประชาชนทีประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ต.ค. 56 ที่วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ตำบลเมืองใต้ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ มอบหมายให้ พระราชมังคลาจารย์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ และ พระปีฏกเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เป็นผู้แทนคณะในการนำเครื่องอุปโภคบริโภคจำนวน 500 ชุด มอบให้พระภิกษุ สามเณร และประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีพระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นำคณะสงฆ์ และหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ ให้การต้อนรับ นายวิรอด ไชยพรรณณา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวรายงานถึงสถานการณ์ของวัดและที่พักสงฆ์ ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วม นายวิรอด ไชยพรรณณา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมหนัก ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้พระภิกษุ สามเณร ตลอดจนวัดและที่พักสงฆ์ ในพื้นที่ 16 อำเภอ จาก 22 อำเภอในจังหวัดศรีสะเกษ ประกอบด้วย อำเภอเมืองศรีสะเกษ อำเภอกันทรารมย์ อำเภอขุขันธ์ อำเภอขุนหาญ อำเภอบึงบูรพ์ อำเภอปรางค์กู่ อำเภอพยุห์ อำเภอโพธ์ศรีสุวรรณ อำเภอไพรบึง อำเภอภูสิงห์ อำเภอเมืองจันทร์ อำเภอยางชุมน้อย อำเภอวังหิน อำเภอศรีรัตนะ อำเภอห้วยทับทัน และอำเภออุทุมพรพิสัย ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากน้ำท่วมปิดทางเข้าออกวัด ทำให้ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ ตามกิจของสงฆ์ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบ พบว่า มีวัด และ ที่พักสงฆ์ ได้รับความเสียหายจำนวน 148 แห่ง พระภิกษุ และสามเณร จำนวน 1,187 รูป ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ ทั้งนี้ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้นำสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยารักษาโรค ไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ตามวัดต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น

มท 2 ลงพื้นที่ร้อยเอ็ดตรวจพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เตรียมสร้างพนังกั้นน้ำ งบประมาณ 51 ล้านบาท พร้อมมอบนโยบายแก่กำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเสลภูมิ และอำเภอทุ่งเขาหลวง

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2556 นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการมหาดไทย ได้ลง พื้นที่อำเภอเสลภูมิ อำเภอทุ่งเขาหลวง จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อตรวจพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก โดยมีนาย สมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วยนายอำเภอเสลภูมิ นายอำเภอทุ่งเขาหลวง หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้การต้อนรับ โดยเวลา 09.30 น. เดินทางไป ที่บ้านน้ำเที่ยง หมู่ 10 ตำบลนางาม อำเภอเสลภูมิ เพื่อเปิดงานสืบสานประเพณีทอดเทียนโฮม เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และชมการขับร้องสรภัญญะ การแสดงเดี่ยวดีดพิณ ขบวนแห่เทียน จากนั้นได้เดินทางไปที่บ้านโพธิ์ตาก หมู่ที่ 6 ตำบลนางาม ดูพื้นที่ จะสร้างพนังกั้นน้ำ งบประมาณ 51 ล้านบาท เพื่อเก็บกักน้ำใช้ทำการเกษตรในฤดูแล้ง

จากนั้นเวลา 13.30 น. ได้มอบนโยบาย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ณ ที่ว่าการอำเภอเสลภูมิ และอำเภอทุ่งเขาหลวง โดยมีประเด็นหลักๆ คือให้สอดส่อง ดูแล อย่างใกล้ชิดลูกหลานไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ในการประชุมข้อราชการต่างๆ การแจ้งเหตุด่วน ข่าวสารของทางราชการของกำนันผู้ใหญ่บ้านโดยผ่าน smart phon เพื่อความรวดเร็ว และสุดท้ายคือเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ หากเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกพระองค์ ติดอยู่ในที่ที่ไม่เหมาะสม หรือฉีกขาดให้ช่วยกันแก้ไข ให้เหมาะสมต่อไป จากนั้น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบถุงยังชีพให้แก่ราษฎร อำเภอทุ่งเขาหลวง จำนวน 400 ถุง



บุญมี/ ข่าว
 กมลพร คำนึง บก ข่าว
สปชส ร้อยเอ็ด

ยโสธรประชุมคณะกรรมข้าวเฝ้าติดตามการรับจำนำ ปี 56-57

จังหวัดยโสธร ประชุมคณะอนุกรรมการ รับจำนำข้าว ป้องกันการรั่วไหลและทุจริต  ที่ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายประวัติ  ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน ประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต2556/57 จังหวัดยโสธร  เพื่อทบทวน โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ทุกขั้นตอน ที่จะทำให้เกิดปัญหาและขาดประสิทธิภาพ รวมทั้งรับฟังข้อคิดเห็นจากคณะอนุกรรมการฯ และผู้เกี่ยวข้อง ในการปรับปรุง โครงการรับจำนำข้าว เพื่อป้องกันการรั่วไหล และเกิดการทุจริต  จังหวัดยโสธรเริ่มรับจำนำข้าว วันที่ 1 ตุลาคม 2556  ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ตั้งแต่ เวลา 08.00-18.00 น. ทุกวันไม่เว้นวันหยุด โรงสีที่เข้าร่วมโครงการ ต้องรับจำนำได้ไม่เกิน 30 เท่าของกำลังการผลิต วงเงินที่รับจำนำข้าวเปลือกไม่เกินรายละ 350,000 บาท และต้องเป็นลูกค้า ธ.ก.ส  นายประวัติ  ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร จึงได้มอบนโยบายให้นายอำเภอทุกอำเภอ ไปประชุมชี้แจงทำความเข้าใจกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทราบถึง กฎระเบียบ หลักเกณฑ์ข้อบังคับ ที่ชัดเจน ในการนำข้าวเข้ามารับจำนำในโครงการ

ผู้ว่าฯมุกดาหารเปิดโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลดงเย็น

ที่บริเวณสนามหน้าโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลดงเย็น อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้เป็นประธานเปิดโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลดงเย็นพร้อมเปิดอาคารเรียน ที่ได้รับงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นในการก่อสร้าง เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นและตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาของเด็ก โดยมีนายประภาส เที่ยงโยธา นายกเทศมนตรีตำบลดงเย็น กล่าวรายงาน พร้อมด้วยส่วนราชการ บุคลากรของโรงเรียน และคณะผู้ปกครอง ร่วมในพิธีเปิด

นายประภาส เที่ยงโยธา นายกเทศมนตรีตำบลดงเย็นได้กล่าวว่า เทศบาลตำบลดงเย็น ได้ประกาศให้มีการจัดตั้งโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลดงเย็น สังกัดเทศบาลตำบลดงเย็น อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เมื่อวันที่ 6มิถุนายน 2551เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นที่มีความประสงค์จะส่งบุตรหลานเข้าเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาลฯ โดยขออนุมัติใช้ที่ดินของนิคมสหกรณ์ดงเย็น จำนวน 20ไร่ ซึ่งปัจจุบันโรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำบลดงเย็น ได้เปิดดำเนินการเรียนการสอน ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่4โดยมีครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 15คน เด็กนักเรียนที่เข้ารับการศึกษาในโรงเรียน จำนวน 222คน แต่ยังไม่ได้มีการเปิดโรงเรียนอย่างเป็นทางการ จึงได้มีพิธีเปิดในวันนี้ และในปีงบประมาณ พ.ศ.2556เทศบาลตำบลดงเย็น ได้รับการอุดหนุน งบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน 7,123,800บาท ในการก่อสร้างอาคารเรียนขนาด 3 ชั้น จำนวน 12 ห้องเรียน ปัจจุบันการดำเนินการก่อสร้างอาคารเรียนได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

คณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมุกดาหารพิจารณาโครงการของชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร

วันนี้ (๑๑ ต.ค. ๕๖) นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมุกดาหาร โดยคณะกรรมการได้ร่วมกันพิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการ "รักษ์สิ่งแวดล้อมในครัวเรือนด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ”ซึ่งเป็นกลุ่มของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร

ภายหลังการประชุม นางสาวณัชยา ช่างแกะ ท้องถิ่นจังหวัดมุกดาหารกล่าวว่า คณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมุกดาหาร ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนโครงการซึ่งจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ ตามระเบียบคณะกรรมการดำเนินโครงการพัฒนาเมืองว่าด้วยการบริหารโครงการพัฒนาเมือง พ.ศ.๒๕๕๖ สำหรับกลุ่มประชาชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ที่ส่งโครงการ "รักษ์สิ่งแวดล้อมในครัวเรือนด้วยเทคโนโลยีจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ”นำโดยประธานกลุ่ม นางวันเพ็ญ พุ่มจันทร์ เข้ารับการพิจารณาขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนฯ โดยคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองจังหวัดมุกดาหารมีความเห็นชอบโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นโครงการในพื้นที่ชุมชนเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร ทั้งนี้ จังหวัดมุกดาหารจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนและจัดส่งโครงการดังกล่าวไปยังส่วนกลาง เพื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์และขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่อไป สำหรับกลุ่มประชาชนในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารที่สนใจ สามารถเสนอโครงการเพื่อเข้ารับการพิจารณาได้ที่ สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดมุกดาหาร ศาลากลางจังหวัดชั้น ๕ โทรศัพท์ ๐๔๒ ๖๑๔๘๑๒



นางสุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ชาวจังหวัดนครราชสีมา แห่ชมนิทรรศการ สร้างอนาคตไทย 2020 อย่าง เนืองแน่น

วันนี้ (11 ต.ค. 56) เวลา 09.00 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เป็นประธานเปิดงานโรดโชว์ "สร้างอนาคตไทย 2020” ครั้งที่ 2 ขึ้น ที่อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมกับแสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "สร้างอนาคตไทย 2020” โดยมี ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าต้อนรับ ซึ่งภายในงานได้รับความสนใจจาก ข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน และนักเรียนนักศึกษา ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียงร่วมงานกว่า 5,000 คน สำหรับการจัดโรดโชว์ "สร้างอนาคตไทย 2020” ครั้งนี้ ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการเป็น 2 ส่วน 9 โซน เพื่อให้ประชาชนได้ชมและศึกษาเกี่ยวกับอนาคตไทยในปี ค.ศ.2020 โดยกำหนดจัดขึ้นที่อาคารเรียนรวมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 11 – 13 ต.ค.นี้

ทั้งนี้ส่วนที่ 1 แบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่
โซนที่ 1 ทำไมต้องสร้างอนาคตไทย
โซนที่ 2 พลิกโฉมคมนาคมไทย
โซนที่ 3 ระบบรางสร้างอนาคต
โซนที่ 4 รถไฟความเร็วสูงจำลอง


ส่วนที่ 2 แบ่งออกเป็น 5 โซน ได้แก่
โซนที่ 1 ภูมิภาค ชีวิต และอนาคต
โซนที่ 2 ถิ่นนี้อีสานเหนือ (หรืออีสานใต้)
โซนที่ 3 เชื่อมโยงชีวิต เศรษฐกิจ ทุกทิศทั่วไทย
โซนที่ 4 เมืองใหม่ อนาคตใหม่
โซนที่ 5 อีสานเหนือ (หรืออีสานใต้) วันพรุ่งนี้

โดยในจำนวนทั้ง 9 โซนนี้ ประชาชนให้ความสนใจการเข้าไปนั่งรถไฟความเร็วสูงจำลองมากที่สุด เพราะมีการยืนต่อแถวยาวกว่า 300 เมตร จนเจ้าหน้าที่ต้องจัดระเบียบให้เข้านั่งได้ไม่เกิน 100 คน

สำหรับโรดโชว์ "สร้างอนาคตไทย 2020” นี้ ทางกระทรวงคมนาคมจัดขึ้น เพื่อให้ข้อมูลรอบด้านเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคม และขนส่งของไทย โดยเน้นไปที่รายละเอียดของโครงการที่จะเกิดขึ้นทั่วประเทศ ตามติดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสู่ภูมิภาค พร้อมจำลองตู้รถไฟความเร็วสูงมาให้ทดลองนั่ง สัมผัสกับประสบการณ์เสมือนจริง นอกจากนี้ยังเจาะลึกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ เช่น เส้นทางใหม่และเครือข่ายการคมนาคมที่เชื่อมโยงถึงกันในอนาคต รูปแบบเศรษฐกิจ การค้า อาชีพ และชีวิต ที่จะดำเนินต่อไปอย่างเข้มแข็ง พร้อมกับเผยโฉมเมืองใหม่ที่จะเกิดขึ้นรายรอบเส้นทางรถไฟ และคุณภาพชีวิตที่ถูกเติมเต็มในอนาคต  อีกทั้งยังมีกิจกรรมอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิเช่น การแข่งขันประกอบอาหาร จานด่วนไทย ไปครัวโลก ซึ่งจะมีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 13 ตุลาคม การจำหน่ายสินค้าโอทอป ระดับ 5 ดาว โดยจะจำหน่ายสินค้าโอทอปถึงวันที่ 14 ตุลาคม ส่วนในช่วงเย็นของทุกวัน จะมีการแสดง ของศิลปินดัง ประกอบด้วย วันที่ 11 ตุลาคม พบกับนางเอก 7 สี ขวัญ อุษามณี ตามด้วยการแสดงของวงดนตรี โคราชไทย คอมเทมโพรารี่ มิวสิก วันที่ 12 ตุลาคม ชม เท่ง เถิดเทิง และคณะ วันที่ 13 ตุลาคม ปิดท้ายด้วย ดารา 7 สี สัญจร ขบวนหรรษา ดาราพาตะลุย พบ นิว วงศกร เอมี่ กลิ่นประทุม และหวานกรรณาภรณ์ และการแสดง สีสัน ความสุข บุกทั่วไทย โดยศิลปิน ลาล่า ลูลู่ 

กกต.บึงกาฬพร้อมแล้วกับการเลือกตั้งท้องถิ่น

วันนี้ ( 11 ตุลาคม 2556 ) นายชัชวาล สุขหล้า ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬนำทีมเจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัดบึงกาฬออกให้ความรู้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบล ณ ตำบลโป่งไฮและตำบลหนองทุ่ม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น (สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล) และผู้บริหารท้องถิ่น (นายกองค์การบริหารส่วนตำบล) ในเขตพื้นที่จังหวัดบึงกาฬที่หมดวาระตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2556 จำนวน 18 แห่งประกอบด้วย อำเภอเมือง จำนวน 2 อบต. ได้แก่ อบต.คำนาดีและอบต.นาสวรรค์ อำเภอบุ่งคล้าจำนวน 2อบต.ได้แก่ อบต.บุ่งคล้าและอบต.โคกกว้าง อำเภอปากคาดจำนวน 5 อบต.ได้แก่อบต.นากั้ง อบต.นาดง อบต.โนนศิลา อบต.ปากคาด และอบต.สมสนุก อำเภอเซกา จำนวน 4อบต. ได้แก่ อบต. น้ำจั้น อบต.โป่งไฮ อบต.โสกก่ามและอบต.หนองทุ่ม อำเภอพรเจริญ จำนวน 3 อบต.ได้แก่ อบต.ป่าแฝก อบต.วังชมพูและอบต.ศรีชมพู อำเภอโซ่พิสัย จำนวน 1 อบต.ได้แก่ อบต.เหล่าทอง และอำเภอศรีวิไล จำนวน 1 อบต.ได้แก่ อบต.นาสิงห์ ซึ่งจะมีการเลือกตั้งใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2556 ที่จะถึงนี้

นายชัชวาล สุขหล้า ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่าวันนี้เป็นการมาให้ความรู้ในขั้นตอนของการรับลงคะแนนเลือกตั้งและการนับคะแนนเลือกตั้งแก่คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งได้ร้องขอให้ทางกกต.จังหวัดมาให้ความรู้เพิ่มเติมในขั้นตอนกระบวนการลงคะแนนและการนับคะแนน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นไร้ปัญหา ซึ่งมี อบต.ที่ร้องขอมาจำนวน 8 แห่ง จากทั้งหมด 18 แห่ง ซึ่ง 10 แห่งที่ไม่มีการร้องขอมามีความพร้อมและมีความเข้าใจเป็นอย่างดีแล้วในขั้นตอนกระบวนการการลงคะแนนเลือกตั้ง ซึ่ง กกต.จังหวัดได้จัดอบรมให้ความรู้ไปแล้วครั้งหนึ่งตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2556 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเลือกตั้งจริง ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2556 ที่จะถึงนี้ และ ทางกกต.จังหวัดเองมีความพร้อมเป็นอย่างมากในการเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ เพราะได้เตรียมการไว้เป็นอย่างดีและมั่นใจว่าการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม 2556 นี้จะไม่มีปัญหา และจะสามารถรู้ผลการนับคะแนนทั้งหมดในเวลาไม่เกิน 20.00 น. ของวันเลือกตั้งและในวันที่ 15 ตุลาคม 2556 จะมีการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดบึงกาฬเพื่อรับรองผลการเลือกตั้งและดำเนินการส่งต่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางดำเนินการต่อไป 

มหาสารคามเปิดเวทีรับฟังความเห็นต่อแผนพัฒนาจังหวัด4ปี

จังหวัดมหาสารคาม เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นต่อการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด ปี พ.ศ.2558 – 2561 หลังนายกรัฐมนตรีเลือกให้เป็น1ใน5จังหวัดนำร่อง ในการทบทวน ปรับปรุงแผนพัฒนาจังหวัด ให้สอดคล้องกับยุทศาสตร์การพัฒนาประเทศ

ที่หอประชุมจังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีเปิด "การประชุมรับฟังความคิดเห็นการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัด ปี พ.ศ.2558 – พ.ศ.2561”โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน จังหวัดมหาสารคาม เข้าร่วมรับฟัง รวม 350 คน

ทั้งนี้ เพื่อทบทวนและระดมความคิดเห็นในการค้นหาศักยภาพ โอกาส สภาพปัญหาความต้องการของประชาชน โดยยึดการมีส่วนร่วม และบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการกำหนดทิศทางการพัฒนาจังหวัด หลังจากเมื่อเดือนกรกฎาคม2556 ที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมประชุม โดยเลือกให้เป็น1ใน5จังหวัดนำร่อง ในการทบทวน ปรับปรุง แผนพัฒนาจังหวัด ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการกำหนดโซนนิ่งเพื่อเพิ่มพื้นที่การเกษตร อย่างข้าวหอมมะลิ อ้อย และโคเนื้อ อีกทั้งการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ตลอดจนการจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดยกระดับคุณภาพชีวิตประขาชนต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมหาสารคามถวายผ้าป่ากองทุนเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 56  ที่วัดมหาชัย พระอารามหลวง จังหวัดมหาสารคาม สภาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม ถวายผ้าป่ากองทุนเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพโดยจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์เหมาะสมตรงกับความต้องการของเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่องและเป็นการสนับสนุนยุทธศาสตร์ของจังหวัดมหาสารคามในประเด็นเมืองน่าอยู่สำหรับเด็กผ่านการจัดกิจกรรมด้านต่างๆอย่างเหมาะสม โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธาน

 โครงการจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคามได้จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ที่เหมาะสมกับความต้องการของเด็กและเยาวชน โดยที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมหลายกิจกรรมอาทิ การจำหน่ายเสื้อสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม การให้เด็กและเยาวชนร่วมแสดงออกถึงการมีส่วนร่วมในการสนับสนุนกองทุนฯในกิจกรรม เยาวชน คนละบาท และได้จัดทำผ้าป่ากองทุนเพื่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคามเพื่อสมทบทุนกองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคามขึ้น โดยพระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ โดยได้ยอดเงินจานวนกว่า 190,000 บาท



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคามเพิ่มศักยภาพบุคลากรเตรียมความพร้อมภาคการเกษตรสู่ AEC

เกษตรกร ปราชญ์ชาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดมหาสารคาม ร่วมสัมมนาเตรียมความพร้อมภาคการเกษตรสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

(11-10-56) ในการจัดสัมมนาเตรียมความพร้อมภาคการเกษตรสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ที่จังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้นในวันนี้ มีบุคลากรภาคการเกษตร ปราชญ์ชาวบ้าน นักเรียน นักศึกษา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดมหาสารคาม กว่า 500 คน เข้าร่วมรับฟัง โดยมี ดร.สุเมธ แสงนิ่มนวล เป็นวิทยากรในการสัมมนา พร้อมทั้งนำเสนอประเด็นเกี่ยวกับประชาคมอาเซียน ที่ประกอบด้วย 3 เสาหลัก คือ ประชาคมการเมืองและความมั่นคง ประชาคมเศรษฐกิจ และประชาคมสังคมและวัฒนธรรม ที่ทั้งหมดจะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนร่วมกัน ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2558 หรือภายในอีก 2 ปี 2 เดือน ข้างหน้า

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ภาคการเกษตร ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของจังหวัดมหาสารคาม ที่มีผลผลิตทางการเกษตรที่เป็นพืชเศรษฐกิจ เช่น ข้าวหอมมะลิ และอ้อยโรงงาน หากมีการรวมกลุ่มกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนของประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนแล้ว ย่อมส่งผลกระทบต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ดังนั้นหากเกษตรกร บุคลากรของจังหวัดมหาสารคามทุกภาคส่วน ได้มีความตระหนักถึงความร่วมมือในระดับภูมิภาค ย่อมเป็นการสร้างโอกาสและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจ อันจะนำไปสู่การพัฒนามาตรฐานการครองชีพและความกินดีอยู่ดีของประชาชน

ทั้งนี้ ภาคการเกษตรของจังหวัดมหาสารคาม นับเป็นภาคการผลิตที่เป็นอาชีพหลัก ซึ่งหากเกิดการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว ย่อมส่งผลกระทบต่อความเปลี่ยนแปลงทั้งในทางตรงและทางอ้อม ดังนั้นการเตรียมความพร้อมบุคลากรที่เกี่ยวข้องดังกล่าวจึงเป็นเรื่องสำคัญ




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นออกให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอชนบท

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2556 สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นโดยการนำของนางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นได้นำคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดเดินเดินทางเข้าไปที่บ้านท่าข่อย ตำบลชนบทอำเภอชนบทเพื่อเยี่ยมราษฎรที่ประสบภัยน้ำท่วมและนำถุงยังชีพเข้าไปแจกให้กับผู้ประสบภัยโดยจุดนี้มีครัวเรือนที่ประสบภัยจำนวน 216 ครัวเรือนพร้อมกันนี้ทางนายกเหล่ากาชาดขอนแก่นก็ยังพาผู้ที่ประสบภัยร่วมกิจกรรมความบันเทิงเพื่อคลายเครียดในช่วงที่มีน้ำท่วมซึ่งบ้านท่าข่อยจะเป็นหมู่บ้านที่มีน้ำท่วมขังอยู่เป็นเดือน จากนั้นคณะเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นได้เดินทางต่อไปที่บ้านกุดหล่ม ตำบลศรีบุญเรือง เพื่อนำคาราวานช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปมอบสิ่งของให้กับชาวบ้านกุดหล่ม บ้านท่าม่วง ที่ประสบน้ำท่วมขังมาหลายวันแล้วซึ่งการเดินทางก็เป็นไปด้วยความลำบากระยะกว่า 3 กิโลเมตรน้ำท่วมขังและไหลเชี่ยวรถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้การสัญจรส่วนหนึ่งก็เดินทางโดยเรือที่อำเภอจัดหามาให้บริการกับผู้ที่เดือดร้อนโดยจุดนี้มีมีราษฎรเดือดร้อน 584 ครัวเรือน เส้นทางเข้าหมู่บ้านมีน้ำไหลเชี่ยวต้องใช้รถไถนาสูงนำมาบริการกับชาวบ้านในการเดินทางเข้าในหมู่บ้านซึ่งทั้งสองหมู่บ้านนี้น้ำจะท่วมอยู่ร่วมเดือนเหมือนกันเพราะว่าเป็นพื้นที่รอบอ่างหนองกรองแก้วซึ่งเป็นพื้นที่แก้มลิงที่รองรับน้ำมวลใหญ่จากแม่น้ำชีและบางจุดได้ขาดทำให้น้ำไหลแรงและเชี่ยวมากโดยนายกเหล่ากาชาดขอนแก่นได้ฝากให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานและผู้สูงอายุในหมู่บ้านอย่าได้ออกมาเล่นน้ำเพราะช่วงนี้น้ำไหลแรงซึ่งที่อำเภอแวงใหญ่จังหวัดขอนแก่นได้มีคนเสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นผู้สูงอายุในการออกมาเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมของทางเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นครั้งนี้ได้นำชาวบ้านเล่นกิจกรรมเพื่อความสนุกสนานเป็นจิตวิทยาช่วยลดความเครียดด้วยสำหรับเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นขณะนี้นำสิ่งของไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว 2 อำเภอที่อำเภอชนบทและอำเภอแวงใหญ่มีการมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยแล้วกว่า 2 พันครัวเรือนโดยมีทหารจากมณฑลทหารบกที่ 23 และกรมทหารราบที่ 8 มาช่วยสนับสนุนในการช่วยผู้ประสบภัยครั้งนี้



จังหวัดขอนแก่นประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำครั้งที่ 5 พิจารณาปรับการระบายนำเหลือ 7 ล้าน.ลบ.ม/วัน

จังหวัดขอนแก่นประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำพิจารณาปรับเพิ่มปริมาณการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ มิติที่ประชุมให้ระบายวันละ 7 ลบ.ม./วัน

วันนี้ ( 11 ตุลาคม 2556 ) เวลา 13.30 น.  ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น เพื่อพิจารณาปรับเพิ่มปริมาณการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ แจ้งว่าสภาพน้ำเขื่อน ณ ปัจจุบัน ระดับน้ำปัจจุบัน ( 9 ตุลาคม 2556 ) เวลาอยู่ที่ 180.33 ม.รทก. มีปริมานน้ำ ในอ่างเก็บน้ำ 1,839.43 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 75.66 เป็น. ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 24.04 ลบม. สามารถรับน้ำเข้าอีก 572.28 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำ 16.01ลบ.ม./วัน เพื่อพิจารณาสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน พบว่ามีหลายปัจจัยนำมาวิเคราะห์พิจารณาที่ประชุมให้ปรับปริมาณการระบายน้ำจากเดิม16.01 ล้าน ลบ.ม/วัน ให้อยู่ที่ 7 ลบ.ม./วัน. เขื่อนจำเป็นต้องระบายน้ำเพื่อบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการ์ณน้ำในปัจจุบัน เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้น้ำและพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ประกอบกับอีก4 วันที่จะมีมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทยและมวลน้ำจากจังหวัดชัยภูมิที่สูงทำให้ระดับน้ำชีเอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ 2 ฝั่งแม่น้ำชี และถ้ามีมีฝนตกในพื้นที่ส่วนน้ำน้ำยังสูง ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ เริ่มสูงขึ้นเช่นกัน ต้องเฝ้าระวังป้องกันกับเหตุน้ำป่าไหลหลาก เฝ้าระวังตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเมือง พระยืน บ้านไผ่บ้านแฮด บ้านไผ่ แวงน้อย แวงใหญ่ ชนบท มัญจาคีรี ส่วนการขอความช่วยเหลือประสานทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 23 หมายเลข 043-238127 หรือ 084-8794727 ที่ฝ่ายกิจการพลเรือนทหารเพื่อช่วยเหลือทันทีและประสานขอเรือทองแบนจากปภ.จังหวัดขอนแก่นตลอด 24 ชม. ล่าสุดสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ 2 หมู่บ้านที่อ.บ้านไผ่ ที่ชีกกค้อ 253ครัวเรือน 813 คน และสะพานบ้านละว้ากพำลังทรุดซึ่งจะมีชาวบ้านเดือนร้อน 2,000 คน บ้านแฮดที่โคกสำราญนาข้าว 6 หมู่ บ้าน บ้านปอแดง ถนนถูกตัดขาด 1 กม.ใช้เรือสัญจรไปมา ส่วนที่ พระยืนให้เตรียมรับมมือและที่ท่าพระอ.เมืองขอนแก่น ส่วนการช่วยเหลือผู้ว่าราชการจังหวัดนำสิ่งของช่วยเหลือราษฎรอ.ชนบท 200 ถุงนายกเหล่ากาชาดช่วยอ.แวงใหญ่ 230 ถุง และในวันที่ 12 ตุลาคม 2556 ทางรมช.มหาดไทยมอบที่ชนบท อี ก300 ชุด ฝากเตือนประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อย่างใกล้ชิด ผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง 24 ชม. โดยเฉพาะหมู่บ้านติดริมน้ำชี แจ้งขอมูล ปภ.จังหวัดขอนแก่น 043-331358 , 043-237283



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

จ.กาฬสินธุ์เตรียมงาน “วิจิตรแพรวาราชินีแห่งไหม 2556” ยิ่งใหญ่ พร้อมจัดเดินแฟชั่น ราตรีแพรวาการกุศล เน้นชูราชินีแห่งไหม ยกระดับสู่สากล

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 1-7 พ.ย.นี้ ณ อาคารเฉลิม พระเกียรติ 80 พรรษา และบริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และ ททท. สำนักงานขอนแก่น กำหนดจัดงาน "วิจิตรแพรวาราชินีแห่งไหม” ประจำปี 2556 เพื่อเทิดพระเกียรติ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเฉลิม พระชนมพรรษา 80 พรรษา และเพื่อเป็นการอนุรักษ์สืบสานศิลปหัตถกรรมผ้าไหมแพรวาควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวของจังหวัดกาฬสินธุ์ ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมมากมาย เช่น ชมขบวนแห่ผ้าไหมแพรวา ,การประกวดผ้าไหมแพรวา, การแสดงการสาธิตและจำหน่ายหัตถกรรมผ้าไหมแพรวา, การแสดงโปงลางและนาฎศิลป์พื้นเมือง, การประกวดร้องเพลงท้องที่/ท้องถิ่น,ประกวดหางเครื่องแดนเซอร์เยาวชน, ประกวดกลองยาว.ประกวดลีลาฮูลาฮุป ,ประกวดธิดา แพรวา, การประกวดรถสกายแล็ปสัญลักษณ์ของเมืองกาฬสินธุ์,และอิ่มอร่อยกับเทศกาลอาหารทุกวัน



สุรพล คุณภักดี / ข่าว

ประกวดตราสัญลักษณ์คนไทยดวงใจสีเขียว

นายจำนง เดชวิถี นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดการประกวดตราสัญลักษณ์ (logo) คนไทยดวงใจสีเขียว GREEN HEART ขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์สร้างการรับรู้ร่วมกันในสังคมและให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพื่อเป็นการสร้างเอกลักษณ์ของโครงการฯเพื่อใช้ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่จดจำและรู้จักอย่างกว้างขวาง จึงขอเชิญชวนหน่วยงานเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อมและผู้สนใจร่วมประกวดตราสัญลักษณ์ (logo) คนไทยดวงใจสีเขียว GREEN HEART โดยดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.deqp.go.th/เปิดรับผลงานตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2556 นี้



สุวรรณ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

ขอเชิญร่วมโครงการรางวัลสิ่งแวดล้อมศึกษาดีเด่นระดับชาติ Thailand EE Award

นายจำนง เดชวิถี นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำโครงการสิ่งแวดล้อมศึกษาดีเด่นระดับชาติ Thailand EE Award เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับบุคคลและหน่วยงานที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมศึกษามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจในการทำงาน ตลอดจนเพื่อเป็นการรวบรวมข้อมูลและแบ่งปันประสบการณ์งานด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาของประเทศไทย จึงขอเชิญชวนหน่วยงานเครือข่ายด้านสิ่งแวดล้อมและผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ โดยจะเปิดรับสมัครผู้สนใจเสนอชื่อบุคคลหรือหน่วยงานที่มีคุณธรรมและเป็นแบบอย่างที่ดีในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 15 ตุลาคม 2556 นี้ เพื่อเข้ารับโล่รางวัลสิ่งแวดล้อมศึกษาดีเด่นระดับชาติ จากกรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ในวันสิ่งแวดล้อมไทย 4 ธันวาคม 2556 ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดรายละเอียดและแบบเสนอผลงานโครงการฯเพิ่มเติมได้ที่ http://www.deqp.go.th/




สุวรรณ ศรีอาภรณ์ / ข่าว