วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557

จังหวัดสุรินทร์ เผย สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดยังอยู่ในระดับเบาบาง

 นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ถือว่าอยู่ในระดับเบาบางไม่พบแหล่งผลิต คงมีแต่การจับกุมการผลิตในลักษณะของการแบ่งบรรจุยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ปัจจุบันจะมีการลักลอบจำหน่าย และเสพตามหอพัก ห้องเช่ามากขึ้น โดยเฉพาะหอพักที่อยู่รอบๆ ตัวเมือง ทั้งนี้ การใช้สารเสพติดส่วนใหญ่จะพบในกลุ่มผู้รับจ้างทั่วๆ ไป รวมทั้งผู้ใช้แรงงาน พื้นที่แพร่ระบาดที่มีการจับกุมได้มากในรอบเดือน ได้แก่ อำเภอเมืองสุรินทร์ , อำเภอปราสาท , อำเภอสังขะ , อำเภอศีขรภูมิ , อำเภอรัตนบุรี และอำเภอจอมพระ ชนิดยาเสพติดที่มีจับกุมได้มากที่สุด ได้แก่ ยาบ้า รองลงมาได้แก่ สารระเหย จำนวนคดียาเสพติดที่จับกุมได้ ส่วนใหญ่เป็นข้อหาเสพสารเสพติด

จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดงานมหกรรมแก้จน สร้างคน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน ตามโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาความยากจนของจังหวัด

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงานมหกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาความยากจน ภายใต้แนวคิด " มหกรรมแก้จน สร้างคน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน " โดยกำหนดจัดงานในวันที่ 15 มกราคม  2557 ที่ห้องประขุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โดยกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยครัวเรือนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ความจำเป็นขั้นพื้นฐาน (จปฐ.) ที่มีศักยภาพสามารถพัฒนาตนเองได้ และผู้ทีให้ความสนใจจำนวนกว่า  500  คน  สำหรับการจัดกิจกรมดังกล่าว ประกอบด้วย การจัดแสดงและสาธิตอาชีพที่ประสบความสำเร็จ โดยสามารถนำไปประกอบอาชีพหลักรวมทั้งอาชีพเสริมได้ การจัดนิทรรศการและกระบวนการแก้ไขปัญหาความยากจน ตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนเอกชน นอกจากนี้มีการบรรยายเรื่องการประกอบอาชีพที่ประสบผลสำเร็จ จากผู้ประกอบการอาชีพโดยตรง และการเยี่ยมชมนิทรรศการแบบมีส่วนร่วม ทั้งนี้จึงขอเชิญชาวผู้ที่สนใจเข้าร่วมในกิจกรรมดังกล่าวได้ในวันที่  15 มกราคม  2557 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์

จังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แทนตำแหน่งที่ว่าง

 นายไกรศักดิ์ วรทัต ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์จะจัดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอปราสาท และเขตเลือกตั้งที่  1 อำเภอกาบเชิง  จังหวัดสุรินทร์ แทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โดยผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กรณีสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ได้ลาออกจากตำแหน่ง คือ นายพันธ์เทพ ฐานุพงศ์ชรัช สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอปราสาท และนางปทิดา ตันติรัตนานนท์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เขตเลือกตั้ง  ที่  1 อำเภอกาบเชิง  จังหวัดสุรินทร์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2556 ทั้งนี้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ จึงประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอปราสาท และเขตเลือกตั้งที่  1 อำเภอกาบเชิง  จังหวัดสุรินทร์ แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยจะจัดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2557 และมีการรับสมัครรับเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 10 มกราคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. - 16.30 น. ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อาคาร OTOP ชั้น 2 ถนนหลักเมือง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ สำหรับผู้ใดมีคุณสมบัติและไม่เป็นบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิในการสมัครรับเลือกตั้งตามที่กฎหมายกำหนด และมีความประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ให้ยื่นใบสมัครด้วยตนเอง ตามวัน เวลา และสถานที่ พร้อมหลักฐานการรับสมัครตามที่กำหนดข้างต้น ทั้งนี้ผู้ที่จะรับสมัครเลือกตั้งได้เพียงหนึ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้น จึงขอเชิญชวนประชาชนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่  4 อำเภอปราสาท  และเขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ได้ออกไปใช้สิทธิในการเลือกตั้ง สมาชิก  อบจ. ในวันที่  22 กุมภาพันธ์ 2557

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ เตรียมจัดสถานที่รับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขต คาดมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ มีผู้สมัครรับ ส.ส.แบบแบ่งเขต รวมทั้ง 8 เขต จำนวน 40 คน จาก 9 พรรคการเมือง ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จังหวัดสุรินทร์ แบ่งเขตเลือกตั้งเป็น 8 เขต มีหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 2,127 หน่วย มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมด  1,032,950 คน คาดมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ในขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสุรินทร์ ได้รณรงค์ประชาสัมพันธ์การเลือกตั้ง ทั้งนี้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนและได้แจ้งเป็นหนังสือราชการไปยังทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ทราบกำหนดการเลือกตั้ง  จำนวน  ส.ส. และการเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งในราชอาณาจักรและนอกราชอาณาจักรแล้ว

จังหวัดสุรินทร์ ขยายเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาไปจนถึง 22.00 น. เริ่ม 13 มกราคมนี้


 นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ขยายเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาทั้ง  5 จุด เมื่อวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการค้าชายแดน การท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกในการสัญจรข้ามแดน ซึ่งจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ที่บริเวณด่านช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ถือเป็น  1 ใน  5 จุดผ่านแดนถาวรที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ โดยให้ขยายเพิ่มเติม 3 ชั่วโมง จากเดิมในเวลา 07.00 น. - 20.00 น. เปลี่ยนเป็นเลื่อนเปิดเร็วขึ้นตั้งแต่เวลา 06.00 น. และปิดในเวลา 22.00 น. ตั้งแต่ 13 มกราคม 2557 เป็นต้นไป เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต สำหรับการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร เพื่อรองรับการขยายเวลาเปิด-ปิดจุดผ่านแดนถาวรอยู่ในระดับที่เต็มร้อย เตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ที่จะถึงนี้ด้วย โดยเชื่อว่าหลังจากนี้จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นสูงขึ้น ขณะเดียวกัน เสียงสะท้อนในพื้นที่เชื่อว่าการขยายเวลาดังกล่าว จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมของระบบเศรษฐกิจทั้ง  2 ประเทศ  รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

จังหวัดสุรินทร์ เตือนเที่ยวงานวันเด็กระวังอุบัติเหตุและการใช้รถใช้ถนนให้ปลอดภัย

 นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า งานวันเด็กปี 2557 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติไว้ว่า "กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทย ให้มั่นคง” เพื่อร่วมกันส่งเสริมให้เด็กเป็นต้นกล้าที่ดีของสังคม ได้เรียนรู้ระเบียบวินัย รู้จักสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ มีความยึดมั่น ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อีกทั้งเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเตือน พัฒนาเด็กและเยาวชนในท้องถิ่นได้เจริญเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีในอนาคตสืบไป สำหรับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิต่างๆ ร่วมใจจัดงานในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม  2557 เป็นวันเด็กแห่งชาติ ผู้ปกครองจะพาเด็กไปร่วมงานตามสถานที่ต่างๆ หากขาดความระมัดระวัง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยกับเด็ก เพื่อความปลอดภัย กรณีเดินทางด้วยรถยนต์ ควรกดปุ่มล็อกกระจกรถ เพื่อป้องกันเด็กยื่นมือ ศีรษะ ออกไปนอกตัวรถ หรือพลัดตกจากรถ ทำให้ได้รับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต กรณีนำเด็กซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ควรให้เด็กสวมใส่หมวกนิรภัยทุกครั้งระมัดระวังอย่าให้เท้าของเด็กติดเข้าไปในซี่ล้อรถ ทั้งนี้ อุบัติเหตุจากการร่วมงานวันเด็ก เกิดจากการเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก ควรให้เด็กเล่นเครื่องเล่นที่เหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของเด็ก ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นตามลำพัง หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้สามารถช่วยเหลือเด็กได้อย่างทันท่วงที สอนเด็กให้ปฏิบัติตามกฎที่สวนสนุกกำหนดอย่างเคร่งครัด รวมทั้งไม่ให้เด็กเล่นเครื่องเล่นที่เสี่ยงต่อการพลัดตก หากพาเด็กไปเที่ยวสวนสัตว์ ควรดูแลเด็กให้ปฏิบัติตามคำแนะนำที่ติดไว้บริเวณกรงสัตว์อย่างเคร่งครัด ส่วนหน่วยงานที่จัดงานวันเด็ก ควรจัดให้มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของเด็กอย่างใกล้ชิด และจัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้กับเด็กด้วย

ธนาคารออมสินทุกสาขาในจังหวัดสุรินทร์ เปิดให้บริการวันเด็กพร้อมแจกของขวัญวันเด็กแห่งชาติ

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งว่า เนื่องด้วยธนาคารออมสินทุกสาขาในจังหวัดสุรินทร์จะเปิดให้บริการในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2557 ซึ่งเป็นวันเด็กเเห่งชาติ ตั้งเเต่เวลา 08.00-11.00 น. ทั้งนี้จึงขอเชิญชวนเยาวชน เปิดบัญชีใหม่ รับของที่ระลึก ทุกบัญชี ธนาคารออมสิน มั่นคง จริงใจ รับใช้ประชาชน

สุรินทร์ตัดสินผลการประกวดโครงการวาดภาพและประกวดเขียนเรียงความ หัวข้อ “ จังหวัดของฉันในปี 2020”

วันที่ 9 มกราคม 2556 ที่ห้องประชุมจอมสุรินทร์ ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานการตัดสินการประกวดภาพวาดและประกวดเขียนเรียงความ หัวข้อ "จังหวัดของฉันในปี 2020” ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายปลูกฝังและการเรียนรู้ ในการคิดค้น ค้นคว้า ความรู้สึกในการที่จะอยากเห็นประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง โดยสร้างจากนโยบายพัฒนาโครงสร้างด้านการขนส่งของประเทศ หรือ นโยบาย 2ล้านล้านบาท ทั้งระบบราง ทางน้ำ ทางอากาศ ทางด่านศุลกากร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในอนาคต รับบาลจึงมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย จัดการประกวดภาพวาดและเรียงความในหัวข้อ "จังหวัดของฉันในปี 2020 " ขึ้น ซึ่งมีนักเรียน เยาวชน ส่งผลงานภาพวาดเข้าประกวดจำนวน 40 ภาพ โดยคณะกรรมการได้มีผลการประกวดมีดังนี้

รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ด.ช. สุรพงษ์ โลนะลุน ร.ร.บ้านหนองคู อำเภอรัตนบุรี ได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร , รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ด.ช. ชญานนท์ เฟื่องฝอย ร.ร.โสตศึกษาสุรินทร์ อำเภอปราสาท ได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร , รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ด.ญ. ทัศพร เทศแก้ว ร.ร.อนุบาลสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ ได้รับเงินรางวัล 2,000 บาท พร้อมเกียรติบัตร , และรางวัลชมเชย มี 2 รางวัล ได้แก่ ด.ญ.ปารมี แก้วประเสริฐ ร.ร. อนุบาลสุรินทร์ อ.เมืองสุรินทร์ และ ด.ญ.วรินทร ทองเนตร ร.ร.บ้านหนองคู อำเภอรัตนบุรี ได้รับเกียรติบัตรในการประกวดครั้งนี้ด้วย

โดยผู้ที่ชนะเลิศการประกวดระดับจังหวัด จะถูกส่งเข้าประกวดตัดสินในระดับประเทศ เพื่อชิงตั๋วเครื่องบินไปทัศนศึกษา ณ ประเทศญี่ปุ่น และ ของรางวัลอีกมากมาย อีกต่อไป


กำชัย วันสุข ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน

สโมสร Ubon Umt Fc เปิดตัวนักเตะสู้ศึกฤดูกาล 2014 โดยมีนักเตะจากระดับไทยลีกและดิวิชั่นหนึ่งเสริมทีมเพียบ ขณะที่ทางด้านประธานสโมสรตั้งเป้าจะต้องเป็นแชมป์ฤดูกาลนี้ และขึ้นสู่ระดับดิวิชั่นหนึ่งให้ได้

โดยก่อนการเปิดตัวนักเตะทีม Ubon Umt Fc ที่ห้องประชุมฟองจันทร์ มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น จ.อุบลราชธานี ได้มีการลงนาม MOU ระหว่าง มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น กับสโมสรฟุตบอล Ubon Umt Fc รวมถึงผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ

โดย ผศ.ดร.วีระศักดิ์ จินารัตน์ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และนายพงษ์ศักดิ์ มูลสาร ประธานสโมสร กล่าวว่า หลังจากที่ฤดูกาลที่แล้ว ทีมประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดยจบในอันดับที่ 3 ของตารางโซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พลาดเข้าสู่รอบแชมเปี้ยนลีกไปแบบเฉียดฉิว ปีนี้ มีการปรับเปลี่ยนตัวนักเตะ และ โค้ช ใหม่ โดยนักเตะมีทั้งจากระดับไทยพรีเมียร์ลีก และ ดิวิชั่น 1 มากกว่า 20 คน เข้ามาเสริมทัพ วางตัวโค้ช คือ โค้ชต้อม ณรงค์ สุวรรณโชติ ที่เคยสร้างผลงานพาทีมธนาคารกรุงไทย เป็นแชมป์ไทยลีก 2 สมัยมาแล้ว เข้ามาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอน และ อ.ณรงค์ศักดิ์ คุรุพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี กลับมารับตำแหน่งผู้จัดการทีม โดยตั้งความหวังเป็นแชมป์ในรายการดิวิชั่น 2 เพื่อเข้าไปเล่นในรอบแชมปืเปี้ยนลีก และเลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ให้ได้ 

ศูนย์พัฒนาสังคมที่ 74 จังหวัดอุบลราชธานี จัดประชุมเชิงปฏิบัติการคณะทำงาน และผู้นำท้องถิ่น การดำเนินงานโครงการตำบลต้นแบบการพัฒนาสังคมและสวัสดิการสังคม ปี2557


เช้าวันที่ ( 9 ม.ค. 57 ) ที่โรงแรมกิจตรงวิลล์ รีสอร์ท จังหวัดอุบลราชธานี นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานการเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ การดำเนินงานโครงการตำบลต้นแบบการพัฒนาสังคมและสวัสดิการสังคม ปี2557 และมอบนโยบายแก่ผู้เข้าร่วมประชุม

ด้วยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจในการให้บริการสวัสดิการสังคม สังคมสงเคราะห์แก่กลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ คนไร้ที่พึ่ง ผู้ประสบปัญหาทางสังคม โดยการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาในรูปแบบของสถานสงเคราะห์ การประสานงานส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสนับสนุนให้ชุมชนและท้องถิ่นจัดสวัสดิการ เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหา สามารถดำรงชีวิตและพึ่งตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรีของมนุษย์ ซึ่งในปี 2557 ศูนย์พัฒนาสังคมที่ 74 จังหวัดอุบลราชธานี หน่วยงานสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี ภาคีเครือข่าย ประกอบด้วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล นายกเทศมนตรีตำบล นักพัฒนาชุมชน ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล ผู้นำชุมชน คณะทำงานในพื้นที่ และคณะทำงานขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี ตำบลต้นแบบ ปี 2557 ทั้งระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ร่วมบูรณาการการดำเนินงานโครงการตำบลต้นแบบการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ปี 2557 เพื่อน้อมนำรูปแบบโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวให้มีความเข้มแข็ง ส่งเสริมสนับสนุนให้ครอบครัว ชุมชนและท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง มีการพัฒนาสังคมและสวัสดิการได้อย่างเหมาะสมซึ่งมีพื้นที่ในการพัฒนาและติดตามอีกตำบลเดิม 10 ตำบล ได้แก่ ตำบลคอนสาย อำเภอตระการพืชผล ตำบลปะอาว อำเภอเมือง ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร เทศบาลตำบลโพธิ์ไทร อำเภอพิบูลมังสาหาร )ตำบลก่อเอ้ อำเภอเขื่องใน ตำบลบัวงาม อำเภอเดชอุดม ตำบลเอือดใหญ่ อำเภอศรีเมืองใหม่ ตำบลหนองอ้ม อำเภอทุ่งศรีอุดม เทศบาลตำบลนาเยีย อำเภอนาเยีย และเทศบาลตำบลท่าช้าง อำเภอสว่างวีระวงศ์ โดยมีมีพื้นที่ตำบลต้นแบบพื้นที่ใหม่ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลสำโรง อำเภอโพธิ์ไทร ตำบลหนองสะโน อำเภอบุณฑริกตำบลตาลสุม อำเภอตาลสุม

คณะหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ (พอ.สว.) จังหวัดศรีสะเกษ ออกให้บริการตรวจรักษาและคัดกรองโรคแก่ประชาชนในเขตพื้นที่บ้านแดง หมู่3 ตำบลคูซอด อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 มกราคม 2557 ณ บริเวณลานวัดบ้านแดง หมู่ 3 ตำบลคูซอด อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายสนิท ขาวสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธาน นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ออกให้บริการตรวจรักษาและคัดกรองโรค แก่ประชาชนในเขตพื้นที่ บ้านบ้านแดง หมู่ 3 ตำบลคูซอด อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งนี้ เพื่อรักษาพยาบาลป้องกันโรค ส่งเสริมสุขภาพ และฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชน ท้องถิ่นทุรกันดารห่างไกลคมนาคม โดยมีนายแพทย์ วันชัย เหล่าเสถียรกิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้นำสมาชิกอาสาสมัคหน่วยแพทย์ พอ.สว ในจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ ทันตาภิบาล พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดฯ สำนักงานเกษตรอำเภอ และโรงเรียนคูซอดประชาสรรค์ โดยมีกิจกรรมให้บริการแก่ประชาชนในการ ตรวจคัดกรองสุขภาพ ตรวจรักษาโรค และตรวจรักษาสุขภาพช่องปาก จ่ายยาและเวชภัณฑ์ ส่งต่อผู้ป่วย พร้อมกับการจัดนิทรรศการ ซึ่งมีประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลคูซอด และใกล้เคียง มารอรับบริการกันเป็นจำนวนมาก

ด้วยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมีความสนพระทัยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครั้งยังดำรงพระชนม์ชีพทรงมีพระทัยเมตรตาห่วงใยพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่เสี่ยงภัย ห่างไกลทุรกันดาร การคมนาคมไม่สดวก ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนแรกเริ่มจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ขึ้น โดยพระองค์ทรงเป็นองค์นายิกากิตติมศักดิ์ ด้วยพระองค์เอง หลังจากเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2538 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์ประธานกิตติมศักดิ์ สืบต่อจนพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย แต่การสืบสานปณิธานของทั้งสองพระองค์ ยังคงดำเนินต่อไป และเมื่อเดือนมิถุนายน 2552 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน ในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎร ด้านการแพทย์และสาธารณสุขสืบต่อไป

และจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระราชานุญาติ จากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้เป็นจังหวัด พอ.สว. เมื่อ พ.ศ. 2513 ในลำดับที่ 28 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือให้การรักษาป้องกันโรค ส่งเสริมสุขภาพ และฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชน ในท้องถิ่นทุรกันดาลห่างไกลคมนาคม

เปิดแล้ว งานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ ยิ่งใหญ่ตระการตา

วันที่ (๙ ม.ค. ๕๗)  เวลา ๑๘.๓๐ น. ที่เวทีกลางสนามหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีเปิดงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ อย่างเป็นทางการ ยิ่งใหญ่ตระการตา โดยมีคณะผู้แทนแขวงสะหวันนะเขต โดยการนำของ ท่าน ดร.คำเผย ผันทะจอน รองเจ้าแขวง แขวงสะหวันนะเขต คณะ สกญ.ณ แขวงสะหวันนะเขต ท่านธนพล หวังอ้อมกลาง รองกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ร่วมเป็นเกียรติพิธีเปิดงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗  พร้อมส่วนราชการจังหวัด ส่วนราชการอำเภอ พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร นักท่องเที่ยวทั่วไป ซึ่งในปีนี้มีกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่หลากหลาย อาทิ การแสดงศิลปวัฒนธรรมย้อนวิถีชนเผ่า ตลอดจนการจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ภูมปัญญาท้องถิ่นจังหวัดมุกดาหาร การประกวดธิดากาชาด การเดินแบบผ้าไหมและผ้าพื้นเมือง

นางสุธิดา บุญประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงานดังกล่าว ถือเป็นกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและสนับสนุนกิจการสาธารณกุศลของจังหวัด  กำหนดจัดงานห้วงระหว่างวันที่ ๙-๑๗ มกราคม ๒๕๕๗ รวม ๙ วัน ๙ คืน ซึ่งจังหวัดมุกดาหารถือโอกาสนี้นำเสนอผลงานของส่วนราชการ ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ของจังหวัดให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย อีกทั้งเป็นการหารายได้สนับสนุนกิจการสาธารณกุศล ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อน

จังหวัดมุกดาหาร ขอเชิญพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารร่วมย้อนวิถีชนเผ่า หนึ่งปีมีครั้งเดียวที่จังหวัดมุกดาหาร พร้อมร่วมเสี่ยงโชคสร้างกุศลกับร้านนาวากาชาด มีรางวัลมากมาย หนึ่งปีมีครั้งเดียว ๙-๑๗ มกราคม ๒๕๕๗ ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร


                                                 
สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ 
         

ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหารจับต่างด้าวญวน 4 คน ลักลอบเข้าเมืองโดยใช้ตราประทับปลอม

วันที่ 9 มกราคม 2557 พล.ต.ต.ชาติชาย เอี่ยมแสง ผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมือง 4 ได้ให้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.จว.มุกดาหาร กวาดล้างจับกุมชาวเวียดนามที่กระทำผิดกฎหมาย โดยจะใช้พื้นที่ชายแดนจังหวัดมุกดาหาร เป็นทางผ่านเพื่อกลับภูมิลำเนา จึงได้ให้ พ.ต.ท.ศุภโชค พณิชยพงศ์ ประสานสนธิกำลัง พ.อ.(พ)ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รอง ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหาร นาวาตรี กรภัทร ศรีพิพัฒน์ หน.ชุดเฉพาะกิจ นรข.เขตนครพนม ทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ร่วมกันเข้มงวดกวดขันการเดินทางเข้า-ออก ราชอาณาจักรของชาวเวียดนามอย่างเคร่งครัด ทั้งช่องทางปกติและช่องทางธรรมชาติ

จนกระทั่งได้มีชาวเวียดนาม จำนวน 4 คน ได้มายื่นหนังสือเดินทาง กับ ด.ต.หญิง อมรกานต์ ศักดิ์แสง ผบ.หมู่ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ ประจำจุดตรวจบุคคลออกนอกราชอาณาจักร ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2 ขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจอยู่นั้นชาวเวียดนาม ทั้ง 4 คน มีท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ จึงตรวจสอบหนังสือเดินทางอย่างละเอียดพบว่ามีรอยตราประทับสำหรับใช้เดินทางระหว่างประเทศลักษณะน่าสงสัยคือ รอยตราประทับเข้ามาในราชอาณาจักร ของด่านตรวจคนเข้าเมืองสงขลา (IMMIGRATION SADAO THAILAND หรือ ทางด่านสะเดา) รหัส S387 ระบุวันเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรคือ 6 ม.ค. 2557 (ปรากฏในหน้าที่ 9 ) เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบ ไปที่ด่าน ตรวจคนเข้าเมืองสะเดา เรื่องขอตรวจสอบรอยตราประทับขาเข้า รหัส S387 และ B323 ว่าเป็นรอยตราประทับที่แท้จริงหรือไม่ ปรากฏว่าเป็น รอยตราประทับดังกล่าวเป็นรอยตราประทับปลอม โดย รหัส S387 ไม่มีใช้ในราชการของ ด่านตม.สะเดาแต่อย่างใด จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการจับกุม ชาวเวียดนาม ทั้ง 4 คน ทราบชื่อ นายฮา วัน หลด B7364465 อายุ 47 ปี สัญชาติเวียดนาม นายพาม วัน เดา อายุ 40 ปี สัญชาติเวียดนามB7410667 นายฮา คอง ได B7364464 อายุ 37 ปี สัญชาติเวียดนาม นายเล วา ตรู B7072013 อายุ 26 ปี สัญชาติเวียดนาม เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนในข้อหา” ใช้ดวงตราหรือรอยตรา ของเจ้าพนักงานปลอม เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต สอบถาม ผู้ต้องหา ชาวเวียดนาม ทั้ง 4 คน รับสารภาพว่าตนเองได้จ้างนายหน้าชาวเวียดนามให้ทำตราประทับปลอมดังกล่าวในราคา 5,000 บาท เพื่อใช้แสดงกับเจ้าหน้าที่ เวลาตรวจสอบ ว่าเป็นตราประทับที่แท้จริง จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่งพนักงานงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหาร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว


สำนักงาน ก.พ. รับสมัครคัดเลือกนักเรียนเพื่อรับทุน United World Colleges ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗

นายนนทิกร กาญจนะจิตรา เลขาธิการ ก.พ. เปิดเผยว่าองค์การสหสากลวิทยาลัย หรือ United World Colleges(UWC) ประสงค์จะให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนไทย ประจำปี ๒๕๕๗ เพื่อไปศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตร International Baccalaureate เป็นเวลา ๒ ปี ณ วิทยาลัยในเครือ คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครคัดเลือก มีสัญชาติไทย เป็นผู้มีอายุระหว่าง ๑๖-๑๘ ปี เป็นผู้ที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศไทย ไม่ต่ำกว่าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ และไม่เกินชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เป็นผู้ที่มีผลการเรียนไม่ต่ำกว่า ๓.๒๕ หรือเทียบไม่ต่ำกว่านี้ เป็นผู้ที่มีสุขภาพและพลานามัยสมบูรณ์ การรับสมัคร จะรับสมัครทางไปรษณีย์ลงทะเบียนเท่านั้น ระหว่างวันที่ ๒ มกราคม – ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

ทั้งนี้ผู้สนใจดูรายละเอียดของประกาศรับสมัครเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มงานบริหารการสอบทุน ศูนย์สรรหาและเลือกสรร สำนักงาน ก.พ. ๔๗/๑๑๑ หมู่ ๔ ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ จังหวัดนนทบุรี หรือดูประกาศพร้อมทั้งดาวน์โหลดใบสมัครและแบบฟอร์มที่ใช้ในการสมัครได้ทาง Internet ใน website ของสำนักงานก.พ. ที่ www”ocsc.go.th


สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.มุกดาหาร ออกให้บริการประชาชนในถิ่นทุรกันดาร

นายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว ของจังหวัดมุกดาหาร ออกไปให้บริการประชาชนด้านสุขภาพอนามัยในท้องถิ่นทุรกันดาร บ้านแฝก หมู่ที่ 7 ตำบลโพนงาม อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้ไม่ต้องเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัด และเพื่อถวายเป็นราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยานิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยบริการดังกล่าว มีการให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไป โรคทางช่องปากและบริการทันตกรรม ตลอดจนการให้ความรู้ในการป้องกันโรค การส่งเสริมสุขภาพแก่ประชาชน รวมถึงการมอบยาตำราหลวงแก่ผู้สูงอายุที่มาในวันนี้ และในการออกหน่วยครั้งนี้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหารได้มอบแว่นสายตาและเสื้อกันหนาวแก่ผู้สูงอายุ ตามโครงการดวงตาสดใสด้วยแว่นสายตาของเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร โดยมีประชาชน บ้านแฝก และ หมู่บ้านใกล้เคียงมารับบริการของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

สำหรับบ้านแฝก หมู่ 7 ตำบลโพนงาม อำเภอคำชะอี อยู่ห่างจากตัวจังหวัดมุกดาหาร 34 กิโลเมตร ห่างจากโรงยาบาลคำชะอี 10 กิโลเมตร มีครัวเรือนจำนวนทั้งสิ้น 204 หลังคาเรือน ราษฎร จำนวน 1,125 คน แยกเป็นชาย 556 คน หญิง 569 คน เด็กแรกเกิดถึง 5 ปี 81 คน อาชีพหลักของราษฎรคือ ทำนา ทำไร่ ปัญหาด้านสาธารณสุข คือโรคระบบทางเดินหายใจในเด็กแรกเกิดถึง 5 ปี ซึ่งในการแก้ไขปัญหา ได้มีการจัดทำโครงการอบรมผู้เลี้ยงเด็กและให้ความรู้ด้านสุขศึกษาแก่ผู้ปกครองเด็ก


พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองมุกดาหาร


เช้าวันที่ ( ๙ ม.ค. ๕๗ )ที่บริเวณศาลหลักเมืองมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน คู่เมืองมุกดาหาร เนื่องในงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ โดยมีนายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร นายธวัชชัย ธรรมรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ทั้ง ๒ ท่าน หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการร่วมพิธี ทั้งนี้เพื่อสืบสานประเพณี พิธีกรรมที่สืบต่อกันมาเป็นประจำทุกปี อีกทั้งเป็นการแสดงออกถึงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของประชาชนจังหวัดมุกดาหาร ตลอดจนเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองและผู้ร่วมประกอบพิธีอีกด้วย


สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ศพส.จ.มหาสารคาม เดินหน้าจัดทำแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ขยายตัวสู่อาเซียน

ศพส.จ.มหาสารคาม ระดมสมองผู้ปฏิบัติงาน จัดทำแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ปี 2557 เพื่อให้การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปในแนวทางเดียวกัน รองรับการขยายตัวของประชาชนก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558

( 9 - 1 - 57 ) ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม จัดประชุมเชิงเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปี 2557 โดยระดมความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานจากทุกภาคส่วน รวม 42 หน่วยงาน จำนวน 186 คน มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมเสนอแนะแนวทางการทำงานตามกรอบยุทธศาสตร์ของการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้การทำงานเป็นไปในแนวทางเดียวกัน รองรับการขยายตัวของกลุ่มประชากรที่จะเดินทางเข้าสู่ประเทศหลังจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558

นายอดุล จันทนปุ่ม รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมหาสารคาม ได้กล่าวบรรยายพิเศษในโอกาสเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ ครั้งนี้ว่า รัฐบาลได้กำหนดให้เรื่องของการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ดังนั้น ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันทำงานเพื่อนำไปสู่การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ป้องกันผู้เสพรายใหม่ ตัดวงจรผู้ค้า บำบัดรักษาเพื่อไม่ให้ผู้เสพกลับมาเสพติดซ้ำโดยยึดหลักผู้เสพคือผู้ป่วยต้องได้รับการบำบัดรักษา

การประชุมเชิงเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ปี 2557 ครั้งนี้ นอกจากจะมีการบรรยายจากสำนักงาน ปปส.ภาค 4 จังหวัดขอนแก่น และวิทยากรกระบวนการหลักของจังหวัดมหาสารคามแล้ว ยังมีการแบ่งกลุ่มระดมความเห็นเกี่ยวกับการสร้างพลังชุมชนป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การแก้ไขปัญหาในกลุ่มผู้เสพ ผู้ติดยา การสร้างภูมิคุ้มก้น และการปราบปราม บังคับใช้กฎหมาย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

กลุ่มพลังมวลชนมหาสารคาม “ปกป้องประชาธิปไตย ยุติความรุนแรง เดินหน้าเลือกตั้ง”

กลุ่มนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และประชาชนทั่วไป ร่วมจุดเทียนและแถลงการณ์ "ปกป้องประชาธิปไตย ยุติความรุนแรง เดินหน้าเลือกตั้ง” เรียกร้องให้ยุติการชุมนุมที่จะสร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง และออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 8-1-57 ) ที่บริเวณตลาดน้อย จังหวัดมหาสารคาม กลุ่มนิสิต จาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และประชาชน จำนวนหนึ่ง ได้ออกมาร่วมกันจัดกิจกรรม "ปกป้องประชาธิปไตย ยุติความรุนแรง เดินหน้าเลือกตั้ง” โดยมีการเขียนป้ายผ้าแสดงความคิดเห็น เพื่อยุติความรุนแรง พร้อมเชิญชวนให้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว ได้เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไป ถ่ายรูปด้วยการสวมกล่องข้อความไว้บนศีรษะ จากนั้นก็นำไปอัพบนเฟสบุ๊ค ชื่อเพจ กลุ่มพลังนิสิต มมส. ปกป้องประชาธิปไตย ซึ่งได้รับความสนใจจากนิสิต อาจารย์ บุคคลกร รวมถึงประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ ในการจัดกิจกรรมดังกล่าว มีการอ่านแถลงการณ์ของกลุ่มพลังนิสิต มมส.ปกป้องประชาธิปไตย โดยเรียกร้องให้ยุติการชุมนุมที่จะสร้างเงื่อนไขไปสู่ความรุนแรง ต่อต้านการรัฐประหารและอำนาจนอกระบบทุกรูปแบบ เรียกร้องให้มีการเดินหน้าจัดการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จากนั้นกลุ่มพลังนิสิต และประชาชนได้ร่วมกันจุดเทียนแสดงสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดบึงกาฬเตรียมการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชการที่ 5

วันที่ ( 09 - 01 - 2557 ) เวลา14.00 น. นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานการประชุมการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 5 ประดิษฐาน ณ บริเวณด้านหน้าอาคารศูนย์ราชการจังหวัดบึงกาฬ บ้านท่าไคร้ ตำบลบึงกาฬ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ เพื่อเป็นที่สักการะเป็นศูนย์รวมจิตใจในการสร้างความรักความสามัคคีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนบึงกาฬและเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติและแสดงถึงความกตัญญูสำนึกและระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งความคืบหน้าในการดำเนินการก่อสร้างได้มีการออกแบบ พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ แล้วโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดบึงกาฬ และได้ขออนุญาตการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ แล้วจากกรมศิลปากรซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬและคาดว่าจะมีการทำพิธีวางศิลาฤกษ์และบรวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ในวันที่ 23 มีนาคม 2557 ซึ่งตรงกับวันที่จัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ และงบประมาณในการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ เป็นเงินที่ได้รับจากการบริจาคของประชาชนชาวจังหวัดบึงกาฬและผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป โดยผู้ที่บริจาคตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป จำนวน 100 รายนาม จะได้จารึกรายนามผู้บริจาคไว้ ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ กรณีผู้บริจาคสมทบจะนำรายชื่อผู้บริจาคบรรจุไต้ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ โดยผู้ประสงค์จะบริจาคสามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี "ชาวบึงกาฬรวมดวงใจภักดีพลีถวายพระปิยะมหาราช” เลขที่บัญชี 447-0-37560-8 และส่งสำเนาเอกสารการโอนเงินทางโทรสารหมายเลข 042-492724 - 5 หรือติต่อสอบถามได้ที่สำนักงานคลังจังหวัดบึงกาฬ โทรศัพท์หมายเลข 042-492724 - 5

จ.บึงกาฬจัดงานมหกรรมแก้จน

วันที่ ( 8 ม.ค. 57 ) เวลา 10.00 น. ที่ หอประชุมโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ "มหกรรมแก้จน สร้างคน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน จังหวัดบึงกาฬประจำปี 2557” โดยมีนายมนัส สุขรุ่งเรือง พัฒนาการจังหวัดบึงกาฬเป็นคนกล่าวรายงาน

จังหวัดบึงกาฬได้อนุมัติให้สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ ดำเนินกิจกรรมตามยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2557 โครงการการบริหารจัดการครัวเรือนยากจนแบบบูรณาการ"ชี้เป้าชีวิต จัดทำเข็มชีวิต บริหารจัดการชีวิต และดูแลชีวิต” โครงการมหกรรมป้องกันและแก้ไขปัญหาความยากจน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนครัวเรือนยากจน ให้สามารถบริหารจัดการชีวิตของตนเองได้อย่างเหมาะสม ดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถพึ่งพาตนเองและชุมชนได้อย่างยั่งยืน ตอบสนองต่ออุดมการณ์หรือปรัชญากระทรวงมหาดไทยในการ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แก่ครัวเรือนยากจนและสร้างศรัทธาแก่ประชาชน บูรณาการการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาความยากจน ในระดับส่วนกลางและระดับพื้นที่ ซึ่งจังหวัดบึงกาฬมีครัวเรือนยากจนที่มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ความจำเป็น(จปฐ.) จำนวน 430 ครัวเรือน การจัดงานในวันนี้กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ครัวเรือนยากจนเป้าหมายในจังหวัดบึงกาฬ ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไปในจังหวัดบึงกาฬ จาก 8 อำเภอ รวมทั้งสิ้น จำนวน 500 คน โดยมีการมอบเงินทุนสงเคราะห์แก่ครัวเรือนยากจน จำนวน 30 ทุน เป็นเงิน 30,000 บาท มอบถุงยังชีพและผ้าห่มกันหนาวแก่ครัวเรือนยากจนเป้าหมาย จำนวน 430 ครัวเรือน รูปแบบการดำเนินกิจกรรม มีเวทีเสวนาการดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การจัดนิทรรศการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแสดงผลงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาความยากจน สาธิตอาชีพทางเลือกเพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส การจัดนิทรรศการครัวเรือนต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในปี 2556 การแสดงดนตรีพื้นเมืองจากโรงเรียนหนองเข็งวิทยาโดยการจัดกิจกรรมนิทรรศการและการฝึกอาชีพได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแสดงผลงาน เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาความยากจน ดังนี้คือ ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดบึงกาฬ วิทยาลัยเทคนิคบึงกาฬ กศน.จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานจัดหางานจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานแรงงานจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบึงกาฬ สำนักงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดบึงกาฬ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติสาขา 6 อุดรธานี และธกส.จังหวัดบึงกาฬ

นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่าการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จะสามารถสนับสนุนครัวเรือนยากจนให้สามารถบริหารจัดการชีวิตตนเองได้อย่างเหมาะสมดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเองและชุมชนได้อย่างยั่งยืน เป็นการตอบสนองต่ออุดมการณ์ "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” แก่ครัวเรือนเป้าหมายและสร้างศรัทธาแก่ประชาชน เกิดการทำงานแบบบูรณาการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาความยากจนทั้งในระดับส่วนกลางและระดับพื้นที่ เพื่อการร่วมมือกันแก้ปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป

กรมทรัพยากรธรณี จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาองค์ความรู้ด้านธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณี และธรณีพิบัติภัย ให้แก่คณะครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ

กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาองค์ความรู้ด้านธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณี และธรณีพิบัติภัย หลักสูตรที่ 43 ที่จังหวัดบึงกาฬ หวังให้บุคลากรทางการศึกษาทั้งในและนอกระบบที่เข้ารับการฝึกอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปดำเนินการสร้างแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยา ปรับปรุงสื่อการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น

วันที่ ( 08 - 01 - 57 ) เวลา 09.30 น. ณ โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ นายเทวัญ สรรค์นิกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดการประชุมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาองค์ความรู้ด้านธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณี และธรณีพิบัติภัย ซึ่งกรมทรัพยากรธรณีจัดขึ้นที่จังหวัดบึงกาฬ เป็นหลักสูตร/จังหวัดที่ 43 ระหว่างวันที่ 8 – มกราคม 2557 โดยแบ่งการฝึกอบรมออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1. การบรรยายภาคทฤษฎี 2. การศึกษาองค์ความรู้ในฐานองค์ความรู้จำนวน 5 ฐาน 3.ศึกษาแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยานอกสถานที่ในจังหวัดบึงกาฬ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดและเผยแพร่สู่เยาวชนและประชาชนของจังหวัดบึงกาฬต่อไป นายมนตรี เหลืองอิงคะสุต ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยา ในนามของกรมทรัพยากรธานี กล่าวว่า กรมทรัพยากรธรณีมีภารกิจในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยภารกิจส่วนหนึ่งเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ด้านธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณี ธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อม และธรณีพิบัติภัย ซึ่งมีเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ บุคลากรทางการศึกษาซึ่งเป็นกลุ่มของผู้ที่มีบทบาทสำคัญของประเทศและมีความใกล้ชิดกับเยาวชน ประชาชน และชุมชนในพื้นที่ ดังนั้น กรมทรัพยากรธรณี จึงได้จัดการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการพัฒนาองค์ความรู้ด้านธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณี และธรณีพิบัติภัย ตามที่ได้มีการลงนามในบันทึกความร่วมมือโครงการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ด้านธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณี และธรณีพิบัติภัย ร่วมกันกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ) เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2552 โดยมีวัตถุประสงค์ในการให้ความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจทางธรณีวิทยา ทรัพยากรธรณี และธรณีพิบัติภัย ให้แก่ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ให้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนให้แก่นักเรียน เยาชน รวมทั้งประชาชนทั่วไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมและปลูกจิตสำนึกแก่คณะครูให้มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อการสงวน อนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรธรณี ตลอดจนเรื่องการเฝ้าระวังลดผลกระทบในเรื่องของธรณีพิบัติภัย อีกทั้งเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ เสริมสร้างประสบการณ์และทักษะในการปฏิบัติงานธรณีวิทยาอย่างต่อเนื่อง ให้กับคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยการฝึกอบรมในครั้งนี้มีคณะครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ รวมทั้งผู้ที่สนใจ เข้ารับการฝึกอบรม จำนวน 150 คน

กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวร่วมพันคน รวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัด ร้องผู้ว่าฯ เร่งติดตามเงินโครงการรับจำนำข้าวฯ

เกษตรกรผู้ปลูกข้าวบุรีรัมย์กว่าพันคน รวมตัวชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ยื่นหนังสือร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งติดตามเงินโครงการรับจำนำข้าว ที่ทาง ธกส.ไม่สามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกร ขณะผู้ว่าฯ รับปากจะนำข้อเรียกร้องเสนอไปยังส่วนกลางภายในวันนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมพอใจแยกย้ายกันเดินทางกลับ ก่อนจะไปมอบช่อดอกไม้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ธกส. ต่อไป

( 9 ม.ค. 57 )กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 1 พันคน นำโดยนายวิสิทธิ์ เจริญอิทธิกุล สจ.เขตอำเภอกระสัง และนายโรจนศักดิ์ มณีสุระสมบัติ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกร นำมวลชนเดินทางด้วยรถยนต์กระบะกว่า 50 คัน พร้อมรถบรรทุกติดตั้งเครื่องขยายเสียง เดินทางมาชุมนุมที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดหลังใหม่ ต.เสม็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ หลังได้รับความเดือดร้อนจากโครงการรับจำนำข้าว ของรัฐบาลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องเงินจากโครงการรับจำนำข้าว ที่ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดบุรีรัมย์ ไม่สามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรได้ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 4 เดือน ส่งผลให้ชาวนาที่เข้าโครงการรับจำนำข้าวไม่มีเงินไปชำระหนี้ ค่าปุ๋ย ค่าเกี่ยว ค่านวด เกษตรกรที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจึงมาร้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ดำเนินการช่วยเหลือ

ซึ่งในเวลาต่อมาทางจังหวัดได้ประสานให้ทางกลุ่มผู้ชุมนุมส่งตัวแทนเข้าเจรจาเพื่อหาข้อสรุปในการมาชุมนุม และเข้าประชุมร่วมกันระหว่างตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม กับทางจังหวัด โดยมีนายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายกัณห์ รัตนสกุลชาติ ผอ.ธกส. นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร พาณิชย์จังหวัด และนายปรารภ ลิไธสง การค้าภายในจังหวัด เข้าหารือร่วมกัน แต่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงยืนยันที่จะขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอรับทราบรายละเอียดและแนวทางการแก้ไขรวมทั้งยื่นหนังสือข้อร้องเรียนต่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยตนเอง

จากนั้นในเวลา 11.00 น. นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เดินทางลงมาพบปะกับกลุ่มผู้ชุมนุม และรับหนังสือข้อเรียกร้องพร้อมรายชื่อเกษตรกรที่ประสบความเดือดร้อน เพื่อเสนอต่อรัฐบาล โดยมีนายโรจนศักดิ์ มณีสุระสมบัติ ตัวแทนกลุ่มเกษตรกรอ่านขอเรียกร้องซึ่งประกอบไปด้วย ข้อ 1.ภายในวันที่ 15 ม.ค.57 รัฐบาลจะต้องเริ่มจ่ายเงินให้กับพี่น้องเกษตรกร ข้อ 2.ถ้ามีการรับจำนำข้าวอีกพี่น้องจะไม่นำข้าวเข้ากับโครงการรับจำนำข้าวอีก และข้อ3.ในระหว่างการรอรับเงิน ขอให้ทาง ธกส.ช่วยชำระหนี้ ธกส.ให้กับเกษตรกรที่ประสบปัญหาแทนก่อน จากนั้นทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมยืนยันว่าหากไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม ภายใน 7 วัน ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจะมาติดตามขอรับทราบคำตอบ หากไม่เป็นไปตามข้อเรียกร้อง ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันจะรวมตัวกันปิดศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์อย่างแน่นอน

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดรับปากจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าว เสนอไปยังส่วนกลางโดยเร็วที่สุดภายในวันนี้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมต่างพอใจและแยกย้ายกันเดินทางกลับ

หลังจากนั้นตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม จำนวนร่วม 10 คน พร้อมรถติดตั้งเครื่องขยายเสียง ได้เดินทางไปยังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดบุรีรัมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อมอบช่อดอกไม้ ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ธนาคารทุกคนที่ได้เร่งรัดจ่ายเงินให้กับชาวนาที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวฯ โดยมีนายกัณห์ รัตนสกุลชาติ ผอ.ธกส.จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นตัวแทนรับมอบ

เหล่ากาชาดบุรีรัมย์มอบบ้านกาชาดรวมใจ ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ให้ผู้พิการ เขตอำเภอเมืองบุรีรัมย์

เหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ และ อบต.หลักเขต อำเภอเมืองบุรีรัมย์ มอบ "บ้านกาชาดรวมใจช่วยเหลือผู้ยากไร้” ให้กับครอบครัวผู้พิการทางร่างกาย วัย 38 ปี มีฐานะยากจน และประกอบอาชีพสุจริต อาศัยอยู่กับครอบครัว รวม 4 คน

( 9 ม.ค. 57 ) นายวิทยา จันทร์ฉลอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นางฉวีวรรณ ศรีเมือง รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ร่วมกันมอบบ้านเอื้ออาทรในโครงการ "บ้านกาชาดรวมใจช่วยเหลือผู้ยากไร้” ให้กับ นายสมเกียรติ โกงรัมย์ อายุ 38 ปี ราษฎรตำบลหลักเขต อำเภอเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นผู้พิการทางร่างกาย และมีฐานะยากจน ประกอบอาชีพโดยสุจริต ต้องอยู่อาศัยกับภรรยาและบุตร รวม 4 คน ทางองค์การบริหารส่วนตำบลหลักเขต จึงได้รายงานไปยังสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพิจารณาช่วยเหลืออนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างเป็นจำนวนเงิน 120,000 บาท และได้รับความร่วมมือร่วมแรงจากชาวบ้านในหมู่บ้านมาร่วมกันก่อสร้าง ตามนโยบายในการช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในสังคม ให้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

ซึ่งที่ผ่านมาเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้พิจารณาคัดเลือกผู้ยากไร้ และด้อยโอกาส เพื่อจัดสร้างที่อยู่อาศัยให้เป็นของตนเอง จำนวน 23 อำเภอ ๆ ละ 1 แห่ง รวมเป็นเงิน 2,760,000 บาท เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความเป็นอยู่อย่างถูกสุขลักษณะ

โคราช เปิดโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้ม ให้ประชาชน

วันที่ ( 9 ม.ค. 57 )  เวล า09.00 น. ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัดและอำเภอ ออกให้บริการประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดาร และห่างไกล ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าลาดขาว อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่ง การออกบริการประชาชนนี้ เป็นไปตามตามโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้ม ให้ประชาชน ในลักษณะจังหวัดเคลื่อนที่ ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา กำหนดจัดเดือนละ 2 ครั้งไปตามอำเภอที่มีหมู่บ้านทุรกันดารและห่างไกล ทั้ง 32 อำเภอ เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการในด้านต่างๆ โดยมีประชาชน ในพื้นที่ อ.โชคชัย และ อำเภอใกล้เคียง มารับบริการเป็นจำนวนมาก ในโอกาสเดียวกันนี้ เหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภคและแว่นสายตามอบให้ประชาชน และผู้สูงอายุ รวมทั้งยังได้มอบพันธุ์ปลาและกล้าไม้ ให้ผู้นำท้องถิ่นและประชาชนนำไปปล่อยและไปปลูกอีกด้วย สำหรับโครงการส่งเสริมความจงรักภักดีต่อสถาบัน บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้ม ให้ประชาชน ในลักษณะจังหวัดเคลื่อนที่ได้มีกลุ่มแม่บ้านและเกษตรกร ได้นำสิ้นค้าโอทอป และพืชผักทางการเกษตรออกมาจำหน่ายด้วย

มข.แถลงข่าวการจัดงานวันเกษตรภาคอีสาน ปี 2557 ระหว่างวันที่ 24 ม.ค. - 2 ก.พ. 57

รองศาสตราจารย์มนต์ชัย ดวงจินดา คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น กำหนดจัดงานวันเกษตรภาคอีสานประจำปี 2557 เป็นปีที่ 23 ของการจัดงานงานโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตรสู่เกษตรกรและชุมชนในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำหนดจัดขึ้น 10 วัน ระหว่างวันที่ 24 มกราคม - 2 กุมภาพันธ์ 2557 บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ ณ อุทยานเทคโนโลยีการเกษตรมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้คำขวัญการจัดงานว่า "50 ปี การพัฒนาเกษตรอีสาน สู่มาตรฐานเกษตรอาเซียน” โดยมีพิธีเปิดงานในวันศุกร์ที่ 24 มกราคมนี้ เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป ณ อาคารนิทรรศการจัตุรมุข อุทยานเทคโนโลยีการเกษตร มี การประชุมวิชาการเกษตร เพื่อนำเสนอผลงานวิจัยการเกษตรระหว่างวันที่ 27 - 28 มกราคม ณ ห้องประชุมกวี จุติกุล การจัดนิทรรศการองค์ความรู้และเทคโนโลยีการเกษตร ทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชน ผลงานวิจัยการปรับปรุงพันธุ์พืชชนิดต่างๆ โดยเฉพาะพันธุ์พืชเฉลิมพระเกียรติ การปรับปรุงพันธุ์สัตว์ การนำเทคโนโลยีทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการเกษตรการการจัดนิทรรศการด้านสิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์การเกษตรและเทคโนโลยีการเกษตรทั้งของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น งานกระบือแห่งชาติ นิทรรศการการพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวง นิทรรศการพืชผักสมุนไพร ก้าวไกลสู่อาเซียน นิทรรศการ การบัญชีนำวิถีสู่ความพอเพียง นิทรรศการและจำหน่ายพันธุ์ไก่ นิทรรศการชุดเพาะพันธุ์ปลาเคลื่อนที่ มีการออกร้านจำหน่ายผลิตผลของเอกชน นักศึกษา และส่วนราชการต่างๆ การเสวนาวิชาการเกษตร การฝึกอบรมอาชีพทางการเกษตร การประกวดและแข่งขันด้านการเกษตรหลายประเภท เช่น การประกวดและแข่งขันภูมิปัญญาชาวบ้านและศิลปหัตถกรรม การประกวดสวนหย่อมและพันธุ์พืช งานมหกรรมแข่งขันทำอาหารจากไก่พื้นเมือง การประกวดปลาสวยงาม แข่งขันกรีดยาง การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง ฯลฯ


ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

กกต.กาฬสินธุ์ จัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ชี้แจงกฎ ระเบียบแก่ผู้สมัคร ส.ส.และผู้สนับสนุน

กกต.กาฬสินธุ์ จัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์การเลือกตั้ง ส.ส. พร้อมชี้แจงกฎหมาย ระเบียบ และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องให้แก่ผู้สมัคร กลุ่มผู้สนับสนุน เพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีผู้สมัครและกลุ่มผู้สนับสนุนเข้าร่วม

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2557 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ นำโดยนายวีระศักดิ์ ภูครองหิน ประธาน กกต.จ.กาฬสินธุ์ ได้จัดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 และชี้แจงกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัคร ผู้สนับสนุน และผู้เกี่ยวข้องได้เข้าใจอย่างถูกต้อง เพื่อให้การเลือกตั้ง ส.ส.ของจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม ไม่มีเรื่องร้องเรียน โดยมี พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ มาชี้แจงบทบาทหน้าที่ของตำรวจในการสนับสนุนการเลือกตั้ง ซึ่งมีผู้สมัคร ส.ส. กลุ่มผู้สนับสนุน คณะกรรมการเลือกตั้งประจำเขต, ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขต ทั้ง 6 เขต เข้าร่วมรับฟัง

นายวีระศักดิ์ ภูครองหิน ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ในส่วนของจังหวัดกาฬสินธุ์ มีความพร้อมอย่างเต็มที่ โดยได้มีการให้ความรู้ ความเข้าใจ แก่พนักงาน คณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ตลอดจนตัวผู้สมัคร ส.ส. กลุ่มผู้สนับสนุน และสมุห์บัญชีของผู้สมัครแต่ละราย ในส่วนของการเลือกตั้งล่วงหน้าตอนนี้ได้กำหนดสถานที่เลือกตั้งกลางล่วงหน้านอกเขตจังหวัดที่สำนักงาน กกต.จังหวัดกาฬสินธุ์ ส่วนเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตจังหวัด ได้กระจายครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชน ด้านการดูแลรักษาความปลอดภัยได้ประสานงานกับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้การจัดชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสายข่าว เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งไว้ดูแลความปลอดภัยทั้ง 1,600 กว่าหน่วย



ดวงใจ หงษ์จันทร์ ข่าว / ภาพ

จังหวัดกาฬสินธุ์ เตรียมพร้อมทีมนิเทศออกติดตามการเก็บข้อมูล จปฐ. และ ข้อมูลพื้นฐาน ระดับจังหวัดประจำปีพ.ศ.2557

เช้าวันที่ ( 9 ม.ค. 57 ) ที่ห้องประชุม ศาลากลางจังหวังหวัดกาฬสินธุ์ นายสิริรัฐ ชุมอุปการ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุม คณะทำงานติดตามผลการจัดเก็บข้อมูล จปฐ. และ ข้อมูลพื้นฐาน ระดับจังหวัดประจำปี พ.ศ.2557 ซึ่งมีส่วนราชการหลายหน่วยงานเป็นคณะทำงาน เข้าร่วมประชุม

นายสิริรัฐ ชุมอุปการ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานคณะทำงานติดตามผลการจัดเก็บข้อมูล จปฐ. และ ข้อมูลพื้นฐาน ระดับจังหวัดประจำปี พ.ศ.2557 เพื่อให้ทำหน้าที่นิเทศ ติดตามการบริหารการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน สามารถนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้จะมีการเริ่มจัดเก็บข้อมูลตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2557

นายประทับ ทองภู รักษาราชการแทนพัฒนาการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า แบบสอบถามข้อมูล จปฐ. และข้อมูลพื้นฐาน ประกอบด้วย 5 หมวด 30 ตัวชี้วัด ดังนี้ หมวดที่ 1 สุขภาพดี มี 7 ตัวชี้วัด หมวดที่ 2 มีบ้านอาศัย มี 8 ตัวชี้วัด หมวดที่ 3 ฝักใฝ่การศึกษา มี 5 ตัวชี้วัด หมวดที่ 4 รายได้ก้าวหน้า สุขภาพดี มี 4 ตัวชี้วัด หมวดที่ 5 ปลูกฝังค่านิยมไทย มี 6 ตัวชี้วัด ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ตอบแบบสอบถามข้อนข้างเสียเวลาอยู่บ้าง และ หากการตอบคำถามที่ได้ข้อมูลเป็นจริง จะช่วยให้ภาคส่วนๆต่างๆ นำข้อมูลเหล่านั้นมาเป็นพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ตรงกับความต้องการ และจะเป็นประโยชน์ที่จะย้อนกลับมาถึงประชาชนในภายหน้า ถือว่าคุ้มค่าที่สุด



วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว

หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ นครพนม จัดงานวันเด็กแห่งชาติ 2557

นางลัดดาวัลย์  ทิพย์สิงห์  หัวหน้าหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  นครพนม  เปิดเผยว่า  หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ  นครพนม  กิจกรรมส่งเสิรมการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2557  ในวันเสาร์ที่  11  มกราคม  2557  เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป   เพื่อปลูกฝัง  ส่งเสริม สนับสนุน  กระตุ้นให้เด็กนักเรียนและเยาวชนเห็นความสำคัญของการอ่านและได้มีโอกาสแสดงความสามารถในการริเริ่มสร้างสรรค์อีกทั้งได้รัยความรู้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน  โดยมีกิจกรรมตอบคำถามพาเพลิน  เกมการละเล่น  กิจกรรมนันทนาการ  นิทรรศการต่างๆ  รับของรางวัลมากมาย

ผลการประกวดข้าวหอมมะลิจังหวัดนครพนม

 จังหวัดนครพนมประกวดข้าวหอมมะลิ  เพื่อรักษาคุณภาพ  มาตรฐานการผลิตข้าวหอมมะลิ

นายสมชาย  วิทย์ดำรงค์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  จังหวัดนครพนม  จัดประกวดข้าวหอมมะลิ  โดยมีการส่งเข้าประกวดประเภทเกษตรกรรายบุคคล  54  ตัวอย่าง  ประเภทกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร  5  ตัวอย่าง  ซึ่งผลการประกวดประเภทรายบุคคล  จำนวน 4 รางวัล  รางวัลชนะเลิศ  เงินสด 5,000 บาท  พร้อมใบประกาศเกียรติบัตร  ได้แก่  นายกาศ  พรมพินิจ  อำเภอปลาปาก  รางวัลรองชนเลิศอันดับที่  1  เงินสด  4,000  บาท  พร้อมใบประกาศเกียรติบัตร  ได้แก่ นายวิจิตร  ธรรมเม  อำเภอเรณูนคร  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2  เงินสด  3,000  บาท  พร้อมใบประกาศเกียรติบัตร ได้แก่  นายเฉลิม  มาภา  อำเภอปลาปาก  รางวัลชมเชย  เงินสด 1,000  บาท  พร้อมใบประกาศเกียรติบัตร ได้แก่ นายพิทักษ์  สมดีตี  อำเภอปลาปาก  ประเภทกลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร จำนวน 2 รางวัล  รางวัลชนะเลิศ  เงินสด  6,000 บาท  พร้อมใบประกาศเกียรติบัตร  ได้แก่  ศูนย์ส่งเสริมและผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวตำบลนาใน  อำเภอโพนสวรรค์  รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 เงินสด 5,000  บาท  พร้อมใบประกาศเกียรติบัตร  ได้แก่  ศูนย์ข้าวชุมชน  ตำบลอุ่มเหม้า  อำเภอธาตุพนม

อบจ.นครพนมมอบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และสาระการเรียนรู้ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดนครพนม

องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  มอบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และสาระการเรียนรู้ให้แก่โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดนครพนม  300 โรงเรียน  เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้กับสื่อการเรียนนวัตกรรมใหม่ๆ

นายสมชอบ  นิติพจน์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  กล่าวว่า  องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  ได้เห็นความสำคัญในเรื่องการศึกษา  ซึ่งปัจจุบันสื่อพัฒนาเร็วมาก  สื่อเดิมล้าสมัยไม่ทันโลกปัจจุบัน  หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เป็นสื่อแบบใหม่  สร้างโอกาสการศึกษาของท้องถิ่นให้มีการพัฒนาศักยภาพการเรียน การสอน  เป็นการพัฒนาคนให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย  จิตใจ  และเป็นการสร้างแรงดึงดูดให้เด็กอยากอ่านหนังสือ  กระตุ้นให้นักเรียน ครู ได้เริ่มศึกษาค้นคว้าหาความรู้กับสิ่งใหม่ๆ  โดยมีเป้าหมายมอบสื่ออิเล็กทรอนิกส์และสาระการเรียนรู้ให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดนครพนมครบทุกโรงเรียน  ทั้งในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา  จากนั้นองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  ได้ทำ MOU ส่งเสริมสื่อการเรียนการสอนกับ  โรงเรียนตงเจี่ย  เทศบาลเมืองนครพนม   สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 22  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนมเขต 1 และ 2  เพื่อการส่งมอบสื่ออิเล็กทรอนิกส์และสาระการเรียนรู้ในปีการศึกษาต่อไปจนครบทุกโรงเรียน

จังหวัดมุกดาหาร ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวแล้ว กว่าร้อยละ 50 ขณะที่ มีประชาชนอีกกว่า 2 หมื่นคนต้องการความช่วยเหลือ

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จังหวัดมุกดาหาร ได้ประกาศเขตให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินภัยหนาวทั้งจังหวัด เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2556 จำนวน 52 ตำบล 526 หมู่บ้าน ซึ่งได้ก่อให้เกิดความเสียหาย และประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นวงกลว้าง และจังหวัดได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จากการสำสำรวจเบื้องต้นทั้ง 7 อำเภอ มีประชาชนต้องการเครื่องกันหนาว จำนวน 58,734 คน แยกเป็นผู้สูงอายุ 29,187 คน เด็กไร้ผู้อุปการะ 129 คน คนพิการทุพพลภาพ 2,242 คน ผู้มีรายได้น้อย 15,546 คน และผู้ประสบความเดือดร้อน 10,410 คน
ล่าสุดจังหวัดมุกดาหาร ได้ดำเนินการให้การช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยหนาว ทั้งที่เป็นผ้าห่มและเครื่องกันหนาว ไปแล้วจำนวน 33,851 คน ดังนี้ อำเภอเมือง 3,184 ราย อำเภอนิคมคำสร้อย จำนวน 6,711ราย อำเภอคำชะอี จำนวน 7,106 ราย อำเภอดอนตาล จำนวน 3,992 ราย อำเภอหว้านใหญ่ จำนวน 3,933 ราย อำเภอหนองสูง จำนวน 3,705 ราย อำเภอดงหลวง จำนวน 5,220 ราย ขณะนี้เหลือประชาชนอีกกว่า 20,000 คน ที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า จะประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือต่อไป

จังหวัดสุรินทร์สนับสนุนการขับเคลื่อนสวัสดิการชุมชนจังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 2 /2557

 สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดประชุมคณะกรรมการ สนับสนุนการขับเคลื่อนสวัสดิการชุมชนจังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 2 /2557  ในวันพฤหัสบดี  ที่ 9  มกราคม  2557  เวลา 09.30 น. ณ  ห้องประชุมสุรินทร์ภักดี ชั้น  3  ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์    จึงแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

                                                                                 

                                                    มนตรา   รื่นกลิ่น สปชส.สร ข่าว

ล่าสุด การช่วยเหลือสาวพิการชีวิตรันทด เดินไม่ได้ พบผู้ใจบุญโอนเงินช่วยเหลือแล้วกว่า 5 หมื่นบาท

วันที่ ( 8 ม.ค. 57 ) หลังจากผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ ได้นำเสนอข่าว สภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่สุดแสนจันทดของหญิงสาวพิการวัย 28 ปี คือ น.ส.รานี เสาทอง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/3 ม.1 บ.หนองคูน้อย ต.ขอนแตก อ.สังขะ จ.สุรินทร์ โดยร่างกายพิการ ขาทั้ง 2 ข้างลีบไม่สามารถเดินได้ ต้องใช้มือในการค้ำยัน เพื่อใช้ก้นเขยิบถูลากตัวเอง เพื่อเคลื่อน ทำกิจวัตรประจำวันต่างๆภายในกระท่อมไม้หลังเล็กๆเก่าๆหลังคามุงหญ้าคา ที่รอวันจะผุพัง ในสภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก ประกอบกับการขับถ่ายปัสสาวะก็ไม่สามารถทำได้ ต้องใช้ถุงและสายยางปัสสาวะสวนไปยังอวัยวะเพศตลอดเวลา เพื่อให้ปัสสาวะไหลลงถุงได้ มิหนำซ้ำญาตพี่น้องก็หนีไปมีครอบครัวกันหมด ไม่มีใครคอยดูแล ต้องช่วยเหลือตัวเองตามยะถากรรม ไม่พอยังต้องอดมื้อกินมื้อ จากข้าวสารอาหารแห้งและป้าข้างบ้านหยิบยื่นตามมีตามเกิดเช่นกัน ทั้งนี้หลังจากผู้สื่อข่าวนำเสนอข่าวดังกล่าว

ล่าสุดพบว่ามีประชาชนผู้ใจบุญโอนเงินมาช่วยเหลือที่หมายเลขบัญชี 404-709390-3 ชื่อบัญชี นางสาว รานี เสาทอง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สาขา สังขะ (สุรินทร์) พบว่ามียอดเงินถึง 50,230 บาท แล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ใจบุญเดินทางมาเยี่ยมนางสาวรานี ถึงที่บ้านพร้อมมอบสิ่งของข้าวสารอาหารแห้งจำนวนหนึ่ง ขณะที่บางรายโทรศัพท์มาสอบถามถึงชีวิตความเป็นอยู่และโอนเงินมาช่วยเหลืออีกด้วย อย่างไรก็ตามนางสาวรานีได้ล้มป่วยด้วยอาการแน่นท้องจุกเสียดอีกครั้ง ต้องถูกหามตัวส่งมารักษาที่เตียง 20 ภายในตึกอายุรกรรมหญิง โรงพยาบาลสังขะ จ.สุรินทร์ มากว่า 2 สัปดาห์แล้ว โดยแพทย์ระบุว่านางสาวรานีมีอาการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ เนื่องจากการที่ต้องสอดใส่ท่อปัสสาวะตลอดเวลา เหตุจากไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายของปัสสาวะได้ ซึ่งขณะนี้อาการเริ่มดีขึ้น โดยอีก 2 วัน แพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านได้

ขณะที่นางสาวรานี ได้ฝากขอบคุณผู้ใจบุญทั่วประเทศที่มีน้ำใจช่วยเหลือพร้อมกับอวยพรให้ผู้ใจบุญทุกท่านจงมีแต่ความสุขอีกด้วย ทั้งนี้นางสาวรานีกล่าวอีกว่าตนเองอยากได้บ้านหลังเล็กๆที่มีความมั่นคงสักหลังเพื่อกันแดดกันฝน เนื่องจกกระท่อมหลังเก่ามุงหญ้าคาเริ่มผุพังหมดแล้วด้วย หากผู้ใจบุญต้องการความช่วยเหลือหญิงสาวพิการชีวิตรันทดรายนี้เพิ่มเติมสามารถติดต่อมาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ของนางสาว โดยตรง ที่หมายเลข 080-1652939 หรือสามารถโอนเงินมาช่วยเหลือที่หมายเลขบัญชี 404-709390-3 ชื่อบัญชี นางสาว รานี เสาทอง ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ สาขา สังขะ (สุรินทร์)



อุทัย  มานาดี / รายงาน

จับไม้พยุง 461 ท่อน มูลค่า 35 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ ปทส.ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วย สุรินทร์(สร.2) พร้อมด้วยตำรวจ สภ.ปราสาท และตำรวจตระเวนชายแดน 217 สนธิกำลังเข้าจับกุมตรวจยึดรถบรรทุกสิบล้อ ขณะลำเลียงไม้พะยูง ออกจากพื้นที่ อ.ปราสาท มุ่งหน้า จ.อุบลราชธานี สามารถควบคุม ผู้ต้องหาขณะลักลอบขนไม้พะยูง 461 ท่อน มูลค่า 35 ล้านบาท สารภาพ เตรียมส่งต่อไปยังไปนายทุนฝั่งประเทศลาว ปลายทางประเทศจีน

วันที่ ( 7 ม.ค. 57 ) ที่สำนักงานเขตอนุรักษ์ป่าสุรินทร์ที่2 ( สร.2 ) อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พล.ต.ต.ชัยทัต อินทนูจิตร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ เข้าตรวจสอบกองไม้พะยูงจำนวนมากถึง 461 ท่อน ซึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ป่าสุรินทร์ (ที่ สร.2) สนธิกำลังกับตำรวจ สภ.ปราสาทและตำรวจตระเวนชายแดนที่ 217 อ.ปราสาท เข้าตรวจจับกุมและตรวจยึดไว้ โดยเหตุเกิด เมื่อเวลา 23.45 น.ของคืนที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีรถบรรทุก สิบล้อทะเบียน 82-3688สุรินทร์ มีพฤติการณ์ต้องสงสัยจอดในบริเวณชายป่าบริเวณบ้านตาหมาดปวง หมู่ที่ 5 ตำบลบ้านไทร์ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จากนั้นได้สินธิกำลังเข้าตรวจยึดและจับกุมนายสำราญ ฉิมงาม อายุ 46 ปี ราษฎรบ้านสะเดา หมู่ 5 ตงสะเดา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ได้ขณะให้คนงาน ลำเลียงไม้พะยูงขึ้นบรรทุกสิบล้อ หมายเลขทะเบียน 82—3688 สุรินทร์ และปิดคุมด้วยผ้าใบทั้งคันอย่างดี อ้างว่าได้รับจ้างจากเสี่ยคนหนึ่ง ไม่ทราบนาสกุล ซึ่งผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สุรินทร์ ได้สอบปากคำขยายผลด้วยตนเอง

อย่างไรก็ตาม ของกลางไม้พะยูงจำนวนถึง 461 ท่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปราสาท เจ้าหน้าที่ ปทส.ที่ สร.2 ตชด.217 ตรวจยึดเอาไว้ ซึ่งมีจำนวน 8 ลูกบาศ์กเมตร มูลค่า 3 แสนกว่าบาท แต่หากไปยังต่างประเทศมูลค่าจะเพิ่มเป็น 35 ล้านบาทเลย ทีเดียว



อุทัย  มานาดี / รายงาน

แมงดาและของป่าจากเขมรขายดีที่ตลาดช่องจอม

 วันที่ ( 8 ม.ค. 57 ) บรรยากาศของการซื้อขายสินค้าที่ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังเทศกาลปีใหม่ 2557 ยังคงคึกอย่างต่อเนื่อง ยังคงมีนักท่องเที่ยว ชาวไทย และชาวสุรินทร์ แห่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว และเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป โดยเฉพาะสินค้ามือสองนำเข้าจากต่างประเทศ ผ่านพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา อาทิ รถจักรยานมือสอง ในราคาค้าปลีกและค้าส่ง เสื้อผ้า ผ้าห่ม เสื้อกันหนาว และรองเท้ามือสอง รวมไปถึงเครื่องจักรสาน เฟอร์นิเจอร์ไม้ จากประเทศกัมพูชา ต่างๆอย่างคึกคัก                        

ขณะที่สินค้าที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและพ่อค้าจากต่างจังหวัด ที่มียอดจำหน่ายวันละหลายตัน คือแมงดาเขมร ซึ่งชาวกัมพูชาออกจับได้จากป่าลึกในพื้นที่ชายแดนที่ยังคงมีสภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ฝั่งประเทศกัมพูชา แล้วนำมาจำหน่ายในราคาถูก แมงดาตัวผู้ขายเพียงตัวละ 10 บาท ซึ่งเมื่อนำไปตำน้ำพริกจะมีกลิ่นหอมรสชาติอร่อย ส่วนแมงดาตัวเมียขายเพียงตัวละ 5 บาทเท่านั้น หากซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อก็จะได้ราคาส่ง นอกจากนั้นยังมีมะม่วงพันธุ์แก้วเหลือง ลูกใหญ่ๆจำหน่ายเพียง 4 ก.ก.100 บาท หอม กระเทียม สมุนไพรเขมร และอาหารป่าอีกมามายราคาถูกและหารับประทานได้ยาก อาทิ หวายสด มันเล็บเสือ เห็ดกระดาง ลูกสมอ ฯลฯ

นางเกิ่น แม่ค้าปลาแห้งรมควัน ชาวกัมพูชา กล่าวว่า ตนนำปลาแห้งรมมาจากจังหวัดเสียมราฐ ประเทศกัมพูชา มาจำหน่ายที่ตลาดช่องจอม กว่า 3 ปีแล้ว จำหน่ายในราคาไม่แพง เช่น ปลาเนื้ออ่อนรมควันขายเพียงไม้ละ 130 บาทเท่านั้น ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่จนถึงทุกวันนี้ขายดีมาก มีคนมาเดินตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมาประกอบกับช่วงนี้อากาศหนาวทำให้ของป่ามีมากหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อไปรับประทานกัน ที่หาได้ยากในฝั่งไทย



อุทัย  มานาดี / รายงาน

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 5 นครราชสีมา รุกโครงการจัดทำข้อมูลและเก็บรวบรวมข้อมูลของการผลิต จัดเก็บข้อมูลข้าวนาปี 2556/57

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 5 นครราชสีมา (สศข.5) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ว่า สศข.5 มีแผนการในการออกจัดเก็บข้อมูลการเพาะปลูกและผลผลิตของข้าวนาปี ปี  2556/57 ซึ่งภายในพื้นที่เขตรับผิดชอบ 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยมีกำหนดเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 2 - 22 มกราคม 2557 ภายในเขตหมู่บ้านตัวอย่างที่มีการเพาะปลูกข้าวนาปี จำนวน 640 หมู่บ้าน เพื่อที่จะนำเอาข้อมูลที่ได้สอบถามจากเกษตรกรที่ตกเป็นตัวอย่างในการสำรวจมาทำการหาประมาณทางสถิติ และจะนำเอาข้อมูลที่ได้จากการสำรวจมาทำการวิเคราะห์ เพื่อหาค่าปริมาณการผลิตของข้าวนาปีภายในปีเพาะปลูกนี้ สำหรับโครงการจัดทำข้อมูลและเก็บรวบรวมข้อมูลของการผลิตพืชชนิดต่างๆนั้น  สศก. ได้ดำเนินการเป็นประจำทุกปีโดยจะทำการสำรวจปีละหนึ่งถึงสองครั้งเพื่อทำการศึกษาในเรื่องเกี่ยวกับเนื้อที่เพาะปลูกเมล็ดพันธุ์ชนิดต่างๆ ที่เกษตรกรใช้ในการเพาะปลูกรวมทั้งปริมาณการผลิตที่คาดว่าจะได้ โดย สศก. จะนำเอาข้อมูลที่ได้มาศึกษาเปรียบเทียบข้อมูลในแต่ละปีว่า  เกษตรกรที่ทำการเกษตรอยู่ในปัจจุบันมีการผลิตข้าวนาปีเพิ่มขึ้นหรือลดลง เนื่องจากในแต่ละปีสภาพดินฟ้าอากาศมีสภาพที่แตกต่างกัน เกษตรกรจะประสบกับปัญหาในด้านใดบ้าง ซึ่งข้อมูลที่ได้จากการสำรวจสามารถจะนำมาทำการแก้ไขในเรื่องต่างๆ ที่ประสบปัญหาให้กับเกษตรกรได้อย่างถูกต้องและตรงจุด ซึ่งผลที่ได้ก็จะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรโดยตรง ทั้งนี้ สศข.5 จึงใคร่ขอความร่วมมือจากเกษตรกรในแต่ละหมู่บ้านให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ในการตอบแบบสอบถามและการให้ข้อมูล ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเกษตรกรเองในการนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาการเกษตร ส่วนท่านที่ต้องการทราบข้อมูลและสถิติผลการสำรวจ การพยากรณ์สามารถติดต่อได้ที่ Website www.oae.go.th หรือติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนปฏิบัติการข้อมูลการเกษตรศูนย์สารสนเทศการเกษตร โทร. 0 - 2940 - 6641 ในวันและเวลาราชการ

จังหวัดสุรินทร์ขอเชิญร่วมงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2557

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ขอเชิญร่วมงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2557 ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2557 เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณสำนักงานเทศบาลเมืองสุรินทร์ ตามคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ  ประจำปี  2557 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มอบไว้ว่า "กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทย ให้มั่นคง”เพื่อให้เป็นวันเติมเต็มความสุขให้กับเด็กๆ ตลอดจนส่งเสริมให้เด็กเป็นต้นกล้าที่ดีของสังคม ได้เรียนรู้ระเบียบวินัย รู้จักสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ มีความยึดมั่น ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข อีกทั้งเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นเตือน พัฒนาเด็กและเยาวชนในท้องถิ่นได้เจริญเติบโตเป็นพลเมืองที่ดีในอนาคตสืบไป เทศบาลเมืองสุรินทร์ ได้ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม ชมรม ผู้ประกอบการ และประชาชนในจังหวัดสุรินทร์ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของเด็กจึงได้จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2557 ขึ้น สำหรับกิจกรรมในงาน เริ่มตั้งแต่เวลา 07.20 น. ชมขบวนพาเหรดฉลองวันเด็กแห่งชาติ 2557 จุดเริ่มต้นที่บริเวณสถานีรถไฟสุรินทร์ จากนั้นขบวนเคลื่อนไปตามถนนธนสาร ผ่านวงเวียนน้ำพุ ถึงสี่แยกตลาดสดเทศบาล เลี้ยวซ้ายไปตามถนนกรุงศรีใน สิ้นสุดขบวนที่บริเวณสำนักงานเทศบาลเมืองสุรินทร์ ภายในงาน ร่วมชม และร่วมสนุกสนาน ที่บูทของหน่วยงานต่างๆ ทั้ง ภาครัฐ ภาคเอกชน สมาคม ชมรม ผู้ประกอบการ สถาบันการศึกษา ชมรมผู้ประกอบการ และหน่วยงานอื่นๆ อีกมากมาย ร่วมชื่นชมเป็นกำลังใจและร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแก่เด็กดีเด่น ประจำปี  2557 จากสถานศึกษาทุกแห่ง ชมการแสดงดนตรี การแสดงของนักเรียน ภายในงานยังมีการจัดเลี้ยงอาหาร เครื่องดื่มฟรี พร้อมทั้งแจกของขวัญ ของรางวัล อุปกรณ์เสริมทักษะการเรียนรู้ ให้เด็กๆ ทุกคนที่มาร่วมงานด้วย

โรงพยาบาลสุรินทร์ ร่วมกับมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม มอบโอกาสให้แก่ผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่ รับการผ่าตัดแก้ไข ฟรี

โรงพยาบาลสุรินทร์ ร่วมกับมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม มอบโอกาสพิเศษให้แก่ผู้ป่วยปากแหว่ง เพดานโหว่ นิ้วติด นิ้วเกิน แผลจากไฟไหม้ หรือแผลบนใบหน้าอื่นๆ รับการผ่าตัดแก้ไข ฟรี โดยทางมูลนิธิจะนำทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยดูแลผ่าตัดให้แก่ผู้ป่วยทุกท่าน ในวันที่ 17-21 กุมภาพันธ์  2557 ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ นอกจากนั้น ทางมูลนิธิ จะออกค่าเดินทางให้แก่ผู้ป่วยรายละ 400 บาท ในวันที่ท่านเดินทางมาคัดกรองอาการ และ อีก  400 บาท ในวันที่ท่านมาติดตามผลการผ่าตัด ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ นิ้วติด นิ้วเกิน ที่จะได้รับการผ่าตัดให้เป็นปกติและอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข และที่สำคัญผู้ป่วยจะไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ ท่านใดที่มีบุคคลในครอบครัว หรือพบเจอคนที่รู้จัก มีอาการดังกล่าว แจ้งไปยังผู้ป่วยเพื่อมารับโอกาสดีในครั้งนี้ โดยสามารถติดต่อลงทะเบียนได้ทาง 044 -511757 ต่อ 360 หรือติดต่อได้โดยตรงที่ อาคารศัลยกรรม 9/4 ได้ทั้งในและนอกเวลาราชการ

สภากาชาดไทยมอบผ้าห่มกันหนาวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยหนาวที่จังหวัดอำนาจเจริญ

วันที่ ( 8 ม.ค. 2557 ) เวลา 10.00 น. พลโท นพ.อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทยนำชุดผ้าห่มกันหนาวพระราชทานและชุดยาสามัญ ประจำบ้าน มามอบให้กับประชาชนผู้ประสบภัยหนาว ในพื้นอำเภอปทุมราชวงศาและอำเภอชานุมานจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมี นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวต้อนรับและรายงานสภาพทั่วไปว่า ในช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นช่วงฤดูหนาว ที่มีความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นปกคลุมโดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่งผลให้อุณหภูมิลดลง และมีอากาศหนาวเย็น ประชาชนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากภัยหนาวเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะประชาชนที่ไม่มีผ้าห่มและเครื่องกันหนาวที่เพียงพอสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับการร้องขอจากราษฎรในพื้นที่อำเภอปทุมราชวงศา และอำเภอชานุมาน ว่ามีราษฎร ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากประสบภัยหนาว รวมจำนวน 1,000 ครัวเรือน ซึ่งสภาพภูมิประเทศของอำเภอปทุมราชวงศาและอำเภอชานุมาน โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูง ราษฎรมีอาชีพทำนา ทำสวน ปลูกไม้ผล พืชไร่ และพืชผักต่างๆ ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ไม่มีเครื่องกันหนาวเพียงพอ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน พลโท นพ.อำนาจ บาลี ผู้อำนวยการสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า จากรายงานทราบว่า จังหวัดอำนาจเจริญมีประชาชนเดือนร้อนกว่า 50,000 ครัวเรือน ตอนนี้จังหวัดอำนาจเจริญได้ ให้ความช่วยเหลือไปแล้วประมาน 10,000 กว่าครัวเรือน ยังขาดอีกกว่า 40,000 ครัวเรือนที่ยังไม่ได้รับเครื่องกันหนาวจึงเป็นปัญหาใหญ่ของพี่น้องประชาชนที่ยังขาดแคลน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวดังกล่าว เหล่ากาชาดจังหวัดอำนาจเจริญจึงขอรับการสนับสนุนจากสภากาชาดไทย โดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สถานีกาชาดที่ 7 อุบลราชธานี ได้ให้การสนับสนุน ผ้าห่มกันหนาว เสื้อกันหนาว และชุดยาสามัญประจำบ้าน รวมทั้งสิ้นจำนวน 2,000 ชุด เพื่อมอบให้แก่ราษฎร 1,000 ชุด และเด็กนักเรียน1,000 ชุด ในพื้นอำเภอปทุมราชวงศาและอำเภอชานุมาน และในโอกาสนี้จึงขอเชิญชวน ประชาชน และผู้ใจบุญร่วมกันบริจาคเครื่องนุ่มห่มกันหนาวเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวไทย โดยสามารถบริจาคได้ที่สภากาชาดไทย โทร 02-2517853 หรือสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดทุกจังหวัด

ปี 2560 ประชาชนจังหวัดอำนาจเจริญจะต้องมีระบบสวัสดิการถ้วนหน้า

คณะกรรมการสนับสนุนการขับเคลื่อนสวัสดิการชุมชนจังหวัดอำนาจเจริญ พอใจในผลงานการขับเคลื่อนงานสวัสดิการชุมชนในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมกำหนดเป้าหมายในปี 2560 ประชาชนจังหวัดอำนาจเจริญจะมีระบบสวัสดิการถ้วนหน้า นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ได้ประชุมคณะกรรมการสนับสนุนการขับเคลื่อนสวัสดิการชุมชนจังหวัดอำนาจเจริญ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานพร้อมรับฟังปัญหาอุปสรรคการดำเนินงาน ซึ่งในที่ประชุมได้รับทราบการประเมินสถานะกองทุนสวัสดิการชุมชน ในปี 2556 มีความก้าวหน้าในระดับที่น่าพอใจ โดยในขณะนี้มีเงินทุนสวัสดิการทั้งหมด 114,395,306 บาท ซึ่งเป็นเงินกองทุนที่มาจากชุมชน เป็นเงิน 71,747,498 บาท ทั้งนี้ การดำเนินงานขับเคลื่อนงานสวัสดิการชุมชนสู่การจัดการตนเองในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ ปี 2546 จนสามารถขยายพื้นที่จัดตั้งกองทุนสวัสดิการจนเต็มพื้นที่ในปี 2554 และปัจจุบันมีสมาชิกกองทุนสวัสดิการชุมชนรวมกันทั้งหมด 64,887 ราย โดยมีการแบ่งกลุ่มพัฒนากองทุนสวัสดิการได้ 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มกองทุนที่มีความเข้มแข็งสามารถเป็นพื้นที่เรียนรู้ได้ จำนวน 15 กองทุน , กลุ่มกองทุนที่มีความเข้าแข็งและมีความพร้อมที่จะพัฒนาเป็นศูนย์การเรียนรู้ จำนวน 10 กองทุน , กลุ่มกองทุนกำลังพัฒนา จำนวน 23 กองทุน , กลุ่มกองทุนต้องพัฒนา จำนวน 13 กองทุน และกลุ่มกองทุนที่ต้องฟื้นฟู จำนวน 2 กองทุน อย่างไรก็ดีคณะกรรมการสนับสนุนการขับเคลื่อนสวัสดิการชุมชนจังหวัดอำนาจเจริญ และเครือข่ายสวัสดิการชุมชน มีความมุ่งหวังจะสร้างความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น จึงได้มีการจัดทำโครงการพัฒนาระบบสวัสดิการชุมชนสู่การจัดการตนเองจังหวัดอำนาจเจริญขึ้น พร้อมกำหนดเป้าหมายในปี 2560 ประชาชนจังหวัดอำนาจเจริญจะมีระบบสวัสดิการถ้วนหน้า

กรมสรรพากรพื้นที่สาขาเมืองอุบลราชธานี จะจ้างซ่อมแซมบ้านพักข้าราชการ ในวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2557 ด้วยวิธีสอบราคา

อุบลราชธานี : นายไพโรจน์ เจือประทุม สรรพากรพื้นที่อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ด้วยสรรพากรพื้นที่อุบลราชธานี จะดำเนินการซ่อมแซมบ้านพักข้าราชการ จำนวน 2 หลังวิธีสอบราคา กำหนดดูพื้นที่ในวันที่ 10 มกราคม 2557 ตั้งแต่ เวลา 11.00 น. ถึง เวลา 11.30 น. ณ บ้านพักข้าราชการสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาเมืองอุบลราชธานี อยู่ที่ ถนน สุรศักดิ์ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

กำหนดยื่นซอง ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 17 มกราคม 2557 ระหว่างเวลา 08.30 น. – 16.30 น. ในวันเวลาราชการ ณ งานพัสดุ ส่วนบริหารงานทั่วไป สำนักงานสรรพากรพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี   
กำหนดเปิดซองใบเสนอราคา ในวันที่ 22 มกราคม 2557 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ ส่วนบริหารงานทั่วไป สำนักงานสรรพากรพื้นที่อุบลราชธานี

ผู้สนใจติดต่อขอรับเอกสารสอบราคาจ้างได้ที่ ณ งานพัสดุ ส่วนงานบริหารทั่วไป สำนักงานสรรพากรพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 27 ธันวาคม 2556 – 17 มกราคม 2557 ในวันเวลาราชการ หรือสอบถามทางโทรศัพท์ 0-4547-4162-8 หรือ 0-4741-72-4 ต่อ 221

จังหวัดอุบลราชธานี จัดโครงการส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานของจังหวัดอุบลราชธานี ราชอาณาจักรไทย และจังหวัดเขาพระวิหาร ราชอาณาจักรกัมพูชา รองรับประชาคมอาเซียน

 นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดโครงการส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานของจังหวัดอุบลราชธานี ราชอาณาจักรไทย และจังหวัดเขาพระวิหาร ราชอาณาจักรกัมพูชา รองรับประชาคมอาเซียน โดยสถาบัน พัฒนาฝีมือแรงงานภาค 7 อุบลราชธานี ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตรยกระดับฝีมือช่าง สาขาการซ่อมเครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตร ระยะเวลาฝึก 84 ชั่วโมง ให้กับครูฝึกและแรงงานชาวกัมพูชา จากจังหวัดเขาพระวิหาร จำนวน 13 คน โดยกำหนดฝึกในระหว่างวันที่ 11 – 24 มกราคม 2557 ณ อาคารฝึกอบรม สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 7 อุบลราชธานี

การจัดอบรมดังกล่าวเพื่อเป็นการช่วยสนับสนุนครูฝึกและแรงงานชาวกัมพูชา ได้มีความรู้ ทักษะความรู้ฝีมือช่างสามารถกลับไปเผยแพร่ให้กับแรงงานในจังหวัดพระวิหาร ตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดเขาพระวิหาร ราชอาณาจักรกัมพูชา และประเทศเพื่อนบ้านตามชายแดน ตลอดจนเป็นการรองรับตลาดแรงงานสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 อีกด้วย

การแข่งขันกีฬาอุบลแชมป์เปี้ยนลีก ประจำปี 2557 หรือ UBON.UCL.2014 รับสมัครแล้ว

นายสุดใจ  จันทำ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมกีฬาและการท่องเที่ยวองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี  กล่าวว่า  องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี จัดการแข่งขันกีฬาอุบลแชมเปี้ยนลีก ขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการกีฬาของประชาชน และพัฒนาทักษะด้านกีฬา สร้างความสามัคคีของประชาชน โดยในปี2557 จัดการแข่งขันหลายชนิดกีฬาประกอบด้วย

-วอลเล่ย์บอล ชาย-หญิง อายุไม่เกิน 12 ปี 14 ปี 16ปีและ18 ปี
-ฟุตซอล ชาย อายุไม่เกิน 13 ปี และประชาชนทั่วไป
-ฟุตบอลชาย มีหลายรุ่นอายุ ได้แก่รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี 14ปี 16 ปี 18 ปี ประชาชนทั่วไป และอายวุโส 40 ปีขึ้นไป สำหรับรุ่นอาวุโส 40 ปีขึ้นไป ในฤดูกาลนี้ จะแบ่งการแข่งขันออกเป็นดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 โดยทีมที่ได้อันดับ 1ถึง 15 จากฤดูกาลที่แล้ว แข่งขันในระดับดิวิชั่น 1 ส่วนดิวิชั่น 2 เปิดรับสมัครใหม่

นอกจากนี้ ทั้งดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 สามารถใช้นักเตะต่างชาติลงสนามได้ ไม่เกิน 3คน ผู้สมัครต้องมีชื่อใน  ทะเบียนบ้านในจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดและสมัครเข้าร่วมแข่งขันได้ที่  ฝ่ายส่งเสริมกีฬาและการท่องเที่ยว องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี สนามกีฬากลาง (ทุ่งบูรพา ) ตำบลหนองขอน อำเภอเมือง  จังหวัดอุบลราชธานี  หรือที่  คุณสุดใจ จันทำ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการกีฬาฯ โทรศัพท์ 081 – 072 – 9374 ,  คุณพรสวรรค์ เปี่ยมสติ โทรศัพท์ 088 – 105 – 7338 ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์  2557 

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ขอเชิญผู้มีจิตร่วมบริจาคทุนทรัพย์ จัดโครงการเติมฝันปันรัก ครั้งที่ ๖ เพื่อต่อเติมโรงอาหารโรงเรียนบ้านคำข่า อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี

 ผศ.ประชุม ผงผ่าน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า งานประชาสัมพันธ์ ร่วมกับ งานบริการและสร้างเสริมสุขภาพ สาขาวิชาเทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี, เว็บไซต์ไกด์อุบลดอทคอม และคลังน้ำมัน ปตท. อุบลราชธานี จะจัดโครงการเติมฝันปันรัก ครั้งที่ ๖ ณ โรงเรียนบ้านคำข่า อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี โดยจะดำเนินการสร้างต่อเติมโรงอาหาร ระหว่างวันที่ ๘ – ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ และจะดำเนินการส่งมอบ ในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ซึ่งผู้มีจิตกุศลสามารถร่วมบริจาคทุนทรัพย์ หนังสืออ่านนอกเวลาเรียน สื่อการเรียนรู้ เสื่อน้ำมัน และโต๊ะนักเรียน หรือสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ได้ที่ งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี โทรศัพท์ ๐-๔๕๓๕-๒๐๐๐ ต่อ ๑๐๐๕ – ๑๐๐๘ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗

คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เชิญชวนนักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผลงานวิชาการและงานวิจัย ระหว่างวันที่ ๑๐ – ๑๒ มกราคม ๒๕๕๗

 ผศ.ประชุม ผงผ่าน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กำหนดจัดงานวันเทคโนโลยีอุตสาหกรรมวิชาการขึ้น ระหว่างวันที่ ๑๐ – ๑๒ มกราคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. ณ คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม โดยมีการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช นิทรรศการแสดงผลงานทางวิชาการและงานวิจัย และการแข่งขันทักษะทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ พร้อมทั้งกิจกรรม วันเด็ก สนุกเรียนรู้กับเกม ชมนิทรรศการออกร้านจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ตลอดจนการประกวดวงดนตรี และการแสดงต่างๆ อีกมากมาย ขอเชิญ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าชมงานกิจกรรมได้ตามวันเวลาดังกล่าว

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ร่วมกับ สมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย จัดการประชุมวิชาการและการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ ๓๖

 ผศ.ประชุม ผงผ่าน อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เปิดเผยว่า บัณฑิตศึกษา สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ร่วมกับ สมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย ได้กำหนดจัดการประชุมวิชาการและการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติและนานาชาติ และโครงการบริหารสัมพันธ์แห่งประเทศไทย ครั้งที่ ๓๖ ภายใต้ชื่องาน "ผู้นำนักศึกษากับการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน” ในวันที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๗ ณ โรงแรมสุนีย์แกรนด์ เพื่อเป็นเวทีให้คณาจารย์ นักวิจัย นิสิต นักศึกษา และผู้ที่สนใจได้นำเสนอผลงานทางวิชาการ และได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบการณ์ในการพัฒนางานวิจัยและการสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

จังหวัดอุบลราชธานี จัดอบรมการซ่อมเครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตรให้ครูฝึกและแรงงานกัมพูชา

อุบลราชธานี : เพิ่อส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างจังหวัดอุบลราชธานีกับจังหวัดพระวิหาร ราชอาณาจักรกัมพูชา รองรับประชาคมอาเซียน หลักสูตร 84 ชั่วโมง สาขาการซ่อมเครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตรให้กับครูฝึกและแรงงานกัมพูชา ระหว่างวันที่ 11 - 24 ม.ค. 57 ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 7 อุบลราชธานี

นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า จังหวัดอุบลราชธานี ได้ดำเนินโครงการส่งเสริมความร่วมมือด้านแรงงานของจังหวัดอุบลราชธานี ราชอาณาจักรไทยกับจังหวัดพระวิหาร ราชอาณาจักรกัมพูชา รองรับประชาคมอาเซียน โดยการจัดฝึกอบรมหลักสูตรยกระดับฝีมือ สาขาการซ่อมเครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตร โดยใช้ระยะเวลาการฝึก จำนวน 84 ชั่วโมงให้กับครูฝึกและแรงงานชาวกัมพูชา จำนวน 13 คน ระหว่างวันที่ 11 - 24 ม.ค. 57 ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 7 อุบลราชธานี

การจัดฝึกอบรมดังกล่าว เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างจังหวัดอุบลราชธานีกับประเทศเพื่อนบ้านและจากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้เดินทางไปเชื่อมสัมพันธไมตรีกับผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการเจรจาความร่วมมือถึงด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานแก่ครูฝึกแรงงานและแรงงานกัมพูชา ซึ่งความร่วมมือดังกล่าว เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านในระดับพื้นที่ให้มีความสัมพันธ์ที่ดีและเกิดความร่วมมือทั้งด้านการค้า การท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ที่เสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน อีกต่อไปด้วย


พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 081 924 8609 ข่าว

จังหวัดอุบลราชธานี เชิญเที่ยวงานวันเด็ก ปี 2557

อุบลราชธานี : เชิญชวนผู้ปกครองพาบุตร หลาน เที่ยวงานวันเด็กประจำปี 2557 โดยมีการาจัดงานที่กองบิน 21, มทบ.22, ตชด.22,เทศบาลนครอุบล,เทศบาลเมืองวารินชำราบ,ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาฯและที่ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 อุบลฯ โดยจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,เผยแพร่พระบรมราโชวาท,คติธรรม ของสมเด็จพระสังฆราชและกิจกรรมการละเล่นภายใต้คำขวัญ กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดีมีวินัย สร้างไทยให้มั่นคง ในวันเสาร์ที่ 11 ม.ค. 57 นี้    

นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดจังหวัดอุบลราชธานี จากการประชุมเพื่อเตรียมการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ จังหวัดอุบลราชธานี ที่ห้องประชุมปทุมวรราช ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งจังหวัดได้แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินงานขึ้น เพื่อพิจารณาแนวทางการจัดงาน ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี มีหน่วยงานภาครัฐ,เอกชนร่วมกันจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2557 หลายแห่ง เช่นที่กองบิน 21 มีกิจกรรมการแสดงบนเวทีกลาง,การแสดงกลางแจ้งและการแสดงของเครื่องบิน,การแสดงยุทโธปกรณ์ทางทหาร กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 ค่ายสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ,เทศบาลนครอุบล,ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี,มณฑลทหารบกที่ 22 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ โดยมีกิจกรรมแสดงยุทธวิธีทางทหาร การแสดงยุทโธปกรณ์ทางทหาร,เทศบาลเมืองวารินชำราบและที่สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 อุบลราชธานี

ในการจัดกิจกรรมและการละเล่นต่างๆ ในงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2557 ได้เน้นแนวทางการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งในปี 2557 เป็นปีมหามงคล ที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 87 พรรษากิจกรรมเผยแพร่กิจกรรมเผยแพร่พระบรมราโชวาท,คติธรรมของสมเด็จพระสังฆราช,คำขวัญวันเด็ก,กิจกรรมสร้างเสริมความประหยัดตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงกิจกรรมส่งเสริมความกตัญญู มีวินัย รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตน รักผู้อื่น รู้จักทำงานร่วมกับผู้อื่น มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความขยัน ทำงานอย่างฉลาด มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามัคคี รู้จักการบำเพ็ญประโยชน์และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และกิจกรรมภายใต้คำขวัญวันแด็ก ประจำปี 2557 กตัญญู รู้หน้าที่ เป็นเด็กดี มีวินัย สร้างไทยให้มั่นคง โดยกิจกรรมดังกล่าวเปิดโอกาสให้เด็กได้มีส่วนร่วมพร้อมทั้งได้รับความบันเทิง ความสนุกสนาน ในรูปแบบของการประกวด การแข่งขัน การแสดงความสามารถอื่นๆ

จังหวัดอุบลราชธานี จึงขอเชิญชวนผู้ปกครองนำบุตรหลาน เที่ยวชมงานวันเด็กแห่งชาติ วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2557 ตามสถานที่จัดงานดังกล่าว ทั้งในพื้นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานีและอำเภอวารินชำราบ ได้โดยทั่วกัน


พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี 081 924 8609 /ข่าว

จังหวัดอุบลราชธานี ขอเชิญ หน่วยงานราชการต่างๆในจังหวัดร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี บูรณปฏิสังขรณ์พุทธศาสนสถานค่ายวีรวัฒน์โยธิน

 นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี  เปิดเผยว่า ค่ายวีรวัฒน์โยธิน ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยข้าราชการได้จัดทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีขึ้น เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในเทศกาลปีใหม่ พุทธศักราช 2557 และเพื่อเป็นการรวบรวมทุนทรัพย์ในการบูรณปฏิสังขรณ์พุทธศาสนสถานค่ายวีรวัฒน์โยธิน ซึ่งชำรุดทุรดโทรมไปตามกาลเวลา โดยใช้งบประมาณในการบูรณะปฏิสังขรณ์ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 500,000 บาท โดยกำหนดทอดถวายผ้าป่าสามัคคี ณ พุทธศาสนสถานค่ายวีรวัฒน์โยธิน อำเภอเมืองสุรินทร์ ในวันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม 2557 เวลา 10.09 น. จังหวัดขอเชิญหน่วยงาน ประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการ ลูกจ้างและเจ้าหน้าที่ ในสังกัดร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้ตามกำลังศรัทธา โดยการโอนเงินเข้าบัญชี ธนาคารทหารไทย สาขาสุรินทร์ ชื่อบัญชี "อนุสาวรีย์หลวงวีรวัฒน์โยธิน” เลขที่บัญชี 415-242257-4 หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 044-511844 ต่อ 20024 โทรสาร 044-511008

สำนักงาน ก.พ. จะดำเนินการคัดเลือกนักเรียนเพื่อรับทุน United World Colleges(UWC) ประจำปี 2557

ด้วยคณะกรรมการระดับชาติขององค์การสหสากลวิทยาลัยประจำประเทศไทย จะดำเนินการรับสมัครคัดเลือกนักเรียนเพื่อนรับทุน United World Colleges (UWC) ประจำปีการศึกษา 2557 ระหว่างวันที่ 2 มกราคม – 14 กุมภาพันธ์ 2557 จำนวน 5 ทุน และโควตาที่นั่งเรียน จำนวน 1 ทุน สำหรับรายละเอียดของประกาศรับสมัคร ใบสมัคร และแบบฟอร์มต่างๆ ของการสมัครคัดเลือก สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซด์ของสำนักงาน ก.พ.www.ocsc.go.th หัวข้อ "ทุนรัฐบาล” หัวข้อย่อย "ทุนอื่น ๆ”

กกต.จังหวัดอุบลราชธานี แจ้งผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตจังหวัด

นายสุรพล  สายพันธ์ ประธาน กกต.จังหวัดอุบลราชธานี  เปิดเผยว่า  ตามที่มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2556 และให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ขอให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดอุบลราชธานี ที่มีภารกิจในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 จนไม่สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งได้  ขอให้ไปลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตจังหวัด ณ สำนักงานทะเบียนอำเภอ หรือ สำนักงานทะเบียนท้องถิ่น ที่มีภูมิลำเนา ตั้งแต่วันที่ 13 ถึง 17 มกราคม 2557  เวลา 08.30 น. ถึง 16.30 น.

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ เลือกตั้ง ส.ส.ในเขตจังหวัด ต้องไปใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้ง ล่วงหน้าในเขตจังหวัด ในวันเดียวกันกับผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.นอกเขตจังหวัด คือวันที่ 26 มกราคม  2557  เวลา 08.00 – 15.00 น.

สถานที่เลือกตั้ง ล่วงหน้า ส.ส. ในเขตจังหวัด เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ว่าการอำเภอเมืองอุบลราชธานี  เขต 2 ที่ว่าการอำเภอม่วงสามสิบ เขต 3 ที่ว่าการอำเภอเขื่องใน  เขต 4 ที่ว่าการอำเภอวารินชำราบ เขต 5 ที่ว่าการอำเภอตระการพืชผล  เขต 6 ที่ว่าการอำเภอเขมราฐ  เขต 7 ที่ว่าการอำเภอศรีเมืองใหม่  เขต 8 ที่ว่าการอำเภอพิบูลมังสาหาร เขต 9 ที่ว่าการอำเภอบุณฑริก เขต 10 ที่ว่าการอำเภอน้ำขุ่นและที่ว่าการอำเภอสำโรง เขต 11 ที่ว่าการอำเภอเดชอุดม    สถานที่เลือกตั้งล่วงหน้า ส.ส.นอกเขตจังหวัด มีที่เดียวคือ ศูนย์โอทอปเซ็นเตอร์  อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี

ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน กกต.จังหวัดอุบลราชธานี โทรศัพท์หมายเลข 045-355366-7


กรกช  ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน 
สปข.2 รายงาน

ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ(อุบลราชธานี)จัดทำอุบลบาลสารหม่อนไหม จำนวน 2 ฉบับ

อุบลราชธานี : ว่าที่ร้อยโท เรืองศักดิ์ บุญโนนแต้ ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (อุบลราชธานี) เปิดเผยว่า ศูนย์หม่อนไหม ฯ จัดทำอุบลบาลสารหม่อนไหม ฉบับที่ 10 และฉบับที่ 11 วันที่ 27 ธันวาคม 2557 ฉบับที่ 10 มีหัวข้อ เรื่อง หม่อนไหมอุบลประชุมประชาพิจารณ์คัดเลือกเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ ปี 57 ฉบับที่ 11 ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ อุบลราชธานี ร่วมจัดงาน คลิกเกษตรเคลื่อนที่ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2556 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (อุบลราชธานี) ถนนวาริน – พิบูล หมู่ที่ 1 ตำบล บุ่งมะแลง อำเภอเมืองสว่าง วีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี 0-4542-6005 E-mail : qssc_ubn@qsds.go.th ในวันเวลาราชการ

ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ(อุบลราชธานี) จัดทำข่าวประชาสัมพันธ์ ฉบับที่ 5 เรื่อง เทคนิคการเลี้ยงไหมในฤดูหนาว

 อุบลราชธานี : ว่าที่ร้อยโท เรืองศักดิ์ บุญโนนแต้ ผู้อำนวยการศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (อุบลราชธานี) เปิดเผยว่า ศูนย์หม่อนไหม ฯ ได้จัดทำข่าวประชาสัมพันธ์ เรื่อง เทคนิคการเลี้ยงไหมฤดูหนาว โดยผู้เลี้ยงจะประสบปัญหาหนอนไหมสุกช้า ชะลอการเจริญเติบโต อาจมีผลทำให้ผลผลิตรังไหมตกต่ำต้องปฏิบัติดังนี้ 1.ตั้งเตาไฟที่ปราศจากควันไว้ในห้องเลี้ยงไหมและวางกะละมังหรือถังบรรจุน้ำบนเตา เพื่อเพิ่มอุณหภูมิและความชื้นในโรงเลี้ยงไหม 2.ปิดหน้าต่างและประตูโรงเลี้ยงไหมเพื่อเพิ่มอุณหภูมิภายใน 3.พ่นละอองน้ำลงบนใบหม่อนที่เก็บไว้เพื่อเลี้ยงไหม เพื่อไม่ให้ใบหม่อนเหี่ยวเฉาเร็วเกินไป หรือปรับสภาพรอบด้านให้มีความชื้นสูงขึ้น 4. การให้ใบหม่อนใช้เลี้ยงในแต่ละครั้ง ควรมีปริมาณพอดี หรือใกล้เคียงกับความต้องการของหนอมไหม 5.เพิ่มจำนวนครั้งในการโรยแกลบเผาหรือปูนขาวเพื่อดูดความชื้น พร้อมถ่ายมูลไหมและเศษใบหม่อนที่เหลือ เพื่อลดความชื้น 6.ในห้องเก็บใบหม่อนเพื่อเลี้ยงไหมควรปรับสภาพให้อากาศถ่ายเท ไม่อัพชื้น ให้ใบหม่อนที่สะอาดปราศจากฝุ่นละอองและสารเคมี หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ ที่ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (อุบลราชธานี) ถนนวาริน – พิบูล หมู่ที่ 1 ตำบล บุ่งมะแลง อำเภอเมืองสว่าง วีระวงศ์ จังหวัดอุบลราชธานี 0-4542-6005 E-mail : qssc_ubn@qsds.go.th ในวันเวลาราชการ

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดอุบลราชธานี ประกาศจุดจำนำข้าวเปลือก ปี 2556/57 จังหวัดอุบลราชธานี

 อุบลราชธานี : นางสาวปาริชาติ พงค์พันเทา การค้าภายในจังหวัดอุบลราชธานี อนุกรรมการและผู้ช่วยเหลือเลขานุการคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแล การรับจำนำระดับจังหวัด จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ได้มีมติครั้งที่ 7/2556 อนุมัติโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556 / 57 โดยเริ่มดำเนินการรับจำนำครั้งที่ 1 นาปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556- 28 กุมภาพันธ์ 2557 ครั้งที่ 2 นาปรัง ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 ครั้งที่ 2 นาปรัง ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2557 – 30 กันยายน 2557 โดย วันที่ 7 มกราคม 2557 มีโรงสีรับจำนำข้าวเปลือก ปี การผลิต 2556/57 ครั้งที่ 1 จำนวน 49 ราย

สำนักงานสรรพากรจังหวัดอุบลราชธานี ขอเชิญผู้มีเงินได้ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปี ภาษี 2556

นายไพโรจน์  เจือประทุม สรรพากรพื้นที่อุบลราชธานี  เปิดเผยว่า  ขณะนี้ใกล้จะถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด.90 และ ภ.ง.ด.91 ประจำปีภาษี 2556  ตามมาตรา 56 แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้บุคคลทุกคน ยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินที่ตนได้รับในระหว่างปีภาษีที่ล่วงมาแล้ว  ภายในเดือนมีนาคมทุกๆปี และกรณีผู้มีเงินได้พึงประเมิน มีภาษีที่ต้องเสียจากการคำนวณตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร มีจำนวนตั้งแต่ 3 พันบาทขึ้นไป ผู้เสียภาษีจะชำระเป็นสามงวดๆละเท่าๆกันก็ได้

จึงขอเชิญชวนผู้มีเงินได้ไปยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2557 ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ซึ่งท่านมีภูมิลำเนา กรณียื่นทางอินเตอร์เน็ต หมดเขตวันที่ 8 เมษายน 2557  



กรกช  ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน 
สปข.2 รายงาน 

สปข.2 เตรียมจัดงานวันเด็กแห่งชาติปี 2557

สำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 เตรียมจัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2557  ในวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2557 ณ บริเวณลานคลื่นสีขาว สวท.อุบลราชธานี

ที่ห้องประชุมสถานีวิทยุกระจายเสียแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี นายดุสิต  สิงห์คีรี  ผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้อำนวยสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 เป็นประธานการประชุมเตรียมจัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2557  โดยมีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สังกัดสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2  เข้าร่วมประชุม      สำหรับงานวันเด็กแห่งชาติ ตรงกับวันเสาร์สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ในปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2557  โดยกำหนดกิจกรรม ณ บริเวณลานคลื่นสีขาว ข้าง สวท.อุบลราชธานี  ซึ่งหน่วยงานในสังกัดสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 2 เช่น สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี  สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี สถานีวิทยุกระจายเสียงเพื่อการศึกษาแห่งประเทศไทย จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมกับเครือข่าย มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี  กลุ่มเด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานี ร่วมกันจัดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี2557 ขึ้น มีกิจกรรมที่น่าสนใจ พร้อมของขวัญของรางวัลมากมาย เช่น การแสดงบนเวที  การเขียนหัวใจถวายความดีแด่ในหลวง การวาดภาพระบายสี เกมมหาสนุก เวทีคนกล้า ภาพยนตร์สำหรับเด็ก กิจกรรมสวนสนุก

ขอเชิญชวนผู้ปกครอง พาบุตรหลาน มาร่วมกิจกรรม เนื่องในงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2557  ณ บริเวณลานคลื่นสีขาว ข้าง สวท.อุบลราชธานี  วันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2557 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึงเวลา 12.00 น.



กรกช  ภูมี / สวท.อุบลฯ รายงาน 
สปข.2 รายงาน

จังหวัดอุบลราชธานี กรมพัฒนาชุมชน จะรับสมัครสอบเข้ารับราชการในตำแหน่งพัฒนาชุมชน แต่ต้องผ่าน ภาค ก.ของก.พ.แล้ว ระหว่างวันที่ 7 – 27 มกราคม 2557

   อุบลราชธานี : นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ปฏิบัติราชการแทน ผู้ว่าราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า กรมพัฒนาชุมชน ประกาศรับสมัครบุคคลเข้าสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการในตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชน ระดับปฏิบัติการ (พัฒนากร) โดยรับสมัครผู้ที่สำเร็จการศึกษาวุฒิ ปริญญาตรี ทุกสาขา และเป็นผู้สอบผ่านความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก. ) ระดับปริญญาตรี ของ ก.พ. ทางเว็บไซต์ของ กองพัฒนาชุมชน ที่เว็บไซต์ http://www.personal.cdd.go.th หรือhttp://www.jop.cdd.go.th ระหว่างวันที่ 7 – 27 มกราคม 2557

ยโสธรมอบผ้าห่มกันหนาวแก่คนชรา

จังหวัดยโสธรมอบผ้าห่มกันหนาวให้คนชราและผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ที่หอประชุมอำเภอเมืองยโสธร นายประวัติ   ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานมอบผ้าห่มกันหนาวแก่คนชรา/ ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม/ และผู้ยากไร้  นายสมเพชร  สร้อยสระคู  นายอำเภอเมืองยโสธร กล่าวว่า จังหวัดยโสธรได้ประกาศให้อำเภอเมืองยโสธร จำนวน 17 ตำบล 190 หมู่บ้านเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) ตั้งแต่วันที่  18  ธันวาคม 2556 เป็นต้นมา โดยอำเภอเมืองยโสธรได้ออกสำรวจความเดือดร้อนและความต้องการผ้าห่มกันหนาว ของผู้พิการทุพพลภาพ/ ผู้มีรายได้น้อย/ผู้สูงอายุ/ และผู้ประสบความเดือดร้อน ปรากฎว่ามีผู้เดือดร้อน จำนวนกว่า 2 หมื่นราย  ดังนั้นทางจังหวัดยโสธรจึงได้จัดสรรงบประมาณให้อำเภอเมืองยโสธร จัดซื้อจัดหา ผ้าห่มกันหนาว มามอบให้กับผู้พิการทุพพลภาพ/ ผู้มีรายได้น้อย/ผู้สูงอายุ/ และผู้ประสบความเดือดร้อน จำนวน กว่า 800 ผืน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนซึ่งเป็นการเยี่ยวยาในเบื้องต้น ดังนั้นจึงได้จัดให้มีการมอบผ้าห่มกันหนาวขึ้นในวันนี้

เลขาธิการมูลนิธิ To Be Number One ติดตามความพร้อมสถานที่รับเสด็จทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

เลขาธิการมูลนิธิ To Be Number One ดูสถานที่รับเสด็จทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในวโรกาสเสด็จเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ To Be Number One ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557

วันที่ 8 มกราคม 2556 เวลา 10.30 น. ที่โรงเรียนประสาทวิทยาคาร อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ หม่อมหลวงยุพดี ศิริวรรณ เลขาธิการมูลนิธิ To Be Number One พร้อมกองงานในพระองค์ สำนักพระราชวัง ตรวจเยี่ยมพื้นที่เตรียมการรับเสด็จทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในวโรกาสเสด็จเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานโครงการ To Be Number One ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ วันจันทร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2557 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี จะเสด็จติดตามผลการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ของจังหวัดสุรินทร์ เพื่อพระราชทานขวัญกำลังใจแก่เยาวชนสมาชิก TO BE NUMBER ONE และผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ และจะทรงเปิด ชมรม TO BE NUMBER ONE และ ศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ณ โรงเรียนประสาทวิทยาคาร

โดยการติดตามพื้นที่รับเสด็จในครั้งนี้ มีผู้แทนจากกองงานในพระองค์ฯ สำนักพระราชวัง ผู้แทนกรมโยธาธิการและผังเมือง พร้อมด้วย นายยุทธนา วิริยะกิตติ และ นายถาวร กุลโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ทั้ง 2 ท่าน หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน ในเรื่อง จุดเตรียมการรับเสด็จฯ ,กำหนดการและการเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ,การตกแต่งสถานที่ ,สิ่งสนับสนุน ,รายละเอียดผู้เข้าร่วมรับ ,จุดนิทรรศการ , จุดศูนย์เพื่อนใจวัยรุ่น , จุดพิธีการ และ จุดทรงงาน เป็นต้น

ด้านจังหวัดสุรินทร์ โดยคณะกรรมการอำนวยการและคณะทำงานทุกฝ่าย ได้เตรียมความพร้อมการรับเสด็จฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ และประชาสัมพันธ์เชิญชวนพสกนิกรชาวจังหวัดสุรินทร์เฝ้ารับเสด็จโดยพร้อมเพรียงกัน

อำเภอจอมพระจังหวัดสุรินทร์ แถลงข่าว จัดงาน "มหัศจรรย์ ของดี วิถีจอมพระ”


วันที่  8 ม.ค. 2557  ที่บริเวณปราสาทจอมพระ อ. จอมพระ จ. สุรินทร์ นายประทีป การมิตรี นายอำเภอจอมพระ นำหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้องของอำเภอจอมพระ ร่วมแถลงข่าว จัดงาน "มหัศจรรย์ ของดี วิถีจอมพระ” ทั้งนี้กำหนดจัดงาน ระหว่างวันที่ 11-12 มกราคม 2557 นี้ ที่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อนำเสนอและประชาสัมพันธ์ ของดีอำเภอจอมพระ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น การแสดงนิทรรศการสินค้า OTOP ผลิตผลทางการเกษตร และกิจกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของชาวอำเภอจอมพระ

สำหรับกิจกรรมภายในงาน มีขบวนรถบุปผชาติแห่ปราสาทจอมพระ กิจกรรมบายศรีสู่ขวัญข้าว การแสดงดนตรีของโรงเรียนจอมพระประชาสรรค์ และแสดงนิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียง จำหน่ายสินค้า OTOP อุปกรณ์การเกษตร กิจกรรมชกมวย กิจกรรมรำวงย้อนยุค การประกวดตำข้าวด้วยครกและสากไม้ การประกวดนวัตกรรมอาหาร การทอดผ้าป่าข้าวเปลือก การประกวดร้องเพลงลูกทุ่งเสียงทอง ประกวดมหกรรมเพื่อสุขภาพ การแสดงเดินแบบผ้าไหมกิตติมศักดิ์

ทั้งนี้ ขอเชิญประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้โดยทั่วกัน ตามวันและเวลาดังกล่าว


ประนนท์  ไม้หอม ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดการอบรมสัมมนาเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนภายในปี 2558

วันที่ ( 8 ม.ค. 56 ) ที่ห้องประชุมพิมานทิพย์ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนภิเษก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนภายในปี 2558

กองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เล็งเห็น ในปี พ.ศ. 2558 จะเป็นปีที่ประเทศไทยจะต้องเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเป็นองค์กรในระดับพื้นที่ ต้องขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีการพัฒนาศักยภาพเพื่อสนับสนุนการบูรณาการในระดับพื้นที่ (Area based) ให้สอดคล้องกับกรอบความร่วมมือในการพัฒนาในประชาคมอาเซียน ตามกรอบความร่วมมือระดับอนุภาคและยุทธศาสตร์ประเทศ โดยได้กำหนดเป้าหมายให้กลุ่มจังหวัดทั้ง 18 กลุ่มจังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งกลุ่ม จังหวัดอุบลราชธานี ประกอบด้วย จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และจังหวัดอำนาจเจริญให้ดำเนินการเตรียมความพร้อมให้แก่องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนของจังหวัดภายในกลุ่ม เพื่อให้ความรู้และมีความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ.2558 เพื่อ เสริมสร้างความรู้และความเข้มแข็งของภาครัฐ ภาคเอกชนให้มีความพร้อมและเพื่อสร้างศักยภาพเชิงการแข่งขันในประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน โดยมีมีการบรรยายให้ความรู้ และการแบ่งกลุ่มระดมความคิดเห็นเพื่อประมวลข้อมูลนำไปสู่การปฏิบัติทั้งในระดับประเทศและระดับจังหวัด ซึ่งการอบรมสัมมนาครั้งนี้เป็นการร่วมมือระหว่างกลุ่มจังหวัด โดยมีผู้แทนภาครัฐ และภาคประชาชนเข้าร่วมอบรมสัมมนาจำนวน 300 คน

สคบ.ตรวจร้านทองและเครื่องสังฆภัณฑ์ที่จังหวัดอุดรธานี

 
สคบ.ส่วนการบูรณาการการทำงานร่วมกับสคบ.อุดรธานี ลงพื้นที่สุ่มตรวจผู้ประกอบการทองรูปพรรณ กระเช้าปีใหม่ เครื่องสังฆทาน เพื่อจัดระเบียบการจัดทำฉลากสินค้าของผู้ประกอบการธุรกิจในส่วนภูมิภาคให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฏหมาย

บ่ายวันที่ ( 7 ม.ค. 57 ) นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมด้วยนายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และคณะทำงานจากส่วนกลางและประจำจังหวัดอุดรธานีร่วมลงพื้นที่สุ่มตรวจทองรูปพรรณ ที่ร้านจำหน่ายทองรูปพรรณบนถนนโพศรี และห้าแยกน้ำพุในเขตเทศบาลนครอุดรธานี อาทิ ห้างทองกวงเชียงล้ง ห้างทองเอ็งน่ำเฮง ห้างทองเซ่งเฮงล้ง ห้างทองนิวไทยฮวด ห้างทองบุญทวี เพื่อตรวจสอบปริมาณ คุณภาพ ราคาทองที่วางจำหน่าย รวมทั้งสลากสินค้า

นายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่าได้มอบหมายให้ สคบ.ยึดหลักคุ้มครองผู้บริโภคและดูแลประชาชนรากหญ้าที่เขาต้องซื้อและบริโภคสินค้าทั้งที่เป็นอาหาร อาหารทะเล ทองรูปพรรณ โดยเฉพาะทองรูปพรรณมีการร้องเรียน เข้ามาว่าทองที่ซื้อไปไม่ได้น้ำหนักตามที่ติดไว้และบางครั้งร้านทองก็ไม่ได้ติดสลากที่จะบ่งบอกว่า เนื้อทองกี่เปอร์เซ็นต์ น้ำหนักเท่าไร แล้วราคาซื้อขายไม่ชัดเจน วันนี้สคบ.ได้ทำโครงการ สคบ.สัญจรที่จะไปพบปะประชาชนในระดับรากหญ้าในต่างจังหวัดที่จังหวัดหนองคายและในการมาประชุมกันในครั้งนี้ จึงถือโอกาสมาสุ่มตรวจตามต่างจังหวัด และจากการสุ่มตรวจร้านทองผ่านมาแล้ว 3 ร้านในจังหวัดอุดรธานี พบว่า ทำถูกต้องตามกฏหมายทุกอย่าง คือมีสลากบ่งบอกชัดเจนทั้งราคาและน้ำหนัก และจากการสุ่มตรวจน้ำหนักก็พบว่า น้ำหนักได้มาตรฐาน บางเส้นก็มีน้ำหนักเกินด้วย ในการตวจครั้งนี้เป็นที่พอใจและเป็นการทำให้ประชาชนมั่นใจสบายใจเมื่อมาซื้อทองที่อุดรธานี

สำหรับปัญหาที่ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับร้านทอง คือน้ำหนักไม่ได้มาตรฐาน ทองชำรุดบกพร่อง เมื่อซื้อแล้วร้านทองไม่ยอมเปลี่ยนให้ สคบ.ได้ทำการประสานการแก้ไขก็ได้รับ ในด้านของเครื่องชั่ง เราต้องดูว่าเครื่องเช็ทอยู่ที่ศูนย์ๆหรือไม่ และเครื่องชั่งต้องได้มาตรฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมฝากให้ลูกค้าตรวจสอบน้ำหนักทองก่อนมั่นใจค่อยออกจากร้าน และตรวจสอบอย่างน้อย 2 เส้นว่าน้ำหนักเป็นไปตามที่ระบุไว้หรือไม่

ด้านนายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า การสุ่มตรวจในครั้งนี้เป็นการสุ่มตรวจเพื่อตรวจสอบมาตรฐานร้านทองของอุดรธานีว่าได้มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งผลการตรวจเป็นที่น่าพอใจ ถูกต้องและได้มาตรฐาน น้ำหนัก ในส่วนอนุกรรมการของจังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีหน้าที่หลักในการส่งเสริมในผู้ประกอบการร้านค้า ผลิตสินค้า จำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณา และในเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคก็จำเป็น จะต้องให้ความคุ้มครองอย่างเช่น เรื่องทองต้องได้มตรฐานน้ำหนัก หลังจากที่รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้มาดูแลงานสคบ. ยังไม่พบเรื่องร้องเรียนเรื่องร้านทอง ซึ่งตอนนี้มันก็ดีอย่างหนึ่งในส่วนของราชการก็ดูในเรื่องราชการไป แต่ส่วนของการคุ้มครองผู้บริโภคในภาคเอกชนก็มีชมรมร้านทองอุดรดูแลกันอง ในเรื่องของความเป็นมาตรฐานทำให้สบายใจ เมื่อมาสุ่มตรวจก็ไม่พบการกระทำที่ผิดกฎหมาย

จากนั้นสคบ.ส่วนกลางและคณะทำงานประจำจังหวัดอุดรธานีได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจกระเช้าปีใหม่ และเครื่องสังฆภัณฑ์ที่ห้างโลตัสสาขาอุดรธานี ซึ่งจากการสุ่มตรวจพบว่า เครื่องสังฆภัณฑ์ที่วางจำหน่ายมีการนำสติกเกอร์ของ สคบ.ซึ่งออกให้เมื่อปี 2551( ออกให้ใช้ปีนั้นปีเดียว) และมีการยกเลิกการใช้แล้ว มาติดที่ถังสังฆภัณฑ์ คณะทำงานจึงได้แจ้งให้ห้างที่วางจำหน่ายทราบและจะได้ทำหนังสือแจ้งเตือนไปบริษัทผลิตเครื่องสังฆภัณฑ์ ให้ยกเลิกการใช้สติ๊กเกอร์ดังกล่าว พร้อมจะได้แจ้งให้คณะอนุกรรมการระดับจังหวัดทุกจังหวัดทราบและถือปฏิบัติ ในขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนให้ร่วมสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตา หากพบสินค้าที่ติดสติ๊กเกอร์ดังกล่าวให้แจ้งยังสคบ.ในพื้นที่เพื่อดำเนินแจ้งเตือนและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป


ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ, เมวิกา ศรีหาวงษ์ /เจนจิรา สีหาภูธร นศ.ฝึกงาน ภาพนิ่ง