วันอังคารที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2556

จัดหางานยโสธรจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาการรับงานไปทำที่บ้าน

ว่าที่ร้อยโทอนุเทพ  ศรีดาวเรือง   จัดหางานจังหวัดยโสธร ได้เปิดเผยในงาน โครงการส่งเสริมและพัฒนาการรับงานสู่บ้าน เพิ่มรายได้ให้ครัวเรือน ปี 2557 ที่โรงแรมกรีนปาร์คแกรนด์ จังหวัดยโสธร เมื่อเช้าวันที่ ( 17 ธ.ค. 56 ) ว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข็มแข็งและสร้างโอกาส ให้กับกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ได้มีอาชีพ มีรายได้ ที่ต่อเนื่องและยั่งยืน ตลอดจนเป็นการอำนวยความสะดวกให้นายจ้าง และสถานประกอบการ ได้สามารถคัดเลือกกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ในการส่งผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มดังกล่าว เป็นการประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายให้กับทั้งสองฝ่าย ในการพบปะ เจรจา ตกลง อันจะนำไปสู่การจ้างงาน ทั้งในระยสั้น หรือระยะยาว และมีรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 300 บาท อีกทั้งผลประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมงาน จะสามารถนำไปเป็นแนวทางการประกอบอาชีพอิสระ เพื่อเป็นอาชีพหลั หรืออาชีพเสริม เพื่อเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง

ทั้งนี้ มีนายจ้างและสถานประกอบการ ร่วมกิจกรรม 10 แห่ง กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน ผู้ประกอบอาชีพอิสระ จำนวน 30 กลุ่ม และการสาธิตอาชีพอิสระกว่า 30 อาชีพ พร้อมทั้งการแสดงผลิตภัณฑ์ของกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน การจำหน่ายสินค้า OTOP ตลอดจนการจัดนิทรรศการจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง และมีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก





วันชนะ บุญปก ดาโรจน์/สวท.ยโสธร

ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ฉบับที่ 1 ( 67/2556 ) เรื่องสภาพอากาศหนาวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากในช่วงวันที่ 17 - 19 ธันวาคม  2556 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็น กำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ จะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอุณหภูมิลดลงอีก 1 - 3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ทำให้มีอากาศหนาวทางตอนบนของภาค ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสัตว์เลี้ยง จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ติดตามข่าวพยารณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ในระยะนี้



วันชนะ บุญปก  ดาโรจน์/สวท.ยโสธร

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดเยี่ยมกลุ่มเกษตรอินทรีย์ที่ยโสธร

นายประวัติ  ถีถะแก้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า นางสาวยิ่งลักษณ์

ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  มีกำหนดการเดินทางมาตรวจเยี่ยมกระบวนการปลูกหอมแดงปลอดภัยและอินทรีย์ ของกลุ่มเกษตรกรตำบลฟ้าห่วน อำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร และตรวจเยี่ยมกลุ่มเกษตรอินทรีย์แทนรักษ์ ตำบลเขื่องคำ อำเภอเมืองยโสธร ในวันที่ 18 ธันวาคม  2556  โดยจะเดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ ถึงยโสธรในเวลาประมาณ 13.00 น. และเมื่อเสร็จภารกิจ จะได้เดินทางไปตรวจราชการที่จังหวัดร้อยเอ็ดต่อไป

คณะอนุกรรมการการบริหารกองทุน จัดประชุมเพื่อพิจารณาช่วยเหลือคุ้มครองเด็กจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมครั้งที่ 1 ประจำปี 2557

อุบลราชธานี  :  วันที่ ( 17 ธ.ค. 56 ) ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายสุรพันธ์ ดิสสะมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการบริหารกองทุนคุ้มครองเด็กจังหวัดอุบลราชธานี ครั้งที่ 1 ประจำปี 2557 เพื่อพิจารณาการช่วยเหลือครอบครัว ผู้ปกครอง เด็กที่ได้อุปการเลี้ยงดู ที่บิดา มารดา ทอดทิ้ง ติดเชื้อ HIV และการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ปกครอง ฐานะความยากจน จำนวน 3 ราย ทั้งนี้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดตั้ง "กองทุนคุ้มครองเด็ก”มีผลบังคับใช้ปี พ.ศ. 2546 ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กมีผลบังคับใช้ เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายในการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติเด็ก รวมทั้งครอบครัวและครอบครัวอุปถัมภ์ของเด็ก ซึ่งถือเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการทำงานเพื่อให้เด็กได้รับการดูแลและคุ้มครองอย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อเสริมสร้าง ศักยภาพของเด็ก ครอบครัว และสังคม เมื่อเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ มีคุณธรรม มีความรู้พื้นฐานที่เข็มแข็ง มีทักษะชีวิตและภูมิคุ้มกันมั่นคงที่ดีของสังคมและประเทศชาติในอนาคต

จังหวัดอุบลราชธานี ประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE (TO BE NUMBER ONE IDOLS) ระดับจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557


อุบลราชธานี  :  วันที่ ( 17 ธ.ค. 56 ) ที่ บริเวณห้องประชุมริมน้ำ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ลำพูน ฉวีรักษ์ รองนายสาธรณสุขจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดงานจังหวัดอุบลราชธานี ประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE (TO BE NUMBER ONE IDOLS) ระดับจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ได้เข้าร่วมโครงการดี TO BE NUMBER ONE ตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน และร่วมกิจกรรมการประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE หรือ ดี TO BE NUMBER ONE IDOLS ปีที่ 5 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพตนเอง โดยใช้กิจกรรมเป็นสื่อ มีการเรียนรู้อย่างมีความสุข ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด

และในปี 2556 จังหวัดอุบลราชธานี ได้ส่งตัวแทนเยาวชนเข้าร่วมประกวดทั้งระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือปละระดับประเทศ จนประสบความสำเร็จเป็น TO BE NUMBER ONE IDOLS ระดับประเทศรุ่นที่ 3 ซึ่งจะต้องปฏิบัติภารกิจร่วมกับองค์กรประธานโครงการ TO BE NUMBER ONE ในการเสด็จฯ ตลอดทั้งปี 2556 คือนายกิตติคุณ คำเพราะ (โฟกัส) นักศึกษาคณะมนุษย์ศาสตร์ เอกวิชาดนตรีสากล ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ซึ่งแบบอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้องและเยาวชนทั่วไป สำหรับวันนี้เป็นกิจกรรมประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE ระดับจังหวัด ( TO BE NUMBER ONE IDOLS รุ่นที่ 5 จังหวัดอุบลราชธานี ) เพื่อคัดเลือกตัวแทนเยาวชนจากทุกอำเภอ ให้เหลือ 4 คู่เข้าร่วมกิจกรรมประกวดระดับภาคตะวันออกเฉยงเหนือ ในวันที่ 28 มกราคม 25557 ณ จังหวัดอุดรธานี


รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี มอบทุนการศึกษามูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดนครราชสีมา ให้แก่ นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนที่เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์

 อุบลราชธานี :   วันที่ 17 ธันวาคม ณ ห้องประชุมราชธานีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 นายคันฉัตร ตันเสถียร รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษามูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดนครราชสีมา ให้แก่ นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี สำหรับนักเรียนที่เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญของชาติในอนาคต และขอให้นักเรียนนักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษา นำทุนการศึกษาไปใช้จ่ายอย่างประหยัด และใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการศึกษา ปีการศึกษา 2556 จำนวน 73 ทุน ได้แก่ ประเภท ทุนการศึกษารายปี จำนวน 47 ทุน เป็นเงิน 106,000 บาท ประกอบด้วย ระดับประถมศึกษา จำนวน 5 ทุน ๆ ละ 2,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 20 ทุน ๆ ละ 2,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 20 ทุน ๆ ละ 2,000 บาท ระดับอุดมศึกษา จำนวน 2 ทุน ๆ ละ 8,000 บาททุนการศึกษาแบบต่อเนื่อง จำนวน 35 ทุน เป็นเงิน 65,000 บาท ประกอบด้วย ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 5 ทุน ๆ ละ 2,000 บาท ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 5 ทุน ๆ ละ 3,000 บาท ระดับอุดมศึกษา จำนวน 5 ทุน ๆ ละ 8,000 บาท ทุนส่งเสริมพระพุทธศาสนา จำนวน 5 ทุน เป็นเงิน 12,000 บาท ประกอบด้วยพระปริยติธรรม ( แผนกธรรมบาลี ) จำนวน 1 ทุน ๆ ละ 2,000 บาท พระปริยติธรรม ( แผนกสามัญระดับมัธยมต้น ) จำนวน 1 ทุน ๆ ละ 2,000 บาท พระปริยติธรรม ( แผนกสามัญระดับมัธยมปลาย ) จำนวน 1 ทุน ๆ ละ 2,000 บาท.

อำเภอกู่แก้วจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย

 
อำเภอกู่แก้วร่วมกับกลุ่มพลังมวลชนจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ร่วมประกาศเจตนารมณ์สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เดินรณรงค์และร่วมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะหาทางออกให้กับประเทศไทยผ่านเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทยอำเภอกู่แก้ว

เช้าวันที่ ( 17 ธ.ค. 56 ) กลุ่มพลังมวลชนชาวอำเภอกู่แก้ว จาก 37 หมู่บ้าน ใน4 ตำบลในพื้นที่อำเภอกู่แก้ว อาทิ ตำบลบ้านจีต ตำบลคอนสาย ตำบลค้อใหญ่ และตำบลโนนทองอินทร์ รวมกว่า 1,500 คน ร่วมเดินรณรงค์สนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เพื่อแสดงเจตจำนงค์ในการสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ และเพื่อประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ประชาชนชาวอำเภอกู่แก้วทุกคนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งให้ครบ 100 เปอร์เซ็น โดยเริ่มเดินรณรงค์จากโรงเรียนอนุบาลกู่แก้ว ตำบลบ้านจีต มายังสนามหน้าที่ว่าการอำเภอกู่แก้ว เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร เพื่อมาแสดงพลังและร่วมประกาศเจตจำนงค์ในการหาทางออกให้กับประเทศไทยในเวทีเสวนาหาทางออกประเทศไทย ซึ่งอำเภอกู่แก้วร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมกันจัดขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์ เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกันของสังคมต่อการยุติความรุนแรงและการหาทางออกให้กับประเทศ

ทั้งนี้เมื่อเดินทางมาถึงสนามหน้าที่ว่าการอำเภอกู่แก้ว ตัวแทนกลุ่มพลังมวลชน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้แทนกลุ่มพัฒนาบทบาทสตรีและผู้นำสตรีอำเภอกู่แก้ว ผู้แทนชมรมผู้สูงอายุ ผู้แทนอาสาสมัครสาธารณสุข ได้ขึ้นเวทียื่นหนังสือ ต่อนายธวัชชัย แปรงศรี นายอำเภอกู่แก้ว เพื่อแสดงเจตจำนงค์ให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

จากนั้นตัวแทนกลุ่มพลังมวลชนได้แสดงความคิดเห็นข้อเสนอแนะร่วมกันในเวทีเสวนาหาทางออกประเทศไทยอำเภอกู่แก้ว

พันตำรวจเอกพันธุ์ทิพ จิระสวัสดิ์พงศ์ ผู้กำกับการตำรวจภูธรกู่แก้ว กล่าวในนามตัวแทนหัวหน้าส่วนราชการว่า การปกครองระบอบประชาธิปไตย คือการที่อธิปไตยอยู่กับประชาชนการร่วมแสดงพลังในวันนี้เป็นการออกมาแสดงเจตจำนงค์ในการสนับสนุนการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย เป็นการแสดงออกซึ่งการมีส่วนร่วมในการสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันและแนวทางการสร้างความสามัคคี มีความเห็นอกเห็นใจกัน ลดความคัดแย้งในสังคม สร้างความสามัคคีของคนในชาติ แนวทางของการสร้างความสามัคคี เพื่อเป็นทางออกใหกับประเทศไทย คือวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ทุกคนตั้งไปเลือกตั้ง

นายกมลศักดิ์ เหลืองคำ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกู่แก้ว กล่าวว่า อำนาจอธิปไตยมาจากการเลือกตั้ง จึงขอให้ประชาชนทุกคนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง

นางสุวรรณี บัวศรี เลขานุการชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอกู่แก้ว กล่าวว่า ประชาชนอยู่ไหนกำนันผู้ใหญ่บ้านอยู่นั่น ถ้ารัฐบาลไหนมาจากการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้านก็ทำตามทุกรัฐบาล กำนันผู้ใหญ่บ้านจะอยู่ข้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จึงอยากให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

นางวาณี พันธ์พรหม ประธานกลุ่มพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอกู่แก้ว สนับสนุนการเลือกตั้ง พร้อมเชิญชาวอำเภอกู่แก้วมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์

นางมะลิวรรรณ แหล่มี ประธานอาสาสมัครสาธรณสุขอำเภอกู่แก้ว กล่าวว่า อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านอำเภอกู่แก้ว ขอสนับสนุนการเลือกตั้งและขอให้ประชาชนทุกภาคส่วนออกมาเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

นายพิทักษ์ จันทร์อ่อน รองประธานชมรมผู้สูงอายุตำบลบ้านจีต อำเภอกู่แก้ว กล่าวว่า ในการเดินรณรงค์ครั้งนี้เป็นการออกมาแสดงเจตนารมณ์ของชาวกู่แก้วในการขับไล่กบฏ สนับสนุนการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย 1 เสียง 1 สิทธิ์ พร้อมเชิญชวนให้ประชาชนมาใช้สิทธืเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 โดยพร้อมเพรียงกัน

นายธวัชชัย แปรงศรี นายอำเภอกู่แก้ว กล่าวว่า การที่ประชาชนชาวอำเภอกู่แก้วเดินทางมาแสดงพลังประกาศเจตนารมณ์สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัรติย์ทรงเป็นพระประมุขในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 และรวมแสดงความคิดเห็นในเวทีเสวนาหาทางออกประเทศไทยในวันนี้ ถือเป็นการแสดงเจตจำนงค์สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ซึ่งอำเภอจะได้รวบรวมข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะที่พี่น้องประชาชนที่นำมายื่นต่อตนเอง รวบรวมนำเสนอผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไปยังกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาล พร้อมกล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมในครั้งนี้



ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ 
เจนจิรา สีหาภูธร นศ.ฝึกงาน ภาพนิ่ง/พิมพ์/ทาน

สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสกลนคร กำหนดจัดกิจกรรมอบรมความรู้ผู้ถูกคุมประพฤติ ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2557 ในวันที่ 25 ธ.ค. 2556 ณ วัดป่าสันติธรรม(วัดนาเวง)

ด้วยสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสกลนคร กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม กำหนดจัดกิจกรรมอบรมความรู้ ผู้ถูกคุมความประพฤติ ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ในวันพุธที่ 25 ธันวาคม 2556 ณ วัดป่าสันติธรรม ( วัดนาเวง ) ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ถูกคุมความประพฤติ ได้มีความรู้เกี่ยวกับการขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ และเป็นการป้องกันและลดอุบัติเหตุ ไม่ให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตร่างกาย และทรัพย์สินอีกทั้งเป็นการสร้างทัศนคติที่ดีในการอยู่ร่วมกันในสังคมได้โดยปกติสุข

   จึงขอเชิญผู้ถูกคุมความประพฤติ อาสาสมัครคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม จังหวัดสกลนคร ตลอดจนประชาชนผู้สนใจ เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว และลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม ในวันที่ 25 ธันวาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 07.30 -  08.30 น. ณ วัดป่าสันติธรรม ( วัดนาเวง ) ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร

ประชุมศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ประจำปี 2557

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. 56 ที่ห้องประชุมไกรภักดี ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ ( หลังเก่า )  อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ  นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ  มอบหมายให้ นายสนิท ขาวสอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ  เป็นประธานในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีไหม่ ประจำปี 2557  เพื่อเป็นการเดินหน้ามาตรการเชิงรุก ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางท้องถนน ในช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่  ตั้งแต่วันที่  27 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่  2 มกราคม 2557  เพื่อวางแผนบูรณาการตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ด้าน ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ด้านวิศวกรรมจราจร  ยุทธศาสตร์ด้านการประชาสัมพันธ์ ยุทธศาสตร์ด้านการบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน  ยุทธศาสตร์ด้านกฎหมาย และยุทธศาสตร์ด้านการติดตามประเมินผล  อีกทั้ง จังหวัดศรีสะเกษ  ยังได้กำหนดมาตรการเน้นหนัก ในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับ ผู้ที่ทำผิดกฎจราจร อย่างจริงจัง โดยมีนายเวโรจน์  สายทองแท้ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนตัวแทนจากภาคประชาชน เข้าร่วมประชุมรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

นายสนิท กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษ ได้กำหนดเป้าหมาย  ในการลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุ โดยมีกำหนดเป้าหมาย ให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ไม่เกิน 12 ครั้ง ผู้บาดเจ็บไม่เกิน 11 ราย และมีผู้เสียชีวิตไม่เกิน 3 ราย   ซึ่งในเบื้องต้น ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ รณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับเรื่อง กฎหมาย เพื่อนำไปสู่การป้องกันอุบัติเหตุ อย่างยั่งยืน เพราะเมื่อหากประชาชน เข้าใจด้านกฎหมายอย่างจริงจัง จะทำให้ประชาชน เกิดความระมัดระวังมากขึ้น แต่ทั้งนี้ หากมีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ทางเจ้าหน้าที่ ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด




ศรีสะเกษ รับมอบผ้าห่มกันหนาวและเครื่องอุปโภค-บริโภคแก่ราษฎรผู้ยากไร้ 1,000 ชุด

มูลนิธิป่อเต๊กเซียงตึ๊ง กรุงเทพมหานคร สมาคมจีนต่างๆ หนังสือพิมพ์จีนรายวัน ร่วมกับ มูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ มูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน มอบผ้าห่มกันหนาว เสื้อกันหนาว และเครื่องอุปโภค-บริโภคแก่ราษฎรผู้ยากไร้ในพื้นที่อำเภออุทุมพรพิสัย และอำเภอพายุห์ จังหวัดศรีสะเกษ

วันที่ ( 17 ธันวาคม 2556 ) ที่หอประชุมอำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ นายพินัย ศรีพนาสณฑ์ ผู้ช่วยหัวหน้าแผนกสังคมสงเคราะห์ มูลนิธิป่อเต๊กเซี่ยงตึ๊ง กรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยคณะ ได้เดินทางมามอบผ้าห่มกันหนาว และเครื่องอุปโภค-บริโภค โดยมีนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายเลิศบุษย์ กองทอง นายอำเภออุทุมพรพิสัย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และราษฎรที่เข้ามารับสิ่งของให้การต้อนรับ ซึ่งมูลนิธิ ป่อเต๊กเซียงตึ๊ง สมาคมจีนต่างๆ หนังสือพิมพ์จีนรายวัน ร่วมกับ มูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ มูลนิธิสว่างจิตต์ ศรีสะเกษธรรมสถาน มอบผ้าห่มกันหนาว เสื้อกันหนาว และเครื่องอุปโภค-บริโภคแก่ราษฎรผู้ยากไร้ในพื้นที่อำเภออุทุมพรพิสัย และอำเภอพายุห์ จังหวัดศรีสะเกษ
และมูลนิธิป่อเต๊กเซียงตึ๊ง เป็นองค์กรสาธารกุศล มีวัตถุประสงค์ในกรบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ประสบปัญหาต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ตลอดจนการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมูลนิธิฯ มีโครงการดำเนินงานด้านสาธารณประโยชน์ต่อสังคม และให้การช่วยเลหือสงเคราะห์แก่ผู้ประสบสาธารณภัยทั่วประเทศ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิฯ/สมาคมจีนประจำจังหวัด ช่วยประสานงานหน่วยงานภาครัฐ เพื่อการดำเนินงานโครงการต่างๆ

ในปี 2556 นี้ มูลนิธิป่อเต๊กเซี่ยงตึ๊ง ได้กำหนดแจกผ้าห่มกันหนาวพร้อมเครื่องอุปโภค-บริโภคให้แก่ราษฎรที่ประสบภัยหนาวในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือและภาคอีสาน รวม 41 จังหวัด จำนวน 40,050 ชุด ( สี่หมื่นห้าสิบ ) รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท

สำหรับการสงเคราะห์มอบผ้าห่มกันหนาวและเครื่องอุปโภค-บริโภคในครั้งนี้ ประกอบด้วย ผ้าห่มสำลี เสื้อแจ๊คเก็ต น้ำมันพืช 1 ลิตร เกลือ น้ำตาล ข้าวสาร ปลากกระป๋อง และมาม่า โดยมีราษฎรผู้ยากไร้ในพื้นที่อำเภออุทุมพรพิสัย และอำเภอพายุห์ อำเภอละ 500 คน เข้ารับมอบ
                                      

จังหวัดศรีสะเกษจัดงานเชิดชูเกียรติ นักกีฬาดีเด่น และผู้ฝึกสอนกีฬาดีเด่น เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2556 ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติฯ ( เกาะกลางน้ำ ) นายประทีป  กีรติเรขา  ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ  เป็นประธานเปิดงานเชิดชูเกียรติ นักกีฬาดีเด่น และผู้ฝึกสอนกีฬาดีเด่นประจำปี 2556  เนื่องในวันกีฬาแห่งชาติ   มีการมอบรางวัลให้แก่นักกีฬา และผู้ฝึกสอนของจังหวัดศรีสะเกษ ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 29 "มหาสารคามเกม” และกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 31 "นครพิงค์เกมส์” ในรอบปี 2556   โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมระลึกถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ ในฐานะที่เคยเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย โดยเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ ๔ ณ กรุงเทพมหานคร ในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ และทรงได้รับเหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภท โอ.เค. เพื่อให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยเห็นความสำคัญและคุณค่าของการกีฬา การออกกำลังกาย และมีส่วนร่วมในกิจกรรมกีฬามากยิ่งขึ้น  เพื่อชักจูงให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกีฬาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเล่นกีฬา และให้การสนับสนุนการกีฬา     และเพื่อเชิดชูเกียรติ นักกีฬาดีเด่น และผู้ฝึกสอนกีฬาดีเด่นจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้สร้างซื่อเสียง ให้แก่จังหวัด ในรอบปี 2556





บุญทัน  ธุศรีวรรณ  ข่าว/ภาพ

จังหวัดร้อยเอ็ดเตรียมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศการปีใหม่ 2557 เน้นมาตรการหลัก 4 ด้านและเพิ่มการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกชนิด

 วันที่ ( 17 ธ.ค. 56 )  เวลา 14.00 น. นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 จังหวัดร้อยเอ็ด ณ ห้องประชุมพระเวสสันดร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด

นายเลอเกียรติ แก้วศรีจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นช่วงเวลาที่มีประชาชนจำนวนมากใช้รถใช้ถนนในการเดินทางสัญจรกลับภูมิลำเนา และพาครอบครัวสังสรรค์ รื่นเริง และท่องเที่ยว ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนสูงกว่าช่วงปกติ จากข้อมูลศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ระหว่างปี 2554 – 2556 พบว่าช่วงการรณรงค์เทศกาลปีใหม่ 7 วัน มีอุบัติเหตุเฉลี่ยวันละ 465 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 50 คน สำหรับจังหวัดร้อยเอ็ดมีสถิตการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 จำนวน 58 ครั้ง ผู้เสียชีวิต จำนวน 7 ราย ผู้บาดเจ็ด จำนวน 61 ราย

รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวด้วยว่า การรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ใช้ชื่อในการรณรงค์ว่า "ปีใหม่สัญจรปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ” ช่วงเวลาดำเนินการรณรงค์ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 – 2 มกราคม 2557 รวม 7 วัน โดยเน้น 4 มาตรการ ได้แก่ การบังคับใช้กฎหมาสอย่างเคร่งครัดตามมาตรการ 10 มาตรการ การควบคุมการดื่มเครื่องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่หรือโดยสารยานพาหนะ การควบคุมการเข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเพิ่มการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกชนิด โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เน้นบทบาทการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างจริงจังต่อเนื่อง
                                         


วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 12 ตรวจติดตามแผนงาน/โครงการฯที่จังหวัดร้อยเอ็ด

วันที่ ( 17 ธ.ค. 56 )  เวลา 09.30 น. นางวนิดา สักการโกศล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 12 ได้ประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจติดตามแผนงาน/โครงการของจังหวัดร้อยเอ็ดที่ได้รับการอนุมัติงบประมาณจาการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ณ ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยได้ติดตามผลความก้าวหน้าแผนงาน/โครงการจำนวน3 แผนงาน/โครงการ ได้แก่ ความก้าวหน้าและการใช้ประโยชน์การปรับปรุงและพัฒนาบึงพลาญชัย และความก้าวหน้าโครงการพัฒนาโครงข่ายการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งนอกเขตพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้และนอกเขตลุ่มน้ำซี, และโครงการผ้าบุญร้อยเอ็ด โดยมีนายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ให้การต้อนรับ และนำหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสรุปผลการดำเนินโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 12 และคณะได้เดินทางไปตรวจและติดตามโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ อาทิ โครงการปรับปรุงและพัฒนาบึงพลาญชัย อำเภอเมืองร้อยเอ็ด โครงการพัฒนาโครงข่ายบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้วนอกเขตพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ และนอกเขตลุ่มน้ำชี ณ ห้วยแอ่ง อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด


                                 

วิมล เร่งศึก/ข่าว
 กมลพร คำนึง/บก.ข่าว

ข่าวฟุตบอลชิงฯแชมป์เปี้ยนส์ลีก ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด 0-0 เชียงใหม่ เอฟซี

ฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 นัดชิงชนะเลิศ นัดแรก ระหว่างเจ้าบ้าน ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ของกลุ่ม เอ กับทีมเชียงใหม่ เอฟซี ทีมแชมป์ของกลุ่ม บี ที่สนามกีฬากลาง จ.ร้อยเอ็ด

ในนัดนี้แฟนบอลเข้ามาเต็มจนล้นความจุของสนาม เก็บค่าผ่านประตูไปได้ 171,100 บาท และขายของที่ระลึกได้ 45,000 บาท

ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด เจ้าบ้าน ทำผลงานดีในบ้าน ไม่แพ้เกมในบ้านมานานกว่า 1 ปี และเป็นทีมที่ทำผลงานในรอบ ชปล.ได้อย่างน่าทึ่ง จาก 10 นัด เอาชนะ 8 นัด เสมอ 1 นัด แพ้ 1 นัด มีประตูได้ถึง 16 ประตู เสียเพียง 3 ประตู ทำให้มีประตูได้เสียสูงถึง 13 ประตู มากที่สุดในรอบนี้ และมีคะแนนมากที่สุดเช่นกันที่ 25 คะแนน ขณะที่เชียงใหม่ ทีมเยือน มีผลงาน 10 นัด ด้วยการชนะ 6 นัด เสมอ 2 นัดและแพ้ 2 นัด ทำประตูได้ 16 ประตูและเสียถึง 9 ประตู มีคะแนน 20 คะแนน

เกมเริ่มจากที่ทั้งสองทีมผลัดกันรุก ผลัดกันรับ โดยเชียงใหม่ เน้นตั้งรับแน่น และคอยตัดเกมในแดนกลางสนามไม่ให้เจ้าบ้านได้เปิดเกมรุกเข้ามาง่าย ๆ ทำให้เกมส่วนใหญ่เป็นการเล่นในบริเวณกลางสนาม เจ้าบ้านเองก็ไม่ให้ จอมทัพของเชียงใหม่ แองเจโล่ มาชูก้า จ่ายบอลให้เพื่อนได้

ร้อยเอ็ด น่าได้ประตูขึ้นนำก่อน ใน น.22 เมื่อเปิดเกมรุกขึ้นมาจากด้านขวา ก่อนเปิดเข้ามาหน้าประตูและกองหลังเชียงใหม่สกัดบอลพลาด บอลเลยมาถึงปรัชญา สิทธิยิงโล่ง ๆ หน้าประตู แต่บอลลอยชนคาน

จากการที่ร้อยเอ็ดขาด ดิเอโก้ อัลเวส และเอริวัลโด้ ทำให้เกมรุกที่เคยทะลุทะลวงแนวรับทีมเยือนได้ ไม่มีในเกมนี้ ทำให้เกมรุกต้อยความคมไป

น.38 อาทิตย์ บุญพา ได้โหม่ง ที่เสาไกล แต่เข้ามือกฤษฎา โนนชัย ผู้รักษาประตุเชียงใหม่

น.39 รณชัย พงพุทธา ยิงไกล เข้ามือโกล์

จบครึ่งแรก เสมอกัน 0 - 0

เกมครึ่งหลังออกรสชาด มากขึ้น น.46 ธีรพงศ์ ดีหามแห ยิงจากนอกกรอบ บอลหลุดออกนอกกรอบแบบมีลุ้น เชียงใหม่เองเริ่มต่อเกมกันติดมากขึ้น แต่ก็ยังเน้นตั้งรับเป็นหลัก ร้อยเอ็ดมีโอกาสจาก แพททริค แคนยูก้า ยิงในกรอบ 6 หลาแต่กฤษฎา โนนชัย ปัดได้

น.68 ปรัชญา ส่องไกลด้วยเท้าขวา บอลลอยเข้ากรอบ แต่กฤษฎา ยังลอยตัวปัดลูกยิงไว้ได้ น.78 คานยูก้า เอาบอลลงได้ ก่อนวอลเล่ย์เต็มเท้าแต่พรเทพ จันทร์ไข่ ยอมตายพุ่งตัวมาบล๊อคลุกยิงไว้ได้ น.83 ฉัตรชัย นาควิจิตร วอลเล่ย์บอลโค้ง บอลลอยเฉียดคานบนนิดเดยว

เกมมาถึงนาทีสุดท้าย ร้อยเอ็ดน่าเก็บชัยชนะได้ เมื่อธีรพงศ์ ยิงฟรีคิกลอยผ่านกฤษฎา กำลังจะเสียบมุมบนอยู่แล้ว แต่กฤษฎา กระโดดเฮือกสุดท้าย ลอยตัวปัดบอลข้ามคานไปได้หวุดหวิด จบเกมเสมอกันไป 0 - 0 นัดที่ 2 จะแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคม 2556 ที่จังหวัดเชียงใหม่ 

อบจ. ร้อยเอ็ด เปิดโครงการห้องสมุดมีชีวิต เฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา

วันที่ 16 ธันวาคม 2556 เวลา 09.00 น. นายทัศนัย  ไวนิยมพงศ์  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดโครงการห้องสมุดมีชีวิตเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา ณ  ห้องสมุดมีชีวิตเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา   องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด    โดยมีนางสิรีนาถ  เกิดเหมาะ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด  พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด  ร่วมเปิดงาน

นายทัศนัย  ไวนิยมพงศ์  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด  กล่าวว่า  ห้องสมุดเป็นแหล่งเรียนรู้แหล่งรวบรวมและค้นคว้าข้อมูลที่มี ความสำคัญ สามารถตอบสนองการศึกษาหาความรู้ ของประชาชนให้มีความรู้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในโลก  ห้องสมุดมีชีวิตจึงมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานการเรียนรู้ให้ กับประชาชน จนอาจกล่าวได้ว่า  การสร้างนิสัยรักการอ่าน การศึกษาค้นคว้า และการไผ่เรียนรู้นั้น เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ งในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ซึ่งเป็นฐานสำคัญสำหรับการพัฒนาประเทศในอนาคต  อีกทั้งพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ที่ทรงให้ไว้ในงานสัปดาหนังสือแห่งชาติครั้งที่ 33 สัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 3 วันที่ 25 มีนาคม 2458 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิ ตติ์ ความว่า  การริเริ่มให้มีวันหนังสือเด็กแห่งชาติ นับเป็นการสร้างนิสัยรักการอ่านและการเรียนรู้ให้กับเด็กอย่างแท้จริง การปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ เด็กมีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องร่วมกันส่งเสริมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อสร้างฐานการเรียนรู้ให้กับเด็กอย่างเข้มแข็งอันเป็นส่วนช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี การศึกษาเจริญก้าวหน้าสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมที่ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

นายสวาท  ไชยราช  ผู้อำนวยการกองการศึกษา  ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด  เปิดเผยว่า  ห้องสมุดมีชีวิตเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยรักการอ่าน เพราะเป็นสถานที่ที่มีความพร้อมทั้งทางด้านเอกสาร หนังสือ วารสารอย่างหลากหลาย ที่ตรงกับความต้องการของผู้อ่านทุกระดับทุกวัย มีความพร้อมด้านไฮเทคโนโลยีที่ จะเป็นแหล่งค้นคว้าความรู้กับวิทยาการสมัยใหม่ มีระบบบริหารจัดการทรัพยากรสารสนเทศที่ทันสมัยครบถ้วนสอดคล้องกับความต้องการของผู้ มาใช้บริการ เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ สามารถเข้าถึงสารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว มีบริการและกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน และการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยจัดแบ่งบริเวณแยกเป็นโซนประชาสัมพันธ์ โซนห้องสมุด ITC โซนดูหนัง 3 มิติ ซึ่งทุกโซนเป็นแหล่งบริการความรู้  ตลอดจนเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ การค้นข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ และเป็นโอกาสอันดีที่เด็กและประชาชนในท้อง
ถิ่นจะสามารถหาความรู้ ตามความสนใจและศักยภาพที่มีอยู่




 คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว

ทม.ร้อยเอ็ดจัดพิธีลงนาม MOU โครงการส่งเสริมศักยภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยมี อปท.ส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมลงนาม 11 แห่ง


เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด เป็นเจ้าภาพการลงนามข้อตกลงร่วม ( MOU ) โครงการส่งเสริมศักยภาพศูนย์พั ฒนาเด็กเล็ก ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้ด้ านการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยมี อปท.ส่วนท้องถิ่นเข้าร่วมลงนาม 11  แห่ง   ณ โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 ธันวาคม 2556 นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้ อตกลงความร่วมมือฯ และกล่าว ว่า ที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวค่อนข้างน้อย โดยระบบการศึกษาของไทยจะให้ ความสำคัญกับระดับมหาวิทยาลัยมากกว่า ขณะที่พื้นฐานสำคัญที่สุดของการศึกษานั้นอยู่ที่"เด็กเล็ก"แต่กลับละเลย ไป โดยเฉพาะ "ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก" ส่วนใหญ่จะดูแลเด็กที่ทางบ้านมี ฐานะยากจน ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากทั่วประเทศ แต่ขาดทักษะในการพัฒนากระบวนการคิด เพราะผู้ปฏิบัติงานหรือครูพี่ เลี้ยงส่วนใหญ่ถูกปลูกฝังให้เน้นดูแลในเรื่อง ของกายภาพเป็นหลัก และยังขาดแคลนหนังสือสำหรับเด็กเล็กอยู่มาก เช่น หนังสือภาพ ส่วนหนังสือการ์ตูนนั้นเหมาะกับเด็กชั้นประถมมากกว่า แต่คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิด"

ด้าน ดร.นุชากร มาศฉมาดล รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ดกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เนื่องจากสมองของเด็กในวัยแรกเกิดถึงวัย 7 ปี จะพัฒนาและเรียนรู้ได้มากกว่าสมองของผู้ใหญ่เป็นพันๆ เท่า หากส่งเสริมหลังจากวัยนี้แล้วถือว่าสายเสียแล้ว ดังนั้น บุคลากรครูควรจัดการเรียนรู้ให้ เหมาะสมกับวัยของเด็ก ให้เด็กเรียนรู้ผ่านการเล่น เรียนรู้อย่างมีความสุข จัดเชิงปฏิบัติการ "การเรียนรู้ตามหลักการพัฒนาสมอง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจในการดู แลและพัฒนาเด็กปฐมวัย ผ่านการจัดกิจกรรมที่ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะและการเรียนรู้ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว, ด้านภาษา, ด้านการคิด, ด้านศิลปะและการสร้างสรรค์, ด้านอารมณ์และจิตใจ เข้าไปถ่ายทอดให้กับคุณครูอนุบาล และผู้ปฏิบัติงานในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

หากทุกฝ่ายให้การร่วมมือกันแม้การพัฒนาเด็กเล็กต้องอยู่ที่ ครอบครัวเป็นหลัก แต่การ "สร้างคน" จะต้องทำร่วมกันทั้งที่บ้าน โรงเรียน และชุมชน ถึงจะได้คนที่มีคุณภาพสู่สังคม

หลังจากนั้นได้  ลงนามข้อตกลงระหว่างเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดและ นายก อปท. อีก 11 แห่ง



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/
กมลพร  คำนึง บก.ข่าว

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มอบทุนการศึกษาตลอดชีวิต ที่จังหวัดยโสธร

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบทุนการศึกษาตลอดชีวิต ให้แก่บุตร ที่บิดามารดาเสียชีวิต จากเหตุการณ์อุทกภัยปี 2556 ที่จังหวัดยโสธร นายประวัติ  ถีถะแก้ว  ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ ท่านผู้หญิงวิลาวัณย์   วีรานุวัตติ์  กรรมการบริหารและประธานฝ่ายการสังคมสงเคราะห์ ในโอกาสเดินทางมาเยี่ยมครอบครัวเด็กกำพร้า ที่ อ.ไทยเจริญ และ อ.กุดชุม จังหวัดยโสธร ซึ่งบิดามารดาของครอบครัวทั้งสอง ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา  โดยในช่วงเช้าเข้าเยี่ยมครอบครัวของ ด.ช.จักริน-ด.ช. เจวมินต์ ดาวเรือง ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 2 ต.ไทยเจริญ อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร  มารดาของทั้งสองคนชื่อ น.ส.ขันทอง จันทร์ดี ได้เสียชีวิตจมน้ำในช่วงอุทกภัย พร้อมกับบุตรอีกหนึ่งคน คือ ด.ญ.จิรวรรณ  ดาวเรือง ทำให้ครอบครัวต้องสูญเสียถึง 2 คน  จากนั้นท่านผู้หญิงวิลาวัณย์   วีรานุวัตติ์  พร้อมคณะได้เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของนายเจริญชัย – ด.ช. จักรกฤษ  ไพศาลสกล ซึ่งอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 10  ต.กำแมด อ.กุดชุม จ.ยโสธร บิดาของทั้งสองคนชื่อ นายเสน่ส์  ไพศาลสกล ได้เสียชีวิตจมน้ำในช่วงอุทกภัย เช่นเดียวกัน  เนื่องจากทั้งสองครอบครัวมีฐานะยากจนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึงได้สนับสนุนให้บุตรทั้งสองครอบครัว ได้ศึกษาไปตลอดชีวิต จนกว่าจะมีความต้องการหยุดเรียน พร้อมนี้ได้มอบผ้าห่มกันหนาว และทุนช่วยเหลือครอบครัว ให้ครอบครัวของนายเสน่ส์ ( ผู้เสียชีวิต ) จำนวน 71,500 บาท และครอบครัวของ น.ส ขันทอง ( ผู้เสียชีวิต ) จำนวน 79,000 บาท

ฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหารจัดประชุมคณะกรรมการ

วันที่ ( ๑๗ ธ.ค.๕๖ )  เวลา ๑๐.๓๐ น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายแสงทอง อนันตภักดิ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ โดยมีสื่อมวลชนในพื้นที่ทุกแขนงเป็นกรรมการร่วมขับเคลื่อน

ประชาสัมพันธ์จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่าจังหวัดมุกดาหารกำหนดการจัดงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่ ๙ – ๑๗ มกราคม ๒๕๕๗ รวม ๙ วัน ๙ คืน ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งในการจัดงานในปีนี้ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี มีการจัดกิจกรรม นิทรรศการ วิถีชีวิตดั้งเดิมของชนเผ่าจังหวัดมุกดาหาร พร้อมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น สินค้า OTOP ภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิมของบรรพบุรุษ ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดีจากสื่อมวลชนในพื้นที่ร่วมขับเคลื่อนพร้อมประชาสัมพันธ์การจัดงานให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างไกล จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร นักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสบรรยากาศย้อนรำลึกวิถีชีวิตชนเผ่า หนึ่งปีมีครั้งเดียว ในงานกาชาดและงานของดีจังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๗ ระหว่างวันที่  ๙ – ๑๗ มกราคม ๒๕๕๗ ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร
                                               


                                                                                   สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารประกาศเตือนภัย “คลื่นกระแสลมตะวันตก”

นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้แจ้งประกาศเตือนสภาวะอากาศช่วงฤดูหนาวว่า กรมอุตุวิทยาประกาศเตือนภัยฉบับที่ ๒๐ ลงวันที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๖ คลื่นกระแสลมตะวันตกได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือเข้าปกคลุมประเทศลาว และภาคตะวันนออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิลดลง ๔-๗ องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนาม และลาว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในคืนนี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนในช่วงวันที่ ๑๖ - ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๖ มีอากาศหนาวเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง ๘ - ๑๐ องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพจากอากาศที่เย็นลงมากไว้ด้วย

ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากสภาวะอากาศหนาว และอันตรายจากพฤติกรรมเสี่ยงอันตราย จังหวัดมุกดาหารจึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพอากาศ และพฤติกรรมเสี่ยง หากพบเห็นเหตุการณ์ฉุกเฉินขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วน เช่น สาธารณภัยในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหารที่สายด่วนหมายเลข ๑๙๙ , เจ็บป่วยฉุกเฉินที่สายด่วนหมายเลข ๑๖๖๙ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด โทรศัพท์ ๐-๔๒๖๓-๓๑๐๑ ,๐-๔๒๖๑-๒๒๔๓ หรือที่ สายด่วนหมายเลข ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
                             


                                                                     สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร
                                                     เนตรนภา ไยสาร นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นำส่วนราชการร่วมกิจกรรมโครงการ “ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัดทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีตามวิถีพุทธ”


วันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๖ ( ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑ ) เวลา ๐๗.๓๐ น. นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยนายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นำส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญ ตามโครงการ "ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัดทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีตามวิถีพุทธ” ณ วัดมุจลินทร์ หมู่ 3 บ้านหนองหล่ม ตำบลโพธิ์ไทร อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร

ซึ่งโครงการ "ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัด” นี้ เป็นโครงการที่ จังหวัดมุกดาหาร จัดขึ้นทุกวันพระ โดยหมุนเวียนไปตามวัดต่างๆ ทั้ง ๗ อำเภอในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากส่วนราชการ หน่วยงาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา ผู้นำชุมชน และประชาชน ได้มีโอกาสเข้าวัด ทำบุญตักบาตร รับศีล ฟังธรรม ในวันธรรมสวนะ เพื่อนำหลักธรรมคำสอนของศาสนา ไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน สืบสานวัฒนธรรมประเพณีวิถีพุทธอันดีงามให้คงอยู่สืบไป

สำหรับครั้งต่อไป จัดขึ้น ณ วัดแจ้ง บ้านแข้ ตำบลบ้านค้อ อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ในวันพุธ ที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๗ ( ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๒ ) จึงขอเชิญพี่น้องประชาชนชาวอำเภอคำชะอีร่วมทำบุญโดยทั่วกัน



สุภาวดี อัมไพพันธ์/ ส.ปชส.มุกดาหาร
ไอลดา สุทธิประภา นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ข่าว

ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร มีความประสงค์จะสอบราคาจ้างปรับปรุงซ่อมแซมสำนักงานศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร

 นายฉลอง เผ่าแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์กีฬาแห่งประเทศไทย  จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า  ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร มีความประสงค์จะสอบราคาจ้างปรับปรุงซ่อมแซมสำนักงานศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร โดยมีราคากลาง ๙๐๐,๐๐๐.-บาท (-เก้าแสนบาทถ้วน-) งบประมาณประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๗

ซึ่งกำหนดรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม เพื่อประโยชน์ในการเสนอราคาพร้อมกัน ในวันที่ ๑๒  ธันวาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๓๐ น.- ๑๑.๓๐ น. ณ สำนักงานศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร อัฒจันทร์มีหลังคา สนามกีฬาจังหวัดมุกดาหาร ผู้ไม่มารับฟังคำชี้แจงจะไม่มีสิทธิ์ยื่นอุธรณ์ใดๆทั้งสิ้น หากมีข้อสงสัยใด ให้ติดต่อสอบถามที่ ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร โทรศัพท์ ๐-๔๒๑๖-๓๘๒๗

สำหรับกำหนดขายแบบ และยื่นซองสอบราคา ตั้งแต่วันที่ ๙ - ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. – ๑๕.๐๐ น. ณ ศูนย์กีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร สนามกีฬาจังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร และกำหนดพิจารณาเอกสารเสนอราคาในวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๓๐ น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมสมาคมกีฬาจังหวัดมุกดาหาร สนามกีฬาจังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร

ทั้งนี้ ผู้สนใจติดต่อขอรับเอกสารสอบราคา ( ในราคาชุดละ ๓,๕๐๐-บาท ) ได้ที่ ศูนย์การกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดมุกดาหาร สนามกีฬาจังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ ๙ - ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๖ โทรศัพท์ ๐-๔๒๑๖-๓๘๒๗ ในเวลาราชการ




                สุภาวดี อัมไพพันธ์/ ส.ปชส.มุกดาหาร
ไอลดา สุทธิประภา นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ข่าว

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร ขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์เละติดตามบุคคลสูญหาย

นางสาวจริญญา วันทาวงศ์ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ เปิดเผยว่า ด้วยศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี กรณี นางสาวลิ้นจี่ ธนะสงข์ ว่านางอุไรวรรณ ไทยคณา ( มารดา ) อยู่บ้านเลขที่ ๒๓ หมู่ ๒ ตำบลเตาปูน อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ติดตามหา นางสาวนิภารัตน์ น่วมนารี ( บุตร ) อายุ ๒๒ ปี ได้ออกจากบ้านประมาณ ๕ ปี และได้โทรศัพท์คุยกับแม่ว่าได้ไปทำงานในโรงงาน ที่ตำบลบ้านสิงห์ อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี และนำเงินมาให้แม่ด้วยตัวเอง เมื่อ ๒ ปีที่ผ่านมา ลูกสาวไม่ติดต่อกลับมาและเมื่อได้โทรศัพท์ติดต่อกลับไปแต่ไม่สามารถติดต่อได้ เกรงว่าอาจได้รับอันตราย และถูกล่อลวงไปในทางที่เสียหายหรือตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์

ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร จึงขอความร่วมมือประชาสัมพันธ์ตามหา นางสาวนิภารัตน์ น่วมนารี จากข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้อง เมื่อพบเบาะแสหรือข้อมูล ติดต่อได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร หมายเลขโทรศัพท์ ๐-๔๒๖๑-๑๔๔๒, ๐-๔๒๖๑-๑๕๘๓, หรือ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ๑๓๐๐ สาวด่วน ๒๔ ชั่วโมง หรือสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดราชบุรี หมายเลขโทรศัพท์ ๐-๓๒๓๓-๗๖๒๐



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร
ไอลดา สุทธิประภา นักศึกษาฝึกประสบการณ์/ข่าว

ประชุมเตรียมความพร้อมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๗

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๗ เน้นมาตรการควบคุมการใช้ความเร็วในการขับขี่ การควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่รถ การรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย และควบคุมรถกระบะบรรทุกผู้โดยสารเกินขนาด

ในวันนี้ ( ๑๗ ธ.ค. ๕๖ )  เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่ห้องประชุมมังกรทอง โรงแรมเดอะวัน อ.เมืองบึงกาฬ นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานการประชุมเตรียมความพร้อมการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๗ จังหวัดบึงกาฬ โดยมีคณะกรรมการประจำศูนย์ฯ ร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียงและนำเสนอกิจกรรมการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๗ จังหวัดบึงกาฬ เน้นมาตรการป้องกันหลัก ๔ ด้าน ประกอบด้วย ๑) มาตรการควบคุมการใช้ความเร็วในการขับขี่ ๒) การควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับขี่รถ ๓) การรณรงค์ส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัย และ ๔) การควบคุมรถกระบะบรรทุกผู้โดยสารเกินขนาด กิจกรรมดำเนินการ เช่น ตรวจรถก่อนใช้ปลอดภัยแน่นอน ตรวจสภาพรถโดยสารและผู้ขับขี่ รณรงค์การสวมหมวกนิรภัยแก่นักเรียน กวดขันรถขนส่งก๊าซในพื้นที่ บังคับใช้กฎหมายตามมาตรการ ๓ม ๒ข ๑ร ได้แก่ มอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัย สวมหมวกนิรภัย เมาไม่ขับ มีใบอนุญาตขับขี่ คาดเข็มขัดนิรภัย และไม่ใช้ความเร็วเกินกำหนด จัดตั้งจุดตรวจจุดบริการบนถนนสายหลัก สายรอง ใน ๘ อำเภอ จำนวน ๒๑ จุด และบริเวณจุดเสี่ยงในทุกตำบล โดยนำประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมป้องกันอุบัติเหตุทางถนนกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ

นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน ได้กำหนดหัวข้อหลักในการรณรงค์ว่า ปีใหม่สัญจรปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ” ซึ่งวิธีการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๗ ที่จะเกิดผลสูงสุดคือ การนำประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมป้องกันไม่ให้ลูกหลานที่ดื่มแอลกอฮอล์ออกมาขับขี่รถบนถนน และผู้บริหารท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่นต้องเข้มงวด เข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง และที่สำคัญคือประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนจะต้องตระหนักถึงความปลอดภัยในการเดินทางตลอดเวลา ในปีใหม่ ๒๕๕๗ นี้คาดว่าอุบัติเหตุจะลดลงกว่าปีที่ผ่านมา หรือหากไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเลยก็จะดียิ่ง

สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา จังหวัดบึงกาฬมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จำนวน ๑๕ ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ ๑๕ ราย เสียชีวิต ๑ ราย



ข่าว/ส.ปชส.บึงกาฬ

จังหวัดนครราชสีมา จัดงานวันกีฬาแห่งชาติ ประจำปี 2556 พร้อม มอบรางวัล ให้กับ 24 คนกีฬาผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับวงการกีฬาจังหวัดนครราชสีมา

เมื่อวันที่ ( 16 ธ.ค. 56 ) เวลา 19.30 น. พิธีเชิดชูเกียรตินักกีฬา ผู้ฝึกสอนและเจ้าหน้าที่ หนึ่งในกิจกรรมวันกีฬาแห่งชาติประจำปี 2556 จังหวัดนครราชสีมา จัดขึ้นที่อาคารชาติชายฮอล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ซึ่งดอกเตอร์วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เดินทางเป็นประธานในพิธี โดยมีร้อยตรีหญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายกสมาคมกีฬาจังหวัดนครราชสีมาและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา นำคณะให้การต้อนรับ ในพิธีได้มีการมอบรางวัลให้กับผู้ทำคุณประโยชน์ให้วงการกีฬาจังหวัดนครราชสีมาจำนวน 24 รางวัล ใน 11 สาขา ประกอบด้วย นักกีฬาสมัครเล่นดีเด่นชาย เจ้าก็อต จตุภูมิ ชินวงษ์ นักยกน้ำหนักเจ้าของรางวัลเหรียญเงินยูธโอลิมปิกเกมส์ และอันดับสี่ โอลิมปิกลอนดอนเกมส์ คว้าไปครองเป็นปีที่ 2 ,สมัครเล่นดีเด่นหญิงเป็นของน้องหวาน จุฑามาศ รักสัตย์ นักมวยสากลสมัครเล่นดีกรีทีมชาติไทยชุดใหญ่ ,เยาวชนสมัครเล่นดีเด่นชายเป็นของ ณัฐวุฒิ สืบสวน นักยกน้ำหนัก ,เยาวชนสมัครเล่นดีเด่นหญิงเป็นของ พลอยประกาย ภูศรี นักกีฬาหมากล้อม ,นักกีฬาพิการดีเด่นชาย ฉัตรชัย เสนาจันทร์ นักกีฬายิงปืนคว้าไปครอง ,นักกีฬาพิการดีเด่นหญิง เป็นของ กาญจนา หมายรอกลาง นักแบดมินตัน ,สาขากีฬาทีมดีเด่นและชนิดกีฬาทีมดีเด่น กีฬาทีมดีเด่นเป็นของวอลเลย์บอลทีมชาย ส่วนกีฬาประเภทรายการดีเด่น ไม่มีการพิจารณาเนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ,สาขาผู้ฝึกสอนดีเด่น ผู้ฝึกสอนกีฬาสมัครเล่นดีเด่นเป็นของนายสมบูรณ์ สุคนธพงษ์ วอลเลย์บอลในร่มทีมชาย ,ผู้ฝึกสอนต่างประเทศดีเด่น ไม่มีการพิจารณาเนื่องจากไม่มีผู้ฝึกสอนตามหลักเกณฑ์ ,ผู้ฝึกสอนนักกีฬาอาชีพดีเก่นเป็น โค้ชเต้ นาวาอากาศตรีเผด็จศึก วรรณโชติ วอลเลย์บอลในร่มทีมชาย ,ผู้ฝึกสอนนักกีฬาคนพิการดีเด่น เป็น นายอุเทน ช่างทองมะดัน จากแบดมินตัน ,สาขาสโมสรกีฬาจังหวัดดีเด่นมี 3 รางวัล สโมสรดีเด่นเป็นของสโมสรวอลเลย์บอล ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมจากการคว้าแชมป์ไทยแลนด์ลีกส์ 2013 และรองชนะเลิศ 2 รางวัลเป็นของ สโมสรยกน้ำหนัก และสโมสรมวยสากลสมัครเล่น ,สาขาสโมสรกีฬาจังหวัดพัฒนาดีเด่น เป็นของสโมสรกีฬาเรือพาย ,สาขาบุคลากรดีเด่น เป็นของนายวินัย วิทยานุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ,นายอนุวัฒน์ คณาจันทร์ เลขาธิการสมาคมกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ,นายอักษร แสนใหม่ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ,ดอกเตอร์สุนทรี ศิริอังกูร ประธานสโมสรกีฬาคนพิการจังหวัดนครราชสีมา ,ดอกเตอร์ชูเกียรติ วิเศษเสนา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 31 ,นายจิรศักดิ์ กีรติวรการ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษาเทศบาลนครนครราชสีมา ,นายอุทัย เพ็ชรอยู่ ผู้อำนวยการโรงเรียนราชสีมาปัญญานุกูล ,นานศักดิ์เดช กองสูงเนิน ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 4 เพาะชำ ,นายธวัชชัย โชคยืนยง บริษัทโชคยืนยงอุตสาหกรรมจำกัด และสุดท้ายผู้สื่อข่าวสายกีฬา ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่มีการมอบรางวัลนี้หลังไม่มีผู้ผ่านการพิจารณาในปีที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้ตกเป็นนายพิทยา ภู่กัน ขณะเดียวกันในงานยังมีการแสดงดนตรี และโชว์ต่างๆที่มอบความบันเทิงให้ตลอดงาน รวมทั้งการมอบเงินสนับสนุนให้กับนักกีฬาที่คว้าเหรียญรางวัลมาได้จากการแข่งขันกีฬาแห่งชาติและคนพิการแห่งชาติ ก่อนจะร่วมถ่ายภาพในช่วงท้ายเป็นที่ระลึก.

ณเดชน์ ดาราดังทำบุญวันเกิดที่ขอนแก่นมอบทุนการศึกษา ที่มณฑลทหารบกที่ 23

ณเดชน์” ดาราดัง ทำบุญวันเกิดที่บ้านเกิด จัดโต๊ะจีนเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบทุนการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาส ค่ายศรีพัชรินทร มณฑลทหารบกที่ 23

วันที่ ( 17 ธ.ค. ) ที่ห้องประชุมสโมสรนายทหาร ค่ายศรีพัชรินทร มณฑลทหารบกที่ 23 จังหวัดขอนแก่น "ณเดชน์ คูกิมิยะ” ซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง จัดงานทำบุญวันเกิดเลี้ยงอาหารกลางวัน พร้อมมอบทุนการศึกษาแก่เด็กด้อยโอกาส ตามโครงการ "เพื่อน้อง ชาวขอนแก่น” โดยมีหลวงพ่อเมือง พลวฑโฒ เจ้าอาวาสวัดป่ามัชฌิมาวาส จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นพระผู้ใหญ่ที่ณเดชน์ให้ความเคารพ มาร่วมในกิจกรรมดังกล่าว พร้อมเด็กด้อยโอกาสกว่า 150 คน และแฟนคลับที่ติดตามมาร่วมกิจกรรมแน่นขนัด ทั้งนี้ เด็กๆ ที่มาร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวันในวันเกิดณเดชน์เป็นเด็กพิการทางสายตา หูหนวก พิการทางร่างกาย จากโรงเรียนที่เปิดการเรียนการสอนเฉพาะจำนวน 6 แห่งใน จ.ขอนแก่น มีเด็กเข้าร่วมโรงเรียนละ 25 คน เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ใกล้ชิด ร่วมสนุกในกิจกรรมต่างๆ และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน วันที่ 17 ธันวาคมเป็นวันคล้ายวันเกิด ทุกปีที่ผ่านมาจะจัดงานทำบุญวันเกิดที่กรุงเทพฯ แต่วันเกิดปีนี้เป็นโอกาสเหมาะสม จึงมาทำบุญที่บ้านเกิด จ.ขอนแก่น พร้อมกับแฟนคลับ ที่ได้มีโอกาสร่วมทำบุญ เลี้ยงอาหารกลางวันให้เด็กด้อยโอกาสด้วย

ข่าวพยากรณ์อากาศ

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวรักษาสุขภาพจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นในระยะนี้ ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว ยอดดอย อากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศเย็นถึงหนาว กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 8 - 12 องศาเซลเซียส ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 3 - 5 องศาเซลเซียส โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด จันทบุรี และตราดภาคใต้ฝั่งตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล ส่วน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และโอกาสมีฝนตก ร้อยละ 20

เริ่มแล้วงงานมหัศจรรย์พรรณไม้นานาชาติ 2013 ที่ขอนแก่น

เริ่มแล้วงาน"มหัศจรรย์พรรณไม้นานาชาติ 2013” โชว์ไม้ดอกเมืองหนาวนานาพรรณ ที่สวนสุขภาพบึงทุ่งสร้าง เริ่ม 17 ธ.ค. 56 ถึง 2 ม.ค. 57

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรี เทศบาลนครขอนแก่น เปิดเผยว่า งาน "มหัศจรรย์พรรณไม้นานาชาติ 2013” ว่าจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 17 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2557 ที่สวนสุขภาพบึงทุ่งสร้าง เขตเทศบาลนครขอนแก่น เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว รวมถึงรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของพื้นที่สีเขียว และการสร้างความสุข โดยให้ประชาชนได้สัมผัสความงาม ความมหัศจรรย์ของศิลปะการจัดสวนดอกไม้

โดยเทศบาลนครขอนแก่นได้ปรับปรุงพื้นที่ประมาณ 65 ไร่ในสวนสุขภาพบึงทุ่งสร้างออกเป็น 8 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 ซุ้มทางเข้างานตกแต่งด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด มีชื่อกำกับเป็นภาษาไทย โซนที่ 2 หอแคนหลวง จะเป็นหอสูง 13 เมตร ซึ่งผู้เข้าร่วมงานสามารถขึ้นไปชมบรรยากาศภายในงานได้แบบ 360 องศา โซนที่ 3 ทุ่งดอกไม้ จะมีดอกไม้กว่า 40,000 ดอก ตกแต่งให้เป็นรูปดอกไม้ขนาดใหญ่ หากมองลงมาจากหอแคนหลวง จะเห็นความสวยงามของทุ่งดอกไม้ได้อย่างชัดเจน โซนที่ 4 สวนร้อนชื้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 เป็นพื้นที่จัดแสดงสวนแนวตั้งของโรงเรียนในสังกัดเทศบาลฯ และการจัดแสดงต้นไม้จากชมรมคนใจเดียวกัน เช่น ต้นบอนไซ ต้นชวนชม และดอกกล้วยไม้ ส่วนที่ 2 เป็นพื้นที่ให้สวนสัตว์ขอนแก่นนำสัตว์หลายชนิดมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างใกล้ชิดด้วย โซนที่ 5 ไม้เมืองหนาว ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ของงาน โดยจะตกแต่งด้วยดอกทิวลิป และดอกลิลลี ซึ่งช่วงนี้ดอกไม้ทั้งสองชนิดจะเบ่งบานเต็มที่ โซนที่ 6 สวนแมลงยักษ์จัดแสดงภาพถ่ายจากการประกวด พร้อมจัดเป็นพื้นที่โชว์แมลงยักษ์ เช่น ผีเสื้อ เต่าทอง ตัวต่อ โซนที่ 7 อาหารและของที่ระลึก ให้ผู้เข้าชมงานเลือกซื้อกลับไปเป็นของฝาก และโซนที่ 8 จำหน่ายพันธุ์ไม้กว่า 20 ร้าน



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ขนส่งกาฬสินธุ์ เตรียมความพร้อมรถโดยสารประจำทาง คนขับ รับช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557

สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ออกตรวจสภาพรถโดยสารประจำทาง อุปกรณ์ป้องกันภัยในรถยนต์ พนักงานขับรถ และสภาพบริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารให้มีความพร้อมเพื่อรองรับประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 และจัดกิจกรรมตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 30 ธันวาคม 2556

นายเกษม ชาวอ่างทอง นักวิชาการขนส่ง ชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ออกตรวจสภาพรถยนต์โดยสารประจำทางที่จอดพักส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อตรวจอุปกรณ์ป้องกันภัยในรถยนต์ อาทิ ถังดับเพลิง ค้อนทุกระจกรถยนต์ ทางหนีไฟ เข็ดขัดนิรภัยบนที่นั่งผู้โดยสาร เพื่อให้มีความพร้อมมากที่สุด สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 ซึ่งจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก นายเกษม ชาวอ่างทอง กล่าวว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำหนดแผนการดำเนินการในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2557 โดยจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ หรือ ศูนย์ 1584 เปิดบริการ 24 ชั่วโมง และในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลปีใหม่ 2557 ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ถึงวันที่ 2 มกราคม 2557 จัดผู้ตรวจการและเจ้าหน้าที่ประจำ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดกาฬสินธุ์ และจุดจอดรถโดยสาร อำเภอกุฉินารายณ์ เพื่อบริการประชาชนไม่มีให้ผู้โดยสารตกค้าง ตรวจความพร้อมรถโดยสาร พนักงานขับรถทุกคน ให้มีความพร้อมด้านร่างกาย และตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 1-30 ธันวาคม 2556 สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับสถานตรวจสภาพรถเอกชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 9 แห่ง และศูนย์บริการตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ จำนวน 8 แห่ง ได้จัดกิจกรรม "ตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยแน่นอน” ให้บริการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของรถและปรับแต่งเบื้องต้น ให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้รถมีความพร้อมก่อนนำไปใช้งาน ทั้งรถที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงและก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งรถที่ติดตั้งก๊าซ LPG หรือ NGV สามารถนำรถยนต์เข้าไปตรวจสภาพได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ในวัน เวลาราชการ ส่วนระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ถึง 2 มกราคม 2557 ช่วง 7 วันอันตราย มีสถานศึกษาสังกัดสำนักงานอาชีวศึกษา จำนวน 5 แห่ง ก็จะเปิดตรวจเช็คสภาพรถบริการแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน



ดวงใจ หงษ์จันทร์ ข่าว / ภาพ

จังหวัดกาฬสินธุ์ประชุมเตรียมความพร้อม ต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีกำหนดลงพื้นที่ วันที่ 20 ธันวาคม 2556 นี้

เช้าวันที่ 17 ธันวาคม 2556 ที่ห้องประชุม 4/1 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอเพื่อเตรียมต้อนรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีกำหนดมาเยือนจังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันที่ 20 ธันวาคม 2556 เวลา 09.45 นาที ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์

นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเปิดนิทรรศการผลงาน "กาฬสินธุ์ เมืองแห่งความสุข” ซึ่งเป็นการนำเสนอผลงานที่ประสบผลสำเร็จจากโครงการ คนดี สุขภาพดี รายได้ดี ของจังหวัดกาฬสินธุ์ เช่น หมวดคนดี นำเสนอโดย อำเภอ กมลาไสย อำเภอนามน หมวดสุขภาพดี นำเสนอโดย อำเภอคำม่วง อำเภอห้วยผึ้ง หมวดรายได้ดี นำเสนอโดย อำเภอร่องคำ อำเภอยางตลาด นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการที่ชาวกาฬสินธุ์ภาคภูมิใจ อาทิ โครงการในพระราชดำริ เช่น ลำพะยังภูมิพัฒน์, หนองเลิงเปือย, วิสาหกิจชุมชนเด่น, สินค้าโอท็อปกาฬสินธุ์, เครือข่ายอาหารปลอดภัยฮักแพงแบ่งปันภาคประชาชน เป็นต้น

ซึ่งการเดินทางมาของนายกรัฐมนตรี ในครั้งนี้คาดว่า จะมีพลังมวลชนเดินทางมาต้อนรับจำนวนมาก จึงได้จัดที่จอดรถยนต์ไว้ 2 จุด  คือ  ในบริเวณสถานีตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ และ บริเวณหน้าอาคารเทศบาลหลังเก่า, สำรับการแต่งกาย ข้าราชการแต่งเครื่องแบบปกติสีกากี, องค์กรต่างๆ เครื่องแบบตามสังกัด



วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าว
 ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ภาพ

เขื่อนลำปาวน้ำมีไม่เพียงพอจึงจำกัดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังเพียง 180,000 ไร่ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายและขาดทุน

วันที่ 16 ธันวาคม 2556 ที่ห้องประชุมสำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการประชุมคณะกรรมการประชาสัมพันธ์ การส่งเสริมปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2556/2557 โดยมี นายสุรพจน์ รัชชุศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นประธาน

นายสุรพจน์ รัชชุศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในพื้นที่ใช้น้ำจากเขื่อนลำปาวในอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ยางตลาด กมลาไสย และฆ้องชัย ขอให้ลดพื้นที่ปลูกข้าวนาปรังและเลี้ยงสัตว์น้ำ ปี 2556/2557 ลง หรือเปลี่ยนไปทำกิจกรรมการเกษตรอื่นที่ใช้น้ำน้อยกว่า เช่น ข้าวโพด ถั่วลิสง หรือเห็ดฟางทดแทน เพราะปริมาณน้ำเขื่อนลำปาวมีจำกัดเพียง 1,013 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 51.17 ของปริมาณน้ำเก็บกัก ซึ่งมีไม่เพียงพอในการทำการเกษตรอย่างเต็มที่ หากเกษตรกรปลูกข้าวนาปรังและเลี้ยงสัตว์น้ำเต็มพื้นที่ อาจได้รับความเสียหายจากการขาดน้ำช่วงหน้าแล้งและขาดทุนได้

นายปิยปัญญา ภู่ขวัญเมือง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาว กล่าวว่า สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว ณ วันที่ 16 ธันวาคม 2556 มีปริมาณน้ำเพียง 1,013 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 51.17 ของปริมาณน้ำเก็บกัก และปริมาณน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูแล้งเพียง 338.57 ล้านลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่ปลูกพืชฤดูแล้ง 180,000 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 58.64 ของพื้นที่ในเขตชลประทานลำปาวทั้งหมดที่ 306,963 ไร่ โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวกำหนดส่งน้ำให้แก่พื้นที่การเกษตร ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2556 และจะหยุดส่งน้ำในวันที่18 เมษายน 2557

นายสมบูรณ์ ซารัมย์ เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวอีกว่า เกษตรกรผู้ใช้น้ำเพื่อการเกษตรจากเขื่อนลำปาวโดยเฉพาะผู้อยู่ท้ายน้ำ อาจได้รับน้ำไม่เพียงพอในการทำนาปรังปีนี้ ข้าวอาจขาดน้ำในช่วงให้ผลผลิตและได้รับความเสียหาย เกษตรกรจะประสบปัญหาการขาดทุนได้ ดังนี้ เกษตรกรควรเปลี่ยนไปปลูกพืชอายุสั้นและใช้น้ำน้อยกว่าข้าวนาปรัง เช่น ข้าวโพด ถั่วลิสง หรือเห็ดฟางแทน หรือหากพืชที่มีศักยภาพเหมาะสมในการปลูกพืชไร่ เช่น อ้อยโรงงาน เกษตรกรก็อาจเปลี่ยนไปปลูกอ้อยโรงงานแทนได้ เพื่อหลีกเหลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น

ด้านนายปกรณ์ อุ่นประเสริฐ ประมงจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับเกษตรชาวประมงที่ใช้น้ำจากเขื่อนลำปาว ก็ขอให้เกษตรกรลดพื้นที่การเลี้ยงสัตว์น้ำ กุ้ง ปลา ลงด้วย เพราะถ้าหากน้ำมีกำจัดและไม่เพียงพอ ก็จะทำให้ได้รับความเสียหายและประสบขาดทุนเช่นกัน



สุรพล คุณภักดี / ข่าว