วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) จังหวัดมุกดาหารออกหน่วยบริการพื้นที่ห่างไกล

วันนี้ (๒๐ ส.ค. ๕๖) ที่บ้านห้วยทราย หมู่ที่ ๗ ตำบลป่าไร่ อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธาน เปิดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.จังหวัดมุกดาหาร ออกปฏิบัติการให้บริการประชาชนพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลและมีความกันดาร

นายศุภชัย จรรยาผดุงพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมุกดาหารกล่าวว่า การนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.ออกให้บริการในครั้งนี้ เป็นการออกปฏิบัติการให้บริการพี่น้องประชาชนในพื้นที่ห่างไกล และมีความกันดาร ให้บริการประชาชนด้านการตรวจรักษาโรคทั่วไป บริการตรวจโรคทางช่องปากและทันตกรรม ตลอดจนบริการให้ความรู้ ในการป้องกันโรคและการส่งเสริมสุขภาพให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ให้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการดูแลสุขภาพ โดยมีประชาชน มารับบริการจากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.เป็นจำนวนมาก

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกเหนือจากการให้บริการทางการแพทย์แล้ว ยังได้มอบยาตำราหลวง มอบแว่นสายตา และมอบผ้าเช็ดตัวให้กับผู้สูงอายุในพื้นบ้านห้วยทราย หมู่ที่ ๗ ตำบลป่าไร่ อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร อีกด้วย




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ

จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร จัดกิจกรรมการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน

วันนี้ (๒๐ ส.ค. ๕๖) ที่บริเวณบ้านนายบัวลี เหลากลม บ้านภูล้อม ตำบลบ้านบาก อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร จัดกิจกรรมเปิดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กรณียากจน เจ็บป่วย พิการ อนาถา จังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานเปิดงาน ซึ่งในกรณี นายบัวลี เหลากลม เป็นรายแรกที่นำมาเป็น Case management อย่างเป็นระบบ ที่บ้านของผู้ได้รับความเดือดร้อน ถือเป็นภารกิจที่ต้องการให้ผู้ยากลำบากได้รับการช่วยเหลือ พร้อมด้วย นางสุธิดา บุญประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร และหัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ

นายสวัสดิ์ ชูสุข พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนกรณียากจน เจ็บป่วยพิการ อนาถา จังหวัดมุกดาหารได้ให้นโยบายและแนวทางการช่วยเหลือใน ๔ ปัญหาหลัก ได้แก่ ด้านที่อยู่อาศัย ด้านอาหาร ด้านยารักษาโรค ด้านเครื่องนุ่งห่ม ที่ประสบความเดือดร้อนจริงๆ ทั้งหมด ๙๓ ราย รวมกรณีนายบัวลีฯ ซึ่งนำมาทำกระบวนการช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้เห็นภาพความเดือดร้อน ความยากลำบากของประชาชน โดยมีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือถึงบ้านของผู้ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวเดือดร้อนอำเภอดอนตาล ๗ รายๆ ละ ๒,๐๐๐ บาท รวมถึงมอบวัสดุอุปกรณ์ซ่อมแซมบ้าน ซึ่งการจัดงานดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์การพัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหไร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารจัดโครงการเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดกเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๑ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖

นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหารโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร จัดโครงการเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดก เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๑ พรรษา ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ วัดศรีมงคลใต้(พระอารามหลวง)อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เพื่อเฉลิมฉลองปีพุทธชยันตี ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงบำเพ็ญพระราชราชกรณียกิจเป็นศาสนูปถัมภกในพระพุทธศาสนาและสืบทอดประเพณีอันดีงามของชาติ น้อมนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาประพฤติปฏิบัติให้สังคมส่วนร่วมเกิดความสามัคคีปรองดองโดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงระหว่างสถาบันชาติ ศาสนาและประชาชน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดมุกดาหารประชาสัมพันธ์เชิญชวนข้าราชการ พ่อค้า นิสิต นักศึกษา ประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหารเข้าร่วมพิธีเทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดกเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๑ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตั้งแต่เวลา ๑๒.๐๐ น.เป็นต้นไป ณ วัดศรีมงคลใต้ (พระอารามหลวง) ถนนสำราญชายโขง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมคณะ เข้าพบปะหารือข้อราชการกับผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร

วันนี้ (๑๙ ส.ค. ๕๖) เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวดมุกดาหาร พลตรีศักดา เปรุนาวิน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พร้อมคณะ เข้าพบปะหารือข้อราชการกับ นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อม นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เกี่ยวกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร

ทั้งนี้ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ในการผลักดันให้โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ เป็นศูนย์การเรียนรู้ในท้องถิ่น โดยให้ท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุน เพื่อให้เกิดความยั่งยืน



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

ร้อยเอ็ด เตรียมรับน้องเมย์ แชมป์โลกแบดมินตัน ยิ่งใหญ่ 26 ส.ค.นี้ ที่จังหวัดร้อยเอ็ด

จังหวัดร้อยเอ็ด เตรียมรับน้องเมย์ รัชนก  อินทนนท์ แชมป์โลกแบดมินตันคนไทยคนแรกและอายุน้อยที่สุด ชาวร้อยเอ็ด เดินทางกลับจังหวัดร้อยเอ็ด 26 สิงหาคม นี้ อย่างยิ่งใหญ่ แห่รอบเมืองฯ พร้อมเปิดให้ชาวร้อยเอ็ดแสดงความยินดีอย่างใกล้ชิด ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด ชูน้องเมย์เป็นฮีโร่เยาวชน สร้างชื่อเสียงให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศไทย และจังหวัดร้อยเอ็ด ขณะที่นายกเทศมนตรีตำบลปอภาร เตรียมบายศรีสู่ขวัญรับขวัญและนำแก้บนศาลเจ้าแม่สองนาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในหมู่บ้านที่ชาวบ้านเชื่อและศรัทธา

นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดจัดงานแสดงความยินดีให้แก่น้องเมย์ รัชนก  อินทนนท์ แชมป์โลกแบดมินตันหญิงเดี่ยว ลูกหลานชาวร้อยเอ็ด เดินทางกลับจังหวัดร้อยเอ็ด บ้านเกิดของแม่คือ นางคำผัน  สุวรรณศาลา เป็นชาวบ้านปอภาร ต.ปอภาร  อ.เมือง  จ.ร้อยเอ็ด โดยน้องเมย์พร้อมด้วยครอบครัว กำหนดเดินทางกลับโดยเที่ยวยินนกแอร์ วันที่ 26 สิงหาคม 2556 เวลา 07.15 น. ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดให้การต้อนรับและมอบเสื้อสัญลักษณ์ "ร้อยเอ็ดเกมส์” ให้น้องเมย์และครอบครัวได้สวมใส่เป็นพรีเซนเตอร์โปรโมท การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 "ร้อยเอ็ดเกมส์” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 – 12 กันยายน นี้ ณ สนามกีฬาจังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้น เดินทางไปบ้านปอภาร เพื่อเยี่ยมภูมิลำเนา ทั้งนี้ นายกเทศมนตรีตำบลปอภารมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ และขบวนกลองยาว นำน้องเมย์แก้บน ณ ศาลเจ้าแม่สองนางที่พ่อแม่เคยมาบนไว้ก่อนไปแข่งขันที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน จากนั้น นำน้องเมย์เดินทางมาสักการะพระเจ้าใหญ่ ที่สูงที่สุด 101 ศอก ณ วัดบูรพาภิราม และขึ้นรถขบวนแห่รอบเมือง โดยรถยนต์สโมสรร้อยเอ็ดยูไนเต็ด ไปตามถนนสายต่าง ๆ ภายในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ระยะทาง 4 กิโลเมตร สักการะศาลหลักเมืองและเข้าสู่พิธีต้อนรับแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการ ณ สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด และเปิดโอกาสให้ข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจ และเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมแสดงความยินดีกับน้องเมย์ แชมป์โลกแบดมินตัน ครั้งนี้ด้วย จากนั้น เวลา 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ โรงแรมเพชรรัชต์ การ์เด้นท์ พร้อมเปิดที่พักให้ฟรี สำหรับภาคบ่าย กำหนดเดินทางไปจังหวัดยโสธร ในฐานะที่บิดา คือ นายวีระชัย  อินทนนท์ เป็นชาวจังหวัดยโสธร เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวจังหวัดยโสธรได้ร่วมต้อนรับและแสดงความยินดีต่อไป และกำหนดเดินทางกลับกรุงเทพฯ เที่ยวบินนกแอร์ในค่ำวันเดียวกัน

จังหวัดร้อยเอ็ด จึงขอเชิญชวนชาวจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมต้อนรับและแสดงความยินดีกับน้องเมย์ แชมป์โลก ชาวจังหวัดร้อยเอ็ดโดยพร้อมเพรียงกัน และร่วมแต่งกายสวมเสื้อสัญลักษณ์การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 "ร้อยเอ็ดเกมส์” ต้อนรับน้องเมย์ แชมป์โลกในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย



กมลพร  คำนึง/ข่าว/บก.ข่าว

อนงค์นาถ  ธุระพันธ์/พิมพ์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
20 ส.ค. 56

ร้อยเอ็ด เดินหน้าเตรียมรับ น้องเมย์ แชมป์โลกแบดมินตันหญิงเดี่ยวประจำปี 2013

เมื่อ ช่วงบ่ายวันที่ 19 สิงหาคม 2556    นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธาน ประชุมคณะกรรมการจัดงานต้อนรับแชมป์โลกหญิงเดี่ยวประจำปี 2013 ณ ห้องประชุมพระเวสสันดร ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีคณะกรรมการประกอยด้วย นายธัชชัย สีสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสมเกียรติ รัตนเมธาธร ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมต้อนรับน้องเมย์ นางสาวรัชนก อินทนนท์ ในฐานะลูกหลานชาวร้อยเอ็ด กลับบ้าน ในโอกาสที่ชนะเลิศ การแข่งขันแบดมินตันชิงแชมป์โลก 2013 ประเภทหญิงเดี่ยว

นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า นางสาวรัชนก อินทนนท์ ซึ่งเป็นลูกหลานชาวร้อยเอ็ด ชนะการแข่งขันชิงแชมป์โลกแบดมินตันหญิงเดี่ยว ประจำปี 2013 (เวิลด์ แชมเปี้ยนซิพ) ที่ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นการแสดงความยินดีกับนางสาวรัชนก อินทนนท์ ซึ่งเป็นคนไทย คนแรกที่ได้เป็นแชมป์รายการนี้ และมีอายุน้อยที่สุด จังหวัดร้อยเอ็ดจึงได้กำหนดจัดงานต้อนรับ ในวันที่ 26 สิงหาคม 2556 โดยน้องเมย์ จะเดินทางถึงท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ในเวลา 07.25 น. พร้อมแต่งกายใส่เสื้อร้อยเอ็ดเกมส์  เพื่อร่วมรณรงค์ กีฬาร้อยเอ็ดเกมส์ จากนั้นเดินทางไปที่บ้านปอภาร อ.เมืองร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านมารดาของน้องเมย์ (นางคำผัน อินทนนท์) รับประ ทานอาหารเช้า มีพิธีบายศรีสู่ขวัญ พิธีแก้บนกับ "เจ้าแม่ย่าสองนาง” สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านปอภาร ซึ่งทุกครั้งที่ไปแข่งขันจะบนบานศาลกล่าวเจ้าแม่ย่าสองนาง และประสบความสำเร็จทุกครั้ง

เวลา 09.30 น. คณะเดินทางถึงวัดบูรพาภิราม เพื่อสักการะพระพุทธรัตนมงคลมหามุนี และเจ้าพ่อมเหสักข์ฯ 09.45 น. ขึ้นขบวนรถแห่รอบเมือง โดยรถสโมสรฟุตบอลร้อยเอ็ดยูไนเต็ด พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน เพื่อให้ชาวร้อยเอ็ด ได้ร่วมแสดงความยินดี 10.45 น. ขบวนเข้าสู่บึงพลาญชัย สักการะศาลหลักเมือง จากนั้นเดินไปยังเวทีบริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด โดยจะมี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายก อบจ.ร้อยเอ็ด นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด กล่าวต้อนรับ พิธีมอบรางวัลจากส่วนราชการ ภาคเอกชน 12.00 น.งานเลี้ยงรับรอง ณ โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น อ.เมือง จังหวัดร้อยเอ็ด 13.00 น. เดินทางไปจังหวัดยโสธร




คมกฤช  พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
ส.ปชส.ร้อยเอ็ด

คนร้ายบุกเดี่ยวยื่นจดหมายขู่ระเบิด ชิงทรัพย์แบงค์กรุงไทยสาขาโลตัสร้อยเอ็ดกว่าแสนบาทหลบหนี

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 20 ส.ค.2556 พ.ต.ท.พิสิษฐ์ คำชัยภูมิ พงส.ผนพ.สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกชิงทรัพย์ ที่ธนาคารกรุงไทยสาขาเทสโก้โลตั สร้อยเอ็ด จึงไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด พ.ต.อ.สิทธิชัย บุญนาค รอง ผบก. พ.ต.อ.กิตติรัชต์ น้อยโพนทอง ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด

ณ  บริเวณสำนักงานธนาคารด้านทิ ศตะวันออกของห้างฯ พบเจ้าหน้าที่ธนาคาร และลูกค้าที่ภายในอยู่ในอาการตื่นตระหนก โดยมี น.ส.มณีรัตน์ แสนยะมูล อายุ 31 ปี เจ้าหน้าที่อาวุโส นั่งอยู่เค้าเตอร์ที่ 2 บอกว่า ขณะเกิดเหตุธนาคารเพิ่งเปิ ดทำการได้ประมาณ 30 นาที คนมาใช้บริการยังไม่มาก ได้มีชายไทยสูงประมาณ 180 ซม.สวมเสื้อกันหนาวแขนยาวสีขาว เสื้อยืดคอกลมสีชมพู กางเกงยีนส์ขายาว รองเท้าผ้าใบ ใส่แว่นตาดำเดินเข้ามานั่งที่ เก้าอี้ลูกค้าประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นได้ลุกขึ้นมาหาตน และยื่นกระดาษมีข้อความว่า "เอาเงินใส่ถุงพลาสติกให้หมด ผมเอาระเบิดมาด้วยพร้อมกด” และให้ทำตามนี้ขอร้องอย่าเสี่ยง ตนเห็นเหมือนมีอะไรซุกที่แขนเกิ ดเกรงกลัวจึงยื่นเงินให้จำนวน 9หมื่นบาทเศษ หลังคนร้ายได้ถุงเงินก็เดินไปขึ ้นรถสามล้อรับจ้างที่คิวหน้าห้ างฯ ไปส่งขึ้นรถกระบะที่จอดรออยู่ ถนนหน้าบริษัทโตโยต้าร้อยเอ็ด หลบหนีไปทางจ.มหาสารคาม

ขณะที่พล.ต.ต.ณรงค์วิทย์ พ่วงเภตรา ผบก.ได้สั่งกำลังติดตามอย่ างกระชั้นชิดและคาดว่ าจะสามารถจับตัวได้แน่นอนเนื่ องจากคนร้ายที่ก่อเหตุกล้ องวงจรปิดจับภาพใบหน้าไว้ได้อย่ างชัดเจนเนื่องจากไม่ได้สวมใส่ อะไรปิดบังใบหน้า ส่วนความคืบหน้าจะรายงานให้ ทราบต่อไป



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว
คำนึง  บก.ข่าว
ส.ปชส.ร้อยเอ็ด 043-527117 , 0862200865

ร้อยเอ็ด จัดงานมหกรรม “ข้อมูลดี มีประโยชน์ ชุมชนเข้มแข็ง” ปี 56

จังหวัดร้อยเอ็ด โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ดจัดงานมหกรรม "ข้อมูลดี มีประโยชน์ ชุมชนเข้มแข็ง”  เพื่อความเข้มแข็งของชุมชน ณ ห้องประชุมแกรนบอลรูม โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

วันนี้ เวลา 10.00 น.(20 สิงหาคม 2556) นายพศิน  โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธาน เปิดงานมหกรรม "ข้อมูลดี มีประโยชน์ ชุมชนเข้มแข็ง” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าใจเข้าถึง และใช้ประโยชน์ข้อมูลของชุมชนเพื่อชุมชน  ชุมชน ตามงบประมาณเหลือจ่ายจากกิจกรรมตามยุทธศาสตร์กรมการพัฒนาชุมชน ปีงบประมาณ 2556 ค่าจัดเก็บ ค่าบันทึก และประมวลผลข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ปี 2556

นายสมพร  อรุณรัตน์ พัฒนาการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า  การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนส่งเสริมให้มีการใช้ประโยชน์จากข้อมูล จปฐ. และข้อมูล กชช.2 ค  ให้เกิดประโยชน์แก่ภาคีการพัฒนา และเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการจัดเก็บข้อมูลสู่สาธารณะอย่างกว้างขวางมากขึ้น สำหรับการจัดมหกรรม "ข้อมูลดี มีประโยชน์ ชุมชนเข้มแข็ง” ในครั้งนี้ มีกิจกรรมประกอบด้วย การมอบเกียรติบัตรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดีเด่น ผู้บันทึกขัอมูล จปฐ. ดีเด่น ผู้จัดเก็บข้อมูล จปฐ. ดีเด่น และการจัดการความรู้ (KM) ดีเด่น การจัดนิทรรศการของข้อมูล ประกอบด้วย ท้องถิ่นจังหวัดร้อยเอ็ด นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไพศาล อำเภอธวัชบุรี นางสาวจิรวรรณ สิทธิศักดิ์ ประธานชมรมผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน และนายสะอาด โยธาพล นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอโพนทอง

นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตจังหวัด/อำเภอโดยระบบข้อมูลภูมิศาสตร์สารสนเทศ (GIS) ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย ตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 186 แห่ง ๆ ละ 2 คน พัฒนาการอำเภอและเจ้าที่พัฒนาชุมชนอำเภอ และเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะครู/นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนขัติยะวงษา รวมทั้งสิ้นประมาณ 500 คน ผลที่คาดว่าจะได้รับ คือ ปัญหาอย่างจริงจังพร้อมทั้งมีการบูรณาการทำงานร่วมกัน และมีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ทางสื่อมวลชนทุกแขนง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวจังหวัดร้อยเอ็ดให้ดีขึ้น




คมกฤช  พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
อนงค์นาถ  ธุระพันธ์/พิมพ์
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
20 ส.ค. 56

ร้อยเอ็ดปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกนอกพื้นที่ 21 แห่งแล้ว

ร้อยเอ็ดปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกนอกพื้นที่ 21 แห่ง เนื่องจากผลผลิตในพื้นที่ออกสู่ตลาดหมดแล้ว

คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด มีมติเห็นชอบให้ปิดจุดรับจำนำข้าวเปลือกของจังหวัดร้อยเอ็ด รวม 21 แห่ง ยังคงเหลือจุดรับจำนำข้าวเปลือกที่เปิดดำเนินการรับจำนำอยู่จำนวนทั้งสิ้น 13 แห่ง

นายพศิน โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด จังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2555/56 ครั้งที่ 2 โดยมีโรงสีที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 12 ราย และคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัดฯ ได้มีมติอนุมัติให้เปิดจุดรับจำนำพื้นที่ของโรงสีจังหวัดจำนวน 21 แห่ง และจุดรับจำนำของโรงสีนอกพื้นที่ 1 แห่งรวมจุดรับจำนำทั้งสิ้น 34 แห่ง เป็นของ อคส.28 แห่ง อ.ต.ก.6 แห่ง นั้น

รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า คณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการับจำนำระดับจังหวัด ได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 9/2556 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2556 เห็นชอบให้ปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่ จำนวน 17 แห่ง เนื่องจากผลผลิตในพื้นที่ได้ออกสู่ตลาดหมดแล้ว และที่ผ่านโรงสีได้แจ้งขอปิดจุดรับจำนำไปแล้ว จำนวน 4 แห่ง รวมจุดรับจำนำข้าวเปลือกของจังหวัดร้อยเอ็ดที่ปิดจุดรับจำนำทั้งสิ้น 21 แห่ง และยังคงเหลือจุดรับจำนำข้าวเปลือกที่เปิดดำเนินการรับจำนำอยู่จำนวนทั้งสิ้น 13 แห่ง ซึ่งได้แก่ หจก.โรงสีข้าวไทยเพิ่มพูนร้อยเอ็ด,บจก.บัวสมหมาย,บจก.โรงสีข้าวร้อยเอ็ดชัยมงคล,หจก.โรงสีชัยวัฒนวรัณพนมไพร อ.พนมไพร, หจก.โรงสีข้าวย่งฮวด อ.เกษตรวิสัย,บจก.เกษตรวิสัยไรซ์อินเตอร์เทรด อ.เกษตรวิสัย,บจก.โรงสีศรีแสงดาว อ.สุวรรณภูมิ,หจก.โรงสีถาวร อ.สุวรณภูมิ,หจก.โรงสีศรีแสงดาวเพิ่มพูน อ.สุวรรณภูมิ,หจก.โรงานอัดปอกิจทวี อ.เสลภูมิ,หจก.โรงสีข้าวเสรีรุ่งเรืองกิจ อ.ทุ่งเขาหลวง,ท่าข้าว ก.หลีเฮล อ.เสลภูมิ และท่าข้าวเชียงขวัญไรซ์ อ.เขียงขวัญ



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
20 ส.ค. 56

ประชาชนชาวศรีสะเกษ ร่วม ปลูกต้นไม้ และปล่อยพันธ์ปลา เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล

ประชาชนชาวศรีสะเกษ ร่วม ปลูกต้นไม้ และปล่อยพันธ์ปลา เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จะทรงมีพระชนมพรรษา 81 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2556

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ส.ค.56 ที่บริเวณที่สาธารณะประโยชน์หนองระเวียง ตำบลหนองไฮ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายนิวัฒน์ น้อยผาง นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดโครงการ "แหล่งน้ำสุดสวย ชุมชน สดใส” พร้อมนำพี่น้องประชาชน ในเขตตำบลหนองไฮ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ปลูกต้นไม้ และปล่อยพันธ์สัตว์น้ำ เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ พระบรมราชินีนาถ จะทรงมีพระชนมพรรษา 81 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2556 น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตลอดให้ประชาชนตระหนักถึงความสามัคคี ความร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้ นายนิวัฒน์ กล่าวว่า ในห้วงที่ผ่านมาโลกประสบกับปัญหาโลกร้อนอันมีมูลเหตุมาจากการที่ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถูกทำลายเพราะมนุษย์มุ่งสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจ โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรป่าไม้ได้ถูกทำลายและลดลงเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความเจริญทางเศรษฐกิจ เมื่อป่าถูกทำลายทำให้ส่งผลกระทบต่อดินและน้ำ นอกจากนั้น ยังเชื่อมโยงกับปัญหาอื่นๆ ทั้งปัญหาทาง สังคม เศรษฐกิจ คุณธรรม และระบบนิเวศน์ ดังนั้นเป็นการลดปัญหาโลกร้อนและเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีที่มีต่อ สถาบันพระมหากษัตริย์และเพื่อสนองพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระราช เสาวนีย์เกี่ยวกับเรื่องป่าไม้ว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นน้ำ ฉันก็จะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ”

ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้มี ประชาชนชาวตำบลหนองไฮ ร่วมกันปลูกต้นไม้ รอบที่สาธารณะประโยชน์จำนวน1,000 ต้น ประกอบด้วย ต้นมันปลา,ต้นขี้เหล็ก, ต้นยางนา, ต้นประดู่, ต้นพิกุล, ต้นกาเลา ต้นดอกจาน และได้ปล่อยพันธ์ปลา จำนวน 10,000 ตัว ได้แก่ ปลานิล ปลาตะเพียน ปลาใน และปลาดุก ซึ่งที่สาธารณะประโยชน์หนองระเวียง ตำบลหนองไฮ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับการพัฒนาปรับปรุงพื้นที่โดยรอบเป็นสวนสาธารณะ มีสนามเด็กเล่น มีสนามกีฬาอเนกประสงค์ให้ประชาชนในตำบลหนองไฮ ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกาย ปัจจุบันหนองระเวียงใช้เป็นแหล่งน้ำสำรองเพื่อใช้อุปโภค บริโภค ในกรณีเกิดการขาดแคลนน้ำ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา และเป็นแหล่งน้ำใช้เพื่อการบรรเทาแระงับอัคคีภัยของตำบลหนองไฮ และตำบลใกล้เคียง

สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานีจัดการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร จังหวัดอุบลราชธานี

วันที่ 20 สิงหาคม 2556 ณ ศาลาประชาวาริน เทศบาลเมืองวารินชำราบ นายสุเมธ อำภรณ์ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานีอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดงาน จัดการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ชิงถ้วยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร จังหวัดอุบลราชธานี จัดขึ้นโดยสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอุบลราชธานี เนื่องจากขยะมูลฝอยสร้างปัญหาให้กับทุกชุมชน โดยเฉพาะชุมชนในเมืองที่ต้องอยู่อาศัยกันอย่างหนาแน่น จะเห็นได้ว่าเมื่อมีจำนวนประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ขยะมูลฝอยก็จะมากตามไปด้วยเป็นเงาตามตัว จากการสำรวจปริมาณขยะของจังหวัดอุบลราชธานีในปี พ.ศ. 2553 พบว่า จังหวัดอุบลราชธานีมีปริมาณขยะมูลฝอยทั้งหมด 742 ตัน/วัน มีขยะรีไซเคิลปริมาณ 369 ตัน/วัน มีสถานที่ฝังกลบขยะมูลฝอยที่ถูกหลักสุขาภิบาลเพียง 2 แห่ง คือ เทศบาลเมืองวารินชำราบ และเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร สามารถรองรับกำจัดขยะมูลฝอยได้เพียง 170 ตัน/วัน ซึ่งจังหวัดอุบลราชธานี ไม่นิ่งนอนใจในปัญหานี้ ก็ได้สนับสนุนและส่งเสริมระบบการจัดการขยะมูลฝอยที่ถูกหลักสุขาภิบาล โดยเฉพาะการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกประชาชนและเยาวชน และผลักดันให้ภาครัฐ เอกชน ได้ตระหนักถึงการลด คัดแยกขยะ ตามแนวทางการจัดการขยะเหลือ (Zero Waste) บนพื้นฐานเศรษฐกิจพอเพียง จะเห็นว่าขยะรีไซเคิลปริมาณ 369 ตัน/วัน ถ้านำไปสร้างรายได้โดยการขายโดยประชาชนหรือชุมชนจะได้ราคาประมาณ 1,845,000 บาท/วัน (ราคาเฉลี่ย 5 บาท/กิโลกรัม) และถ้านำมาแปรรูปเป็น Secondary Product เป็นสินค้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น กิจกรรมการประกวดฯที่จัดขึ้นในวันนี้จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3 เท่า หรือประมาณ 5,535,000 บาท/วัน

การจัดการประกวดฯในครั้งนี้ เป็นการเปิดเวทีเพื่อให้เยาวชนได้แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์และร่วมทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม และเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาวัสดุเหลือใช้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ เช่น นำไปจำหน่ายเป็นสินค้า OTOP ต่างๆ ได้ต่อไป

เรือนจำกลางอุบลราชธานีฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือวิสามัญ ขั้นความรู้เบื้องต้น (B.T.C.) ให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์

วันที่ 20 สิงหาคม 2556 ณ ค่ายลูกเสือชั่วคราวศูนย์การเรียนเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เรือนจำกลางอุบลราชธานี นายศุภกร วงศ์ปราชญ์ รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติเป็นประธานเปิดการฝึกอบรมการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือวิสามัญ ขั้นความรู้เบื้องต้น ให้แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ โดยกรมราชทัณฑ์ ร่วมกับสำนักงานลูกเสือแห่งชาติและสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาดและกิจการนักเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทำหลักสูตรและคู่มือการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือวิสามัญ ขั้นความรู้เบื้องต้น เพื่อเป็นแนวทางในการฝึกอบรมผู้ต้องขัน ให้แก่เรือนจำทัณฑ์สถาน ทั่วประเทศ โดยหลักสูตรและคู่มือการฝึกอบรมดังกล่าวจะต้องนำมาทดลองใช้กับกลุ่มเป้าหมาย (ผู้ต้องขัง) ในกลุ่มต่างๆ เพื่อประเมิน จุดเด่น จุดด้อย รับฟังข้อเสนอแนะ รวมทั้งคำแนะนำจากผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อนำมาพัฒนาให้หลักสูตรและคู่มือการฝึกอบรมฯ ให้มีความสมบูรณ์ ก่อนดำเนินการจัดพิมพ์และประกาศใช้อย่างเป็นทางการต่อไป

กรมราชทัณฑ์ จึงได้มอบหมายให้เรือนจำกลางอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเรือนจำนำร่องในการทดลองใช้หลักสูตรการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือวิสามัญ ขั้นความรู้เบื้องต้น กับกลุ่มเป้าหมายผู้ต้องขังในเรือนจำฯกำหนดจัดการฝึกอบรมในระหว่างวันที่ 20-23 สิงหาคม 2556 ณ ค่ายลูกเสือชั่วคราวศูนย์การเรียนเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เรือนจำกลางอุบลราชธานี โดยได้รับความอนุเคราะห์วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ จากสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ, สมาคมสโมสรลูกเสือวิสามัญแห่งประเทศไทยในพระอุปถัมภ์, ลูกเสือจังหวัดอุบลราชธานีและจากกรมราชทัณฑ์ โดยมีผู้ต้องขังชายสมัครใจเข้ารับการฝึกอบรมฯ จำนวน 80 คน

โครงการน้ำพระทัยพระราชทานสู่ภูมิภาค 76 จังหวัด

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยร่วมกับจังหวัดสุรินทร์ จัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สู่ภูมิภาค 76 จังหวัด เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

วันที่ 20 ส.ค.56 ที่หอประชุมธารน้ำใจ โรงเรียนสิรินธร จังหวัดสุรินทร์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงานการจัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สู่ภูมิภาค 76 จังหวัด ซึ่งสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ร่วมกับจังหวัดสุรินทร์ เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ ชมรมแม่บ้านมหาดไทย ชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัด และภาคเอกชน เพื่อน้อมเกล้าฯถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษา 86 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2556

ทั้งนี้ เนื่องในโอกาสที่โครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตามพระราชเสาวนีย์ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งได้ดำเนินโครงการมาเป็นปีที่ 15 สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ จึงถือโอกาสนี้ ร่วมกับจังหวัดต่างๆ ทั้ง 76 จังหวัด จัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานเลี้ยงอาหารกลางวันแก่ผู้ตกงานและผู้ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน ในช่วงเดือนสิงหาคม เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

สำหรับกิจกรรมน้ำพระทัยพระราชทาน สู่ภูมิภาค 76 จังหวัด จังหวัดสุรินทร์ ได้มอบสิ่งของ เครื่องอุปโภค บริโภค และจัดเลี้ยงอาหารกลางวันพระราชทาน แก่ผู้ตกงานและผู้ประสบความทุกข์ยากเดือดร้อน จำนวน 320 คน การออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการของหน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การฝึกอบรมวิชาชีพ และ บริการตัดผม เป็นต้น




ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข ข่าว/อนุชา  หาญนึก ภาพ

สนง.คณะกรรมการกิจการพลังงานประจำเขต 6 (นครราชสีมา) พบสื่อมวลชนสุรินทร์

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 6 (นครราชสีมา) จัดอบรมสัมมนาสื่อมวลชนจังหวัดสุรินทร์ เพื่อประชาสัมพันธ์บทบาทหน้าที่ และภารกิจ ในติดตาม คุ้มครองและดูแล ผู้ใช้พลังงาน

วันที่ 20 ส.ค.56 ที่ห้องพนมดงรัด โรงแรมทองธารินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 6 (นครราชสีมา) ได้จัดอบรมสัมมนาและพบปะสื่อมวลชนในจังหวัดสุรินทร์ โดยมีนางศิริพร บุตรเพชร คณะกรรมการผู้ใช้พลังงานประจำเขต 6 เป็นประธานเปิดการอบรมสัมมนาฯ ทั้งนี้เพื่อที่จะเป็นการ ประชาสัมพันธ์บทบาทหน้าที่ และภารกิจ ในติดตาม คุ้มครองและดูแล ผู้ใช้พลังงาน เพื่อให้กลไกสนับสนุนการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ซึ่งมีพันธกิจหลัก ในการที่จะกำกับ ดูแล การประกอบกิจการพลังงานให้มีระบบการบริหารจัดการพลังงาน ให้มีความมั่นคงและเชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพ เป็นธรรมต่อทั้งผู้ใช้ และผู้ประกอบกิจการพลังงาน ตลอดจนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยยึดมั่นต่อการปฏิบัติหน้าที่ อย่างเที่ยวธรรมและโปร่งใส เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งในด้านสังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม

โดยการลงพื้นที่เพื่อการสร้างการประชาสัมพันธ์ต่อสื่อมวลชนในพื้นที่ทั้ง สื่อโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ เพื่อที่จะเผยแพร่ บทบาท และหน้าที่ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประจำเขต ให้ได้รับทราบและผู้ใช้พลังงานและผู้ประกอบกิจการพลังงาน สามารถขอคำปรึกษา ร้องเรียน หรือประสานงาน ผ่านเครือข่ายความร่วมมือต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจน เสนอข้อมูลและผลการดำเนินการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานประจำเขต 6 ในระยะที่ผ่านมาให้ได้เป็นที่ทราบโดยทั่วกัน




ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข ข่าว/อนุชา  หาญนึก ภาพ

กรมการแพทย์ร่วมกับสถาบันธัญญารักษ์สัมมนาสื่อมวลชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือติดยา หายขาดได้

วันนี้ (20 ส.ค. 56) ณ โรงแรมเจริญธานี อ.เมือง จ.ขอนแก่น นพ.จิโรจน์ สินธวานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดงานสัมมนาสื่อมวลชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สร้างความรู้ความเข้าใจในนโยบายบำบัด "ติดยา หายขาดได้” จากข้อมูลผู้เข้ารับการรักษาอาการติดยา ซึ่งกรมการแพทย์ สถาบันธัญญารักษ์ และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ ในเขตภูมิภาคทั้ง 6 แห่งทั่วประเทศ พบสถิติปีงบประมาณ 2552-2556 ตามช่วงอายุของผู้เข้ารับการบำบัด พบว่า ปี 2555-2556 ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 20-24 ปี ต่างจากช่วงแรกที่อยู่ในกลุ่ม 15-19 ปี ซึ่งยังถือว่าเป็นกลุ่มของวัยรุ่น และวัยรุ่นตอนปลาย สอดคล้องกับการจำแนกสถิติที่แยกตามกลุ่มการศึกษา พบว่ากลุ่มผู้ป่วยยาเสพติดส่วนใหญ่ คือ กลุ่มมัธยมศึกษา โดยเปรียบเทียบในปี 2555 มีร้อยละ 58.50 และในปี 2556 ร้อยละ 59.64 ซึ่งเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ สถิติของผู้เข้ารับการรักษา โดยจำแนกตามประเภทของยาเสพติด พบว่ายาบ้ามีปริมาณสูงต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2552-2556 โดยในปี 2556 มีถึงร้อยละ 55.97 รองลงมา คือ สุรา ร้อยละ 17.96 และพบว่ายาไอซ์เป็นอีกชนิดที่พบแนวโน้มการแพร่ระบาดสูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง สำหรับการดำเนินโครงการภายใต้สโลแกน "ติดยา หายขาดได้” มีสาระสำคัญสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การบำบัดรักษาปี 2556 โดยประมาณการผู้เสพยาเสพติดไว้ที่ 1.9 ล้านคน สาระสำคัญประกอบด้วย ควบคุมและลดระดับปัญหายาเสพติดในระดับพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชนให้ได้ จัดให้มีการดำเนินยุทศาสตร์ป้องกัน ลดรายใหม่และกลับมาติดซ้ำ ปรับระบบบำบัด จำแนก-คัดกรอง-ติดตาม พร้อมสานต่อไปยังพื้นที่เป้าหมาย เพื่อการควบคุมและลดปัญหาให้ได้ ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น 

ขอนแก่น จัดบรรยายให้ความรู้เรื่องยาเสพติดแก่ผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงในการใช้สารเสพติด

จังหวัดขอนแก่น โดยสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่น จัดบรรยายให้ความรู้เรื่องสถานการณ์และการแพร่ระบาดของยาเสพติดให้แก่ผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูงในการใช้สารเสพติด

นายสงคราม ขำต้นวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 4 จังหวัดขอนแก่น ได้เป็นวิทยากรบรรยายให้ความเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด และนโยบายป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้แก่ผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูงในการใช้สารเสพติด ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่นจัดขึ้น โดยมี นายสมชาย วงศ์ทอง รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจง และบรรยายพิเศษในหัวข้อ นโยบายและแนวทางการป้องกันแลแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการ และมีผู้ใช้แรงงานจากสถานประกอบการที่มีความเสี่ยงสูงที่จะใช้สารเสพติดในจังหวัดขอนแก่น จำนวนกว่า 120 คน เข้าร่วมรับฟังการประชุมชี้แจงเมื่อเช้าวันนี้ ( 20 สิงหาคม 2556) ณ ห้องหน้าเมือง โรงแรมเจริญธานีขอนแก่น

นายสมบูรณ์ ตรัยศิลานันต์ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า โครงการประชุมชี้แจงผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบกิจการที่มีความเสี่ยงสูงที่จะใช้สารเสพติด จังหวัดขอนแก่น เกิดขึ้นตามนโยบายของจังหวัดขอนแก่น ที่ได้ดำเนินโครงการ "จังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด” และได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานในสถานประกอบกิจการว่า สถานประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการโรงงานสีขาว จะต้องมีการตรวจค้นหาและสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน จึงได้อนุมัติโครงการค้นหาและสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ซึ่งสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดขอนแก่นได้ดำเนินการตรวจปัสสาวะผู้ใช้แรงงานที่เป็นกลุ่มเสี่ยง จำนวน 2,748 คน จากสถานประกอบกิจการจำนวน 43 แห่ง ซึ่งเป็นสถานประกอบกิจการที่เป็นเป้าหมายของผู้จำหน่วยยาเสพติด โดยได้เชิญผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบกิจการดังกล่าวเข้าร่วมประชุมชี้แจงเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันและทำความเข้าใจพิษภัยของยาเสพติด เพื่อขยายผลไปยังเพื่อร่วมงาน ครอบครัว ชุมชนใกล้เคียงต่อไป.



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/อารมย์/พิมพ์/20 ส.ค.56

กกต.ขอนแก่นขยายเวลาการขอยกเลิกการลงทะเบียนใช้สิทธิ์เลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร

นายฐิติพล ทศรฐ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่นประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ประสงค์จะขอยกเลิกการลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร มายื่นคำร้องขอยกเลิกการลงทะเบียน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่นจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ขยายเวลาในการรับคำร้องขอยกเลิกการลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักร จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2556และได้จัดทำหนังสือแจ้งรายชื่อของลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขตจังหวัดและนอกราชอาณาจักรไปยังภูมิลำนำผู้ขอลงทะเบียนในจังหวัดขอนแก่น สอบถามรายละเอียดงานจัดการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดขอนแก่น โทร.043-234923 ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ 4 จว อีสาน มอบนโยบายด้านยาเสพติด และการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน

วันนี้ (20 ส.ค. 56) เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายจิรายุ นันท์ธราธร ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขต 14 พร้อมด้วยนายธวัช ชลารักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เดินทางมาตรวจราชการการตามแผนการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการ ประจำปี 2556 รอบที่ 2 ในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสาน ประกอบด้วยนครราชสีมา ชัยภูมิ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ โดยมี นายอุกริช พึ่งโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ปลัดจังหวัด ผู้บังคับการจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์ เขต 1 ขอนแก่น ประชาสัมพันธ์จังหวัด ผู้อำนวยการสำนักเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 ผู้อำนวยการสำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1-7 เข้าร่วมประชุมเพื่อรายงานผลการปฏิบัติงานและรับมอบนโยบาย ทั้งนี้ประเด็นสำคัญในการตรวจราชการในครั้งนี้มีประเด็นหลัก ประกอบด้วยนโยบายพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต ด้านปัญหายาเสพติด และนโยบายการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2558 สำหรับสถานการณ์ยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ทางตำรวจภูธรภาค 3 รายงานว่า ในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างนั้น ตั้งแต่เดือน มค 56 ถึง เดือน กค 56 สามารถจับยาบ้าน ได้ จำนวน 2,535,180 เม็ด กัญชา จำนวน 3,112 กิโลกรัม สารไอซ์ จำนวน 231.17 กิโลกรัม จับกุมผู้ต้องได้ จำนวน 3,212 ราย ยึดทรัพย์ เป็นจำนวนเงิน 174 ล้านบาท และนำผู้ที่ติดสารเสพติดเข้ารับการบำบัด จำนวน 22,450 ราย ทั้งนี้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายด้านยาเสพติดให้ทุกภาคส่วนร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด เน้นการลงพื้นที่เข้าทุกชุมชน หมู่บ้าน และโรงเรียน สร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชน 

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ มอบบ้านอยู่สุข ๘๐ พรรษาบรมราชินีนาถ ๘๐ ปียูนิลีเวอร์

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในการมอบ "บ้านอยู่สุข ๘๐ พรรษาบรมราชินีนาถ ๘๐ ปียูนิลีเวอร์” แก่บุคคลต้นแบบจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน ๔ ราย

(๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖) ที่บ้านเลขที่ ๒๒๑ หมู่ที่ ๑๐ ตำบลปราสาท อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานในการมอบบ้านอยู่สุข แก่ราษฎรจังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน ๔ ราย ตามโครงการ "บ้านอยู่สุข ๘๐ พรรษาบรมราชินีนาถ ๘๐ ปี ยูนิลีเวอร์” โดยบริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สภากาชาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี จัดทำขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา และเป็นการตอบแทนที่บริษัทยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ได้ดำเนินธุรกิจครบ ๘๐ ปี รวมทั้งเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแก่บุคคลต้นแบบที่ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคม เป็นครอบครัวที่มีความประพฤติดี ไม่สร้างความเดือดร้อนในสังคมและชุมชน ประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร บุคคลในครอบครัวไม่เกี่ยวข้องกับอบายมุข สิ่งเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

ปัญหาราคายางตกต่ำที่บุรีรัมย์

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ตรวจเยี่ยมเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราและรับทราบปัญหาราคายางตกต่ำ

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่เยี่ยมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา พร้อมรับข้อร้องเรียนปัญหาราคายางพาราตกต่ำ นำร่วมหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาแนวทางแก้ไขและช่วยเหลือต่อไป

(๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๖) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่ห้องประชุมชั้น ๒ ที่ว่าการอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เดินทางไปร่วมพบปะหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ของอำเภอบ้านกรวด เพื่อมอบนโยบายในการปฏิบัติงาน โดยมี นายชัยณรงค์ บุญวิวัฒนาการ นายอำเภอบ้านกรวด ให้การต้อนรับ

หลังจากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายอำเภอบ้านกรวด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปพบปะเยี่ยมกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา และเป็นสักขีพยานในการประมูลยางพารา ณ ตลาดกลางยางพารา ต.หนองไม้งาม อ.บ้านกรวด พร้อมรับข้อร้องเรียนปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทำให้ชาวสวนยางได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยในปี ๒๕๕๔ ราคายางพาราแผ่น ชั้น ๓ ราคา ๑๕๐ บาท/กิโลกรัม ปี ๒๕๕๕ ราคา ๑๐๖ บาท/กิโลกรัม และในปี ๒๕๕๖ ราคาอยู่ที่ ๗๐ บาท/กิโลกรัม ซึ่งเกษตรกรแต่ละรายได้นำยางพารามารวบรวมไว้ที่ตลาดกลาง และเปิดให้พ่อค้าผู้รับซื้อมาประมูลยางทั้งหมด ทำให้สามารถต่อรองราคาได้ เป็นการแก้ปัญหาราคายางตกต่ำได้ทางหนึ่ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จะนำปัญหาราคายางตกต่ำของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ไปร่วมหารือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคการเมือง ภาคราชการ และเอกชน เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาและให้ความช่วยเหลือต่อไป ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แสดงความห่วงใยถึงปัญหาที่อาจจะตามมาของเกษตรกรชาวสวนยาง ได้แก่ ปัญหายาเสพติด ปัญหาอัตราการเรียนต่อลดลง และปัญหาการสูญเสียที่ดิน เป็นต้น




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

สภาพแหล่งน้ำผิวดินที่มหาสารคามอยู่ในเกณฑ์พอใช้ถึงเสื่อมโทรม

สภาพแหล่งน้ำผิวดินในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม จากการตรวจสอบโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 พบมีคุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์พอใช้ถึงเสื่อมโทรม ต้องเร่งจัดการน้ำเสีย พร้อมส่งเสริมการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใช้กฎหมายลงโทษผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษ นายธวัช ปทุมพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 กล่าวว่า จากการที่ได้มีการติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน พื้นที่ลุ่มน้ำชีตอนบน 5 จังหวัดในแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาที่สำคัญ มาอย่างต่อเนื่อง และจากการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงคุณภาพน้ำแหล่งน้ำผิวดิน ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม-7 มิถุนายน 2556 โดยส่งตัวอย่างน้ำตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการและประเมินคุณภาพน้ำ ปรากฏว่า คุณภาพน้ำในแม่น้ำชี ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคามอยู่ในเกณฑ์พอใช้ถึงเสื่อมโทรม โดยคิดเป็นพอใช้ร้อยละ 66.7 เสื่อมโทรมร้อยละ 33.3 ส่วนคุณภาพน้ำในแม่น้ำเสียว มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์พอใช้ถึงเสื่อมโทรม เช่นกัน โดยพอใช้อยู่ในเกณฑ์ร้อยละ 50 และเสื่อมโทรมร้อยละ 50

ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10 กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่าสถานการณ์คุณภาพน้ำค่อนข้างดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งทางจังหวัดมหาสารคาม ได้ให้ความสำคัญในการจัดการแก้ไขปัญหาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเร่งจัดการน้ำเสีย ขยะ สิ่งปฏิกูล เพื่อลดปริมาณแหล่งกำเนิดน้ำเสียให้น้อยลง นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมให้มีการทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรและประชาชนลดการนำของเสียทิ้งในแหล่งน้ำ ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษ โดยมีบทลงโทษที่ชัดเจน




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ม.มหาสารคาม เปิดสนามแข่งขัน World Robot Olympiad 2013 ภาคอีสาน

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับ สถาบันพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และบริษัท แกมมาโก้ (ประเทศไทย) จำกัด จัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ WRO 2013 : World Robot Olympiad สนามภาคอีสาน เพื่อหาตัวแทนประเทศไทยแข่งขันชิงแชมป์โลกที่ประเทศอินโดนีเซีย

ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2556 ที่บริเวณอาคารพละศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้จัดให้มีจัดการแข่งขันโอลิมปิกหุ่นยนต์ WRO 2013 : World Robot Olympiad โดยความร่วมมือของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับ สถาบันพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และบริษัท แกมมาโก้ (ประเทศไทย) จำกัด จัดแข่งขันในสนามระดับภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสนามสุดท้าย มีนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมร่วมชมการประกอบหุ่นยนต์และการแข่งขัน

ซึ่งการแข่งขัน WRO 2013 : World Robot Olympiad ในสนามสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 4 รุ่นอายุ ตั้งแต่รุ่นอายุ 12 ปี มีจำนวน 20 ทีม รุ่นอายุ 15 ปี จำนวน 30 ทีม รุ่นอายุ 19 ปี จำนวน 34 ทีม และระดับอุดมศึกษา จำนวน 3 ทีม แข่งขันในประเภททั่วไป ประเภทความคิดสร้างสรรค์ และประเภท Robot Soccer ก่อนเฟ้นหาทีมชนะอันดับ 1-3 ของแต่ละรุ่น ไปแข่งขันที่กรุงเทพมหานครระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน 2556 เพื่อคัดเลือกตัวแทนประเทศไทย ร่วมแข่งขันรอบชิงแชมป์โลกที่ประเทศอินโดนีเซีย




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว