วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

สรุปผลการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 “ร้อยเอ็ดเกมส์” วันที่ 2 กันยายน 2556 วันแรกของการแข่งขัน

วันนี้ (3 ก.ย. 56)  เวลา 09.00 น. ณ ศูนย์บริการสื่อมวลชน สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดร้อยเอ็ด ตำบลเหนือเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด นายปราโมท เอกก้านตรง ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดร้อยเอ็ด นายกล้า ภูมิพยัคฆ์ คณบดี วิทยาลัยเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด   นายวิมล เร่งศึก ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด แถลงข่าวผลการแข่งขันแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 "ร้อยเอ็ดเกมส์” ผลการแข่งขันของวันที่ 2 กันยายน 2556  และวันแรกของการแข่งขัน

นายปราโมทย์ เอกก้านตรง ผู้อำนวยการศูนย์ กกท.จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การแข่งขันกีฬาร้อยเอ็ดเกมส์ วันแรกที่ 2 กันยายน 2556 มีการแข่งขันกีฬา 10 ประเภท 9 ประเภทแข่งขันในจังหวัดร้อยเอ็ด มี 1ประเภทมวยปล้ำแข่งที่อำเภอบ้านไผ่จังหวัดขอนแก่น ผลการแข่งขันที่รับรายงาน ได้แก่ เซปักตะกร้อประเภททีมชุด หญิง ร้อยเอ็ดชนะ ศรีสะเกษ 2:0,หญิง ขอนแก่น ชนะ นครพนม 2:0,หญิง นครราชสีมา ชนะ สกลนคร 2:0,หญิง อุบลราชธานี ชนะ อุดรธานี 2:1,ชาย นครราชสีมา ชนะ อุดรธานี 2:0,ชาย ศรีสะเกษ ชนะ ขอนแก่น 2:1,ชาย ร้อยเอ็ด ชนะ อุบลราชธานี 2:0,ชาย ชัยภูมิ ชนะ สุรินทร์ 2:0,ประเภทฟุตบอล ชาย บุรีรัมย์ ชนะ มหาสารคาม 5:1,สกลนคร แพ้ ศรีสะเกษ 1:4,สุรินทร์ แพ้ ขอนแก่น 2:4,เลย พบ บึงกาฬ ไม่มีการแข่งขัน,ประเภทฟุตซอล หญิง มหาสารคาม แพ้ ขอนแก่น 1:6,หญิง นครราชสีมา แพ้ อุดรธานี 3:4,ชาย ศรีสะเกษ ชนะ ยโสธร 5:2,ชาย มหาสารคาม ชนะ บุรีรัมย์ 6:5,ประเภทวอลเลย์บอลชายหาด ชาย กาฬสินธุ์2 ชนะ อุบลราชธานี2 2:0,ชาย นครพนม1 ชนะ หนองบัวลำภู2 2:1, หญิง บึงกาฬ2 แพ้ ขอนแก่น1 0:2,หญิง กาฬสินธุ์1 ชนะ ยโสธร2 2:0,หญิง ชัยภูมิ2 แพ้ ร้อยเอ็ด2 0:2,หญิง ร้อยเอ็ด1 ชนะ นครพนม1 2:0,หญิง มหาสารคาม2 ชนะ บึงกาฬ1 2:0,หญิง ชัยภูมิ1 แพ้ มหาสารคาม1 0:2,หญิง ยโสธร1 ชนะ นครราชสีมา1 2:0,ประเภทบาสเกตบอล ชาย ชัยภูมิ แพ้ อุดรธานี 34:60,มหาสารคาม แพ้ นครราชสีมา 38:70,นครพนม ชนะ ศรีสะเกษ 20:0,เลย แพ้ มุกดาหาร 23:41,หนองคาย แพ้ ยโสธร 32:44

สำหรับกีฬาที่ทำการแข่งขันประจำวันนี้ 3 กันยายน 2556 มี 17 ประเภท แข่งที่สนามจังหวัดร้อยเอ็ด 12 ประเภท แข่งต่างจังหวัด 5 ประเภท แข่งที่จังหวัดร้อยเอ็ด ได้แก่

คาราเต้โด (วิทยาลัยการอาชีพร้อยเอ็ด)
จักรยาน ถนน (ถนนสายร้อยเอ็ด-มหาสารคาม)
ซอฟท์เทนนิส (สนามกีฬากลางจังหวัดร้อยเอ็ด)
เซปักตะกร้อ (หอประชุมอำเภอสุวรรณภูมิ)
บาสเกตบอล (มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด)
บิลเลียด-สนุกเกอร์ (อินเตอร์สนุกเกอร์ อ.เมืองร้อยเอ็ด)
เปตอง (สนามกีฬาจังหวัดร้อยเอ็ด)
ฟุตบอล ชาย-หญิง (มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด)
ฟุตซอล ชาย-หญิง (วิทยาลัยอาชีวศึกษา ธวัชบุรี)
วอลเลย์บอลในร่ม (สนามกีฬากลางจังหวัดร้อยเอ็ด)
วอลเลย์บอลชายหาด (สนามกีฬากลางจังหวัดร้อยเอ็ด)
แฮนด์บอล (วิทยาลัยเทคนิคร้อยเอ็ด)
แข่งที่ต่างจังหวัด ได้แก่ กอล์ฟ (เขื่อนอุบลรัตน์ ขอนแก่น)
เนตบอล (โรงเรียนกัลยาณวัตร ขอนแก่น)
มวยปล้ำ (โรงเรียนบ้านไผ่ ขอนแก่น)
ยกน้ำหนัก (โรงเรียนบ้านไผ่ ขอนแก่น)
ลีลาศ (สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา)

สรุปเหรียญการแข่งขัน
อุบลราชธานี 6 ทอง 3 เงิน 1 ทองแดง รวม 10 เหรียญ
ศรีสะเกษ 2 ทอง 2 เงิน 3 ทองแดง รวม 7 เหรียญ
ชัยภูมิ 2 ทอง 1 เงิน 1 ทองแดง รวม 4 เหรียญ
อุดรธานี 1 ทอง 1เงิน 1 ทองแดง รวม 3 เหรียญ
อำนาจเจริญ รวม 1 เหรียญทอง
หนองบัวลำภู 3 เงิน 3 ทองแดง รวม 6 เหรียญ
มหาสารคาม 2 เงิน 1 ทองแดง รวม 3 เหรียญ
ขอนแก่น รวม 2 เหรียญทองแดง นอกนั้นยังไม่มีเหรียญใดๆ

ผู้อำนวยการศูนย์ กกท.จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวด้วยว่า ความหวังของทีมจังหวัดเอ็ด เจ้าภาพ ที่จะเป็นแชมป์ตัวแทนภาค 3 ได้แก่ กรีฑา นายชัชวาล พลเยี่ยม ขว้างจักรและทุ่มน้ำหนัก,หญิง อมาวดี สว่างวงศ์ ขว้างจักร,ทุมน้ำหนักและพุ่งแหลน,มวยไทย นายทศพร โฆนอก,นายจักรพรร ต้องติรัม,นายอาทิต ศรีสมบูรณ์,มวยสากล หญิง จีรพัฒน์ อินพรหม,เทควันโด้ ชาย เทวัญ พระเทวี,เซปักตะกร้อ หญิง ทั้งเดี่ยวและทีม,วอลเลย์บอลชายหาด ชาย นายอนันต์ โสปะติ,นายปริญญา บัวผัน,คาราเต้โด ชาย นายธวัชชัย ผิวหอม,และทศกรีฑา วิ่งฮาร์ฟมาราธอน 21 กม.



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ระดมเจ้าหน้าที่ออกกวาดล้างยุงลาย คุมเข้ม โรคไข้เลือดออก หลังสำรวจสถิติ 5 ปี ย้อนหลัง พบมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก เพิ่มมากขึ้น 3 เท่า

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 ก.ย.56 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายแพทย์ประวิ อ่ำพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ว่า จากการสถิติล่าสุดเมื่อเดือน สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ป่วยด้วยไข้เลือดออก 3883 ราย และยังไม่มีผู้เสียชีวติ โดยพื้นที่ที่มีผู้ป่วยสูง 5 อันดับแรก ได้แก่ อำเภอโนนคูณ อำเภอเมือง อำเภอกันทรารมย์ อำเภอกันทรลักษ์ และอำเภอวังหิน ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบจากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ พบว่า ในปี 2556 มีรายงานผู้ป่วยสูงกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 3 เท่า โดยจังหวัดศรีสะเกษมีผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกเป็นอันดับ 13 ของประเทศ และเป็นอันดับ 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายแพทย์ประวิ กล่าวต่อไปว่า ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีมาตรการเฝ้าระวัง โดยประสานความร่วมมือกับชุมชน โดยเน้นการทำความสะอาดบ้านและสิ่งแวดล้อม การจัดการลูกน้ำ และการกำจัดยุงตัวแก่ ตลอดจนให้เจ้าหน้าที่ ติดตามสำรวจค่าดัชนีความชุกของลูกน้ำในพื้นที่บ้าน วัดโรงเรียน และติดตามสถานการณ์โรคอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการควบคุมโรค ลดการตายของประชาชนในพื้นที่จากโรคไข้เลือดออก

สำนักงานเทศบาลเมืองศรีสะเกษ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว LPG ภาคครัวเรือน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.ย.56 ที่สำนักงานเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ดร.ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้ประกาศปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนักทั้งในภาคครัวเรือนและภาคเศรษฐกิจ เนื่องจากมีการปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าหลายประเภท ทั้งนี้ สำนักงานเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้ ได้มีมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบในเขตจังหวัดศรีสะเกษ ภายใต้โครงการ โครงการบรรเทาผลกระทบการปรับราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน ซึ่งจะมีคูปองพิเศษ เพื่อให้ประชาชนในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ สามารถซื้อก๊าซหุงต้ม ได้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด โดยผู้ที่มีสิทธิ์ในการใช้คูปองนี้ ประกอบด้วย ครัวเรือนที่มีรายได้น้อย ร้านค้าหาบเร่ แผงลอยอาหารที่มีพื้นที่ร้านค้าไม่เกิน 50 เมตร และกลุ่มครัวเรือนที่ใช้ไฟไม่เกิน 90 หน่วย ซึ่งในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ มีผู้ที่มีสิทธิ์ใช้คูปองลดราคาก๊าซหุงต้มได้ประมาณ 300 ราย

ดร.ฉัฐมงคล กล่าวต่อไปว่า สำหรับประชาชนที่อยู่ในเกณฑ์คัดเลือก สามารถเริ่มใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป โดยกสารส่งข้อความขอใช้สิทธิ์ผ่านระบบ SMS โดยสามารถศึกษาข้อมูลได้จากแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์โครงการทั่วไป และสามารถตรวจสอบร้านค้าก๊าซที่เข้าร่วมโครงการได้ จากสติ๊กเกอร์ที่มีข้อความระบุว่า ร้านนี้อยู่ในโครงการบรรเทาผลกระทบการปรับราคาขายปลีกก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภาคครัวเรือน และมีรหัสร้านค้าจากกระทรวงพลังงาน ส่วนร้านค้าก๊าซที่ต้องการเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนเพิ่มเติมได้ที่กองสาธารณสุข เทศบาลเมืองศรีสะเกษ หรือสอบภามเพิ่มเติมได้ที่ 045-620211-4 ต่อ 119 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพยุงราคาสินค้าที่มีการปรับตัวขึ้นอยู่ในขณะนี้ ตลอดจนเป็นการเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้บริโภคและประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้ ในเบื้องต้น

จังหวัดอำนาจเจริญเปิดอบรมหลักสูตรเยาวชนอาสารักษาดินแดนต้านภัยยาเสพติด

ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เดินหน้าต้านยาเสพติดทุกรูปแบบ  ล่าสุดจัดหลักสูตรอบรมเยาวชนนอกสถานศึกษา เข้าเป็นแนวร่วมเยาวชนอาสาพลังแผ่นดินช่วยเหลือราชการในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด

เวลา ๑๓.๓๐ น. วันนี้( ๓ กันยายน ๒๕๕๖) ที่กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดอำนาจเจริญที่ ๑ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานเปิดโครงการอบรมโครงการลดกลุ่มสี่ยงนอกสถานศึกษาต้านยาเสพติด "หลักสูตรเยาวชนอาสารักษาดินแดนต้านภัยยาเสพติด” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการอบรมหลายหน่วยงาน

นายสัจจะ ฤทธิกุลประเสริฐ ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ ในฐานะฝ่ายจัดการฝึกอบรมรายงานว่า การอบรมหลักสูตรนี้ เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนที่เข้ารับการฝึกอบรมปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เป็นคนดีมีคุณภาพสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีปกติสุข ซึ่งเนื้อหาการอบรมในหลักสูตรจะนำวิชาด้านอาสารักษาดินแดนเข้ามาสอนด้วย เพื่อให้เยาชนเหล่านี้เมื่อผ่านการอบรมแล้ว จะมีจิตอาสาเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยเหลือราชการ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ในการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งใช้เวลาอบรมเป็นเวลา ๓ คืน ๔ วัน มีเยาวชนกลุ่มเสี่ยงนอกสถานศึกษาของจังหวัดอำนาจเจริญ เข้าอบรม จำนวน ๑๐๐ คน

นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน  ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวให้โอวาทกับผู้เข้ารับการอบรมเรื่องการป้องกันปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญว่า ขณะนี้ทางจังหวัดอำนาจเจริญมีความจริงจัง และเข้มข้น ในด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่กำลังระบาดอย่างมากในกลุ่มเยาวชน รวมทั้งการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายด้วย ที่ใช้จังหวัดอำนาจเจริญเป็นเส้นทางลำเลียงสิ่งผิดกฏหมายผ่านหรือพักยาเสพติดก่อนส่งต่อไปในพื้นที่อื่น  ดังนั้นในช่วงนี้จึงมีความเข้มข้นในการฝึกอบรมกลุ่มเสี่ยงยาเสพติดทั้งในและนอกสถานศึกษา เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหันมาให้ความร่วมมือเป็นแกนนำสร้างกระแสการมีส่วนร่วมป้องกันปัญหายาเสพติดร่วมกับทางราชการต่อไป ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งของศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดติดจังหวัดอำนาจเจริญ ในการลดปัญหาและการระบาดรุนแรงในจังหวัดอำนาจเจริญ



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ. /ข่าว

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เข้าจับกุมเป้าหมายแหล่งมั่วสุมในหอพัก รวบ 4 ผู้ต้องหา พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก กระสุน 15 นัด และยาบ้าจำนวน 882 เม็ด

(3 ก.ย. 56) ที่สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พ.ต.ท.รักเกียรติ แย้มบางยาง พนักงานสอบสวนชำนาญการพิเศษหัวหน้างานสอบสวน และ พ.ต.ต.ธีระวัฒน์ เหิงขุนทด ผู้ชำนาญการพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี แถลงข่าว เมื่อเวลา 16. 00 น.ของวันที่ 2 กันยายน 2556 สืบทราบว่ามีแหล่งมั่วสุมเสพยาและจำหน่ายยาบ้าในหอพักพฤกษา ห้องที่ 2 หมุ่ที่ 3 ตำบลธาตุ อำวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พ.ต.ท.สุทิน สะเดา รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม,พ.ต.ท.ทศพร เส็งเรียบ สารวัตรป้องกันและปราบปราม นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบและจับกุมตัวผู้ต้องเป็นหญิง 1 ราย และผู้ต้องหาชาย 3 ราย รวม 4 ราย โดยทั้งหมดมีภูมิลำเนาอาศัยอยู่จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมของกลางยาบ้ายาบ้า จำนวน 882 เม็ด อาวุธปืน ออโตเมติก แบบไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 5 นัด อาวุธปืน แบบไทยประดิษฐ์ (ปืนปากกา) ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน จำนวน 10 นัด ซองพลาสติกใส ชนิดรูดปากใช้ใส่ยาบ้าสำหรับแบ่งบรรจุจำนวน 1 ห่อ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้ โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตฯซึ่งผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพว่าได้มาเช่าหอพักเพื่อจำหน่ายยาบ้าให้กับนักเรียน นักศึกษาและกลุ่มวัยรุ่น และเจ้าหน้าที่ได้ยึดทรัพย์ตาม พรบ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ น้ำหนักประมาณ 1 บาท จำนวน 1 เส้นสร้อยคอทองคำ น้ำหนักประมาณ 1 สลึง จำนวน 1 เส้น รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน และจับกุมนายชาญ นามสมุติ ในข้อหาเสพยาบ้าฯ ที่บริเวณหอพักดังกล่าว จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรวารินชำราบ ดำเนนินคดีตามกฎหมายต่อไป



จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี ฉลองโล่พระราชทานในโอกาสได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทาน ระดับก่อนประถมศึกษา 3 ครั้ง ภายใน 10 ปี ปีการศึกษา 2546, 2551, 2555 และรางวัลโรงเรียนพระราชทาน ระดับก่อนประถมศึกษา ขนาดใหญ่ ปีการศึกษา 2555

วันที่ 3 กันยายน 2556 ณ โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี นายสุทธินนท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานในพิธี ฉลองโล่พระราชทานในโอกาสได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทาน ระดับก่อนประถมศึกษา 3 ครั้ง ภายใน 10 ปี ปีการศึกษา 2546, 2551, 2555 และรางวัลโรงเรียนพระราชทาน ระดับก่อนประถมศึกษา ขนาดใหญ่ ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี

โดยในปีการศึกษา 2555 โรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานรางวัล โล่พระราชทาน ในโอกาสได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทาน ระดับก่อนประถมศึกษา 3 ครั้ง ภายใน 10 ปี ปีการศึกษา 2546, 2551, 2555 และรางวัลโรงเรียนพระราชทาน ระดับก่อนประถมศึกษา ขนาดใหญ่ปีการศึกษา 2555 รางวัลโรงเรียนพระราชทาน เป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุด ถือว่า เป็นสิริมงคล เป็นเกียรติประวัติ และความภาคภูมิใจของโรงเรียนอัสสัมชัญอุบลราชธานี และคณะผู้บริหาร คณะครู นักเรียน และบุคลากร และสร้างมาตรฐานการจัดการศึกษา ให้นักเรียนได้ก้าวออกสู่สังคมภายนอกอย่างมั่นใจ มีความรู้ดี มีระเบียบวินัย สามารถใช้ความรู้ได้ด้วยสติ ปัญญา และคุณธรรม ตามปรัชญาการจัดการศึกษาของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย และเจตนารมณ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สืบไป

ทั้งนี้โครงการคัดเลือกนักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษา เพื่อรับรางวัลพระราชทาน เกิดขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2506 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชปรารภกับ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ใจความว่า มีนักเรียนจำนวนมากซึ่งมีความประพฤติดี และมีความมานะนักเรียนและโรงเรียนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวสมควรจะได้รับพระราชทานรางวัล ทั้งนี้ได้ทรงกำชับว่าหากพิจารณาแล้วได้ผลประการใดทรงมีพระราชประสงค์จะทรงทราบด้วย ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการได้รับสนองพระราชปรารภมาดำเนินการตั้งแต่ปีพุทธศักราช 2506 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลา 50 ปี.



จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

สุรินทร์อนุมัติแล้วราคาข้าวเปลือกที่หลุดจำนำยุ้งฉางสูงสุดตันละ 17,500 บาท ต่ำสุด ตันละ 14,600 บาท

จังหวัดสุรินทร์อนุมัติราคาจำหน่ายข้าวเปลือกหลุดจำนำยุ้งฉางเกษตรกรของ ธ.ก.ส. 7,609 ราย น้ำหนักรวม 42,486 ตัน ราคาประมูลสูงสุดตันละ 17,500 บาท ต่ำสุด ตันละ 14,600 บาท

วันที่ 3 ก.ย. 2556 ที่ห้องประชุมสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำระดับจังหวัด จังหวัดสุรินทร์ โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาเกี่ยวกับการจำหน่ายข้าวเปลือกหลุดจำนำยุ้งฉางเกษตรกรของ ธ.ก.ส. ปีการผลิต 2555/56 รวม 7,609 ราย น้ำหนักรวม 42,486 ตัน ซึ่งได้เปิดการประมูลขายโดยแบ่งการประมูลเป็น 5 เขต ได้แก่

เขต 1 อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอลำดวน และอำเภอเขวาสินรินทร์ ปริมาณข้าว 12,058 ตัน ราคาประมูลตันละ 17,050 บาท

เขต 2 อำเภอ สังขะ และอำเภอศรีณรงค์ ปริมาณข้าว 11,802 ตัน ราคาประมูลตันละ 14,620 บาท

เขต 3 อำเภอท่าตูม อำเภอชุมพลบุรี อำเภอจอมพระ อำเภอรัตนบุรี และอำเภอสนม ปริมาณข้าว 9,233 ตัน ราคาประมูลตันละ 17,500 บาท

เขต 4 อำเภอศีขรภูมิ และอำเภอสำโรงทาบ ปริมาณข้าว 2,294 ตัน ราคาประมูลตันละ 14,600 บาท

เขต 5 อำเภอปราสาท และอำเภอกาบเชิง ปริมาณข้าว 7,099 ตัน ราคาประมูลตันละ 14,620 บาท


ทั้งนี้ราคาประมูลจังหวัดใกล้เคียงได้แก่ จังหวัดบุรีรัมย์ ราคาประมูลสูงสุด 14,700 บาท ต่ำสุด 14,600 บาท ส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ราคาประมุลสูงสุด 17,000 บาท ต่ำสุด 16,100 บาท

สำหรับราคาประมูลข้าวเปลือกแต่ละเขตที่มีความแตกต่างกันมากโดยเขต 3 ประมูลได้ราคาสูงถึง 17,500 บาท และเขต 1 ประมูลได้สูงถึง 17,050 บาท ในขณะที่เขต 2 เขต 4 และ เขต 5 ประมูลได้ราคาต่ำกว่า 15,000 บาท ราคาประมูลแตกต่างกันมากเกือบ 2,000 บาท นั้น นายณัฐวัฒน์ เศรษฐพัฒนชัย ประธานชมรมโรงสีจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เขต 1 อำเภอเมืองสุรินทร์ อำเภอลำดวน และอำเภอเขวาสินรินทร์ และ เขต 3 อำเภอท่าตูม อำเภอชุมพลบุรี อำเภอจอมพระ อำเภอรัตนบุรี และอำเภอสนม มีคุณภาพข้าวดีกว่าพื้นที่อื่น ๆ และคุณภาพข้าวสูงมากกว่าจังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากเป็นข้าวหอมมะลิในเขตทุ่งกุลาร้องให้ ซึ่งบริษัทผู้ผลิตข้าวถุงรายใหญ่ระดับประเทศ ได้ร่วมประมูลข้าวในเขต 1 และ เขต 3 ด้วย ส่วนเขตอื่น ๆ ข้าวมีคุณภาพด้อยลงมาและมีสิ่งเจือปนมาก อย่างไรก็ตามโรงสีผู้ชนะการประมูลทั้ง 5 เขต ล้วนมีตลาดข้าวที่จะจำหน่ายอยู่แล้ว แต่หากมีการระบายข้าวออกล่าช้า จะมีปัญหาการจัดเก็บข้าวฤดูกาลผลิตถัดไป ซึ่งเกษตรกรจะเริ่มทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตในปลายเดือนตุลาคม 2556 นี้

นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า หลังจากเสร็จสิ้นการประมูล จังหวัดสุรินทร์จะได้เชิญบริษัทผู้ชนะการประมูลมาทำสัญญา และเร่งระบายข้าวออกสู่ท้องตลาดต่อไป

สุรินทร์จัดสัมมนาเสริมสร้างจริยธรรมของผู้บริหาร เน้นหนัก 9 ข้อประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน

จังหวัดสุรินทร์ จัดโครงการสัมมนา "การเสริมสร้างจริยธรรมของผู้บริหารจังหวัดสุรินทร์ ประจำปี 2556" เพื่อให้ผู้บริหารส่วนราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น ตะหนักถึงการยึดมั่นและประพฤติตนเป็นแบบอย่างแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ในหลักจริยธรรมของข้าราชการพลเรือน

วันนี้ (วันที่ 3 ก.ย.56) ที่ห้องประชุมศรีณรงค์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานการสัมมนาและกล่าวให้โอวาท แก่หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งจังหวัดสุรินทร์มีความเน้นหนักที่จะให้ผู้บริหารทุกภาคส่วน ตระหนักในการครองตนเป็นข้าราชการพลเรือนที่ดี ยึดถือผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ

ซึ่งการจัดโครงการสัมมนา แก่หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็เพื่อที่จะกระตุ้นและเน้นย้ำให้ข้าราชการ โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชา ได้ตระหนักและยึดมั่นในหลักจริยธรรม และปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน โดยเฉพาะค่านิยมหลักของมาตรฐานสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ 9 ประการ ประกอบไปด้วย

1. การยึดมั่นในคุณธรรมและจริยธรรม

2. การมีจิตสำนึกที่ดี ซื่อสัตย์ สุจริต และรับผิดชอบ

3. การยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน

4. การยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นธรรม และถูกกฎหมาย

5. การให้บริการแก่ประชาชนด้วยความรวดเร็วมีอัธยาศัย และไม่เลือกปฏิบัติ

6. การให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วนถูกต้อง และไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง

7. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน รักษามาตรฐาน มีคุณภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้

8. การยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

9. การยึดมั่นในหลักจรรยาวิชาชีพขององค์กร


ทั้งนี้ เพื่อให้การขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านจริยธรรมของจังหวัดสุรินทร์ เกิดผลเป็นรูปธรรม และเป็นไปตามหลักกลไกการบังคับใช้ประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน อันจะให้เกิดการสำนึก ลึกซึ้ง เที่ยงธรรมในหน้าที่ ผดุงเกียรติและศักดิ์ศรีข้าราชการควรแก่การไว้วางใจให้แก่ประชาชน สมกับเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้กล่าวเน้นย้ำให้ ผู้บริหารและข้าราชการ ทุกคน ตะหนักถึงการยึดมั่นและประพฤติตนเป็นแบบอย่างทุกถูกต้องและดีงาม แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ในหลักจริยธรรมของข้าราชการพลเรือน อันจะก่อให้เกิดการพัฒนาและมั่นคงแก่ท้องถิ่นและประเทศชาติต่อไป




ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข / ข่าว
อนุชา  หาญนึก / ภาพ

สปข.1 ขอนแก่น ขอเชิญนักจัดรายการ ประชาชนชาวกาฬสินธุ์ สมัครเข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้ประกาศ

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น กรมประชาสัมพันธ์ ขอเชิญชวนนักจัดรายการ ประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ สมัครเพื่อเข้าอบรมหลักสูตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ระดับต้น รับสมัครถึงวันที่ 30 กันยายน 2556

นายเสรี จูบุญส่ง ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 เปิดเผยว่า ด้วยกรมประชาสัมพันธ์ โดยสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1-8 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด 76 จังหวัด และสถาบันการประชาสัมพันธ์ ได้รับอนุญาตจากสำนักงาน กสทช. ให้เป็นหน่วยงานจัดอบรมหลักสูตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ระดับต้น ระดับกลาง และระดับสูง โดยทั้ง 3 หลักสูตรมุ่งเน้นการให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาทักษะด้านกิจการกระจายเสียง จริยธรรม และจรรยาบรรณในการประกอบวิชาชีพฯ และมาตรฐานการใช้ภาษา และการฝึกปฏิบัติจากคณาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ผู้ทรงคุณวุฒิจาก กสทช. และกรมประชาสัมพันธ์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ยิ่งในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ให้มีความรู้ในการประกอบอาชีพ และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งนี้ เมื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมฯ ได้ผ่านการอบรมในระดับสูง จะสามารถนำประกาศนียบัตรแนบเป็นหลักฐานในการสมัครเข้าทดสอบเพื่อรับบัตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ต่อไป

ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 กล่าวอีกว่า ดังนั้น สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 ขอนแก่น จึงได้กำหนดจัดอบรมหลักสูตรผู้ประกาศในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ระดับต้น ระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2556 ณ โรงแรมเจริญธานีขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น กำหนดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 รับจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 50 คนเท่านั้น ค่าลงทะเบียนคนละ 4,000.-บาท สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ผู้ที่สนใจสมัครเข้ารับการอบรมดังกล่าว สามารถดาวน์โหลดใบสมัครที่เว็บไซด์ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 http:/egion1.prd.go.th หรือติดต่อขอรับได้ที่สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดกาฬสินธุ์ หรือสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ส่งใบสมัครได้ที่ส่วนข่าวและรายการภูมิภาค สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 เลขที่ 20/1 ถนนนิกรสำราญ (ริมบึงแก่นนคร) ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โทรศัพท์/โทรสาร 043-227406 โดยโอนเงินค่าลงทะเบียนเข้าบัญชี "เงินสะสม สปข.1” เลขที่บัญชี 405-0-42271-9 ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาขอนแก่น




ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ขนส่งกาฬสินธุ์ นำหน่วยบริการออกให้ประชาชนตำบลผาเสวยในวันที่ 5 กันยายนนี้

นางวิไลลักษณ์ ศรีวณิชชากร ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ จะจัดหน่วยออกร่วมให้บริการประชาชนร่วมกับจังหวัดกาฬสินธุ์ ตามโครงการ "จังหวัดกาฬสินธุ์ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน” ในวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2556 ณ โรงเรียนบ้านกอกวิทยาคม บ้านโคกกลาง หมู่ที่ 3 ตำบลผาเสวย อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์  ซึ่งสำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดรับบริการต่อภาษีรถเก๋ง รถตู้ รถปิกอัพ และรถจักรยานยนต์ โดยต้องแนบหลักฐานคือสมุดคู่มือจดทะเบียนรถหรือภาพถ่ายฯ หลักฐานประกันภัย และใบรับรองการตรวจสภาพรถจากสถานตรวจสภาพรถเอกชน เฉพาะรถยนต์ที่ใช้งานมาแล้วตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป และรถจักรยานยนต์ที่ใช้งานมาแล้วตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป

นอกจากนี้ ยังให้บริการปรึกษา แนะนำ การดำเนินการทางทะเบียนรถยนต์ด้วย หากมีข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายทะเบียนรถสำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ หมายเลขโทรศัพท์ 043-821703-4 ต่อ 14 ในวันและเวลาราชการ



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

รอง ผวจ.กาฬสินธุ์กำชับผู้บังคับบัญชารักษาวินัยของผู้ใต้บังคับบัญชาหากพบกระทำผิดอาจต้องรับผิดด้วย

นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่า ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่และความรับผิดชอบตามกฎหมายในการรักษาวินัยของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา โดยต้องเสริมสร้าง พัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชามีวินัย ป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำผิดวินัย และดำเนินการทางวินัยแก่ผู้กระทำผิดวินัย กรณีผู้บังคับบัญชาละเลยการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว มิได้ทำให้การรักษาวินัยของข้าราชการดีขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล จึงมีมติให้นำเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อมีมติกำชับให้ผู้บังคับบัญชาปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาวินัยของผู้ใต้บังคับบัญชาตามกฎหมายโดยเคร่งครัด และให้ถือว่าการที่การรักษาวินัยของข้าราชการมิได้ดีขึ้น ผู้บังคับบัญชามีส่วนรับผิดชอบ เพราะมิได้เสริมสร้างและพัฒนาวินัยให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีวินัย และมิได้ป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำผิดวินัย ซึ่งผู้บังคับบัญชาอาจต้องรับผิดทางวินัยด้วย จังหวัดกาฬสินธุ์จึงมีหนังสือที่ กส (บค) 0017.5/ว3508 กำชับให้ส่วนราชการประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ นายอำเภอทุกอำเภอทราบและถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด




สุวรรณ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

ขอนแก่นจับมือกับภาคเอกชน 28 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นปลูกต้นราชพฤกษ์เฉลิมพระเกียรติ ระยะทาง 111 กม. ริมสองข้างทางสู่แหล่งท่องเที่ยว

ข่าวที่ /2556

ขอนแก่นจับมือกับภาคเอกชน 28 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลูกต้นราชพฤกษ์เฉลิมพระเกียรติ ระยะทาง 111 กม. ริมสองข้างทางสู่แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดขอนแก่น จับมือกับโรงแรมโฆษะ 28 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกันปลูกต้นราชพฤกษ์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ระยะทาง 111 กิโลเมตร ริมสองข้างทางหลวงไปสู่แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
นายชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์ เจ้าของผู้จัดการโรงแรมโฆษะจังหวัดขอนแก่น พล.ต.อาชาไนย ศรีสุข ผู้บังคับการกองพลทหารม้าที่ 3 จังหวัดขอนแก่น และนายสมาน มานะกิจ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมกันเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงการที่จังหวัดขอนแก่นร่วมกับโรงแรมโฆษะจังหวัดขอนแก่น หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 28 องค์กร และกองพลทหารม้าที่ 3 จังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมกันจัดทำโครงการ ขอนแก่นร่วมใจ ปลูกราชพฤกษ์เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมราชินีนาถ ระหว่างปี 2557–2559 โครงการปลูกต้นราชพฤกษ์หรือต้นคูณ ริมสองข้างทางหลวงที่เป็นเส้นทางไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่น เช่น หมู่บ้านงูจงอาง พระธาตุขามแก่น สิมอีสาน สวนสัตว์ขอนแก่น กองพลทหารม้าที่ 3 ค่ายเปรมติณสูลานนท์ และศูนย์การเรียนรู้ชัยพัฒนา ระยะทาง 111 กิโลเมตร โดย โรงแรมโฆษะ ได้สนับสนุนต้นคูณขนาดสูง 3 เมตร จำนวน 9,999 ต้น ภายในระยะเวลา 3 ปี

ในโอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นและผู้ร่วมแถลงข่าวทั้งหมด ได้มอบต้นราชพฤกษ์ให้ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 28 แห่ง และปล่อยขบวนรถบรรทุกต้นราชพฤกษ์ขนาดสูง 3 เมตร ไปส่งมอบให้เทศบาล, อบต. ทั้ง 28 แห่ง นำไปปลูกริมสองข้างทอง ถนนหลวงที่เป็นเส้นทางไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น ตามโครงการต่อไป โดยโครงการปลูกต้นราชพฤกษ์ ขอนแก่นร่วมใจ ปลูกต้นราชพฤกษ์เฉลิมพระเกียรติ ครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชินี เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ตามนโยบายของรัฐบาล



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว
สุรเดช/พิมพ์/ 3 ก.ย. 2556

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ และกระทรวงมหาดไทย ตรวจติดตามแผนงาน/โครงการและนโยบายที่สำคัญที่ จ.ขอนแก่น

ข่าวที่ /2556

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ และกระทรวงมหาดไทย ตรวจติดตามแผน/โครงการและนโยบายที่สำคัญที่ จ.ขอนแก่น ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย บูรณาการตรวจติดตามแผนงานโครงการและนโยบายที่สำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่จังหวัดขอนแก่น

เช้าวันนี้ ( 3 กันยายน 2556 ) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นางวนิดา สักการโกศล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีประจำเขตตรวจราชการที่ 12และนายประดิษฐ์ สุคนธสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาตรวจติดตามแผนงาน โครงการและนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลที่จังหวัดขอนแก่น ประกอบด้วย การดำเนินการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ การบริหารราชการตามยุทธศาสตร์ การพัฒนาจังหวัดของจังหวัดขอนแก่น และการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 โดยเป็นการตรวจราชการแบบบูรณาการของทั้งสำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย มี นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม รายงานผลการปฏิบัติงาน ปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานให้ผู้ตรวจราชการทั้งสองหน่วยงานได้รับทราบ เพื่อนำไปรายงานให้รัฐบาล ทราบต่อไป

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้รายงานผลการดำเนินงานโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของจังหวัดขอนแก่น ที่ใช้ชื่อโครงการว่า จังหวัดขอนแก่น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ว่า ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน มกราคม 2556 จนถึงปัจจุบัน หน่วยงานต่างๆ ทั้งด้านป้องกัน ปราบปราม บำบัดรักษา และฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด ได้มีการทำงานประสานงานและบูรณาการทำงานแบบครบวงจร ทำให้มีผลการทำงานทุกด้านประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสำนักงาน ปปส.ภาค 4ได้วิเคราะห์สถานการณ์ การแพร่ระบาดของยาเสพติดในจังหวัดขอนแก่นมีแนวโน้มจะลดลง



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/สุรเดช/พิมพ์/3ก.ย.2556

ขอนแก่นโมเดลโครงการจังหวัดขอนแก่นไม่ยิ่งเกี่ยวยาเสพติดเน้นเวรยามหมู่บ้านเข็มแข็ง

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าขอนแก่นโมเดลโครงการจังหวัดขอนแก่นไม่ยุ่งเกี่ยวยาเสพติดเป็นการนำนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาลและศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (7 แผน 4 ปรับ 3 หลัง 6 เร่ง ) มาใช้ในพื้นที่ โดยเน้นปฏิบัติการ 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการป้องกัน ด้านการปราบปราม ด้านการบำบัดรักษา สำหรับด้านการป้องกัน ดำเนินการในทุกพื้นที่เสี่ยง กลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะหมู่บ้านชุม/ชุมชน ให้มีภูมิคุ้มกัน 3 ประการ คือ หนึ่ง มีกฎหมู่บ้านไว้ลงโทษครัวเรือนที่มีผู้ไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด สอง ผู้ประสานพลังแผ่นดิน(25 ตาสับปะรด) เป็นผู้ดูแลครัวเรือนและชี้เบาะแส และ สาม เวรยามหมู่บ้าน ไว้ตรวจตาความสงบเรียบร้อยควบคุมพื้นที่เสี่ยงและปัจจัยเสี่ยงภายในหมู่บ้าน นอกจากนี้ยังให้มีการดำเนินการและประเมินเป็นพื้นที่สีขาวหมู่บ้าน/ชุมชนสีขาว ศาสนสถานสีขาว โรงเรียนสีขาว โรงงานสีขาว ร้านเกมคาราโอเกะสีขาว สถานบริการสีขาว หอพักสีขาว เรือนจำสีขาว โรงพักสีขาว

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวอีกว่าเวรยามหมู่บ้านเข้มแข็งดีเด่นทุกหมู่บ้านทุกชุมชน (2331หมู่บ้าน 165 ชุมชน) จัดตั้งและมอบภารกิจให้อาสาสมัครเวรยามหมู่บ้านปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เดือน มกราคม 2556 โดย ผวจ.ขก. ได้มอบหมายให้ รอง ผวจ.ขก. ปลัดจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมกันนี้อำเภอได้ประเมินผลและคัดเลือกเวรยามหมู่บ้านเข้มแข็งดีเด่นระดับอำเภอๆละ 1 หมู่บ้าน รวม 26 หมู่บ้าน รับโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2556 และจังหวัดจะได้ประเมินผลและคัดเลือกเวรยามหมู่บ้านเข้มแข็งยอดเยี่ยมระดับจังหวัด เพื่อรับโล่ประกาศเกียรติคุณและเงินรางวัลจากนายกรัฐมนตรีต่อไป อำเภอที่มีการปฏิบัติงานเวรยามหมู่บ้านต่อเนื่องทั้งในระดับชุมชน หมู่บ้าน และตำบล ได้แก่ อำเภอพล




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเชิญชวนร่วมงานเปิดบ้านงานวิจัยวิศวกรรม เพื่อพัฒนาอีสาน เทคโนโลยีก้าวไกลพาไทยสู่อาเซียน (AEC)

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเชิญร่วมงาน "เปิดบ้านงานวิจัยเกษตรวิศวกรรมเพื่อการพัฒนาอีสาน เทคโนโลยีก้าวไกลพาไทยสู่อาเซียน 5-6 กันยายนนี้

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่า สถาบันวิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ร่วมกับสำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 จะจัดงาน "เปิดบ้านงานวิจัยเกษตรวิศวกรรมเพื่อพัฒนาอีสาน” ระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน 2556 รวม 2 วัน ณ ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น โดยมีนาย ดำรง จิระสุทัศน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรเป็นประธานเปิดงานในวันที่ 5 กันยายน 2556 งานนี้มีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อเผยแพร่ความรู้ในการใช้ ซ่อม สร้างและบำรุงรักษาเครื่องจักรกลเพื่อการผลิตพืชอย่างถูกต้องเหมาะสม แลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ความเข้าใจเข้าถึงและพัฒนาองค์ความรู้การผลิตพืชภาครัฐ เอกชน และเกษตรเตรียมสู่ AEC ส่งเสริมการใช้การบริหารจัดการเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อผลิตพืชพันธุ์ดีสู่เกษตรกร                                        

นายอนุสรณ์ เวชสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น กล่าวว่า ตามนโยบายขอนรัฐบาลที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการเกษตรในระดับอาเซียนและส่งเสริมให้มีการใช้เครื่องจักรกลเกษตรเพื่อประสิทธิภาพ การผลิตด้านการเกษตรอย่างระบบ โดยงานดังกล่าวเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีเครื่องจักรกลเกษตร ทั้งด้านการใช้งานการบริหารจัดการให้กับเกษตร นักเรียน นักศึกษา เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ผู้ประกอบการ และผู้สนใจทั่วไปในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งในการแสดงเครื่องจักรกลครั้งนี้จะมีการเสวนา ไขข้อข้องใจด้านเกษตรวิศวกรรม และจัดนิทรรศการ ด้านเครื่องจักรกลเกษตรเต็มรูปแบบ ตลอดจนเป็นการพบปะกันระหว่างหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และโรงอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องจักรกลเกษตรและผู้ใช้ (เกษตรกร)โดยตรง ศูนย์วิจัยเกษตรวิศวกรรมขอนแก่น ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมงานดังกล่าว ในระหว่างวันที่ 5-6 กันยายน 2556 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร. 0-4325-5038




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ไทยอันดับ 2 ท้องก่อนแต่งในอาเซียน

สมาคมวางแผนครอบครัวไทยเผยไทยติดอันดับ 2 ท้องก่อนแต่งในกลุ่มประเทศอาเซียน ปีล่าสุดมีมากถึง 2 แสนราย ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 12-20 ปี

นายมนตรี เภกะนันท์ ผู้อำนวยการสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการอบรมแกนนำเยาวชนเครือข่าย Friend Corner รู้ทัน ไม่ท้อง On Tour ในระดับภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย หรือ คลินิก สวท.ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภพแห่งชาติ หรือ สปสช. ได้จัดการอบรมขึ้น โดยมีนักเรียนนักศึกษาในระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น ถึงระดับอุดมศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆในเขตจ.ขอนแก่น เข้าร่วมรับการอบรมรวมกว่า 100คน นายมนตรี เภกะนันท์ ผู้อำนวยการสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย(สวท.)กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นที่สองของอาเซียน ของปัญหาที่สตรีตั้งครรภ์ในภาวะไม่พร้อมเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้มากถึงร้อยละ 70 ที่ประสบปัญหาท้องก่อนแต่ง และมีอัตราเฉลี่ยเฉพาะผู้หญิงที่มีแนวโน้มที่มีอายุที่ลดลงน้อยที่สุด ที่มีการตรวจพบปัญหาดังกล่าวอยู่ที่อายุ 12 ปี เรียกได้ว่าปัญหาดังกล่าวมีอัตราเสี่ยงที่ครอบคลุมในทุกช่วงอายุของสังคมไทย ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบยังพบอีกว่า ผู้ที่ประสบปัญหาส่วนใหญ่มีความรู้เรื่องเพศศึกษา แต่ไม่ป้องกัน ดังนั้นการสร้างเครือข่ายเยาวชนแกนนำในระดับภูมิภาค สวท.ยอมรับโดยมากรู้เรื่องเพศศึกษาดีแต่ไม่ป้องกัน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายให้ความสนใจสร้างเครือข่ายรณรงค์ให้ข้อมูลความรู้ผลกระทบรอบด้านที่ตามมา หวั่นปัญหาบานปลายสังคมแตกแยกไปมากกว่าที่เป็นอยู่โดยมีนักเรียนนักศึกษาในระดับชั้น มัธยมศึกษาตอนต้น ถึงระดับอุดมศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆในเขตจ.ขอนแก่น เข้าร่วมรับการอบรมรวมกว่า 100คน ปัญหาการตั้งครรภ์ของกลุ่มสตรีที่ไม่พร้อม มีแนวโน้มที่จะเพิ่มมากขึ้น และมีจำนวนที่จะใกล้เคียงกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ H I V ซึ่งจากข้อมูลในปีที่ผ่านมาพบว่า สตรีที่ตั้งครรภ์ในภาวะไม่พร้อมภาพรวมทั่วทั้งประเทศของไทยมีมากถึง 200,000 ราย ที่ขอรับคำปรึกษากับ คลินิกสวท. ในขณะที่ยอดรวมเฉลี่ยของคนไทยที่ป่วยด้วยโรค H I V มีราว 600,000 คน "เฉพาะภาคอีสาน 3 จังหวัดหลัก ประกอบด้วย ขอนแก่น นครราชสีมา และอุบลราชธานี น่าเป็นห่วงมากเช่นกัน เพราะมีอัตราเฉลี่ยของเด็กที่ประสบปัญหาที่เริ่มจาก 12 ปี ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันสร้างเครือข่ายเพื่อป้องกันกับปัญหาดังกล่าวไม่ให้บานปลายมากไปกว่านี้"




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่นประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำครั้งที่ 3 พิจารณาระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ให้ใช้ประโยชน์สูงสุด

จังหวัดขอนแก่นประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำครั้งที่ 3เพื่อให้การระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ให้มีประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้น้ำ ห้วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2556

วันนี้ (3 กันยายน 2556) เวลา 10.00 น ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายเสน่ห์ นนทะโชติ ปลัดจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำครั้งที่ 3/2556ด้วยจังหวัดขอนแก่นได้รับแจ้งจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวายว่าปัจจุบันเข้าสู่ช่วงฤดูฝนตกชุก ช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2556 เกษตรกรทำการเพาะปลูกพืชฤดูฝนปี 2556 เสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างส่งน้ำชลประทานเพื่อหล่อเลี้ยงต้นข้าว ปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์มีความจุประมาณ 807.97 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 33.23 % ของความจุที่ระดับเก็บกักมีประมาณน้ำใช้ประมาณ 226.30 ล้านลูกบาศก์เมตร (ณ วันที่ 21 สิงหาคม 2556) ปัจจุบันเขื่อนอุบลรัตน์มีการระบายน้ำวันละ 10 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อพ่องน้ำตั้งแต่วันที่ 3-23 สิงหาคม 2556 แต่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย มีพื้นที่เพาะปลูกรวม 265,096 ไร่ สามารถใช้น้ำได้เต็มศักยภาพของระบบส่งน้ำเพียงวันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร จังหวัดขอนแก่นโดยคระกรรมการบริหารน้ำจึงกำหนดประชุมเพื่อให้การระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ให้มีประโยชน์เหมาะสมสู่สุดต่อผู้ใช้น้ำ และสอดคล้องกับแผนการใช้น้ำโครงการชลประทานหนองหวาย ตลอดจนการพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยปี 2556

มติที่ประชุมให้มีการระบายน้ำวันละ 3ล้านลูกบาศก์เมตรเหมือนเดิม ให้เขื่อนอุบลรัตน์ โครงการชลประทานหนองหวาย อุตุนิยมวิทยา โครงการชลประทาน สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 10 ประชุมพิจารณาสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่องถ้าเกิดวิกฤตน้ำขึ้นให้เรียนผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกประชุมคณะกรรมการน้ำพิจารณาต่อไป



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแกน

ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีตรวจงานการแก้ปัญหายาเสพติดและงานประชาสัมพันธ์ความพร้อมเข้าสู่ AEC

นางวนิดา สักการโกศล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีเดินทางมาตรวจงานที่จังหวัดขอนแก่นซึ่งมีวาระสำคัญๆคือนโยบายพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตด้านปัญหายาเสพติดโดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นนำทีมงานเข้ารายงานผลรวมทั้งโครงการสร้างภูมิคุ้มครองละป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษาซึ่งมีทั้งเขตพื้นที่การศึกษา 5 เขตและเขตพื้นที่มัธยมเขตที่ 25 เข้าชี้แจงให้รายละเอียดนอกจากนั้นก็มีการดำเนินงานผลการป้องกันปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดประเด็นสุดท้ายที่สำคัญในการตรวจงานครั้งนี้คือประเด็นความพร้อมในการเข้าเป็นประชาคมอาเซียนแผนงานในการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนในการเตรียมตัวให้พร้อมกับการเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยนในปลายปี 2558ซึ่งนายเสรี จูบุญส่ง ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 นำคณะเข้าชี้แจงสร้างความเข้าใจให้กับผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรีในภาพรวมของ 11 จังหวัดภาคอีสานตอนบนและนายสมพงษ์ ปัตตานี ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นชี้แจงการประชาสัมพันธ์ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จัดประชุมที่ห้องเสียงแคน ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

จังหวัดนครราชสีมา จัดมหกรรมโคราชเมืองสะอาดอย่างยั่งยืนพร้อมมอบโล่รางวัลให้กับหน่วยงานราชการที่ผ่านการประเมิน

วันนี้ (3 ก.ย. 56) เวลา10.00 น. ที่ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมสีมาธานี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงานมหกรรมโคราชเมืองสะอาดอย่างยั่งยืน พร้อมมอบโล่รางวัลให้กับหน่วยงานที่มีผลประเมินดีเยี่ยม จำนวน 178 แห่ง และมอบเกียรติบัตรให้หน่วยงานที่มีผลการประเมินระดับดีมาก จำนวน 321 แห่ง เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการช่วยกันพัฒนาจังหวัดนครราชสีมาเป็นเมืองสะอาดอย่างยั่งยืน ทั้งนี้การจัดมหกรรมโคราชเมืองสะอาดอย่างยั่งยืน จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ เช่น สถานที่ราชการ สถานศึกษา วัด ศาสนสถาน ถนนหนทาง แหล่งท่องเที่ยว ชุมชน จนถึงบ้านเรือน พร้อมกันทั้งจังหวัด สร้างภาพลักษณ์ให้จังหวัดนครราชสีมา เป็นเมืองน่าอยู่ มีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมทางกายภาพที่ดี รวมทั้งเพื่อการสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนหันมาอนุรักลักษณ์ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด การณรงค์คัดแยกขยะนำไปใช้ประโยชน์ หรือปลูกต้นไม้ เพิ่มพื้นที่สีเขียว ช่วยลดภาวะโลกร้อน โดยภายในงานได้มีการจัดแสดงนิทรรศการหน่วยงานที่ผ่านการประเมินตามโครงการโคราชเมืองสะอาดอย่างยั่งยืน ซึ่งมี ผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นมอบนโยบายการพัฒนาโครงการ ทูบีนัมเบอร์วันเข้าสู่โรงเรียนมัธยมศึกษาในจังหวัดขอนแก่นครบทุกแห่ง

นายสมศักดิ์  สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานมอบนโยบายการพัฒนาโครงการทูบีนัมเบอร์วันของจังหวัดขอนแก่นให้กับผู้บริหารสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาในจังหวัดขอนแก่นทั้ง 84 โรงเรียนในสังกัดเขตมัธยมศึกษาเขต 25 จัดที่หอประชุมโรงเรียนขามแก่นนคร อำเภอเมืองขอนแก่น   ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าการที่โรงเรียนมัธยมในจังหวัดขอนแก่นทั้ง 84 โรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการทูบีนัมเบอร์วันและจัดห้องกิจกรรมสำหรับเพื่อน เฟน คอนเนอร์ในทุกโรงเรียนถือเป็นความสำเร็จของจังหวัดขอนแก่นที่ร่วมมือร่วมใจกันทำตามนโยบายทูบีนัมเบอร์วันให้ประสบผลสำเร็จและสร้างทีมงานเข้าร่วมเป็นสมาชิกทูบีนัมเบอร์วันหลายแสนคนจนทำให้ขอนแก่นเป็นจังหวัดทูบีนัมเบอร์วันรักษาระดับเพชรไว้ได้เป็นปีที่ 3ซึ่งเป็น 1 ใน3 จังหวัดในประเทศที่ได้ระดับเพชรร่วมกับจังหวัดยโสธรและจังหวัดภูเก็ต และในอนาคตก็จะขยายไปยังโรงเรียนในระดับประถมศึกษาเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกันยาเสพติดในระดับเยาวชนต่อไป

มหาสารคามจัดอบรม-ทดสอบ ความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ พัฒนาสู่การเป็นศูนย์ฯ ต้นแบบ

จังหวัดมหาสารคาม นำข้าราชการหน่วยงานรัฐและ อปท.เข้ารับการอบรมเพิ่มพูนความรู้ เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 พร้อมทดสอบความรู้ เพื่อพัฒนาสู่การเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการประจำจังหวัด

ในการจัดอบรมตามโครงการฝึกอบรม เรื่อง ความรู้ ความเข้าใจ และการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 เพื่อนำไปสู่การเป็นต้นแบบศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการประจำจังหวัด” และการทดสอบความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ พระราชบัญญัติฯดังกล่าว ที่สำนักงานจังหวัดมหาสารคาม ได้จัดขึ้นนั้น มีบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ารับการอบรมและทดสอบรวมทั้งสิ้น 150 คน โดยมีวิทยากรจากสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีมาบรรยายให้ความรู้ การจัดให้มีการทดสอบ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานได้มีความรู้ ความเข้าใจในวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ผ่านเกณฑ์และนำไปสู่การเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารต้นแบบของจังหวัดมหาสารคาม โดยในปี 2555 สำนักงานจังหวัดมหาสารคาม ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหน่วยงานต้นแบบในการเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารระดับจังหวัด และในปี พ.ศ.2556 ได้คัดเลือกสำนักงานขนส่งจังหวัดมหาสารคามและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดมหาสารคาม เป็นหน่วยงานต้นแบบ

ด้านนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 นับเป็นกฎหมายที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับทุกส่วนราชการ ขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนำความรู้ที่ไดรับไปใช้ในองค์กรของตนเองเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน โดยจังหวัดมหาสารคาม มีแนวทางในการจัดอบรมและทดสอบความรู้เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ข้าราชการ ผู้ปฏิบัติงานได้มีโอกาสพัฒนาความรู้ ต่อยอดการเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารต้นแบบของจังหวัดมหาสารคาม ต่อไป




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

จังหวัดมหาสารคามเตรียมจัดงานย่านการค้าจังหวัดมหาสารคามภายใต้ชื่องานเส้นสายหัตถกรรมเสื่อกกบ้านแพง สร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่น

03-09-56 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอําเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สํานักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคามร่วมกับอําเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคามจัดประชถมเพื่อเตรียมงานย่านการค้าจังหวัดมหาสารคามภายใต้ชื่องานเส้นสายลายหัตถกรรมเสื่อกกบ้านแพงสร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่น

นายนราธร สอนประสิทธิ์ นายอําเภอโกสุมพิสัยกล่าวว่ากระทรวงพาณิชย์มีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาตลาดและระบบการค้าที่สอดคล้องกับวิถีของไทย จึงกําหนดโครงการส่งเสริมและพัฒน่ย่านการค้าให้เป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยให้สามารถอยู่รอดและสามารถแข่งขันได้ในยุคเศรษฐกิจเสรี จังหวัดมหาสารคามมีแหล่งผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีชื่อเสียงคือเสื่อกกบ้านแพง ตําบลแพง อําเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยซื้อขายสินค้าและบริการที่ผลิตโดยคนไทย และย่านการค้าจะเป็นตัวหลักในการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคประชาชนโดยจะผลักดันเศรษฐกิจในภูมิภาคสู่ภูมิภาคและผลักดันเศรษฐกิจภูมิภาคสู่ตลาดโลก พัฒนาเศรษฐกิจการค้าจังหวัดให้เติบโต มีความเข้มแข็ง โดยการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในจังหวัดฯ สอดรับแนวคิดการเป็นเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2015

ด้านนางสาวจิรานุช คันธสุวรรณ พาณิชย์จังหวัดมหาสารคามเปิดเผยว่าเนื่องจากจังหวัดมหาสารคามโดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดมหาสารคามได้คัดเลือกบ้านแพง อําเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม เป็นย่านการค้าของจังหวัดมหาสารคามและมีนโยบายในการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในย่านการค้าดังกล่าวเป็นที่รู้จักแพร่หลายสร้างรายได้ให้กับชุมชนในท้องถิ่น จึงได้ร่วมกับอําเภอโกสุมพิสัยจังหวัดมหาสารคาม กําหนดจัดงานย่านการค้าจังหวัดมหาสารคามภายใต้ชื่องานเส้นสายหัตถกรรมเสื่อกกบ้านแพง ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2556 รวม 3 วัน บริเวณศูนย์ OTOP บ้านแพงตําบลแพงอําเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม รูปแบบเป็นการจัดงานแสดงและจําหน่ายสินค้า โดยเปิดงานในวันที่ 11 กันยายน 2556 เวลา 16.00 น. โดยจะมีผลิตภัณฑ์ในแหล่งิตย่านการค้า สินค้าเกษตร/อาหารปลอดภัย สินค้าธงฟ้ามหาชนของผู้ประกอบการในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียงและมีการแสดงตอลดทั้ง 3 วัน จึงขอเชิญชวนประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวมาชมในวันและเวลาดังกล่าว




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

อําเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคามจัดประชุมเตรียมความพร้อมพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรอําเภอกุดรัง

ที่ห้องประชุมโรงเรียนนาโพธิ์พิทยาสรรค์ อําเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคามจัดประชุมเตรียมความพร้อมพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรอําเภอกุดรังและเตรียมการต้อนรับพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุก องคมนตรีโดยมีนายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานพร้อมหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ฯ

ด้วยสํานักราชเลขาธิการร่วมกับสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โรงพยาบาลรามาธิบดีและสํานักงานอัยการสูงสุด จัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎรอําเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม ในวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 เวลา 10.15 น.โดยพลอากาศเอกชลิต พุกผาสุก องคมนตรี มาเป็นประธานในการช่วยเหลือพระราชทานดังกล่าว



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

วันแรกของการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 “ร้อยเอ็ดเกมส์” จังหวัดชัยภูมิ ได้ 2 เหรียญทอง ตามด้วยศรีสะเกษ 1 เหรียญทอง

วันนี้ (2 ก.ย. 56) ที่จังหวัดร้อยเอ็ด วันแรกของการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 รอบคัดเลือกตัวแทนภาค 3 หรือ ร้อยเอ็ดเกมส์ มีกีฬาที่ทำการแข่งขัน 9 ชนิดกีฬา มีจังหวัดที่ได้รับเหรียญรางวัลแล้ว รวม 6 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ ได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน รวม 3 เหรียญ ตามด้วยศรีสะเกษ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง รวม 3 เหรียญ, อำนาจเจริญ 1 เหรียญทอง,อุดรธานี 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง รวม 2 เหรียญ,อุบลราชธานี 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง รวม 2 เหรียญ และมหาสารคาม 1 เหรียญทองแดง วันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.56) จะมีการแข่งขัน รวม 17 ชนิดกีฬา ดูรายละเอียดการแข่งขันเพิ่มได้ที่ www.roiretgames.com


วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
2 ก.ย. 56