วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

การดำเนินโครงการก่อสร้างบ้านเฉลิมพระเกียรติฯ

ด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนมได้บูรณาการความร่วมมือกับจังหวัดทหารบกนครพนมและกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 ค่ายพระยอดเมืองขวาง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม ในการดำเนินโครงการก่อสร้างบ้านเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ฯ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 86 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2556 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2556 เพื่อมอบให้กับประชาชนผู้ยากไร้ในพื้นที่จังหวัดนครพนม รวม 24 หลัง โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม มีกำหนดทำพิธีส่งมอบบ้านดังนี้

- ส่งมอบบ้านหลังที่ 23 คือ นางบัวเครือ สุวรรณใจ บ้านเลขที่ 74 หมู่ที่ 11 บ้านร่มโพธิ์ทอง ตำบลนางัว อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ในวันพุธ ที่ 30 เมษายน 2557 เวลา 10.00 น.

- ส่งมอบบ้านหลังที่ 24 คือ นางสาวดำ ดีโคตร บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 3 บ้านนาโพธิ์ ตำบลไผ่ล้อม อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ในวันพุธ ที่ 30 เมษายน 2557 เวลา 11.30 น.

โครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม ประจำเดือนเมษายน 2557

จังหวัดสุรินทร์ ออกหน่วยบริการเคลื่อนที่ ตามโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม ประจำเดือนเมษายน 2557 และมอบบ้านธารน้ำใจ แก่ผู้ยากไร้ ที่อำเภอรัตนบุรี

วันที่ 23 เม.ย.57 ที่บ้านน้อยพัฒนา หมู่ 5 ต.ยางสว่าง อ.รัตบุรี นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร เดินทางไปเป็นประธานในการมอบบ้านธารน้ำใจสร้างสุขสร้างรอยยิ้ม ให้แก่นายทองใส ผ่องใส ราษฎรบ้านน้อยพัฒนา ที่ยากจนขาดแคลนที่อยู่อาศัย และได้รับการประชาคมว่าเป็นผู้ที่สมควรได้รับการช่วยเหลือจากจังหวัด รวมทั้งหน่วยงานราชการเข้ามอบเครื่องอุปโภค-บริโภค และสิ่งของเครื่องใช้ รวมทั้งเมล็ดพันธุ์พืชและสัตว์เลี้ยงเพื่อเป็นทุนในการเลี้ยงชีพ

จากนั้นนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนตำบลยางสว่าง อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เป็นประธานเปิดโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม และโครงการบ้านธารน้ำใจ สร้างสุขสร้างรอยยิ้ม โดยจังหวัดสุรินทร์จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือนหมุนเวียนไปยังตามท้องถิ่นต่างๆ เพื่อให้บริการและเยี่ยมเยือนประชาชน ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ได้มอบมอบเงินสร้างและซ่อมแซมบ้านจากบัญชีบ้านธารน้ำใจสร้างสุข สร้างรอยยิ้ม มอบให้นายอำเภอรัตนบุรีเพื่อให้กับราษฎรยากจนไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง จำนวน 10,000 บาท มอบรถจักรยานให้นักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน โดยสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ มอบเครื่องอุปโภค – บริโภค ข้าวสาร ให้ราษฎรผู้ยากไร้ จำนวน 100 ชุด จากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ และสถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์ มอบทุนการศึกษาจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 4 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท ให้กับเด็กนักเรียนเรียนดี แต่ครอบครัวยากจน มอบทุนการศึกษาจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 10 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท ให้กับเด็กนักเรียนเรียนดี แต่ครอบครัวยากจน มอบพันธุ์ปลาให้แก่ผู้แทนชุมชน โดยสำนักงานประมงจังหวัดสุรินทร์

ซึ่งตามที่จังหวัดสุรินทร์ กำหนดจัดโครงการสุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม และโครงการบ้านธารน้ำใจ สร้างสุขสร้างรอยยิ้มประจำปี 2557 เพื่อนำหน่วยบริการเคลื่อนที่ของส่วนราชการต่าง ๆ ไปให้บริการประชาชนเชิงรุกในพื้นที่ห่างไกล เพื่อพบปะเยี่ยมเยือนรับทราบปัญหาต่างๆ จากประชาชนในท้องถิ่น และดำเนินการช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ห่างไกล โดยการออกหน่วยบริการให้กับประชาชนตามโครงการ สุรินทร์สร้างสุข สร้างรอยยิ้ม ประจำเดือน เมษายน 2557 ที่ตำบลยางสว่าง อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ในครั้งนี้ มีหน่วยบริการเคลื่อนที่ของทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสถาบันการศึกษา มาออกบูท เพื่อบริการแก่ประชาชนในพื้นที่ทั้งในและใกล้เคียง และได้รับความสนใจจากประชาชนมาใช้บริการกันเป็นจำนวนมาก



ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข / ข่าว
ไวยวิทย์ สุขเก่า / ภาพ

จังหวัดสุรินทร์เข้าให้การช่วยเหลือและมอบสิ่งของช่วยเหลือราษฎรที่ประสบวาตภัยในพื้นที่ อ.ศีขรภูมิ

วันที่ 23 เม.ย.57 เวลา14.30 น. ที่องค์การบริหารส่วนตำบลจารพัต อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายสันติชัย คงเถลิงศิริวัฒนา นายอำเภอศีขรภูมิ พร้อมด้วยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ เหล่ากาชาดจังหวัดสุรินทร์ นำสิ่งของและถุงยังชีพไปมอบให้แก่ราษฎรที่ประสบภัย ในพื้นที่ ต.จารพัต ของอำเภอศีขรภูมิ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบเหตุวาตภัยในเบื้องต้น จากที่จังหวัดสุรินทร์ได้รับรายงานการเกิดวาตภัยในพื้นที่ตำบลจารพัต อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2557 เวลา 18.00 น. ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อที่อยู่อาศัย ยุ้งข้าว และคอกสัตว์ เป็นจำนวนมาก โดยจังหวัดได้เข้าให้ความช่วยเหลือราษฎร ต.จารพัต เบื้องต้นจำนวน 118 หลังคาเรือน และยังคงเร่งเข้าสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม คาดมีไม่ต่ำกว่า 150 หลังคาเรือน ทั้งนี้ยังมี ต.หนองเหล็ก ซึ่งเป็นตำบลข้างเคียงก็ได้รับความเสียหาย เพิ่มเติม รวม 2 ตำบลประมาณความเสียหายกว่า 250 หลังคาเรือน

จากเหตุวาตภัยของเย็นวันที่ 22 เมษายน ทำให้บ้านเรือนราษฎรใน 2 ตำบลได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก แต่มีหลายหลังได้รับความเสียหายอย่างสิ้นเชิง อาทิ ที่บ้านของนายถวิล สำนึกนิตย์ ชาวบ้านหมู่ 16 ต.จารพัต อ.ศรีขภูมิ โกดังเก็บเมล็ดพันธ์ข้าวและเป็นบ้านที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง เสาปูน หลังคาเหล็ก ถูกแรงลมพัดพังเสียหาย ผนังปูนถล่มลงกว่าครึ่งหลัง อีกทั้ง เมล็ดพันธุ์ข้าวได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ประมาณความเสียหายเกือบ 1 ล้านบาท และจากการสำรวจข้างต้นยังมีบ้านเรือนราษฎรอีกหลายหลังที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังคาบ้านเสียหายสิ้นเชิง จนไม่สามารถอยู่อาศัยได้ บางหลังกำแพงบ้านล้มพังเกือบหมด ซึ่งชาวบ้านบอกว่า ตนเองไม่เคยเจอฝนตกลมกรรโชกแรงอย่างนี้มาก่อน โดยขณะนี้ทางหน่วยงานราชการได้เร่งเข้าไปสำรวจและให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากเหตุวาตภัยในครั้งนี้แล้ว




ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข / รายงาน
ไวยวิทย์ สุขเก่า / ภาพ

สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบคุณภาพสัญญาณคลื่นความถี่ ของโทรศัพท์แต่ละค่ายที่ให้บริการประชาชน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 เมษายน 2557   รศ. ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ คณะกรรมการ กสทช. ได้เปิดแถลงข่าว ที่ห้องประชุม สำนักงาน กสทช. เขต 2 จังหวัดอุบลราชธานี เกี่ยวกับการตรวจสอบคลื่นสัญญาณความถี่ของโทรศัพท์แต่ละค่ายที่ให้บริการประชาชน รศ. ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กล่าวว่าการลงพื้นที่ได้ดำเนินการมาอย่างสม่ำเสมอทุกภาค โดยทางสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ สำนักงาน กสทช. ได้จัดรถไดร์ฟเทส หรือ รถตรวจสอบคุณภาพสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่มาจากส่วนกลาง และตระเวนตรวจสอบทุกจังหวัด โดยมุ่งเน้นให้โทรศัพท์ต้องโทรได้ทุกพื้นที่ โดยการมาตรวจสอบ คลื่นสัญญาณโทรศัพท์ที่จังหวัดอุบลราชธานีในครั้งนี้ ทางทีมงานตรวจสอบคลื่นสัญญาณโทรศัพท์ และเจ้าหน้าที่ กสทช. เขต. 2 จังหวัดอุบลราชธานี ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริเวณสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และบริเวณรอบตัวเมืองทั้งหมด โดยผลการตรวจสอบอยู่ในเกณฑ์ดี เป็นที่น่าพอใจ เพราะจากอุปกรณ์ที่เรามีอยู่บอกถึงศักยภาพว่าทุกค่ายมือถือ สามารถโทรได้เป็นอย่างดี กสทช. รศ. ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ บอกว่าทางสำนักงาน กสทช. จะพยายามมุ่งเน้นให้ประชาชน สามารถได้ใช้บริการโทรศัพท์ ให้ควบคุมทั่วทั้งประเทศ ฉะนั้น เราจะต้องพยายามทำให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด จากการใช้บริการทางโทรศัพท์ ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้ดำเนินการมาเกือบทั่วทุกภูมิภาคแล้ว

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน การลักลอบตัดไม้พะยูง

เช้าวันนี้ (24 เม.ย. 57) ที่ห้องประชุมจินดารัตน์ ชั้น4 ศาลากลาจังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าจังหวัดอุบลราชธานี การประชุมในครั้งนี้ เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน การลักลอบตัดไม้พะยูง ของหน่วยงาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่7 สาขาอุบลราชธานี และกองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี และการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยยอดมน ชุมชนป่าหญ้าคา ตำบลโนนก่อ อำเภอสิรินธร การติดตามผลดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า โดยให้มีการสำรวจจำนวนไม้พะยูงในพื้นที่ ทุกอำเภอ ทั้งนี้หากตรวจสอบมี เจ้าหน้าที่ เข้าไปเกี่ยวข้องในการบุกรุกพื้นที่ป่า หากพบให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดและให้สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตรวจสอบรายชื่อผู้ค้าไม้เก่า แจ้งสรรพากรตรวจสอบเรียกเก็บภาษี หรือส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบ ตลอดจนให้มีการขยายเครือข่าย ทสม. ให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า และส่งเสริมให้มีการเพาะและขยายกล้าไม้เพื่อให้มีการปลูกไม้พะยูงในทุกพื้นที่ในอำเภอที่มีการลักลอบตัดไม้พะยูง คือ อำเภอน้ำขุน น้ำยืน นาจะหลวย และอำเภอบุญฑริก

จังหวัดศรีสะเกษ บูรณาการ แก้ไขปัญหาสุนัขและแมวอย่างยั่งยืน

ปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ และภาคีเครือข่าย ออกให้บริการ สัตวแพทย์คลื่นที่วางแผนครอบครัวสุนัขและแมว เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดอย่างยั้งยืน ตามโครงการ "บูรณาการและวางแผนครอบครัวสุนัข-แมว เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัข-แมวจรจัดอย่างยั่งยืน และรณรงค์ควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ประจำปี 2557

วานนี้ (23 เมษายน 2557) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวดง อำเภอศิลาลาส จังหวัดศรีสะเกษ นายอภิศักดิ์ แซ่จึง รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานโครงการ "บูรณาการและวางแผนครอบครัวสุนัข-แมว เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัข-แมวจรจัดอย่างยั่งยืน และรณรงค์ควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ประจำปี 2557 โดยมีนายคนิจ แก่นจันทร์ นายอำเภอศิลาลาศ นายสัตวแพทย์นัทเวโรจน์ บูชาพัฒน์ ปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองบัวดง ให้การต้อนรับ และร่วมเปิดพิธีฯ ซึ่งปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ และภาคีเครือข่าย ออกให้บริการสัตวแพทย์คลื่นที่วางแผนครอบครัวสุนัขและแมว เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดอย่างยั้งยืน ตามโครงการ "บูรณาการและวางแผนครอบครัวสุนัข-แมว เพื่อแก้ไขปัญหาสุนัข-แมวจรจัดอย่างยั่งยืน และรณรงค์ควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ประจำปี 2557 ทั้งนี้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษได้จัดทำโครงการวางแผนครอบครัวสุนัขและแมวเพื่อแก้ไขปัญหาสุนัขและแมวจรจัดอย่างยั้งยืน ประจำปี 2557 เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุของสุนัขจรจัดและการลักลอบส่งสุนัขไปยังประเทศเพื่อนบ้านขึ้น โดยการทำหมั่นผ่าตัดสุนัข แมว ให้กับประชาชนฟรีระหว่างวันที่ 8 เมษายน ไปจนถึง 30 พฤษภาคม 2557 ในพื้นที่ 20 อำเภอ 35 จุดบริการ โดยมีเป้าหมายทำหมันสุนัขและแมวเพื่อคุมกำเนิดสุนัขแมวเพศเมีย จำนวน 10000 ตัว เป็นการลดและควบคุมจำนวนประชากรสุนัขและแมวอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการรณรงฉีดวัคซีป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้แก่สัตว์เลี้ยงอย่างทั่วถึงซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคในสัตว์ ลดโอกาสเสี่ยวสัมผัสโรคของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะโรคพิษสุนัขบ้าที่ทำให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิต

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษได้ให้บริการผ่าตัดทำหมันสุนัข แมว ฉีดวัคซีน ฉีดยาคุมกำเนิด ตรวจรักษาสัตว์ป่วย แจกเวชภัณฑ์แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ การถ่ายทอดความรู้ให้แก่ประชาชนนำสัตว์เลี้ยงมาใช้บริการ รวมทั้งมอบเกียติบัตรแก่หน่วยงานและบุคลากรที่มีผลงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์ในงานควบคุมป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ซึ่ง มี 2 อำเภอในจังหวัดศรีสะเกษที่เป็นพื้นที่ปลอดโรคพิษสุนัขบ้าได้แก่ อำเภอศิลาลาด และอำเภอบึงบูรณ์

นายสัตวแพทย์นัทเวโรจน์ บูชาพัฒน์ ปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีนโยบายกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทยภายในปี 2563 ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีแนวโน้มการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าทั้งในคนและสัตว์ลดลงก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถกำจัดโรคให้หมดไปจากประเทศไทยได้ ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาการเพิ่มประชากรสุนัขและแมว ซึ่งเป็นสัตว์พาหะนำโรคที่สำคัญ เนื่องจากยังมีสุนัขและแมวที่ไม่มีเจ้าของเป็นจำนวนมากและยากต่อการควบคุมรวมทั้งยังมีสัตว์ที่เจ้าของไม่ต้องการหรือไม่สามารถเลี้ยงต่อได้ ซึ่งวิธีการลดจำนวนสัตว์พาหะนำโรคพิษสุนัขบ้าที่มีความยั้งยืนและได้ผลที่สุดคือการผ่าตัดทำหมันถาวร




ข้อมูล...สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สุรศักดิ์ สร้อยเพชร/ข่าว

คณะ พอ.สว.จังหวัดศรีสะเกษ ออกให้บริการแก่ประชาชนในเขตพื้นที่บ้านปลาข่อ หมู่ที่ 4 ตำบลโพธิ์ อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ

คณะ พอ.สว.จังหวัดศรีสะเกษ ออกให้บริการแก่ประชาชนในเขตพื้นที่บ้านปลาข่อ หมู่ที่ 4 ตำบลโพธิ์ อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ

คณะหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ (พอ.สว.) จังหวัดศรีสะเกษ ออกให้บริการตรวจรักษาและคัดกรองโรคแก่ประชาชนในเขตพื้นที่บ้านปลาข่อ หมู่ที่ 4 ตำบลโพธิ์ อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ

วันนี้ (24 เมษายน 2557) ณ บริเวณโรงเรียนบ้านปลาข่อ หมู่ 4 ตำบลโพธิ์ อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ นายสนิท ขาวสะอาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธาน นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ออกให้บริการตรวจรักษาและคัดกรองโรค แก่ประชาชนในเขตพื้นที่บ้านปลาข่อ หมู่ 4 ตำบลโพธิ์ อำเภอโนนคูณ จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งนี้ เพื่อรักษาพยาบาลป้องกันโรค ส่งเสริมสุขภาพ และฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชน ท้องถิ่นทุรกันดาร ห่างไกลคมนาคม โดยมี นายวีรวัฒน์ วงษ์ศรีรักษา นายอำเภอโนนคูณ แพทย์หญิง ศศิกาญจน์ สุขแก้ว ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอโนนคูณ และนายสุพจน์ สิงห์คำ สาธารณสุขอำเภอโนนคูณ ได้นำสมาชิกอาสาสมัคหน่วยแพทย์ พอ.สว ในจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ ทันตาภิบาล พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัดฯ สำนักงานเกษตรอำเภอ โรงเรียนบ้านบ้านปลาข่อ และวัดบ้านปลาข่อ โดยมีกิจกรรมให้บริการแก่ประชาชนในการตรวจคัดกรองสุขภาพ ตรวจรักษาโรคม และตรวจรักษาสุขภาพช่องปาก จ่ายยาและเวชภัณฑ์ ส่งต่อผู้ป่วย พร้อมกับการจัดนิทรรศการ ซึ่งมีประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลโพธิ์ และใกล้เคียง มารอรับบริการกันเป็นจำนวนมาก

ด้วยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงมีความสนพระทัยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง เมื่อครั้งยังดำรงพระชนม์ชีพทรงมีพระทัยเมตรตา ห่วงใยพสกนิกรชาวไทย โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่เสี่ยงภัย ห่างไกลทุรกันดาร การคมนาคมไม่สะดวก ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนแรกเริ่มจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ขึ้น โดยพระองค์ทรงเป็นองค์นายิกากิตติมศักดิ์ ด้วยพระองค์เอง หลังจากเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2538 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงดำรงตำแหน่งเป็นองค์ประธานกิตติมศักดิ์ สืบต่อจนพระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย แต่การสืบสานปณิธานของทั้งสองพระองค์ ยังคงดำเนินต่อไป และเมื่อเดือนมิถุนายน 2552 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) เพื่อสืบสานพระราชปณิธาน ในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชนก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระเจ้า พี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎร ด้านการแพทย์และสาธารณสุขสืบต่อไป

และจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระราชานุญาติ จากสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ให้เป็นจังหวัด พอ.สว. เมื่อ พ.ศ. 2513 ในลำดับที่ 28 โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือให้การรักษาป้องกันโรค ส่งเสริมสุขภาพ และฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชน ในท้องถิ่นทุรกันดารห่างไกลคมนาคม




ข้อมูล...สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สุรศักดิ์ สร้อยเพชร/ข่าว

พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรอำเภอปรางค์กู่เสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน

เมื่อบ่ายวานนี้ (23 เม.ย. 57 ) เวลาประมาณ 15.00 น. เกิดพายุลมแรงพัดบ้านเรือนชาวบ้านกู่ ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ เสียหายประมาณ 100 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือนอยู่รอบนอกหมู่บ้าน ถูกลมพัดหลังคาสังกะสีเปิดปลิวจากโครงแทบทุกหลังคาเรือน และมีบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง เป็นบ้านชั้นเดียวและสองชั้นอีก 5 หลังคาเรือน และพบผู้บาดเจ็บกว่า 10 คน โดยชาวบ้าน 1 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากถูกเศษกระจกหน้าต่างบาด เพื่อนบ้านที่พบเห็นได้นำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน จากเหตุลมพัดถล่มนี้ ทำให้พื้นที่อำเภอปรางค์กู่ไฟฟ้าดับทั้งอำเภอในคืนที่ผ่านมา

ในเบื้องต้นนี้ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ มีกำหนดลงไปสำรวจความเสียหาย และนำสิ่งของที่จำเป็นต่อการอุปโภค บริโภค ลงไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในบ่ายวันนี้ พร้อมสำรวจความเสียหายจากวาตภัยในท้องที่อำเภออื่น ๆ อีกหลายอำเภอ



สมกมล คงอาชวะ/ข่าว/พิมพ์
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
24 เม.ย. 57

อุดรธานีเชิญเที่ยวงานบุญบั้งไฟล้านตำนานม้าคำไหล

จังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และเทศบาลตำบลบ้านธาตุ ขอเชิญเที่ยวงานประเพณีบุญบั้งไฟล้าน ตำนานม้าคำไหล ประจำปี 2553 สืบทอดวัฒนธรรมประเพณีบุญบั้งไฟที่แตกต่างกว่าที่อื่น 11-17 พ.ค.2557นี้

เย็นวันนี้ (24 เม.ย.57) ที่ลานองค์พระศรีมหาธาตุ วัดศรีเจริญโพนบก บ้านธาตุ ตำบลบ้านธาตุ อำเภอเพ็ญ อุดรธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายจิรศักดิ์ ศรีคชา นายอำเภอเพ็ญ นายพูลศักดิ์ อยู่ประเสริฐ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี นายพุทธกาล พันธ์ทอง นายกเทศมนตรีตำบลบ้านธาตุ นายเกียรติพงษ์ คชวงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานอุดรธานี และคณะ แถลงข่าวการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟล้าน ตำนานม้าคำไหล จังหวัดอุดรธานี ประจำปี 2557

นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ประเพณีบุญบั้งไฟล้าน ตำนานม้าคำไหล ในปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-17 พฤษภาคม 2557 ซึ่งงานนี้ถือเป็นประเพณีของจังหวัดอุดรธานี ที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ร่วมสืบสาน และอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมให้ยิ่งใหญ่ จึงขอฝากเชิญชวนพี่น้องทั้งชาวไทยและชาวลาวที่อยู่ใกล้เคียง เดินทางมาสัมผัสงานประเพณีอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

นายจิรศักดิ์ ศรีชคา นายอำเภอเพ็ญ กล่าวว่า การจัดงานปีนี้ทางอำเภอได้ประสานหน่วยงานต่างๆและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานทั้งส่วนกลาง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเพ็ญทุกแห่ง ซึ่งเขตเทศบาลตำบลบ้านธาตุ มีแหล่งน้ำขนาดใหญ่คือหนองศรีเจริญ ประเพณีที่ยิ่งใหญ่อีกประเพณีหนึ่งคือ ประเพณีบุญบั้งไฟล้านตำนานม้าคำไหล ซึ่งจัดขึ้นในทุกวันเพ็ญเดือน 6 ของทุกปี โดยเฉพาะขบวนม้าคำไหล ที่เป็นตำนานสืบต่อกันมาควบคู่กับประเพณีบุญบั้งไฟของชาวบ้านธาตุ คล้ายกับการเล่นม้าก้านกล้วย ลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดคือ การแต่งกายด้วยเสื้อและกางเกงสีดำ ตกแต่งด้วยผ้าสีหลากหลาย มีการเล่นเป็นคณะ รำเซิ้งไปตามที่ต่างๆในบริเวณงาน และตามบ้านเรือนของชาวบ้าน โดยจะเล่นกันในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำและวันแรง 1 ค่ำเดือน 6 ของทุกปี

นายพุทธกาล พันธ์ทอง นายกเทศมนตรีตำบลบ้านธาตุ กล่าวว่า ม้าคำไหล เป็นม้าทรงพระศรีธาตุ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองปกครองบ้านธาตุในหลายร้อยปีก่อน ที่ใช้เดินทางตรวจเยี่ยมราษฎร ประหนึ่งว่าเมื่อมีการละเล่นม้าคำไหลเมื่อไรก็เปรียบเสมือนการอัญเชิญดวงวิญญาณพระศรีธาตุ และม้าคำไหลมาประทับทรงในคราวเดียวกันเพื่อออกเยี่ยมเยียนประชาราษฎร์ไปด้วย ซึ่งการละเล่นม้าคำไหลนอกจากจะวิ่งไปตามขบวนแห่เซิ้งบั้งไฟในกลางวันแล้ว กลางคืนม้าคำไหลยังออกเที่ยวเยี่ยมบ้านเรือนในหมู่บ้านเกือบทุกหลังคาเรือน โดยชาวบ้านก็จะถวายจตุปัจจัยตามแต่ศรัทธา ถือว่าเป็นการให้น้ำให้หญ้า ในคณะเดินทางของม้าคำไหลจะมีผู้ชายคอยสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันขี่ม้าที่มีตัวม้าคำไหลเป็นร่างทรง หากไม่ใช่เทศกาลงานประเพณีบุญบั้งไฟบ้านธาตุ คือ วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ห้ามนำม้าคำไหลออกจากหอโฮง ที่วัดศรีเจริญโพนบกโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นจะเกิดอาเพศขึ้นในหมู่บ้าน อันเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาของชาวบ้านธาตุตั้งแต่กาลก่อนจนถึงปัจจุบัน



เครือข่ายการประชาสัมพันธ์ ส.ปชส.อด.

อุดรธานีจัดมหกรรมเกษตรอินทรีย์เฉลิมฉลอง 121 ปี อุดรธานี

สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานี บูรณาการกับหน่อยงานที่เกี่ยวข้อง จัดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ 121 ปี อุดรธานี ระหว่างวันที่ 24-26 เมษายน 2557 ปลุกกระแสรักสุขภาพ สร้างความตื่นตัวหันของประชาชนให้หันมาสนใจและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ตลอดจนเป็นสื่อกลางให้กับเกษตรกร ผู้บริโภค ผู้ประกอบการได้พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัตกรรมใหม่ๆ ของเกษตรอินทรีย์ เพื่อส่งเสริมการตลาดให้กับสินค้าเกษตรอินทรีย์

บ่ายวันนี้ ( 24 เม.ย.57 ) ที่ ศูนย์การค้ายูดี ทาวน์ นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานเปิดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ โดยมีนางช่อผกา จิตตเกษม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุดธานี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่ 20 อำเภอของจังหวัดอุดธานี ร่วมกิจกรรม

นายสุขพล อินตาพรหม เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานี ได้ดำเนินการส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์มาอย่างต่อเนื่องโดยมีเป้าหมายที่จะเป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ตามวิสัยทัศน์ของจังหวัดที่ว่า "เมืองน่าอยู่ ศูนย์กลางอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง" พื้นที่จังหวัดอุดรธานี เป็นพื้นที่ที่มีการประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ โดยมีพืชหลักๆ คือ ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และยางพารา นอกจากนี้ก็ยังมีพืชผัก ผลไม้ และเลี้ยงสัตว์อีกด้วย และยังเป็นที่ตั้งของตลาดกลางผักผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งอนาคตจะพัฒนาให้เป็นศูนย์กระจายสินค้าเกษตรสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รองรับตลาดที่มีประชากร ขยายตัวสูงถึง 600 ล้านคนตามนโยบายของกรมการค้าภายใน กอปรกับสภาวการณ์ในปัจจุบันผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคไปโดยหันมาใส่ใจในการเลือกบริโภคสินค้าเกษตรที่ปลอดสารพิษมากขึ้น พร้อมทั้งผู้ผลิตสินค้าเกษตรเองก็ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพและต้นทุนในการผลิตของตนมากยิ่งขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ตามประเทศไทยก็มีการนำเข้าสารเคมีสังเคราะห์ทางการเกษตรเป็นเงินปีละ 4-5 หมื่นล้านบาท เกษตรกรส่วนใหญ่ยังต้องซื้อปัจจัยการผลิตที่เป็นสารเคมีสังเคราะห์มาใช้ในการเกษตร ทำให้ต้นทุนการผลิตสูง และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่ราคาผลผลิตในรอบยี่สิบปี ไม่ได้สูงขึ้นตามสัดส่วนของต้นทุนที่สูงขึ้นนั้น มีผลทำให้เกษตรกรขาดทุน มีหนี้สินล้นพันตัว เกษตรอินทรีย์จึงเป็นหนทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้นั้นได้

ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับภาคีเครือข่าย อาทิ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุดรธานี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุดรธานี สำนักงานประชามสัมพันธ์จังหวัดอุดรธานี วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุดรธานี และสำนักงานส่งเสริมนอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดอุดรธานี จัดงาน "จัดงานมหกรรมเกษตรอินทรีย์ 121 ปี อุดรธานี" ในระหว่างวันที่ 24-26 เมษายน 2557 ณ UD Hall ศูนย์การค้า UD Town อำเภอเมืองอุดรธานี เพื่อเป็นการปลุกกระแสให้เกิดความตื่นตัวและเป็นสื่อกลางให้กับเกษตรกร ผู้บริโภค และผู้ประกอบการได้พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อขยายช่องทางการตลาดให้กับสินค้าเกษตรอินทรีย์ต่อไป

ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายหลากหลาย อาทิ นิทรรศการเกษตรอินทรีย์ การบรรยายความรู้และเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การประกวดพืชผลทางการเกษตร การแสดงพื้นบ้าน พร้อมทั้งร้านจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์และสินค้า OTOP กอปรกับเพื่อนเฉลิมฉลองครบรอบ "วันที่ระลึกการก่อตั้งเมืองอุดรธานีปีที่ 121" และในวโรกาสที่พระสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระชนมายุครบ 87 พรรษา จังหวัดอุดรธานีจึงได้มีการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น ประจำปี 2557 เข้ารับโล่ประกาศเชิดชูเกียรติ รวม 87 ราย จาก 12 สาขา



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ
สุดารัตน์ หล้าคอม นศ.ฝึกงาน/ภาพนิ่ง

โครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุขสร้างรอยยิ้มให้ประชาชน อำเภอโนนสะอาด

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี แนะวิธีล้างพิษแก้จนประชาชนต้องมีสุขภาพดี แข็งแรงทั้งกายใจ ทำสวนครัวเลี้ยงสัตว์ ทำไร่นาสวนผสม จัดทำบัญชีครัวเรือน ประกันตนตามมาตร 40 เร่งขยายผลโครงการ 1 ไร่ได้ 1 แสน

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ ( 24 เม.ย.57 ) ที่โรงเรียนบ้านโคกกลาง หมู่ที่ 1 ตำบลโคกกลาง อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานเปิดโครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุขสร้างรอยยิ้มให้ประชาชนอำเภอโนนสะอาด โดยมีหัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการระดับอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมลงนามถวายพระพร และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้พบปะประชาชนที่มาร่วมกิจกรรม มอบรถเข็นคนพิการ 4 คัน จักรยานแก่นักเรียนเรียนดีแต่ยากจน 20 คัน มอบสิ่งของสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและผู้มีรายได้น้อยซึ่งสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานีให้การสนับสนุนนำมามอบให้กับประชาชนรวม 200 ชุด ปลูกต้นไม้ เยี่ยมชมนิทรรศการ ร้านOTOP และการออกหน่วยให้บริการของส่วนราชการ ในขณะที่วันนี้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานีนำแว่นสายตามามอบแก่ประชาชน 400 อัน ผศ.อนุพร สุวรรณวาจกสิกกิจ สถานีวิทยุ มก.มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ขอนแก่น นำไม้เท้ามามอบให้กับผู้สูงอายุ 100 อัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตนมีความห่วงใยต่อปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะปัญหาสุขภาพและความยากจน ประชาชนจะมีความมั่นคงในชีวิตคือต้องมีความสุขดี และสุขภาพที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับสุขภาพกายใจ อาหาร อารมณ์ กล่าวคือต้องมีการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ อารมณ์แจ่มใสจิตใจสบาย พร้อมยกตัวอย่างตนเองที่ไปตรวจสุขภาพแล้วพบว่าเป็นเบาหวาน จึงอยากให้เป็นข้อคิดแก่ประชาชนให้ดูแลรักษาสุขภาพตนเองด้วยการงดดื่มสุรา รักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกายตั้งแต่วันนี้ เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีและแข็งแรงให้ตนเอง และแนะแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับเกษตรกร ด้วยการจัดสร้างศูนย์เรียนรู้โครงการ 1 ไร่ ได้ 1 แสน เพื่อเป็นศูนย์เรียนรู้แก่เกษตรกร "ไร่สวนเงินเวียนมา”ที่บ้านหมู่ม่น อำเภอเมือง โดยที่ไร่แห่งนี้จะมีการทำไร่นาสวนผสม เลี้ยงเป็ด ปลา กบ ปลูกมะนาวแป้นพิจิตร นาข้าว ปลูกผัก เพาะเห็ด แบบเกษตรกรอินทรีย์ เพื่อใช้เป็นศูนย์สาธิตให้เกษตรกรผู้สนใจ และจากการศึกษาข้อมูลเกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกพืชชนิดเดียวกันติดต่อกันเป็นระยะยาวจึงทำให้ดินเสื่อมสภาพ อีกทั้งเกษตรกรเลือกพื้นที่ให้เหมาะสมในการทำการเกษตร จังหวัดจึงจะจัดทำโซนนิ่งพื้นที่การเกษตรเพื่อให้เหมาะกับการปลูกพืชชนิดนั้นๆเพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิต ที่สำคัญในการล้างพิษความยากจนนั้นประชาชนต้องทำการเกษตรควบคู่ไปกับการทำสวนครัวเลี้ยงสัตว์ เพื่อช่วยหนุนรายได้ให้กับครอบครัวและเป็นการลดรายจ่าย รู้จักจัดทำบัญชีครัวเรือน พร้อมกันนี้ได้ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการประกันตนตามมาตรา 40 ซึ่งเกษตรกร และประชาชนที่มีอาชีพอิสระเพื่อสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต โดยสามารถทำได้ ณ ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง โดยจ่ายค่าเบี้ยประกันเพียงวันละ 3 บาท หรือ เดือนละ 100 บาท หรือ ปีละ1,200 บาท

นายสุวิทย์ ศรีสมบูรณ์ นายอำเภอโนนสะอาด กล่าวว่า อำเภอโนนสะอาด เดิมเป็นหมู่บ้านขึ้นกับตำบลปะโค และตำบลสีออ อำเภอกุมภวาปี ยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอโนนสะอาดตามประกาศกระทรวง มหาดไทยเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2517 และได้มีพระราชกฤษฎีกายกฐานะเป็นอำเภอโนนสะอาดเมื่อวันที่ 13 เมษษยน 2520 ปัจจุบันแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 6 ตำบล 66 หมู่บ้าน หมู่บ้านอาสาพัฒนาป้องกันตนเอง หรือ อพป.13 หมู่บ้าน 2 เทศบาลตำบล 5 องค์การบริหารส่วนตำบล ประชากร 49,566 คน ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีพื้นที่เกษตรกรรมทั้งสิ้น 187,176 ไร่ สำหรับปัญหาความต้องการของประชาชนที่นำเสนอในครั้งนี้คือประกอบด้วย โครงการก่อสร้างถนน คสล. สายบ้านหนองแสง-ตาดโตน สายบ้านโคกกลาง ขนาดผิวจราจร กว้าง 6 เมตร ยาว 1,000 เมตร งบประมาณ 2,900,000 บาท และโครงการขุดลอกหนองแวงใหญ่ ขนาดกว้าง 100 เมตร ยาว 150 เมตร ลึก 4 เมตร




ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว / ภาพ
สุดารัตน์ หล้าคอม นศ.ฝึกงาน / ภาพนิ่ง

ปภ.มุกดาหาร จัดประชุมประชาคม อปพร. ประจำปี 2557

วันนี้ (24 เม.ย. 57) เวลา 10.00 น. นายเวชสุวรรณ อาจวิชัย หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร ได้เป็นประธานเปิดโครงการประชุมประชาคม อปพร. ระดับจังหวัด ประจำปี 2557 ณ ศาลาเรารักมุกดาหาร ตลาดอินโดจีน อำเภอเมืองมุกดาหาร ซึ่งจัดโดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดมุกดาหาร เพื่อเสริมสร้างสนับสนุน ให้คณะกรรมการประสานศูนย์ อปพร. มีความเข้มแข็งและบทบาทมากขึ้น ขยายเครือข่ายความร่วมมือระหว่างศูนย์ อปพร.กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งเพื่อให้ อปพร. รับทราบข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับกิจกรรม อปพร. ตลอดจนร่วมมือกันพัฒนาศูนย์ อปพร. ให้มีมาตรฐานในการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้บริหารศูนย์ อปพร. กับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ อปพร. และ อปพร. ในสังกัด โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม จำนวน120 คน เข้าร่วมประชุมประชาคมในวันนี้ ทั้งนี้ก่อนพิธีเปิดการประชุมฯ ได้มีตัวแทนนำ สมาชิก อปพร. กล่าวคำปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและสดุดีมหาราชา เพื่อแสดงความจงรักภักดี

การจัดโครงการประชุมประชาคม อปพร. ระดับจังหวัด ในวันนี้นับว่าเป็นการดีที่คณะกรรมการประสานงาน ศูนย์ อปพร. ระดับจังหวัด อำเภอ เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล และเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ อปพร. รวมทั้ง อปพร. ในสังกัด จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ซึ่งกันและกันเพื่อที่จะได้พัฒนางาน อปพร. ให้มีความเข้มแข็ง อย่างมีประสิทธิภาพ ในการป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนมากยิ่งขึ้น



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

จังหวัดมุกดาหาร จัดเวทีสภากาแฟ ทุกภาคส่วนร่วมเวที แลกเปลี่ยนประสบการณ์

วันนี้ (๒๔ เม.ย. ๕๗) เวลา ๐๗.๓๐ น. ที่ ณ ร้านอาหารบ้านสวนแสนสุข ซ.คำมุกดา ข้างสนง.ประปาเมืองใหม่ ต.มุกดาหาร อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานและร่วมเวทีสภากาแฟ โดยมีส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมเวทีสภากาแฟ โดยเปิดเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อการพัฒนาจังหวัดมุกดาหารในทุกด้าน

ทั้งนี้ การเปิดเวทีสภากาแฟในวันนี้ ตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรจังหวัดมุกดาหารเป็นเจ้าภาพ โดยหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพและจัดเวทีสภากาแฟอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำทุกเดือน โดยบรรยากาศแบบเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเชิงสร้างสรรค์ เปิดมุมมองใหม่ๆ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ๆ ในการพัฒนาจังหวัดมุกดาหารร่วมกัน




สุภาวดี อัมไพพันธ์
ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

แรงงานจังหวัดมุกดาหาร จัดโครงการเสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายอาสาสมัครแรงงานจังหวัดมุกดาหาร

วันนี้ (๒๔ เมษายน ๒๕๕๗) เวลา ๐๙.๐๐ น. นายสรสิทธิ์  ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายอาสาสมัครแรงงานจังหวัดมุกดาหาร ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งจัดโดยสำนักงานแรงงานจังหวัดมุกดาหาร เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารและให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับบริการด้านแรงงานอย่างทั่วถึงเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาติดต่อประสานงานด้านแรงงานโดยใช้กลไกเครือข่ายอาสาสมัครแรงงาน

ทั้งนี้ การจัดโครงการเสริมสร้างศักยภาพเครือข่ายอาสาสมัครแรงงานจังหวัดมุกดาหาร เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติภารกิจการประสานให้บริการด้านแรงงานให้แก่เครือข่ายอาสาสมัครแรงงาน ซึ่งก่อให้เกิดการบูรณาการการงานด้านอาสาสมัครแรงงานระหว่างหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานกับเครือข่ายอาสาสมัครแรงงานและเกิดการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปฏิบัติงานด้านอาสาสมัครแรงงานของซึ่งกันและกัน ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการฯ ประกอบด้วย แกนนำอาสาสมัครแรงงาน จำนวน ๕๓ คน และพี่เลี้ยงอาสาสมัครแรงงาน จำนวน ๑๐ คน รวมทั้งสิ้น ๖๓  คน




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
ทศพร  โล่ห์เงิน นักศึกษาฝึกงาน/ข่าว

ยโสธรสัมมนาท้องไม่พร้อม

ยโสธรนำเด็กและเยาวชนเข้าแก้ปัญหาท้องไม่พร้อม ที่ห้องมรกตโรงแรมเจพีเอ็มเมอรัลด์ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนาสมัชชาป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของเด็กและเยาวชน นางสาววัชรี กุลราช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดยโสธร กล่าวว่า การจัดประชุมในครั้งนี้เพื่อระดมความคิดเห็น ในการแก้ไขปัญหาทางด้านครอบครัวและปัญหาการตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อมของเด็กและเยาวชน การประชุมวันนี้มีตัวแทนจากสมัชชาสตรี สมัชชาครอบครัว และสมัชชาป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม เข้าร่วมประชุม จำนวนกว่า 100 คน ในที่ประชุมมีมติ 3 ข้อ (ข้อที่1) เสนอให้มีการพัฒนาศักยภาพการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี (ข้อที่ 2) ให้สมาชิกในครอบครัวเป็นผู้เสนอวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเอง และ (ข้อที่3) คือการตั้งครรภ์ไม่พร้อมของเด็กและเยาวชนและได้กำหนดให้เป็นวาระจังหวัดโดยให้ชุมชน บ้าน วัด โรงเรียนตลอดจนส่วนราชการเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ส.ป.ก.ยโสธร จะซื้อที่ดินเพื่อจัดให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดยโสธร มีความประสงค์จะจัดซื้อที่ดินที่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เพื่อนำมาดำเนินการจัดให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์โดยวิธีการปฏิรูปที่ดิน

ผู้มีสิทธิยื่นคำเสนอขายที่ดินต้องเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งมีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ได้แก่ โฉนดที่ดิน โฉนดแผนที่ โฉนดตราจอง ตราจองที่ตราว่าได้ทำประโยชน์แล้ว น.ส.3 น.ส.3ก และ น.ส.3ข อยู่ในเขตท้องที่ ทุกอำเภอในเขตจังหวัดยโสธร

หลักฐานประกอบคำเสนอขายที่ดิน สำเนาหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน,สำเนาบัตรประชาชน,ทะเบียนบ้านของเจ้าของที่ดิน,ราคาประเมินที่ดินของกรมธนารักษ์

ผู้สนใจติดต่อ ขอทราบรายละเอียดและขอรับคำเสนอขายที่ดิน ได้ที่ สำนักงานการปฏิบัติที่ดินจังหวัดยโสธร โทรศัพท์หมายเลข 045-761043 ในวันและเวลาราชการ




ส.ปชส.ยโสธร
ไพชยนต์ ชนะกาญจน์
24 เมษายน 2557

จังหวัดร้อยเอ็ดออกให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.และจังหวัดเคลื่อนที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ประจำปีงบประมาณ 2557

วันนี้ ( 24 เม.ย. 56 ) เวลา 09.00 น. นายพลากร บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดหน่วยบริการจังหวัดร้อยเอ็ดเคลื่อนที่ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข และสร้างร้อยยิ้มให้ประชาชน ประจำปี 2557 และหน่วยแพทย์เครื่อนที่ พอ.สว จังหวัดร้อยเอ็ด ณ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 101 เฉลิมพระเกียรติ หมู่ที่ 2 ต.หนองแวงควง อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด โดยมีส่วนราชการระดังจังหวัดและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกไปให้บริการและพบปะเยี่ยมเยียนช่วยเหลือประชาชน แก้ไขปัญหาความยากจนและประชาสัมพันธ์ชี้แจงข้อราชการที่สำคัญให้ประชาชน พร้อมทั้งมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค/บริโภค

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณวลัยลักษณ์ ได้พระราชทานพระอนุญาตให้จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นจังหวัด แพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทร์ บรมราชชนนี (ลำดับที่ 53) คณะกรรมการ พอ.สว.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้กำหนดออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2557 ครั้งที่ 8 ขึ้น โดยมีส่วนราชการระดับจังหวัดร้อยเอ็ด และระดับอำเภอศรีสมเด็จ นำข้าราชการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำงานบริการออกไปให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้บริการตรวจสุขภาพ วัดความดันโลหิต การบริการด้าน ทันตแพทย์ การมอบรถจักรยาน ถุงยังชีพ ไม้เท้าสำหรับผู้สูงอายุหรือพิการ การทำหมันสุนักและแมว การฉีดวัคซีน ยาคุมกำเนิด รักษาสัตว์ป่วย การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย และความรู้อื่นๆ อีกจำนวนมาก



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บรรณาธิการข่าว
 บุญมี เพ็งรัตน์/ภาพ
24 เม.ย. 57

เกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ดเผยผลการจัดเสวนาระดมความช่วยเหลือชาวนาไทย

นายวสันต์  สวัสดิ์รัมย์ เกษตรกรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานเกษตรร้อยเอ็ด ได้จัดเสวนาระดมความช่วยเหลือชาวนาไทย ที่ประสบกับปัญหาได้รับเงินล่าช้าจากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนในฤดูการผลิตใหม่ โดยได้จัดเสวนาระดมความช่วยเหลือเพื่อชาวนาไทยเพื่อเปิดเวทีกลางให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตข้าว และพืชอื่น ตั้งแต่ปัจจัยการผลิต แหล่งทุน การตลาด ผู้บริโภค สถาบันการศึกษาเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ ฯลฯ ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ได้เข้ามามีส่วนร่วม และผนึกกำลังในการแก้ไขวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ เพื่อให้เกิดการช่วยเหลือชาวนาอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งหวังให้ชาวนาสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเสวนาฯ ประกอบด้วย เกษตรกร บริษัท/ร้านค้า ภาคเอกชน สถาบันการเงิน ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน ๑๘๐ คน เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๗ ณ โรงแรมสาเกตนคร อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด นั้น

เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า นับว่า ได้ผลเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างยิ่ง โดยภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ให้การตอบรับเข้าร่วมเสวนาเพื่อช่วยเหลือชาวนาเต็มที่ โดยแบ่งการเสวนาเป็น 3 กลุ่ม ซึ่งพอสรุปได้ ดังนี้

1.  กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการผลิต ได้แก่ บริษัทห้างร้านที่จำหน่าย เช่น เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยเคมี สารปรับปรุงดิน ส่วนใหญ่เสนอลดราคาปัจจัยการผลิตในบางรายการ

2.  กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเงินทุน ผู้เข้าเสวนาได้แก่ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ร้อยเอ็ด สหกรณ์เครดิตยูเนียน เสนอขยายเวลาพักชำระหนี้ให้ 6 เดือนถึง 1 ปี ปล่อยสินเชื่อเพื่อการผลิตให้เกษตรกรรายละไม่เกิน 100,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 7 บาทต่อปี

3.  กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรที่ยั่งยืนและทางเลือกใหม่ของชาวนาไทย เช่น เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ อาชีพทำนา ปี 2556 (นายช่วย สาสุข) ประธานเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ภาคอีสาน (ดร.รณวริทธิ์  ปริยฉัตรตระกูล) คัดเลือกเสนอแนวทางและวิธีการหลายแนวทาง เช่น เกษตรกรต้องพึ่งพาตนเอง ทำการผลิตแบบครบวงจร การผลิตข้าวอินทรีย์ การปรับเปลี่ยนวิธีการผลิต เป็นต้น

สำหรับรายละเอียดในการเสวนาดังกล่าว เกษตรกรสอบถามได้จากสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้าน หรือสำนักงานเกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด เบอร์โทรศัพท์หมายเลข 043-569004 ต่อ 106




วิมล  เร่งศึก/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว
กนกอร  สัตยามะระ/พิมพ์/ทาน
23 เม.ย. 57

ร้อยเอ็ดเปิด “วันนัดพบตลาดงานเชิงคุณภาพ” ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายสถานประกอบการและผู้หางาน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 เมษายน 2557 นายพลากร  บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงาน "วันนัดพบตลาดงานเชิงคุณภาพ”  ณ โรงแรมเพชรรัตต์กาเด้นท์ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด โดย การดำเนินงานของสำนักงานจัดหางานจังหวัดร้อยเอ็ด

นางสาววนิดา จารีย์ จัดหางานจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า การจัดงานวันนัดพบตลาดงานเชิงคุณภาพ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ดำเนินการเพื่อให้นายจ้าง/สถานประกอบการ และผู้ต้องการหางานทำ ผู้ต้องเปลี่ยนงานได้พบกันและพิจารณาคัดเลือกกันโดยตรง ก่อให้เกิดการจ้างงานช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับทั้งสองฝ่าย ขณะเดียวกัน นายจ้าง/สถานประกอบการก็สามารถพิจารณาคัดเลือกผู้สมัครงานตามคุณสมบัติที่ต้องการเป็นจำนวนมาก โดยกรมการจัดหางานมอบหมายให้จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นแม่ข่าย  มีจังหวัดกาฬสินธุ์และจังหวัดยโสธรเป็นเครือข่ายในการดำเนินการตามโครงการ มีระยะเวลารวม 2 วัน ระหว่างวันที่ 22-24 เมษายน 2557 ได้นำ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาให้บริการกับผู้สมัครงาน โดยผู้สมัครงานสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าผ่านอินเทอร์เน็ตได้ก่อนอย่างน้อย 15 – 30 วัน หรือ ลงทะเบียนสมัครงานได้ภายในงาน และหลังจากวันงานแล้วระบบยังต้องเปิดสถานประกอบการสามารถ Download ข้อมูลของผู้สมัครงานกับบริษัทตนเองได้อีก อย่างน้อย 15 -30 วัน , ตำแหน่งงานว่างเป็นตำแหน่งที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล มีคุณภาพ มีสวัสดิการที่ดี มีความก้าวหน้าในหน้าที่ การรับสมัครงานครั้งนี้ มีสถานประกอบการต่างๆ ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดเข้าร่วมกับสมัครคนหางาน จำนวน 39 แห่ง มีตำแหน่งงานว่าง 159 ตำแหน่ง รวม 1,315 อัตรา

กิจกรรมประกอบด้วย  การจัดประชุมชี้แจงนายจ้าง การบรรยายความรู้กับผู้สมัครงาน หัวข้อ " การเตรียมบุคลิกภาพและเทคนิคการสัมภาษณ์งาน” โดย ดร.ยุทรพล ทวะชารี  การทดสอบความพร้อมทางด้านอาชีพ  การทดสอบภาษาอังกฤษเพื่อสมัครงาน  กาการสาธิตและฝึกปฏิบัติอาชีพอิสระ รวมถึง 7 อาชีพ

และคลินิกแรงงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน มีผู้หางานร่วมกิจกรรมครั้งนี้ มากมาย




คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพ
กมลพร  คำนึง บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด 043-527117

สำนักงาน ป.ป.ช. ประกวดสื่อภาพเคลื่อนไหว "Young Gen Anti-Corruption"

สำนักงาน ป.ป.ช. ประกวดสื่อภาพเคลื่อนไหว "Young Gen Anti-Corruption" รับรางวัลเงินสดและโล่เกียรติยศของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

นายประหยัด  พวงจำปา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ช. ได้จัดโครงการประกวดสื่อภาพเคลื่อนไหว "Young Gen Anti-Corruption" เพื่อเปิดโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายในกลุ่มนักเรียนระดับมัธยมศึกษา นิสิต นักศึกษา ในระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไปที่มีความรู้ความสามารถทางด้านการสร้างสรรค์สื่อ ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดเพื่อกระตุ้นเตือนสังคมและชี้แนวทางในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตให้หมดไปจากสังคมไทย ในรูปแบบภาพยนตร์สั้น การ์ตูน แอนิเมชั่น โดยมีเนื้อหา "ปลูกจิตสำนึก ส่งเสริม และสนับสนุนให้ประชาชนนิยมชมชอบในความซื่อสัตย์สุจริต หรือยกย่องเชิดชูคนดีมีคุณธรรมและความซื่อสัตย์ เกลียดชังและต่อต้านการทุจริต หรือกล้ายืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม”

ผู้ประสงค์จะส่งผลงานแอนิเมชั่นเข้าประกวด ทั้งในระดับมัธยมศึกษา ระดับอุดมศึกษา และประชาชนทั่วไป สามารถส่งผลงานพร้อมใบสมัครทางไปรษณีย์แบบจดหมายตอบรับไปยัง สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช. เลขที่ 361 ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2557 (ถือวันประทับตราไปรษณีย์) สามารถตรวจสอบการส่งผลงานก่อนวันปิดรับผลงานได้ที่ สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงาน ป.ป.ช. หมายเลขโทรศัพท์ 0-2528-4912




วิมล  เร่งศึก/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว
กนกอร  สัตยามะระ/พิมพ์/ทาน
23 เม.ย. 57

จังหวัดร้อยเอ็ด กำหนดจัดพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2557

นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ดกำหนดพิธีถวายราชสักการะเนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2557 ในวันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม 2557 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี และความสามัคคีของประชาชนทุกหมู่เหล่า

จังหวัดร้อยเอ็ดจึงขอเชิญชวน ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ทุกหมู่เหล่า ร่วมพิธีถวายสักการะเนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2557 ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งแต่เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป การแต่งกาย ข้าราชการ พนักงานของรัฐ เครื่องแบบปกติสีขาว (สวมหมวก) หรือเครื่องแบบปฏิบัติราชการสีกากีคอพับ แขนยาว หรือเครื่องแบบตำรวจ ทหาร ประชาชน ชุดผ้าไทย/ชุดสุภาพ หรือชุดหมู่คณะ นักเรียน นักศึกษา ชุดนักเรียน นักศึกษา หรือชุดหมู่คณะ




วิมล  เร่งศึก/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว
กนกอร  สัตยามะระ/พิมพ์/ทาน
23 เม.ย. 57

เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดจัดงานเลี้ยงสักการะเจ้าพ่อมเหสักดานุภาพ ประจำปี 2557

นายนุชากร มาศฉมาดล รองนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด กล่าวว่า เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด กำหนดวันจัดงานเลี้ยงสักการะเจ้าพ่อมเหสักดานุภาพ ประจำปี 2557 ขึ้นระหว่างวันที่ 23-30 เมษายน 2557 ณ บริเวณศาลเจ้าพ่อมเหสักดานุภาพ (ข้างวัดบูรพาภิราม) พิธีจะเริ่มในวันที่ 29 เมษายน 2557 เวลา 18.00 น. โดยพระสงฆ์ 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เวลา 20.00 น. มหรสพสมโภช วันที่ 30 เมษายน 2557 เวลา 07.00 น. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ พิธีทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ 9 รูป ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ให้พร เวลา 08.00 น. ประธานในพิธีจุดธูปเทียนถวายพวงมาลัย ดอกไม้สักการะศาลเจ้าพ่อมเหสักดานุภาพ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ตลอดจนผู้มาร่วมงานในพิธีจุดธูปเทียนสักการะเจ้าพ่อมเหสักดานุภาพ เสร็จพิธี

เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นิสิตทั่วไป ร่วมงานตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2557 เป็นต้นไป ถึงวันที่ 30 เมษายน 2557 ณ ศาลเจ้าพ่อมเหสักดานุภาพ (ข้างวัดบูรพาภิราม) ตามกำหนดการดังกล่าวข้างต้น




วิมล  เร่งศึก/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว
กนกอร  สัตยามะระ/พิมพ์/ทาน
23 เม.ย. 57

กาฬสินธุ์เตรียมป้องกันแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ก่อนรวมตัวของอาเซียน

จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอความร่วมมือหอพัก โรงแรม รีสอร์ท ช่วยเป็นหู เป็นตา แจ้งเบาะแสกลุ่มผู้มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะแรงงานและการค้าประเวณีผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี 58

นายประณต จันทร์ศรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กล่าวว่า การค้ามนุษย์ในปัจจุบันได้รับการพิจารณาว่าเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ร้ายแรงและเป็นปัญหาที่ปั่นทอนความมั่นคงของมนุษย์โดยเฉพาะการค้าเด็กและหญิง ซึ่งก่อให้เกิดอาชญากรรมระดับนานาชาติ ระดับประเทศ ระดับท้องถิ่น และรวมถึงปัญหาสังคมวัฒนธรรม ปัญหาโรคติดต่อ โรคเอดส์ ปัญหายาเสพติดและอื่น ๆตามมา สำหรับสถานการณ์การค้ามนุษย์ในภูมิภาคอาเซียน เป็นภูมิภาคที่ประสบปัญหาการค้ามนุษย์ข้ามแดนมากที่สุดแห่งหนึ่ง หลายประเทศเป็นทั้งประเทศต้นทาง ทางผ่าน และปลายทาง ซึ่งส่วนใหญ่การค้ามนุษย์ในภูมิภาคจะพบได้ตามลุ่มแม่น้ำโขง สำหรับประเทศไทยเองเป็นทั้งประเทศต้นทาง ทางผ่าน และปลายทาง ซึ่งไทยเป็นทางผ่านสำหรับเหยื่อมนุษย์จากเกาหลีเหนือ จีน เวียดนาม ปากีสถาน พม่า ซึ่งจะถูกนำไปค้าในประเทศที่สาม เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ รัสเซีย เกาหลีใต้ ยุโรปตะวันตก และอเมริกา เป็นต้น โดยกลุ่มบุคคลที่ตกเป็นเหยื่อมากที่สุด ได้แก่ แรงงานต่างด้าว ชนกลุ่มน้อย บุคคลไร้สัญชาติ ในส่วนผู้ใช้แรงงานจะถูกนายจ้างยึดเอกสารต่าง ๆ ได้ ส่วนแรงงานที่ไม่จดทะเบียนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เสียงต่อขบวนการค้ามนุษย์มากขึ้น แม้กระทั่งหน้าที่ของรัฐที่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ เนื่องจากขาดความรู้ ความเข้าใจ เรื่องสิทธิ์ตามกฎหมายไทย ภาษาในการสื่อสาร ปัญหาที่พบมากที่สุดที่ผู้หญิงและเด็กหญิงตกเป็นเหยื่อ คือ ชนกลุ่มน้อย ไร้สัญชาติ และผู้ใช้แรงงานผิดกฎหมายจากประเทศเพื่อนบ้าน

ในส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ นายประณต จันทร์ศรี ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นอีกหนึ่งที่เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก ตะวันตก ผ่านและคาดว่าจะเป็นทางผ่านของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน และอาจเป็นแหล่งพักพิงของเหยื่อจากการค้ามนุษย์ การแอบแฝงค้าประเวณี จังหวัดจึงได้กำชับ ซักซ้อม และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงแรม หอพัก รีสอร์ทในการสังเกต ผู้เข้าพักที่มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ วิธีการส่งข่าว ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ และขั้นตอนการช่วยเหลือเหยื่อ ทั้งนี้เพื่อรองรับ เตรียมพร้อม ปัญหาการค้ามนุษย์เมื่อเกิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปลายปี 2558




สุรพล คุณภักดี / ข่าว

กกต.กาฬสินธุ์ ประกาศรายชื่อผู้สมัครเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์

กกต.กาฬสินธุ์ ประกาศรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ได้มีการรับสมัครระหว่างวันที่ 16-20 เมษายน 2557 จำนวน 27 คน

นายวิทยา จิตรมาศ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ระหว่างวันที่ 16-20 เมษายน 2557 ปรากฏว่าเมื่อสิ้นสุดการรับสมัครมีผู้มาสมัครฯ จำนวน ทั้งสิ้น 27 คน ได้แก่ นายชาตรี ถาวรรักษ์, พ.ต.ท.โสณกุญช์ ทรัพย์สมบัติ, พ.ต.อ.เรืองยศ ภูพานเพชร, นายพงศ์ธร คุณชะ, นายไพฑูรย์ มหิพันธ์, นายธนกร เชื้อจำรูญ, นายบัณฑิต ชนะกาญจน์, ว่าที่ พ.ต.ประพันธ์ พบูประภาพ, นายอารีวัฒน์ กุดแถลง, นายเผด็ฌ โชติมณี, นายสังคม ศรีโคตร, นายอุดร เมืองฮาม, นายฦาชา วัฒนเนติกุล, นายสุชาติ วิชชาวุธ, นายปัญญา รัตนวัน, นายอำนวย สินธุโคตร, นายเรืองยศ ปรีดี, นายบุญเลิศ บุญเขื่อง, พ.ต.ท.สุวิทย์ เนติภัทรรักษ์, พ.ต.ท.สมทรง พละเดช, นายอุดร ผิวขาว, นายไพฑูรย์ จรทะผา, นายสันชัย จันทร์นวล, นายสมาน เสนาบุญ, นายสมพงษ์ แสนบุตร และ ส.ต.ท.สุพัฒน์ ภูนาคำ

เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้าม ประวัติและพฤติการณ์ของผู้สมัครทั้ง 27 คน และเพื่อเป็นการให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการตรวจสอบ หากพบข้อมูลขอให้แจ้งประวัติและพฤติการณ์รวมทั้งความไม่เป็นกลางทางการเมืองของผู้สมัครให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ทราบทางอีเมล์ kalasin@ect.go.th หรือตู้ ปณ.46 ปจ.กาฬสินธุ์ 46000 ภายในวันที่ 30 เมษายน 2557



ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเปิดการประชุมเพื่อเผยแพร่ความรู้และระดมความคิดเห็นต่อการจัดตั้งอุทยานธรณีวิทยาที่จังหวัดขอนแก่น

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนก่นเปิดการประชุมเพื่อเผยแพร่ความรู้และระดมความคิดเห็นต่อการจัดตั้งอุทยานธรณีวิทยาที่จังหวัดขอนแก่น โดยมี นายปองพล อดิเรกสาร และคุณสาวิตรี สุวรรณสถิตย์ เป็นวิทยากรให้ความรู้

การจัดประชุมสัมมนาเรื่อง การศึกษาจัดทำแนวทางการบริหารจัดการแหล่งธรณีวิทยา แหล่งอนุรักษ์ธรณีวิทยาเพื่อเผยแพร่ความรู้และระดมความคิดเห็นต่อการจัดตั้งอุทยานธรณีขอนแก่น ได้จัดขึ้นที่โรงแรมเจริญธานี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เมื่อเช้าวันที่ 24 เมษายน 2557 โดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานเปิดการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานราชการ ผู้แทนอำเภอพื้นที่ที่จะมีการจัดตั้งอุทยานธรณีวิทยา ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, นักวิชาการ สื่อมวลชน จำนวน 100 คน โดยได้รับเกียรติจาก นายปองพล อดิเรกสาร แล ะคุณสาวิตรี สุวรรณสถิต ผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา และแหล่งมรดกโลกมาเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนา

นายมานพ รักษาสกุลวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า จากการสำรวจของนักธรณีวิทยาพบว่าจังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ที่เหมาะสมที่จะจัดตั้ง เป็นอุทยานธรณีวิทยาถึง 23 แห่ง เช่น รอยตีนไดโนเสาร์หินลาดป่าชาด บ้านโนนสูง อำเภอเวียงเก่า หลุมขุดค้นไดโนเสาร์ภูเวียง อำเภอเวียงเก่า น้ำตกตาดใหญ่ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ดังนั้นเพื่อขับเคลื่อนการจัดตั้งอุทยานธรณีจังหวัดขอนแก่น...ให้สำเร็จตามเป้าหมายกรมทรัพยากรธรณี...จึงได้ว่าจ้างมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา..เป็นที่ปรึกษาในการศึกษาจัดทำแนวทางการบริหารจัดการแหล่งธรณีวิทยา แหล่งอนุรักษ์ธรณีวิทยา หรืออุทยานธรณีจังหวัดขอนแก่น...และมหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา...ได้จัดการสัมมนาฯ ในวันนี้..โดยเรียนเชิญท่านปองพล อดิเรกสาร ซึ่งมีความรู้ความสามารถในด้านนี้..มาให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดตั้งอุทยานธรณีและมรดกโลก..ซึ้งผลของการประชุมสัมมนาฯในครั้งนี้...จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดตั้งอุทยานธรณีของจังหวัดขอนแก่น..ซึ้งมีเป้าหมายจะผลักดันเป็นอุทยานธรณีระดับโลก...เป็นอย่างยิ่ง.



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว
จันทิรา/นศ.ฝึกงาน/พิมพ์
วันที่ 24 เม.ย. 2557

กระทรวงพาณิชย์จัดงาน อนาคตเศรษฐกิจไทยภายใต้ประชาคมอาเซียนที่จังหวัดขอนแก่นระหว่าง 24-27 เมษายน 2557

กระทรวงพาณิชย์ รับมือกระแสอาเซียน พัฒนาศักยภาพของนักธุรกิจไทย และเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทย สำรวจโอกาสและความท้าทายจากการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่เศรษฐกิจโลก

เช้าวันนี้ (24 เมษายน 2557 )นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับนายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ตลอดจนผู้แทนจากหอการค้าจังหวัดขอนแก่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น นักธุรกิจสถาบันการศึกษา และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ร่วมเปิดงาน อนาคตเศรษฐกิจไทย ภายใต้ประชาคมอาเซียน ในจังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 24-27 เมษายน 2557 ณ ขอนแก่นฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซ่า ขอนแก่น

นายวุฒิชัย ดวงรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า งาน "อนาคตเศรษฐกิจไทยภายใต้ประชาคมอาเซียน” เป็นงานที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อให้ข้อมูลความรู้และสร้างความเข้าใจ ผ่านการจัดนิทรรศการ เพื่อให้บุคลากรทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชน เยาวชน นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไป เข้าใจในประชาคมอาเซียนและประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยในนิทรรศการจะมีสาระความรู้และข้อมูลที่มีการสังเคราะห์ให้เข้าใจง่าย โดยมีพันธมิตรที่สำคัญ ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้งสภาคมและส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องภายในงานยังมีการจัดสัมมนาโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ ด้านเศรษฐกิจในประชาคมอาเซียน รวมถึงสิ่งที่เป็นเครื่องมือที่เป็นปัจจัยในการดำเนินธุรกิจ เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา ระบบการค้าการลงทุน ตลอดจนข้อมูลกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหัวใจสำคัญหลักในงาน คือ การเตรียมความพร้อมของไทยในการก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนซึ่งกระทรวงพาณิชย์ตั้งใจที่จะยกระดับศักยภาพของประเทศไทยให้อยู่ในแนวหน้าของอาเซียนเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้เกิด การลงทุนทำธุรกิจและผลักดันให้เกิดการค้าระหว่างประเทศในอาเซียนให้มากขึ้น และเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่เศรษฐกิจโลกด้วย


สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว
จันทิรา/นศ.ฝึกงาน/พิมพ์
วันที่ 24 เม.ย. 2557

โคราชระดมสมองสตรี หวังพัฒนาบทบาทสตรีเพื่อเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาประเทศ

วันนี้ (24 เม.ย. 57) ที่โรงแรมวีวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุม 1 ปี กับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดนครราชสีมา โดยมีคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดและตำบล พัฒนาการอำเภอทั้ง 32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมาร่วมประชุม จำนวน 621 คน เพื่อสรุปผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2556 เพื่อจัดแสดงผลการดำเนินกิจกรรม โครงการที่ประสบผลสำเร็จของการกู้ยืมเงินของสมาชิกกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีไปประกอบอาชีพ รวมทั้งเพื่อรับทราบปัญหา อุปสรรค ของการดำเนินงานที่ผ่านมา เพื่อวางแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขในการดำเนินงานต่อไป และเพื่อทบทวนการบริหารงาน การบริหารงบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งในการประชุมในครั้งนี้ได้มีการระดมสมอง และการบรรยายพิเศษ จากผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน โดยจะทำให้คณะกรรมการพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดและตำบล มีความชัดเจนในแนวทางการปฏิบัติงานทั้งด้านการบริหารงานและการบริหารงบประมาณ สามารถยกระดับและเสริมศักยภาพสตรี เพื่อให้สตรีมีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมพัฒนา สมกับคำขวัญ ที่ว่า สร้างสรรค์พลังสตรี ให้เป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ

วันงดสูบบุหรี่โลก

วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม 2557 "บุหรี่: ภาษียิ่งเพิ่ม คนตายยิ่งลด”

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ อนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลก (WHO FCTC) ระบุว่าในการควบคลุมการบริโภคยาสูบ มาตรการที่ต้องดำเนินการอย่างหนึ่งคือ นโยบายด้านการขึ้นภาษียาสูบ การเพิ่มราคาบุหรี่ซึ่งเป็นวิธีที่จะลดการบริโภคยาสูบได้ดีที่สุด การบริโภคยาสูบเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆที่สามารถป้องกันได้ การบริโภคยาสูบของประชากรโลกทำให้ผู้คนล้มตายประมาณ 6 ล้านคนในแต่ละปี และมากกว่า 600,000 คน ตายเพราะการได้รับควันบุหรี่มือสอง หากเราละเลยในเรื่องนี้

ในอนาคตไม่ถึง 20 ปีข้างหน้า ค.ศ. 2030 คาดการณ์จะมีคนตายจากการสูบบุหรี่ถึง 8 ล้านคนต่อปี ในจำนวนนี้ ร้อยละ 80 จะเป็นประชากรที่อยู่ในประเทศที่มีรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลาง สื่บเนื่องจากองค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้ 31 พฤษภาของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก โดยในปี พ.ศ.2557 นี้ ได้กำหนดประเด็นการรณรงค์ไว้ว่า Raise Taxes on Tobacco ซึ่งกระทรวงสาธารณะสุขได้ใช้ภาษาไทยว่า "บุหรี่: ภาษียิ่งเพิ่ม คนตายยิ่งลด”โดยการรณรงค์การอนามัยโลก เน้นเชิญชวนให้นานาประเทศทั่วโลก เรียกร้องให้รัฐบาลของตนเองขึ้นภาษียาสูบให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าในประเทศที่มีรายได้สูงหรือประเทศที่พัฒนาแล้ว หากเพิ่มภาษียาสูบขึ้น 10% จะลดการบริโภคยาสูบได้ถึง 4% ในขณะที่หากเพิ่มภาษียาสูบสูงขึ้นในประเทศที่มีรายได้ต่ำหรือปานกลาง จะทำให้สถิติการบริโภคยาสูบลดลงได้มากที่สุด 8% ดังนั้นมาตรการการเพิ่มภาษียาสูบที่สูงขึ้น จึงเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการควบคุมการบริโภคยาสูบในกลุ่มคน ที่มีรายได้ต่ำ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันเด็กและเยาวชนที่คิดจะเริ่มต้นหรือเข้าถึงการสูบ บุหรี่อีกด้วย นอกจากนี้การเพิ่มภาษียาสูบสรรพสามิต ยังถือเป็นมาตรการในการควบคุมการบริโภคยาสูบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จะเห็นได้จากรายงานขององค์การอนามัยโลกในปี ค.ศ.2010 ได้ชี้ให้เห็นว่า ถ้าหากมีการเพิ่มภาษียาสูบสรรพสามิตขึ้น 50% ใน 22 ประเทศที่มีรายต่ำ จะทำให้รัฐบาลเหล่านี้มีรายได้เพิ่มขึ้น 1,400 ล้าน เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 42,000 ล้านบาท ซึ่งหากนำภาษีที่ได้เพิ่มขึ้นนี้มาจัดสรรเป็นงบประมาณค่าใช้จ่ายดูแลและ รักษาสุขภาพให้แก่ประชาชนในประเทศที่มีรายได้ต่ำเหล่านี้ จะเป็นงบประมาณด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นถึง 50 % เลยทีเดียว

สนง.กกต.มหาสารคาม เผยรายชื่อผู้สมัครเป็น กกต.มหาสารคาม

สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดมหาสารคาม ประกาศรายชื่อผู้สมัครที่ผ่านการคัดเลือกเป็น กกต.มหาสารคาม ทั้ง 15 คน เชิญชวนประชาชนร่วมแจ้งข้อมูลของผู้ผ่านการคัดเลือก เพื่อคณะกรรมการสรรหาฯจะได้พิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 5 คน เป็น กกต.มหาสารคามแทนชุดเดิมที่จะหมดวาระ

นายสาโรช ไพเราะ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้ประกาศรับสมัครบุคคล เข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม ชุดใหม่ ระหว่างวันที่ 1-10 เมษายน 2557 เพื่อให้คณะกรรมการสรรหาฯพิจารณาคัดเลือกแทน ชุดเดิม ที่จะหมดวาระลงในวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ทั้งนี้ เมื่อเสร็จสิ้นการรับสมัครแล้ว มีผู้สนใจสมัครเข้ารับการคัดเลือก จำนวนทั้งสิ้น 28 คน และคณะกรรมการสรรหาคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม ได้มีมติการประชุมครั้งที่ 3/2557 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557 คัดเลือกผู้สมัคร ให้เหลือ 15 คน เรียงตามลำดับอักษร ได้แก่ 1. พลตำรวจตรีจิตรจรูญ ศรีวนิชย์ 2. นายชัยพจน์ คชโคตร 3. นายเชษฐา ศรีจันทร์ 4. นายณัฐจักร ฤทธิพิชัยวัฒน์ 5. ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา 6. นายประกาย ตปนียากร 7. นายปรีชาวัจฐ์ เรืองขวัญดี 8. นายพรเทพนิพัท พจน์วิวัฒน์ 9. นายเมธี สุพรรรฝ่าย 10. นายยุทธเดช พลอยสังวาล 11. นายฤทธิรงค์ สุน้อยพรม 12. รศ.สุทธิพงศ์ หกสุวรรณ 13. นายสุทิน พรมงคลชัย 14. นายอวยชัย วะทา และ 15. พันตำรวจเอกอุดมศักดิ์ เปลี่ยนขำ โดยที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม ขอเชิญชวนประชาชนทั่วไป ร่วมส่งข้อมูลของผู้สมัครทั้ง 15 ราย ให้กับทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้คณะกรรมการสรรหาฯ ได้พิจารณาคัดเลือก ภายในเดือนพฤษภาคม 2557 หลังจากนั้นประมาณกลางเดือนมิถุนายน จะมีการพิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 5 คน เพื่อให้ทั้ง 5 ได้คัดเลือกกันเองในตำแหน่งประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม ต่อไป

สำหรับท่านที่มีความประสงค์จะแจ้งข้อมูลของผู้สมัครที่มีรายชื่อดังกล่าว สามารถแจ้งได้โดยตรงที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์ 043 777481 หรือที่ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม หมายเลขโทรศัพท์ 089 4066336



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม ติวเข้มบุคลากร ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

จังหวัดมหาสารคาม นำผู้แทน อปท. อาสาสมัครพัฒนาสังคม และผู้นำชุมชน เข้ารับการอบรมเสริมความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ หลังจากพบว่า จังหวัดมหาสารคาม เป็นจังหวัดต้นทาง ปลายทางและทางผ่าน เกี่ยวกับการค้ามนุษย์และแรงงานต่างด้าว

จังหวัดมหาสารคาม โดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมหาสารคาม จัดการอบรมเสริมความรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ให้กับ ผู้แทนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนราชการ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาสาสมัครพัฒนาสังคม และผู้นำชุมชน รวม 100 คน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาการค้ามนุษย์ สามารถป้องกันตนเองและคนในชุมชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ และสามารถถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ที่ได้รับไปยังครอบครัวและชุมชน เพื่อให้สามารถใช้ช่องทางในการแจ้งเหตุ สร้างเครือข่ายการเฝ้าระวังเหตุการค้ามนุษย์ในจังหวัดมหาสารคามได้ โดยมีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดการอบรม

นายวิศิษฐ์ เดชเสน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมหาสารคาม เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีสถานะเป็นต้นทาง ในการถูกหลอกและตกเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะภาคแรงงานประมง อีกทั้งยังเป็นจังหวัดปลายทาง ในการถูกหลอกไปค้าประเวณีในต่างประเทศในรูปแบบบริษัทจัดหาคู่และเป็นจังหวัดปลายทาง ที่มีการร้องเรียนเรื่องการเป็นแหล่งพักแรงงานภาคการก่อสร้าง รวมทั้งเป็นทางผ่านของหญิงลาวในการค้าประเวณี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมหาสารคาม จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว และเร่งเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 ให้กับเครือข่าย เพื่อป้องกันกลุ่มเสี่ยงไม่ให้เข้าสู่กระบวนการของการค้ามนุษย์และลดปัญหาการค้ามนุษย์ในจังหวัดมหาสารคาม




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว