วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

โรงเรียนเพียงหลวง 12 ศูนย์แห่งการเรียนรู้ การดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง


โรงเรียนเพียงหลวง 12   ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี  หรือ โรงเรียนบ้านท่าล้ง  ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี  อยู่บริเวณด้านล่างของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นหมู่บ้านสุดท้ายที่ติดชายแดน ไทย- ลาว มีเพียงแม่น้ำโขงขวางกั้นเท่านั้น ถึงแม้ที่นี่จะดูห่างไกลจากสังคมเมือง แต่นักเรียนโรงเรียนเพียงหลวง 12 หรือโรงเรียนบ้านท่าล้ง ต่างก็มีความสุขกับการเรียนรู้ด้านวิชาการ และการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากโครงการชีววิถี โดยกองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เป็นต้นมา

นางณัฐชนันท์พร  วงษ์ละคร  ครูโรงเรียนเพียงหลวง 12 เล่าว่า  โรงเรียนทำการสอน ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบันมีนักเรียนประมาณ 40 คน ครูและบุคลากร 6 คน  ซึ่งครูได้สอนให้นักเรียนทุกคนรู้จักในการอยู่อย่างพอเพียง ช่วยกันปลูกพืชผักที่กินได้ เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นอาหาร ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม นักเรียนในโรงเรียน จะช่วยกันนำผลผลิตที่ได้ภายในโรงเรียน เช่น พืชผักสวนครัว  สัตว์เลี้ยง มาทำเป็นอาหารกลางวัน รับประทานทั้งโรงเรียน เป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ปีที่ 6 ช่วยในการติดตั้งไฟ และปรุงอาหาร ส่วนน้องๆที่ชั้นเล็กลงไป จะช่วยเก็บพืชผักสวนครัว ตามจำนวนที่ครูบอก ถือว่าเป็นการเรียนรู้ด้านคณิตศาสตร์ และรู้จักในการแยกประเภทพืชผักด้วย

นางณัฐชนันท์พร  วงษ์ละคร  บอกอีกว่า  โรงเรียนอื่นเราอาจจะเห็นครูช่วยกันทำอาหารกลางวันให้เด็กนักเรียนรับประทาน แต่ที่นี่ ครูจะได้รับประทานอาหารวันจากฝีมือเด็กนักเรียน จากชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยมีครูเป็นพี่เลี้ยงแนะนำวิธีการทำและปรุงอาหาร ซึ่งอาหารจากเด็กนักเรียนเหล่านี้ ยังได้จัดวางขึ้นโต๊ะเพื่อต้อนรับผู้ที่มาเยี่ยมชมโรงเรียนด้วย

เด็กชายสมชาย  พึ่งป่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 บอกว่า ตนเองเริ่มมาช่วยคุณครูทำอาหารตั้งแต่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จนถึงทุกวันนี้ ตนและเพื่อนๆ ยังได้ช่วยคุณครูทำอาหารกลางวันเป็นประจำ  ทั้งติดไฟ  จับปลา จับกบ ไม่เหนื่อยรู้สึกสนุกมากกว่า เมื่อกลับไปถึงบ้านช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านและช่วยทำอาหารด้วย

โรงเรียนเพียงหลวง 12  หรือโรงเรียนบ้านท่าล้ง  นับเป็นสถานที่ในการสั่งสอนและให้ความรู้อย่างครบวงจร แก่เด็กๆที่นี่   นักเรียนรู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รู้จักแบ่งปันช่วยเหลือสังคม มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมดั้งเดิมของชุมชน ไม่ให้เลือนหาย ซึ่งสิ่งที่ดีต่างๆเหล่านี้ ได้ถูกขยายทั่วทั้งหมู่บ้านท่าล้ง ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี



กรกช ภูมี / สวท.อุบลฯ สปข.2
รายงาน / 27 ต.ค. 56 

ล่าสุด สถานการณ์ แม่น้ำมูลทะลักท่วมนาข้าวหลายพันไร่

ล่าสุด สถานการณ์ แม่น้ำมูลทะลักท่วมนาข้าวหลายพันไร่ หลังได้รับมวลน้ำจากโคราชและบุรีรัมย์ ขณะที่เส้นทางจากลัดจาก อ.ชุมพลบุรี ไปยังหมู่บ้านช้างถูกตัดขาดกว่า 6 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ อปพร.ต้องยืนสกัดรถประชาชนให้ใช้เส้นทางอื่นเลี่ยงหวั่นอันตราย  

วันนี้ (27 ต.ค.56) สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งมี 3 อำเภอที่เป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เนื่องจากอยู่ติดแม่น้ำมูลที่จะได้รับผลกระทบจากมวลน้ำจาก จ.นครราชสีมาและบุรีรัมย์ แล้วในขณะนี้ ประกอบด้วย อ.ชุมพลบุรี อ.ท่าตูมและอ.รัตนบุรี ล่าสุดพบว่าน้ำได้เอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำมูลเข้าท่วมนาข้าวในพื้นที่ 3 อำเภอหลายพันไร่แล้ว และยังมีบางหมู่บ้านที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มติดแม่น้ำมูลได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยเฉพาะหมู่บ้านในพื้นที่ ต.กระเบื้อง อ.ชุมพลบุรี ส่วน ต.หนองเรือ และต.ศรีณรงค์ ของ อ.ชุมพลบุรี ระดับน้ำเริ่มเอ่อล้นท่วมนาข้าว แต่บ้านเรือนยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งทางจังหวัดสุรินทร์ ได้แจ้งเตือนประชาชนให้เตรียมความพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่พบว่าระดับน้ำใน 1-2 วันนี้ยังคงทรงตัวอยู่

ขณะที่บริเวณวังทะลุ บ.ตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม ซึ่งเป็นแอ่งกระทะจุดบรรจบของลำน้ำชีที่ไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรักและแม่น้ำมูลจก จ.นครราชสีมาและบุรีรัมย์ พบว่าน้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมนาข้าวแล้ว ทำให้ชาวนาบางส่วนเร่งเก็บเกี่ยวข้าวหนีน้ำอย่าเร่งด่วน ในขณะที่เส้นทางจาก บ้านยางบ่อภิรมย์ ต.นาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางลัด ไปยังหมู่บ้านช้าง บ.ตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม โดยต้องใช้สะพานข้ามแม่น้ำมูลบนเส้นทางดังกล่าวระยะทางกว่า 6 กิโลเมตรถูกน้ำท่วมตัดขาด สูงกว่า 60 -80 ซ.ม. รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เทศบาลตำบลนาหนองไผ่ อ.ชุมพลบุรี ต้องนำเต๊นท์มากางเป็นจุดอำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินโคลนถล่ม โดยมีเจ้าหน้าที่ อปพร.ของหมู่บ้านคอยบอกให้ผู้ที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าวให้กลับรถเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นเนื่องจากน้ำท่วมสูงไม่สามารถสัญจรผ่านไปได้ดังกล่าว เนื่องจากหวั่นจะเกิดอันตราย



อุทัย มานาดี / รายงาน

รอง ผอ.แขวงการทางสุรินทร์ สั่ง จนท.เร่งสำรวจซ่อมแซมถนน

รอง ผอ.แขวงการทางสุรินทร์ สั่ง จนท.เร่งสำรวจซ่อมแซมถนนเป็นโพรงทรุดตัว หลังน้ำท่วม หวั่นอันตราย

วันนี้ (27 ต.ค.56) หลังจาก นายวิริยะ เอียกิจไพศาล อายุ 51 ปี เจ้าของร้านสยามมอเตอร์ เลขที่ 278 ต.นอกเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้แจ้งว่า ว่าถนนลาดยางสายสุรินทร์ - ศรีขรภูมิ บริเวณทางโค้งด้านหลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีสุรินทร์ หน้าร้านสยามมอเตอร์ เกิดทรุดตัวเป็นโพรง หลุมลึกเกือบ 2 เมตร โพรงมีความกว้างประมาณ 2 เมตร ยาว 3 เมตร โดยบริเวณผิวถนนมีรูเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 ฟุตเท่านั้นแต่ด้านล่างกลับมีโพรงขนาดใหญ่ คนสามารถลงไปยืนได้กว่าครึ่งค่อนตัว โดยนายวิริยะฯ ได้โทรศัพท์แจ้งแขวงการทางสุรินทร์ เพื่อให้มา ซ่อมแซมถนนแล้ว แต่ไม่มีใครรับสาย จึงประสานตำรวจจราจรสุรินทร์ให้นำเหล็กกั้นทางและกรวยมาวางกั้นให้เป็นสัญลักษณ์ เกรงจะเกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ที่สัญจรไปมาเนื่องจากเป็นเส้นทางหลักที่มีประชาชนสัญจรไปมาจำนวนมา จึงได้ฝากผ่านสื่อมวลชนนำเสนอให้หมวดการทางสุรินทร์เร่งส่งเจ้าหน้าที่มาแก้ไขปัญหาโดยด่วน

ล่าสุดวันนี้ (27 ต.ค. ) นายทวี เวียนไธสง รองผู้อำนวยการแขวงการทางฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า จุดดังกล่าวเกิดจากปัญหาน้ำท่วมและน้ำหลากที่ผ่านมา และจุดดังกล่าวมีท่อที่อาจเกิดชำรุด ทำให้ดินหลังท่อทรุดลงไป ประกอบกับน้ำไหลทำให้กัดเซาะดินออกไปด้วย ทำให้เป็นโพรงใต้ถนน ผิวถนนจะไม่เสียหายทันที การจราจรจะผ่านได้ระยะหนึ่ง จุดสังเกตจะเป็นหลุมเล็กๆลึกๆ ไม่ใหญ่มาก เราอาจคิดว่าเป็นผิวถนนเสีย แต่ไม่ใช่ เพราะข้างในเป็นโพรง เบื้องต้นจุดที่เกิดปัญหาดังกล่าว เราได้นำหินคลุกเข้าไปบดอัดเป็นชั้นแล้ว ซึ่งปลอดภัยแล้ว แต่จะได้มีการรื้อแก้ไขให้เป็นปกติเร็วๆนี้ต่อไป ทั้งนี้น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ที่ผ่านมา

นายทวี  เวียนไธสง  รอง ผอ.แขวงการทางสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หมวดการทางในสังกัด เร่งออกสำรวจตรวจสอบถนนลาดยางที่รับผิดชอบ ว่ามีจุดใดที่เสียหายบ้าง เพื่อเร่งแก้ไข โดยเฉพาะให้สังเกตถนนที่มีลักษณะทรุดดังกล่าว ซึ่งจะสังเกตยาก เพราะดินด้านล่างทรุดและผิวลาดยางยังปกติและอาจมีรูหลุมไม่ใหญ่นัก แต่ด้านล่างกรวง ซึ่งอาจเกิดอันตรายแก่ผู้ที่สัญจร โดยการการตรวจสอบ พบถนนทรุดและมีโพรงด้านล่างคล้ายลักษณะดังกล่าว 3 จุด อย่างไรก็ตามก็ฝากถึงประชาชนให้ช่วยกันสังเกตถนน หากพบว่าเป็นหลุมเป็นบ่อในลักษณะดังกล่าว ก็ ให้แจ้งมาที่แขวงการทางสุรินทร์ได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 044-511381

แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมกำลังพล

แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมกำลังพลด้านจังหวัดสุรินทร์ ย้ำยังไม่มีการเตรียมการอะไรเป็นพิเศษช่วงศาลโลกตัดสิน ยันความสัมพันธ์ทหารไทย-เขมรปกติ

พลโท ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมทหารพรานสังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี ณ ฐานปฏิบัติการภูหลวง บ้านด่านพัฒนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ มี พันเอกทัศน์พล สุพีสุนทร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 นำกำลังพลในสังกัดรอให้การต้อนรับ โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค อาหารสำเร็จรูปแก่เจ้าหน้าที่ทหารทุกหน่วยที่ปฏิบัติหน้าที่แนวชายแดน

พลโท ชาญชัย ภู่ทอง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กรณี ที่ศาลโลกจะพิจารณาตัดสินคดีปราสาทพระวิหารนั้น ทางศูนย์ปฎิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้มีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และทาง ผบ.ทบ.ได้ย้ำให้กำลังพลในพื้นที่ ทำการฝึกซ้อมในที่ตั้งตามปกติ โดยไม่มีการเตรียมการอะไรเป็นพิเศษ เนื่องจาก ระดับ ผบ.หน่วยของกองกำลังสุรนารี กับทหารกัมพูชาในพื้นที่ มีความสัมพันธ์ที่ดีมาก หากมีอะไรเกิดขึ้นสามารถพบปะพูดคุยกันได้ทันที



อุทัย  มานาดี /รายงาน

ชาวช้างที่ จ.สุรินทร์ พร้อมเคลื่อนขบวนช้างเข้าร่วมประท้วง

ชาวช้างที่ จ.สุรินทร์ พร้อมเคลื่อนขบวนช้างเข้าร่วมประท้วง รอสัญญาแกนนำที่อยุธยาเปานกหวีดเท่านั้น พร้อมลุยทันที

วันนี้ (27ต.ค.56) บรรยากาศที่หมู่บ้านช้างเลี้ยงบ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ บรรยากาศทั่วไปยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวต่อเนื่อง แม้จะไม่มากนัก เนื่องจากเป็นวันปกติ ในขณะเดียวกันการเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการคัดค้าน พรบ.ช้าง ที่รัฐบาลจะออกมา ซึ่งทำให้เกิดผลเสียต่อชาวช้างเลี้ยงอย่างมากและต่างออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านอย่างเต็มที่ ซึ่งที่จังหวัดสุรินทร์ แกนนำชาวช้างบางส่วนพร้อมช้าง ได้เดินทางเข้าร่วมกับชาวช้างทั่วประเทศแล้ว ที่ปางช้างเพนียดหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม ที่ผ่านมา

นายสุนทร สนโสก อายุ 43 ปี แกนนำชาวช้าง ที่บ้านตากลางและบ้านศาลา บอกว่า ในขณะนี้ก็ได้มีการประสานกับแกนนำต่อเนื่อง เพื่อติดตามผลมติที่ออกมาจากการพูดคุย ที่ผ่านมามีการออกมากล่าวหาว่าคนเลี้ยงช้างต่างๆนาๆโดยไม่เข้าใจ อีกทั้ง พรบ.ที่ออกมา ก็ลิดรอนสิทธิ์ชาวช้าง เป็นอย่างมาก ขณะนี้ชาวช้างส่วนใหญ่เข้าใจและก็รอฟังสัญญาณจากแกนนำเท่านั้น หากไม่มีข้อสรุปต่อข้อเรียกร้องของชาวช้าง แกนนำเปานกหวีดเมื่อไหร่ก็พร้อมเคลื่อนช้างเข้าร่วมชุมนุมทันที อาจจะแบ่งการชุมนุมเป็นปิดถนนสายหลักบางส่วนและเข้าร่วมที่กรุงเทพบางส่วน ขณะนี้ทุกคนรอสัญญาณจากแกนนำเท่านั้น

นายสมบูรณ์ ร่วมศรี อายุ 66 ปี ประธานสหกรณ์ช้างไทย กล่าวว่า การออก พรบ.เรื่องช้าง ก็ออกแบบแตกหัก จู่ๆจะมาบ้าไปตามไซเตส ซึ่งแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน บางประเทศไม่มีช้างเลี้ยง ประเทศไทยเลี้ยงช้างมาตั้งแต่ปู่ยา ตายาย ตนเกิดมา อายุก็ 66 ปีแล้ว ก็เห็นมาแต่เกิด การเลี้ยงช้างเป็นเหมือนคนในครอบครัวเป็นเหมือนสายเลือด เดียวกัน มีความผูกผันมาตลอด ช้างเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง มีประเพณีวัฒนธรรมของคนและช้าง จู่ๆมาออก พรบ.ช้าง อย่างนี้ อย่างนั้น และไปคิดเห็นตามไซเตส ไม่ใช่เรื่องเลย ในเมื่อเราจะเปลี่ยนแปลงไม่เปลี่ยนง่ายๆ ต้องมีการพูดคุยกัน ในเมื่อคุยกันแล้วและมีความพอใจทั้งทางรัฐบาลและชาวช้างก็ยุติปัญหา และก็พอใจ แต่ เมื่อ พรบ.ช้างออกมาอย่างนี้ ตนคิดว่าจะเกิดปัญหาอีกมากมาย ตอนนี้ชาวช้างก็เดือดร้อนเพราะ พรบ.ช้างฉบับนี้ หากมีการพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ตนและชาวช้าง ก็พร้อมเข้าร่วมประท้วงทันที ซึ่งขณะชาวช้างเตรียมพร้อมแล้วทั้งช้าง คน และยานพาหนะ หากแกนนำให้สัญญาณมาก็พร้อมเคลื่อนช้างเข้าร่วมชุมนุมได้เลย



อุทัย  มานาดี / รายงาน

บุรีรัมย์เตรียมจัดแข่งเรือยาวชิง 3 ถ้วยพระราชทานพร้อมชมช้างว่ายชิงถ้วยใหญ่ที่สุดในโลกคาดเงินสะพัดกว่า 10 ล้าน

บุรีรัมย์เตรียมจัดแข่งเรือยาวชิง 3 ถ้วยพระราชทานพร้อมชมช้างว่ายชิงถ้วยใหญ่ที่สุดในโลกคาดเงินสะพัดกว่า 10 ล้าน จ.บุรีรัมย์ เตรียมจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิง 3 ถ้วยพระราชทาน 2-3 พ.ย.นี้ พร้อมชมไฮไลท์ขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทาน ขบวนพาเหรดช้าง พิธีเห่เรือ และแข่งขันช้างว่ายน้ำ ชิงถ้วยรางวัลใบใหญ่ที่สุดในโลก คาดเงินสะพัดกว่า 10 ล้าน ขณะกรรมการจัดงานเตรียมเรือเร็ว 5 ลำ รองรับเหตุไม่คาดคิดหลังระดับน้ำหนุนสูง (27 ต.ค.56) จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับอำเภอสตึก เทศบาลตำบลสตึก และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกหลายแห่ง เตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประจำปี 2556 ณ ลำน้ำมูล หน้าที่ว่าการอำเภอสตึก ในวันที่ 2 - 3 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ โดยในงานจะมีขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ พร้อมขบวนพาเหรดช้าง และพิธีเห่เรืออย่างยิ่งใหญ่ตระการตา โดยในปีนี้ได้มีทีมเรือจากหลายจังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศ สมัครเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 36 ลำ เพื่อร่วมประชันฝีพายและประกาศศักดาชิงเจ้าความเร็วแห่งลำน้ำมูล โดยจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทเรือไม้ ก ขนาดใหญ่ไม่เกิน 55 ฝีพาย , ประเภทเรือไม้ ข ขนาดกลางไม่เกิน 40 ฝีพาย ,ประเภทเรือไม้ ค ขนาดเล็กไม่เกิน 30 ฝีพาย และเรือท้องถิ่น เรือโลหะไม่เกิน 35 ฝีพาย นอกจากนั้นยังจะมีการแข่งขันช้างว่ายน้ำชิงถ้วยรางวัลใบใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างช้างจ.สุรินทร์ กับช้างจ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของงานที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมงาน ถึงแม้ปีนี้ระดับน้ำมูลจะหนุนสูง ประกอบกับกระแสน้ำไหลเชี่ยว แต่จะไม่มีการงดการแข่งขัน โดยทางคณะกรรมการฯ จัดงาน จะเปลี่ยนจากการว่ายข้ามลำน้ำมูลให้ว่ายตามลำน้ำระยะทางไม่เกิน 200 เมตร เพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและช้าง พร้อมกันนี้ยังได้จัดเรือเร็ว 5 ลำ เตรียมไว้รองรับอีกด้วย ด้านนายรังสิกร ทิมาตฤกะ ประธานอำนวยการจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ กล่าวว่า ประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ ของอ.สตึก เป็นสื่อที่อธิบายถึงความเป็นมา และเป็นมรดกของชาวอำเภอสตึกในอดีต ที่แสดงถึงการใช้ประโยชน์จากเรือและแม่น้ำร่วมกัน แม้ปัจจุบันการสัญจรทางเรือจะน้อยลง แต่แม่น้ำก็ยังเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอีกมากมายหลายด้าน จึงจัดประเพณีดังกล่าวขึ้นเพื่ออนุรักษ์ไว้ โดยในงานนอกจากจะมีการแข่งขันเรือยาว แข่งช้างว่ายน้ำแล้ว ยังมีการจัดแสดงจำหน่ายสินค้าโอท็อปที่ขึ้นของจ.บุรีรัมย์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงความสามารถของเด็ก เยาวชนอีกด้วย เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมให้กระเตื้องขึ้นด้วย ซึ่งคาดการจัดงานครั้งนี้จะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์ / 27 ต.ค. 56

ชาวบ้านบุรีรัมย์ 3 หมู่บ้านที่อพยพหนีน้ำล้นเขื่อนกลับเข้าบ้านแล้วหลังระดับน้ำลดลงอำเภอเร่งสำรวจฟื้นฟูเยียวยา

ชาวบ้านบุรีรัมย์ 3 หมู่บ้านที่อพยพหนีน้ำล้นเขื่อนกลับเข้าบ้านแล้วหลังระดับน้ำลดลงอำเภอเร่งสำรวจฟื้นฟูเยียวยา ชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ กว่า 70 ครัวเรือน ที่อพยพหนีน้ำล้นเขื่อนรอบสองนานกว่า 1 สัปดาห์ ได้ขนข้าวของกลับเข้าบ้านแล้วหลังระดับน้ำลดลงใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ ขณะทางอำเภอเร่งสำรวจบ้านเรือน ระบบไฟฟ้า สิ่งสาธารณูปโภค เพื่อฟื้นฟูเยียวยา เบื้องต้นมีบ้านถูกกระแสน้ำซัดเสียหายเกือบ 20 หลัง จากที่ถูกน้ำท่วมขังทั้งหมดกว่า 150 หลัง ( 27 ต.ค.56) ชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน ใน ต.ส้มป่อย อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ มี บ้านส้มป่อย ม.2 บ้านโคกตะแบง ม.4 และบ้านโคกตะคร้อ ม.7 กว่า 70 ครัวเรือน ที่ต้องอพยพหนีน้ำล้นสปิลเวย์เขื่อนลำนางรอง ทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านสูงเกือบ 1 เมตรและกระแสน้ำไหลเชี่ยว ไปอาศัยอยู่ที่วัดหนองกก ต.ส้มป่อย ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นรอบที่สองมานานกว่า 1 สัปดาห์ ได้ขนย้ายข้าวของกลับเข้าบ้านแล้ว หลังระดับลดลงอย่างต่อเนื่อง มีเพียงบางจุดที่ยังมีน้ำขังอยู่ประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร และคาดว่าภายใน 1 – 2 วัน ระดับน้ำก็จะลดลงเข้าสู่สภาวะปกติ เนื่องจากขณะนี้น้ำล้นสปิลเวย์เพียงประมาณ 20 เซนติเมตรเท่านั้น ขณะที่ทางอำเภอก็ได้เร่งเข้าไปสำรวจบ้านเรือน ระบบไฟฟ้า และสิ่งสาธารณูปโภคต่างๆ ที่ชำรุดเสียหายเพื่อจะได้เร่งซ่อมแซมให้สามารถใช้การได้ตามปกติ และฟื้นฟู เยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ประสบภัยดังกล่าวอย่างเร่งด่วนต่อไป ด้านนายสุวิทย์ พุกกะเวส นายอำเภอโนนดินแดง กล่าวว่า จากการสำรวจในเบื้องต้นพบมีบ้านเรือนถูกกระแสน้ำซัดพังกว่า 20 หลังคาเรือน จากที่มีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมขังกว่า 150 หลังคาเรือน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจมูลค่าความเสียหาย เพื่อเสนอจังหวัดพิจารณาอนุมัติงบประมาณมาดำเนินการซ่อมแซม พร้อมฟื้นฟูสิ่งสาธารณูปโภคที่ชำรุดเสียหายด้วย ส่วนนาข้าวที่ถูกน้ำท่วมขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสำรวจของทางเกษตรกร เพื่อสรุปพื้นที่ที่เสียหายสิ้นเชิงอีกครั้ง



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์ / 27 ต.ค.56

ชาวบุรีรัมย์แห่ซื้อแสตมป์ สายรัดข้อมือ มหามงคล สมเด็จพระสังฆราช เก็บเป็นที่ระลึก

ชาวบุรีรัมย์แห่ซื้อแสตมป์ สายรัดข้อมือ มหามงคล สมเด็จพระสังฆราช เก็บเป็นที่ระลึก ประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ หาซื้อแสตมป์และสายรัดข้อมือมหามงคล ที่ไปรษณีย์จังหวัดกันเป็นจำนวนมาก จนต้องสั่งมาเพิ่ม เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก และถวายความอาลัย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก หลังทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ (27 ต.ค.56) ที่ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีประชาชนชาวบุรีรัมย์ พากันมาหาซื้อแสตมป์ และสายรัดข้อมือ มหามงคล สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งเป็นสินค้าที่ไปรษณีย์ไทยจัดทำเป็นที่ระลึกในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชันษา ครบ 100 ปี และยังคงมีไว้ให้ประชาชนเลือกซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก กระทั่งข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทำให้ประชาชนสนใจซื้อเก็บไว้ และถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่าน กันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ต้องสั่งมาเพิ่มขึ้นอีก เพื่อไว้ให้บริการประชาชน นายรังสรรค์ เหมาะทอง หัวหน้าแผนกลูกค้าธุรกิจ ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย ได้จัดทำแสตมป์ที่ระลึกสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในโอกาสทรงเจริญพระชันษา ครบ 100 ปี กระจายไปยังไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยไปรษณีย์บุรีรัมย์ ได้จัดจำหน่ายแสตมป์ ดวงละ 5 บาท และแบบเป็นชุดๆ ละ 20 บาท แสตมป์ ชีทสะสม ชุดละ 30 บาท ซองวันแรกจำหน่ายตราไปรษณียากร ชุดละ 31 บาท ส่วนสายรัดข้อมือมาพร้อมกับเหรียญที่ระลึก โดยด้านหน้าเหรียญเป็นรูปของ หลวงพ่อทวด ส่วนด้านหลังเป็นตราสัญลักษณ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ราคาชุดละ 100 บาท ผู้ที่สนใจอยากได้ของที่ระลึกหาซื้อได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์จังหวัดบุรีรัมย์ และที่ไปรษณีย์ทุกแห่ง ด้านนางสาวณภัชวิภา มณีราชกิจ อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากทราบว่าสมเด็จพระสังฆราช สิ้นพระชนม์ ก็รู้สึกเศร้าเสียใจ ซึ่งนับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการพระพุทธศาสนา เพื่อถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่าน จึงได้มาหาซื้อแสตมป์ และสายรัดข้อมือ ที่ไปรษณีย์ไทยจัดทำขึ้น ไปเก็บไว้เป็นที่เคารพบูชา และยึดเอาคำสั่งสอนของพระองค์ท่าน มาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตประจำวัน



 สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์ / 27 ต.ค. 56

ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร ประกาศผลการคัดเลือกกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร

ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร ประกาศผลการคัดเลือกผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร

 ( 27 ต.ค.56 )  นางสาวนุชนาถ ด้วงสงฆ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่าตามที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหารได้ประกาศกำหนดวัน เวลา สถานที่และแนวทางปฏิบัติในการคัดเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กร เพื่อเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งมีผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรคัดเลือกกันเองไปแล้วระหว่างวันที่ ๓๐ กันยายน – ๓ ตุลาคม ๒๕๕๖ ไปแล้ว

ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่าเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ว่าด้วยกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัด พ.ศ. ๒๕๕๕ ข้อ ๒๔ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหารได้ประกาศผลการคัดเลือกกันเองของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเพื่อเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร

       ๑. สมาคมหรือชมรมครู อาจารย์ หรือสมาคมทางด้านการศึกษา ได้แก่ นายสมจิต ราชิวงศ์

       ๒. สภาทนายความหรือผู้ประกอบวิชาชีพกฎหมาย ได้แก่ นายสุรพล บุตรดีวงศ์

       ๓. สมาคมหรือชมรมพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือสภาแรงงาน หรือสหภาพแรงงาน ได้แก่ นายนสุรชัย บุญประคอง

      ๔. สภาหอการค้าจังหวัดหรือสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หรือชมรมธนาคารพาณิชย์จังหวัด ได้แก่ นายภมร เชาว์ศิริกุล

      ๕. กลุ่มอาสาสมัคร ได้แก่ นายพรรณนา ราชิวงศ์

      ๖. องค์กรเอกชน ได้แก่ นายวีระพงษ์ สัมปชัญญานนท์

      ๗. องค์กรเกษตรกร ได้แก่ นายบวร บุญนันท์

     ๘. สมาคมหรือชมรมสื่อมวลชน ได้แก่ นายไพรัตน์ แสงสีนิล

     ๙. หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัด ได้แก่ นายอดุล จันทนปุ่ม

 ทั้งนี้ ผู้มีส่วนได้เสียสามารถโต้แย้งหรือคัดค้านการคัดเลือกกันเอง ของผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรเป็นกรรมการสรรหากรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดมุกดาหาร โดยยื่นต่อสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดมุกดาหารภายใน ๗ วันนับตั้งแต่วันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๘.๓๐ –๑๖.๓๐ น.ถึงวันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๐๘.๓๐ – ๑๖.๓๐ น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ

จังหวัดมุกดาหารจัดพิธีรดน้ำศพทหารพรานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไล่ติดตามรถขนไม้พะยูง

จังหวัดมุกดาหารจัดพิธีรดน้ำศพ สิบตรีวสันต์ อนุรักษ์ ทหารพรานที่ 2105 มุกดาหาร ที่เสียชีวิตจากการไล่ติดตามสกัดกั้นรถขนไม้พะยูง และรถเกิดอุบัติเหตุเสียหลักลงข้างทางชนเสาไฟฟ้าแรงสูง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครทหารพรานอีก 4 นายได้รับบาดเจ็บ โดยมี ผู้บังคับบัญชา เพื่อนทหาร ส่วนราชการ ญาติพี่น้องและครอบครัวร่วมไว้อาลัย และร่วมเป็นเกียรติในพิธีจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2556 ที่วัดป่าศิลาวิเวก อำเภอเมืองมุกดาหาร นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร และ พันเอก ยุทธนา ม่วงพูลสวาสดิ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพและวางพวงหรีด เพื่อไว้อาลัย สิบตรี วสันต์ อนุรักษ์ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 27 หมู่ 7ตำบลป่าคม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไล่ติดตามรถขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงผิดกฎหมายในพื้นที่ โดยมี ผู้บังคับบัญชา เพื่อนทหาร ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น สถานีเรือมุกดาหาร ด่านตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ป่าไม้ ตำรวจน้ำ ด่านตรวจสัตว์ป่าไซเตสมุกดาหาร ญาติพี่น้องและครอบครัวร่วมไว้อาลัย และร่วมเป็นเกียรติในพิธีเป็นจำนวนมาก


สิบตรี วสันต์ อนุรักษ์ ได้เสียชีวิตจากการนำอาสาสมัครทหารพราน จำนวนหนึ่ง ออกปฏิบัติงานในการป้องกันและสกัดกั้นขบวนการลักลอบขนไม้พะยูง ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา หลังจากได้รับแจ้งจากสายว่า มีบวนการลักลอบขนไม้พะยูงผิกฎหมาย จากอำเภอนิคมคำสร้อย ไปส่งให้กับนายทุนที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร โดยใช้เส้นทาง นิคมคำสร้อย มุกดาหาร จึงได้ตั้งจุดสกัดใกล้กับบริเวณ 4 แยกทางเลี่ยงเมือง หน้าสำนักงานชลประทานจังหวัด จนกระทั่งพบรถยนต์กระบะต้องสงสัยตามที่สายรายงาน จำนวน 4 คัน วิ่งผ่านมา จึงให้สัญญาณเพื่อขอหยุดตรวจแต่รถดังกล่าวกลับเร่งความเร็วหลบ หนีเจ้าหน้าที่จึงขับรถไล่ติดตาม และได้เกิดอุบัติที่ถนนบ้านหนองหอย ป่าหวย ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังขับรถแซงขึ้นหน้า รถยนต์กระบะบรรทุกไม้พะยูง และได้มีรถยนต์กระบะวิ่งสวนทางมา ทำให้พลขับหักหลบอย่างกระทันหันและเสียหลักลงข้างทางก่อนไปกระแทกกับเสาไฟฟ้าที่อยู่ข้างทาง ทำให้ อาสาสมัครทหารพราน บัวลม จันทร์ราด และสิบตรีวสันต์ อนุรักษ์ ซึ่งอยู่กระบะด้านหลังกระแทกกับเสาไฟฟ้าแรงสูง ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนอาสาสมัครทหารพรานอีก 3 นายซึ่งรวมถึงคนขับซึ่งอยู่ภายในรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ของวันที่ 25 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา สำหรับศพของ สิบตรี วสันต์ อนุรักษ์ หลังพิธีลดน้ำศพญาติได้รับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดที่จังหวัดเลยต่อไป






คณะกรรมมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร ศึกษาดูงานด่านศุลกากรนครพนม เพื่อเตรียมพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน

นายธีระ  ไตรสรณกุล  ผู้แทนประธานคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย  สภาผู้แทนราษฎร  นำคณะกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย สภาผู้แทนราษฎร  ศึกษาดูงานด่านศุลกากรนครพนม  ที่สะพานมิตรภาพ 3 นครพนม-คำม่วน  โดยรับฟังปัญหาข้อคิดเห็นที่เกิดขึ้น   ซึ่งนำเสนอโดยนายพงศ์ชัย  ปภิรัชนาท  นายด่านศุลกากรนครพนม ซึ่งได้มีข้อเสนอแนะให้ 1. สร้างด่านศุลกากรนครพนม  ที่สะพานมิตรภาพ 3 และติดตั้งเครื่องเอ็กซ์เรย์ตรวจสอบสินค้าเข้า-สินค้าออก  โดยใช้เงินงบประมาณ 2 ล้านล้านบาท  2.จัดตั้งโครงการศูนย์โลจิสติกส์และขนถ่ายสินค้านครพนม  3. ผลักดันให้เส้นทางหมายเลข R8 และ R12 อยู่ในกรอบความตกลงร่วมมือของอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) เพื่อลดต้นทุนค่าขนส่ง

จากนั้น เดินทางไปเปิด จุดตรวจอาเซียน กองร้อยตระเวนชายแดนที่ 236 บ้านห้อม หมู่ 11 ต.อาจสามารถ  อ.เมืองนครพนม ซึ่งอยู่ใกล้กับสะพานมิตรภาพ 3 โดยร่วมกับ คณะอนุกรรมาธิการกิจการชายแดนไทย อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง  เพื่อเป็นการป้องกัน เฝ้าระวัง  สกัดกั้น  ตรวจค้น  จับกุม ผู้ค้า ผู้ผลิต การลักลอบนำเข้าและลำเลียงขนส่งยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน  มิให้แพร่กระจายเข้ามาในพื้นที่  ตลอดจนการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว  แล้วเดินทางไปเยี่ยมชมหมู่บ้านมิตรภาพไทย-เวียดนาม  ที่บ้านนาจอก  ต.หนองญาติ  อ.เมืองนครพนม  และศึกษาดูงานจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านธาตุพนมสามัคคี  อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ต่อไป

พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมแสดงความอาลัยและร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมแสดงความอาลัยและร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพุทธศาสนิกชนชาวไทย

เมื่อวานนี้ ( 26 ต.ค. 2556 )  พุทธศาสนิกชนจากทั่วทุกสารทิศ พร้อมใจกันแต่งกายด้วยชุดขาวดำเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร อย่างต่อเนื่อง และในช่วงเย็นมีพุทธศาสนิกชนร่วมงานบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นจำนวนมาก โดยทางสำนักพระราชวัง ได้ให้พุทธศาสนิกชนเข้ารับฟังพระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรมพระศพ สมเด็จพระสังฆราช ณ บริเวณด้านหน้าตำหนักเพ็ชร ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานพระโกศในสมเด็จพระสังฆราช

ทั้งนี้ พุทธศาสนิกชน ที่มาร่วมงานบำเพ็ญพระราชกุศลพระศพ จะได้รับมอบของที่ระลึก เป็นพระรูปสมเด็จพระสังฆราช พิมพ์ข้อความ "ฉลองพระชนมายุ 100 พรรษา 3 ตุลาคม 2556 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก" ด้านหลังพิมพ์พระประวัติ และลำดับสมณศักดิ์ของพระองค์ สำหรับพุทธศาสนิกชน ที่ต้องการรับฟังพระพิธีธรรม สวดพระอภิธรรมพระศพ จะมีพิธีในช่วง 9.00 น. /12.00 น./15.00 น./19.00 น.และเวลา 21.00 น. ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร

 นอกจากนี้ ภายในวัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร ยังได้เปิดให้ผู้ที่สนใจชมนิทรรศการพระชันษา 100 ปี สดุดีพระสังฆบิดร สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยเข้าชมได้ในวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 9.00-16.00 น.

นางศิริพร ชาญณรงค์ พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานบำเพ็ญพระราชกุศลและแสดงความอาลัยสมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า มีความตั้งใจที่มาร่วมแสดงความอาลัยต่อพระองค์ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย อีกทั้งยังทรงเป็นแบบอย่างที่ดี ในฐานะพระสงฆ์ที่ทรงทำหน้าที่เผยแผ่พระพุทธศาสนาด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ทำให้พุทธศาสนิกชนสามารถนำไปถ่ายทอดให้กับลูกหลานให้เข้าใจได้

ด้านนายณัฏฐากรณ์ แย้มจ่าเมือง พุทธศาสนิกชนที่เคยศึกษาในโรงเรียนวัดบวรนิเวศ กล่าวว่า ได้น้อมนำหลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสังฆราชมาปฏิบัติโดยตลอด ทำให้สามารถดำเนินชีวิตมาได้ด้วยดีจนถึงทุกวันนี้



ที่มา สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

นายกรัฐมนตรี ระบุ ไทย-กัมพูชา ควรใช้กลไกคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา หาทางออกคดีปราสาทพระวิหาร เพื่อรักษาความสงบตามแนวชายแดน และเร่งทำความเข้าใจกับประชาชนถึงแนวทางสู้คดี

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันจันทร์ ที่ 28 ตุลาคมนี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะหารือกับนายฮอร์ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ที่ประเทศกัมพูชา เพื่อกำหนดการพูดคุยหลังศาลโลกมีคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร โดยได้มอบนโยบายให้ใช้กลไกคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคีไทย-กัมพูชา (JC) เป็นหลักในการพูดคุย เพื่อความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน และขอให้ทั้ง 2 ฝ่าย รอฟังคำตัดสินของศาลโลกด้วยความสงบ และหาทางออกร่วมกัน ขณะเดียวกัน ได้กำชับกองกำลังทหารไทย ปฏิบัติหน้าที่ โดยยึดหลักความสงบเช่นเดียวกับกัมพูชา ที่ได้กำชับกองกำลังชายแดนแล้วเช่นกัน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าไทยจะสู่คดีอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องอธิปไตย พร้อมขอความร่วมมือฝ่ายความมั่นคงและประชาชน ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ขอให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบ ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกัน ได้เริ่มทำความเข้าใจกับประชาชนให้ทราบถึงแนวทางการต่อสู้แล้ว และจะเผยแพร่สารคดีเกี่ยวกับคดีดังกล่าวด้วย

นายกรัฐมนตรี ยังขอความร่วมมือกลุ่มผู้ชุมนุม ที่เตรียมเคลื่อนมาชุมนุมหน้าบ้านพัก ซอยโยธินพัฒนา 3 ให้ยกเลิกการเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนในพื้นที่ และยินดีส่งเจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องทุกข์



ที่มา สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

โครงการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี ๒๕๕๖/ ๕๗ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

นายวิรัตน์  ลิ้มสุวัฒน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี ได้มีมติ เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๖ เห็นชอบมาตรการแทรกแซงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี ๒๕๕๖/ ๕๗  เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งปัญหาความเดือดร้อนและข้อเรียกร้องของเกษตรกร  โดยมีระยะเวลาดำเนินระหว่างเดือนกันยายน – ธันวาคม ๒๕๕๖  โดยขอให้เกษตรกรดำเนินการดังนี้

๑. การขึ้นทะเบียน
(๑) นำเอกสารหลักฐาน ไปขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กับกรมส่งเสริมการเกษตร
(๒) รับใบรับรอง เกษตรกรและตรวจสอบความถูกต้อง ปริมาณและช่วงระยะเวลาเก็บเกี่ยว ตั้งแต่สิงหาคม –ธันวาคม ๒๕๕๖

๒.การจำหน่าย โดยเกษตรกรจะต้องเตรียมเอกสารได้แก่ ๑.ใบรับรองเกษตร ๒.สำเนาบัตรประจำตำประชาชนพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง จากนั้นดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้
(๑) นำผลผลิตที่เก็บเกี่ยวไปจำหน่าย ณ จุดรวบรวมที่เข้าร่วมมาตรการฯ  ปริมาณตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบรับรองเกษตรกร แต่ไม่เกินรายละ ๒๕ ตัน พร้อมส่งมอบใบรับรองเกษตรกรฉบับจริงให้กับผู้รวบรวมหรือสหกรณ์ผู้รวบรวม
(๒) รับเงินค่าสินค้าและลงชื่อในใบเสร็จรับเงิน และเอกสารประกอบการขอรับชดเชย  ตามความชื้นต่อไปนี้
 - ความชื้น ๓๐ % ราคาจำหน่าย กิโลกรัมละ ๗.๐๐ บาท
 - ความชื้น ๑๔.๕ % ราคาจำหน่าย กิโลกรัมละ ๙.๐๐ บาท

และกรณีนำผลผลิตไปจำหน่ายในรูปฝักหรือเมล็ด  ณ คุณภาพและความชื้นอื่น ๆ จะคำนวณอัตราแปรสภาพ  เพิ่ม/ลด เป็นน้ำหนักข้าวโพด ณ ความชื้น ๓๐ % ในราคากิโลกรัม ละ ๗.๐๐ บาท  ทั้งนี้ หากภายในจังหวัดไม่มีจุดรับซื้อ ให้เกษตรกรนำผลผลิตไปจำหน่าย ณ จุดรับซื้อในจังหวัดใกล้เคียง

ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวเพิ่มเติมต่อไปว่า  หากเกษตรกรจังหวัดหนองคาย มีความสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ติดต่อได้ที่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคาย โทร. ๐๔๒-๔๒๒๕๖๑ และสำนักงานค้าภายในจังหวัดหนองคาย  ๐๔๒ –๔๒๕๓๐๑-๒ ในวันและเวลาราชการ


ที่มา : สำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคาย 
วนิษา นามบุรี  ข่าว/พิมพ์


วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี มอบถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 1,000 ถุง ให้แก่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยที่ จ.ศรีสะเกษ

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 ต.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนบ้านท่าคอยนาง ต.สวาย อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายมนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นผู้แทนพระองค์ มอบถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 1,000 ถุง แด่พระภิกษุสงฆ์ และราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่ ต.สวาย อ.ปรางค์กู่ และเทศบาล ต.ขะยูง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ตามโครงการ "หนึ่งใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย” ของมูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ โดยมี นายประทีป กีรติเรขา ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รอง ผวจ.ศรีสะเกษ นายอภิชาต ธนะมัย นายอำเภอปรางค์กู่ นายเลิศบุตร กองทอง นายอำเภออุทุมพรพิสัย หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และราษฎรผู้ประสบภัยน้ำท่วม ให้การต้อนรับ

นายมนัส โนนุช กรรมการและผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ กล่าวว่า ด้วยพระองค์ทรงทราบถึงปัญหาความทุกข์ยากของราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย จึงทรงมีพระดำริให้มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี นำถุงยังชีพพระราชทาน มามอบให้กับราษฎร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งพระองค์ทรงมีพระดำรัสว่า จะทรงเป็นกำลังใจให้ประชาชนชาวไทยทุกคน ในการต่อสู้กับทุกข์ภัยต่าง ๆ ซึ่งถ้าประชาชนมีจิตใจที่เข็มแข็งแล้ว ก็จะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ไปได้ ซึ่งพระองค์หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการหนึ่งใจ ช่วยเหลือผู้ประสบภัย จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อน สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยได้เป็นอย่างดี สืบเนื่องจาก จ.ศรีสะเกษ ได้รับอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่ง ที่ประเทศเวียดนาม ผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทย และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศ ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดอุทกภัยเป็นบริเวณกว้างในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ โดยเฉพาะ อ.ปรางค์กู่ และ อ.อุทุมพรพิสัย ได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมพาดผ่าน ทำให้พื้นที่ของทั้งสองอำเภอเกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้างติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำฝนในลำน้ำมูล และลุ่มน้ำสาขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเข้าขั้นวิกฤต และได้ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ทำการเกษตรและที่อยู่อาศัยของราษฎรใน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน อาสาสมัคร มูลนิธิ ตลอดจนประชาชนทั้งใน จ.ศรีสะเกษ และทั่วประเทศ ได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว

กุมภวาปีจัดแข่งขันเรือยาวเทิดไท้องค์ราชันร่วมร้อยดวงใจถวายพ่อ ชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปีปี 2556

เทศบาลตำบลกุมภวาปี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี อำเภอกุมภวาปี และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ จัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวเทิดไท้องค์ราชัน ร่วมร้อยดวงใจถวายพ่อ ชิงถ้วยพระราชทานฯ ครั้งที่ 12 ประจำปีพุทธศักราช 2556 ระหว่างวันที่ 26-27ตุลาคม 2556




ที่บริเวณศาลเจ้าปู่-ย่า อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี วันนี้ ( 26 ต.ค.56 ) นายต่อพงษ์ ไชยสาสน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวเทิดไท้องค์ราชัน ร่วมร้อยดวงใจถวายพ่อ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ประจำปี 2556 โดยมีนายจักรพรรดิ์ ไชยสาส์น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต7 อุดรธานี นายนายนิคม ศิริสิงห์สังชัย นายอำเภอกุมภวาปี นายพรเทพ จวงทอง นายกเทศมนตรีตำบลกุมภวาปี ข้าราชการพลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ่อค้า ประชาชนในพื้นที่อำเภอกกุมภวาปีร่วมงาน

นายนิคม ศิริสิงห์สังชัย นายอำเภอกุมภวาปี ในนามประธานคณะกรรมการจัดงาน กล่าวว่า ลำน้ำปาว แห่งนี้ เปรียบเสมือนสายโลหิตใหญ่ ที่ผูกพันกับชาวอำเภอกุมภวาปี ในการประกอบอาชีพ การดำรงชีพมาเป็นเวลาช้านาน เมื่อยามว่างจากการทำงาน ก็จะจัดการแข่งขันเรือยาว เป็นประจำสืบทอดต่อกันมาจนเป็นประเพณีวัฒนธรรมที่สำคัญถือเป็นมรดกแห่งลำน้ำปาว เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ และ พัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองและให้ยิ่งใหญ่ เป็นเอกลักษณ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวของท้องถิ่น ครั้งนี้เป็นครั้งที่12 ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชานุญาตให้อัญเชิญอักษรพระนามาภิไธย จารึกบน ถ้วยรางวัลชนะเลิศเรือทั่วไป 30 ฝีพาย 40 ฝีพาย และ 55 ฝีพายและถือเป็นครั้งที่ 3 ที่พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงประทานถ้วยรางวัลชนะเลิศเรือท้องถิ่น 30 ฝีพาย 40 ฝีพาย และ 55 ฝีพาย สร้างความปลาบปลื้ม ปิติยินดี แก่คณะกรรมการจัดงาน และ ชาวอำเภอกุมภวาปี อีกวาระหนึ่งอย่างหาที่สุดมิได้

การจัดงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อแสดงความจงรักภักดีเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ร่วมร้อยใจถวายพ่อ เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทีงมีพระชนมพรรษา 86 พรรษา เป็นการสืบสาน อนุรักษ์ ขนบธรรมเนียม ประเพณีศิลปะ วัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น ตลอดจนเป็นการส่งเสริม ทะนุบำรุงรักษา การใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำ และ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมการใช้ภูมิปัญญาของท้องถิ่นในการรักษาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการออกกำลังกาย การกีฬาทางน้ำ และส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว ของจังหวัดอุดรธานี การจัดงานในครั้งนี้มีทีมเรือเข้าร่วมการสืบสานวัฒนธรรม มรดกแห่งลำน้ำปาว และร่วมการแข่งขันจากจังหวัดต่างๆมากมาย อาทิ จังหวัดชลบุรี ขอนแก่น บึงกาฬ นครราชสีมา สกลนคร หนองคาย ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานีและจังหวัดอุดรธานี รวมทั้งสิ้น 55 ลำ โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 3ประเภท ประกอบด้วย เรือทั่วไป 30 , 40,55 ฝีพายชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เรือท้องถิ่น 30,40 ฝีพาย ชิงถ้วยประทานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เรือสตรี 30ฝีพาย และการประกวดกองเชียร์ ชิงถ้วยเกียรติยศ การประกวดภาพถ่ายการแข่งขันเรือยาว การจัดนิทรรศการ สินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ทั้ง 15 แห่งการจัดงานมหกรรมสวนสนุก




ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ















ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนลดลง มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วน ภาคใต้ ฝนตกหนาแน่น

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนลดลง และมีอากาศเย็นในตอนเช้า สำหรับ หย่อมความกดอากาศต่ำยังคงปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง และช่องแคบมะละกา ทำให้ภาคใต้มีฝนหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะ 1-2 วันนี้ อนึ่ง พายุโซนร้อน "ฟรานซิสโก” (FRANCISCO) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ประเทศญี่ปุ่นในวันนี้ (26 ตุลาคม) ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก และกำแพงเพชร บริเวณยอดดอย อากาศหนาว 8-12 องศาเซลเซียส ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า บริเวณยอดภู อากาศหนาว 10-14 องศาเซลเซียส ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ฝั่งตะวันออก และ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีเมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ส่วน กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน โอกาสมีฝนตก ร้อยละ 20

ศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ ๗๔ จังหวัดอุบลราชธานี ร่วมขับเคลื่อน ในการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนา โรงเรียนเพียงหลวง 12 บ้านท่าล้ง ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

นางอภิญญา ชมภูมาศ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ ๗๔ จังหวัดอุบลราชธานี  เปิดเผยว่า โรงเรียนเพียงหลวง 12 หรือโรงเรียนบ้านท่าล้ง  ตำบลห้วยไผ่  อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งประสบความสำเร็จในการดำเนินกิจกรรมตามโครงการชีววิถี จาก กองโรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ ๗๔ จังหวัดอุบลราชธานี มีส่วนร่วมในการช่วยสนับสนุนเพื่อพัฒนาโรงเรียนแห่งนี้ เช่น  จัดส่งบุคลากรมาให้ความรู้เกี่ยวกับการปรับปรุงห้องสมุด ห้องวิทยาศาสตร์ ให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดตั้งสหกรณ์ภายในโรงเรียน  สนับสนุนเครื่องแบบนักเรียน และอุปกรณ์การเรียน รวมทั้ง กำลังเตรียมในการจัดทำสนามฟุตซอล สนามเด็กเล่น ห้องคอมพิวเตอร์ เพื่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียน

ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาสังคม หน่วยที่ ๗๔ จังหวัดอุบลราชธานี  กล่าวเพิ่มเติมว่า  โรงเรียนแห่งนี้ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก แต่นักเรียนทุกคน รู้จักดำเนินชีวิตแบบเรียบง่าย รู้จักประหยัด รู้จักนำเอาปัจจัยที่มีในชุมชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม ถือเป็นต้นแบบที่ดีในการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประชาชนทั่วไปน่าจะเข้ามาเยี่ยมชมและศึกษาวิธีการดำเนินงานดังกล่าว ไปขยายในชุมชนของตนเองต่อไป




กรกช  ภูมี / สวท.อุบลฯ
สปข.2 รายงาน / 26 ต.ค.56 

สสส.พึงพอใจในการทำงานพัฒนาเด็กและเยาวชนจังหวัดอุบลราชธานี

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.  พึงพอใจในการทำงานพัฒนาเด็กและเยาวชน จังหวัดอุบลราชธานี เพราะมีการสร้างเครือข่ายจนเกิดความเข้มแข็ง

นางเพ็ญพรรณ  จิตตะเสนีย์   ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็กเยาวชนและครอบครัว  สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.  เปิดเผยว่า รู้สึกพอใจในการดำเนินงานขับเคลื่อนด้านเด็กและเยาวชน ของคณะทำงานโครงการขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชนแบบบูรณาการระดับจังหวัด :อุบลราชธานี  ภายใต้การสนับสนุนจาก  สสส. มีความก้าวหน้าอย่างมาก  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ได้มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชาธานี เป็นแกนกลางในการประสานเครือข่ายภาคต่างๆ ทำให้การทำงานมีความเข้มแข็งมากขึ้น จะเห็นได้จากการสร้างเครือข่ายด้านเด็กและเยาวชนใน 25 ตำบลภายในจังหวัด และเชื่อมโยงการทำงานกับจังหวัดใกล้เคียง ทั้งจังหวัดยโสธร อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ  นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเครือข่ายการทำงานกับประเทศเพื่อนบ้าน  เช่น  ลาว  เวียดนาม กัมพูชา          นางเพ็ญพรรณ  จิตตะเสนีย์   กล่าวเพิ่มเติมว่า  จุดเด่นที่ทำให้การดำเนินงานมีความเข้มแข็งและเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว คือ สสส.ได้นำเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นคณะทำงาน เข้าร่วมโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดทักษะ และมีความรู้ ความสามารถ ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการการเตรียมพร้อมในการก้าวเข้าสูประชาคมอาเซียนในปี 2558 ด้วย



กรกช   ภูมี / สวท.อุบลฯ
สปข.2 รายงาน / 26 ต.ค.56

ธ.ก.ส.อุบลราชธานี คาด การรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/2557 จังหวัดอุบลราชธานี จะเริ่มประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน นี้ แต่ปริมาณจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลกระทบจากอุทกภัย

นางสาวสุวิมล  อรอินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยถึงการรับจำนำข้าวเปลือก ปีการผลิต 2556/2557  จังหวัดอุบลราชธานี น่าจะเริ่มในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน นี้ เนื่องจากเกษตรกรจะเริ่มทำการเก็บเกี่ยวผลผลิต ด้านคณะอนุกรรมการข้าวระดับจังหวัดได้มีการประชุมเตรียมพร้อมในเรื่องนี้แล้ว  ซึ่งในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนี้  กระทรวงการคลังเป็นผู้จัดสรรงบประมาณให้กับ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ นำมาจ่ายให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในลักษณะของเงินกู้

สำหรับการรับจำนำข้าวเปลือกในปีนี้ จะมีปริมาณมากหรือน้อย เท่าใดนั้น ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดอุบลราชธานี  กล่าวว่า ต้องมีการสำรวจให้แน่ชัดก่อน เนื่องจากหลายพื้นที่ของจังหวัดอุบลราชธานี  ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย  อย่างไรก็ตาม  การรับจำนำข้าวเปลือกจังหวัดอุบลราชธานี ในปีที่ผ่านมาไม่มีปัญหาแต่อย่างใด



กรกช   ภูมี / สวท.อุบลฯ
สปข.2 รายงาน / 26 ต.ค.56

จ.สุรินทร์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน และทอดผ้าป่าหนังสือสู่ชุมชน

วันนี้ (26 ต.ค. 2556) ที่บริเวณเวทีลานเชียงปุม อบจ.สุรินทร์ มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดมหกรรม "ร่วมการสร้างสวัสดิการการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัยและวัฒนธรรมผ้าป่าหนังสือสู่ชุมชน” ปีที่ 2 /2556 โดยมีนายณัฐพงษ์ สงวนจิตร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุรินทร์ นายธนธัช รุ่งธนเกียรติ รองนายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ ร่วมในพิธีเปิด ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการร่วมเสนอแนวคิดในการสร้างสวัสดิการการอ่านสำหรับเด็กปฐมวัย รวมทั้งได้มอบหนังสือให้แก่ชุมชน /โรงเรียนที่ขาดแคลน ได้หมุนเวียนให้เกิดการอ่านเพิ่มมากขึ้น

ด้านนางจันทร์เพ็ญ สินสอน ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน กล่าวว่า มูลนิธิเพื่อสุขภาพชุมชน แผนงานสร้างเสริมวัฒนธรรมการอ่าน สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประชาคมสุรินทร์สร้างสุข ได้ตระหนักถึงการอ่านหนังสือส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เร่งสร้างวัฒนธรรมการอ่านในสังคมสุรินทร์ตามนโยบายรัฐบาล ที่ให้การอ่านเป็นวาระแห่งชาติตามมติคณะรัฐมนตรี ปี 2552 จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐเอกชนที่เกี่ยวข้องและเครือข่าย 32 ชุมชนเทศบาลเมืองสุรินทร์ จัดงานดังกล่าวขึ้น โดยมีกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การแสดงนิทรรศการการเรียนรู้ การประกวดเขียนเรื่องเล่า "อ่านเพื่อเปลี่ยน” การประกวดคำขวัญของชุมชนและยังมีการประกวดบนเวที อาทิ การประกวดเล่าเรื่องจากการอ่าน จากหนังสือที่ชอบอ่าน การประกวด "แดนซ์อ่าน” ชิงเงินรางวัลมากมาย .



กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

ททท. หนุนการจัดประเพณีแข่งขันเรือยาว หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น

นางรุ่งทิพย์ บุกขุนทด ผู้ช่วยผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ กล่าวว่า หมู่บ้านส่วนใหญ่ของชาวจังหวัดสุรินทร์ ที่อาศัยอยู่ตามริมน้ำ มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสายน้ำ จึงมีวัฒนธรรมของท้องถิ่นที่ดีงามมากมาย โดยเฉพาะประเพณีการแข่งขันเรือยาวที่อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นสนามจัดการแข่งขันเรือยาวที่มีมาตรฐาน ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมงานเป็นจำนวนมาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงได้ส่งเสริมการจัดประเพณีแข่งขันเรือยาวขึ้นทุกปี โดยจัดสรรงบประมาณจำนวน 100,000 บาท สนับสนุนการจัดงานให้มีความยิ่งใหญ่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความสวยงามของลำน้ำมูล แหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้านช้างและสัมผัสวิถีชีวิตวัฒนธรรมของท้องถิ่น เป็นการประชาสัมพันธ์และกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวที่อำเภอท่าตูมและแหล่งท่องเที่ยวต่างๆภายในประเทศเพิ่มขึ้น

ผู้ช่วย ททท.สำนักงานสุรินทร์ กล่าวเชิญชวนนักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวชมงาน "ประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ” ประจำปี 2556 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 ตุลาคม 2556 ที่ ลำน้ำมูล บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เทศบาลตำบลท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ลำน้ำมูล สายน้ำที่เปรียบเสมือนสายเลือดใหญ่ของชาวอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ที่อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นชุมชนมาเป็นเวลาช้านานมากกว่า 100 ปี ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของความเป็นเมืองท่า อันมีความสำคัญด้านคมนาคมทางน้ำที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ สามารถเดินทางท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียง ได้อีกด้วย



กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ จัดประเพณีแข่งขันเรือยาว ชิงความเป็นหนึ่งแห่งสายน้ำมูล ประจำปี 2556

วันนี้ (26 ต.ค.) นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงาน "ประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน แข่งเรือปลอดเหล้า จังหวัดสุรินทร์” ประจำปี 2556 ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ อำเภอท่าตูม และเทศบาลตำบลท่าตูม จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 - 27 ตุลาคม 2556 ณ ลำน้ำมูล บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นและส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยพิธีเปิดในวันนี้ ได้จัดขบวนพาเหรด พิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทานบนหลังช้าง ขบวนพาเหรดวิถีชีวิตชุมชนคนท่าตูม จัดแสดงและจำหน่ายสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน จังหวัดสุรินทร์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานถ้วยรางวัลเรือชนะเลิศ ประเภทเรือใหญ่ 55 ฝีพาย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานถ้วยรางวัลเรือชนะเลิศ ประเภทเรือยาวกลาง 40 ฝีพาย, สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานถ้วยรางวัลเรือชนะเลิศ ประเภทท้องถิ่นเรือยาวกลาง 40 ฝีพาย และพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานถ้วยรางวัลเรือชนะเลิศ ประเภทเรือยาวเล็ก 30 ฝีพาย โดยในปีนี้ มีเรือจากทั่วสารทิศเข้าร่วมชิงชัยกว่า 30 ลำ



กิติวรรณ มณีล้ำ /ข่าว

ทหารพราน 2105 มุกดาหาร ไล่ล่ารถขนไม้พะยูงผิดกฎหมายรถเกิดเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทางเสียชีวิตและบาดเจ็บ

เกิดอุบัติเหตุรถทหารพราน 2105 มุกดาหาร ไล่ล่ารถขนไม้พะยูงผิดกฎหมาย ขณะแซงขึ้นหน้าได้มีรถยนต์สวนทางมาทำให้คนขับหักหลบกระทันหัน รถเสียหลักชนเสาไฟฟ้าข้างทาง เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บสาหัส 1 นาย บาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย ส่วนรถยนต์ขนไม้พะยูงหลบหนีไปได้

( 26 ต.ค.56)  เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. ที่ถนนบ้านหนองหอย-ป่าหวาย อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร  หลังจาก ร.อ.วรยุทธ คำสี ผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 2105 ได้รับแจ้งจากสายว่า ได้มีขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงผิดกฎหมาย จากอำเภอนิคมคำสร้อยมุกดาหาร เพื่อไปส่งให้กับนายทุนที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ภายในเขตพื้นที่ ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จึงได้สั่งการให้ สิบตรีวสันต์ อนุรักษ์ พร้อมอาสาสมัครทหารพราน จำนวน 4 นาย ตรวจสอบและสกัดการลักลอบขนไม้พะยูงดังกล่าว ณ บริเวณใกล้ 4 แยกชลประทานมุกดาหาร หรือ 4 แยกถนนเลี่ยงเมืองไปยังจังหวัดนครพนม

กระทั่งในช่วงเวลาดังกล่าวได้มีรถยนต์กระบะขนไม้พะยูง 2 คัน ตามที่สายรายงานวิ่งผ่านมา โดยสังเกตมีรถนำทางและรถคุ้มกัน 2 คัน ปิดหัวท้ายรถบรรทุกไม้ วิ่งผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญาณ เพื่อขอตรวจค้น แต่รถบรรทุกไม้ทั้ง 2 คัน ไม่หยุดกลับเร่งความเร็วเพื่อหลบหนี เข้าไปยังตัวเมืองมุกดาหาร ผ่าน 4 แยกไฟแดงเมืองใหม่ มุ่งหน้าไปตามถนนมุกดาหาร นครพนม ผ่านยูเทินด่านตรวจ 82 พรรษาตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร เลี้ยวขวาเข้าไปยังบ้านนาโป วิ่งไปตามถนนในหมู่บ้าน บ้านบางทรายใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร ก่อนวิ่งทะลุออกทาง 3 แยกร้านอาหารคะนองนา ไปยังบ้านโคกสูง ออกไปยังถนนบ้านหนองหอย-ป่าหวาย โดยมีเจ้าหน้าที่ได้ไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิด

จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุ บ้านหนองหอย ป่าหวาย ขณะที่เจ้าหน้าที่จะขับรถแซงขึ้นหน้า รถบรรทุกไม้พะยูง ได้มีรถยนต์วิ่งสวนมา จึงหักหลบกะทันหัน ทำให้รถเสียหลักลงข้างทางและตัวถังรถด้านคนขับไปกระแทกกับเสาไฟฟ้าแรงสูงที่อยู่ข้างทาง ทำให้สิบตรี วสันต์ อนุรักษ์ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 7 ตำบลป่าคม อำเภอ เชียงคาน จังหวัดเลย ซึ่งอยู่กระบะหลังกระแทกกับเสาไฟฟ้าตกจากรถเสียชีวิต และอาสาสมัครทหารพราน บัวลม จันทร์ราด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 3 ตำบลเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเลย ที่นั่งอยู่กระบะด้วย ได้รับแรงกระแทกกระดูกสันหลังส่วนเอวหัก ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนผู้ที่อยู่ในรถซึ่งมี อาสาสมัครทหารพราน อรชุน บุญตาม อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201 หมู่ที่4 ตำบลหนองทม อำเภอแก้งค้อ จังหวัดชัยภูมิ อาสาสมัครทหารพราน ทิวากร อาสาศรี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/19 หมู่ที่ 6 ตำบลนิคมคำสร้อย อำเภอนิคมคำสร้อยจังหวัดมุกดาหาร และอาสาสมัครทหารพราน กิตติศักดิ์ สุวาเพชร อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 หมู่ที่ 5 ตำบล คำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหารคนขับ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ใบหน้าและแขน จากการถูกกระจกบาด ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้นำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลมุกดาหาร ส่วนรถขนไม้พะยูง ได้อาศัยช่วงรถเจ้าหน้าที่เสียหลักลงข้างทางหลบหนีไปได้

และในเช้าวันนี้( 26 ต.ค.56) เวลา 09.00 น. พ.อ.ยุทธนา ม่วงพูลสวาท รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดมุกดาหาร ได้เดินทางไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลมุกดาหาร เพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับได้กล่าวว่า จะได้รายงานความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งชีวิตและทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่ไปให้ต้นสังกัดได้รับทราบและให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป 

ตำรวจมุกดาหารซ้อมแผนรับมือปล้นร้านทอง

ตำรวจมุกดาหารซ้อมแผนรับมือปล้นร้านทอง ในห้างใหญ่ เพื่อเพิ่มทักษะและประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ หากเกิดเหตุการณ์จริงสามารถแก้ปัญหาได้ทันท่วงที สร้างความอบอุ่นใจให้กับประชาชนและเจ้าของร้านจำหน่ายทอง

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2556 พ.ต.อ. อุกกฤษฎ์ ทรงชัยสงวน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองมุกดาหาร ได้จัดการซ้อมแผนรับมือปล้นร้านทองเสมือนจริง โดยจำลองสถานการณ์ ที่บริเวณห้างบิ๊กซี สาขามุกดาหาร มีคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนสั้นบุกเข้าจี้เจ้าของร้านทอง ก่อนที่จะโจรกรรมทองรูปพรรณภายในร้านไปได้หลายรายการ หลังจากได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้กระจายกำลังกันออกติดตามคนร้าย ตามรูปพรรณสัณฐานที่ได้รับแจ้ง พร้อมกับตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร้านจำหน่ายทองคำ

พ.ต.อ. อุกกฤษฎ์ ทรงชัยสงวน ผู้กำการสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร กล่าวว่า จากการซ้อมแผนในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ที่ให้แต่ละ สภ.ได้มีการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ในการเผชิญเหตุและสามารถปฏิบัติงานได้อย่างทันท่วงที กรณีการก่อเหตุรุนแรง ชิงทรัพย์หรือปล้นร้านทอง

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการตื่นตัว และวัดประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละฝ่าย ตลอดจนลดการสูญเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่และประชาชนหากเกิดเหตุการณ์จริง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากร้านทองในห้างดังกล่าวในซ้อมแผนในครั้งนี้และเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และหลังจากฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุครั้งนี้แล้ว จะสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานและความอบอุ่นใจในการป้องกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะเจ้าของร้านจำหน่ายทองคำ หลังจากที่มีข่าวคนร้ายบุกจี้-ปล้นร้านจำหน่ายทองคำในหลายจังหวัดอย่างต่อเนื่อง 

ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ มอบถุงยังชีพพระราชทานช่วยเหลือราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา

วันนี้ (26 ต.ค. 56) เวลา 10.00 น.  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นายวัลลภ พลอยทับทิม ประธานที่ปรึกษาและผู้ถวายงานโครงการสายใยรักฯเป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทานมามอบให้แก่ราษฎรที่กำลังประสบอุทกภัย จำนวน 1,000 ถุง ณ หอประชุมอำเภอชุมพวง อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ราษฎรที่กำลังประสบอุทกภัย ทั้งนี้ได้จัดให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทานในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร มาตรวจรักษาผู้ประสบอุทกภัยที่มีอาการเจ็บป่วย

อำเภอชุมพวง ได้เกิดอุทกภัย 2 ช่วง คือช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 26 ก.ย. 2556 ถึง 4 ต.ค. 2556 และช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 14 ต.ค. 2556 ถึง ปัจจุบัน ทำให้มีพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวน 9 ตำบล 107 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 2,117 คน และพื้นที่การเกษ๖รเสียหาย จำนวน 23,735 ไร่ โรงเรียนเสียหาย จำนวน 7 แห่ง วัดเสียหาย จำนวน 4 แห่ง และถนนชำรุดเสียหาย จำนวน 44 สาย 

โคราชเสริมผนังกั้นน้ำความยาวกว่า 500 เมตร ตลอดลำน้ำจักราช ป้องกันน้ำท่วมปราสาทหินพิมาย ขณะที่ รวช.คมนาคม ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย

วันนี้ (26 ต.ค.56) เวลา 11.00 น.  ที่องค์การบริหารส่วนตำบลธารละหลอด อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา นายพ้อง ชีวานันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะ ได้นำถุงยังชีพกระทรวงคมนาคม มามอบให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ ตำบลสัมฤทธิ์ และตำบลธารละหลอด อำเภอพิมาย จำนวน 500 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัย

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอพิมาย ขณะนี้ที่บริเวณตลาดสดเทศบาลเมืองใหม่พิมาย ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายพิมาย-ชุมพวง ได้มีน้ำจากลำน้ำจักราชไหลเข้าท่วมสูงประมาณ 30 ซม. ทำให้พ่อค้าแม่ค้าที่จำหน่ายสินค้าภายในตลาดสดต้องนำสินค้ามาวางจำหน่ายอยู่ริมถนนตลอด 2 ข้างทาง ซึ่งคาดว่าในวันที่ 27-29 ต.ค. นี้ ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นอีกกว่า 50 ซม. หลังจะมีมวลน้ำก้อนใหม่ไหลเข้ามาสมทบอีกในพื้นที่อำเภอพิมาย

ในส่วนการเตรียมความพร้อมรับมือมวลน้ำขนาดใหญ่ที่จากทางเหนือที่จะไหลลงมาสู่อำเภอพิมาย ในระหว่างวันที่ 27-29 ต.ค. นี้ ทางอำเภอพิมายได้มีการนำผนังกั้นน้ำสูง 1.50 เมตร มาวางเป็นแนวป้องกันน้ำตลอดลำน้ำจักราช ระยะทางกว่า 500 เมตร เพื่อป้องกันน้ำไหลเข้า สถานที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็น อุทยานปราสาทหินพิมายและสถานที่ราชการ ขณะที่ที่อุทยานปราสาทหินพิมาย ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวชมความสวยงามตามปกติ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่าทางภาครัฐจะป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้ามาท่วมในตัวปราสาทได้ เช่นเดียวกับทางอุทยานฯได้มีการจัดเตรียมเวทีเพื่อจัดงานแสดงแสงสีเสียง เทศกาลเที่ยวพิมาย ประจำปี 2556 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-10 พ.ย. 2556 นี้ 

จังหวัดนครราชสีมา จัดพิธีถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

เย็นวานนี้ (25 ต.ค.56) เวลา 16.00 น. ที่ วิหารวัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมาพระเทพรัตนดิลก เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา (ธรรมยุต) ประธานฝ่ายสงฆ์ นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานฝ่ายฆราวาส นำคณะพระภิกษุสงฆ์ สามเณร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ร่วมกันจัดงานพิธีถวายน้ำสรงพระศพ ต่อหน้าพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และร่วมกันตั้งจิตอธิฐานให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย ขณะที่ ข้าราชการ และประชาชน ต่างร่วมกันแต่งชุดไว้ทุกข์ เป็นเวลา 30 วัน ส่วนหน่วยงานราชการต่างๆ ได้ลดธงลงครึ่งเสา เป็นเวลา 3 วัน เพื่อถวายความไว้อาลัยในการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ดุริยางคศิลป์ มมส. จัดโครงการค่ายวัฒนธรรมสัญจรและมอบอาคารศูนย์เรียนรู้วัฒนธรรมฯ

วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดโครงการค่ายวัฒนธรรมสัญจร นิสิตอาสา พัฒนาแหล่งเรียนรู้ ทางด้านศิลปวัฒนธรรม ภายใต้ชื่อ สร้างงานศิลป์ ถิ่นอีสานพร้อมมอบอาคารศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมฯ

26-10-56 ที่โรงเรียนบ้านหวาย อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดโครงการค่ายวัฒนธรรมสัญจร นิสิตอาสา พัฒนาแหล่งเรียนรู้ ทางด้านศิลปวัฒนธรรม ภายใต้ชื่อ สร้างงานศิลป์ ถิ่นอีสานและมอบอาคารศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรม โดยมีนายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน ผศ.ปราโมท ด่านประดิษฐ์ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ออกค่าย ได้ยิ้ม ไปกับมูลนิธิอายิโนะโมโต๊ะ ที่สนับสนุนงบประมาณการก่อสร้างอาคารให้กับค่ายอาสาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศโดยในปีนี้เป็นปีที่ 2 ของโครงการ ซึ่งได้รับมอบเงินทุนและผลิตภัณฑ์สนับสนุนจากค่ายอาสาจำนวน 8 ค่าย เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท โดยจัดสร้างเป็นอาคารศูนย์การเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น

ด้านนายเทะสึยะ นาคะโนะ กรรมการและเหรัญญิกมูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ กล่าวว่าอาคารดังกล่าวจะเป็นสถานที่ ที่มีส่วนช่วยอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นและส่งเสริมการศึกษาแก่เด็ก เยาวชนและชาวบ้านต่อไป จากนั้นได้มอบโล่เกียรติคุณแก่ผู้ที่อนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคามและเปิดผ้าแพรคลุมป้ายศูนย์การเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นต่อไป



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

รองผู้ว่าฯมหาสารคาม ย้ายเป็นรองผู้ว่าฯเลย

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นำข้าราชการ แสดงความยินดีและร่วมส่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ย้ายไปเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เริ่มปฏิบัติราชการวันที่ 28 ตุลาคม นี้

(26-10-56) นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยนางพูลทรัพย์ สิงห์ศักดา นายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม นำบรรดาข้าราชการจังหวัดมหาสารคาม และคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ร่วมส่งนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม และนางปุณณภา ธนะจันทร์ รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดมหาสารคาม ในโอกาสที่ได้ย้ายไปปฏิบัติราชการในตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ท่านใหม่ที่จะมาแทน คือ นายอดุลย์ จันทนปุ่ม ปลัดจังหวัดมุกดาหาร

ทั้งนี้ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายรองผู้ว่าราชการจังหวัด โดยคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 684/2556 มีผลในวันที่ 28 ตุลาคม 2556



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

อัญเชิญผ้าพระกฐินพระราชทานทอดถวาย ณ วัดมหาชัย พระอารามหลวง จังหวัดมหาสารคาม

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ นายสุทธินันท์ บุญมี อัญเชิญผ้าพระกฐิน ไปทอดถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์ วัดมหาชัย พระอารามหลวง จังหวัดมหาสารคาม เพื่อพระราชทานถวายแด่พระสงฆ์ผู้อยู่จำพรร­ษาถ้วนไตรมาส

วันนี้ (26-10-56) เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เชิญผ้าพระกฐิน ไปทอดถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์ ณ วัดมหาชัย พระอารามหลวง จังหวัดมหาสารคาม เพื่อพระราชทานถวายแด่พระสงฆ์ผู้อยู่จำพรร­ษาถ้วนไตรมาส คือ พระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม เจ้าอาวาสวัดมหาชัย พระอารามหลวง โดยมีพระสงฆ์ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน และพิธีกฐินกรรม โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาว นักเรียน นักศึกษา จังหวัดมหาสารคาม ร่วมพิธี และร่วมบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย

ผ้าพระกฐินพระราชทาน คือ กฐินที่พระบาทสมเด็จพระอยู่หัว พระราชทานผ้าของหลวงแก่ผู้กราบ บังคมทูล ขอพ­ระราชทาน เพื่อนำไปถวายยังวัดหลวง เนื่องจากในปัจจุบันวัดหลวงมีจำนวนมาก จึงเปิดโอกาสให้กระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ตลอดจนคณะบุคคล องค์กร บริษัทห้างร้านต่างๆ ที่เห็นสมควรรับพระราชทานผ้ากฐินไปถวายแทน­พระองค์ และผู้ที่ได้รับพระราชทานผ้ากฐิน จะเพิ่มไทยธรรมเป็นส่วนตัว โดยเสด็จพระราชกุศลตามกำลังศรัทธาด้วยก็ได­้ และผู้ที่มีความประสงค์จะขอรับพระราชทานผ้ากฐินไปถวาย ณ วัดหลวงแห่งใดแห่งหนึ่งจะต้องจองกฐินไว้ล่­วงหน้าก่อน




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

จ.มหาสารคาม จัดพิธีถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ต่อหน้าพระฉายาลักษณ์

25-10-56 นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ประธานฝ่ายฆราวาส นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ พ่อค้า ประชาชนชาวมหาสารคามร่วมพิธีถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ ที่วัดมหาชัย พระอารามหลวง อําเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระองค์ท่าน

ตามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร ประชวน และเข้าประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นมา นั้น ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษารายงานว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้สิ้นพระชนม์ลงเมื่อเวลา 19.30 น. สาเหตุจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต หยั่งความเสียใจมาสู่ประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่ง



ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นนำชาวขอนแก่นทำพิธีสรงน้ำพระศพสมเด็จพระสังฆราช

วันนี้ (25 ต.ค. 2556) เวลา14.00 น. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต นำพระสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวขอนแก่นร่วมประกอบพิธีเจริญพุทธมนต์ถวายผ้าบังสกุล และพิธีสรงน้ำพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ที่วัดศรีจันทร์ พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้มาร่วมสรงน้ำพระศพได้ทุกวัน

จังหวัดขอนแก่นเปิดงานโรดโชว์นิทรรศการสร้างอนาคตไทย 2020 ของรัฐบาลภายใต้กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ลงทุนคมนาคม สร้างรายได้เชื่อมอาเซียน

นายชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานเปิดงานโครงการ "สร้างอนาคตไทย 2020” ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น  ในส่วนของการจัดงาน ประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 เป็นส่วนของการจัดนิทรรศการ แยกเป็น 2 ส่วน คือ เป็นนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟรางคู่ โครงการสร้างโครงข่ายถนน 4 เลน และนิทรรศการที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง จะได้รับประโยชน์จากโครงการของรัฐบาล ส่วนที่ 2 เป็นการจัดเสวนาและรับฟังความคิดเห็นจากคนในพื้นที่ ส่วนที่ 3 เป็นกิจกรรมสาระและบันเทิง มีการแข่งขันประกวดอาหารภูมิภาค เพื่อหาผู้ชนะเลิศไปแข่งขันระดับประเทศ เป็นผู้ประกอบอาหารปิ่นโตบนรถไฟความเร็วสูง และการทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงจำลอง พบกับดารา นักแสดงจากหลายค่าย และรับมอบของแจกของที่ระลึกจำนวนมาก ส่วนที่ 4 เป็นการจำหน่ายสินค้า OTOP จากทั่วประเทศ และสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดจากกระทรวงพาณิชย์ ในงานนี้นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ เชื่อมภาค เชื่อมชีวิต บูรณาการทุกทิศสู่ความเจริญ เป็นการเล่าถึงการกู้เงิน2 ล้านล้านบาทมาในการลงทุนด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศไทยซึ่งจะทำให้เมืองไทยพัฒนาไปสู่ความเจริญในทุกด้านเป็นการเริ่มต้นที่ดีเพื่ออนาคตลูกหลานของคนไทยนอกจากนั้นก็มีการเสวนาหัวข้อ กระจายความเจริญ ยุคทองอีสานผู้ร่วมเสวนานำโดยนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นางบุษบา จิราธิวัฒน์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทยและกก.ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บจ.เซ็นทรัลรีเทล คอร์เปอเรชั่น เวลา16.00น.พบกับศิลปินจากช่อง 7 นำทีมโดย สเตฟาน สำหรับวันที่26 ต.ค.2556 เวลา 11.00น.ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเดินทางมาร่วมชมการจัดงานในครั้งนี้ เวลา13.00น.จะมีการแข่งขัน จานด่วนไทยไปครัวโลก มีศิลปินชาวขอนแก่นจากช่อง 3 มาร่วมงานนำโดยโฬม พัชฏะ ช่วงเย็นเวลา 18.00น.ชมคอนเสิร์ต สีสัน ความสุข บุกทั่วไทย โดยศิลปิน แคทลิยา อิงลิช และวันที่ 27 ต.ค. เป็นคอนเสิร์ตจากกลุ่มศิลปินดาราช่อง 7 สีสัญจร ขบวนหรรษา ดาราพาลุย นำทีมโดย เคลลี่ ธนพัฒน์ เชียร์-ทิฆัมพร จังหวัดขอนแก่นจึงขอเชิญชวน ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน ผู้นำชุมชน กำนันผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน นักศึกษา ไปชมและร่วมงานนิทรรศการและการเสวนา "สร้างอนาคตไทย 2020” ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ระหว่างวันที่ 25 – 27 ตุลาคม 2556 นี้

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ หนุนตีคลีไฟ ของดี ของโบราณ หนึ่งเดียวในโลก ให้ติดตลาดการท่องเที่ยว

ผู้ว่าฯ ชัยภูมิ หนุนตีคลีไฟ ของดี ของโบราณ หนึ่งเดียวในโลก ให้ติดตลาดการท่องเที่ยว จัดใหญ่ เทศกาลตีคลีไฟถวายพระแม่คงคา ของชาวตำบลกุดตุ้ม อ.เมืองชัยภูมิ เจ้าของตำนาน ตีคลีไฟ หนึ่งเดียวในโลก จัดแสดงแสง สี เสียง และร่วมประเพณีลอยกระทง หวังยกระดับการละเล่นโบราณ หาดูได้ยาก ให้ติดตลาดการท่องเที่ยว ในอนาคต

นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ลงพื้นที่ตำบลกุดตุ้ม อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งมีชื่อเสียง และเป็นต้นตำรับ การละเล่นตีคลีไฟ หนึ่งเดียวในโลก นำหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบปะนายก และสมาชิก อบต.กุดตุ้ม และตัวแทนชาวบ้าน นักเล่นตีคลีไฟ พร้อมเปิดแถลง ความพร้อมในการจัดงาน ตีคลีไฟถวายพระแม่คงคา ซึ่ง จัดเป็นปีแรก ณ บริเวณวัดบ้านหนองเขื่อง ในระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน 2556 พร้อมจัดแสดง แสง สี เสียง ความเป็นมา และวิถีชีวิต กับ การละเล่นตีคลีไฟ ที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม อลังการ และร่วมประเพณีลอยกระทง ณ หนองเขื่อง หนองน้ำสาธารณะขนาดใหญ่ ประจำหมู่บ้าน

นอกจากนี้ ในช่วงของการจัดงาน ยังมีเวที รำวงย้อนยุค เดินชม และเลือกซื้อสินค้า ในตลาดย้อนยุค ซึ่งชาวบ้าน จะนำประจำสินค้าประจำท้องถิ่น ทั้งข้าวจี่ ส้มตำ คั่วหมี่ ข้าวโป่ง อ้อยควั่น ขนมครก ขนมฝักบัว ย่างเนื้อ หม่ำ ไส้กรอก มาวางจำหน่าย ชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ การจำหน่ายสินค้าธงฟ้า ราคาประหยัด และกิจกรรมอื่นๆอีกมากมาย เชื่อว่า กิจกรรม นี้ จะเป็นสิ่งที่ช่วยจุดประกาย เรื่องการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ของชาวตำบลกุดตุ้ม สู่สายตา นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป ได้รู้จักมากขึ้น อนาคตที่นี่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ชัยภูมิจัดพิธีถวายน้ำสรงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

เมื่อเวลา 13.30 น. วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 ที่ วิหารวัดทรงศิลา (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน และประชาชนในจังหวัด ประกอบพิธีถวายน้ำสรงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก หลังประชวร และเข้าประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2545 เป็นต้นมา ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษารายงานว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์ลง เวลา 19.30 น. สาเหตุเนื่องจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต ในโอกาสนี้ ได้ขอความร่วมมือข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน และประชาชนทั่วไปแต่งกายไว้ทุกข์ เป็นเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2556 ไปจนถึงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2556



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล/ข่าว

CP มอบเงินสนับสนุนนักกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิงชุดแชมป์เอเซีย 2013

นายฤกษ์ บุญยิ่งเหลือ ผู้จัดการฝ่ายธุรการ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัก (มหาชา) พร้อมคณะ ได้เดินทางมอบเงินสนับสนุนนักกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย ชุด แชมป์เอเชีย 2013 ที่จังหวัดนครราชสีมา เป็น จำนวนเงิน 500,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ โดยในการมอบเงินรางวัลสนับสนุนในครั้งนี้ได้มอบผ่านทาง นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายกิตติพงศ์ พงส์สุรเวท ประธาน สภา อบจ.นครราชสีมา

ปลอดประสพ รองนายกรัฐมนตรี ยืนยัน เขื่อนลำตะคองไม่ใช่สาเหตุน้ำท่วมโคราช ขณะที่ผู้ว่ามั่นใจสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.พิมาย และ อ.ชุมพวง ไม่รุนแรง เท่าปี 2553 เนื่องจากมีการจัดการน้ำที่ดี

วันนี้ (25 ต.ค. 56) เวลา 10.00 น.  นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บินสำรวจปริมาณน้ำภายในเขื่อนลำตะคอง อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ก่อนเข้ารับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำในเขื่อนและสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จาก ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ห้องประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา และนายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ให้การต้อนรับ

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการบินสำรวจปริมาณน้ำภายในเขื่อนลำตะคองพบว่าปริมาณน้ำยังไม่ได้เต็มความจุ และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยยืนยันว่าเขื่อนลำตะคองไม่ได้มีการระบายน้ำออกจากเขื่อนแต่อย่างใด เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนยังมีไม่เต็มความจุและยังสามารถรองรับน้ำได้อีกกว่า 50 ล้าน ลบ.ม ส่วนสาเหตุที่เกิดน้ำในลำน้ำลำตะคองล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน2ฝั่งลำตะคองนั้น เกิดจากน้ำฝนใต้เขื่อนลำตะคองทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองนครราชสีมา ขณะนี้คลี่คลายลงแล้ว

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอพิมายและอำเภอชุมพวง ซึ่งจะมีมวลน้ำไหลไปถึงในวันที่ 27 ตค นี้ ทางจังหวัดได้มีการตั้งศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้าแก้ไขปํญหาน้ำท่วม ได้มีการระดมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ กระสอบทราย และกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 จำนวน 100 นาย คอยให้การช่วยโดยเฉพาะสถานที่สำคัญ และโบราณสถานต่างๆไม่ให้เกิดน้ำท่วม ทั้งนี้ปริมาณน้ำในปีนี้มีปริมาณน้ำที่ใกล้เคียงกับปี2553 แต่ด้วยการบริหารจัดการน้ำและการป้องกันที่ดี ยืนยันว่าสถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้จะไม่รุนแรงเหมือนปี 2553 อย่างแน่นอน ประชาชนไม่ต้องวิตก

ล่าสุดจังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ จำนวน 31 อำเภอ จาก 32 อำเภอ 226 ตำบล 2,088 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 71,033 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 190,498 ไร่ ที่อยู่อาศัย 1,934 หลัง วัด 5 แห่ง สิ่งสาธารณะประโยชน์ 316 แห่ง บ่อปลา 65 แห่ง เสียชีวิต 5 คน ขณะที่สถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เขื่อนลำตะคอง มีปริมาณน้ำ 290.91 ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 92.5 ของความจุ 314.49 ล้าน ลบ.ม เขื่อนลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำ 121.40 ล้าน ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 116 ของความจุ 109.63 ล้าน ลบ.ม เขื่อลำมูลบน มีปริมาณน้ำ 154.16 ล้าน ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 109 จากความจุ 141 ล้าน ลบ.ม เขื่อนลำแชะ มีปริมาณน้ำ 308 ล้าน ลบ.ม คิดเป็นร้อยละ 116 จากความจุ 275 ล้าน ลบ.ม และเขื่อนลำปรายมาศ มีปริมาณน้ำ 99.54 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อย 102 จากความจุ 98 ล้าน ลบ.ม.

ขอเชิญร่วมสรงน้ำพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่จังหวัดนครราชสีมา

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา ได้รับแจ้งจากนางปรียาภรณ์ คูเกาะ นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครราชสีมา ว่า ตามแถลงการณ์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 9 แจ้งการสิ้นพระชนม์ ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 เวลา 19.30 น. คณะสงฆ์จังหวัดนครราชสีมา ได้กำหนดจัดพิธีสรงน้ำพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 เวลา 16.00 น. ณ วิหารวัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร อำเภอเมืองนครราชสีมา โดยมีพระเทพรัตนดิลก เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา (ธ) เป็นประธานในพิธี

จึงขอเชิญร่วมสรงน้ำพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 เวลา 16.00 น. ณ วิหารวัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา


สุวาพร/เรียบเรียง

จังหวัดมุกดาหาร จัดพิธีถวายน้ำสงฆ์พระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

วันนี้ ( 25 ตุลาคม 2556 ) เวลา 14.00 น. ที่ ศาลาการเปรียญวัดศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธี พร้อมส่วนราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร

รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 เวลา 19.30 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สาเหตุเนื่องจากติดเชื้อในกระแสพระโลหิต



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
พิพัฒน์ เพชรสังหาร/สุระณรงค์ อ่อนสนิท
ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ

ยโสธรจัดพิธีถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระสังฆราช

จังหวัดยโสธรจัดพิธีถวายน้ำสรงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วันที่ 25 ตุลาคม 2556 เวลา 15.00 น. ที่วัดมหาธาตุ พระอารามหลวง นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ พ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา องค์กรต่างๆ ร่วมพิธีถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก โดยพระราชรัตนกวี เจ้าคณะจังหวัดยโสธร เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศ เรื่อง สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก (เจริญ สุวฑฒโน) สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 ประชาชนชาวจังหวัดยโสธร มีความโทมนัสเป็นอย่างยิ่ง ที่สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก สิ้นพระชนม์ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้บำเพ็ญสรรพกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ยิ่งแก่บวรพระพุทธศาสนา และการปกครองคณะสงฆ์ในสังฆมณฑล ตลอดจน พุทธศาสนิกชนชาวไทยตลอดมา



วรรณทอง ภูโสภา
ส ปชส.ยโสธร / ข่าว

คณะสงฆ์จังหวัดร้อยเอ็ด และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

วันนี้ (25 ต.ค. 56) เวลา ๑๕.๓๐ น. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานในพิธีถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ ศาลาอเนกประสงค์ วัดบึงพระลานชัย ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระสงฆ์ หัวหน้าส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมในพิธี พิธีประกอบด้วยประธานฝ่ายสงฆ์จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย จากนั้น นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานฝ่ายฆราวาสจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยหน้าพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประธานฝ่ายสงฆ์ถวายน้ำสรงพระศพ ต่อด้วยคณะสงฆ์ และประธานฝ่ายฆราวาสถวายน้ำสรงพระศพ ต่อด้วยข้าราชการ ประชาชน ถวายน้ำสรงตามลำดับ



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
5 ต.ค.56 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมระบุกระทรวงคมนาคมจะใช้งบประมาณ 1,600 ล้านบาทเพื่อซ่อมแซมถนนที่เสียหายจากน้ำท่วม

นายพ้อง ชีวานันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดร้อยเอ็ดในโอกาสที่เดินทางไปตรวจสภาพถนนในสังกัดสำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดร้อยเอ็ดที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมวันนี้ (25 ต.ต.56) ว่า กระทรวงคมนาคมได้ให้สำนักงานทางหลวงชนบทจังหวัดทุกจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วมให้เร่งสำรวจสภาพถนนที่ชำรุดเสียหายหลังน้ำลด เพื่อจัดทำแผนบูรณะฟื้นฟู ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณในบูรณะซ่อมแซม จำนวน 1,600 ล้านบาท โดยกระทรวงคมนาคมจะได้ทำเรื่องของบประมาณที่รัฐบาล เพื่อของบกลางในการบูรณะฟื้นฟูถนนให้ใช้ได้ตามปกติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่า ในกรณีฉุกเฉินที่ท้องถิ่นไม่มีศักยภาพที่จะป้องกันหรือฟื้นฟูถนนที่ชำรุดเสียหาย ขอให้ทำเรื่องเข้ามาเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป



วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
24 ต.ค.45

คณะสงฆ์จังหวัดอำนาจเจริญพร้อมข้าราชการและพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าร่วมประกอบพิธีถวายน้ำสรงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร พระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก

จากการที่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก  ได้สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 เวลา 19.30 น. สาเหตุจากการติดเชื้อในพระกระแสโลหิต ยังความโศกเศร้าอาดูรแก่ พุทธศาสนิกชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า โดยที่จังหวัดอำนาจเจริญ สถานที่ราชการทุกแห่งได้มีการลดธงครึ่งเสา และร่วมกันแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีดำเพื่อเป็นการไว้ทุกข์ต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระญาณสังวร พระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก พระผู้นำสงฆ์ของไทยในครั้งนี้

และในเวลา 13.30 น. ทางจังหวัดอำนาจเจริญ โดยพระวิชัยมุนี เจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ ประธานฝ่ายสงฆ์ร่วมกับภาคราชการ โดยนายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ มอบหมายให้ นายอภิชาติ งามกมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  ประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยพระภิกษุสามเณร ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนชาวจังหวัดอำนาจเจริญทุกหมู่เหล่า ร่วมกันประกอบพิธีถวายน้ำสรงพระศพ ต่อหน้าพระรูปสมเด็จพระญาณสังวร พระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก ขึ้น ณ วัดสำราญนิเวศ (พระอารามหลวง) ตำบลบุ่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ อย่างสมพระเกียรติ ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยด้วยความโศกเศร้าอาลัยเป็นยิ่งนัก



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว

อุดรธานีจัดพิธีสรงน้ำพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพะสังฆราชฯ

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำคณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนชาวอุดรธานี จัดพิธีสรงน้ำพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก

ที่ศาลาบุญสิงห์ วัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ ( 25 ต.ค.56 ) จังหวัดอุดรธานี ได้จัดให้มีพิธีสรงน้ำพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก โดยมีพระราชวราลังการ เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี (ฝ่ายธรรมยุต) ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์พระอารามหลวงอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์ สามเณร ร่วมสักการะและสรงน้ำพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก และนายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีเป็นประธานฝ่ายฆราวาส นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ อัยการ ทหาร ตำรวจ พลเรือนและพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ร่วมสักการะและร่วมสรงพระศพสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพะสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เพื่อเป็นการร่วมไว้อาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ท่าน ตามที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร ประชวร และเข้าประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2545 เป็นต้นมา ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษรายานว่าสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ได้สินพระชนม์ลงเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 เวลา 19.30 น. สาเหตุเนื่องจากการติดเชื้อในกระแสพระโลหิต

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ( เจริญ สุวฑฺฒนมหาเถระ ปธ.9) สมเด็จพระสังฆราพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นบุตรคนที่ 1 ในจำนวนบุตร 3 คน ของนายน้อย และนางกิมน้อย คชวัตร เกิดที่บ้านวัดเหนือ ตำบลบ้านเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พุทธศักราช 2456 เวลา 04.00 น.เศษ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

เมื่อชนมายุได้ 8 ขวบ ได้เข้าศึกษาชั้นปฐม ณ โรงเรียนประชาบาลวัดเทวสังฆาราม จนจบชั้นประถม 3 ครั้นถึง ปีพุทธศักราช 2469 มีชนมายุย่างเข้าปีที่ 14 จึงได้เข้ารับบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดเทวสังฆาราม โดยมีพระครูอดุลสมณกิจ (ดี พุทธโชติ) เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อออกพรรษาแล้วได้ไปศึกษาวิชาบาลีไวยากรณ์ที่วัดเสนหา อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ระหว่างวันที่ 22 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน ปีพุทธศักราช 2499 สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พระราชอุปัธยาจารย์ ทรงเลือกสมเด็จฯ เป็นพระอภิบาล (พระพี่เลี้ยง) ของพระภิกษุพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในระหว่างที่ทรงผนวช และได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมวราภรณ์ รักษาการพระวินัยธรชั้นฎีกา ปีพุทธศักราช 2504 เป็นเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร สืบต่อจากพระพรหมมุนี (ผิน สุวโจ) ปีพุทธศักราช 2515 ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่สมเด็จพระญาณสังวร ปีพุทธศักราช 2532 ( 21 เม.ย.32 )ทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระญาณสังวร เป็นสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ที่ "สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก"



ทีมข่าว ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ข่าว/ภาพ