วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน และประชาชนเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ขอเชิญชมนิทรรศการ "THAILAND 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก” 6 – 30 มิถุนายน 2556 นี้ ที่ อาคารเรียนรวม มทร. (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน) อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา และร่วมแสดงความคิดเห็นได้ในเวทีเสวนา บ่ายวันที่ 6 มิถุนายน 2556 นี้ ที่ อาคารเรียนรวม มทร. (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน)

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การจัดนิทรรศการ "THAILAND 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก”จัดขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนและนักลงทุน เกี่ยวกับรายละเอียดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ ตามร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการ คมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาท โดยในวันเปิดงานนิทรรศการฯ ในวันที่ 6 มิถุนายน 2556 จะมีการประชุม/เสวนาทางวิชาการด้วย เพื่อรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวมทั้งประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ของประเทศ 2 ล้านล้านบาท

สำหรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง ของประเทศ 2 ล้านล้านบาทนี้ เป็นที่ทราบดีว่าภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าทัน สมัย ซึ่งหนึ่งในยุทธศาสตร์นั้น คือการพัฒนาระบบการขนส่งทางด้านการคมนาคม ที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเศรษฐกิจโลกกำลังเคลื่อนย้ายมาที่เอเชีย และประเทศไทยได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์จึงต้องมีการเตรียมพร้อมรองรับความ เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายลงทุน 2 ล้านล้านบาท เพื่อเป็นศูนย์กลางของระบบการขนส่งของภูมิภาค

การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้า ระบบเศรษฐกิจของประเทศที่ลดต้นทุนด้าน โลจิสติกส์ และลดการสูญเสียพลังงานทางด้านเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำความเจริญเติบโตขยายไปยังเมืองต่าง ๆ และสามารถทำให้ประชาชนเดินทางสัญจรไปมาได้สะดวกรวดเร็วและปลอดภัย มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น การลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่และสำคัญ จึงต้องมีการจัดงานนิทรรศการ THAILAND 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก เพื่อให้ประชาชนรับทราบเจตนารมณ์ในนโยบายการลงทุน เพื่ออนาคตของประเทศไทยและเพื่อลูกหลานไทยมีความมั่นคงอย่างยั่งยืนตลอดไป 

จังหวัดนครราชสีมา ประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดเพื่อติดตามผลการดำเนินงาน

วันนี้ (31 พ.ค. 56) เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้า มนุษย์จังหวัดนครราชสีมา


การประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการ ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดนครราชสีมา ในครั้งนี้ ได้แจ้งถึงแนวทางการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้า มนุษย์จังหวัด (ศปคม.จังหวัด) เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้า มนุษย์แห่งชาติและต่างประเทศ ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย การเฝ้าระวังและป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์ การปราบปรามและดำเนินคดี การคุ้มครองช่วยเหลือ การพัฒนากลไกเชิงนโยบายและขับเคลื่อน การพัฒนาและบริหารข้อมูล พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลการดำเนินงานและความคืบหน้า ส่งให้ฝ่ายเลขาคณะอนุกรรมการฯ เพื่อสรุปรายงานส่วนกลาง

สำหรับผลการดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2556 ไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 มีผู้เสียหายจาการค้ามนุษย์ที่ได้รับการช่วยเหลือ 164 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 154 คน และเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 126 คน อายุ 18-25 ปี 28 คน อายุ 36-45 ปี 8 คน อายุ 45 ปีขึ้นไป 2 คน ได้ให้การช่วยเหลือทางกฎหมาย 18 คน ให้การคุ้มครองสวัสดิภาพที่บ้านพัก 68 คน ส่งกลับภูมิลำเนา 34 คน ส่งกลับประเทศต้นทาง 2 คน สัญชาติไทย 89 คน ลาว 75 คน ส่วนมาเป็นค้าประเวณี 142คน ขอทาน 14คน บังคับใช้แรงงานหรือบริการ 8 คน

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธา รณภัยเขต5นครราชสีมาเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฟ้าผ่าจากสภาพอากาศที่แปรปรวน

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธา รณภัยเขต5นครราชสีมาเตือนประชาชนระวังอันตรายจากฟ้าผ่าจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ในช่วงฤดูฝน
 

นายวัลลภ เทพภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า จากสภาพอากาศที่แปรปรวนและมีลมมรสุมในช่วงนี้จึงอยากเตือนไปพี่น้องประชาชน ระวังอันตรายจากสภาพอากาศ ฟ้าผ่า และลมกรรโชกแรง เพื่อความปลอดภัยในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรงขอให้ประชาชนหลบ ในอาคาร ไม่หลบใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้างหรือป้ายโฆษณาขนาดใหญ่เพราะเสี่ยงต่อการถูกล้มทับ หลีกเลี่ยงการประกอบกิจกรรมกลางแจ้ง อยู่ให้ห่างสื่อนำไฟฟ้า งดใช้เครื่องมือสื่อสารและโทรศัพท์มือถือ หรือสวมใส่อุปกรณ์ที่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทั้งเงิน ทองแดง นาก ในที่โล่งแจ้ง ขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองเพราะจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดฟ้าผ่า รวมทั้งควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย ทั้งนี้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต5นครราชสีมา ได้เตรียมความพร้อมทั้งเครื่องมือและเจ้าหน้าที่ไว้คอยให้ความ ช่วยเหลือ รวมทั้งสายด่วนนิรภัย 1784 ไว้ 24 ชั่วโมง

จังหวัดนครราชสีมาประชุมซักซ้อมแผนระงับอัคคีภัยในอาคารสูง

วันนี้ (31 พ.ค. 56) ที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุม การฝึกซ้อมแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากอัคคีภัยในอาคารสูงและอาคารขนาด ใหญ่ ระดับกลุ่มจังหวัด 45 จังหวัดอีสานตอนล่าง ประกอบด้วยจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และนครราชสีมา ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา ร่วมกับ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเสริมสร้างทักษะให้เจ้าหน้าที่สามารถปฎิบัติการระงับเหตุและช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการเตรียมความพร้อมให้ประชาชนในพื้นที่ได้เรียนรู้วิธีการ ปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยกรณีเกิดเพลิงไหม้อาคารขนาดใหญ่ ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับการประชุมฝึกซ้อมแผนป้องกันและระงับอัคคีภัยในอาคารสูงและอาคารขนาด ใหม่ในครั้งนี้ได้มีการจำลองเหตุการณ์เกิดเพลิงไหม้อาคารผู้ป่วยในของโรง พยาบาลค่ายสุรนารีในช่วงเวลากลางคืนจนต้องประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยและระงับเหตุเพลิงไหม้จามขั้น ตอนที่กำหนดไว้ทั้งนี้การฝึกซ้อมในครั้งนี้เป็นการบูรณาการหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องและเตรียมความพร้องของเจ้าหน้าที่ เครื่องมืออุปกรณ์ด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจาดอัคคีภัยและสารเคมี ซึ่งจะเป็นการพัฒนาทักษะในการระงับเหตุและการช่วยเหลือ อพยพผู้ประสบภัยแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จังหวัดนครราชสีมา แถลงข่าวการจัดนิทรรศการ Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก

ที่ห้องประชุมสำนักงานทางหลวงที่ 8 นครราชสีมา ดร.วินัยบัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายอดุลย์เชาว์วาทิน ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงที่ 8 นครราชสีมา และนายสมบูรณ์ชัยศิรินิรันดร์ ผู้อำนวยการสำนักทางหลวงชนบทที่ 5 นครราชสีมา ร่วมแถลงจัดนิทรรศการ " Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก ” กำหนดจัดระหว่างวันที่ 6 -30 มิถุนายน โดยใช้สถานที่ อาคารเรียนรวม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.เมือง นครราชสีมา ภายในงานการมีจัดเสวนาทางวิชาการและร่วมกิจกรรมบนเวทีกลาง เลือกชมและเลือกซื้อสินค้า OTOP และสินค้าธงฟ้าราคาประหยัด ซึ่งจะมีพิธีเปิดงานในวันที่ 6 มิถุนายน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในพิธี
 

ด้านดร.วินัยบัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สำหรับการจัดนิทรรศการThailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่โลก ซึ่งจะจัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 6-30 มิถุนายน 2556 จะเป็นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับแผนการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคม ขนส่ง พ.ศ.2556-พ.ศ.2563 โดยเฉพาะโครงการด้านคมนาคมขนส่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น โครงการรถไฟทางคู่ โครงการรถไฟความเร็วสูงสายกรุงเทพ-นครราชสีมาโครงข่ายทางหลวงเชื่อมโยง ระหว่างประเทศ 7 โครงการ 5 จังหวัดโครงการบูรณะทางหลวงสายหลักระหว่างภาค ใน 4 จังหวัด จำนวน 18 โครงการ และโครงการอื่นๆ จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา และใกล้เคียงร่วมชมนิทรรศการ Thailand 2020 ก้าวใหม่เชื่อมไทยสู่สากล ระหว่างวันที่ 6-30 มิถุนายน 2556 ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา

กระทรวงการพัฒนาสังคมฯออกหน่วยบริการประชาชนในวันต่อต้านการค้ามนุษย์ที่บุรีรัมย์

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ออกหน่วยบริการทางสังคมและงานวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ที่จังหวัดบุรีรัมย์

วันนี้ (31 พ.ค. 56) ที่องค์การบริหารส่วนตำบลนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดโครงการออกหน่วยบริการทางสังคม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และงานวันรณรงค์ต่อต้านการค้า มนุษย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำปี ๒๕๕๖ เพื่อนำบริการสวัสดิการสังคมต่างๆของกระทรวง และเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชนในจังหวัดมาบูรณาการในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทุกข์ยาก และเดือดร้อนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ในรูปแบต่างๆ เพื่อปลุกกระแสให้ประชาชนในพื้นที่มีความตื่นตัวในการช่วยป้องกันและแจ้ง เบาะแสการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะการให้บริการศูนย์ช่วยเหลือทางสังคม (OSCC) ตลอดจนการสาธิตอาชีพจากกระทรวงแรงงาน บริการตรวจสุขภาพ จากกระทรวงสาธารณสุข ร่วมด้วย

ในการนี้ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ยังได้ตรวจเยี่ยม โครงการศูนย์ ๓ วัย สานสายใยรักนางรองในพระบรมราชูปถัมภ์ฯ พร้อมทั้งมอบรถเข็นนั่งพระราชทานแก่ด.ญ.อุไรศณี ต่างประเทศ มอบทุนการศึกษาแก่โรงเรียนด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิต และโล่รางวัลแก่สถานรับเลี้ยงเด็กเอกชนดีเด่น อาสาสมัครดีเด่น รวมถึงทุนการศึกษาและทุนสงเคราะห์แก่ผู้พิการและผู้ยากไร้อีกด้วย




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดบุรีรัมย์

เปิดถนนเด็กเดิน พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อเด็กและเยาวชนมหาสารคาม

จังหวัดมหาสารคาม เปิดพื้นที่บางส่วนของตลาดไนท์บาซ่า ให้เป็นถนนเด็กเดิน เพื่อสร้างกิจกรรม ร้อง เล่น เต้น โชว์ เป็นเวทีสร้างสรรค์ สำหรับเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม

พื้นที่บางส่วน ของตลาดไนท์บาซ่า อำเภอเมืองมหาสารคาม ถูกจัดให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก และเยาวชน ถนนเด็กเดินจังหวัดมหาสารคาม ครั้งที่ 1 ซึ่งสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม พร้อมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด มหาสารคาม ตลอดจนเครือข่ายภาคประชาชน และภาคเอกชน ได้เปิดพื้นที่ ร้อง เล่น เต้น โชว์ สำหรับเด็กและเยาวชนจังหวัดมหาสารคาม โดยมีทั้งการแสดงบนเวที การวาดภาพ ระบายสี การเขียนความฝันบนต้นไม้หัวใจ นิทรรศการและการเล่นเกมส์ที่หลากหลาย

นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า กิจกรรมสร้างสรรค์ถนนเด็ก เป็นการสนับสนุนและระดมพลังเยาวชนสร้างพื้นที่ที่ดี เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้มาใช้ประโยชน์ร่วมกัน สร้างพัฒนาการตั้งแต่วัยเด็กและสร้างความอบอุ่นในครอบครัว โดยที่โครงการวิจัย Child Watch สถาบันรามจิตติได้ศึกษาสถานการณ์เด็กไทยทั่วประเทศ พบว่าจังหวัดมหาสารคาม เป็นจังหวัดที่มีระบบคุ้มครองเด็กดี จึงพร้อมสนับสนุนการสร้างพื้นที่ที่ดีสำหรับเด็กให้มากขึ้นในจังหวัด มหาสารคาม

กิจกรรม ร้อง เล่น เต้น โชว์ ในถนนเด็กเดิน กำหนดจัดเดือนละ 1 ครั้ง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-กันยายน 2556 รวม 5 ครั้ง หมุนเวียนจัดใน 5 อำเภอนำร่อง คือ อำเภอเมืองมหาสารคาม เป็นพื้นที่ดำเนินการหลักร่วมกับอำเภอกันทรวิชัย อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย เป็นพื้นที่ดำเนินการหลัก ร่วมกับอำเภอยางสีสุราช และ อำเภอนาดูน อำเภอแกดำ เป็นพื้นที่ดำเนินการหลัก ร่วมกับอำเภอวาปีปทุม อำเภอเชียงยืนเป็นพื้นที่ดำเนินการหลักร่วมกับอำเภอชื่นชมและอำเภอโกสุม พิสัย และอำเภอนาเชือก เป็นพื้นที่ดำเนินการหลัก ร่วมกับอำเภอบรบือและอำเภอกุดรัง



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามเตรียมจัดงานราตรีแห่งดาวสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามครั้งที่ 1

สโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามเตรียมจัดงานราตรีแห่งดาวสโมสรไลออนส์ จังหวัดมหาสารคาม ครั้งที่ 1 พร้อมประกาศรายชื่อคณะกรรมการบริหารสโมสรฯ ปี 2556-2557

31-05-56 ที่ห้องประชุมโรงแรมยัวเพลส อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคามสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามจัดงานแถลงข่าวการจัดงานราตรี แห่งดาวสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคาม ครั้งที่ 1 พร้อมกับประกาศรายชื่อคณะกรรมการบริหารสโมสรฯ ปี 2556-2557 โดยมีนายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงานพร้อมบรรยายพิเศษเรื่องบทบาทขององค์กรเอกชนที่มีส่วนช่วย เหลือสังคม แนวคิดและแนวทางการทำงานสังคมแบบมีส่วนร่วม 

ไลออน แพทย์หญิง ดร.กัญญา เกตุบรรลุ อุปนายกสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามกล่าวว่า สโมสรไลออนส์เป็นองค์กรการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นองค์กรหนึ่งที่มี ประสิทธิภาพที่สุดทางด้านการบริการสังคมและเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นต่อการ บริการสังคม ช่วยเหลือผู้ด้วยโอกาสไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือคนตาบอด ผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นหรือการช่วยเหลือเยาวชนผู้ด้อยโอกาสรวมไป ถึงกิจกรรมต่างที่สโมสรได้จัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ของเยาวชน และกิจกรรมด้านอื่นๆ อีกมากมายเพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของสโมสรไลออนส์คือเพื่อสร้างสรรค์ และผดุงไว้ซึ่งความเข้าใจอันดีระหว่างมนุษยชาติของโลก ส่งเสริมหลักธรรมของรัฐบาลที่ดีและการเป็นพลเมืองที่ดี ให้ควมร่วมมือในงานสวัสดิการสงเคราะห์ของท้องถิ่นทั้งในด้านกิจการสารธารณะ วัฒนธรรม สังคมและศีลธรรมจรรยา การจัดงานแถลงข่าวในครั้งนี้ประกอบด้วยการประกาศรายชื่อของคณะกรรมการบริหาร สโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคาม ปีบริหาร 2556-2557 โดยในปีนี้นายปฏิมา เหล่าชัย ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำนายกสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคาม

ในโอกาสเดียวกันนี้ยังได้ร่วมแถลงข่าวการจัดงานราตรีแห่งดาวสโมสรไลออนส์ ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นการจัดแฟชั่นโชว์ผ้าไทยในเอกลักษณ์ของจังหวัดมหาสารคาม พร้อมกับชมการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดยูนิฟอร์มของสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคาม โดยนายธนาคาร แสงอรุณ แมคยีนส์ปีล่าสุดและนางสาวอัลดา กุลาสา นางสาวมหาสารคามประจำปี 2556  


นายปฏิมา เหล่าชัย นายกสโมสรไลออนส์จังหวัดมหาสารคามรับเลือกตั้งกล่าวว่า การจัดแฟชั่นโชว์ดังกล่าวได้รับเกียรติจากคุณนาตาลี เกลโบวา นางงามจักรวาล มาร่วมแสดงผ้าไทยในเอกลักษณ์ของจังหวัดมหาสารคามและร่วมชมคอนเสิร์ตโดยคุณสุ นารี ราชสีมา และนักร้องกิตติมศักดิ์ของจังหวัดมหาสารคาม ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา มหาลัยราชภัฎ มหาสารคาม จองบัตรได้ที่ห้องเสื้อปฏิมา หมู่บ้านเฮาควอลิตี้เฮาส์ ตำบลตาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม โทร 043-710841,081-1712977


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคามเปิดตัวรายการ “บอกเล่าข่าวกองทุนสตรีสารคาม”

สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดมหาสารคาม เปิดตัวรายการ "บอกเล่าข่าวกองทุนสตรีสารคาม” เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ความเคลื่อนไหวของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดมหาสารคาม

นายธาดา กิจชัย หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน สำนักงานชุมชนจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ขณะนี้จังหวัดมหาสารคามได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามและสนับสนุนการ ดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีผู้แทนภาคราชการ ภาคเอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิในจังหวัดฯ รวม 15 คนเป็นกรรมการ โดยที่จังหวัดมหาสารคามได้รับงบประมาณดำเนินโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จำนวน 100 ล้านบาท ขณะงบประมาณดังกล่าวได้โอนมาที่จังหวัดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งความคืบหน้าดังกล่าว ตลอดจนข้อมูล ข่าวสารที่เกี่ยวกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดมหาสารคาม จะมีการเผยแพร่ผ่านสื่อวิทยุกระจายเสียง โดยความร่วมมือของ คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดมหาสารคาม และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดมหาสารคาม ที่ได้ให้เวลาในการออกอากาศประชาสัมพันธ์ โดยชื่อรายการว่า "บอกเล่าข่าวกองทุนสตรีสารคาม” ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 10.35-11.00 น. ทางระบบ เอฟเอ็ม 106.50 เมกกะเฮิร์ซท์ โดยจะเริ่มในเดือนมิถุนายน 2556 นี้

จังหวัดมหาสารคาม ได้รับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินโครงการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจำนวน 100 ล้านบาทและกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดได้โอนงบประมาณให้โครงการที่ได้รับ อนุมัติแล้วเป็นเงิน 11,019,012 บาท จาก 370 โครงการ สำหรับจำนวนสมาชิกกองทุนฯ จนถึงเดือนเมษายน 2556 มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 164,432 คน และกำลังเปิดรับสมัครอยู่ จึงขอเชิญชวนสตรีไทย อายุ 15 ปีขึ้นไปสนใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกกองทุนฯ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์/โทรสาร 043-777351 หรือสมัครได้ที่เว็บไซต์ http://www.womenfund.in.th




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

เตรียมเปิดเวที ‘พูดจาหาทางออกประเทศไทย’ 108 เวทีทุกจังหวัด มิ.ย. - ก.ค. 56

เตรียมเปิดเวที ‘พูดจาหาทางออกประเทศไทย’ 108 เวทีทุกจังหวัด มิ.ย.-ก.ค. 56 หวังถกปัญหาลดขัดแย้งชาติ ‘ปลัดสำนักนายกฯ’ ไม่หวั่นฝ่ายการเมืองจะนำไปหาประโยชน์ ย้ำมีสิทธิสานต่อโครงการทุกกลุ่ม

ศ.พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการประสานงานและติดตามผลฯ ปคอป. กล่าวว่า การจัดเวที ‘พูดจาหาทางออกประเทศไทย’ เพื่อจุดมุ่งหมายในการหาแนวทางที่สร้างสรรค์ในการลดความขัดแย้งในไทยที่เกิด ขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีความซับซ้อนอย่างสันติวิธี ซึ่งจะดำเนินการ 108 เวทีทั่วประเทศ ใน 76 จังหวัด จังหวัดละ 1-3 เวที ตามขนาดของพื้นที่ รวม 105 เวที และกทม. อีก 3 เวที ตั้งแต่เดือนมิ.ย.-ก.ค. 56 โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมราว 80,000-100,000 คน ซึ่งเป็นตัวแทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ ภาคเกษตร ภาคแรงงาน ภาคอุตสาหกรรม การบริการและการค้า เจ้าหน้าที่ของรัฐ แพทย์ พยาบาล นักเรียน นักศึกษา นักวิชาการ ผู้นำชุมชน องค์กรภาคประชาชน ภาคการเมือง ผู้นำศาสนา สื่อมวลชน ตามสัดส่วนที่เหมาะสม คิดเป็นร้อยละ 75 สำหรับอีกร้อยละ 25 จะมาจากการสมัครเข้าร่วมเวทีของประชาชนที่สนใจจะเข้ามามีส่วนร่วมแสดงความ คิดเห็น แต่หากมีผู้สมัครเกินจำนวนจะใช้วิธีจับสลาก ทั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากนักวิชาการในสถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ เป็นที่ปรึกษา
          ปลัดสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า หลังจากดำเนินโครงการฯ เสร็จสิ้น จะใช้ระยะเวลาในการรวบรวมข้อคิดเห็นทั้งหมดราว 1 เดือน ก่อนจะนำเสนอรายงานต่อปคอป.และสาธารณะต่อไป เพื่อสังคมจะได้นำไปตกผลึกเป็นแนวทางแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าข้อคิดเห็นจาก 108 เวทีจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่ทุกคนต้องเห็นด้วย แต่หากมองในแง่บวกผลจากเวทีนี้จะไม่สูญเปล่า เพราะถือเป็นโอกาสที่ประชาชนจะได้เข้ามาเรียนรู้กระบวนการแก้ไขปัญหาบนพื้น ฐานสันติวิธี

สำหรับโอกาสที่จะนำความคิดเห็นทั้งหมดดำเนินการให้เป็นรูปธรรมนั้น ผมจะต้องรายงานให้ปคอป.ทราบว่าประชาชนมีความเห็นอย่างไร แต่จะปฏิบัติได้หรือไม่ ตอนนี้อาจจะเร็วเกินไปที่จะตอบ เพราะยังไม่ทราบว่าข้อเสนอจะมีลักษณะอย่างไร ศ.พิเศษ ธงทอง กล่าวอีกว่า ส่วนข้อกังวลว่าฝ่ายการเมืองจะนำความคิดเห็นของประชาชนไปใช้ประโยชน์เพื่อ หวังผลทางการเมืองนั้น คงไม่เฉพาะฝ่ายการเมือง แต่หวังว่าทุกฝ่ายจะหยิบยกไปใช้ประโยชน์ในเมืองไทย โดยจะไปหวงห้ามว่าไม่ให้นำไปใช้ จะทำไม่ได้ ที่สำคัญการทำรายงานแล้วขึ้นหิ้งไว้คงไม่คุ้มประโยชน์ที่จะจัดเวทีนี้ นอกจากนี้ยังกล่าวถึงข้อกังวลการจัดเวทีครั้งนี้กำลังสวนทางกับการเดินเกม ผลักดันพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และพ.ร.บ.ปรองดองแห่งชาติของฝ่ายการเมืองว่า การจัดทำเวทีไม่มีคำตอบสุดท้ายว่าใช่หรือไม่ใช่ และไม่มีสิทธิห้ามใครเคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะทุกคนอยู่ในระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นจึงมีกลไก ความรับผิดชอบตามสิทธิและหน้าที่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลการศึกษาที่ได้จากเวทีนี้จะสร้างประโยชน์กับประเทศในระยะยาว


เวทีพูดจาหาทางออกประเทศไทย เป็นกิจกรรมที่เปลี่ยนชื่อจาก เวทีเสวนาหาทางออกประเทศไทย โดยได้รับงบประมาณตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 19 มี.ค. 56 จำนวน 77.9 ล้านบาท ซึ่งมีคณะที่ปรึกษาทางวิชาการเพื่อการจัดทำเวทีประชาเสวนา ได้แก่ 1.รศ.อัษฎางค์ ปาณิกบุตร อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง, ศ.ดร.นันทวัฒน์ บรมานันท์ คณะนิติศาสตร์ จุลาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ มรภ.สวนดุสิต, รศ.ยุทธพร อิสรชัย สาขาวิชารัฐศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช, รศ.ภาณินี กิจพ่อค้า สาขาวิชานิติศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช, ดร.วรรณภา ติระสังขะ คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, อาจารย์พงศ์จิรา เชิดชู สาขาวิชานิติศาสตร์ ม.สุโขทัยธรรมาธิราช และผศ.ดร.ชลวิทย์ เจียรจิตต์ คณะสังคมศาสตร์ มศว.ประสานมิตร ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมเเสดงความคิดเห็นต่อเเนวทางสร้างความปรองดองเเละเเก้ป ัญหาประเทศ สามารถเข้าดูรายละเอียดได้ที่ www.tangork-thailand.com

ปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่มหาสารคาม 20 - 26 พ.ค. 56 ไม่มีฝนตก

ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเติมน้ำลงในอ่างเก็บน้ำ พื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 20-26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผลการปฏิบัติไม่มีฝนตกในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ขณะที่อุตุฯคาด สัปดาห์นี้ จะมีฝนร้อยละ 30-40 ของพื้นที่

นายพัฒนา นุศรีอัน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้รายงานผลการปฏิบัติการฝนหลวงของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเติมน้ำลงในอ่างเก็บน้ำ ต่าง ๆ ของพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 20-26 พฤษภาคม 2556 โดยได้ขึ้นบินปฏิบัติการในช่วงวันดังกล่าว จำนวน 1 วัน รวม 2 เที่ยวบิน ใช้ระยะเวลา 2.40 ชั่วโมง ผลการปฏิบัติการฝนหลวงไม่มีฝนตกในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม

อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีการคาดหมายลักษณะอากาศในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคม- 6 มิถุนายน ว่าจะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย 25-37 องศาเซลเซียส .




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ยโสธรออกตรวจประเมินร้านรับซื้อของเก่าสีเขียว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 พฤษภาคม 2556 จังหวัดยโสธร คณะกรรมการออกตรวจประเมินร้านรับซื้อของเก่าสีเขียว โดยการนำของ นายประเดิม ภาคแก้ว นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมการจัดการสิ่งแวดล้อมภาคที่ 12

สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 12 อุบลราชธานี ร่วมกับสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยโสธร ได้ดำเนินการกิจกรรมตามโครงการร้านรับซื้อของเก่าสีเขียว ประจำปี 2556 ในพื้นที่จังหวัดยโสธร โดยมีผู้ประกอบการร้านรับซื้อของเก่า ได้แจ้งความประสงค์สมัครเข้าร่วมโครงการ จำนวน 15 ร้าน ซึ่งร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นร้านที่ได้รับใบอนุญาตกิจการขายทอด ตลาดและค้าของเก่า เพื่อให้ตรงตามวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมสนับสนุนร้านรับซื้อของเก่าให้มี ระบบการจัดการที่ดี ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม การให้ความสำคัญด้านความสะอาด สุขอนามัยที่ดีของลูกจ้าง และความปลอดภัยในภาพรวมให้กับร้านรับซื้อของเก่า

สำหรับจังหวัดยโสธร ได้ประเมินร้านรับซื้อของเก่าสีเขียว ครั้งที่ 1 ปรากฎว่า มีร้านรับซื้อของเก่าที่ ผ่านเกณฑ์ระดับพื้นฐานอยู่ จำนวน 5 ร้าน ได้แก่ ร้านทวีคูณ ร้านเจริญโชค ร้านวงษ์พาณิชย์ยโสธร ร้าน ต.บัณฑิตทรัพย์ และร้านวงษ์พาณิชย์ สาขาทรายมูล ซึ่งทั้ง 5 ร้านที่ผ่านการตรวจประเมินครั้งที่ 1 เห็นควรปรับปรุงในด้านอาชีวะอนามัยและความปลอดภัย และด้านการดำเนินงานเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งได้ให้คำแนะนำข้อควรปฏิบัติที่ถูกต้อง ปลอดภัย ให้แก่ผู้ประกอบการรับซื้อของเก่านำไปปรับปรุง แก้ไขแล้ว


ซึ่งครั้งนี้ เป็นการตรวจประเมินร้านซื้อของเก่าสีเขียว ครั้งที่ 2 รางวัลสำหรับร้านรับซื้อของเก่าสีเขียวที่ผ่านการตรวจประเมิน จะได้รับโล่รางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัล จากกรมควบคุมมลพิษ คือ ระดับดีเยี่ยม ได้รับโล่รางวัล และเงินรางวัล 5,000 บาท, ระดับดี ได้รับโล่รางวัล และเงินรางวัล 3,000 บาท และระดับพื้นฐาน ได้รับ

ร้อยเอ็ดจัดเวทีสรุปบทเรียนการดำเนินงานแลการจัดแผนงาน เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2556

รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติ การเวทีสรุปบทเรียนการดำเนินงานและการจัดทำแผนโครงการขับเคลื่อนร้อยเอ็ดสู่ การเป็นจังหวัดน่าอยู่ที่สุด

ด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกับสำนักงานกิงทุนสนับสนุนสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ภายใต้  "โครงการขับเคลื่อนร้อยเอ็ดสู่การเป็นจังหวัดน่าอยู่ที่สุด ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานต้องมีการบูรฯการความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยการสร้างขบวนการขับเคลื่อนและผลักดันให้ร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดน่าอยู่ที่สุด ที่มีคุณลักษณะที่สำคัญคือ "ร้อยเอ็ดจังหวัดน่าอยู่ ส่งเสริมการขาย สร้างและกระจายรายได้ ผลิตสินค้ามาตรฐาน สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น อนุรักษ์พันธุ์ข้าวพื้นบ้าน มีมากพื้นที่เกษตรปลอดภัยขยายเครือข่ายเด็กและเยาวชน ส่งเสริมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง สวัสดิการคลอบคลุมชุมชนร่วมรับประโยชน์ รักษ์ป่าสร้างร้อยเอ็ดเมืองสีเขียว การเมืองภาคพลเมืองเข้มแข็ง เกิดสุขภาวะประชาธิปไตยชุมชน เพิ่มทุนทางปัญญา ค้นหาปราชญ์ท้องถิ่น ทำกินถิ่นบ้านเกิด” โดยมีความคลอบคลุมในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เข้าร่วมในกระบวนการในเครือข่าย ประเด็น คือ เครือข่ายเศรษฐกิจชุมน ป่าชุมชน เกษตรกรรมยั่งยืน สวัสดิการชุมชน พัฒนาครอบครัว  เด็ก เยาวชน  พัฒนาประชาธิปไตย และต้นทุนทางปัญญา  พร้อมทั้งมีการพัฒนาเป็นนโยบายสาธารณะของจังหวัด อันจะส่งผลให้เกิดกระบวนการจัดการความรู้ที่เป็นการเสริมพลังปฏิบัติการพื้นที่ทั้ง 20 อำเภอได้
 

 
บุญมี  เพ็งรัตน์/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บรรณาธิการข่าว

31 มี.ค. 56   

ร้อยเอ็ดอบรมสมาชิกวิสาหกิจชุมชน โดยการเพิ่มศักยภาพการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวหอมมะลิ

วันที่ 31 พ.ค. 2556  เวลา 10.00 น. นายพศิน  โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นปรานเปิดการอบรมสมาชิกวิสาหกิจชุมชน โดยการเพิ่มศักยภาพการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มข้าวหอมมะลิที่โรงแรมเพชรรัตน์การ์เด้น การส่งเสริมการเพิ่มศักยภาพการผลิต การตลาด ละสร้างมูลค่าเพิ่มของผลผลิตข้าวหอมมะลิ และปัจจุบันจังหวัดร้อยเอ็ด มีวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับการจดทะเบียนแล้ว 3,349 แห่งมีสมาชิก 73,472 รายและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน จำนวน 4 แห่ง มีสมาชิก 117 ราย ซึ่งมากที่สุดในประเทศไทย

จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดแรก และปัจจุบันยังเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีวิสาหกิจชุมชน ตั้งโรงงานผลิตแป้งข้าวหอมมะลิเพื่อทดแทนแป้งข้าวสาลีที่ต้องสั่งเข้ามาจากต่างประเทศ แป้งข้าวหอมมะลิร้อยเอ็ดสามารถนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ขนม ในรูปแบบต่างๆเพิ่มเป็นการเพิ่มมูลค่าผลผลิตข้าวหอมมะลิให้สูงขึ้น และเป็นการสร้างงาน และสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดอย่างมากมาย และมีแนวโน้มจะขยายออกไปสู่ต่างจังหวัด และในระดับประเทศต่อไป


 
บุญมี  เพ็งรัตน์/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บรรณาธิการข่าว

31 มี.ค. 56   

วัฒนธรรมจังหวัดเลยจัดโครงการประกวดสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเลย จัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการการถ่ายทำ และตัดต่อคลิปวีดีโอ ภายใต้โครงการประกวดสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ คลิปโทรศัพท์มือถือภาพยนตร์สั้นหัวข้อ ป้องกันการตั้งครรภ์ ไม่พร้อม จังหวัดเลย ปีงบประมาณ 2556 นายสัมฤทธิ์ สุภามา วัฒนธรรมจังหวัดเลย กล่าวว่า สืบเนื่องจากรัฐบาลได้ตระหนักถึงปัญหาทางสังคม และวัฒนธรรม ที่มีความซับซ้อน และรุนแรงมากขึ้น สาเหตุสำคัญมาจากสังคมไทยได้รับอิทธิพลของอารยธรร มและวัฒนธรรม จากนานาประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบทำให้วิถีชีวิตของคนไทย และสังคมโลก มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามลักษณะจองโลกยุคการสื่อสารไร้พรมแดนในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า นอกจากจะนำมาซึ่งข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศแล้ว ยังมีส่วนหนึ่งที่นำมาซึ่งปัญหาทางสังคมและวัฒนธรรมนานัปการ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า นักเรียน นักศึกษา จะได้นำความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการมีโอกาสนำเสนอแนวความคิด หรือทัศนคติของตนออกสู่สังคม ซึ่งผลผลิตของความคิดสร้างสรรค์จะก่อให้เกิดนวัตกรรมกระบวนการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริม การศึกษา มีภูมิคุ้มกัน มีวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง เกิดจิตสำนึก ความรับผิดชองร่วมกันของคนในสังคมต่อไป ขอขอบคุณคณะวิทยากรทุกท่านทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้การดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้ประสบความสำเร็จได้ด้วยดี

อภิสิทธิ์ปราศรัยผ่าความจริงที่จังหวัดเลย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ และนายสาธิต วงศ์หนองเตย ได้เดินทางมาเปิดเวทีปราศรัยผ่าความจริงที่ห้องประชุมขุมทองวิไล มหาวิทยาลัยราชภัฎเลย โดยเริ่มเปิดปราศรัยในเวลา 16.00 น. ปรากฏว่าเวลาประมาณ 14.00 น. มีกลุ่มคน เสื้อแดงจากจังหวัดเลย และมีแกนนำบางคนจากอุดรธานี และหนองบัวลำภู ประมาณ 100 คน นำเวทีปราศรัยรถบรรทุกขนาดใหญ่ มาตั้งที่ประตูเข้าทางเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฎเลย โดยมีตัวแทนผลัดกันปราศรัยโจมตีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างหนัก ที่หน้าหอประชุมขุมทองวิลัย ซึ่งเป็นเวทีปราศรัย มีประชาชนทยอยมาฟังการปราศรัยตอนแรกเข้ามาลำบาก เพราะเสื้อแดงปิดประตูไม่ให้เข้า โดยแยกย้ายเข้ามาหลายประตูโดยเฉพาะในช่วงนายอภิสิทธิ์ ฯ เดินทางมาถึง ทางตำรวจโดย พล.ต.ต.ศักดิ์ดา วงศ์ศิริยานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจังหวัดเลย ซึ่งนำกำลังชุดควบคุมฝูงชนจาก สภ..ต่าง ๆ ประมาณ 300 คน มารักษาความสงบเรียกร้อยภายในมหาวิทยาลัยราชภัฎเลย โดยทางคนเสื้อแดงพยายามจะฝ่าด่านตำรวจที่ประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ทางตำรวจจึงต้องระดมตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจากจุดอื่นร่วมร้อยมาสกัด จนคนเสื้อแดงไม่สามารถเข้าไปได้ และได้จัดให้คณะของนายอภิสิทธิ์ฯ ที่เดินทางมา เข้าที่ประตู 4 หลังวิทยาลัยฯ ในการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรื่องของการรับจำนำข้าวเปลือก, การแก้ไขรัฐธรรมนูญ,การเผาเซ็นทรัลเวิล, การกู้เงิน 2.2 พันล้านบาท และเรื่องของการไปกล่าวปราศรัยในเรื่องของระบบประชาธิไตย ของนายกรัฐมนตรี โดยมีประชาชนมาฟังประมาณ 1,000 คน

ปชส.สระแก้วและกกต.สระแก้วจัดแข่งขันตอบปัญหาเยาวชนประชาธิปไตย

วันนี้ 31 พ.ค. 56 ณ ห้องประชุม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้ว ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว จัดทำโครงการจัดแข่งขันชิงรางวัลเยาวชนตอบปัญหาประชาธิปไตย ตามโครงการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์เป็นประมุข ประจำปี 2556 การแข่งขันในระดับจังหวัด โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเป็นผู้จัดการแข่งขันดังกล่าว โดยมีนายเจริญเดช ศัลยพงษ์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานพิธีเปิด ซึ่งมีโรงเรียนในจังหวัดสระแก้วเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ จำนวน 15 โรงเรียน

นางสมพร มโนรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัด เปิดเผยว่า การจัดการแข่งขันตอบปัญหาเยาวชนประชาธิปไตยนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ได้เข้าเรียนรู้และเสริมสร้างประสบการณ์ร่วมกันในเรื่องของการเมืองการ ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยแก่เยาวชน และเปิดโอกาสให้เยาวชนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สื่อเพื่อการประชาสัมพันธ์ ระบอบประชาธิปไตย กระตุ้นเยาวชนให้ตระหนักถึงสิทธิหน้าที่ของตนและผู้อื่น รวมถึงการแสดงออกตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยอย่างถูกต้องเหมาะสม

กิจกรรมในช่วงเช้าจะเป็นการตอบปัญหาประชาธิปไตยของกกต.สระแก้วตามโครงการ แข่งขันตอบปัญหาประชาธิปไตยและการเลือกตั้งชิงแชมป์ โดยโรงเรียนที่ชนะเลิศได้แก่โรงเรียนอรัญประเทศ รองชนะเลิศโรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคม


ส่วนในช่วงบ่ายสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้วจัดการแข่งขันตอบปัญหา ประชาธิปไตยตามโครงการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุข ประจำปี 2556 ซึ่งกิจกรรมประกอบด้วยการแข่งขันตอบปัญหาและกิจกรรมการจำลองหาเสียงเลือก ตั้ง โรงเรียนที่ชนะเลิศได้แก่ โรงเรียนวังน้ำเย็นวิทยาคาร รองชนะเลิศโรงเรียนคลองน้ำใสวิทยาคาร สำหรับโรงเรียนชนะเลิศจะเข้าไปแข่งขันในระดับเขตอีกต่อไป

จังหวัดอำนาจเจริญจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานตามนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม

วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ที่ห้องประชุมพระมงคลมิ่งเมือง ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ  นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานตามนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม ของส่วนราชการจังหวัดอำนาจเจริญที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายสัจจะ ฤทธิกุลประเสริฐ ปลัดจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ว่า  กระทรวง มหาดไทย ได้กำหนดนโยบาย "ลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม” เพื่อดำเนินการกับสถานบริการ ร้านจำหน่ายสุรา ที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน รำคาญให้ประชาชน หรือขัดต่อภาพลักษณ์ วัฒนธรรมอันดีงามของไทย และแหล่งอบายมุขอื่นๆ ที่ส่งผลต่อปัญหา ยาเสพติด บ่อนการพนัน  ขณะเดียวกันให้ส่งเสริมการจัดกิจกรรมด้านศิลปะ ดนตรี เพื่อปลูกจิตสำนึกและค่านิยมที่ดีแก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายลดอบายมุข สร้างสุขให้สังคม เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ ทางจังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้จัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการลดอบายมุขและสร้างสุขให้ สังคมขึ้น โดยมีส่วนราชการที่ร่วมลงนาม ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  ที่ทำการปกครองจังหวัด  ตำรวจภูธรจังหวัด  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด  สรรพสามิตจังหวัด  พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด  วัฒนธรรมจังหวัด  ท้องถิ่นจังหวัด  พาณิชย์จังหวัด  และนายอำเภอทั้ง ๗ อำเภอ 

โอกาส นี้ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กำชับให้ทุกหน่วยงานที่ลงนามในบันทึกข้อตกลงขอให้เอาใจใส่ และทำงานอย่างเข้มงวดตามอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ เพื่อให้ เกิดผลดีแก่ประชาชน  ขณะ เดียวกันก็ขอให้ทุกภาคส่วนของสังคม ให้ความร่วมมือกับทางราชการในการสอดส่องดูแล และแจ้งข้อมูลข่าวสารการกระทำผิดกฎหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทราบและ ดำเนินการตามกฏหมาย ก็จะสามารถลดปัญหาอบายมุขและสร้างสุขให้สังคมได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่าง แน่นอน 




สุรพล  บุตรวงศ์ / ข่าว

ประชุมคณะกรรมการติดตามและสนับสนุนจังหวัด ในคณะกรรมการบทบาทสตรีจังหวัดอุดรธานี

วันนี้ (27 พ.ค. 56) ณ ห้องประชุมคำชะโนด ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ชั้น 2 นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานจังหวัด ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ ได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อเสนอแผนการติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานในเขตพื้นที่ จังหวัดต่อคณะกรรมการประเมินผล และกำกับ ดูแล ของคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดและคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาท สตรีตำบล พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค รวมทั้งรายงานการเงินของกองทุนของคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดและ คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีตำบล เสนอต่อคณะกรรมการประเมินผลอย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง

โดยที่ประชุมฯ ได้รับทราบการรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินงานของกองทุนฯ ที่ผ่านมา ในเบื้องต้นได้รับเงินกองทุนฯ จากรัฐบาลเป็นเงิน 130 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินกู้หมุนเวียน 80% เป็นเงิน104 ล้านบาท เงินอุดหนุน 20% เป็นเงิน 26 ล้านบาท แบ่งเป็นงบบริหาร 3% 780,000 บาท ได้ปล่อยกู้ไป รอบ ที่ 1 จำนวน 22 โครงการเป็นเงิน 2 ล้าน 8 หมื่นบาท รอบที่ 2 จำนวน 63 โครงการ เป็นเงิน 4 ล้าน 6 แสน 1 หมื่น 3 พันบาท รอบที่ 3 จำนวน 147 โครงการ เป็นเงิน 10 ล้าน 6 หมื่น 6 พัน 4 ร้อยบาท รอบที่ 4 จำนวน 298 โครงการ เป็นเงิน 25 ล้าน 5 แสน 1 หมื่น 9พันบาท รวมทั้ง 4 รอบ เป็นเงินที่ปล่อยกู้เงินทุนหมุนเวียน 42 ล้าน 2 แสน 7 หมื่น 8 พัน 4 ร้อยบาท คงเหลือเงินปล่อยกู้ 62 ล้านบาท ส่วนเงินอุดหนุนอนุมัติไป 3 ล้าน 7 แสน 9 หมื่น 2 พันบาท คงเหลือ 21 ล้านบาท

สำหรับการประชุมคณะกรรมการติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานของจังหวัดจะให้มี การประชุมทุกเดือนเดือนละครั้ง และคณะกรรมการติดตามและสนับสนุนการดำเนินงานของจังหวัด จะออกติดตามโครงการที่ประสบความสำเร็จ และโครงการที่มีปัญหา โดยจะแบ่งเป็นโซนในการออกติดตามเพื่อนำผลรายงานให้คณะกรรมการกองทุนบทบาท สตรีแห่งชาติได้ทราบต่อไป นอกจากนี้ประธานกองทุนบทบาทสตรีจังหวัดอุดรธานีได้รายงานปัญหาอุปสรรคในการ ดำเนินการ เช่น งบดำเนินงานมีไม่เพียงพอ บุคลากรมีเพียง 1 คน ซึ่งเสนอให้มีการจัดงบประมาณให้เพียงพอกับการดำเนินงาน และจัดหาสถานที่ทำการของกองทุนฯในแต่ละระดับ เป็นต้น



ทีมข่าวส.ปชส.อด.พัฒนเดช ยศกรกุล / ข่าว
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ภาพ

บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี ให้ความรู้อาสาสมัครประชาบดี เน้นส่งเสริมบทบาทและหน้าที่ของอาสาสมัคร การให้คำปรึกษาเบื้องต้น เทคนิคการรับแจ้งเหตุผ่านศูนย์ประชาบดี 1300

นายณัฐคณิน มาลาสาย หัวหน้าบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวภายหลังเปิดการอบรม อาสาสมัครประชาบดี ซึ่งจัดขึ้น ที่ โรงแรมกิจตรงวิลล์ รีสอร์ท จังหวัดอุบลราชธานีว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี จัดอบรมอาสาสมัครประชาบดี ประจำปีงบประมาณ 2556 เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทาง สังคม กระตุ้นให้ประชาชนสนใจการทำกิจกรรมจิตอาสา รวมทั้งเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บทบาทของศูนย์ประชาบดี ในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม และเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายอาสาสมัครในพื้นที่ ที่ปฏิบัติงานในการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคม

นายณัฐคณิน มาลาสาย หัวหน้าบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเพิ่มเติม สำหรับปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปัญหายาเสพติด ปัญหาความยากจน และวิวัฒนาการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจที่ให้บริการสวัสดิการสังคม การสังคมสงเคราะห์แก่ผู้ด้อยโอกาส ผู้ยากไร้ คนไร้ที่พึ่ง รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนและท้องถิ่นจัดสวัสดิการสังคม โดยมุ่งเน้นให้กลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาทางสังคมสามารถดำรงชีวิต และพึ่งพาตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ในการช่วยเหลือผู้ประสบ ปัญหาทางสังคมในพื้นที่หรือชุมชนของตนเอง สามารถสร้างเครือข่ายที่จะสนับสนุนการช่วยเหลือการปฏิบัติงานด้านสังคมได้ อย่างกว้างขวาง รวมทั้งการเฝ้ากระวังกลุ่มเสี่ยง และการวางแผนกิจกรรมที่ดำเนินงานร่วมกัน เพื่อให้เกิดการทำงานที่ยั่งยืน สุดท้ายสามารถจัดตั้งเป็นชมรมอาสาสมัครประชาบดี และสามารถเผยแพร่การทำงานไปยังประชาชน องค์กรภาครัฐและเอกชน รวมทั้งมีส่วนร่วมเป็นจิตอาสาในการทำกิจกรรมต่างๆ ของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี และศูนย์ประชาบดี 1300 สามารถสนองตอบต่อความต้องการของประชาชนกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาทางสังคม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
 


จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก หวังลดอัตราผู้สูบหน้าใหม่ หลังพบเด็กและเยาวชนที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปี ยังคงเป็นกลุ่มเสี่ยง

(31 พ.ค. 56) ที่บริเวณลานหน้าพลับพลาเรือนไทย โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานปล่อยป้ายการจัดกิจกรรมรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2556 ภายใต้ชื่อ ”ชาวอุบลร่วมใจ ต้านภัยบุหรี่ "เพื่อสร้างกระแสให้ประชาชนเกิดความตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ ที่ก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆ ตามมา นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้สูบบุหรี่เลิกสูบบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งบุหรี่นับเป็นสาเหตุของปัญหาทางสังคมในปัจจุบัน

การจัดกิจกรรมในวันนี้ มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคีเครือข่ายและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก โดยก่อนจะมีการปล่อยป้ายรณรงค์ ได้มีการมอบเกียรติบัตรให้กับผู้ที่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ จำนวน 18 คน จากนั้นได้ปล่อยขบวนเดินรณรงค์”ชาวอุบลร่วมใจ ต้านภัยบุหรี่ " ซึ่งขบวนจะเดินไปตามถนนสายหลักภายในจังหวัดอุบลราชธานี รวมระยะทางกว่า 10 กิโลเมตร

นายแพทย์ชลิต ทองประยูร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยทางโรคหลอดลมที่เกิดจากการสูบหรี่ยังมีจำนวนมาก และปัจจุบันประเทศไทยพบว่าผู้สูบบุหรี่เป็นเด็กและเยาวชนที่มีอายุต่ำสุด อายุ 6 ปี เข้ามาเป็นกลุ่มเสี่ยง และประชาชนตั้งแต่อายุ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 11 ล้าน 5 แสนคน เป็นชายร้อยละ 95 หญิงร้อยละ 5 เป็นผู้เสพติดบุหรี่ โดยพื้นที่ภาคใต้พบอัตราการสูบบุหรี่สูงสุด รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ปีละ 51,710 คน เฉลี่ยวันละ 138 คน สำหรับปีนี้ประเทศไทยได้กำหนดการณรงค์การสูบบุหรี่ภายใต้ชื่อ "ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต” ทั้งนี้มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้ชูประเด็น "บุหรี่ คือยาเสพติด” และปีนี้จังหวัดอุบลราชธานี ได้เน้นการควบคุมการสูบบุหรี่ในชุมชน โดยเน้นกลุ่มเด็กและเยาวชน


 
จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ทองปัก ทวีสุข/ภาพ