วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2556

บริษัท แสนสิริ ฯ แถลงข่าว เปิดตัวคอนโดมิเนี่ยมสูง “เดอะ เบส ไฮท์-โคราช” ที่นครราชสีมา

ผู้บริโภคโดยเฉพาะชาวจังหวัดนครราชสีมาและใกล้เคียงที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยในลักษณะห้องชุด หรือ คอนโดมิเยี่ยม มีทางเลือกอีก 1 โครงการ เมื่อบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) จากกรุงเทพฯ มาลงทุนเปิดโครงการ เดอะ เบส ไฮท์–โคราช (The Base Height – Korat) ใจกลางเมือง มูลค่า 2,500 ล้าน

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และนายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริฯ ได้มาแถลงข่าวการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ที่จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมา ที่สำนักงานขาย Sales Gallery แสนสิริ ถนนมิตรภาพ อำเภอเมืองนครราชสีมา พร้อมนำชมห้องตัวอย่าง ที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่1.59 – 5 ล้านบาท หรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับชั้นและการตกแต่ง ซึ่งโครงการฯนี้มีพื้นที่ 6 ไร่ จำนวน 1 อาคาร สูงทั้งสิ้น 25 ชั้น จำนวนทั้งสิ้น 1,134 ยูนิต เมื่อสร้างเสร็จคาดว่าจะเป็นอาคารสูงที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองได้โดยรอบ โดยจะเปิดให้จองวันแรกวันที่ 30 กันยายน 2556 นี้

นายอภิชาต กล่าวว่า ปีนี้ บริษัทฯ ได้วางแนวทางการขยายการดำเนินธุรกิจออกสู่ต่างจังหวัดที่บริษัทฯสำรวจแล้วพบว่ายังมีความต้องการที่ยู่อาศัยสูง โดยวางการดำเนินธุรกิจคือ "วันนี้ พรุ่งนี้ ตลอดไป” และหาพื้นที่ในการสร้างคอนโดมิเนียมคือต้องอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งที่จังหวัดนครราชสีมา ใช้ชื่อ เดอะ เบส ไฮท์ – โคราช (The Base Height – Korat) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองทั้ง 2 ฝั่ง คือฝั่งโคราชเก่ากับฝั่งโคราชใหม่ บริเวณด้านหลังห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีนครราชสีมา อยู่บนถนนมิตรภาพ มีทางออกได้ทั้ง 2 ทาง คือ ทั้งถนนทางด้านบิ๊กซี หรือ ถนนด้านโรงแรมไทยโฮเต็ล ภายในมีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 6,000 ตร.ม. เรียกว่าตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของการอยู่อาศัย มีสระว่ายน้ำความยาวขนาดโอลิมปิก มี Sky Access Garden สวนบนชั้น Roof Top ในห้องพักสามารถเปิดรับทัศนียภาพนอกอาคารสัมผัสวิวใจกลางเมืองนครราชสีมาได้ถึง 360 องศา โถงต้อนรับแบบ Triple Volume คือ สูงเปิดโล่งถึง 3 ชั้น และมีห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน พื้นที่จอดรถ และจักรยาน พร้อมอินเทอร์เน็ตไร้สายและมีระบบความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง 

ชาวมหาสารคามร่วมปั่นจักรยาน ลดโลกร้อน "MAHASARAKHAM CAR FREE DAY 2013”

ชาวมหาสารคาม กว่า 500 คน ร่วมปั่นจักรยานไปตามถนนสายต่าง ๆ ตามโครงการ "MAHASARAKHAM CAR FREE DAY 2013 รณรงค์ลดภาวะโลกร้อน สร้างกระแสให้ผู้คนหันมาปั่นจักรยานเพื่อออกกำลังกาย พร้อมผลักดันให้เกิดเส้นทางสำหรับจักรยานในจังหวัดมหาสารคาม

22-9-56 ที่บริเวณลานด้านหน้าศูนย์การค้าเสิรมไทยคอมเพล็กซ์ นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายแพทย์กิตติศักดิ์ คณาสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองมหาสารคาม นำชาวจังหวัดมหาสารคาม และสมาชิกชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพมหาสารคาม รวมกว่า 500 คน ที่สวมเสื้อสีแดง ขาว น้ำเงิน ที่หมายถึงสีของธงชาติไทย สีเขียว และสีฟ้า ร่วมกันร้องเพลงชาติไทย ก่อนที่จะพร้อมใจกันปั่นจักรยานไปตามถนนเส้นทางต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองหาสารคาม ในกิจกรรม "MAHASARAKHAM CAR FREE DAY 2013 รวมระยะทาง 10 กิโลเมตร ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง


การจัดกิจกรรม "MAHASARAKHAM CAR FREE DAY 2013 ครั้งนี้ เพื่อต้องการให้ประชาชนหันมาปั่นจักรยานในชีวิตประจำวันมากขึ้น เป็นการช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และสร้างเสริมสุขภาพ ลดความหนาแน่นของการจราจรในเมือง พร้อมผลักดันให้เกิดเส้นทางสำหรับจักรยานในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ในอนาคต



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

อบจ.ร้อยเอ็ด จัดงานประเพณีทอดเทียนโฮม สร้างความสมัครสมานสามัคคีและรักษาประเพณี ท้องถิ่น

วันที่  21  กันยายน  2556  2556 เวลา  11.00  น. นายทัศนัย  ไวนิยมพงศ์  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวั ดร้อยเอ็ด  เป็นประธานเปิดงานประเพณีทอดเที ยนโฮม(ทอดเทียนรวม)  ประจำปี  2556 ณ  วัดไตรภูมิ  ตำบลหัวโทน อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด

นายสุทัศน์  แวงหินกอง  รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลหั วโทน กล่าวว่า  ประเพณีวัฒนธรรมพื้นบ้านเป็ นรากฐานสำคัญยิ่งในการพัฒนาท้ องถิ่น และชุมชนให้เข้มแข็ง ประเพณีทอดเทียนโฮมเป็นประเพณี เก่าแก่ของชาวอีสาน ซึ่งได้สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ ่น โดยกิจกรรมหลักของการทอดเที ยนโฮมคือ แต่ละหมู่บ้านจะนำต้นเทียนและต้ นเงินที่ร่วมบริจาคถวายแก่วั ดเพื่อเป็นการทำบุญ  ตามแนวทางพระพุทธศาสนาที่ได้ถื อปฏิบัติกันมาทุกปี วัดไตรภูมิและชาวบ้านตากแดด หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 11 และหมู่ที่ 12 พร้อมด้วยองค์การบริหารส่ วนตำบลหัวโทนและตำบลน้ำคำ ได้เล็งเห็นความสำคัญของกาอนุรั กษ์และส่งเสริมศิลปวั ฒนธรรมประเพณีทอดเทียนโฮม  จึงได้ร่วมกันจัดทำโครงการดั งกล่าวขึ้น  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็ นการสร้างความสามัคคีในชุมชน และเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่ างหมู่บ้าน  เพื่อให้เด็กและเยาวชนรู้จั กการละเล่นพื้นบ้าน และเล่นกีฬาเพื่อให้ห่ างไกลยาเสพติด และเป็นการปลูกฝังคุณธรรมจริ ยธรรมให้กับเด็ กเยาวชนและประชาชนที่เข้าร่วมกิ จกรรม

นายทัศนัย  ไวนิยมพงศ์  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวั ดร้อยเอ็ด กล่าวว่า  ประเพณีทอดเทียนโฮมถือว่าเป็ นประเพณีที่สำคัญมาแต่สมัยโบราณ   ซึ่งในการจัดงานจะมีการบอกบุ ญไปยังหมู่บ้านต่าง ๆ ซึ่งวัดไตรภูมิมีชาวบ้านที่มี ความศรัทธาเพราะวัดใตรภูมิมีสิ่ งศักดิ์สิทธิที่พี่น้ องชาวตำบลให้ความเคาพนับถือ การที่ชาวบ้านได้นำต้นเที ยนและต้นเงินมาถวายที่วัดแห่งนี ้ แสดงให้เห็นถึงความสมั ครสมานสามัคคี  ของให้ช่วยกันรักษาประเพณีนี้สื บไป



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว

กมลพร  คำนึง  บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
22 ก.ย. 56

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทยมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจังหวัดสุรินทร์

วันนี้ ( 22 ก.ย. 2556 ) เวลา 15.00 น. พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เป็นผู้ปฏิบัติงานแทนพระองค์ฯ อัญเชิญถุงยังชีพพระราชทาน เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยบริเวณพื้นที่ของอำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ณ ที่ว่าการอำเภอสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2,000 ชุด โดยมีนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนมาให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้สืบเนื่องจากพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางพัดผ่านประเทศเวียดนาม และเคลื่อนตัวผ่านบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้มีฝนตกอย่างหนักเมื่อวันที่ 18 ก.ย. เป็นต้นมา ทำให้มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรจังหวัดสุรินทร์เป็นบริเวณกว้างครอบคลุมพื้นที 15 อำเภอ 98 ตำบล 1227 หมู่บ้าน ในการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นายกกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัย ทรงพระกรุณาโปรดให้นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาม สภากาชาชาดไทย เป็นผู้ปฏิบัติงานแทนพระองค์ฯ ประกอบพิธีอัญเชิญถุงยังชีพพระราชทานไปมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 2,000 ชุด พร้อมกันนี้ทรงประทานถุงยังชีพถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 50 ชุด ผู้สูงอายุและคนพิการ จำนวน 100 ชุด และราษฎรผู้ประสบภัย จำนวน 2,000 ครัวเรือน



ประนนท์ ไม้หอม / ส.ปชส. สุรินทร์ / รายงาน

จังหวัดสุรินทร์ขอความร่วมมือข้าราชการ ประชาชน และอาสาสมัครประชาสัมพันธ์ประจำหมู่บ้านและชุมชนจังหวัดสุรินทร์ รายงานสถานการณ์น้ำท่วมทางสถานีวิทยุ สวท.สุรินทร์

นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ ได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่น ทำให้เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมฉับพลันครอบคลุมพื้นที่วงกว้าง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน  15 อำเภอ   98  ตำบล  1,227  หมู่บ้าน  ได้แก่ อ.เมืองสุรินทร์ สังขะ ศรีณรงค์ จอมพระ    เขวาสินรินทร์  ศีขรภูมิ  ท่าตูม   รัตนบุรี  สำโรงทาบ ลำดวน บัวเชด กาบเชิง สนม ปราสาท โนนนารายณ์  ยกเว้น อ.ชุมพลบุรี และพนมดงรัก  แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยดังกล่าว  สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ได้ร่วมมือกับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสุรินทร์ หรือ สวท.สุรินทร์  สนับสนุนการประชาสัมพันธ์เพื่อรายงานสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น  โดย สวท.สุรินทร์ ได้ผลิตรายการพิเศษเกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมทาง สวท.สุรินทร์ ระบบ FM 93.50 MHz และ ระบบ  FM 97.50 MHz และขอความร่วมมือ สื่อมวลชน  ข้าราชการ  พนักงานรัฐวิสาหกิจ  และประชาชน สนับสนุนการประชามสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร ที่หมายเลขโทรศัพท์ 044-511720. โดยในขณะนี้ยังเปิดรับข้อมูลข่าวสารสถานการณ์น้ำท่วมทุกวัน




สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

สรุปสถานการณ์อุทกภัยช่วงวันที่ 18-22 กันยายน 2556

ข้อมูล ณ วันที่  22 กันยายน  2556  เวลา 09.00  น.

ตามที่ จังหวัดสุรินทร์ได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่นตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน 2556 เวลา 20.30 น. เป็นต้นมา ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องมีผลทำให้หลายพื้นที่ได้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก ราษฎรได้รับความเดือดร้อนแล้ว จำนวน 15 อำเภอ 98 ตำบล 1,227 หมู่บ้าน ได้แก่ อ.เมืองสุรินทร์ สังขะ ศรีณรงค์ จอมพระ เขวาสินรินทร์  ศีขรภูมิ  ท่าตูม   รัตนบุรี  สำโรงทาบ ลำดวน บัวเชด กาบเชิง สนม ปราสาท โนนนารายณ์  ยกเว้น อ.ชุมพลบุรี และพนมดงรัก  แต่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด  สำหรับจำนวนครัวเรือนและประชากรที่ประสบภัยอยู่ระหว่างตรวจสอบ  สรุปสถานการณ์สำคัญ วันที่ 22 กันยายน 2556 ดังนี้


สถานการณ์อุทกภัย ขณะนี้

พื้นที่ที่มีสถานการณ์น่าเป็นห่วงและต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ในขณะนี้

บริเวณท้ายอ่างห้วยเกาะแก้ว, อ่างเก็บน้ำลำพอก  ได้แก่ อ.สำโรงทาบทั้งอำเภอ อำเภอศีขรภูมิ

บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ได้แก่ พื้นที่ตำบลเฉนียง ทั้งตำบล, ตำบลคอโค ทั้งตำบล, ตำบลท่าสว่างบางส่วน


พื้นที่ที่มีระดับน้ำสูงแต่มีแนวโน้มลดลงในขณะนี้

อำเภอสังขะ ศรีณรงค์ ลำดวน

เทศบาลเมืองสุรินทร์ ได้แก่ ชุมชนดองกระเม็ด ชุมชนหมอกวน


พื้นที่ที่มีระดับน้ำลดลงแล้ว และกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ

อำเภอปราสาท กาบเชิง บัวเชด สนม


พื้นที่ที่อยู่ท้ายน้ำ

อำเภอจอมพระ ท่าตูม รัตนบุรี

อำเภอชุมพลบุรี (สถานการณ์ยังปกติ)


2. การประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย)

อยู่ระหว่างนำเรียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ  ลงนามประกาศอุทกภัยฯ  จำนวน 12 อำเภอ 9632 ตำบล 3 หมู่บ้าน ได้แก่ ได้แก่ อ.เมืองสุรินทร์ สังขะ จอมพระ เขวาสินรินทร์  สำโรงทาบ ศรีณรงค์ ปราสาท ท่าตูม ลำดวน โนนนารายณ์ บัวเชด และศีขรภูมิ


3.ผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัย  (3  ราย)

นางบัวศรี  ชะลี  อายุ 60 ปี บ้านเลขที่  161 บ้านหมอนไหม หมู่ที่ 12 ต.แจนแวน อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ (เสียชีวิตวันที่ 18 ก.ย 2556 และพบศพวันที่ 20 ก.ย.56) สาเหตุจมน้ำตายเนื่องจากออกหาปลา  สถานที่เกิดเหตุ คลองส่งน้ำคูคาดตะวันออกบ้านหม่อนไหมพัฒนา ม.12 ต.แจนแวน เสียชีวิตเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 56 พบศพวันที่ 21 ก.ย. 56

อ.ปราสาท  มีผู้เสียชีวิตจำนวน  2  ราย

- นางอรุณ  ศรีพพรมทอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 ม.4 ต.ประทัดบุ อ.ปราสาท สาเหตุจมน้ำตายเนื่องจากออกหาปลา  สถานที่เกิดเหตุ บ้านจำใสจารย์ ต.ทุ่งมน เวลา 18.35 น.

- นายจันทร์  เติมสุข อายุ 81 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 7  บ้านสะพานหัน ต.ทุ่งมน สาเหตุจมน้ำตายเนื่องจากออกหาปลา  สถานที่เกิดเหตุทุ่งนาบ้านทุ่งมน


4. ถนนสายหลักไม่สามารถจราจร ดังนี้

สาย สร 4015 แยกทางหลวงหมายเลข 2371 –บ้านอาโพน อ.ศีขรภูมิ ,สำโรงทาบ มีสภาพน้ำท่วมไหลผ่านถนนสูงประมาณ  50-70 ซม.
        สาย สร 3010 แยกทางหลวงหมายเลข 226 –บ้านปราสาท อ.เมือง มีสภาพน้ำท่วมไหลกัดเซาะถนนขาด ช่วง กม. 12 ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการซ่อมแซม
        ถนนสายสุรินทร์-บุรีรัมย์  (เส้นลำชี) บริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ NBT - ร้านอาหาร อ.กุ้งเผา ระยะทาง 300 เมตร รถไม่สามารถจราจรได้


5.การดำเนินการ

1.  จังหวัดจัดตั้งศูนย์ประสานงานรับแจ้งสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย  ณ ห้องสุรินทร์ภักดี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์  โดยมีเจ้าหน้าที่ สนง.ปภ.สุรินทร์ ประจำศูนย์ และดำเนินการประชุมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือ เวลา 9.30 น เป็นประจำทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด

2.  จัดตั้งโรงครัวประกอบเลี้ยง  และแจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และตำบลนอกเมืองที่ได้รับความเดือดร้อน  จำนวน 4 จุด  ได้แก่

-  จุดที่ 1 สถานีกาชาดที่ 1 จังหวัดสุรินทร์

-  จุดที่ 2 อาคารงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  สนง.เทศบาลเมืองสุรินทร์

-  จุดที่ 3 อบต.นอกเมือง

-  จุดที่ 4  มูลนิธิจิ้บเต็กเซี่ยงตึ้ง

3.  จัดตั้งศูนย์พักพิงเพื่อช่วยผู้ประสบภัย

-  ศูนย์พักพิงผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน (อุทกภัย) จังหวัดทหารบกสุรินทร์ (อาคารสโมสรนายทหาร)        

0-4451-1844 ต่อ 20043, 20044

-  ตชด.21

-  ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง

-  อาจารจอมสุรินทร์ มหาราชภัฏสุรินทร์

- บ้านพัก  ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวะสุรินทร์