วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มหาวิทยาลัยมหาสารคามจัดประกวดโปสเตอร์รณรงค์ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในนักเรียน นักศึกษา

คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดประกวดโปสเตอร์รณรงค์ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ในกลุ่มนักเรียน นิสิต และนักศึกษา เพื่อให้กลุ่มเยาวชนได้ตระหนัก รับรู้ถึงผลจากการตั้งครรภ์ในวัยเรียนผ่านโปสเตอร์ โดยส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2556

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจาก ศาสตราจารย์ชยันต์ พิเชียรสุนทร รองคณบดีฝ่ายบริหาร คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ว่า ด้วยคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้จัดการประกวดโปสเตอร์รณรงค์ป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ ในกลุ่มนักเรียน นิสิตและนักศึกษาของจังหวัดมหาสารคาม เพื่อให้กลุ่มเยาวชนวัยเรียนทุกระดับ ได้เข้าใจ ตระหนัก รับรู้ถึงผลจากการตั้งครรภ์ในวัยเรียนผ่านงานการประกวดโปสเตอร์ สำหรับการประกวดมีหลักเกณฑ์คือ ผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดต้องเป็นนิสิต นักศึกษาระดับอุดมศึกษาในสถาบันการศึกษาของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (20 จังหวัด) ,ส่งผลงานเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่มไม่เกิน 3 คน, โปสเตอร์ขนาด 11.69 นิ้ว x 16.54 นิ้ว (A3) , ไม่จำกัดโปรแกรมและเทคนิคการออกแบบ, ผลงานที่ส่งทำ File เป็น JPEG , A-File หรือ PSD ส่งทางอีเมล์ medicine@msu.ac.th และบันทึกเป็นซีดีพร้อมทั้ง Print out เพื่อการ reference ชิ้นงานได้ถูกต้อง หรือส่งด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2556 ที่ฝ่ายกิจการนิสิตและกิจการพิเศษ ชั้น 3 คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถนนนครสวรรค์ ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม 44000 (วิทยาเขตในเมือง ; ม.เก่า) ซึ่งผลงานทุกชิ้นเป็นสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคามในการเผยแพร่โฆษณา และประชาสัมพันธ์ สามารถ โดยผู้ชนะเลิศการประกวดจะได้รับโล่ที่ระลึก เกียรติบัตรและเงินรางวัลหรือทุนการศึกษา รางวัลชนะเลิศ 20,000.-บาท รองชนะเลิศ 10,000.-บาท รางวัลชมเชย 2 รางวัล ๆ ละ 5,000.-บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คุณชลิตา เพ็ชรน้อย ฝ่ายกิจการนิสิตและกิจการพิเศษ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม 44000 โทรศัพท์ 043-712992 ต่อ 6323 ในวันและเวลาราชการ




ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอเชิญสมัครเพื่อคัดเลือกผู้นำสตรีรุ่นใหม่กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี

นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ ได้กำหนดดำเนินโครงการคัดเลือกผู้นำสตรีรุ่นใหม่ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี "SMART LADY THAILAND ผู้หญิงสวย...ด้วยความคิด” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพ และบทบาทผู้นำสตรีรุ่นใหม่ ให้เป็นพลังสร้างสรรค์พัฒนาประเทศไทย และเพื่อส่งเสริมบทบาทผู้นำสตรีในการก้าวเข้าสู่ประชาอาเซียน โดยกำหนดให้มีการรับสมัครเข้าร่วมโครงการฯ ระหว่างวันที่ 10 สิงหาคม – 13 กันยายน 2556

สำหรับคุณสมบัติผู้สมัคร ต้องเป็นหญิงไทย อายุ 18-35 ปี มีภูมิลำนาในประเทศไทย มีบุคลิกภาพที่ดี มีความสามารถในการเรียนรู้และการทำงานเป็นทีม มีความสนใจการทำงานกิจกรรมเพื่อประโยชน์ส่วนร่วมของสังคม มีความพร้อมในการเข้าร่วมกิจกรรมของโครงการได้ เอกสารประกอบการสมัคร ได้แก่ ใบสมัคร สามารถดาวน์โหลดได้จาก www.smartlady-thailand.com รูปถ่าย สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รับรองสำเนาถูกต้อง โดยส่งเอกสารสมัครได้ที่ คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับตำบล หรือคณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีระดับจังหวัด ตู้ ปณ.1 ปณจ.คลองจั่น หรือสมัครออนไลน์ได้ที่ www.smartlady-thailand.com

ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกาฬสินธุ์ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 2 อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ โทรศัพท์ 043-811274 หรือสายด่วน 1111 กด 6




ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ ขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสบุคคลที่แอบอ้างชื่อ รมช.มหาดไทย ช่วยเหลือสอบบรรจุข้าราชการหรือพนักงานท้องถิ่น


นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ด้วยจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งจาก สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย ว่าในขณะนี้มีกลุ่มบุคคลตระเวนแอบอ้างชื่อของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง มหาดไทย นายประชา ประสพดี ไปกระทำการหลอกหลวงประชาชนให้หลงเชื่อว่า สามารถช่วยเหลือให้สอบแข่งขันเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้อง ถิ่น ซึ่งคณะกรรมการกลางการสอบแข่งขันพนักงานส่วนท้องถิ่น (กสถ.) ได้มีมติให้เปิดรับสมัครสอบแข่งขันตามที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร้องขอให้ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นและมหาวิทยาลัยรามคำแหง ดำเนินการสอบแข่งขันแทนในสายงานที่เริ่มต้นจากระดับ 1-3 จำนวน 8,930 อัตรา ซึ่งพฤติการณ์ดังกล่าวทำให้ราชการเกิดความเสียหาย แก่ทางราชการอย่างร้ายแรงและผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ หลอกลวง และอาจสูญเสียทรัพย์สินได้ ดังนั้น จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนหากพบเห็นพฤติการณ์กลุ่มบุคคลที่แอบอ้าง หรือฉวยโอกาส หาผลประโยชน์ดังกล่าว ให้แจ้งเบาะแสต่อรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายประชา ประสพดี) หมายเลขโทรศัพท์ 081-3714940 หรือ ติดต่อสำนักงานรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ 02-2260192, 02-2219091 เพื่อจักได้รวบรวมหลักฐานดำเนินคดีทางกฎหมายต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวอย่างเด็ด ขาดต่อไป
 


 
ดวงใจ หงษ์จันทร์/ข่าว

ป.ป.จ.กาฬสินธุ์เลื่อนเวลาการจัดให้ผู้แทนหน่วยงานที่ได้รับขึ้นทะเบียนคัดเลือกกันเองออกไปอีก 1 เดือน

นายจำเนียร มูลสาร เจ้าพนักงานปราบปรามการทุจริตชำนาญการพิเศษ แจ้งว่า ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ประกาศรายชื่อหน่วยงานหรือองค์กรที่ได้รับการขึ้นทะเบียนฯ จำนวน 96 หน่วยงานหรือองค์กร โดยเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียได้โต้แย้งหรือคัดค้านระหว่างวันที่ 14-20 สิงหาคม 2556 และจัดให้มีการประชุมผู้แทนหน่วยงานหรือองค์กรคัดเลือกกันเองให้เหลือประเภทละ 1 คน เพื่อสรรหาฯโดยวิธีลับ ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม – 2 กันยายน 2556 นั้น เนื่องจากการดำเนินการสรรหากรรมการ ป.ป.จ.ระยะแรก 32 จังหวัดที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนกล่าวหาว่า กระบวนการสรรหาไม่ถูกต้อง ไม่เป็นธรรมและไม่เป็นกลางอยู่หลายกรณี คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2556 ให้ปรับเปลี่ยนกำหนดการสรรหา ป.ป.จ.ระยะสอง 44 จังหวัด โดยให้เลื่อนเวลาการจัดให้ผู้แทนหน่วยงานหรืองค์กรที่ได้รับขึ้นทะเบียนคัดเลือกกันเองให้เหลือประเภทละ 1 คน เพื่อเป็นกรรมการสรรหาออกไปอีก 1 เดือน ทั้งนี้เพื่อจัดทำหลักเกณฑ์ แนวทางปฏิบัติและวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการดำเนินการสรรหา ป.ป.จ.ให้เหมาะสมและให้สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพตามเจตนารมณ์ของกฎหมายต่อไป




สุวรรณ ศรีอาภรณ์ / ข่าว

มูลนิธิคุณธรรมสงเคราะห์กาฬสินธุ์ จัดประเพณีเทกระจาดแจกถุงยังชีพประชาชนกว่า 2,500 ชุด

มูลนิธิคุณธรรมสงเคราะห์กาฬสินธุ์ เต็กก่าจีสิ่งเกาะ ร่วมกับสมาคมพ่อค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดงานประเพณีเทกระจาด (ซิโกว) ประจำปี 2556 แจกถุงยังชีพแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ผู้ยากไร้ จำนวน 2,500 ชุด

เมื่อบ่ายวันที่ 25 สิงหาคม 2556 ที่บริเวณมูลนิธิคุณธรรมสงเคราะห์กาฬสินธุ์ เต็กก่าจีสิ่งเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานในพิธีเทกระจาด (ซิโกว) ประจำปี 2556 ซึ่งมูลนิธิคุณธรรมสงเคราะห์กาฬสินธุ์ เต็กก่าจีสิ่งเกาะ ร่วมกับสมาคมพ่อค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ จัดขึ้นต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 17 โดยปีนี้ทางมูลนิธิฯ ได้จัดเตรียมถุงยังชีพไว้แจกจ่ายให้กับประชาชน จำนวน 2,500 ชุด

นายวิชิต แสงโสภาพรรณ ประธานมูลนิธิคุณธรรมสงเคราะห์ เต็กก่า จีสิ่งเกาะ ได้กล่าวว่า ทางมูลนิธิคุณธรรมสงเคราะห์เต็กก่าจีสิ่งเกาะ และสมาคมพ่อค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดงานประเพณีเทกระจาด (ซิโกว) มาเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นการสมโภชเจ้าพ่อหลักเมือง หอเจ้าบ้าน เจ้าโสมพะมิตรและปึงเถ่ากงม่า ซึ่งปีนี้กำหนดจัดงานวันที่ 24-25 สิงหาคม โดยพิธีเริ่มตั้งแต่ขบวนอัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองกาฬสินธุ์ มาประทับที่มูลนิธิ หรือโรงงิ้ว จากนั้นจะเชิญชวนประชาชนทั่วไปร่วมทำบุญเซ่นไหว้บรรพบุรุษและศพไร้ญาติ โดยในพิธีจะมีคณะพระจีนสวดเชิญเจ้าดีชั่งง่วง ยมบาล เจ้าที่ พร้อมพิธีถวายของเซ่นไหว้ และการเทกระจาดหรือถุงยังชีพ สำหรับในปีนี้มีประชาชนเป็นจำนวนมากมาเข้าแถวต่อคิวเพื่อรอรับถุงยังชีพที่บริเวณหน้ามูลนิธิฯ เพื่อรอรับถุงยังชีพ




ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว

ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 5 จัดสัมมนา การบริหารความเสี่ยงด้านการค้าระหว่างประเทศ สำหรับธุรกิจ SMEs เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ AEC

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดการสัมมนา การบริหารความเสี่ยงด้านการค้าระหว่างประเทศ สำหรับธุรกิจ SMEs เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ AEC ซึ่งทางศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 5 จัดขึ้นที่ อาคารสวัสดิการสงเคราะห์ บ้านพักธนาคารแห่งประเทศไทย ริมบึงแก่นนคร อำเภอเมืองขอนแก่น โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมการสัมมนา ประกอบด้วย ผู้ประกอบการ SMEs ผู้ประกอบธุรกิจการค้า นักลงทุน ภาคราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้สนใจโดยทั่วไป ซึ่งถือได้ว่าเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้เข้าร่วมการสัมมนาตลอดจนเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องผู้ประกอบการทั่วไป ผู้ประกอบการ SMEs จะได้เตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 2 ปีข้างหน้าการสัมมนาครั้งนี้จะเป็นการสนับสนุน ส่งเสริมและเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการของไทยในภาคอีสานเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่จะสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจไทย

การสัมมนาครั้งนี้ยังมุ่งหวังจะให้ผู้ประกอบการไทยได้ข้อมูลของการค้าระหว่างประเทศที่ต่อไปตลาดจะใหญ่ขึ้น แรงงานต่างชาติมากขึ้น การขนส่งสินค้าชายแดน แหล่งเงินทุน การเตรียมความพร้อม การสร้างความตระหนักถึงความเสี่ยงและแนะนำเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง ซึ่งมีทั้งวิทยากรจากธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยหรือ EXIM BANK มาให้ข้อมูล

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การการสร้างความตระหนักและความรู้ในเรื่องการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในการทำการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ รวมทั้งเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ ในการใช้โอกาสจากการเปิดตลาดเข้าสู่ AEC และสากลจะทำให้ผู้ประกอบการค้า ผู้ประกอบการ SMEs ของไทยมีความพร้อมมีประสบการณ์สามารถแข่งขันในโลกตลาดเสรีได้

สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น จัดโครงการเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนในชนบท เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ

นางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นนำคณะออกไปร่วมสร้างกิจกรรมความบันเทิงให้กับเด็กๆที่โรงเรียนบ้านหินเฮาคุรุราษฎ์รังสรรค์ ตำบลโนฆ้อง อำเภอบ้านฝาง ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการมอบทุนการศึกษาและเลี้ยงอาหารกลางวันสำหรับเด็กนักเรียนในชนบทซึ่งเป็นโครงการที่ทางสำนักงานเหล่ากาชาดขอนแก่นจัดขึ้นทั้ง 26 อำเภอเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในวโรกาสพระชนมายุครบ 81 พรรษา เป็นโครงการดีที่ทางเหล่ากาชาดขอนแก่นได้มามอบความสุขให้กับเด็กๆในชนบทรวมทั้งผู้ปกครองที่มาร่วมงานก็มีความสุขด้วย

คณะกรรมการติดตามตรวจสอบแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม แนะให้บริษัทผู้รับสัมปทานเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต

คณะกรรมการติดตามตรวจสอบโครงการแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม จังหวัดขอนแก่น แนะให้บริษัทผู้รับสัมปทานเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต และให้มีการฝึกซ้อมแผนอุบัติภัยกับหน่วยงานภายนอกอย่างต่อเนื่อง

ในที่ประชุมคณะกรรมการติดตามตรวจสอบโครงการแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม อำเภอเขาสวนกวาง จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 16 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ซึ่งมี นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานการประชุม และมีคณะกรรมการติดตามตรวจสอบโครงการผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

ผู้แทนของบริษัท Hess (เฮด) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ได้รับสัมปทานก๊าซธรรมชาติ CNG หรือ NGV เพื่อส่งขายให้กับบริษัท ปตท. ได้รายงานว่า ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2549 ที่บริษัทได้เริ่มผลิตก๊าซส่งให้ ปตท.จนถึงเดือน กรกฏาคม 2556 สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้ 216,123 ล้านลูกบาศก์ฟุต และก๊าซธรรมชาติเหลวได้ 1,065,209 บาร์เรล หรือคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ผลิตได้ประมาณ 40 % ของปริมาณที่ตกลงซื้อขายกับ ปตท. ทั้งหมด 500 พันล้านลูกบาศก์ฟุต เป็นระยะเวลา 15 ปี โดย อบต. และ อบจ.ขอนแก่น สามารถเก็บค่าภาคกลวงเข้าเป็นรายได้ของท้องถิ่นตั้งแต่ปี พ.ศ 2550 ถึงปี 2556 เป็นเงินรวมกว่า 670 ล้านบาทเศษ

ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการติดตามตรวจสอบโครงการแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติสินภูฮ่อมของจังหวัดขอนแก่น ได้ชี้แนะจากรายงานผลการดำเนินงานของตัวแทนบริษัทผู้ได้รับสัมปทาน และบริษัทที่ปรึกษาที่แจ้งที่ประชุมทราบว่า ขอให้เฝ้าระวังในเรื่องของสิ่งแวดล้อมจากกระบวนการผลิต ทั้งในเรื่องของคุณภาพของน้ำ หากพบว่าไม่ปลอดภัย หรือมีสารปนเปื้อนก็ขอให้แจ้งให้ราษฎรทราบให้ชัดเจน ในส่วนของระดับเสี่ยงจากกระบวนการผลิตหากเกินมาตรฐานที่กำหนดก็ขอให้มีการแก้ไข นอกจากนี้ในเรื่องของการฝึกซ้อมป้องกันอุบัติเหตุจากท่อส่งแก๊ซรั่วก็ขอให้มีการซ่อมอย่างต่อเนื่อง และแจ้งให้หน่วยงานในพื้นที่รับทราบและร่วมฝึกซ้อมด้วย เพื่อป้องกันความสูญเสียจากเหตุที่ไม่คาดคิด




สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว

จังหวัดขอนแก่นออกหน่วยบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกลตามนโยบายรัฐบาล

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นำหัวหน้าส่วนราชการและบริการต่างๆ ของหน่วยงานออกให้บริการพบปะเยี่ยมเยียนประชาชนที่อยู่ห่างไกลในชนบท ที่บ้านค้อ ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง ตามโครงการ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน

เมื่อเช้าวันนี้ (26 สิงหาคม 2556) นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้นำหัวหน้าส่วนราชการ และบริการต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจประจำจังหวัดขอนแก่นให้บริการพบปะเยี่ยมเยียนชี้แจงนโยบายให้กับประชาชนที่อยู่ห่างไกลในชนบท ที่โรงเรียนบ้านค้อ ตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น โดยมี นายวรทัศน์ ธุลีจันทร์ นายอำเภอภูเวียง ให้การต้อนรับและกล่าวรายงานข้อมูลโดยสรุปของอำเภอภูเวียง และมีราษฎรบ้านค้อและหมู่บ้านใกล้เคียงมารับบริการต่าง ๆ จำนวนมาก

พิธีเริ่มด้วย นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้เปิดกรวยถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ หลังจากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ได้มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน จำนวน 30 ทุน ๆ ละ 1,000 บาท มอบถุงยังชีพ ผ้าห่ม ของสำนักเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นให้แก่ราษฎรที่มีฐานะยากจน มอบพันธุ์ปลาให้แก่ผู้นำชุมชน นำไปปล่อยในแหล่งน้ำสาธารณะของหมู่บ้าน ในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ยังได้เป็นประธานมอบเงินรางวัลและเกียรติบัตรให้แก่ตัวแทนหมู่บ้านหนองโพน หมู่ 4 ตำบลกุดขอนแก่น ที่เป็นหมู่บ้านชนะเลิศการประกวดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง อยู่เย็น เป็นสุข ของตำบลกุดขอนแก่น อำเภอภูเวียง

สำหรับบริการต่าง ๆ ที่หน่วยงานราชการนำออกไปให้บริการแก่ประชาชนประกอบด้วย บริการตรวจรักษาโรค บริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ด้านที่ดิน บริการฝึกอาชีพระยะสั้น การจำหน่ายสินค้าโอท็อป การแจกต้นไม้ให้ราษฎรนำไปปลูกตามหัวไร่ปลายนา เป็นต้น โดยมีราษฎรจากหลายหมู่บ้านมารับบริการต่าง ๆ จำนวนมาก



สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว

จ.สุรินทร์ อนุมัติเงินกองทุนหมู่บ้านแล้ว 2,061 กองทุน คิดเป็น 96.72 เปอร์เซ็นต์

วันนี้ (27 ส.ค. 56) ที่ห้องประชุมจอมสุรินทร์ อำเภอเมืองสุรินทร์ นายกสิน นวลโคกสูง พัฒนาการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการสนับสนุนและติดตามการดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านระดับจังหวัด จังหวัดสุรินทร์ ครั้งที่ 5/2556 ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ได้รับจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล เพื่อดำเนินการตามโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่มีกองทุนจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว 2,131 กองทุน ให้ดำเนินการขอเพิ่มทุนระยะที่ 3 กองทุนละ 1 ล้านบาท และผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการระดับจังหวัดแล้ว 10 รอบ รวมทั้งสิ้น 2,028 กองทุน และในครั้งนี้เป็นการประชุมเพิ่มเติมครั้งที่ 11 คณะกรรมการ ฯ ได้มีมติอนุมัติเพิ่มเติมอีก 33 กองทุน รวมเป็น 2061 กองทุน คิดเป็น 96.72 เปอร์เซ็นต์ คงเหลือ 70 กองทุน คิดเป็น 3.28 เปอร์เซ็นต์

สำหรับอำเภอที่ได้รับความเห็นชอบให้เพิ่มทุนระยะที่ 3 ครบร้อยละ 100 แล้ว มี 10 อำเภอ ดังนี้ คือ อำเภอท่าตูม ปราสาท ชุมพลบุรี จอมพระ กาบเชิง บัวเชด พนมดงรัก เขวาสินรินทร์ สนมและลำดวน ส่วนอำเภอที่คงเหลือมากที่สุด คืออำเภอศรีณรงค์ สังขะ และเมืองสุรินทร์ ส่วนที่เหลือ 70 กองทุน คณะอนุกรรมการ ฯ ได้มอบให้คณะกรรมการ ฯ ระดับอำเภอ ช่วยเร่งดำเนินให้แล้วเสร็จก่อนเดือนกันยายนนี้

จ.สุรินทร์ ประชุมกำหนดแนวทางในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนาลำห้วยเสนง เพื่อสร้างความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

วันนี้ (27 ส.ค. 56) ที่ห้องประชุมอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง อำเภอเมืองสุรินทร์ นายนิรันดร์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายเจษฎา บุญสุยา ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุรินทร์ ร่วมประชุมพร้อมกับหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา ภาคประชาชน ผู้ประกอบการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู พัฒนาลำห้วยเสนง เพื่อสร้างความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

ลำห้วยเสนง เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่เกิดจากเทือกเขาพนมดงรักทางตอนใต้ของจังหวัดสุรินทร์ ไหลขึ้นมาทางตอนกลางของจังหวัด เป็นธารน้ำขนาดใหญ่ผ่านหลายบริเวณในเขตตำบลเฉนียง อำเภอเมืองสุรินทร์ เดิมเป็นธารน้ำที่เชื่อมต่อกับคูเมืองชั้นนอกของเมืองประทายสมันต์หรือเมืองสุรินทร์ ต่อมาได้มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห่างจากตัวเมืองสุรินทร์ไปทางทิศใต้ ๖ กิโลเมตร มีร่องน้ำ และคลองส่งน้ำเพื่อการเกษตรกระจายทั่วพื้นที่ในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์ ไหลลงลำห้วยชีทางทิศตะวันตกของอำเภอเมืองสุรินทร์ ถือว่าเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ มีน้ำใช้ตลอดปี เป็นแหล่งชุกชุมของปลาน้ำจืด และแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด และผลิตน้ำประปาในเขตเมืองสุรินทร์

ซึ่งต่อมาเมื่อมีประชาชนมาอยู่อาศัยในเขตพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยา มีขยะ วัชพืชส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมในหมู่บ้านหนองเต่า ที่มีอาณาเขตติดกับลำห้วยเสนง ที่ประชุมจึงมีมติในการอนุรักษ์ฟื้นฟู พัฒนาลำห้วยเสนงระยะทางตั้งแต่ท้ายประตูระบายน้ำห้วยเสนง ตำบลเฉนียงถึงบริเวณสะพานแยกเรือนจำจังหวัดสุรินทร์ ระยะทาง 13 กิโลเมตร และในวันพรุ่งนี้(28 ส.ค.56) ตั้งแต่เวลา09.00 น. เป็นต้นไป หน่วยงานทุกแห่งที่รับผิดชอบ พร้อมทั้งนักเรียน นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎสุรินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ จะร่วมเก็บขยะ กำจัดผักตบชวาในริมคลองห้วยเสนง ที่ขวางเส้นทางน้ำ เพื่อให้ลำห้วยเสนงกลับมาสวยใส เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามของจังหวัดสุรินทร์อย่างยั่งยืนตลอดไป

กาชาดจังหวัดขอนแก่นมอบเฮือนกาชาดหลังที่ 26 หลังสุดท้ายของโครงการ

สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นมอบเฮือนกาชาดหลังที่ 26 หลังสุดท้ายของโครงการมอบให้ครอบครัวผู้ยากไร้ขาดแคลนที่อยู่อาศัยชาวอำเภอบ้านฝางเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดขอนแก่นและคณะกรรมการเหล่ากาชาดขอนแก่นร่วมมอบบ้านให้กับครอบครัวนายธีระศักดิ์ ขันธมาลี ชาวบ้านหนองบัว ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านฝาง จังหวัดขอนแก่น โครงการของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น จัดทำขึ้นตามโครงการกาชาดใส่ใจให้ที่อยู่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี โดยทำการสร้างบ้านให้กับครอบครัวที่มีฐานะยากจนและเป็นคนดีของสังคม ที่ไม่มีมี่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งจัดสร้างให้กับผู้ยากไร้ทั้ง 26 อำเภอจำนวน 26 หลังใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านบาทโดยใช้ชื่อว่า เฮือนกาชาด มีการมอบมาแล้ว 25 อำเภอ 25 หลัง สำหรับที่อำเภอบ้านฝางจะมอบเป็นหลังที่ 26 หลังสุดท้ายของโครงการในปีนี้สำหรับการก่อสร้างบ้านได้สร้างตามแบบของสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดขอนแก่น ซึ่งทางเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นสนับสนุนงบประมาณหลังละ 74,400 บาทเป็นค่าวัสดุ-อุปกรณ์โดยค่าแรงใช้แรงงานชาวบ้านในพื้นที่เสียสละแรงกายช่วยกันสร้างโดยงบประมาณส่วนหนึ่งทาง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้านได้สนับสนุน เพื่อช่วยเหลือสังคมบริจาคเครื่องครัวและของใช้ในบ้านเพื่อเติมความสุขให้กับครอบครัวของนายธีระศักดิ์ ขันธมาลี ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและเป็นคนดีในสังคมต่อไป

ตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น จับกุมวัยรุ่นที่รวมกลุ่มมั่วสุมเสพยาเสพติดในห้องพัก

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 26 ส.ค. 2556  ร.ต.ต.อานุภาพ ทุมมณี รองสารวัตรงานป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น นำกำลังตำรวจเข้าตรวจค้นห้องพักหมายเลข 309 กรองทองแมนชั่น ถนนศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น

จากการตรวจค้นภายในห้องพบ นายกีรติกร อามาตย์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 6 ตำบลตะกั่วป่า อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าของห้องพัก นายธันยา เหล่าพร อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ 1 ต.โนนหัน อ.ชุมแพ นายชัยมงคล แพงไสสง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73/1 หมู่ 6 ต.ตะกั่วป่า อ.หนองสองห้อง และนายพงศธร นามโยสา อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 299 หมู่ 7 ต.บ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น โดยวัยรุ่นทั้ง 4 คน กำลังอยู่ในอากรเมายาเสพติดหลังได้เสพกัญชา และยาบ้าเข้าไป ซึ่งผลการตรวจปัสสาวะทั้ง 4 คนพบว่า ปัสสาวะมีสีม่วงทั้งหมด จากการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 18 เม็ด กัญชาจำนวนหนึ่ง บ้องกัญชา 2 กระบอก และอุปกรณ์เสพยาบ้า นายธันยา สารภาพว่า ตนเองได้ซื้อกัญชาจากพ่อค้ารายหนึ่งมาเสพ โดยจะโทรศัพท์เรียกเพื่อนๆมามั่วสุมเสพยาเสพติดเป็นประจำ ซึ่งกัญชาจะซื้อมาครั้งละ 200 ถึง 500 บาท ส่วนยาบ้าจะซื้อในราคาเม็ดละ 300 บาท จนกระทั่งถูกจับกุมในครั้งนี้ สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้มีชาวบ้านใกล้เคียงได้โทรศัพท์แจ้งว่า ที่ห้องดังกล่าวมักมีการรวมกลุ่มเสพยาเสพติดเป็นประจำ จึงได้เข้าจับกุมได้ผู้ต้องหา และยาเสพติดดังกล่าว ซึ่งตำรวจจะได้ขยายผลหาพ่อค้ายาเสพติดที่วัยรุ่นกลุ่มนี้ซื้อมาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อาจารย์ มทส. คว้ารางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ในประเทศไทย (สาขาฟิสิกส์) 2013

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า อาจารย์ มทส. คว้ารางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ในประเทศไทย (สาขาฟิสิกส์) 2013 TWAS Prize for Young Scientists in Thailand

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานมอบโล่รางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ของประเทศไทยประจำปี 2556 (สาขาฟิสิกส์) 2013 TWAS Prize for Young Scientists in Thailand แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วรวัฒน์ มีวาสนา อาจารย์ประจำสาขาวิชาฟิสิกส์ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) ซึ่งผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา ณ บางกอกคอนเวนชั่นเซนเตอร์ โรงแรมเซนทาราแกรนด์ กรุงเทพมหานคร

รางวัลดังกล่าวเริ่มมอบตั้งแต่ปี 2540 เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กับ TWAS (Academy of Sciences for the Developing World) หรือ สภาวิทยาศาสตร์สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ภายใต้การสนับสนุนของ UNESCO ปัจจุบันมีประเทศสมาชิกเข้าร่วมโครงการจำนวน 43 ประเทศทั่วโลก เพื่อส่งเสริมและประกาศเกียรติคุณนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ของประเทศไทยที่มีอายุไม่เกิน 40 ปี โดยคัดเลือกผู้มีผลงานดีเด่นเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติใน 4 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน คือ ชีววิทยา เคมี คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์ โดยมีการมอบรางวัลปีละ 1 รางวัล หมุนเวียนกันไปแต่ละปีตามลำดับ โดยในปี 2556 นี้เป็นการมอบให้กับสาขาวิชาฟิสิกส์ ซึ่งผู้ที่ได้รับรางวัลนี้ คือ ผศ.ดร.วรวัฒน์ มีวาสนา จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ผู้มีผลงานวิจัยค้นพบ "คุณสมบัติที่โดดเด่นของโลหะออกไซด์กับยุคใหม่ของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์”ซึ่งเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาวงการอิเล็กทรอนิกส์ที่จะก้าวไปสู่ยุคใหม่

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วรวัฒน์ มีวาสนา ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำสาขาวิชาวิชาฟิสิกส์ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา สำเร็จการศึกษาปริญญาโท-เอก สาขาฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยสแตมฟอร์ด สหรัฐอเมริกา จบปริญญาตรีสาขาฟิสิกส์ ด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และรางวัล Outstanding Senior Award จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานตา บาร์บารา สหรัฐอเมริกา มัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย เมื่อปี 2555 ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ สาขาฟิสิกส์ จากมูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี 2540 รับทุนการศึกษาระดับตรี-โท-เอก จากสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตามโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) มีผลงานตีพิมพ์ 37 เรื่อง (h-index = 16) ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติที่อยู่ในฐานข้อมูล SCOPUS ได่แก่ Nature Materials, Physical Review Letters, Science, Applied Physics Letters, New Journal of Physics และ Applied Surface Science เป็นต้น ผลงานมีการอ้างอิงรวมทั้งหมดแล้วมากกว่า 850 ครั้ง

สุวัจน์ จับมือ กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งผลักดันผู้ผลิตสินค้า OTOP ไทย กว่า 3.6 หมื่นราย ให้มีการผลิตได้มาตรฐานสากล เพื่อรุกตลาด AEC

ที่อาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงาน "การพัฒนาสินค้า OTOP ด้วยมาตรฐาน มผช. สู่ AEC” พร้อมกล่าวว่า ปัจจุบันสินค้า OTOP เรามีลูกค้าอยู่ในประเทศ ประมาณ 63 ล้านคน แต่ในอีก 2 ปี ข้างหน้า เมื่อเข้าสู่ AEC แล้ว เราจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 600 ล้านคน ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงเล็งเห็นว่าสินค้า OTOP จะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้กับคนไทย แต่ทั้งนี้ก็ต้องทำให้ทุกคนเข้าใจในการทำธุรกิจอย่างมืออาชีพ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจทั้งประเทศ และขณะนี้สินค้า OTOP ของไทย ก็เป็นอันดับแนวหน้าของโลก หากจะทำสินค้า OTOP ของไทย ให้ได้มาตรฐานจริงๆ ก็เชื่อว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานให้กับการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรม จัดกิจกรรมครั้งนี้ขึ้นมา เพื่อเร่งรัดให้ผู้ประกอบการสินค้า OTOP ที่ขึ้นทะเบียนไว้กว่า 36,000 ราย ทั่วประเทศ ให้เข้าสู่ระบบในการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม กำหนดไว้ ซึ่งให้ชื่อมาตรฐานนี้ว่า "มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ มผช.” ซึ่งขณะนี้ใน 36,000 กว่าราย ก็ได้มาตรฐาน มผช.แล้วประมาณ 1 หมื่นกว่าราย และก็จะดำเนินการให้ได้ครบ ทั้ง 36,000 กว่าราย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในกลุ่มประเทศ AEC และสามารถส่งสินค้า OTOP ไปจำหน่ายทั่วโลกได้ในอนาคตต่อไป

มารู้จักคำว่า "สวัสดี" ภาษาทักทายของชาวอาเซียนกันเถอะ

อย่าลืม ท่องเอาไว้ใช้ นะคะ / นะครับ


จังหวัดนครราชสีมา จัดค่ายพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ประจำปี 2556 ดึงผู้เสพ และผู้ติดยาเสพติดเข้าค่ายบำบัดยาเสพติด

วันนี้ ( 27 ส.ค. 56 ) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา นายอุกริช พึ่งโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดกิจกรรมค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ค่ายพลังแผ่นดินอำเภอโนนสูง เอาชนะยาเสพติด ประจำปี 2556 โดยกำหนดระยะเวลา 9 วัน 8 คืน ระหว่างวันที่ 26 สค – 3 กย 2556 โดยมีผู้ที่ผ่านการคัดกรอง เข้าร่วมอบรม จำนวน 65 คน

นายอุกริช พึ่งโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ดำเนินการตามยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด โดยยึดหลักผู้เสพ คือ ผู้ป่วยที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา ให้กลับมาเป็นคนดีของสังคม พร้อมทั้งมีกลไกติดตามช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ดำเนินการอย่างจริงจังในการป้องกันกลุ่มเสี่ยง และประชาชนทั่วไปไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ด้วยการรวมพลังทุกภาคส่วนเป็นพลังแผ่นดินในการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด ทั้งนี้ ได้กำหนดให้มีการจัดทำค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในกลุ่มผู้เสพ ซึ่งเป็นการนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดในระบบสมัครใจอีกมาตรการหนึ่ง เพื่อให้ผู้เสพยาเสพติดได้รับการบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถคืนกลุ่มเหล่านี้เป็นคนดีของสังคมได้

จังหวัดนครราชสีมา จัดงานเทกระจาด แจกข้าวสาร อาหารแห้งช่วยเหลือผู้ยากไร้ นับหมื่นคน

วันที่ 26 ส.ค. 56  เวลา 14.30 น.  ที่มูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ้ง สว่างเมตตาธรรมสถาน อำเภอเมืองจังหวัดนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายประเสริฐ บุญชัยสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และคนไทยเชื้อสายจีน ในจังหวัดนครราชสีมา จัดงานประเพณีเทกระจาดทิ้งทาน ให้กับผู้ยากไร้ หรือ งานประเพณี (ซิโกว) ของมูลนิธิหลักเสียงเซี่ยงตึ้ง สว่างเมตตาธรรมสถาน ประจำปี 2556 เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณไร้ญาติ และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ยากไร้ โดยภายในงาน ได้มีพิธีแจกข้าวสารอาหารแห้ง ยารักษาโรค จำนวน กว่า 10,000 ชุด ให้กับผู้ยากไร้และมีรายได้น้อยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้มีประชาชนผู้ยากไร้นับหมื่นคนมารอรับทานแน่นขนัด

สุวัจน์ ลิปตพัลลภ เผยประชุมสภาปฏิรูปการเมืองเป็นการเริ่มต้นที่ดี ชี้การเจรจาช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้ง ระบุหากการปฏิรูปการเมืองครั้งนี้สำเร็จคนไทยทุกคนจะมีความสุข

วันที่ 26 ส.ค. 56   นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยหลังจากเป็นประธานเปิดการสัมมนาการพัฒนาสินค้าโอทอปด้วยมาตรฐานสู่ AEC ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสรนารี จังหวัดนครราชสีมา ถึงบรรยากาศการประชุมสภาปฏิรูปการเมืองในครั้งแรกเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) ว่า ตนคิดว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี และเราก็ได้กรอบของการทำงานว่าการหาทางออกของประเทศไทยไม่ใช่ทำเฉพาะการปฏิรูปการเมือง เราควรปฏิรูปทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม เพราะมันเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน และควรปฏิรูปให้มีกลไกในการขับเคลื่อนในทุกด้านไม่ให้ขัดแย้งกัน ซึ่งจากนี้ไปก็ต้องจัดตั้งคณะทำงาน และเชิญผู้ที่ยังไม่ได้เข้ามามีส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมทั้งในเรื่องของการแสดงความคิดเห็น หรือเป็นคณะทำงาน ซึ่งปัจจัยของความสำเร็จของการปฏิรูปครั้งนี้ก็คือการเข้ามามีส่วนร่วมของทุกฝ่าย โดยที่ประชุมก็มีความเห็นร่วมกันว่า ควรจะเชิญผู้ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมให้เข้าร่วมในการปฏิรูป เพราะถ้าการปฏิรูปสำเร็จ ประเทศไทยมีทางออก และความขัดแย้งหมดไป ก็จะทำให้คนไทยทุกคนมีความสุข ทั้งนี้ที่มีบางคนมองว่าเรื่องทั้งหมดเป็นปาหี่ทางการเมือง ตนซึ่งได้เข้าร่วมประชุมก็ไม่ได้มีความรู้สึกแบบนั้น และตนก็ให้ความคิดเห็นของตนกับที่ประชุมว่า การเจรจาแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนั้นสำคัญที่สุด ซึ่งรวมถึงการเจรจาทั้งในที่เปิดเผย หรือไม่เปิดเผยก็ตาม เพราะการเจรจาเป็นพื้นฐานของความสำเร็จ และตนก็ไม่รู้สึกว่าการประชุมสภาปฏิรูปเป็นเรื่องของการจัดฉากแต่อย่างใด แต่เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องการเห็นบ้านเมืองสงบเรียบร้อย และตนก็อยากจะเชิญชวนผู้ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมให้เข้าร่วมกับสภาปฏิรูปครั้งนี้ด้วย





สำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุรินทร์ เชิญผู้สนใจจองเหรียญที่ระลึก เพชรยอดมงกุฎ เพื่อสนับสนุนโครงการเพชรยอดมงกุฎสาธารณกุศล

นายจิตติ โคระสินธ์ ธนารักษ์พื้นที่สุรินทร์ เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้ดำเนินการโครงการจัดสร้างเหรียญที่ระลึกพระคลัง เพชรยอดมงกุฎ เพื่อสนับสนุนโครงการเพชรยอดมงกุฎสาธารณกุศลและนำเข้ากองทุนสวัสดิการกรมธนารักษ์ โดยให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ของกรมธนารักษ์มีไว้สักการบูชา พร้อมทั้งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นขวัญกำลังใจ ตลอดจนยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุตจริต โดยกำหนดเปิดรับจองเหรียญที่ระลึกฯ ตั้งแต่วันที่ บัดนี้ไปจนถึง 31 สิงหาคม 25556 และกำหนดรับเหรียญตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2556 ณ สำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินในพระบรมมหาราชวังฯ สำนักบริหารเงินตราฯ สำนักฯกองในสังกัดกรมธนารักษ์ และสำนักงานธนารักษ์พื้นที่ทุกจังหวัด ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานธนารักษ์พื้นทีสุรินทร์ หมายเลขโทรศัพท์ 0 4451 1448





ศริณภาพร จันทสุข  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

กกต.สุรินทร์ เตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นจำนวน 90 แห่งในเดือนตุลาคม นี้

วันนี้ (26 ส.ค. 56) นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะประธาน กกต.สุรินทร์ เปิดการประชุมชี้แจงคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 450 คน เพื่อเตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้งผู้บริหารและและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ในวันที่ 19 ตุลาคม 2556 ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 5 กันยายน 2556 จำนวน 90 แห่ง

ประธาน กกต.สุรินทร์ กล่าวว่า กกต.สุรินทร์ ได้จัดทำแผนการเลือกตั้งท้องถิ่น ในปี 2556 ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมพร้อมทั้งกำลังคน วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในการจัดการเลือกตั้งไว้แล้ว โดยมีคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง โดยการควบคุมดูแลของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และคณะกรรมการการเลือกตั้ง จึงได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางการปฏิบัติงานให้มีความรู้ ความเข้าใจ ถึงบทบาทหน้าที่ กฎหมาย ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง และมติของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม





กิติวรรณ มณีล้ำ สวท.สุรินทร์  / ข่าว

จังหวัดสุรินทร์ แจ้งเปิดบริการสายด่วนคนพิการหมายเลข 1479 “ได้งาน เข้าถึงสิทธิ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า”

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า มูลนิธิพระมหาไถ่เพื่อการพัฒนาคนพิการ ได้เปิดบริการสายด่วนคนพิการหมายเลข 1479 “ได้งาน เข้าถึงสิทธิ เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” เพื่อเป็นช่องทางในการรับแจ้งการช่วยเหลือทุกเรื่องจากคนพิการ โดยเป็นหมายเลขที่ให้บริการตอบข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์สำหรับคนพิการและครอบครัว เพื่อให้คนพิการได้รับทราบสื่อกลางการช่วยเหลือคนพิการด้านต่างๆ ซึ่งอาจช่วยให้มีกำลังใจในการดำเนินชีวิตหรือช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนพิการให้มากขึ้น ซึ่งมีจำนวน 10 คู่สาย ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคนพิการได้ ในระหว่างวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-20.00 น. เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์



ศริณภาพร จันทสุข  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

จ.สุรินทร์มียอดสั่งซื้อข้าวจากจังหวัดนครศรีธรรมราช กว่า 23 ล้านบาท

นายสิทธิพร บางแก้ว พาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ได้คัดเลือกจังหวัดสุรินทร์ให้เป็นจังหวัดนำร่อง ในการขยายตลาดข้าวหอมมะลิอินทรีย์และกำหนดกลยุทธ์การส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรอินทรีย์ไทย โดยการนำกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หรือกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์ ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ทำการเกษตรเพาะปลูกข้าวหอมมะลิเป็นผลผลิตหลัก ไปจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านการตลาดและกระจายสินค้า ภายใต้ชื่องาน “มหกรรมข้าวหอมมะลิ และของดีกลุ่มจังหวัดนครชัยบุรินทร์" ที่ศูนย์การค้าตลาดลีวัฒนา อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ผ่านมานั้น

สำหรับการเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ที่โรงแรมทวินโลตัส จังหวัดนครศรีธรรมราช มียอดสั่งซื้อสินค้าของจังหวัดสุรินทร์ทั้งสิ้น 23,500,000 บาท (ยี่สิบสามล้านห้าแสนบาทถ้วน) โดยบริษัท Moral Intertrad (Thailand) Co.,Ltd ได้สั่งซื้อผลิตภัณฑ์บะหมี่ข้าวกล้อง จากบริษัท ติง เฮง ฟู้ด โปรดักส์ จำกัด จังหวัดสุรินทร์ มูลค่า 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาทถ้วน) และร้านเสือทอง จังหวัดนครศรีธรรมราช สั่งซื้อข้าวหอมมะลิ จากบริษัท เจ.พี ไรส์ อินเตอร์เนชั่นแนล 1998 จังหวัดสุรินทร์ มูลค่า 18,500,000 บาท (สิบแปดล้านห้าแสนบาทถ้วน ) ซึ่งพี่น้องประชาชนชาวภาคใต้จะนิยมทานข้าวหอมมะลิสุรินทร์เพราะนุ่มหอมอร่อยกว่าข้าวทั่วไปมาก





กัญญรัตน์  เกียรติสุภา  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 5 ลงพื้นที่เก็บข้อมูลพืชสำคัญ 4 ชนิด ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 1 ถั่วเหลืองรุ่น 1 ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ 4 จังหวัดอีสาน

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 5 นครราชสีมา (สศข.5) ว่า มีแผนการเตรียมลงพื้นที่เพื่อจัดเก็บข้อมูลปริมาณการผลิตทางการเกษตรของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 1 ถั่วเหลืองรุ่น 1 ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ภายในพื้นที่เขตรับผิดชอบ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ โดยจะออกทำการเก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่ 1 - 31 สิงหาคม 2556 ภายในเขตหมู่บ้านตัวอย่างต่างๆ ที่ได้ถูกกำหนดไว้ โดยมีจำนวนตัวอย่างของหมู่บ้านในการสำรวจ ดังนี้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 1 จำนวน 143 หมู่บ้าน ถั่วเหลืองรุ่น 1 จำนวน 7 หมู่บ้าน ยางพารา 100 หมู่บ้าน และปาล์มน้ำมัน 14 หมู่บ้าน ซึ่งจะกระจายอยู่ภายในเขตท้องที่ต่างๆ ของทั้ง 4 จังหวัด เพื่อที่จะนำเอาข้อมูลที่ได้สอบถามจากเกษตรกรที่เป็นตัวอย่างในการสำรวจมาทำการหาค่าประมาณทางสถิติ และจะนำเอาข้อมูลที่ได้จากการสำรวจมาทำการวิเคราะห์เพื่อหาค่าปริมาณการผลิตของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รุ่น 1 ถั่วเหลือง รุ่น 1 ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ว่าจะมีปริมาณมากน้อยเพียงใดในปีเพาะปลูก 2556/57 พร้อมเปรียบเทียบกับแต่ละปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพดินฟ้าอากาศที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ จึงส่งผลให้เกษตรกรประสบปัญหาที่แตกต่างกัน ดังนั้น ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ จะสามารถนำมาเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้อย่างถูกต้องและตรงจุด ซึ่งเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรโดยตรง

ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 5 จึงขอความร่วมมือจากเกษตรกรในแต่ละหมู่บ้านที่ตกเป็นหมู่บ้านตัวอย่างในการสำรวจ ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรในการตอบแบบสอบถามและการให้ข้อมูล ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเกษตรกรเอง และนำไปใช้ประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาการเกษตรต่อไป ซึ่งคาดว่าจะได้ผลสำรวจแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้




กัญญรัตน์  เกียรติสุภา  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กำชับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งงบประมาณเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้

นายยุทธนา วิริยะกิตติ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า  จังหวัดสุรินทร์ ได้จัดประชุมคณะทำงานป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ (26 สิงหาคม 2556 ) ที่ห้องประชุมสุรินทร์ภักดี  ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์  โดยที่ประชุมได้สรุปปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าเปรียบเทียบ ปี  พ.ศ. 2555 – 2556 พบว่า ในปี 2556 สถานการณ์การบุกรุกตัดไม้ทำลายป่า รอบ 10 เดือน  มีการจับกุมผู้กระทำผิดสูงกว่ารอบ 12 เดือนของปี  2555 จากปัญหาดังกล่าวจังหวัดสุรินทร์จึงได้จัดทำแผนป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้จังหวัดสุรินทร์เพื่อดำเนินการป้องกันแก้ไขปัญหา  โดยเฉพาะพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา  ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์  และมีปัญหาการบุกรุกตัดไม้มากกว่าพื้นที่อื่น  รวม 4 อำเภอ  ได้แก่  อำเภอกาบเชิง  อำเภอบัวเชด  อำเภอสังขะ  และอำเภอพนมดงรัก 

รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ในการป้องกันแก้ไขปัญหาการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าไม่สามารถดำเนินการได้โดยลำพัง  แต่ต้องได้รับการสนับสนุนจากประชาชนนำพื้นที่  โดยกำหนดให้การปฏิบัติภารกิจป้องกันการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้เป็นตัวชี้วัดของข้าราชการประจำอำเภอ  โดยแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 กลุ่ม คือ อำเภอตามแนวชายแดนและอำเภอตอนใน  และสั่งการให้ท้องถิ่นจังหวัดสุรินทร์ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งงบประมาณด้านการป้องกันการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ นอกจากนั้นยังได้นัดหมายหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ทหาร ตำรวจ  ป่าไม้  และอัยการจังหวัด  ร่วมประชุมหารือ เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินงาน  เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทรัพยากรป่าไม้ได้ผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น

สำหรับจังหวัดสุรินทร์เป็นหนึ่งใน  30 จังหวัดที่มีปัญหาวิกฤติด้านทรัพยากรป้าไม้  สาเหตุมาจากการลักลอบตัดไม้   โดยปัจจุบันจังหวัดสุรินทร์ มีพื้นที่ที่ไดรับการประกาศเป็นเขตป่าจำนวน 1,115,284  ไร่   แต่มีพื้นที่ป่าเหลือเพรียงร้อยละ 11.50  หรือ 583,906 ไร่ 






สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว

ชมรมรามคำแหงสุรินทร์เตรียมทอดผ้าป่าหารายได้สมทบทุนก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ประดิษฐาน ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ในฐานะประธานชมรมรามคำแหงสุรินทร์  เปิดเผยว่า  ชมรมรามคำแหงสุรินทร์ ได้จัดตั้งชมรมเพื่อสานสัมพันธ์ของสมาชิกชมรม  และจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ร่วมกัน  โดยได้จัดกิจกรรมวันสถาปนามหาวิทยาลัยรามคำแหงและวันคืนสู่เหย้าต่อเนื่องหลายปี  เพื่อหารายได้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณประโยชน์ในนามของชมรม  โดยปัจจุบันชมรมมีรายได้จากการจัดกิจกรรมรวม  624,772 บาท  และในปี 2556 นี้  ชมรมรามคำแหงสุรินทร์กำหนดจัดทอดผ้าป่าสามัคคี ในวันที่  26  กันยายน 2556  ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ โดยได้นิมนต์พระธรรมโมลี  เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์เป็นประธานฝ่ายสงฆ์  มีผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ในฐานะประธานชมรมรามคำแหงสุรินทร์เป็นประธานฝ่ายฆราวาส    ทั้งนี้เพื่อหารายได้สมทบทุนก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช  เพื่อประดิษฐาน ณ สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์  โดยมีเป้าหมายจัดหารายได้จำนวน  700,000 บาท

ศิษย์เก่ารามคำแหงทุกคน  ทุกรุ่นที่สนใจร่วมสมทบทุนก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช  เพื่อประดิษฐาน ณ สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติจังหวัดสุรินทร์ดังกล่าว   สามารถติดต่อขอบริจาคได้ที่  สำนักงานจังหวัดสุรินทร์   ที่ทำการปกครองจังหวัดสุรินทร์ และสำนักงานเทศบาลเมืองสุรินทร์  ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป






สมทรง  เผือกผล  ส.ปชส.สุรินทร์ / ข่าว