วันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

สำนักงานการค้าภายในจังหวัดนครพนม แจ้งราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร เนื้อสุกรแนะนำ

สำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ  ราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร  เนื้อสุกรแนะนำ วันที่ 17-21 กุมภาพันธ์ 2557

นายสุนทร  ภักดีศรีโฆษิต  การค้าภายในจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  ราคารับซื้อและราคาจำหน่ายสุกร เนื้อสุกรแนะนำ ในพื้นที่กรุงเทพ ฯภาคกลางและภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ ภาคเหนือ เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมในด้านราคาที่สมเหตุสมผลสอดคล้องกับต้นทุน รวมทั้งให้พ่อค้าคนกลางมีการกำหนดราคาที่เหมาะสมเป็นธรรมต่อผู้บริโภค

เขตพื้นที่ กรุงเทพมหานคร  ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตก ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๗2  บาท  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๘5  บาท ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก  ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๑7  บาท  ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๓2 บาท  ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๔3  บาท

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม  ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๗6 บาท  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 90 บาท  ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑24 บาท  ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑40บาท  ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑56 บาท

ภาคตะวันออก  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ  75 บาท  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 89  บาท   ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑23 บาท  ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๓9  บาท ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑50  บาท

ภาคใต้  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๗4 บาท  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๘8  บาท ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๒1  บาท ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๓7  บาท ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑48 บาท

ภาคเหนือ  ราคารับซื้อสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ ๗7 บาท  ขายส่งหมูซีก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ 91 บาท ขายส่งชิ้นส่วนสะโพก ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑๒5  บาท ขายปลีกเนื้อแดง ไม่ตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑41 บาท ขายปลีกเนื้อแดงตัดแต่ง (สะโพกและไหล่) ไม่สูงกว่ากิโลกรัมละ ๑52 บาท

กรณีจำหน่ายสุกรสูงกว่าราคา มีโทษจำคุก ๗ ปี ปรับไม่เกิน ๑๔๐,๐๐๐ บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ  และไม่ติดป้ายแสดงราคาจำหน่ายหรือจำหน่ายไม่ตรงตามราคาที่แสดงไว้ มีโทษปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท  สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ๐-๔๒๕๒-๐๙๘๗-๘  โทรสาร ๐-๔๒๕๒-๐๙๘๘

โครงการประกวดการพัฒนาภูมิปัญญาไทยสู่นวัตกรรม

กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับสำนักงานบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา มหาวิทยาลัยของแก่น จัด "โครงการประกวดการพัฒนาภูมิปัญญาไทยสู่นวัตกรรม” เพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยการส่งเสริมและสนับสนุนความสามารถในการแข่งขันทางการค้าขอคนไทยด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ด้วยการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมหรือภูมิปัญญาไทยนำไปต่อยอดผลิตภัณฑ์และเป็นตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (จังหวัดบึงกาฬ หนองคาย เลย อุดรธานี นครพนม หนองบัวลำภู สกลนคร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร ) เข้าร่วมประกวดผลงานระดับประเทศ

สามารถส่งใบสมัครได้ที่ สำนักงานบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา มหาวิทยาลัยขอนแก่น โทรศัพท์ / โทรสาร หมายเลข 043-202733 หรือ E-mail: jittla@kku.ac.th ภายในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ทั้งนี้สามารถดาวน์โหลดข้อมูลกิจกรรมโครงการและใบสมัครได้ที่เว็บไซต์สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครพนม www.moc.go.th/nakhonphanom


หัวข้อ ข่าว/ประกาศ ข่าวประชาสัมพันธ์

การค้าภายในจังหวัดนครพนม จัดงานจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชน ระดับอำเภอปี 2557

จังหวัดนครพนม ได้กำหนดจัดงานจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชนระดับอำเภอ ปี 2557 ในพื้นที่ทุกอำเภอๆละ 1 ครั้ง รวม 12 ครั้ง 12 อำเภอ ดังนี้

      ครั้งที่ 1 วันที่ 4-6 มีนาคม 2557 ณ บริเวณถนนหน้าวัดศรีทอง เทศบาลตำบลโพนสวรรค์
      ครั้งที่ 2 วันที่ 8-10 มีนาคม 2557 ณ บริเวณถนนหน้าโรงเรียนบ้านท่าอุเทน
      ครั้งที่ 3 วันที่12-14 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสนามที่ว่าการอำเภอศรีสงคราม
      ครั้งที่ 4 วันที่16-18 มีนาคม 2557 ณ บริเวณสนามโรงเรียนบ้านนาหว้า
      ครั้งที่ 5 วันที่ 20-22มีนาคม 2557 ณ บริเวณตลาดองค์การบริหารส่วนตำบลดอนเตย อำเภอนาทม
       ครั้งที่ 6 วันที่ 24-26มีนาคม 2557 ณ บริเวณถนนหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลบ้านแพง
       ครั้งที่ 7 วันที่ 28-30มีนาคม 2557 ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม
       ครั้งที่ 8 วันที่ 1-3 เมษายน 2557 ณ บริเวณถนนข้างสำนักงานเทศบาลตำบลปลาปาก
       ครั้งที่ 9 วันที่ 5-7 เมษายน 2557 ณ บริเวณตลาดองค์การบริหารส่วนตำบลวังยาง
       ครั้งที่ 10 วันที่ 9-11 เมษายน 2557 ณ บริเวณข้างตลาดสดเทศบาลตำบลนาแก
       ครั้งที่ 11 วันที่ 18-20 เมษายน 2557 ณ บริเวณหน้าสวนศรีโคตรบูร เทศบาลตำบลธาตุพนม
       ครั้งที่ 12 วันที่ 22-24 เมษายน 2557 ณ บริเวณถนนหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลเรณูนคร

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานการค้าภายในจังหวัดนครพนม ศาลากลางจังหวัดนครพนม (หลังเดิม) โทร 042-520987-8

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนม จัดงาน”วันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557 จังหวัดนครพนม”

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนมร่วมกับขบวนการสหกรณ์ในจังหวัดนครพนม ได้กำหนดจัดงาน "วันสหกรณ์แห่งชาติ ประจำปี 2557 จังหวัดนครพนม”ระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2557 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระราชวงศ์เธอกรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ "พระบิดาสหกรณ์ไทย” ตลอดจนเผยแพร่งานของขบวนการสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดนครพนม และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับกลุ่มอาชีพต่างๆ จากทั่วทุกภาคของประเทศ อย่างเช่น

     - ข้าวสาร - เสื้อผ้า เครื่องหนัง
     - อาหารทะเลแปรรูป
     - เครื่องประดับ เซรามิก
     - เฟอร์นิเจอร์ และอื่นๆอีกมากมาย
     - ชมขบวนการพาเหรด - การสัมมนาทางวิชาการ
     - นิทรรศการ
     - การแข่งขันกีฬา

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครพนม โทร 042-511228

จังหวัดนครพนม ประกาศชมเชยการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครอง

จังหวัดนครพนมได้รับรายงานจากอำเภอเมืองนครพนม ว่าเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2557 เวลาประมาณ 23.40 น. นายสำริด วรรณวงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ตำบลอาจสามารถ พร้อมด้วยนายนิพน วรรณวงค์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับร้อย ตชด.ที่ 236 สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ นพ.2 (กุรุคุ) เจ้าหน้าที่ นรข.นครพนม และเจ้าหน้าที่ ส.รน.1 กก.10 บก.รน. ทำการจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 1 คน พร้อมของกลาง ประกอยด้วย

      1. ไม้พยุงท่อน จำนวน 6 ท่อน ปริมาตรรวม 1.07 ลูกบาศก์เมตร
      2. เลื่อยไฟฟ้าดัดแปลง จำนวน 1 เครื่อง
      3. สายไฟฟ้า จำนวน 1 ม้วน ยาว 18 เมตร

โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 69 ฐานร่วมกับพวกที่หลบหนีมีไม้หวงห้าม อันมิได้แปรรูปโดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขายไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย สถานที่เกิดเหตุบริเวณป่าข้างถนนสาธารณะบ้านนาสมดี หมู่ที่ 9 ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

จังหวัดนครพนมพิจารณาแล้วเห็นว่า นายสำริด วรรณวงค์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 9 ตำบลอาจสามารถ อำเภอเมืองนครพนม เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่น เสียสละอุทิศตนเพื่อสังคม ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชน อันเป็นนโยบายสำคัญยิ่งของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล ควรค่าแก่การยกย่องสรรเสริญและยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป

จังหวัดนครพนม จำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชนระดับอำเภอ ปี 2557

นายสุนทร  ภักดีศรีโฆษิต  การค้าภายในจังหวัดสกลนคร  เปิดเผยว่า  จังหวัดนครพนมจัดงานจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดลดค่าครองชีพประชาชน  ระดับอำเภอ ปี 2557  ระหว่างวันที่ 4 มีนาคม – 24 เมษายน 2557  จำนวน 12 ครั้ง  12  อำเภอ  โดยมีการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการค่าครองชีพในราคาถูกกว่าท้องตลาดเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจไปพร้อมกัน

โดยครั้งที่ 1  วันที่ 4-6 มีนาคม  2557  บริเวณถนนหน้าวัดศรีทอง  เทศบาลตำบลโพนสวรรค์

     ครั้งที่ 2  วันที่ 8-10 มีนาคม  2557  บริเวณถนนหน้าโรงเรียนบ้านท่าอุเทน

     ครั้งที่ 3  วันที่  12-14  มีนาคม  2557  บริเวณสนามที่ว่าการอำเภอศรีสงคราม

     ครั้งที่ 4  วันที่  16-18 มีนาคม  2557  บริเวณสนามโรงเรียนบ้านนาหว้า

     ครั้งที่  5  วันที่ 20-22 มีนาคม  2557  บริเวณตลาดองค์การบริหารส่วนตำบลดอนเตย  อำเภอนาทม

     ครั้งที่ 6  วันที่  24-26 มีนาคม  2557  บริเวณถนนหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลบ้านแพง

     ครั้งที่ 7  วันที่ 28-30 มีนาคม  2557  บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม

     ครั้งที่ 8  วันที่ 1-3 เมษายน  2557  บริเวณถนนข้างสำนักงานเทศบาลตำบลปลาปาก

     ครั้งที่ 9  วันที่ 5-7 เมษายน  2557  บริเวณตลาดสดองค์การบริหารส่วนตำบลวังยาง

     ครั้งที่ 10 วันที่  9-11  เมษายน  2557  บริเวณตลาดสดเทศบาลตำบลนาแก

     ครั้งที่ 11 วันที่  18-20  เมษายน 2557  บริเวณหน้าสวนศรีโคตรบูร  เทศบาลตำบลธาตุพนม

     ครั้งที่ 12  วันที่  22-24 เมษายน  2557 บริเวณถนนหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลเรณูนคร

โครงการผ่าตัดต้อกระจกเคลื่อนที่จังหวัดนครพนม ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

นายสมชอบ  นิติพจน์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  เปิดเผยว่า  องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม  ร่วมกับจังหวัดทหารบกนครพนม  โรงพยาบาลบ้านแพ้ว  (องค์การมหาชน)  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม  และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดนครพนม  จัดโครงการผ่าตัดต้อกระจกเคลื่อนที่จังหวัดนครพนม  ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ  ประจำปี 2557  สำหรับประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครพนมที่ป่วยเป็นโรคต้อกระจก  ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุและอุปกรณ์การผ่าตัดรักษาที่ทันสมัย  โดยทำการคัดกรองผู้ป่วยเมื่อวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  และเริ่มทำการผ่าตัดตั้งแต่วันที่ 21  กุมภาพันธ์  2557  เป็นต้นไป ณ โรงพยาบาลค่ายพระยอดเมืองขวาง  ตำบลกุรุคุ  อำเภอเมืองนครพนม  จังหวัดนครพนม  ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  สำนักปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด โทรศัพท์ 0-4251-6293

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดมุกดาหาร สอบราคาจ้างเหมาจัดงานสหกรณ์แห่งชาติประจำปี ๒๕๕๗

นายสรศักดิ์  เปี่ยมสง่า สหกรณ์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหารมีความประสงค์ สอบราคาจัดงานสหกรณ์แห่งชาติประจำปี ๒๕๕๗  กำหนดยื่นซองสอบราคา ในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น ถึงเวลา ๑๖.00 น. ณ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดมุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร และกำหนดเปิดซองใบเสนอราคาในวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐ น. เป็นต้นไป

ผู้สนใจติดต่อขอซื้อเอกสารสอบราคา ในราคาชุดละ ๑,๕๐๐ บาท ได้ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดมุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร ในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น. ถึงเวลา ๑๖.๐๐ น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ cpd_mukdahan@cpd.go.th โทรศัพท์หมายเลข ๐๔๒-๖๑๑๔๘๘ ในวันและเวลาราชการ



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่า

ตชด.234 มุกดาหาร จับกระเทียมและเปลือกไม้บงหนีภาษีตามแนวชายแดนริมฝั่งโขง

ตำรวจ ตชด.234 มุกดาหารจับยืดกระเทียมน้ำหนักรวม 680กิโลกรัมและเปลือกไม้บง เพื่อส่งโรงงานทำธูปไหว้พระ จำนวน 36 กระสอบ น้ำหนัก 1800 กิโลกรัม ขณะลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรและหลีกเลี่ยงภาษี ตามแนวชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขงชุมชนนาโปใหญ่ อำเภอเมืองมุกดาหาร

( 20 ก.พ.57) พ.ต.ท เทิดฤทธิ์ สุวรรณประทัง ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 234 มุกดาหาร ได้รับแจงจากสายว่าจะมีเรือหางยาวลักลอบขนกระเทียมและเปลือกไม้บง มาขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำริมฝั่งแม่น้ำโขงชุมชนนาโปใหญ่ ภายในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.ภาสกร หนุดตะแสง ผู้บังคับหมวดกองร้อง ตชด.234 มุกดาหาร เป็นหัวหน้าชุดปฎิบัติการ นำกำลัง ออกทำการตรวจสอบวางกำลังดักชุ่มตามแนวชายแดนตามที่ได้รับแจ้ง

จนกระทั่งในชาวมือของวันนี้ ( 20 ก.พ.57) ได้มีเรือหางยาวบรรทุกสิ่งของจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มาจอดเทียบท่าบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขงทางทิศตะวันออกของชุมชนนาโปใหญ่ ถนนสำราญชายโขงเหนือ เขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร หลังจากนั้นมีกลุ่มชายประมาณ10 คน ได้ช่วยกันขนสิ่งของที่เรือขึ้นฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบ กลุ่มชายดังกล่าว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ ได้ทิ้งสิ่งของที่ช่วยกันขนและอาศัยชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ ส่วนเรือหางยาวได้หันหัวเรือวิ่งกลับไปประเทศเพื่อนบ้าน จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นกระสอบบรรจุกระเทียม รวมจำนวน 34 กระสอบ น้ำหนักประมาณรวม 680 กิโลกรัม คิดมูลค่า 34,000 บาท และเปลือกไม้บง ที่มาใช้ทำธูป จำนวน 36 กระสอบน้ำหนัก 1800 กิโลกรัม มูลค่า 36,000 บาท โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร ซึ่งจากการสอบสวนทราบว่า กระเทียมดังกล่าว มาจากประเทศจีน เพื่อนำเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่จังหวัด เนื่องจากมีราคาถูกกว่ากระเทียมไทย 2-3 เท่า ส่วนเปลือกไม้บง ส่งจำหน่ายโรงงานทำธูปไหว้พระ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดสิ่งของทั้งหมดเป็นของกลาง และนำส่งด่านศุลกากรมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ตำรวจน้ำมุกดาหาร สนธิกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจยึดไม้พะยูงมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

ตำรวจน้ำมุกดาหาร สนธิกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจยึดรถยนต์กระบะหลังคาแครี่บอยบรรทุกไม้พะยูงท่อนจำนวน90 ท่านมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ขณะขนย้ายไปส่งให้กับนายทุน และจอดทิ้งไว้ข้างทางถนนชยางกูร ตรงข้ามห้างโกบอร์นเฮ้า ภายในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร

วันนี้ (20 ก.พ.57)  ที่กองกำกับการ 10 ตำรวจน้ำจังหวัดมุกดาหาร พ.ต.อ.ภัทรพล เล่าเปลี่ยน ผู้กำกับการการ 10 ตำรวจน้ำจังหวัดมุกดาหาร ได้แถลงข่าวการตรวจยึดไม้พะยูง จากกลุ่มผู้ลักลอบขนไม้พะยูง ที่ใช้เส้นทางจังหวัดมุกดาหาร เป็นทางผ่านส่งให้กับนายทุนและส่งต่อต่างประเทศ จำนวน 1 ราย ไม้พะยูง จำนวน 90 ท่อน มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และ รถยนต์กระบะโตโยต้าวีโก้ สีบอร์นทอง หลังคาแครี่บอย หมายเลขทะเบียน วว 9246 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ในกากรขนย้าย จำนวน 1 คัน โดยตรวจยึดได้ ขณะจอดทิ้งไว้ที่ ถนนชะยางกูร ตรงข้ามห้างโกบอร์นเฮ้า ภายในเขตเทศบาลเมือง มุกดาหาร ส่วนคนขับได้หลบหนีก่อนเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจยึด ทั้งนี้โดยก่อนการตรวจยึดตำรวจน้ำจังหวัดมุกดาหารได้รับแจ้งจากสายว่า ได้มีกลุ่มผู้ลักลอบขนไม้พะยูงจากจังหวัดอำนาจเจริญใช้รถยนต์กระบะ โตโยต้า หลังคาร์รี่บอย สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน วว 9246 กรุงเทพมหานคร ขนไม้พะยูงจากจังหวัดอำนาจเจริญมาส่งให้กับนายทุนในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร ตามเส้นทางชะยางกูร อำนาจเจริญ-มุกดาหาร จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อุดม พูลวงศ์ สารวัตรตำรวจน้ำ กองกำกับการ 10 ตำรวจน้ำจังหวัดมุกดาหาร และ ร.ต.ต.ปุ่น ลูกอินทร์ รองสารวัตรตำรวจน้ำ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 234 มุกดาหาร ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ทหารพราน และทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งได้มาตั้งฐานปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัด ตรวจสอบตามเส้นทางดังกล่าว

จนกระทั่งเช้าของวันนี้ ( 20 ก.พ.57) เวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พบรถต้องสงสัยและตรงตามที่สายรายงานจอดอยู่ที่ ริมถนนชยางกูร ตรงข้ามห้างโกบอร์นเฮ้า ภายในเขตเทศบาลเมืองมุกดาหาร จึงได้เข้าตรวจสอบแต่ไม่พบคนขับหรือเจ้าของรถแต่อย่างใด จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับจุดจอดรถยนต์ทราบว่า เห็นรถยนต์คันดังกล่าว วิ่งมาจอดตั้งแต่เช้ามืด หลังจากนั้นได้มีชาย 2 คนลงจากรถ และได้ขึ้นรถยนต์อีกคันหนึ่งที่วิ่งตามหลังมา ก่อนมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองมุกดาหาร เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตรวจสอบ เบื้องต้นพบภายในกระบะท้ายรถ ซึ่งติดหลังคาแครี่บอย บรรทุกไม้พะยูงเต็มคันรถ  เมื่อรอกว่า 20 นาทีไม่มีใครแสดงตนเป็นเจ้าของจึงได้นำรถคันดังกล่าวไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ กองกำกับการ 10 ตำรวจน้ำจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอื่น และไม่พบคู่มือหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์แต่อย่างใด

จากการตรวจนับไม้พะยูงทั้งหมดรวมจำนวน 90 ท่อน และแต่ละท่อนไม่มีรอยดวงตราอนุญาตของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใด จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด ตามความผิดพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 69 ฐาน มีไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต และมาตรา 70 ฐานร่วมกัน ซ่อนเร้น จำหน่ายหรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้ หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทบัญญัตินี้ แล้วนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองมุกดาหารดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

จังหวัดมุกดาหาร จัดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่และโครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุขสร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน

จังหวัดมุกดาหาร กำหนดจัดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และโครงการบำบัดทุกข์บำรุงสุขสร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ในพื้นที่ห่างไกล ณ บ้านหนองนกเขียน ตำบลร่มเกล้า อำเภอนิคมคำสร้อย

วันนี้ (20 ก.พ.57) เวลา 09.00 น. นายสกลสฤษฎ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธาน เปิดโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระ บรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ซึ่งจังหวัดร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในระดับจังหวัดและอำเภอนิคมคำสร้อยจัดขึ้น ณ โรงเรียนบ้านหนองนกเขียน ตำบลร่มเกล้า อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ทั้งนี้เพื่อให้คำปรึกษา คำแนะนำ ด้านเกษตรแก่เกษตรกรที่ประสบปัญหาด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับการเกษตร โดยบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิชาการ งานส่งเสริมด้านการเกษตร ศูนย์บริการและการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล ให้สำเร็จลุล่วง ณ จุดเดียว

ซึ่งกิจกรรมหลัก ได้แก่ คลินิกพืช คลินิกดิน คลินิกสัตว์ คลินิกประมง คลินิกบัญชี คลินิกชลประทาน คลินิกสหกรณ์ คลินิกกฎหมาย (ส.ป.ก.) เเละกิจกรรมเสริม ได้แก่ การประกวดอาหารสำหรับหญิงให้นมบุตรประเภทสำรับ การให้บริการตรวจวิเคราะห์สารพิษในเลือด นิทรรศการ และการจำหน่ายสินค้าเกษตร ผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้านสายใยรักแห่งครอบครัวฯ และวิสาหกิจชุมชน อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ที่ประสงค์จะติดต่อราชการในระดับจังหวัด อำเภอ โดยไม่ต้องเดินทางไกล ซึ่งทำให้เสียค่าใช้จ่าย และเสียเวลาในการประกอบอาชีพ และเพื่อรับทราบปัญหาความต้องการความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่อง ถนนในหมู่บ้านและแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง ซึ่งจังหวัดจะได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับไปดำเนินการและแนวทางช่วยเหลือ

ทั้งนี้โดยมีหน่วยงานของส่วนราชการร่วมออกให้บริการ ตามโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน ครั้งนี้กว่า 30 หน่วยงาน และได้มีประชาชนตำบลร่วมเกล้ามารับบริการกันเป้นจำนวนมาก และนอกจากนี้ เหล่ากาชาดจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบมอบถุงยังชีพ แว่นสายตา และผ้าห่มรวม จำนวน 500 ผืน ให้กับผู้สูงอายุและผู้มีฐานะยากจน เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นด้วย

บุรีรัมย์ฝนตกถนนลื่นปิคอัพบรรทุกแรงงานนับสิบเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางดับคาที่ 1 บาดเจ็บ 9

บุรีรัมย์ฝนตกถนนลื่นปิคอัพบรรทุกแรงงานนับสิบเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางดับคาที่ 1 บาดเจ็บ 9 รถปิกอัพบรรทุกแรงงานจำนวน 10 คนรวมคนขับ จะไปทำงานในฟาร์มที่อำเภอหนองกี่ เกิดเสียหลักตกถนนพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิตคาที่ 1 บาดเจ็บ 9 ราย จำนวนนี้สาหัส 2 รายต้องส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ให้แพทย์ช่วยชีวิต คนขับเผยฝนตกถนนลื่นและมีรถพ่วงจอดด้านหน้ามองไม่เห็นจึงหลักหลบก่อนเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง (20 ก.พ.57) ตำรวจ สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุรถตกถนน มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย

จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ภัย และรถพยาบาลของโรงพยาบาลหนองกี่ เพื่อช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางหลวงหมายเลข 24 โชคชัย-เดชอุดม ระหว่างอำเภอนางรอง ขาเข้าอำเภอหนองกี่ พบรถปิกอัพยี่ห้อ มาสด้า สีน้ำเงิน ทะเบียน บต-7340 บุรีรัมย์ ในสภาพด้านหน้าอัดก๊อปปี้ต้นไม้ข้างทางสภาพด้านหน้าพังยับเยิน ภายในรถและบริเวณรอบๆ พบมีผู้บาดเจ็บร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจำนวนหลายคน และพบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือนายพงษ์สิทธิ์ นาคนางรอง อายุ 40 ปี อยู่เลขที่ 85 หมู่ 2 ต.หัวถนน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ส่วนผู้บาดเจ็บถูกหามส่งโรงพยาบาลนางรอง จำนวน 9 คน ในจำนวนนี้มีมีอาการสาหัส 2 ราย ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ สอบถามนายกาทรง พวงมาลัย อายุ 41 ปี คนขับรถคันเกิดเหตุ บอกว่า ได้รับคนงานจากบ้านโคกน้ำซับ ต.หัวถนน อ.นางรอง เพื่อจะไปทำงานที่ฟาร์มเลี้ยงไก่ในตัวอำเภอหนองกี่ จ.บุรีรัมย์ แต่ระหว่างทางได้มีฝนตกโปรยปราย จึงชะลอความเร็ว กระทั่งก่อนจะเข้าอำเภอหนองกี่ประมาณ 1 กิโลเมตร เห็นรถพ่วงจอดอยู่ข้างทาง จึงได้พยาบาลหักหลบ แต่มีรถอีกคันขวางหน้าอยู่ จึงหักกลับมาคืนทำให้รถเสียหลักลื่นไถลพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว


สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์

บุรีรัมย์อากาศแปรปรวนอุณหภูมิลดต่ำลงฉับพลันทั้งมีฝนตกเตือน ปชช.ดูแลสุขภาพและผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวัง

บุรีรัมย์อากาศแปรปรวนอุณหภูมิลดต่ำลงฉับพลันทั้งมีฝนตกเตือน ปชช.ดูแลสุขภาพและผู้ขับขี่เพิ่มความระมัดระวัง อิทธิพลจากความกดอากาศสูงแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้สภาพอากาศที่จ.บุรีรัมย์แปรปรวนมีอุณหภูมิลดต่ำลงฉับพลัน 3 – 5 องศาเซลเซียส ทั้งยังมีฝนตกบางพื้นที่ ทำให้อากาศหนาวเย็นลงและมีหมอกในบางพื้นที่ ขณะ ปภ.เตือน ปชช.ดูแลสุขภาพและผู้ขับขี่รถเพิ่มความระมัดระวังถนนลื่นป้องกันอุบัติเหตุ ( 20 ก.พ.57) จากอิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างระหว่างวันที่ 19 – 22 กุมภาพันธ์ 2557 จะมีฝนตก มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอุณหภูมิลดต่ำลงฉับพลัน 3 - 5 องศาเซลเซียส

โดยจังหวัดบุรีรัมย์ก็มีสภาพอากาศแปรปรวน โดยเฉพาะเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา มีอุณหภูมิลดต่ำลงอยู่ที่ 15 องศาเซลเซียส จากเมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) มีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 19 องศาเซลเซียส สูงสุดอยู่ที่ 32 องศาเซลเซียส ทำให้อากาศหนาวเย็นลง ท้องฟ้ามืดครึ้มและมีฝนตกในบางพื้นที่ จากสภาพอากาศที่แปรปรวนดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนโดยเฉพาะเด็ก และคนชรา ที่มีภูมิต้านทานต่ำ ที่ปรับตัวกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงฉับพลันไม่ทัน เกิดอาการเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดด้วย ด้านนายสัญญ์ธวัชช์ ริ้วเหลือง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ ได้แจ้งเตือนประชาชนให้ดูแลรักษาสุขภาพ จากสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้ พร้อมทั้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนให้เพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรเพิ่มมากขึ้นด้วย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการสัญจร เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกอาจทำให้ถนนลื่น ทั้งมีหมอกในบางพื้นที่อาจเป็นอุปสรรคกับทัศนวิสัยในการมองเห็นด้วย ทั้งนี้ยังประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามความเคลื่อนไหวการพยากรณ์สภาพอากาศ ของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดด้วย เพราะเตรียมพร้อมรับสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงนี้ด้วย



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์

หอการค้าบุรีรัมย์จับมือ “เนวิน” ถกพร้อมพัฒนาบุรีรัมย์ให้เป็นจังหวัดท่องเที่ยวอันดับต้นของอาเซียน

หอการค้าบุรีรัมย์จับมือ "เนวิน” ถกพร้อมพัฒนาบุรีรัมย์ให้เป็นจังหวัดท่องเที่ยวอันดับต้นของอาเซียน หอการค้าบุรีรัมย์ จับมือ "เนวิน ชิดชอบ” เปิดปาฐกถาพิเศษ ร่วมพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ให้เป็นเมืองท่องเที่ยว และกีฬา ระดับต้นๆ ของกลุ่มประเทศอาเซียน ทั้งตั้งเป้าภายใน 4 ปี จะยกระดับเมืองบุรีรัมย์ ให้เป็น 1 ใน 5 จังหวัดของประเทศที่คนไทยและต่างชาติอยากมามากที่สุด มีนักธุรกิจเข้าร่วมรับฟังกว่าพันคน ( 20 ก.พ.57) หอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์ จัดปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "ก้าวต่อไปของบุรีรัมย์ กับเนวิน ชิดชอบ” ที่สนามฟุตบอลไอโมบายสเตเดี้ยม ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ นอกจากจะมีนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด มาร่วมปาฐกถาพิเศษแล้ว ยังมี 3 นักธุรกิจชั้นนำของจังหวัด อาทิ นายวรยุกต์ เจียรพันธ์ กลุ่มบริษัทสมบูรณ์สุข , นายชูศักดิ์ รัตนวนิชย์โรจน์ บริษัท อาร์เอ็มซีฟาร์ม จำกัด และนายบุญสม ผ่องบุพกิจ เจ้าของโครงการ "บ้านบุญศิริ” มาร่วมบรรยายพิเศษถึงเคล็ดลับนักธุรกิจประตูสู่ความสำเร็จ รวมถึงทิศทางการทำธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และร่วมกันแสดงความคิดเห็น ในการส่งเสริมพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ร่วมกันด้วย ซึ่งการจัดปาฐกถาพิเศษในครั้งนี้ได้มีพ่อค้า นักธุรกิจ ส่วนราชการ ทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์และต่างจังหวัดสนใจเข้าร่วมรับฟังมากกว่า 1,000 คน โดยนายเนวิน ชิดชอบ ได้กล่าวขณะปาฐกถาพิเศษว่า ที่ผ่านมาจังหวัดบุรีรัมย์เป็นเพียงเมืองผ่าน ที่นักท่องเที่ยวเพียงแวะมาเที่ยว แต่ไม่ได้มาพักค้างหรือใช้จ่ายเงินสะพัดเท่าที่ควร เพราะไม่สิ่งดึงดูดใจ ดังนั้นทั้งภาคเอกชน นักธุรกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และส่วนราชการต่างๆ จะต้องหันมาร่วมมือกันพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ โดยการปรับเปลี่ยนทัศนคติ วิธีคิด และปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยหัวใจสำคัญคือต้องพัฒนาด้านการท่องเที่ยว เพื่อดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาเที่ยวและใช้จ่ายเงินในจังหวัดมากขึ้น นายเนวิน ยังเผยถึงการลงทุนสร้างสนามฟุตบอลที่มีมาตรฐานแห่งหนึ่งในประเทศ และสนามแข่งรถระดับแนวหน้า ที่จะแล้วเสร็จในปลายปี 2557 ที่จะถึงนี้ด้วยว่า จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เมืองบุรีรัมย์เกิดการเปลี่ยนแปลง พร้อมตั้งเป้าว่าปีภายใน 4 ปีข้างหน้าบุรีรัมย์จะเป็น 1 ใน 5 จังหวัดของประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติอยากจะมาเที่ยวมากที่สุด และเชื่อว่าหากทุกภาคส่วนร่วมกันพัฒนายกระดับเมืองบุรีรัมย์ในทุกๆ ด้านแล้ว บุรีรัมย์ก็จะเป็นเมืองท่องเที่ยว และกีฬา ระดับแนวหน้าของกลุ่มประเทศอาเซียนได้อย่างแน่นอน



สุรชัย พิรักษา สวท.บุรีรัมย์

ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ จัดประชุมเตรียมการแข่งขันกีฬาเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานราชการในจังหวัดสุรินทร์

นายนิรันดร์  สุรัสวดี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นาถาวร  กุลโชติ มีดำริที่จะจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานราชการในจังหวัดสุรินทร์ ระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน 2557 เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการได้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง มีความสัมพันธ์ที่ดี ในการติดต่อประสานงานได้ราบรื่นยิ่งขึ้น สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุรินทร์ ได้กำหนดจัดประชุมในวันที่  21  กุมภาพันธ์  2557 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 สนามกีฬาศรีณรงค์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์

ขอเชิญหน่วยงานราชการในจังหวัดสุรินทร์ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน



กรรณิกา  สำราญจริง/ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว

เทศบาลเมืองสุรินทร์ ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล เพื่อแก้ไขปัญหาขยะล้นเมือง

นายวรรธนินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ เปิดเผยว่า ปัญหาขยะนับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น การบริหารจัดการขยะที่มีมากถึงวันละ 48 – 59 ตันต่อวัน ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการขยะในแต่ละวันต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเทศบาลเมืองสุรินทร์ไม่มีสถานที่ในการกำจัดขยะ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ต้องจ้างเหมาเอกชนในการขนย้ายไปกำจัดในจังหวัดใกล้เคียง เทศบาลเมืองสุรินทร์ได้ดำเนินโครงการคัดแยกขยะ (ลดขยะ ลดโลกร้อน ชุมชนปลอดขยะ (Zero Waste of Surin)) ระหว่างเดือนธันวาคม 2556 – มกราคม 2557 โดยออกให้ความรู้ สาธิตการคัดแยกขยะมูลฝอย ณ ครัวเรือน การทำปุ๋ยและน้ำหมักชีวภาพในชุมชน 32 ชุมชน การแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยจำเป็นจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อาศัยกระบวนการส่งเสริม กระตุ้น สนับสนุนให้ประชาชนในชุมชนให้ความร่วมมือ เพื่อก้าวสู่การลดปริมาณขยะมูลฝอยให้เหลือน้อยที่สุด และมีความยั่งยืน เทศบาลเมืองสุรินทร์ จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการคัดแยกขยะมูลฝอยจากจุดกำเนิดขยะ เช่น บ้านเรือน สำนักงาน และสถานที่ต่าง ๆ ในชุมชน ซึ่งเป็นหน้าที่หนึ่งในการรักษาความสะอาด กำจัดสิ่งปฏิกูลมูลฝอย จึงได้จัดโครงการกองบุญทอดผ้าป่ารีไซเคิล ขึ้น

เทศบาลเมืองสุรินทร์ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่าน ร่วมบริจาคขยะรีไซเคิล เช่น ขวดแก้ว ขวดพลาสติก กระป๋องน้ำอัดลม กระป๋องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระดาษ หนังสือพิมพ์ ลังกระดาษ เศษพลาสติก เศษเหล็ก สังกะสี อลูมิเนียม เป็นต้น โดยจะนำรายได้จากการจำหน่ายขยะรีไซเคิลกลับคืนให้ชุมชนและสังคม ได้แก่ ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลเมืองสุรินทร์ ชมรม อสม.เขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ และศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เทศบาลเมืองสุรินทร์ ต่อไป โดยสามารถนำมาบริจาคได้ที่กองบุญผ้าป่าขยะรีไซเคิล ตั้งแต่บัดนี้จนถึง วันที่ 5 มีนาคม 2557 และขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าขยะในวันที่ 5 มีนาคม 2557 เวลา 15.00 น. ณ สำนักงานเทศบาลเมืองสุรินทร์

เทศบาลเมืองสุรินทร์ จัดทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล เพื่อ ลดขยะ ลดโลกร้อน ชุมชนปลอดขยะ (Zero waste)

เทศบาลเมืองสุรินทร์ จัดทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล และนำรายได้จากการจำหน่ายขยะกลับคืนให้กับชุมชนและสังคม

นายธนกร วนะกิจกุลพัฒน์ รองนายกเทศมนตรีเมืองสุรินทร์ กล่าวว่า เทศบาลเมืองสุรินทร์ได้จัดโครงการคัดแยกขยะ (ลดขยะ ลดโลกร้อน ชุมชนปลอดขยะ (Zero waste)) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลูกจิตรสำนึกให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชนในชุมชน และในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ เห็นความสำคัญของการคัดแยกขยะในครัวเรือน รู้จักวิธีการคัดแยกขยะและสามารถนำขยะรีไซเคิลที่ได้จากการคัดแยกกลับมาใช้ประโยชน์ได้ และเพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ชุมชนมีการคัดแยกขยะในครัวเรือนได้อย่างต่อเนื่อง จนสามารถลดปริมาณขยะที่เกิดขึ้นในแต่ละวันได้อย่างยั่งยืน ดังนั้น จึงได้จัดให้มีการทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิลชุมชนเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ขึ้น ในวันที่ 5 มีนาคม 2557

ทั้งนี้ เทศบาลเมืองสุรินทร์ จึงขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล โดยนำขยะรีไซเคิลที่ได้จากการคัดแยกในครัวเรือนและชุมชนของท่านมาร่วมเป็นกองบุญในการทอดผ้าป่าขยะ และนำรายได้จากการจำหน่ายขยะกลับคืนให้กับชุมชนและสังคม โดยมอบให้กับชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ชมรมผู้สูงอายุเทศบาลเมืองสุรินทร์ และศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนเทศบาลเมืองสุรินทร์ ซึ่งนอกจากท่านจะได้เป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมลดขยะในชุมชนแล้ว ยังได้นำประโยชน์กลับคืนสู่ชุมชนของท่านอีกด้วย


สุวิทย์ เอี่ยมสอาด /ข่าว

ธ.ส.ก.เมืองช้างได้รับเงินเพิ่ม 166 ล้าน ยันมีการจ่ายเงินตามโครงการรับจำนำข้าวให้ชาวนาอย่างต่อเนื่อง

นายไพโรจน์ รุ่งพนารัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.สุรินทร์ เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.สุรินทร์ ได้รับเงินโอนเงินเข้ารอบที่ 14 เป็นจำนวนเงิน 166 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีการโอนเงินเข้าในส่วนของ ธ.ก.ส.สุรินทร์ ดำเนินการจ่ายเงินตามใบประทวนเรื่อยมา และคาดว่าจะมีวงเงินโอนตามมาอีกเรื่อยๆ ขณะนี้ ธ.ก.ส.สุรินทร์ได้รับเงินโอนเพื่อจ่ายให้เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือกแล้วเป็นจำนวนเงิน 2,000,186,000 บาท และเงินจำนวนนี้ก็จะจัดสรรโอนไปให้ ธ.ก.ส. สาขา ทั้ง 21 สาขา ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เพื่อให้แต่ละสาขา เรียกลูกค้ามาทำสัญญา และจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีลูกค้าในโครงการรับจำนำข้าวอีกทีหนึ่ง

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดโครงการยุวชนประชาธิปไตย มุ่งสร้างคนรุ่นใหม่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย

นางสาวกัญญรัตน์ เกียรติสุภา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กำหนดจัดโครงการส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในทางการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กิจกรรมค่ายยุวชนประชาธิปไตย ประจำปี 2557 ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ในระบบรัฐสภาและสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับช่องทางการเข้ามีส่วนร่วมทางการเมืองได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งเสริมสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยตามวิถีรัฐธรรมนูญ ตลอดจนสร้างจิตสำนึกให้เยาวชนรุ่นใหม่มีวิสัยทัศน์ วิถีความคิด คุณธรรม จิตสำนึก และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นเยาวชน ชาย – หญิง อายุระหว่าง 15-20 ปี ทุกจังหวัดทั่วประเทศในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทั้งสายสามัญและสายอาชีพ หรือ ระดับอุดมศึกษา หรือเทียบเท่า รวมทั้งสิ้น 320 คน โดยกำหนดจัดกิจกรรม 2 รุ่น ๆ ละ 10 วัน โดยรุ่นที่ 1 กำหนด จัดระหว่างวันที่ 17-26 มีนาคม 2557 และรุ่นที่ 2 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 9 เมษายน 2557 ณ สถาบันวิชาการ ทีโอที เลขที่ 174 ซอยงามวงศ์วาน 17 ถนนงามวงศ์วาน อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โดยสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมอบหมายให้จังหวัดสุรินทร์คัดเลือกเยาวชนร่วมกิจกรรม รวม 4 คน รุ่นละ 2 คน กำหนดเปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ถึง 7 กุมภาพันธ์ 2557 ประกาศผลการคัดเลือกวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 ณ สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ ผู้ สนใจดาวน์โหลดใบสมัครผ่านทางเว็บไซต์ www.partiament.go.th (สภาผู้แทนราษฎร) หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักประชาสัมพันธ์ กลุ่มงานเผยแพร่ประชาธิปไตยและกิจกรรมสภาผู้แทนราษฏร ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพ 10300 โทร.0-2244-2515-18 โทรสาร 0-2244-2517

จังหวัดสุรินทร์ เตรียมประชุมโต๊ะข่าวแก้ปัญหายาเสพติด

นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดสุรินทร์ เพื่อดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ และกลไกการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งกำหนดจัดการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด จังหวัดสุรินทร์ ในที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมศรีณรงค์ ชั้นที่ 2 ศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ ทั้งนี้ จะมีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ยาเสพติดจังหวัดสุรินทร์ จากการประชุมโต๊ะข่าวยาเสพติด การดำเนินการตามแผนสร้างพลังสังคม และพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด การดำเนินการหมู่บ้าน ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน การดำเนินการตามแผนแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด การดำเนินการตามแผนสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา สถานประกอบการ การจัดระเบียบสังคมในพื้นที่เสี่ยง หอพักห้องเช่าเชิงพาณิชย์ การดำเนินการตามแผนปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินการตามแผนความร่วมมือระหว่างประเทศและการสกัดกั้นยาเสพติด เป็นต้น

จังหวัดอำนาจเจริญ ประชุมคณะอนุกรรมการการกำกับติดตามผลการดำเนินงานป้องกันแลปราบปรามยาเสพติด

วันนี้เวลา 09.30 น.  ณ ห้องประชุมฝ้ายขิตคำพระ ศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานการชุมคณะอนุกรรมการการกำกับติดตามผลการดำเนินงานป้องกันแลปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า จังหวัดอำนาจเจริญได้แต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดเพื่อดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์ และกลไกการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งการประชุมในครั้งนี้เป็นการติดตามผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดทั้ง 7 แผนงานหลักที่ผ่านมา การดำเนินการตามแผนสร้างพลังสังคม และพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด การดำเนินการหมู่บ้าน ชุมชนกองทุนแม่ของแผ่นดิน การดำเนินการตามแผนแก้ไขปัญหาผู้เสพผู้ติดยาเสพติด การดำเนินการตามแผนสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา สถานประกอบการ การจัดระเบียบสังคมในพื้นที่เสี่ยง หอพักห้องเช่าเชิงพาณิชย์ การดำเนินการตามแผนปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินการตามแผนความร่วมมือระหว่างประเทศและการสกัดกั้นยาเสพ ในโอกาสนี้ นายบุญยืน คำหงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนที่พบเห็นการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน

ม.อุบลฯ จับมือ บ.เอ็กซ์ทรี จำกัด พัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ นศ.สาขาวิทยาการคอมฯ สู่ความเป็นเลิศ

มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ร่วมกับ บริษัทเอ็กซ์ทรี จำกัด โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อินทิรา ซาฮีร์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และ นายธนศักดิ์ พละศักดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเอ็กซ์ทรี จำกัด เป็นผู้ลงนาม ณ ห้องประชุมโพธิ์ไทร ชั้น 2 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557

ดร.สุภาวดี หิรัญพงศ์สิน อาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน กล่าวถึงการลงนามในครั้งนี้ว่า เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ ตลอดจนพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพการเรียนของนักศึกษาในหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี นับตั้งแต่ ปี 2552 เป็นต้นมา บริษัทเอ็กซ์ทรี จำกัด ได้เข้ามามีส่วนสนับสนุนด้านบุคลากร เครื่องมืออุปกรณ์ในการดำเนินโครงงานคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นโครงงานที่ประยุกต์ใช้ในระบบ iOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการลิขสิทธิ์ ดังนั้น สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างเครือข่ายระหว่างหลักสูตรและสถานประกอบการ รวมถึงเป็นการดีที่จะได้สร้างบัณฑิตในหลักสูตร ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการ จึงกำหนดให้มีการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการดังกล่าวขึ้น

จังหวัดอุบลราชธานี ประกาศรายชื่อข้าราชการพลเรือนดีเด่น ประจำปี 2556

นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดอุบลราชธานีให้ส่วนราชการ ,สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 , สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 – 5 และอำเภอทุกอำเภอ เสนอรายชื่อผู้ที่มีความประพฤติและคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อให้จังหวัดพิจารณาคัดเลือกเป็นข้าราชพลเรือนดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2556 นั้น

จังหวัดอุบลราชธานี ได้พิจารณาคัดเลือกข้าราชการและลูกจ้างประจำที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและผู้มีความประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการครองตน การครองคน การครองงานและมีผลการปฏิบัติงานดีเด่น สมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2556 ดังนี้
               กลุ่มที่ 2 ประเภทผู้อำนวยการระดับต้น/ประเภทวิชาการระดับชำนาญการ,ชำนาญการพิเศษ/ประเภททั่วไป ระดับอาวุโส ได้รับพิจารณา จำนวน 4 คน ได้แก่
              1. ว่าที่พันตรี สมเกียรติ โสตศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งนาเมือง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3
              2. พันตำรวจเอก พัชระ จันทบาล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี สังกัดตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี
              3.นายเกริกชัย ผ่องแผ้ว นายอำเภอสำโรง สังกัดที่ทำการปกครองจังหวัดอุบลราชธานี
              4.นางศิริวิทย์ หลิ่มโตประเสริฐ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งทั้ง 4 คน ได้รับคัดเลือกให้เป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นระดับประเทศของจังหวัดอุบลราชธานีและจะเข้ารับรางวัลเพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติ ณ กรุงเทพมหานคร

สำหรับข้าราชการต่อไปนี้จะได้รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี 2556 (1 เมษายน 2557 ) ณ หอประชุมไพรพะยอม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี
              กลุ่มที่ 1 ประเภทอำนวยการ ระดับสูง/ประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญได้รับพิจารณาคัดเลือก จำนวน 1 คน ได้แก่ นางสมปอง ตรุวรรณ์ ครูวิทยฐานะเชี่ยวชาญ โรงเรียนนารีนุกูล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29
             กลุ่มที่ 2 ประเภทอำนวยการต้น/ประเภทวิชาการระดับชำนาญการ,ชำนาญการพิเศษ/ประเภททั่วไประดับอาวุโส ได้รับการพิจารณาคัดเลือก จำนวน 10 คนได้แก่
           1.พันตำรวจเอก เอกกมนต์ พรชูเกียรติ ผู้กับการ 6 กองบังคัญการตำรวจทางหลวง สังกัดกองบังคับการตำรวจทางหลวง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
           2.นายฤทธิชัย สายโพธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเล้า สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2
           3.นางสาวอรวรรณ แวดล้อม นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการพิเศษ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอเมืองอุบลราชธานี สังกัดสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี
          4.นางวริชา เสาทอง นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอม่วงสามสิบ สังกัดสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดอุบลราชธานี
          5.นางจันทิมา อินศร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอ วารินชำราบ สังกัดสำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานี
          6.นางสาววัฒนี ศาสตร์ประสิทธิ์ นักวิชาการสหกรณ์ชำนาญการพิเศษ สังกัดสำนักงานสหกรณ์จังหวัดอุบลราชธานี
          7.นางจันทรัสม์ พัฒนะจารุพงษ์ ครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โรงเรียนชุมชนห้วยไผ่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 3
          8.นายดนุภพ ศรีศิลป์ เภสัชกรชำนาญการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ สังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี
          9.นายฤทธิสรรค์ เทพพิทักษ์ นายอำเภอบุณฑริก สังกัดที่ทำการปกครองจังหวัดอุบลราชธานี
         10.นางสาวบุษบา ด้ามพรหม ครูวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ โรงเรียนนารีนุกูล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29

กลุ่มที่ 3 ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ/ประเภททั่วไป ระดับปฏิบัติงาน ,ระดับชำนาญการ จำนวน 2 คน ได้แก่
          1.นางอรวรรณ ชลธิศชโลธร เจ้าพนักงานธุรการชำนาญการ สังกัดสำนักงานบังคัญคดี จังหวัดอุบลราชธานี
          2.นางสาววาสนา ศิริคุณ พนักงานคุมประพฤติปฏิบัติการ สำกัดสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุบลราชธานี

กลุ่มที่ 4 ลูกจ้างประจำ จำนวน 3 คนได้แก่
          1.นางคนึงนุช ประคองธรรม พนักงานช่วยเหลือคนไข้ โรงพยาบาลตาลสุม สังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี
          2.นางจารุวรรณ สินทรัพย์ พนักงานพิมพ์ ระดับ ส3 สังกัดสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดอุบลราชธานี
          3.นายศักดา ธิศาเวช ครูผู้ช่วยสอน ระดับ 3 โรงเรียนนารีนุกูล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

กอ.รมน.สุรินทร์ พัฒนาสัมพันธ์และเสริมศักยภาพเครือข่าวข่าวมวลชนเพื่อความมั่นคงทุกรูปแบบ

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์ หรือ กอ.รมน.สุรินทร์ พัฒนาสัมพันธ์และเสริมศักยภาพเครือข่าวข่าวมวลชนเพื่อความมั่นคงทุกรูปแบบ

วันนี้ ( 20 ก.พ. 2557 ) ที่หอประชุมอำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์จัดสัมมนา จัดสัมมนาพัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายข่าวมวลชนเพื่อความมั่นคงขึ้น ซึ่งมีเครือข่ายข่าวมวลชนเข้าร่วมสัมมนา จำนวนทั้งสิ้น 100 คน โดยมีนายสนั่น วินทราวาท นายอำเภอรัตนบุรี เป็นประธานเปิดการสัมมนา และได้รับเกียรติจากพันเอกจะเด็ด นวลมณี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุรินทร์ ร่วมในกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยทั้งนี้เพื่อพัฒนาสัมพันธ์และบูรณาการเครือข่ายข่าวมวลชนในพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเพิ่มช่องทางติดต่อแจ้งข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ในด้านการป้องกันและแก้ไขความมั่นคงให้มวลชนในพื้นที่เป้าหมายผ่านสายด่วน กอ.รมน. 1374 และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน กอ.รมน.จังหวัด ในการบูรณาการด้านมวลชนและการข่าวเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาความมั่นคงเฉพาะพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหาด้านยาเสพติด ปัญหาด้านการลักลอบตัดไม้ ปัญหาด้านแรงงานต่างด้าว และปัญหาความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง โดยเครือข่ายข่าวจะได้เป็นหูเป็นตาให้หมู่บ้าน ชุมชน ตำบลของตนเอง ในการแจ้งข่าวสารให้กับทางราชการต่อไป


ประนนท์ ไม้หอม ส.ปชส.สุรินทร์ รายงาน

อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ จัดงาน "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม” ประจำปี 2557

อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ จัดงาน "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม” ประจำปี 2557 เพื่อสืบทอดภูมิปัญญาบรรพบุรุษที่มีมากว่า 2,000 ปี โดยเฉพาะงานช่างทอและช่างทำปะเกือม (เครื่องประดับที่ทำจากเงิน) อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นระดับชาติของอำเภอเขวาสินรินทร์

วันที่ 20 ก.พ.57 เวลา 17.00 น.ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ นายพิภพ ดำทองสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงาน "นุ่งผ้าไหม ใส่ปะเกือม เรือมกันตรึม” ประจำปี 2557 มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานมรดกทางศิลปวัฒนธรรม เพื่อเสริมช่องทางการตลาด รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไป ได้รับทราบถึงศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชน ซึ่งประชาชนอำเภอเขวาสินรินทร์ ทุกวัย ต่างพร้อมใจใส่ชุดผ้าไหม และเครื่องประดับที่ทำจากเงินเงินที่เรียกว่า ปะเกือม เพื่อแสดงออกถึงความเป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น มาร่วมงานกันอย่างพร้อมเพรียง           

อำเภอเขวาสินรินทร์ ถือเป็นชุมชนโบราณทางประวัติศาสตร์ในสมัยอาณาจักรขอมเรืองอำนาจ และถือเป็นชุมชนบริวารของเมืองประทายสมันต์ มาจนถึงปัจจุบัน ดังจะเห็นได้จากปราสาทบ้านแสรออ(แสร-ออ) (ปราสาททอง) และบ้านพระปืด (ปราสาทแก้ว) ซึ่งเป็นปราสาทสมัยยุคขอมโบราณ นอกจากนี้ยังมีการขุดพบเครื่องใช้สมัยโบราณหลายรายการ ซึ่งจากการตรวจสอบทางโบราณคดียืนยันได้ว่ามีอายุเก่าแก่กว่า 2,000 ปี และที่ยืนยันว่าอำเภอ เขวาสินรินทร์ เป็นเมืองบริวารคู่กันมากับเมืองประทายสมันต์ ได้แก่ คูน้ำ กำแพงดิน มีลักษณะรูปแบบคล้ายคลึงกับคูเมืองประทายสมันต์ ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมประเพณีที่ชุมชนอำเภอเขวาสินรินทร์ ได้สืบทอดต่อกันมาได้แก่ แซนโดนตา แซนแสร เรือมตรษ เจรียงเบริน กันตรึม ลิเกเขมร และมีหมู่บ้านทอผ้าไหมที่สืบสานลายดอกมาแต่โบราณ แต่ที่สำคัญและเป็นที่เลื่องชื่อ คือการทำปะเกือม (ปะคำ) ซึ่งมีลวดลายสวยงามเป็นเอกลักษณะเฉพาะตนที่สืบทอดกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ล้ำค่าทางภูมิปัญญาระดับชาติ และเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประชาชนในพื้นที่

ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ขบวนแห่ของดี 5 ตำบล การเดินแบบผ้าไหม การประกวดธิดาปะเกือม การประกวดผลผลิตทางการเกษตร การประกวดแอโรบิค การแสดงนิทรรศการและจำหน่ายสินค้า OTOP การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน และ การประเดินแบบชุดผ้าไหม และ เครื่องปะเกือม เครื่องประดับที่ทำจากเงิน จาก นายแบบและนางแบบกิตติมศักดิ์



ส.ปชส.สุรินทร์ กำชัย วันสุข ข่าว/ไวยวิทย์  สุขเก่า ภาพ





คณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองระดับจังหวัด ผ่านความเห็นชอบใน 3 โครงการพัฒนาเมือง

อุบลราชธานี : คณะทำงานฯ กลั่นกรองโครงการที่เสนอขอรับงบประมาณ เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาเมือง เห็นชอบใน 3 โครงการได้แก่โครงการก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์หนองนาควาย ชุมชนหนองนาควาย,โครงการแหล่งเรียนรู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและปรับภูมิทัศน์วัดมหาวนารามและโครงการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอล มาตรฐานทุ่งศรีเมือง

นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่าจากการประชุมคณะทำงานโครงการพัฒนาเมืองระดับจังหวัด ครั้งที่ 3 ประจำปี 2556 ที่ห้องประชุมสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งที่ประชุมได้รับฟังคำชี้แจงและให้คำแนะนำแก่ชุมชนที่เสนอโครงการของรับงบประมาณ เพื่อประกอบการพิจารณาเสนออนุมัติโครงการ ซึ่งมีชุมชนที่เสนอโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณดำเนินการพัฒนาชุมชนและท้องถิ่น รวมทั้งสิ้น 9 โครงการ ซึ่งคณะทำงานได้พิจารณาให้ความเห็นชอบจำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการแหล่งเรียนรู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและปรับภูมิทัศน์วัดมหาวนาราม งบประมาณ 1,990,390.-บาทโดยกลุ่มประชาชนผู้สูงอายุวัดมหาวนาราม พระอารามหลวง,โครงการก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์ในชุมชน งบประมาณ 1,928,962.-บาท โดยกลุ่มชุมชนศาลาหนองนาควายและโครงการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตบอลมาตรฐานทุ่งศรีเมือง งบประมาณ 2,000,000.-บาท โดยกลุ่มประชาชนที่เล่นฟุตบอลในทุ่งศรีเมือง ซึ่งทั้ง 3 โครงการดังกล่าว จังหวัดได้นำเสนอเพื่อขออนุมัติงบประมาณดำเนินการต่อไป

ส่วนโครงการฯ ที่ยังไม่ผ่านความเห็นชอบซึ่งคณะทำงานโครงการฯ ได้ให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงโครงการจำนวน 6 โครงการ ได้แก่โครงการร้อยมือสร้างลานกีฬา สุขภาพชุมชนเมือง ลานกีฬาพัฒนาสถานศึกษาเพื่อสุขภาพชุมชน ทุกคนสุขสันต์ สังคมสามวัย เมืองศิวิไลท์น่าอยู่ โดยชุมชนก้านเหลือง เทศบาลนครอุบลฯ,โครงการศรีประดู่พอเพียงพัฒนาคนพัฒนาเมืองสู่ประชาคมอาเซียน โดยกลุ่มชุมชนอาชีพเศรษฐกิจพอเพียงวัดศรีประดู่ เทศบาลนครอุบล, โครงการธนาคารขยะ ชุมชนเดชอุดม พัฒนาเมือง สู่ประชาคมอาเซียน โดยกลุ่มประชาชนเทศบาลเมืองเดชอุดม,โครงการพัฒนาสวนสุขภาพชุมชนแสนตอ โดยกลุ่มประชานบ้านแสนตอ เทศบาลเมืองเดชและโครงการสร้างศาลาร้อยมือสร้างประชาเป็นสุข โดยกลุ่มประชาชนบ้านหนองแกและโครงการลานเอนกประสงค์ส่งเสริมคุณภาพชีวิต โดยกลุ่มชุมชนบ้านคูเดื่อ ซึ่งทั้ง 2 โครงการอยู่ในพื้นที่เทศบาลเมืองแจระแม


พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี บรรยายให้ความรู้สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารข้าราชการท้องถิ่น ข้าราชการพนักงานท้องถิ่น ศึกษาดูงานการบริหารจัดการที่ดีสู่ประชาคมอาเซียน ประจำปี 2557

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี บรรยายให้ความรู้สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารข้าราชการท้องถิ่น ข้าราชการพนักงานท้องถิ่น ศึกษาดูงานการบริหารจัดการที่ดีสู่ประชาคมอาเซียน ประจำปี 2557

วันนี้ ( 20 ก.พ.57) ที่โรงแรมแก่งสะพือริเวอร์ไซค์ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดงานโครงการอบรมสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น ข้าราชการพนักงานท้องถิ่น ศึกษาดูงานการบริหารจัดการที่ดีสู่ประชาคมอาเซียน ประจำปี 2557 พร้อมทั้งบรรยายให้ความรู้บทบาทองค์การบริหารส่วนตำบลสู่อาเซียน โดยองค์การบริหารส่วนตำบลนาเกษม อำเภอทุ่งศรีอุดม จังหวัดอุบลราชธานี จัดโครงการดังกล่าวขึ้นเพื่อให้ ผู้บริหาร สมาชิก ข้าราชการ พนักงานท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และกลุ่มผู้นำ ได้รู้บทบาทหน้าที่ กฎหมายระเบียบท้องถิ่น ตลอดจนเศรษฐกิจ การค้า ศิลปวัฒนธรรม เพื่อนำไปถ่ายทอดให้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับรู้และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้บรรยายการพัฒนา ด้านการค้า และเศรษฐกิจ ระหว่างประเทศกัมพูชา และ สปป.ลาว ที่มีพื้นที่ชายแดนติดอำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี ตลอดจนให้ข้าราชการ และประชาชน ให้มีความพร้อมทุก ๆ ด้าน เมื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 นี้

ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุบลราชธานี (กอ.รมน.) จัดปฐมนิเทศกำลังพล ประจำปี 2557 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน

วันที่ (19 ก.พ.57)  ที่ห้องประชุม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุบลราชธานี (กอ.รมน.) ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดอุบลราธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ในฐานะ ผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานปฐมนิเทศกำลังพล กอ.รมน.จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2557 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและพัฒนาบุคลากร ตลอดจนสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับกำลังพลในบทบาท ภารกิจ หน้าที่ และการดำเนินงานของ กอ.รมน.

กอ.รมน.จังหวัดอุบลราชธานี ภารกิจในการอำนวยการ ประสานงาน ติดตามตรวจสอบ ข้อมูลปัญหาด้านความมั่นคง และประเมินสถานการณ์ เพื่อประสานการป้องกัน และลดระดับปัญหา ปฎิบัติงานเสริมหน่วยงานหลักในพื้นที่จังหวัดงานด้านการข่าวและงานมวลชน ประสานความร่วมมือเพื่อเร่งรัดการแก้ปัญหาด้านความมั่นคงเฉพาะกรณี ปฎิบัติงานอื่น ๆ ร่วมกับจังหวัดและหน่วยเหนือที่มอบหมายตลอดจน การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ความมั่นคงชายแดน และการส่งเสริมประชาชนมีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดความสงบสุขเรียบร้อยในพื้นที่และประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ด้วยความสงบสุขอย่างยั่งยืน

ร้อยเอ็ด ออกให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว ณ บ้านบัวหลวง ต.เหล่า อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 20 กุมภาพันธ์ 2557  นายพลากร  บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดการออกให้บริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดร้อยเอ็ด  ณ บริเวณวัดบ้านบัวหลวง ต.เหล่า  อ.ทุ่งเขาหลวง จ.ร้อยเอ็ด โดยมีนายธวัชชัย  ยาหิรัญ นายอำเภอทุ่งเขาหลวง พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ อ.ทุ่งเขาหลวง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน ร่วมให้การต้อนรับ

นายธวัชชัย  ยาหิรัญ นายอำเภอทุ่งเขาหลวง กล่าวว่า บ้านบัว หมู่ที่ 3 ต.เหล่า อ.ทุ่งเขาหลวง ห่างจากจังหวัดร้อยเอ็ด 30 กิโลเมตร ห่างจากที่ว่าการอำเภอทุ่งเขาหลวง 5 กิโลเมตร การคมนาคม มีถนนลาดยาง คอนกรีตเชื่อมถึงหมู่บ้าน  มีบ้านพักอาศัย 88 หลังคาเรือน ประชากร 417 คน ชาย 199 คน หญิง 218 คน อาชีพหลักคือทำนา อาชีพรอง คือรับจ้าง ที่ผ่านมาปัญหาที่ได้รับผลกระทบคือภัยแล้ง เนื่องจากพื้นที่อยู่ห่างจากแหล่งน้ำและเป็นที่ราบสูง มีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 1 แห่ง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข 3 คน มี อสม.ตำบลเหล่า 111 คน เมื่อมีการเจ็บป่วยนำส่งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โรงพยาบาลทุ่งเขาหลวงและโรงพยาบาลร้อยเอ็ด ตามลำดับ

นายพลากร  บุญประคอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ได้พระราชทานพระอนุญาตให้จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นจังหวัด แพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทร์ บรมราชชนนี (ลำดับที่ 53) คณะกรรมการ พอ.สว.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้กำหนดออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.ในครั้งนี้  โดยมีส่วนราชการในจังหวัดร้อยเอ็ด นำข้าราชการเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำงานบริการออกไปให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่เพื่อการสังคมสงเคราะห์ ยกระดับคุณภาพชีวิตชาวชนบท ที่อยู่ห่างไกลความเจริญ

กิจกรรมที่ให้บริการ ประกอบด้วย การตรวจรักษาโรคทั่วไป การบริการด้านทันตกรรม   การให้บริการนวดแผนไทย การมอบจักรยายสำหรับนักเรียน จำนวน 5 คัน มอบถุงยังชีพ จากเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 50 ถุง ผ้าห่ม 50 ผืน  และไม้เท้าสำหรับผู้สูงอายุหรือพิการ จำนวน 50 อัน  การทำหมันสุนัขและแมว การฉีดวัคซีน ยาคุมกำเนิด รักษาสัตว์ป่วย การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การจำหน่ายสินค้าธงฟ้า  การให้บริการห้องสมุดเคลื่อนที่และศูนย์เรียนรู้  ICT  เคลื่อนที่ ของสำนักงาน กศน.ร้อยเอ็ด รับชมการฟ้อนรำถวายเจ้าปู่กวนแสนตามวัฒนธรรมท้องถิ่น ของชุมชนตำบลเหล่า   การเต้นแอร์โรบิคจากนักเรียนโรงเรียนสหราษฎร์บำรุงและอื่นๆอีกมากมาย  มีประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมรับชมและรับบริการเป็นจำนวนมาก



คมกฤช  พวงศรีเคน  ข่าว/ภาพกมลพร  คำนึง  บก.ข่าว

ยโสธรออกหน่วยแพทย์ พอ.สว

จังหวัดยโสธรออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สวให้บริการตรวจรักษาประชาชน ที่บ้านโนนม่วง หมู่ 7 ตำบลคำเตย อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัด นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ออกบริการพี่น้องประชาชน ตามภารกิจกิจกรรมประกอบไปด้วย มอบเบี้ยยังชีพให้แก่คนชรา / มอบพันธุ์ปลาให้ผู้นำชุมชนกำนันผู้ใหญ่บ้าน เพื่อนำไปปล่อยลงแม่น้ำลำคลอง เป็นแหล่งอาหารตามธรรมชาติ มอบอุปกรณ์กีฬาแก่โรงเรียนบ้านโนนม่วง โดยมีคณะครูเป็นผู้รับมอบ / มอบผ้าห่มกันหนาวแก่ผู้ยากไร้ สำหรับหน่วยบริการแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว จังหวัดยโสธรให้บริการ ตรวจรักษาด้านสุขภาพ ด้านทันตกรรม สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด บริการผ่าตัดทำหมันสุนัขแมว พร้อมนี้ มีหน่วยราชการให้บริการตามภารกิจของหน่วยงานนั้น โดยมีพี่น้องประชาชน ตำบลคำเตย อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร มารอรับบริการเป็นจำนวนมาก

ผลการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่นในระดับประเทศ และของหน่วยงานระดับจังหวัดประจำปี พ.ศ.๒๕๕๖ ของจังหวัดมุกดาหาร

นายสรสิทธิ์  ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหาร ได้ดำเนินการคัดเลือกข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี ๒๕๕๖ ในระดับประเทศ และของหน่วยงานระดับจังหวัด และผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นในระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ของจังหวัดมุกดาหาร คือ นางสาวรัชนี บรรจง นักวิชาการตรวจสอบภายในชำนาญการ หน่วยตรวจสอบภายในจังหวัดมุกดาหาร นายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดมุกดาหาร สำนักงานเกษตรจังหวัดมุกดาหาร นางสุริตา คณาดี พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร และผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นของหน่วยงานระดับจังหวัด ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๖ ของจังหวัดมุกดาหาร คือ นางพันธ์ฉวี สุขบัติ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการพิเศษ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร นางหยาดทิพย์ ซีซอง ครูชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามุกดาหาร พันตำรวจโทชัยยันต์ สอนเสียม สารวัตรฝ่ายอำนวยการ ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร นางสุประวีณ์ พิลาวิชชาวิชญ์ เจ้าพนักงานราชทัณฑ์ชำนาญงาน เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร นายธนภูมิ มุกดาประเสริฐ นักวิชาการแรงงานปฏิบัติการ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดมุกดาหาร นายสง่า คำพันธ์ เจ้าพนักงานประมงชำนาญงาน สำนักงานประมงจังหวัดมุกดาหาร นางสาวนฤมล พื้นแสน นักวิชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ สำนักงานพัฒนาชุมชน  นายกุนจันทร์ สิงห์สุ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และนายปรเมษฐ์ ศรีพิเมือง พนักงานช่วยเหลือคนไข้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร

ทั้งนี้ จังหวัดมุกดาหารขอยกย่อง เชิดชูเกียรติ และส่งเสริมให้ข้าราชการต่างๆ ใช้เป็นแบบอย่างที่ดีในการครองตน ครองคน และครองงานและ จะได้จัดส่งซื่อข้าราชการดีเด่นระดับประเทศ จังหวัดมุกดาหาร ประจำปี ๒๕๕๖ ให้กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเข้ารับมอบรางวัลระดับประเทศต่อไป



สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหาร รับสมัครบุคคลเพื่อเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป

นายกมล  นัยจิต  ผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหาร ประสงค์จะรับสมัครบุคคลเพื่อจัดจ้างเป็นพนักงานราชการ ประเภทพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่ง ครูผู้สอน จำนวน ๑ อัตรา

ผู้สนใจสามารถ ยื่นใบสมัครด้วยตนเองได้ที่ โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ตั้งแต่วันที่ ๑๙ – ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ ๐๔๒-๖๗๒๐๕-๕ ไม่เว้นวันหยุดราชการ


สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหารประชาสัมพันธ์และติดตามบุคคลสูญหาย

นางปิยะพร  เฉลิมช่วง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน กรณี นางตัง บุตรแก้ว (มารดา) อายุ ๔๐ ปี ขอความช่วยเหลือติดตามหาบุตรสาวชื่อนางสาวสุมาลิน แสนย่าง อายุ ๒๒ ปี น้ำหนัก ๖๓ กิโลกรัม ส่วนสูง ๑๔๘ เซนติเมตร ผิวสองสี ผมยาวประบ่า คิ้วเข้ม อยู่บ้านเลขที่ ๒๐๒ หมู่ ๑ ตำบลสะเนียน อำเภอเมือง จังหวัดน่าน โดยได้ออกจากบ้านไปทำงานรับจ้างที่ร้านขนมปัง ในตำบลบางบัว อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ ประมาณ ๑ เดือน และติดต่อมาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๕๖ โดยโทรศัพท์มาหาสามีให้ส่งเงินให้จำนวน ๒,๐๐๐ บาท จนขณะนี้ไม่สามารถติดต่อหรือไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด เกรงว่าอาจได้รับอันตรายและถูกล่อลวงไปในทางเสียหายหรือตกเป็นเหยื่อจาการค้ามนุษย์
สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร ประชาสัมพันธ์ตามหา นางสาวสุมาลิน แสนย่าง จากข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องมาพร้อมนี้ ทั้งนี้เมื่อพบเบาะแสหรือข้อมูล ติดต่อได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมุกดาหาร โทร.๐๔๒-๖๑๑๔๔๒, ๐๔๒-๖๑๑๕๘๓ หรือ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม ๑๓๐๐ สายด่วน ๒๔ ชั่วโมง หรือนางตัง บุตรแก้ว หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙๐-๐๕๒๘๕๐๐



นางสุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหาร จัดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์

วันที่ ๒๐ ก.พ.๒๕๕๗ เวลา ๑๐.๐๐ น.ที่บริเวณโรงเรียนบ้านหนองนกเขียน ตำบลร่มเกล้า อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานโครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งมีหัวหน้าส่วนราชการ เหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  เกษตรกรในพื้นที่ เข้าร่วมในพิธี  โดยมีนายร่มไม้ นวลตา เกษตรจังหวัดมุกดาหารกล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือและพัฒนาอาชีพให้แก่เกษตรกรที่มีปัญหาในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกล สามารถเข้าถึงการบริการทางด้านวิชาการตรงตามความต้องการที่จะแก้ไขปัญหา ทันต่อเหตุการณ์และได้รับการแก้ไขปัญหาด้านการเกษตรอย่างครบวงจร ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายและแนวทางที่จะพัฒนาการเกษตรซึ่งเป็นภาคการผลิตของประเทศให้เกิดความยั่งยืน

ซึ่งในการจัดกิจกรรมคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในครั้งนี้ ได้มีการนำโครงการ หน่วยบำบัดทุก๘ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน มาร่วมในการจัดกิจกรรม โดยภายในงานมีการกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ นิทรรศการเกษตรสมบูรณ์เพิ่มพูนสุขภาพแม่ลูก นิทรรศการความรู้ด้านการเกษตร การฝึกอาชีพเสริมรายได้ของครอบครัว การจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง ผลผลิตทางการเกษตร ผลิตภัณฑ์แปรรูปและถนอมอาหาร ของกลุ่มแม่บ้านและสินค้า OTOP ซึ่งในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับความสนใจจากพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างมาก



พิพัฒน์ เพชรสังหาร ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ

พบการลักลอบตัดต้นพะยูงพื้นที่ป่าสาธารณะ อำเภอยางสีสุราช วอนหามาตรการป้องกัน

ราษฎรอำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พบพื้นที่ป่าสาธารณประโยชน์ใน อำเภอยางสีสุราช มีการลักลอบตัดต้นพะยูง กว่า 50 ต้น วอนผู้เกี่ยวข้องเร่งหามาตรการป้องกัน ก่อนที่ไม้มีค่าจะหมดไปจากพื้นที่

นายโอกาส จิตไทสง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านแวงดง หมู่ 1 อำเภอยางสีสุราช พร้อมคณะกรรมการหมู่บ้านและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) ลงพื้นที่สำรวจต้นพะยูงที่ถูกลักลอบตัด โดยเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา สามารถจับกลุ่มผู้ลักลอบได้ ที่บริเวณป่าโคกดงส้มป่อย ตำบลแวงดง อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยเครื่องมือในการตัดไม้และรถยนต์ที่นำมาใช้ในการลำเลียง

ซึ่งจากการสำรวจความเสียหาย ครั้งนี้พบว่าต้นพะยูง อายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี ถูกตัดไป กว่า 50 ต้น สำหรับป่าโคกดงส้มป่อย เป็นป่าไม้สาธารณะที่ยังคงความสมบูรณ์ไว้ ชาวบ้านได้อาศัยเก็บเห็ดนานาชนิด รวมทั้ง ผักพื้นบ้าน และสมุนไพรต่างๆ นอกจากนี้ ภายในพื้นที่ป่าโคกดงส้มป่อย ยังประกอบไปด้วย ต้นไม้นานาพรรณ ทั้งไม้ยืนต้นและไม้เลื้อย รวมทั้งต้นพะยูง ซึ่งเป็นไม้มีค่า เป็นไม้หวงห้ามและเป็นที่ต้องการของตลาด

ทั้งนี้ในการรักษาพื้นที่ป่าดังกล่าว  นายโอกาส จิตไทสง ผู้ใหญ่บ้าน บ้านแวงดง หมู่ 1 กล่าวว่า ได้จัดให้มีคณะกรรมการหมู่บ้าน และเจ้าหน้าที่ อปพร. เฝ้าเวรยามผลัดเปลี่ยนกันทั้งกลางวันและกลางคืน คอยสอดส่องดูแลป้องกันไม่ให้มีผู้มาลักลอบตัดต้นไม้ภายในบริเวณป่าโคกดง ส้มป่อย แต่การปฏิบัติงานทำได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากคณะกรรมการหมู่บ้านและอปพร.ไม่มีอาวุธ โดยเฉพาะปืนในการป้องกันตนเองจากผู้กระทำผิด จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาดูแล ก่อนที่ไม้มีค่าและไม้อื่น ๆ จะหมดไปจากพื้นที่


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ศพส.อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในกลุ่มเยาวชน

ศพส.อ.กันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ในกลุ่มเยาวชน ตามแผนปฏิบัติการยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด คัดกรองผู้เสพ ผู้ติดยาเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา

(20-2-57) ที่โรงเรียนกันทรวิชัย อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอำเภอกันทรวิชัย โดย พ.ต.อ.เศกสรร สุขประเสริฐ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกันทรวิชัย นายพลพงษ์ ศรีสมัย ปลัดอำเภอกันทรวิชัย พร้อมด้วยวิทยากรกระบวนการ บุคลากรด้านสาธารณสุข และครูร่วมกันดำเนินการคัดกรองผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนในสถานศึกษา ด้วยการสัมภาษณ์นักเรียน การตรวจปัสสาวะเพื่อค้นหาผู้เสพ ผู้ติดยา โดยมีนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวนกว่า 1,000 คน มาร่วมคัดกรอง

สำหรับการค้นหา ผู้เสพ ผู้ติดยาด้วยการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะนี้ นอกจากจะดำเนินการในกลุ่มเยาวชนในสถานศึกษาให้ครบ 100 % แล้ว ยังได้ดำเนินการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในกลุ่มประชาชนในหมู่บ้านเป้า หมาย เพื่อนำผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดทั้งหมด เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา .



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม ประกาศพื้นที่อำเภอกันทรวิชัยและเชียงยืน เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ประจำปี 2557 โดยขณะนี้จังหวัดมหาสารคาม ได้ประกาศให้อำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเชียงยืนเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง

(20-2-57) นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2557 เนื่องจากสถานการณ์น้ำในพื้นที่ของจังหวัดมหาสารคาม ในปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเหลือน้อยมาก สาเหตุหลักเกิดจากภาวะฝนทิ้งช่วงในรอบที่ผ่านมา ซึ่งอาจส่งผลให้จังหวัดมหาสารคามประสบกับปัญหาภัยแล้งขึ้นได้

เบื้องต้นจังหวัดมหาสารคาม ได้ประกาศให้พื้นที่ 2 อำเภอ คืออำเภอกันทรวิชัย และอำเภอเชียงยืน เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งแล้ว สำหรับอำเภออื่น ๆ ได้มีสำรวจสภาพพื้นที่พร้อมดำเนินการให้ความช่วยเหลือทั้งการแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค สนับสนุนพันธุ์กล้าสำหรับพืชที่ใช้น้ำน้อย เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ปอเทือง มันแกว แตงโม เป็นต้น

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ขอความร่วมมือเกษตรกร งดการทำนาปรังรอบสอง เนื่องจากในช่วงดังกล่าวน้ำเพื่อการเกษตรอาจมีไม่เพียงพอส่งผลให้ข้าวที่ปลูกอาจได้รับความเสียหาย สำหรับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค สามารถขอรับความช่วยเหลือจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อจะได้ประสานข้อมูลและสำรวจการแจกจ่ายน้ำไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งต่อไป


ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

บึงกาฬ เตรียมนำแผนแม่บทชุมชนพึ่งตนเองไปพัฒนาจังหวัด

นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า จากการที่จังหวัดบึงกาฬ เป็นจังหวัดตั้งใหม่จะครบรอบ 3 ปี ในวันที่ 25 มีนาคม 2557 ที่จะถึงนี้ แบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ 53 ตำบล 615 หมู่บ้าน ดังนั้นเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2550 และ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ซึ่งมุ่งสู่เป้าหมายหลัก 3 ประการ คือ สังคมมั่นคง สังคมสีเขียวและสังคมวัฒนธรรม ยึดพื้นที่เป็นตัวตั้ง และคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา โดยใช้กระบวนการแผนชุมชน เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนชุมชนให้เข้มแข็ง จังหวัดบึงกาฬจึงจัดทำโครงการ "1 ตำบล 1 แผน แม่บทชุมชนพึ่งตนเองจังหวัดบึงกาฬ” เพื่อปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬอย่างจริงจัง โดยใช้แนวคิดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ การจัดทำบัญชีรับ – จ่ายครัวเรือน เป็นกรอบแนวทางการจัดทำแผนชุมชน ระยะแรกจะดำเนินการในพื้นที่ 8 อำเภอ 53 ตำบลๆ ละ 1 หมู่บ้าน รวมทั้งสิ้น 53 หมู่บ้าน ใช้งบประมาณในการจัดทำแผนทั้งสิ้น 2,386,500 บาท (สองล้านสามแสนแปดหมื่นหกพันห้าร้อยบาทถ้วน)

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยต่อว่า ในการดำเนินงานนี้สิ่งสำคัญที่จะทำให้ แผนชุมชนประสบผลสำเร็จ จะประกอบด้วย การออกคำสั่งแต่งตั้งทีมบูรณาการ และ คณะทำงานสนับสนุนโครงการ "1 ตำบล 1 แผน แม่บทชุมชนพึ่งตนเองจังหวัดบึงกาฬ” ซึ่งได้มีการดำเนินการและจัดการประชุมเพื่อรับทราบบทบาทหน้าที่ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา อีกกิจกรรมหนึ่งที่สำคัญคือ การฝึกอบรมวิทยากรกระบวนการระดับอำเภอ (ครู ก) และทีมวิทยากรกระบวนการระดับหมู่บ้าน (ครู ข) ในพื้นที่เป้าหมาย รายอำเภอ จากนั้นทีมวิทยากรทั้งหมดจะได้ลงพื้นที่ เพื่อร่วมกันจัดเวทีประชาคมวิเคราะห์ข้อมูลบัญชีครัวเรือน รวมทั้งการทบทวน และ ปรับปรุงแผนชุมชนในพื้นที่ ซึ่งกิจกรรมนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงาน ทั้งนี้โดยมีสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดบึงกาฬ เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินงานทั้งหมด และกำหนดระยะเวลาในการดำเนินงานตามโครงการให้แล้วเสร็จภายใน เดือน ธันวาคม 2557 นี้

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬกล่าวในตอนท้ายว่า หากแผนชุมชนตามโครงการ "1 ตำบล
1 แผน แม่บทชุมชนพึ่งตนเองจังหวัดบึงกาฬ” แล้วเสร็จจะทำให้หมู่บ้านเป้าหมายมีแผนแม่บทชุมชนพึ่งตนเองที่มีคุณภาพตามเกณฑ์ สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิต และ ความเป็นอยู่ของประชาชนตรงตามความต้องการของตนเอง นอกจากนี้ยังทำให้เกิดกระบวนการเรียนรู้การมีส่วนร่วมของชุมชนทุกระดับ และยังเป็นต้นแบบในการจัดทำแผนชุมชน เพื่อนำไปขยายผลในพื้นที่อื่นๆ ของจังหวัดต่อไป

นักธุรกิจ และประชาชนชาวโคราช ร่วมใจไปฝากเงินที่ ธกส. เพื่อช่วยเหลือชาวนา คาดมียอดฝากไม่ต่ำกว่า 30ล้านบาท ขณะที่ เจ้าหน้าที่ ธกส.บางส่วน ตะโกนขับไล่ หวิดเกิดเหตุรุนแรงกับผู้ที่มาฝากเงิน

นักธุรกิจ และประชาชนชาวโคราช ร่วมใจไปฝากเงินที่ ธกส. เพื่อช่วยเหลือชาวนา คาดมียอดฝากไม่ต่ำกว่า 30ล้านบาท ขณะที่ เจ้าหน้าที่ ธกส.บางส่วน ตะโกนขับไล่ หวิดเกิดเหตุรุนแรงกับผู้ที่มาฝากเงิน

วันนี้ (20 ก.พ.57)  ที่บริเวณหน้าอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนักธุรกิจ พ่อค้า คหบดี และประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันถือป้ายสนับสนุนรัฐบาลพร้อมยื่นหนังสือให้กำลังใจ นายกรัฐมนตรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผ่านทาง ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในการปฏิบัติหน้าที่และแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะ ชาวนา ก่อนที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนักธุรกิจ พ่อค้า คหบดี และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา จะร่วมกันเดินทางไปยัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส) สาขาจังหวัดนครราชสีมา เพื่อฝากเงินกับธนาคารเพื่อให้ธนาคารเกิดสภาพคล่องสามารถนำเงินไปจ่ายให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว

โดยขณะที่ประชาชนที่เดินทางนำเงินมาฝากเงินกับ ธกส. เพื่อช่วยเหลือชาวนา ได้มี เจ้าหน้าที่ ธกส. บางส่วน ไม่พอใจ ตะโกนขับไล่กลุ่มประชาชนที่เดินทางมาฝากเงินกับธนาคาร จนเกิดการกระทบกระทั้งและด่าทอกันระหว่างแกนนำที่มาฝากเงิน กับ เจ้าหน้าที่ ธกส. แต่ไม่รุนแรง ก่อนทั้ง 2 ฝ่าย จะแยกย้ายกัน

ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าว การเดินทางมาฝากเงินกับ ธกส.ในครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างพ่อค้า คหบดี นักธุรกิจ และประชาชนในจังหวัดนครราชสีมา ที่ต้องการช่วยเหลือชาวนา และต้องการให้ ธกส. มีสภาพคล่องมากขึ้นในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวนา ทั้งนี้ยอดงานที่นำฝากกับธนาคาร ธกส. ในวันนี้ น่าจะมีไม่ต่ำว่า 30 ล้านบาท ซึ่ง ธกส ถือว่าเป็นธนาคารที่เกี่ยวข้องกับชาวนาโดยตรงและจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างทันท่วงที นายประเสริฐ กล่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เผยมีเกษตรกรทำนาปรังกว่า แสนไร่ เกินโควตา กว่า 3 เท่าตัว วอนประชาชนที่อาศัยอยู่ต้นน้ำ เห็นใจปลายน้ำ แนะสูบขึ้นมาแค่พอใช้

ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เผยมีเกษตรกรทำนาปรังกว่า แสนไร่ เกินโควตา กว่า 3 เท่าตัว วอนประชาชนที่อาศัยอยู่ต้นน้ำ เห็นใจปลายน้ำ แนะสูบขึ้นมาแค่พอใช้

วันนี้ (20 ก.พ.57)  ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ขณะนี้สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่มีความรุนแรงมากขึ้น แม้ว่าทางจังหวัดยังไม่มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งอย่างชัดเจน แต่ได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อช่วยเหลือในกรณีที่เกิดภัยแล้งขึ้น โดยได้มีการตั้งศูนย์ขึ้นในระดับจังหวัด อำเภอ ท้องถิ่น ทั้ง 32 อำเภอ ตรวจข้อมูล และมีการประชุมร่วมกับทางชลประทาน ให้ความสำคัญกับน้ำอุปโภค บริโภค เป็นอันดับแรก น้ำเพื่อการเกษตรรองลงมา รวมทั้งน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมเป็นสิ่งสุดท้าย

 ดร.วินัย กล่าวอีกว่า ส่วนน้ำในอ่างเก็บน้ำ 5 แห่ง ภาพรวมมีปริมาณ ร้อยละ 91 แต่เขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำสูงสุด คือ เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 103 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาเป็นเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว แต่น้ำส่วนใหญ่จะอยู่เขตพื้นที่ชลประทานเป็นหลัก พี่น้องประชาชน เกษตรกรได้ทำการสูบน้ำไปทำนาปรัง จึงอยากฝากพี่น้องประชาชน เกษตรกร ว่า ในช่วงหน้าแล้งนี้ทางจังหวัดได้มีการประกาศให้มีการงดทำนาปรังและหันไปปลูกพืชใช้น้ำน้อย ไม่เช่นนั้นประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ปลายน้ำจะมีน้ำใช้ในการอุปโภค บริโภค ไม่เพียงพอ จากน้ำที่เขื่อนได้ปล่อยลงไป ขณะนี้มีเกษตรกรที่ทำนาปรังกว่า 1 แสน ไร่ ซึ่งเกินกว่าโควตาที่ทางจังหวัดให้ทำนาปรังได้เพียง 2-3หมื่นไร่ เท่านั้น

ส่วนเรื่องงบประมาณ ขณะนี้มีส่วนของท้องถิ่นที่ต้องช่วยเหลือเป็นอันดับแรก แต่หลังจากที่ทางจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว จะมีงบประมาณ 20 ล้านบาท เข้าไปช่วยเหลือ ในส่วนความเสียหายจากภัยแล้งจะมีการรวบรวมข้อมูลส่งให้กระทรวงเกษตรฯ ของบส่วนกลางมาช่วยเหลือประชาชนต่อไป ขณะนี้รัฐบาลให้ช่วยดูและแก้ไขปัญหาให้มีการบูรณาการกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่มีการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน

ธนาคารออมสิน จัดงาน ตลาดนัดออมสิน สินค้าชุมชน ของดี 4 ภาค ของฝาก 4 ทิศ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชนของลูกค้าธนาคารให้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น

ธนาคารออมสิน จัดงาน ตลาดนัดออมสิน สินค้าชุมชน ของดี 4 ภาค ของฝาก 4 ทิศ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชนของลูกค้าธนาคารให้มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้น

วันนี้ (20 ก .พ.57) ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนคราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ตลาดนัดธนาคารออมสิน สินค้าชุมชน ของดี 4 ภาค ของฝาก 4 ทิศ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 กพ 2557 นี้ ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชน ระดับฐานราก เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน เพื่อเสริสร้างศักยภาพทางการเงิน ส่งเสริมช่องทางการจำหน่ายสินค้า และสร้างความเข็มแข็งให้แก่ผู้ผลิต และผู้ประกอบการของชุมชนในระดับฐานราก ตลอดจนเป็นการขยายโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และบริการทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย โดยภายในงานได้มีการนำสินค้ามาจัดแสดงและวางจำหน่าย อาทิ ผลิตภัณฑ์สิ่งทอ อาหาร เครื่องประดับตกแต่ง และผลิตภัณฑ์ชุมชนอีกหลายประเภท มาวางจำหน่ายมากกว่า 50 ร้านค้า ทั้งนี้คาดว่า จะมีประชาชนและผู้สนใจมาเลือกซื้อสินค้าภายในงานเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้เป็นประธานมอบสินเชื่อเงินกู้ยืมที่ผ่านการพิจารณาอนุมัติให้ลูกค้า เพื่อนำไปลงทุนประกอบอาชีพ จำนวน 20 ราย เป็นเงิน กว่า 1 ล้าน 5 แสน บาท อีกด้วย

โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ตำบลท่ามะไฟหวาน

ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นำหน่วยจังหวัดเคลื่อนที่ออกไป ให้บริการประชาชน ตำบลท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ พบเป็นพื้นที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยว สั่งนายอำเภอ อบต. ทำแผน ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้สอดรับกัน หวังดึงนักท่องเที่ยว เข้ามา จับจ่ายใช้สอย เพิ่มรายได้ให้กับคนในพื้นที่ รองรับการเปิดประชาคมอาเซี่ยน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ก.พ. 57 นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายมนตรี ชาลีเครือ นายก อบจ.ชัยภูมิ ได้นำหน่วยงานต่างๆ ออกไปตั้งจุดบริการประชาชน ตามโครงการจังหวัดเคลื่อนที่ ณ บริเวณโรงเรียนบ้านท่ามะไฟหวาน ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำลำปะทาว ความจุ 44 ล้านลูกบาศก์เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เหมาะที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง นั่นคือ มอหินขาว ป่าปรงพันปี และน้ำตกตาดโตน องค์การบริหารส่วนตำบลทุกแห่งในพื้นที่แถบนี้ ตั้งแต่ อบต.ท่าหินโงม. ซับสีทอง และท่ามะไฟหวาน จะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งอำเภอเมืองชัยภูมิ อำเภอแก้งคร้อ วางแผนพัฒนาพื้นที่แถบนี้ ให้สามารถสร้างรายได้แก่ประชาชนให้ได้ ศักยภาพแบบนี้ กิจกรรมที่จะสร้างรายได้แบบก้าวกระโดด คือการท่องเที่ยว

ซึ่งขณะนี้จังหวัดใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวมอหินขาว เป็นโอกาสของชาวบ้าน ที่ได้ขายบริการ ด้านการท่องเที่ยว ทั้งด้านที่พัก ร้านอาหาร สินค้าโอทอป ของที่ระลึก และด้านบริการอื่นๆ รวมถึงไม้ดอก ไม้ผล ทั้งสับปะรด สตอร์เบอรี่ ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านเขาปลูกได้ผล เริ่มขายได้แล้ว ทั้งขายลูก และขายกิ่งพันธุ์ หน่วยงานราชการทุกระดับ ต้องเข้าไปเติมเต็ม เพิ่มศักยภาพ ให้สูงขึ้น ทั้งเรื่องคุณภาพสินค้า การบรรจุภัณฑ์ และการแปรรูป สิ่งเหล่านี้ องค์ปกครองท้องถิ่น ที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ต้องนำไปคิด วิเคราะห์ และวางแผนพัฒนา ต่อยอด เพื่อสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ที่สำคัญแผนต้องสอดคล้องกัน จึงจะก่อให้เกิดภาพที่ชัดเจน สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าได้อย่างต่อเนื่อง



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

จังหวัดขอนแก่น จัดประกวดนาฎยศิลป์ร่วมสมัยเทิดไท้องค์คีตราชัน

สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น  จัดประกวดนาฎยศิลป์ร่วมสมัยเทิดไท้องค์คีตราชัน  เพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงทรงมีพระชนมพรรษา  86  พรรษา  และเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน  ซึ่งมีนาฎยศิลป์จาก 4 จังหวัด  18  ทีม  เข้าร่วมประกวด

นายประเสริฐ  ลือชาธนานนท์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  ได้เป็นประธานเปิดกรวยถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก่อนเปิดการประกวดนาฎยศิลป์ร่วมสมัยเทิดไท้องค์คีตราชัน  ซึ่งสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่นจัดขึ้น เพื่อเป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา  86  พรรษา  และเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์  องค์อัครศิลปิน  พระผู้ทรงงานและเป็นองค์อุปถัมภ์แห่งศิลปวัฒนธรรไทย  และเพื่อสร้างจิตสำนึกและความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมไทย  ตลอดจนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบสานและปรับประยุกต์การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย  ให้มีความร่วมสมัยและพัฒนาสู่สากล

นางเกศินี  สวัสดี  วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น  เปิดเผยว่า  การจัดประกวดนาฎยศิลป์ร่วมสมัยในครั้งนี้  แบ่งการจัดกิจกรรมออกเป็น  3  ส่วน  คือ  การแสดงนิทรรศการสาธิตศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย  และพบปะศิลปินร่วมสมัย  การจัดแสดงและจำหน่วยผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมของเครือข่ายวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น จาก 5 กลุ่มอำเภอ และกิจกรรมการประกวดนาฎยศิลป์ร่วมสมัยจากกลุ่มจังหวัดร้อยเอ็ด ,ขอนแก่น  กาฬสินธุ์  และมหาสารคาม  ซึ่งมีเยาวชน  สถานศึกษาจัดส่งทีมเข้าร่วมประกวดนาฎยศิลป์ร่วมสมัย  รวม  18  ทีม  โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากภาคราชการ  และภาคเยาวชนร่วมเป็นกรรมการตัดสินการประกวด  และได้รับความสนใจจากประชาชน  สถานศึกษา  และผู้สนใจเข้าร่วมชมกากรประกวดจำนวนมาก

หอการค้าจังหวัดขอนแก่น จัดสัมมนาโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ Smes สู่ AEC

หอการค้าขอนแก่น จัดสัมมนาโครงการพัฒนาศักยภาพ ผู้ประกอบการ SMEs วิธีทำเงิน

นายสมิง ยิ้มศิริ หอการค้าจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่าในวันที่ 7 มีนาคม 2557 เวลา 08.30-17.00 น. ที่ โรงแรมเซ็นทาราขอนแก่น หอการค้าจังหวัดขอนแก่น จัดสัมมนาโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs (SMEs Development Program) ในหัวข้อ "SMEs วิธีทำเงิน” โดยมีนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดการสัมมนาฯนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวต้อนรับ หอการค้าจังหวัดขอนแก่น ร่วมกับหอการค้าไทยในฐานะสถาบันที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันได้ในตลาดโลกและใน AEC ที่จะมาถึงในปี 2558

ซึ่งจังหวัดขอนแก่นเชื่อมโยงเศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียนการจัดสัมมนาในครั้งนี้ เพื่อให้ความรู้และคำแนะนำการดำเนินธุรกิจแก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และรับคำปรึกษาจากวิทยากร นักธุรกิจ SMEs ที่ประสบความสำเร็จ เป็นการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ SMEs ให้ประสบความสำเร็จ โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย อาทิ การออกบูธให้คำปรึกษา 5 โซน ได้แก่ การเข้าถึงแหล่งทุน , การเพิ่มไอเดียให้กับผู้ประกอบการ , ตัวเลขบอกอะไรเกี่ยวกับสุขภาพของธุรกิจ , Family Business Open Up และให้คำปรึกษาด้านบัญชีและภาษี, การบรรยายในหัวข้อ "การบริหารธุรกิจอย่างมีนวัตกรรม” , หัวข้อ "ประสบการณ์คนทำได้ ง่าย


ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

เทศบาลนครขอนแก่น พัฒนาชุมชนเมืองสู่อาเซียนพัฒนาศักยภาพของชุมชนแบบคู่ขนานญี่ปุ่น

เทศบาลนครขอนแก่นพัฒนาชุมชนเมืองสู่อาเซี่ยนพัฒนาศักยภาพของชุมชนเมืองแบบคู่ขนานระหว่าง เทศบาลนค ขอนแก่น กับเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น

นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแกน พร้อม รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ คณบดีวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น รศ.ดร.สมนึก ธีระกุลพิศุทธิ์ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ดร.ฮิโรฟูมิ อันโด ประธานศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับสังคมเมืองอาเซียน แห่งเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกันประกอบพิธีลงนามความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาร่วมกันทั้งสี่ฝ่าย เพื่อสาธารณะประโยชน์ รวมทั้งสนับสนุนขีดความสามารถทางด้านเทคนิคและการบริหารจัดการแก่ชุมชน โดยใช้พื้นที่เทศบาลนครขอนแก่น เป็นต้นแบบดำเนินงาน เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ รองรับการก้าวสู่ความเป็นมหานครแห่งอาเซียนในอนาคต นาย ธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแกนกล่าวว่า การลงนาม ข้อตกลงจะมีผลการดำเนินงานทันที โดยทั้งสี่ฝ่ายจะร่วมกันพัฒนาและวิเคราะห์ศักยภาพของชุมชนเมืองในด้านต่างๆ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนา และสนับสนุนขีดความสามารถในด้านของเทคนิคและการบริหารจัดการแก่องค์กรในเรื่องการดูแลประชากร, สุขอนามัย และการพัฒนาต่างๆ ในภาพรวมเพื่อสนองตอบสิ่งที่จำเป็นและตรงความต้องการประชาชน ทั้งเกิดประโยชน์สูงสุดแก่พลเมืองชาวขอนแก่น

โดยมีแผนงานที่สอดรับกันของทุกฝ่ายในการยกระดับเทศบาลนครขอนแก่นเป็นมหานครแห่งอาเซียน ที่เริ่มจากการพัฒนาสภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน พัฒนาโครงสร้างขั้นพื้นฐานที่เพียบพร้อม และการแสดงออกถึงศักยภาพของความพร้อมของเมืองในด้านต่างๆ ให้ครบถ้วนที่สุดการลงนามความร่วมมือดังกล่าวเป็นการพัฒนาศักยภาพของชุมชนเมืองแบบคู่ขนานระหว่างเทศบาลนครขอนแก่น กับเมืองโกเบ โดยนำหลักวิชาการทั้งด้าน ของการเมืองการปกครอง และด้านวิศวกรรมเพื่อชุมชนเข้ามาผสมผสานในแนวทางการทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนให้เทศบาลกลายเป็นมหานครแห่งอาเซียนได้อย่างครอบคลุมและสมบูรณ์แบบที่สุด โดยเฉพาะการนำเอาหลักคิดของการเป็นผู้นำในระดับบริหารท้องถิ่นมาปรับ ประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ทั้ง เรื่องของการบริหารจัดการน้ำในชุมชน การจัดการขยะมูลฝอยที่สัมฤทธิ์ผลของชุมชนเมืองขนาดใหญ่ การพัฒนาและปรับปรุงสุขอนามัย ของวัยเจริญพันธุ์ รวมถึงการป้องกันเชื้อ เอชไอวี (เอดส์) และการบริหารจัดการในกลุ่มประชากรผู้สูงอายุ ด้าน รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ คณบดีวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า การ ดำเนินงานภายใต้กรอบของเมืองมหาวิทยาลัย และการเป็น หุ้นส่วนร่วมระหว่าง 4 หน่วยงาน ยังคงเน้นหนักไปในแผนงานการวิเคราะห์คำนวณตามขั้นตอนต่างๆ ที่เป็นข้อเท็จจริงและสอดคล้องกับสภาพพื้นที่และความต้องการของประชาชน พร้อมจัดการฝึกอบรมในระดับบริหารและระดับปฏิบัติการ เพื่อสนับสนุนทางด้านเทคนิคทั้งด้านโครงสร้าง สิ่งแวดล้อม และพัฒนาชุมชนเมือง มีการนำบทเรียนจากการฝึกอบรมร่วมระหว่างประเทศมาใช้ให้เกิดผลต่อพื้นที่ โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์และชุมชนเมือง การจัดการสภาพแวดล้อมและการบริหารเมืองที่เป็นไปตามโลกยุคปัจจุบันจะถูกนำมาผสมผสานร่วมระหว่างหน่วยงานตามหลักวิชาการเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนชาวขอนแก่นให้มากที่สุด



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ส.ปชส.ขอนแก่น

ตำรวจทางหลวงขอนแก่น รวบ 2 ผู้ต้องหา รับจ๊อบขนสัตว์ป่าสงวนส่งจำหน่ายต่างประเทศ

เมื่อเวลา 00.50 น. วันที่ 20 ก.พ.2557 พ.ต.อ.ไผ่พนา เพ็ชรเย็น ผกก.4 บก.ทล. พร้อมด้วย พ.ต.ท.อานันท์ วิชเศรษฐสมิตร สว.สทล. 2 กก.4 บก.ทล. และ ร.ต.อ.พรชัย แสงศิลา รอง สว.ตำรวจทางหลวงขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจำหน่วยบริการประชาชนตำรวจทางหลวงน้ำพอง ตั้งด่านตรวจบน ถ.มิตรภาพ ช่วง หลัก กม. 373-374 ต.น้ำพอง พบรถยนต์กระบะนิสสันสีเทา หมายเลขทะเบียน ถฮ-7608 กทม. ซึ่งกระบะตอนท้ายมีการเสริมคอกหลังคาสูงขับเข้ามาด้วยท่าทีพิรุธ จึงได้เรียกเพื่อขอทำการตรวจค้นกลับพบกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงประกอบกับได้ยินเสียงร้องของสัตว์ประเภทต่างๆ จึงได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พบลูกเสือโคร่งจำนวน 5 ตัว ตะกวด 312 ตัว เต่า 174 ตัว ตะพาบน้ำ 11 ตัว ทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ในลังพลาสติกรวมไปถึงถุงปุ๋ยอย่างแน่นหนาโดยมีผ้าใบปกคลุมอย่างมิดชิด จึงได้ทำการควบคุมตัวนายวิษณุ เนตรสว่าง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/4 ม.7 ตาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม นายจักรพันธ์ คำโคตรศูนย์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม. 12 ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์มาทำการสอบสวน

จากการสอบสวน นายวิษณุ ให้การรับสารภาพว่า ปกติจะรับจ้างขนส่งผักและผลไม้ส่งที่ตลาดไทย และในเขตกลุ่มจังหวัดภาคกลาวง ก่อนถูกจับกุม มีนายทุนชาวจีนและชาวไทย ว่าจ้างด้วยเงินสด 20,000 บาท ให้ไปรับสัตว์ทั้งหมดจากรถบรรทุก 6 ล้อ ที่ริมถนนวงแหวน บางบัวทอง- บางปะอิน ใกล้กับทางต่างระดับบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนนำที่ริมแม่น้ำโขงในเขต อ.เมืองบึงกาฬ โดยจะมีเครือข่ายนายทุนรอรับข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้านก่อนส่งสัตว์ต่างๆเหล่านี้ไปจำหน่ายในประเทศจีน ทั้งนี้การลักลอบขนส่งดังกล่าวครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2

พ.ต.ท.อานันท์ วิชเศรษฐสมิตร สว.สทล. 2 กก.4 บก.ทล. กล่าวว่า ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ทำการตั้งจุดตรวจอยู่นั้นพบว่ารถกระบะดังกล่าว ซึ่งกระบะได้ต่อโครงเหล็กสูงทั้งสองข้าง และบรรทุกสิ่งของเต็มคันรถ พร้อมทั้งมีผ้าใบสีดำ ปิดคลุมไว้อย่างมิดชิด จึงเรียกตรวจค้นพบกระสอบปุ๋ย 5 ใบ ข้างในถุงปุ๋ยพบลูกเสือโคร่งทั้งเพศผู้และเพศเมีย อายุ ประมาณ 3-5 เดือนใส่ในถุงๆละตัว รวม 5 ตัว ลูกเสือมีสภาพอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด และส่งเสียงร้องซึ่งหิวนมและหิวอาหาร จึงได้เร่งประสานเจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชขอนแก่นรวมไปถึงเจ้าหน้าที่จากสวนสัตว์ขอนแก่นมาทำนำสัตว์ป่าทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้เพื่อช่วยชีวิต อย่างไรก็ตามหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จจึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ร่วมกันมีไว้ในครอบครอง ซึ่งสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครองโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.น้ำพอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเปิดอาคารตึกผู้ป่วยในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชอำเภอกระนวนจังหวัดขอนแก่น

วันนี้ฯพณฯ ท่านธานินทร์  กรัยวิเชียร องคมนตรีในฐานะประธานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดินทางมาเป็นประธานเปิดตึกผู้ป่วยใน 114 เตียงโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช  อำเภอกระนวน  จังหวัดขอนแก่น โดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นนำหัวหน้าส่วนราชการร่วมแสดงความยินดี แพทย์หญิงอัมพร  รัตนปริญญา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชกระนวนกล่าวว่า ตึกผู้ป่วยใน 114 เตียงได้รับงบประมาณจัดสรรจากกระทรวง สาธารณสุขจำนวน 50,134,206 บาทเพื่อก่อสร้างอาคารผู้ป่วยในเพื่อทดแทนอาคารหลังเก่าที่ใช้งานมากว่า 35 ปีแล้วและทางโรงพยาบาลมีการให้บริการผู้ป่วยที่มากขึ้นให้บริการผู้ป่วยในหลายอำเภอที่ใกล้เคียงทั้งจังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดกาฬสินธุ์ ให้บริการวันละเฉลี่ย 470 ครั้งต่อวัน

แต่ก่อนมีเตียงผู้ป่วย 90 เตียงปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 114 เตียง ไว้รองรับบริการผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างมีคุณภาพและในปี 2555เป็นปีมหามงคลครบรอบ 60 พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้จัดสรรงบประมาณ อีก 3.17 ล้านบาทก่อสร้างอาคารศาลาพักญาติ พร้อมห้องน้ำ สาธารณูปโภค ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร และทางองคมนตรีก็ได้เปิดอาคารที่พักญาติหลังใหม่ด้วย พร้อมกันนี้ทางหัวหน้าส่วนราชการก็ได้นำถุงของขวัญพระราชทานมอบให้กับเด็กที่ป่วยและมารดาที่คลอดบุตรใหม่ในโรงพยาบาลด้วย

เกษตรกรกาฬสินธุ์ 117 ราย คุณสมบัติครบ พร้อมขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ GI

บ่ายวันนี้ ( 20 ก.พ. 57 )  ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสิริรัฐ ชุมอุปการ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานการประชุม ของคณะกรรมการบริหารจัดการสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ "ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์” เพื่อทำการพิจารณาขออนุญาตใช้ตรา GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา

นายนิพนธ์ วรรณภักดี พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกระบวนการผลิตข้าวของเกษตรกรที่สมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ผลิตข้าวGIซึ่งได้ปฏิบัติถูกต้องตามคู่มือปฏิบัติงาน GI และได้ใบรับรองมาตรฐาน GAP แล้วด้วย จำนวน 117 ราย โดยในวันนี้เป็นการนำรายชื่อทั้ง 117 ราย เสนอต่อคณะกรรมการระดับจังหวัด เพื่อพิจารณาก่อนดำเนินการขออนุญาตใช้ตรา GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา

ทั้งนี้ เกษตรกร จำนวน 117 ราย อยู่ในพื้นที่อำเภอเขาวง 66 ราย อำเภอกุฉินารายณ์ 5 ราย อำเภอนาคู 46 ราย รวมพื้นที่เพาะปลูก จำนวน 800 ไร่ ผลผลิตรวม 451,795 กก. ผลผลิตเฉลี่ย 564 กก. / ไร่ ราคาข้าวเปลือกอยู่ที่ กก.ละ 18.- บาท ขณะที่ราคาข้าวสารอยู่ ที่ กก.ละ 50.- บาท และจากการตรวจสอบข้อมูลรวมทั้งการระดมความคิดเห็นของคณะกรรมการระดับจังหวัด เห็นควรให้นำรายชื่อทั้ง 117 ราย ขออนุญาตใช้ตรา GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา

ทางด้าน นายสิริรัฐ ชุมอุปการ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา จะใช้เวลา ประมาณ 1 เดือนในการพิจารณา และหากเกษตรกรได้รับอนุญาตให้ใช้ ตรา GI แล้ว จะทำให้ข้าวเหนียวเขาวงมีมูลค่าสูงขึ้นอีก และจังหวัดจะสนับสนุนงบประมาณในการผลิตถุงบรรจุข้าวโดยเน้นสัญลักษณ์ตรา GI ให้โดดเด่นที่สุด เพื่อที่จะดึงดูดผู้บริโภคให้รู้จักและให้ความสนใจข้าวเหนียวเขาวงมากยิ่งขึ้น



วิภาดา รัตนโรจนา / ข่าวดวงใจ หงษ์จันทร์ / ภาพ