นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นลงพื้นที่รับทราบปัญหาความเดือดร้อนของชาวอำเภอเปือยน้อยที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอ พบปะกำนัน นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 4 ตำบลเพื่อรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของชาวอำเภอเปือยน้อยซึ่งสรุปว่าชาวอำเภอเปือยน้อยต้องการระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานไฟฟ้า ประปาขยายเขตรวมทั้งขุดลอกหนองน้ำและทำถนนเพื่อให้การเดินทางสัญจรสะดวดสบายขึ้นรวมทั้งช่วยตรวจสอบโครงการที่ผ่านมาเพื่อให้ผู้รับเหมาทำงานให้สมกับงบประมาณให้ได้งานที่มีคุณภาพซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นก็ฝากให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาให้ทางราชการตรวจสอบการทำการก่อสร้าง ทำถนนให้ได้มาตรฐานมีคุณภาพสมกับงบประมาณที่ภาครัฐจัดสรรให้ไม่ใช่ขุดลอกหนองก็ทำลวกๆทำถนนก็ใช้ได้เดือนเดียวซึ่งทุกภาคส่วนเมื่อพบเหตุการณ์ลักษณะนี้ก็ให้รีบแจ้งนายอำเภอผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนจะได้ช่วยตรวจสอบอย่างเร่งด่วนก่อนที่เขาจะขนเครื่องจักรกลับรวมทั้งฝากเกษตรให้คำปรึกษากับเกษตรกรเรื่องเพิ่มผลิตต่อไร่และลดต้นทุนต่อไร่ด้วยและขอให้ชาวอำเภอเปือยน้อยรักษาสุขภาพออกกำลังกายบ่อยๆจะได้ห่างไกลโรค
วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556
จังหวัดนครราชสีมา จัดงานวันสตรีไทย ประจำปี 2556 ภายใต้แนวคิด พลังสตรีไทย พลังพัฒนาประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
วันนี้ (1 ส.ค. 56) เวลา 10.30 น. ที่ศูนย์การเรียนรู้ปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ
สวนน้ำบุ่งตาหลั่ว รัชกาลที่ 9 ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง
จ.นครราชสีมา นางราตรี บัวประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา
ในฐานะประธานสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จังหวัดนครราชสีมา
เป็นประธานนำเหล่าสมาชิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครราชสีมากว่า 400 คน
กล่าวคำสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันสตรีไทย ประจำปี 2556 ภายใต้แนวความคิด
พลังสตรีไทย พลังพัฒนาประเทศ ทั้งนี้การจัดงานวันสตรีไทย
จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
และให้สังคม ได้ตระหนักถึงบทบาทและความสามารถของสตรีไทยในด้านต่างๆ
โดยภายหลังจากพิธีเปิดงานนางราตรี บัวประดิษฐ์
นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานสมาคมแม่บ้านมหาดไทย
จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย ดร.วินัย บัวประดิษฐ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
ได้เยี่ยมชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ นิทรรศการการดำเนินงานของหน่วยงานภาคีที่เกี่ยวข้อง
และนิทรรศการการเผยแพร่งานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี
ชมการสาธิตอาชีพ(ผ้าป่าอาชีพ) จำนวน 14 อาชีพ
ตลอดจนชมนิทรรศการด้านการพัฒนาสตรีไทยในด้านต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันปลูกต้นไผ่สีทอง จำนวน 10 กอ ตามโครงการ
ประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษา มหาราชชินี
และปล่อยพันธุ์ปลาลงแหล่งน้ำ จำนวน 2,000 ตัว เพื่อเทิดพระเกียรติ อีกด้วย
ด้านนางราตรี บัวประดิษฐ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา
ในฐานะประธานสมาคมแม่บ้านมหาดไทย จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า วันสตรีไทย
ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของสตรีไทยทุกคน โดยเฉพาะสตรีชาวจังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สตรี ได้แสดงความรู้ ความสามารถ
และได้แสดงผลงานที่เกิดจากภูมิปัญญา อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสตรีไทย
รวมถึงบทบาทของสตรีในด้านต่างๆ
ให้ก้าวไปในแนวทางที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา จัดการประชุมสภากาแฟสัญจร ครั้งที่ 2 พร้อมนำหน่วยแพทย์ตรวจสุขภาพให้กับหัวหน้าส่วนราชการ
วันนี้ (1 ส.ค. 56) เวลา 07.30 น. ที่ ห้องประชุม ชั้น 9
อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในการประชุมสภากาแฟสัญจร ครั้งที่
2
โดยมีหัวหน้าส่วนระดับจังหวัดเข้าร่วมประชุมแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงาน
ของแต่ละกระทรวงในระดับจังหวัด สำหรับในการประชุมสภากาแฟสัญจรในครั้งนี้
นอกจากจะมีการหารือข้อราชการและการดำเนินงานในด้านต่างๆแล้ว
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นเจ้าภาพ
ได้มีการจัดเลี้ยงอาหาร และนำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่มาบริการตรวจสุขภาพ
ให้กับหัวหน้าส่วนราชการ
รวมทั้งยังได้มีการบริการนวดเพื่อสุขภาพผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย
นครราชสีมา จะจัดงาน เต้นแอโรบิค ตาราง ๙ช่อง “เทิดพระเกียรติ สดุดีแม่ของแผ่นดิน” ปี ๕๖
จังหวัดนครราชสีมากำหนดจัดงาน เต้นแอโรบิค ตาราง
๙ ช่อง "เทิดพระเกียรติ สดุดีแม่ของแผ่นดิน” ประจำปี ๒๕๕๖ ณ
ลานหน้าห้างเดอะมอลล์ นครราชสีมา ในวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๖
การจัดงานเป็นความร่วมมือระหว่าง ห้างเดอะมอลล์นครราชสีมา บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ฟิตเนสเฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเต้นแอโรบิคตาราง ๙ ช่อง "เทิดพระเกียรติ สดุดีแม่ของแผ่นดิน” ประจำปี ๒๕๕๖ เนื่องในวโรกาสปีที่ ๖๓ ครบรอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมรส และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุครบ ๘๑ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมกิจกรรมการเต้นแอโรบิค รณรงค์ให้เยาวชนเกิดความรักความสามัคคี ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และยังเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายเพื่อห่างไกลยาเสพติด
โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีตัวแทนจาก ๘๑ โรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา มาร่วมแสดงพลังคนรักแม่ในการเต้นตาราง ช่อง ๙ จำนวน ๘ โรงเรียนๆละ ๖๓ คน รวมทั้งสิ้น ๕๐๔ คน อาทิ โรงเรียนเทศบาล ๑, โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) , โรงเรียนเทศบาล ๔ (เพาะชำ) , โรงเรียนเทศบาล ๕ (วัดป่าจิตตสามัคคี) , โรงเรียนสายมิตรโนนไทย ๒ , โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา , โรงเรียนโยธินนุกูล , และโรงเรียนเกียรติคุณวิทยา การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) , บริษัท ฟิตเนสเฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด ในการสนับสนุน ครูฝึก ออกแบบท่าเต้นแอโรบิคประกอบเพลง ความยาวประมาณ ๓๐ นาที และเสื้อสำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง ๘ โรงเรียน ซึ่งในการจัดกิจกรรมดังกล่าวมีการแข่งขันความพร้อมเพรียง ความสวยงาม รางวัลชนะเลิศจะได้รับโล่รางวัลเกียรติยศพร้อมทุนการศึกษากว่า ๕๐,๐๐๐ บาท อีกด้วย
จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระชนมายุครบ ๘๑ พรรษา และร่วมชมเป็นกำลังใจให้แก่น้องๆ ในการเต้นแอโรบิค ในวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ ลานหน้าห้างเดอะมอลล์ นครราชสีมา ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐ เป็นต้น
การจัดงานเป็นความร่วมมือระหว่าง ห้างเดอะมอลล์นครราชสีมา บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ฟิตเนสเฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเต้นแอโรบิคตาราง ๙ ช่อง "เทิดพระเกียรติ สดุดีแม่ของแผ่นดิน” ประจำปี ๒๕๕๖ เนื่องในวโรกาสปีที่ ๖๓ ครบรอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมรส และเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระชนมายุครบ ๘๑ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมกิจกรรมการเต้นแอโรบิค รณรงค์ให้เยาวชนเกิดความรักความสามัคคี ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และยังเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้มีการออกกำลังกายเพื่อห่างไกลยาเสพติด
โดยการจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีตัวแทนจาก ๘๑ โรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา มาร่วมแสดงพลังคนรักแม่ในการเต้นตาราง ช่อง ๙ จำนวน ๘ โรงเรียนๆละ ๖๓ คน รวมทั้งสิ้น ๕๐๔ คน อาทิ โรงเรียนเทศบาล ๑, โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดสมอราย) , โรงเรียนเทศบาล ๔ (เพาะชำ) , โรงเรียนเทศบาล ๕ (วัดป่าจิตตสามัคคี) , โรงเรียนสายมิตรโนนไทย ๒ , โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา , โรงเรียนโยธินนุกูล , และโรงเรียนเกียรติคุณวิทยา การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) , บริษัท ฟิตเนสเฟิรส์ท (ประเทศไทย) จำกัด ในการสนับสนุน ครูฝึก ออกแบบท่าเต้นแอโรบิคประกอบเพลง ความยาวประมาณ ๓๐ นาที และเสื้อสำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทั้ง ๘ โรงเรียน ซึ่งในการจัดกิจกรรมดังกล่าวมีการแข่งขันความพร้อมเพรียง ความสวยงาม รางวัลชนะเลิศจะได้รับโล่รางวัลเกียรติยศพร้อมทุนการศึกษากว่า ๕๐,๐๐๐ บาท อีกด้วย
จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมร่วมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระชนมายุครบ ๘๑ พรรษา และร่วมชมเป็นกำลังใจให้แก่น้องๆ ในการเต้นแอโรบิค ในวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ ลานหน้าห้างเดอะมอลล์ นครราชสีมา ตั้งแต่เวลา ๑๖.๐๐ เป็นต้น
(หมายเหตุ ภาพการแข่งขันเมื่อปีที่ผ่านมา)
ก.ธ.จ.มหาสารคาม เร่งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกรูปแบบ แนะประชาชนสอดส่องการทำงานภาครัฐ
ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุมกับคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม (ก.ธ.จ.) เร่งประชาสัมพันธ์บทบาทภารกิจ การดำเนินงานผ่านสื่อทุกรูปแบบ พร้อมเชิญชวนประชาชนสอดส่องการทำงานของภาครัฐผ่าน ก.ธ.จ.มหาสารคาม
นางวนิดา สักการโกศล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม ประชุมร่วมกับคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม (ก.ธ.จ.) โดยเป็นการประชุมครั้งที่ 3 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานในการลงพื้นที่สอดส่องโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ที่ ก.ธ.จ.มหาสารคาม ได้ร่วมกันติดตาม พร้อมเร่งให้มีการประชาสัมพันธ์บทบาทภารกิจ และผลการดำเนินงานของ ก.ธ.จ.มหาสารคาม ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบเพื่อเผยแพร่ไปสู่ประชาชนให้ได้รับทราบกันอย่างกว้างขวาง
ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการดำเนินการตามบทบาทภารกิจของ ก.ธ.จ.มหาสารคาม นั้น พบว่ามีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ โดยคณะกรรมการฯ ดำเนินงานลงพื้นที่ไปสอดส่องโครงการที่ได้ร่วมกันคัดเลือกไว้ แล้วได้นำผลการดำเนินงานมาเสนอต่อที่ประชุม โดยเป็นโครงการที่เอื้อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เช่นโครงการสร้างแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร โครงการขุดลอกเพื่อสร้างแหล่งน้ำ และโครงการก่อสร้างถนนเพื่อขนถ่ายสินค้าทางการเกษตร ซึ่งโครงการทั้งหมดมีการดำเนินการเป็นไปตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล ทั้งนี้ประชาชนในพื้นที่ก็มีส่วนร่วมที่จะสอดส่องการทำงานของภาครัฐ เพื่อร่วมกันสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมแจ้งข้อมูลที่สงสัยมายัง ก.ธ.จ. เพื่อจะได้ดำเนินการติดตามตรวจสอบต่อไป
ภายหลังการประชุมแล้ว ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม ยังได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ที่อำเภอเชียงยืนด้วย
นางวนิดา สักการโกศล ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม ประชุมร่วมกับคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม (ก.ธ.จ.) โดยเป็นการประชุมครั้งที่ 3 ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานในการลงพื้นที่สอดส่องโครงการของหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ที่ ก.ธ.จ.มหาสารคาม ได้ร่วมกันติดตาม พร้อมเร่งให้มีการประชาสัมพันธ์บทบาทภารกิจ และผลการดำเนินงานของ ก.ธ.จ.มหาสารคาม ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทุกรูปแบบเพื่อเผยแพร่ไปสู่ประชาชนให้ได้รับทราบกันอย่างกว้างขวาง
ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการดำเนินการตามบทบาทภารกิจของ ก.ธ.จ.มหาสารคาม นั้น พบว่ามีผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ โดยคณะกรรมการฯ ดำเนินงานลงพื้นที่ไปสอดส่องโครงการที่ได้ร่วมกันคัดเลือกไว้ แล้วได้นำผลการดำเนินงานมาเสนอต่อที่ประชุม โดยเป็นโครงการที่เอื้อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน เช่นโครงการสร้างแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร โครงการขุดลอกเพื่อสร้างแหล่งน้ำ และโครงการก่อสร้างถนนเพื่อขนถ่ายสินค้าทางการเกษตร ซึ่งโครงการทั้งหมดมีการดำเนินการเป็นไปตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล ทั้งนี้ประชาชนในพื้นที่ก็มีส่วนร่วมที่จะสอดส่องการทำงานของภาครัฐ เพื่อร่วมกันสร้างความโปร่งใสให้เกิดขึ้นในพื้นที่ พร้อมแจ้งข้อมูลที่สงสัยมายัง ก.ธ.จ. เพื่อจะได้ดำเนินการติดตามตรวจสอบต่อไป
ภายหลังการประชุมแล้ว ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม ยังได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ที่อำเภอเชียงยืนด้วย
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
ม.มหาสารคาม แนะเกษตรกรใช้สารสกัดประคำดีควายกำจัดหอยเชอรี่ในนาข้าว
คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดโครงการบริการวิชาการสู่ชุมชน ลงพื้นที่ยังวัดบ้านใคร่นุ่น ตำบลท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย แนะเกษตรกรใช้สารสกัดประคำดีควายกำจัดหอยเชอรี่ในนาข้าว
ที่วัดบ้านใคร่นุ่น ตำบลท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ศูนย์ส่งเสริมความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม ร่วมกับคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดโครงการบริการวิชาการสู่ชุมชน เรื่อง "การใช้สารสกัดประคำดีควายเพื่อกำจัดหอยเชอรี่ในนาข้าว” ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นการนำเอาองค์ความรู้จากผลงานวิจัยจนได้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถออกสู่เชิงพาณิชย์ไปสู่การบริการวิชาการสู่ชุมชน ที่ประสบปัญหาจากหอยเชอรี่ระบาดในนาข้าว กัดกินต้นข้าวเสียหาย เป็นการสร้างความตระหนักในการลดใช้สารเคมีในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่กำลังมีการใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พีระยศ แข็งขัน อาจารย์วิทยากรจากคณะเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้คิดค้นวิธีกำจัดหอยเชอรี่ด้วยสารสกัดประคำดีควายที่ไม่มีสารเคมีมาเจือปน กล่าวว่าได้ทดลองสารสกัดจากประคำดีควายฆ่าหอยเชอรี่ในห้องทดลอง โดยการนำหอยเชอรี่ ใส่ลงในน้ำธรรมดา และน้ำที่มีสารสกัดประคำดีควาย ซึ่งหอยเชอรี่ที่อยู่ในน้ำธรรมดา จะเดินไปเกาะที่ขอบภาชนะ หรือต้นข้าวได้ แต่หอยเชอรี่ที่อยู่ในน้ำประคำดีควาย หอยจะปิดปากสนิท ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เพราะเป็นการป้องกันตัวเอง ไม่ให้รับพิษจากสารสกัดประคำดีควาย แต่เมื่อใดก็ตามที่หอยเปิดปาก ก็จะมีอาการตัวบวม และฝ่อตายในที่สุด
สำหรับขั้นตอนการทำเริ่มจากนำลูกประคำดีควาย 1 ส่วน ต่อน้ำร้อน 2 ส่วน แช่ประคำดีควายกับน้ำไว้ 12 ชั่วโมง จากนั้นขยำเนื้อให้ละเอียด แยกเอาเมล็ดออกมา และเมล็ดยังสามารถนำไปปลูกใหม่ได้ เมื่อได้ที่แล้ว นำผ้าขาวบางมากรองเอาแต่สารละลาย เสร็จแล้วนำสารละลายที่กรองได้ มาผสมน้ำเพิ่มอีกในอัตรา สารละลาย 1 ส่วน ต่อน้ำเปล่า 6 ส่วน แค่นี้ก็ถือว่าสารสกัดจากประคำดีควายเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ ส่วนเนื้อประคำดีควายสามารถนำมาผสมน้ำและคั้นเอาสารสกัดได้อีก 2 ครั้ง เป็นแนวทางที่จะให้เกษตรกรได้นำไปใช้ประโยชน์ในแปลงนาข้าวเพื่อแก้ปัญหาต่อไป
ที่วัดบ้านใคร่นุ่น ตำบลท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ศูนย์ส่งเสริมความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม ร่วมกับคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดโครงการบริการวิชาการสู่ชุมชน เรื่อง "การใช้สารสกัดประคำดีควายเพื่อกำจัดหอยเชอรี่ในนาข้าว” ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นการนำเอาองค์ความรู้จากผลงานวิจัยจนได้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถออกสู่เชิงพาณิชย์ไปสู่การบริการวิชาการสู่ชุมชน ที่ประสบปัญหาจากหอยเชอรี่ระบาดในนาข้าว กัดกินต้นข้าวเสียหาย เป็นการสร้างความตระหนักในการลดใช้สารเคมีในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืชที่กำลังมีการใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พีระยศ แข็งขัน อาจารย์วิทยากรจากคณะเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้คิดค้นวิธีกำจัดหอยเชอรี่ด้วยสารสกัดประคำดีควายที่ไม่มีสารเคมีมาเจือปน กล่าวว่าได้ทดลองสารสกัดจากประคำดีควายฆ่าหอยเชอรี่ในห้องทดลอง โดยการนำหอยเชอรี่ ใส่ลงในน้ำธรรมดา และน้ำที่มีสารสกัดประคำดีควาย ซึ่งหอยเชอรี่ที่อยู่ในน้ำธรรมดา จะเดินไปเกาะที่ขอบภาชนะ หรือต้นข้าวได้ แต่หอยเชอรี่ที่อยู่ในน้ำประคำดีควาย หอยจะปิดปากสนิท ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน เพราะเป็นการป้องกันตัวเอง ไม่ให้รับพิษจากสารสกัดประคำดีควาย แต่เมื่อใดก็ตามที่หอยเปิดปาก ก็จะมีอาการตัวบวม และฝ่อตายในที่สุด
สำหรับขั้นตอนการทำเริ่มจากนำลูกประคำดีควาย 1 ส่วน ต่อน้ำร้อน 2 ส่วน แช่ประคำดีควายกับน้ำไว้ 12 ชั่วโมง จากนั้นขยำเนื้อให้ละเอียด แยกเอาเมล็ดออกมา และเมล็ดยังสามารถนำไปปลูกใหม่ได้ เมื่อได้ที่แล้ว นำผ้าขาวบางมากรองเอาแต่สารละลาย เสร็จแล้วนำสารละลายที่กรองได้ มาผสมน้ำเพิ่มอีกในอัตรา สารละลาย 1 ส่วน ต่อน้ำเปล่า 6 ส่วน แค่นี้ก็ถือว่าสารสกัดจากประคำดีควายเป็นอันเสร็จสมบูรณ์ ส่วนเนื้อประคำดีควายสามารถนำมาผสมน้ำและคั้นเอาสารสกัดได้อีก 2 ครั้ง เป็นแนวทางที่จะให้เกษตรกรได้นำไปใช้ประโยชน์ในแปลงนาข้าวเพื่อแก้ปัญหาต่อไป
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
การรถไฟแห่งประเทศไทยประชุมชี้แจงรายละเอียดภาพรวมเพื่อสำรวจ โครงการก่อสร้างทางรถไฟในจังหวัดมหาสารคาม
บริษัทที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการก่อสร้างทางรถไฟในจังหวัดมหาสารคาม +
เมื่อเช้าวันนี้ (1 สิงหาคม 2556) นายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานร่วมรับฟังการชี้แจงรายละเอียดภาพรวม การสำรวจ ออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรมและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม
นายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคามได้รับการประสานจากการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาเพื่อสำรวจ ออกแบบ รายละเอียดทางวิศวกรรมฯ นำโดยนายประชา ติยะธะ ผู้จัดการโครงการพร้อมคณะทีมงานได้ชี้แจงภาพรวมของโครงการดังกล่าว และรับฟังข้อคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะจากรองผู้ว่าราชการ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
สำหรับโครงการศึกษา งานสำรวจ ออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรมและจัดทำรายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนมนี้ การรถไฟ (ร.ฟ.ท.) ได้รับการจัดงบประมาณประจำปี 2556 จำนวน 40 ล้านบาท และผูกพันงบประมาณปี 2557 จำนวน 200 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างที่ปรึกษาดำเนินการสำรวจ ออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรม และจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EID) โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม และได้ดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือก ประกอบด้วย 4 บริษัท โดยมีบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาหลัก ( Leader Firm) ร่วมกับอีก 3 บริษัท คือ บริษัท โชติจินดา มูเชล คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท พีบี เอเชีย จำกัด และบริษัท พรี ดีเวลลอปเมนท์ คอนซัลแตนท์ จำกัด รวมระยะเวลาในการดำเนินงานของคณะที่ปรึกษา 15 เดือน วงเงินจ้าง 199.020 ล้านบาท
สำหรับเส้นทางรถไฟสายใหม่นี้ นอกจากจะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ยังเป็นการเชื่อมต่อระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนด้วย เช่น เมียนมาร์ ลาว เวียดนาม และจีนอีกด้วย
เมื่อเช้าวันนี้ (1 สิงหาคม 2556) นายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานร่วมรับฟังการชี้แจงรายละเอียดภาพรวม การสำรวจ ออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรมและจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม ที่ห้องประชุมสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดมหาสารคาม
นายธวัช สุระบาล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จังหวัดมหาสารคามได้รับการประสานจากการรถไฟแห่งประเทศไทยว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาเพื่อสำรวจ ออกแบบ รายละเอียดทางวิศวกรรมฯ นำโดยนายประชา ติยะธะ ผู้จัดการโครงการพร้อมคณะทีมงานได้ชี้แจงภาพรวมของโครงการดังกล่าว และรับฟังข้อคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะจากรองผู้ว่าราชการ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
สำหรับโครงการศึกษา งานสำรวจ ออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรมและจัดทำรายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนมนี้ การรถไฟ (ร.ฟ.ท.) ได้รับการจัดงบประมาณประจำปี 2556 จำนวน 40 ล้านบาท และผูกพันงบประมาณปี 2557 จำนวน 200 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างที่ปรึกษาดำเนินการสำรวจ ออกแบบรายละเอียดทางวิศวกรรม และจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EID) โครงการก่อสร้างทางรถไฟสายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม และได้ดำเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวิธีคัดเลือก ประกอบด้วย 4 บริษัท โดยมีบริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาหลัก ( Leader Firm) ร่วมกับอีก 3 บริษัท คือ บริษัท โชติจินดา มูเชล คอนซัลแตนท์ จำกัด บริษัท พีบี เอเชีย จำกัด และบริษัท พรี ดีเวลลอปเมนท์ คอนซัลแตนท์ จำกัด รวมระยะเวลาในการดำเนินงานของคณะที่ปรึกษา 15 เดือน วงเงินจ้าง 199.020 ล้านบาท
สำหรับเส้นทางรถไฟสายใหม่นี้ นอกจากจะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว ยังเป็นการเชื่อมต่อระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนด้วย เช่น เมียนมาร์ ลาว เวียดนาม และจีนอีกด้วย
ภาณุวัชร คนเชี่ยว / ข่าว- ส.ปชส.มค.
จังหวัดมุกดาหารประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม ๘๑ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
วันนี้ (๑ สิงหาคม ๒๕๕๖) ห้องประชุม ๒๐๓ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร นายสรสิทธิ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานการประชุมเตรียมการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๑ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ พร้อมกับมอบหมายภารกิจหน้าที่ให้กับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการจัดการงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ และเป็นโอกาสมหามงคลพิเศษยิ่งที่พี่น้องประชาชนจังหวัดมุกดาหารได้ร่วมแสดงความกตัญญูกตเวที น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดี ถวายเป็นราชสักการะเนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๑ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติม ขอเชิญ ข้าราชการ องค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์กรภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทุกหมู่เหล่าของจังหวัดมุกดาหารร่วมพิธี ในวันจันทร์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ (ช่วงเช้า)พิธีทำบุญตักบาตรเป็นพระราชกุศล เวลา (๐๖.๓๐ น.)ณ บริเวณหน้าศาลหลักเมืองจังหวัดมุกดาหาร เวลา (๐๘.๓๐ น.) พิธีลงนามถวายพระพร พิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ ณ หอประชุมโรงเรียนมุกดาหาร (ช่วงเย็น)เวลา ๑๗.๐๐ น.พิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ หอประชุมโรงเรียนมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติม ขอเชิญ ข้าราชการ องค์กรส่วนปกครองท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ องค์กรภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษาและประชาชนทุกหมู่เหล่าของจังหวัดมุกดาหารร่วมพิธี ในวันจันทร์ที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ (ช่วงเช้า)พิธีทำบุญตักบาตรเป็นพระราชกุศล เวลา (๐๖.๓๐ น.)ณ บริเวณหน้าศาลหลักเมืองจังหวัดมุกดาหาร เวลา (๐๘.๓๐ น.) พิธีลงนามถวายพระพร พิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ ณ หอประชุมโรงเรียนมุกดาหาร (ช่วงเย็น)เวลา ๑๗.๐๐ น.พิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ หอประชุมโรงเรียนมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร
สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ
จังหวัดมุกดาหาร เตือนภัย “ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม” ๒ – ๕ สิงหาคม ๒๕๕๖
นายสรสิทธิ์ ฤทธิ์สรไกร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จังหวัดมุกดาหารได้รับแจ้งจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้ติดตามตรวจสอบสถานการณ์และสภาวะอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์สภาวะอากาศช่วงระหว่างวันที่ ๒ –๕ สิงหาคม ๒๕๕๖ ว่า พายุในทะเลจีนใต้มีแนวโน้นเพิ่มกำลังแรงขึ้นและเคลื่อนขึ้นฝั่งที่ตอนบนของประเทศเวียดนาม อ่อนกำลังลงก่อนเข้าปกคลุมตอนบนของประเทศลาวและประเทศไทยตามลำดับ ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนตากชุกเพิ่มขึ้น โดยจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ที่ผ่านมาบริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุมมากแล้ว หลายพื้นที่ชุ่มน้ำ บางพื้นที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยถ้ามีฝนตกหนักต่อเนื่องเพิ่มขึ้นในพื้นที่เสี่ยงภัยจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงระยะนี้ได้
รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพบเห็นสาธารณภัยอันเกิดจากสภาวะอากาศดังกล่าว ขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วน ให้แจ้งผู้บริหารเทศบาลหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกิดภัย ตำรวจที่สายด่วน ๑๙๑ , บาดเจ็บฉุกเฉินสายด่วน ๑๖๖๙ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด โทร.๐๔๒-๖๓๓๑๐๑ , ๐๔๒-๖๑๕๓๘๓ , ๐๔๒-๖๑๒๒๔๓ หรือที่สายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า หากพบเห็นสาธารณภัยอันเกิดจากสภาวะอากาศดังกล่าว ขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วน ให้แจ้งผู้บริหารเทศบาลหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกิดภัย ตำรวจที่สายด่วน ๑๙๑ , บาดเจ็บฉุกเฉินสายด่วน ๑๖๖๙ และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด โทร.๐๔๒-๖๓๓๑๐๑ , ๐๔๒-๖๑๕๓๘๓ , ๐๔๒-๖๑๒๒๔๓ หรือที่สายด่วนสาธารณภัย ๑๗๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต ๒ สัมมนาครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วันนี้ ( ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖) ณ โรงแรมมุกดาหารแกรนด์ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ดร.โกวิท เพลินจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต ๒ เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา ครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของเครือข่ายสถานศึกษา เครือข่ายที่ ๑๙ หนองผือ การประชุมสัมมนามีครูและบุคลากรทางการศึกษา เข้าร่วมอบรม จำนวน ๑๙๓ คน จากโรงเรียน ๑๕ โรงเรียนในเครือข่ายที่ ๑๙ หนองผือ มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของครูและบุคลากรทางการศึกษาในเครือข่าย ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล มีความรู้เกี่ยวกับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ Coaching and mentoringเพื่อพัฒนาและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนในเครือข่ายหนองผือให้สูงขึ้นทุกระดับ และเพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ความเชื่อมั่น ความสามัคคีในการปฏิบัติงานของครูและบุคคลากรทางการศึกษา
สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท ส.ปชส.มุกดาหาร/ภาพ
จังหวัดยโสธรประชุมสัมมนาให้ความรู้งานคุ้มครองผู้บริโภคและแนวทางการปฏิบัติงานคุ้มครองผู้บริโภค
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม 2556 ณ ห้องทับทิม AB โรงแรม เจ.พี.เอ็มเมอรัลด์ จังหวัดยโสธร นายชัยภัทร หิรัณยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนาฯ ให้ความรู้งานคุ้มครองผู้บริโภคและแนวทางการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ศูนย์อำนวยความเป็นธรรมอำเภอ ผู้ประกอบการเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน และเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคประจำสถานศึกษา
ในการจัดประชุมสัมมนาในครั้งนี้ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เล็งเห็นความสำคัญในปัญหาของผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการ และผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย และส่วนที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จึงได้มอบหมายให้ สำนักงานเลขานุการคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดยโสธร จัดการประชุมสัมมนาเพื่อให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติงาน การคุ้มครองผู้บริโภคให้แก่ ผู้ปฏิบัติงานประจำศูนย์อำนวยความเป็นธรรมอำเภอ ทำหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์และเจรจาไกล่เกลี่ยให้ได้ข้อยุติ นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล ให้มีอำนาจหน้าที่ในการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค รวมทั้งดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคในเขตพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม ตลอดจนผู้ประกอบการได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภค ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2541 รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ และเจรจาไกล่เกลี่ยให้กับเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศูนย์อำนวยความเป็นธรรมอำเภอ ที่ปฏิบัติงานคุ้มครองผู้บริโภค เจ้าหน้าที่สามารถนำความรู้ความเข้าใจ ไปปฏิบัติหน้าที่ในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ และเจรจาไกล่เกลี่ยได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม และเพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคในพื้นที่ ได้รับการคุ้มครองสิทธิที่พึงมีตามกฎหมายอย่างแท้จริง รวมทั้ง ผู้ประกอบธุรกิจได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการคุ้มครองผู้บริโภค และมีคุณธรรมจริยธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
การประชุมสัมมนาในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนา จำนวน 120 คน นับว่าเป็นภารกิจสำคัญที่ผู้เข้าร่วมสัมมนา จะได้นำความรู้ความเข้าใจกลับไปปฏิบัติงานคุ้มครองผู้บริโภค อันจะส่งผลให้การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคในเขตพื้นที่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม
ในการจัดประชุมสัมมนาในครั้งนี้ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เล็งเห็นความสำคัญในปัญหาของผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้าและบริการ และผู้ประกอบการที่ยังไม่ได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย และส่วนที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ จึงได้มอบหมายให้ สำนักงานเลขานุการคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดยโสธร จัดการประชุมสัมมนาเพื่อให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติงาน การคุ้มครองผู้บริโภคให้แก่ ผู้ปฏิบัติงานประจำศูนย์อำนวยความเป็นธรรมอำเภอ ทำหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์และเจรจาไกล่เกลี่ยให้ได้ข้อยุติ นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล ให้มีอำนาจหน้าที่ในการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค รวมทั้งดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคในเขตพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม ตลอดจนผู้ประกอบการได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภค ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2541 รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ และเจรจาไกล่เกลี่ยให้กับเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และศูนย์อำนวยความเป็นธรรมอำเภอ ที่ปฏิบัติงานคุ้มครองผู้บริโภค เจ้าหน้าที่สามารถนำความรู้ความเข้าใจ ไปปฏิบัติหน้าที่ในการรับเรื่องราวร้องทุกข์ และเจรจาไกล่เกลี่ยได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม และเพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคในพื้นที่ ได้รับการคุ้มครองสิทธิที่พึงมีตามกฎหมายอย่างแท้จริง รวมทั้ง ผู้ประกอบธุรกิจได้ตระหนักถึงความสำคัญ ของการคุ้มครองผู้บริโภค และมีคุณธรรมจริยธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม
การประชุมสัมมนาในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนา จำนวน 120 คน นับว่าเป็นภารกิจสำคัญที่ผู้เข้าร่วมสัมมนา จะได้นำความรู้ความเข้าใจกลับไปปฏิบัติงานคุ้มครองผู้บริโภค อันจะส่งผลให้การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคในเขตพื้นที่ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และเป็นรูปธรรม
ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 1 สิงหาคม 2556
ร้อยเอ็ด จัดงานวันแม่แห่งชาติและวันสตรีไทย ปี 2556
จังหวัดร้อยเอ็ด โดยคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมกับ คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ได้จัดงานวันแม่แห่งชาติและวันสตรีไทย ประจำปี 2556 ณ หอประชุมอำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 1 สิงหาคม 2556 นายพศิน โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงานวันแม่แห่งชาติและวันสตรีไทย ประจำปี 2556 โดยการดำเนินงานของ คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด นางสมปอง ว่องสัธนพงษ์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา 12 สิงหามหาราชินี เป็นวันมหามิ่งมงคลเพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเนื่องในวันที่ 1 สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันสำคัญยิ่งอีกวันหนึ่งของชาติ โดยรัฐบาลได้กำหนดให้ เป็นวันสตรีไทย เพื่อจะได้ทำการยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีไทย และรำลึกถึงคุณงามความดี ของสตรีไทยที่มีต่อประเทศชาติ รวมทั้งเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานับปการ ต่ออาณาประชาราษฎร์ ประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการพระราชทานโครงการศิลปาชีพ พระราชกรณียกิจด้านบทบาทสตรี และพระราชจริยวัตรอันงดงาม ในฐานะแม่ของแผ่นดิน ที่บรรดาพสกนิกรต่างแซ่ซ้อง สรรเสริญ เทิดพระนามเป็น "พระแม่” พระมิ่งขวัญ ล้นเกล้าชาวไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปี พ.ศ. 2556, ยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีที่ประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีของครอบครัว ชุมชน และองค์กรสตรี และ เพื่อเป็นการสร้างพลังความสามัคคี และความเข้มแข็งขององค์กรสตรี รวมถึงการส่งเสริม สนับสนุนและดูแลเด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาสในการศึกษา
นายพศิน โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ภายในเดือนสิงหาคม ของทุกปี เป็นเดือนมหามิ่งมลคล เนื่องในวโรกาสเดือนเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และถือเป็นวันแม่แห่งชาติ ซึ่งเป็นศูนย์รวมแห่งดวงใจของชาวไทยทั้งชาติ และพสกนิกรทุกหมู่เหล่าได้พร้อมใจระลึกถึงพระคุณแม่ จึงเป็นเรื่องที่ดีที่คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ได้จัดงานวันแม่แห่งชาติและวันสตรีไทย ประจำปี 2556 ขึ้น เพราะเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติ, ได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเนื่องในวันที่ 1 สิงหาคม ของทุกปี ถือเป็นวันสตรีไทย เป็นโอกาสที่จะได้ทำการยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีไทย และรำลึกถึงคุณงามความดีของสตรีไทยที่มีต่อประเทศชาติ
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย ช่วงเช้า เวลา 08.00 น. ร่วมเดินเทิดพระเกียรติ เริ่มต้นจาก ปรูสาเกตนครหน้าบึงพลาญชัยการ จนถึง หอประชุมอำเภอเมืองร้อยเอ็ด พิธีมอบโล่แก่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด, การมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน เรียนดี จาก 20 อำเภอๆ ละ 2 คน จำนวน 40 ทุน และการมอบประกาศเกียรติคุณแม่ดีเด่นจังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2556 จำนวน 20 คน และแม่ดีเด่นอำเภอเมืองร้อยเอ็ด จำนวน 221 คน กลุ่มสตรีร้อยเอ็ดร่วมกิจกรรม กว่า 1,500 คน
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 1 สิงหาคม 2556 นายพศิน โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดงานวันแม่แห่งชาติและวันสตรีไทย ประจำปี 2556 โดยการดำเนินงานของ คณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด นางสมปอง ว่องสัธนพงษ์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา 12 สิงหามหาราชินี เป็นวันมหามิ่งมงคลเพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเนื่องในวันที่ 1 สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันสำคัญยิ่งอีกวันหนึ่งของชาติ โดยรัฐบาลได้กำหนดให้ เป็นวันสตรีไทย เพื่อจะได้ทำการยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีไทย และรำลึกถึงคุณงามความดี ของสตรีไทยที่มีต่อประเทศชาติ รวมทั้งเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงมีพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานับปการ ต่ออาณาประชาราษฎร์ ประเทศชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการพระราชทานโครงการศิลปาชีพ พระราชกรณียกิจด้านบทบาทสตรี และพระราชจริยวัตรอันงดงาม ในฐานะแม่ของแผ่นดิน ที่บรรดาพสกนิกรต่างแซ่ซ้อง สรรเสริญ เทิดพระนามเป็น "พระแม่” พระมิ่งขวัญ ล้นเกล้าชาวไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ประจำปี พ.ศ. 2556, ยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีที่ประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีของครอบครัว ชุมชน และองค์กรสตรี และ เพื่อเป็นการสร้างพลังความสามัคคี และความเข้มแข็งขององค์กรสตรี รวมถึงการส่งเสริม สนับสนุนและดูแลเด็กนักเรียนที่ด้อยโอกาสในการศึกษา
นายพศิน โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า ภายในเดือนสิงหาคม ของทุกปี เป็นเดือนมหามิ่งมลคล เนื่องในวโรกาสเดือนเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และถือเป็นวันแม่แห่งชาติ ซึ่งเป็นศูนย์รวมแห่งดวงใจของชาวไทยทั้งชาติ และพสกนิกรทุกหมู่เหล่าได้พร้อมใจระลึกถึงพระคุณแม่ จึงเป็นเรื่องที่ดีที่คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอเมืองร้อยเอ็ด ได้จัดงานวันแม่แห่งชาติและวันสตรีไทย ประจำปี 2556 ขึ้น เพราะเป็นกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติ, ได้แสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และเนื่องในวันที่ 1 สิงหาคม ของทุกปี ถือเป็นวันสตรีไทย เป็นโอกาสที่จะได้ทำการยกย่องเชิดชูเกียรติสตรีไทย และรำลึกถึงคุณงามความดีของสตรีไทยที่มีต่อประเทศชาติ
กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย ช่วงเช้า เวลา 08.00 น. ร่วมเดินเทิดพระเกียรติ เริ่มต้นจาก ปรูสาเกตนครหน้าบึงพลาญชัยการ จนถึง หอประชุมอำเภอเมืองร้อยเอ็ด พิธีมอบโล่แก่คณะกรรมการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดร้อยเอ็ด, การมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียน เรียนดี จาก 20 อำเภอๆ ละ 2 คน จำนวน 40 ทุน และการมอบประกาศเกียรติคุณแม่ดีเด่นจังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปี 2556 จำนวน 20 คน และแม่ดีเด่นอำเภอเมืองร้อยเอ็ด จำนวน 221 คน กลุ่มสตรีร้อยเอ็ดร่วมกิจกรรม กว่า 1,500 คน
คมกฤช พวงศรีเคน ข่าว/ภาพ
กมลพร คำนึง บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
1 ส.ค. 56
สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดร้อยเอ็ด
นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด
เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด
ได้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประจำจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวนสองเท่าที่จะพึงมีในจังหวัดเรียบร้อยแล้ว
ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด
ได้ประกาศรายชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อฯ เรียงตามลำดับตัวอักษร ได้แก่
- นายเจษฏร มาศเกษม
- จ่าสิบตำรวจ ธำรง พุทธมอญ
- นายนพพร จันทรถง
- นายประธูป
พิษณุแสง
- นายไพศาล กัญญาคำ
- นายไพศาล จอมคำสิงห์
- พันตำรวจเอก วัชรินทร์
ชาวงศกร
- นายศักดิ์ชัย กาญจนะวรรณ
- นายสมเกียรติ พื้นแสน
- นายสมเกียรติ
รัตนเมธร
จึงแจ้งให้ประชาชนทั่วไปทราบโดยทั่วกันต่อไป
วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.
ข่าว 1 ส.ค. 56
จังหวัดสระแก้วจัดสัมมนาจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดครั้งที่ 3
ณ โรงแรมอินโดจีน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ปลัดจังหวัดสระแก้วเป็นประธานเปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัด ฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สมุทรปราการ และ จังหวัดสระแก้ว ครั้งที่ 3 โดยนายศักดิ์ชัย ประโยชน์วนิช ผู้เชี่ยวชาญด้านผังเมือง กล่าวรายงาน การจัดโครการสัมมนาทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว 5 จังหวัดโดยได้ร่วมกับกับท่องเที่ยวและกีฬา โยธาธิการ และ ผังเมือง และ กลุ่มยุทธศาสตร์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา และ ประชาชน ได้ระดมความคิด เห็นจากองค์กรต่างๆ เพื่อให้ทราบประเด็นปัญหา ความต้องการ รวมถึงศักยภาพ และ แนวทางการที่จะพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานอำนวยความสะดวก ในการรองรับการพัฒนาการท่องเที่ยว กลุ่ม (เบญจบูรพาสุวรรณภูมิ) 5จังหวัด และ จะนำไปประมวลผล ปรับปรุงแผนโครงสร้าง ในแต่ละด้าน เพื่อให้แผนแม่บทสามารถนำมาใช้เป็นแนวทางการขับเคลื่อนกลุ่มจังหวัด(เบญจบูรพาสุวรรณภูมิ)ได้ อย่างเป็นรูปธรรม และ มีประสิทธิภาพ
สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอำนาจเจริญออกเยี่ยมและมอบสิ่งของให้แก่ผู้ป่วยประกันสังคม
วันนี้ (1 ส.ค. 56) เวลา 09.45 น. นายวิฑูรย์ ศิริบูลย์ภักดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานมอบสิ่งของและเยี่ยมผู้ป่วยประกันสังคม ที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ โดยมีผู้ป่วยประกันสังคมที่เข้ารับการรักษาพยาบาลรวมทั้งกรณีคลอดบุตร ในโรงพยาบาลอำนาจเจริญ จำนวน 17 ราย
นางสาววิลาวัณย์ หวังสถิตย์วงษ์ ประกันสังคมจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอำนาจเจริญ ได้กำหนดให้มีการดำเนินงานประกันสังคมเยี่ยมผู้ป่วยประกันสังคม ประจำปี 2556 โดยออกเยี่ยมผู้ป่วยประกันสังคม ณ สถานพยาบาลในโอกาสสำคัญต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยมีความรู้สึกอบอุ่นใจและมีความรู้สึกที่ดีต่อระบบประกันสังคม และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2556 ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้กำหนดออกเยี่ยมผู้ป่วยประกันสังคม ที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ
นางสาววิลาวัณย์ หวังสถิตย์วงษ์ ประกันสังคมจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอำนาจเจริญ ได้กำหนดให้มีการดำเนินงานประกันสังคมเยี่ยมผู้ป่วยประกันสังคม ประจำปี 2556 โดยออกเยี่ยมผู้ป่วยประกันสังคม ณ สถานพยาบาลในโอกาสสำคัญต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกันตนที่เจ็บป่วยมีความรู้สึกอบอุ่นใจและมีความรู้สึกที่ดีต่อระบบประกันสังคม และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 81 พรรษา 12 สิงหาคม 2556 ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอำนาจเจริญ จึงได้กำหนดออกเยี่ยมผู้ป่วยประกันสังคม ที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ
ประกาศิต สุวะทอง/ข่าว/ภาพ
ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพทางด้านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ปีงบประมาณ 2556
วันนี้ (1 ส.ค. 56) เวลา 09.30 น. ที่ห้องประชุมโรงแรมฝ้ายขิดอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ นายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการเสริมสร้างศักยภาพทางด้านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ปีงบประมาณ 2556 ในหัวข้อ "รู้เขา รู้เรา เพื่อเพิ่มศักยภาพการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน”
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพทางด้านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ปีงบประมาณ 2556 ประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ 1) การจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ กฎระเบียบ การค้า การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน 2) การส่งเสริมตลาดนัดการค้าชายแดนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการค้า สนับสนุนการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน
สำนักงานฯ ได้ดำเนินโครงการในกิจกรรมที่ 1 และ 2 แล้ว ทีอำเภอชานุมาน โดยได้จัดอบรม "การเตรียมความพร้อมและพัฒนาการค้าชายแดนสู่ AEC” ในวันที่ 22 มีนาคม 2556 มีผู้เข้าร่วมอบรมสัมมนา จำนวน 100 คน และต่อมาได้จัดงาน "ตลาดนัดชายแดนและงานเทศกาลเที่ยวชานุมาน 2556” ร่วมกับอำเภอชานุมาน ในวันที่ 9-12 เมษายน 2556 ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ และจาก สปป.ลาว เดินทางมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัดและเที่ยวชมกิจกรรมต่างๆ จำนวนมาก และเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาศักยภาพการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) สำนักงานฯ จึงได้จัดอบรมสัมมนาตามโครงการข้างต้น ในกิจกรรมที่ 1 ขึ้นอีก 1 ครั้ง ในวันนี้ ภายใต้หัวข้อ "รู้เขา รู้เรา เพื่อเพิ่มศักยภาพการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน”วัตถุประสงค์ เพื่อ เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการค้าชายแดนตลอดจนกฎระเบียบที่ควรรู้ของประเทศเพื่อนบ้าน แก่ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประมาณ 130 คน โดยได้เชิญนายรัศม์ ชาลีจันทร์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต และนายชวลิต องควานิช ประธานกรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี เป็นวิทยากรบรรยายในการอบรมครั้งนี้ด้วย
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดอำนาจเจริญ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำเนินโครงการเสริมสร้างศักยภาพทางด้านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ปีงบประมาณ 2556 ประกอบด้วย 2 กิจกรรม คือ 1) การจัดอบรมถ่ายทอดความรู้ กฎระเบียบ การค้า การลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้าน 2) การส่งเสริมตลาดนัดการค้าชายแดนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการค้า สนับสนุนการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน
สำนักงานฯ ได้ดำเนินโครงการในกิจกรรมที่ 1 และ 2 แล้ว ทีอำเภอชานุมาน โดยได้จัดอบรม "การเตรียมความพร้อมและพัฒนาการค้าชายแดนสู่ AEC” ในวันที่ 22 มีนาคม 2556 มีผู้เข้าร่วมอบรมสัมมนา จำนวน 100 คน และต่อมาได้จัดงาน "ตลาดนัดชายแดนและงานเทศกาลเที่ยวชานุมาน 2556” ร่วมกับอำเภอชานุมาน ในวันที่ 9-12 เมษายน 2556 ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ และจาก สปป.ลาว เดินทางมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคราคาประหยัดและเที่ยวชมกิจกรรมต่างๆ จำนวนมาก และเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาศักยภาพการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) สำนักงานฯ จึงได้จัดอบรมสัมมนาตามโครงการข้างต้น ในกิจกรรมที่ 1 ขึ้นอีก 1 ครั้ง ในวันนี้ ภายใต้หัวข้อ "รู้เขา รู้เรา เพื่อเพิ่มศักยภาพการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน”วัตถุประสงค์ เพื่อ เสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการค้าชายแดนตลอดจนกฎระเบียบที่ควรรู้ของประเทศเพื่อนบ้าน แก่ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประมาณ 130 คน โดยได้เชิญนายรัศม์ ชาลีจันทร์ กงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต และนายชวลิต องควานิช ประธานกรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดอุบลราชธานี เป็นวิทยากรบรรยายในการอบรมครั้งนี้ด้วย
ประกาศิต สุวะทอง/ข่าว/ภาพ
ปภ.อุบลราชธานี เผยสถิติการเกิดอุบัติเหตุเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖
ปภ.อุบลราชธานี เผยสถิติการเกิดอุบัติเหตุเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖
อุบลราชธานี : ระหว่าง ๑ - ๒๕ ก.ค.๕๖ เกิดอุบัติเหตุ ๒๘ ครั้ง เสียชีวิต ๘ ราย เป็นชาย ๖ รายหญิง ๒ ราย บาดเจ็บรวม ๓๑ ราย มูลค่าความเสียหายกว่า ๓๒.๓๗ ล้านบาท โดยมีสาเหตุจากขับรถประมาทและขับเร็วกว่ากำหนด ขณะที่สถิติการจับกุม จำนวน ๔๑,๕๑๔ ราย ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ทั้งรถยนต์,รถจักรยานยนต์และไม่สวมหมวกนิรภัย ยังมีสถิติถูกจับสูงสุด
นายครรชิต คงสมของ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี แจ้งในที่แระชุมคณะกรมการักษาความสงบเรียบร้อยส่วนภูมิภาคจังหวัดอุบลราชธานี ประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ ที่ห้องประชุมฟองจันทร์ ชั้น ๔ อาคาร PRESIDENT มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น อ.เมืองอุบลราชธานี เมื่อวันที่ ๓๐ ก.ค.๕๖ ที่ผ่านมา ถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ช่วงวันที่ ๑-๒๕ ก.ค.๕๖ ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ๒๘ ครั้ง มีผู้เสียชีวิต ๘ ราย เป็นชาย ๖ ราย หญิง ๒ ราย มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น ๓๑ ราย เป็นชาย ๒๑ รายและหญิง ๑๐ ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายผู้เสียชีวิต (ตามแนวทางของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนรายละ ๔ ล้านบาท) จำนวน 32 ล้านบาทและทรัพย์สินเสียหายเป็นมูลค่า ๓๗๒,๗๐๐. บาท โดยสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมาจากการขับรถประสาท ๑๗ ครั้ง ขับรถเร็วเกินกำหนด ๘ ครั้งและขับรถผิดช่องการจราจร ๓ ครั้ง
ส่วนผลการจับกุมตามแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน มีผู้ถูกจับกุมในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย ๑๑,๓๐ คน, ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ รถจักรยานยนต์ จำนวน ๑๐,๖๓๓ คนรถยนต์ จำนวน ๓,๖๙๘ คน, แซงรถในที่คับขัน จำนวน ๑,๐๓๓ คน, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จำนวน ๓,๔๓๔ คน, ขับรถเร็วเกินกำหนด จำนวน ๑,๒๖๒ คน, ดัดแปลงสภาพรถ จำนวน ๗,๗๔๕ คน, ขับรถย้อนศร จำนวน ๑,๙๒๖ คนและเมาสุรา จำนวน ๔๕๓ คน รวมมีผู้ถูกจับกุม ทั้งสิ้น ๔๑,๕๑๔ คน พร้อมนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน จากทุกหน่วยงานยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในทุกพื้นที่อย่างเข้มงวดต่อไป
อุบลราชธานี : ระหว่าง ๑ - ๒๕ ก.ค.๕๖ เกิดอุบัติเหตุ ๒๘ ครั้ง เสียชีวิต ๘ ราย เป็นชาย ๖ รายหญิง ๒ ราย บาดเจ็บรวม ๓๑ ราย มูลค่าความเสียหายกว่า ๓๒.๓๗ ล้านบาท โดยมีสาเหตุจากขับรถประมาทและขับเร็วกว่ากำหนด ขณะที่สถิติการจับกุม จำนวน ๔๑,๕๑๔ ราย ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ทั้งรถยนต์,รถจักรยานยนต์และไม่สวมหมวกนิรภัย ยังมีสถิติถูกจับสูงสุด
นายครรชิต คงสมของ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุบลราชธานี แจ้งในที่แระชุมคณะกรมการักษาความสงบเรียบร้อยส่วนภูมิภาคจังหวัดอุบลราชธานี ประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๖ ที่ห้องประชุมฟองจันทร์ ชั้น ๔ อาคาร PRESIDENT มหาวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลยีอีสเทิร์น อ.เมืองอุบลราชธานี เมื่อวันที่ ๓๐ ก.ค.๕๖ ที่ผ่านมา ถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ช่วงวันที่ ๑-๒๕ ก.ค.๕๖ ว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ๒๘ ครั้ง มีผู้เสียชีวิต ๘ ราย เป็นชาย ๖ ราย หญิง ๒ ราย มีผู้บาดเจ็บทั้งสิ้น ๓๑ ราย เป็นชาย ๒๑ รายและหญิง ๑๐ ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายผู้เสียชีวิต (ตามแนวทางของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนรายละ ๔ ล้านบาท) จำนวน 32 ล้านบาทและทรัพย์สินเสียหายเป็นมูลค่า ๓๗๒,๗๐๐. บาท โดยสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมาจากการขับรถประสาท ๑๗ ครั้ง ขับรถเร็วเกินกำหนด ๘ ครั้งและขับรถผิดช่องการจราจร ๓ ครั้ง
ส่วนผลการจับกุมตามแผนปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน มีผู้ถูกจับกุมในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย ๑๑,๓๐ คน, ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ รถจักรยานยนต์ จำนวน ๑๐,๖๓๓ คนรถยนต์ จำนวน ๓,๖๙๘ คน, แซงรถในที่คับขัน จำนวน ๑,๐๓๓ คน, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย จำนวน ๓,๔๓๔ คน, ขับรถเร็วเกินกำหนด จำนวน ๑,๒๖๒ คน, ดัดแปลงสภาพรถ จำนวน ๗,๗๔๕ คน, ขับรถย้อนศร จำนวน ๑,๙๒๖ คนและเมาสุรา จำนวน ๔๕๓ คน รวมมีผู้ถูกจับกุม ทั้งสิ้น ๔๑,๕๑๔ คน พร้อมนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน จากทุกหน่วยงานยังคงปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุทางถนนในทุกพื้นที่อย่างเข้มงวดต่อไป
พงษ์สถิตย์ อรอินทร์ ส.ปชส.อุบลราชธานี
๐๘๑ – ๙๒๔ ๘๖๐๙ /ข่าว/ ๑ ส.ค.๕๖
ที่ห้องประชุม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี
ที่ห้องประชุม สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมประชุมหารือกับหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ จากปริมาณน้ำฝน และจากพายุดีเปรสชั่น ทำให้เกิดมีฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเน้นย้ำว่า ฝากเตือนประชาชนที่มีบ้านพักอาศัย อยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำ มูล แม่น้ำชี ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทางจังหวัดจะได้หาแนวทางในการดำเนินการแก้ไขช่วยเหลือได้ทันที
ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวเน้นย้ำว่า ฝากเตือนประชาชนที่มีบ้านพักอาศัย อยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำ มูล แม่น้ำชี ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ทางจังหวัดจะได้หาแนวทางในการดำเนินการแก้ไขช่วยเหลือได้ทันที
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ทำอย่างไร ผ้าทอพื้นเมืองและเครื่องแต่งกายผ่านเกณฑ์ มผช. เพื่อ พัฒนาผู้ผลิตชุมชนผ้าทอพื้นเมือง และ เครื่องแต่งกาย ในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง
ที่ โรงแรมลายทอง จังหวัดอุบลราชธานี นายอุฤทธิ์ ศรีหนองโคตร เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง ทำอย่างไร ผ้าทอพื้นเมืองและเครื่องแต่งกายผ่านเกณฑ์ มผช. โดย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม จัดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่า ผลิตภัณฑ์ผ้าและเครื่องแต่งกายส่วนใหญ่ไม่ผ่านเกณฑ์กำหนด ของ มผช. ในรายการความเป็นกรด ด่าง สีเอโซ ความคงทนต่อการซัก การขัดถู เหงื่อ และ การเย็บ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการให้ผู้ผลิตผ้าทอมือ มีความรู้ความเข้าใจ และ สามารถนำไปแก้ไขปรับปรุง พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งจะเป็นการยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น สามารถนำผ้าทอพื้นเมืองไปต่อยอด และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ อันจะนำไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์ชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป สำหรับหารอบรมในครั้งนี้ มี ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ มาเป็นวิทยากรในการอธิบายปัญหา และ วิธีการแก้ไขปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมือง และ เครื่องแต่งกายในการายการที่ไม่ผ่านเกณฑ์กำหนดในมาตรฐาน โดยมี ผู้เข้าร่วมอบรม ประกอบด้วย ผู้ผลิตผ้าทอพื้นเมือง ในพื้นที่ จังหวัดอุบลราชธานี มุกดาหาร ยโสธร ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และ บุรีรัมย์ จำนวน 400 คน
ขนส่งกาฬสินธุ์ จะจัดอบรมเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถวันที่ 24-26 กันยายน 2556
นางวิไลลักษณ์ ศรีวณิชชากร ขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เปิดเผยว่า สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ กำหนดดำเนินการอบรมเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถ ได้แก่ ผู้ขับรถ ผู้เก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และผู้บริการ ประจำเดือนกันยายน 2556 ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2556 จึงขอแจ้งให้ผู้ที่ประสงค์จะเข้ารับการอบรมเพื่อขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประจำรถตาม พ.ร.บ.การขนส่งทางบก สามารถยื่นหลักฐานการสมัครได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน, ใบรับรองแพทย์, รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว 4 รูป (ใส่เสื้อเชิ้ตสีสุภาพ ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นกันแดด) ส่วนผู้ที่ประสงค์จะรับใบอนุญาตขับรถแบบพลาสติกไม่ต้องใช้รูปถ่ายในวันสมัครเข้ารับการอบรม ได้ที่ฝ่ายใบอนุญาตขับรถ สำนักงานขนส่งจังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนวันที่ 24 กันยายน 2556 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 043-821704 ต่อ 14 ในวัน เวลาราชการ
ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว
จ.กาฬสินธุ์สำรวจสำนักสงฆ์ ที่ใช้พื้นที่ป่าเป็นที่ตั้งหรือทำกิจกรรม ยื่นแบบก่อน 27 กันยายน 2556 นี้
นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า อธิบดีกรมป่าไม้ ได้มีประกาศกรมป่าไม้ เรื่อง การสำรวจที่พักสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ โดยร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2538 และโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการเข้าไปอยู่อาศัยหรือใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ของที่พักสงฆ์ โดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย รวมถึงการหาแนวทางที่เหมาะสมในการส่งเสริมให้สถาบันศาสนามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากปัจจุบันยังคงปรากฏว่ามีการตั้งที่พักสงฆ์ขึ้นในพื้นที่ป่าไม้เพิ่มขึ้นตลอด ก่อให้เกิดปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และความขัดแย้งในการครอบครองที่ดินระหว่างพระสงฆ์และชุมชนในพื้นที่ และไม่สอดคล้องกับแนวทางการจัดตั้งที่พักสงฆ์ซึ่งต้องได้รับการอนุญาตจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
ทั้งนี้ กรมป่าไม้ได้มีประกาศ เรื่อง การสำรวจที่พักสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2556 ให้พระสงฆ์หรือประธานที่พักสงฆ์ที่ตั้งที่พักสงฆ์อยู่ในพื้นที่ป่าไม้ ที่ยังไม่มีมติจำแนกประเภทการดำเนินการตามแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ของคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ระดับจังหวัด และไม่มีหนังสือสำคัญแสดงการเข้าร่วมโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ เพื่อจะได้รวบรวมเป็นข้อมูลและประสานการดำเนินงานแก้ไขปัญหากับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งอีกว่า สำนักสงฆ์ หรือประธานที่พักสงฆ์ ที่ใช้พื้นที่ป่าเป็นที่ตั้งหรือทำกิจกรรม ต้องยื่นแบบรายงานที่พักสงฆ์ที่อยู่ในพื้นที่ป่าไม้ โดยขอรับแบบฟอร์มได้ที่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ สอบถามเพิ่มเติมโทร 0 4381 1778 หรือที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 27 กันยายน 2556 นี้ หากพ้นกำหนด ที่พักสงฆ์ใดไม่ยื่นแบบรายงานและไม่ปรากฏชื่อ ที่พักสงฆ์ ในระบบฐานข้อมูลของกรมป่าไม้ กรมป่าไม้จะไม่อนุญาตให้มีการดำเนินกิจกรรมสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ต่อไป
ทั้งนี้ กรมป่าไม้ได้มีประกาศ เรื่อง การสำรวจที่พักสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2556 ให้พระสงฆ์หรือประธานที่พักสงฆ์ที่ตั้งที่พักสงฆ์อยู่ในพื้นที่ป่าไม้ ที่ยังไม่มีมติจำแนกประเภทการดำเนินการตามแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ของคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ระดับจังหวัด และไม่มีหนังสือสำคัญแสดงการเข้าร่วมโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ร่วมกับพระสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ เพื่อจะได้รวบรวมเป็นข้อมูลและประสานการดำเนินงานแก้ไขปัญหากับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งอีกว่า สำนักสงฆ์ หรือประธานที่พักสงฆ์ ที่ใช้พื้นที่ป่าเป็นที่ตั้งหรือทำกิจกรรม ต้องยื่นแบบรายงานที่พักสงฆ์ที่อยู่ในพื้นที่ป่าไม้ โดยขอรับแบบฟอร์มได้ที่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกาฬสินธุ์ สอบถามเพิ่มเติมโทร 0 4381 1778 หรือที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 27 กันยายน 2556 นี้ หากพ้นกำหนด ที่พักสงฆ์ใดไม่ยื่นแบบรายงานและไม่ปรากฏชื่อ ที่พักสงฆ์ ในระบบฐานข้อมูลของกรมป่าไม้ กรมป่าไม้จะไม่อนุญาตให้มีการดำเนินกิจกรรมสงฆ์ในพื้นที่ป่าไม้ ต่อไป
สุวรรณ ศรีอาภรณ์ / ข่าว
วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ขอเชิญร่วมปฏิบัติเบญจศีล เบญจธรรมเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา
นายบัญญัติ แสวงดี วัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์แจ้งว่า สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ได้จัดทำโครงการรณรงค์การปฏิบัติเบญจศีล เบญจธรรม เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2556 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้เห็นถึงความสำคัญของการปฏิบัติเบญจศีล เบญจธรรม อันจะนำมาซึ่งความสุขของตนเองและสังคม ตามระเบียบวาระจังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์เมืองคนดี มีน้ำใจไม่ทิ้งกัน กาฬสินธุ์เมืองคนดี สุขภาพดี รายได้ดี สู่เมืองแห่งความสุข
จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าร่วมโครงการโดยแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการรณรงค์การปฏิบัติเบญจศีล เบญจธรรม เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2556ได้ที่กลุ่มงานส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 2 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0 4381 5806
จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์เข้าร่วมโครงการโดยแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการรณรงค์การปฏิบัติเบญจศีล เบญจธรรม เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2556ได้ที่กลุ่มงานส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ ศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ ชั้น 2 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0 4381 5806
สุวรรณ ศรีอาภรณ์ ข่าว
ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 100 นาย ร่วมบริจาคโลหิตเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันแม่แห่งชาติ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 100 นาย ร่วมบริจาคโลหิตกับเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2556 ได้โลหิต 35,000 ซีซี
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ที่ห้องประชุมชัยสุนทร ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นางเปียทิพย์ สมรส รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ แพทย์ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้ออกรับบริจาคโลหิตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2556วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2556 มีตำรวจร่วมบริจาคจำนวน 100 นาย ได้โลหิต 35,000 ซีซี
นางเปียทิพย์ สมรส รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การออกรับบริจาคโลหิตของเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็เพื่อเก็บสำรองเลือดเข้าธนาคารเลือดโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน อุบัติเหตุ สำหรับการออกรับบริจาคโลหิตครั้งต่อไปวันที่ 5 สิงหาคม ที่หอประชุมอำเภอร่องคำ, วันที่ ๖ สิงหาคม หอประชุมวิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์, วันที่ ๘ สิงหาคม ธนาคารธนชาต สาขากาฬสินธุ์, วันที่ ๙ สิงหาคม หอประชุมอำเภอเมืองฯ (กองร้อย อส.จ.) วันที่ ๑๓ สิงหาคม หอประชุมอำเภอห้วยผึ้ง, วันที่ ๑๕ สิงหาคม สำนักงานแขวงการทางกาฬสินธุ์} วันที่ ๒๐ สิงหาคม หอประชุมอำเภอยางตลาด, วันที่ ๒๒ สิงหาคม เทสโก้โลตัสกาฬสินธุ์, วันที่ ๒๖ สิงหาคม หอประชุมอำเภอห้วยเม็ก,วันที่ ๒๗ สิงหาคม บริษัท กาฬสินธุ์ ฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด จึงขอเชิญชวนข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไปร่วมบริจาคโลหิตได้ตามสถานที่ดังกล่าว หรือไปบริจาคได้ที่ธนาคารเลือดโรงพยาบาลกาฬสินธุ์
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ที่ห้องประชุมชัยสุนทร ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ นางเปียทิพย์ สมรส รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยคณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ แพทย์ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ได้ออกรับบริจาคโลหิตจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2556วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2556 มีตำรวจร่วมบริจาคจำนวน 100 นาย ได้โลหิต 35,000 ซีซี
นางเปียทิพย์ สมรส รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า การออกรับบริจาคโลหิตของเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็เพื่อเก็บสำรองเลือดเข้าธนาคารเลือดโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ไว้ช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน อุบัติเหตุ สำหรับการออกรับบริจาคโลหิตครั้งต่อไปวันที่ 5 สิงหาคม ที่หอประชุมอำเภอร่องคำ, วันที่ ๖ สิงหาคม หอประชุมวิทยาลัยเทคนิคกาฬสินธุ์, วันที่ ๘ สิงหาคม ธนาคารธนชาต สาขากาฬสินธุ์, วันที่ ๙ สิงหาคม หอประชุมอำเภอเมืองฯ (กองร้อย อส.จ.) วันที่ ๑๓ สิงหาคม หอประชุมอำเภอห้วยผึ้ง, วันที่ ๑๕ สิงหาคม สำนักงานแขวงการทางกาฬสินธุ์} วันที่ ๒๐ สิงหาคม หอประชุมอำเภอยางตลาด, วันที่ ๒๒ สิงหาคม เทสโก้โลตัสกาฬสินธุ์, วันที่ ๒๖ สิงหาคม หอประชุมอำเภอห้วยเม็ก,วันที่ ๒๗ สิงหาคม บริษัท กาฬสินธุ์ ฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด จึงขอเชิญชวนข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไปร่วมบริจาคโลหิตได้ตามสถานที่ดังกล่าว หรือไปบริจาคได้ที่ธนาคารเลือดโรงพยาบาลกาฬสินธุ์
ดวงใจ หงษ์จันทร์ / ข่าว
สคบ.กาฬสินธุ์เตือนระวังมิจฉาชีพตัดสัญญานรีโมทคอนโทรล ทำให้ประตูรถยนต์ไม่ล็อค
นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับแจ้งจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ว่าในช่วงที่ผ่านมามีเหตุการณ์ลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย บริเวณที่จอดรถของห้างสรรพสินค้าบ่อยครั้ง เพราะส่วนใหญ่ไม่มีการจัดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเฝ้าดูแล เพื่อเป็นการป้องกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดกาฬสินธุ์จึงขอแจ้งเตือนผู้บริโภคให้มีความระมัดระวังในการเข้าไปใช้บริการห้างสรรพสินค้า ให้นำรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ไปจอดบริเวณที่บริเวณที่จอดรถที่ผู้ประกอบการได้จัดเตรียมไว้สำหรับลูกค้าโดยเคร่งครัด เมื่อนำรถยนต์ไปจอดก่อนจะขึ้น หรือลงจากรถ ควรสังเกตบริเวณรอบตัวว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ และให้ตรวจสอบว่าได้ปิดกระจก และล็อคประตูทุกบานแล้ว และไม่ควรเก็บทรัพย์สินมีค่าไว้ในรถยนต์ หากมีความจำเป็นให้เก็บไว้ในที่มิดชิด สำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบล็อคด้วยรีโมทคอนโทรล ปัจจุบันมีกลุ่มมิจฉาชีพได้ใช้วิธีการตัดสัญญานรีโมททำให้ประตูรถยนต์ไม่ล็อค ดังนั้นเมื่อผู้บริโภคลงจากรถแล้วให้กดรีโมทปิดล็อค และลองเปิดประตูรถยนต์เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยอีกครั้ง
สุวรรณ ศรีอาภรณ์ / ข่าว
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)