วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

อุดรธานีเดินหน้าหมู่บ้านรักษาศีล 5 ปรองดองสมานฉันท์ถวายเป็นประราชกุศล

จังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ คณะสงฆ์ ลงนามความร่วมมือสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา "หมู่บ้านรักษาศีล 5 ” ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ

ที่ห้องประชุมสบายดี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานประชุมชี้แจงการดำเนินงานโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา "หมู่บ้านรักษาศีล 5” โดยมีพระเทพรัตนมุนี เจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมาวาส พระอารามหลวง นายวีระพงษ์ สารบรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอุดรธานี ส่วนราชการ หน่วยงานด้านการศึกษา องค์กรต่างๆ ร่วมประชุม ซึ่งภายหลังการประชุมได้จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือขับเคลื่อนโครงการฯร่วมกับส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานด้านการศึกษา องค์กรต่างๆในพื้นที่

นายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ให้แนวทางในการแก้ไขปัญหาด้วยการให้ทุกภาคส่วนในประเทศไทย ร่วมมือกันในเรื่องการสร้างความปรองดองสมานฉันท์และทำให้ประชาชนมีความรักความสามัคคีกัน และมหาเถรสมาคมได้มีมติเห็นชอบโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา หมู่บ้านรักษาศีล 5 ซึ่งมอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ร่วมกับทุกภาคส่วนในจังหวัดขับเคลื่อนโครงการ ฯ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เพื่อเสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ความสามัคคี และเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

จากสถานการณ์บ้านเมืองในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหามากมาย ทั้งปัญหาอาชญากรรม การระบาดของสิ่งเสพติดและอบายมุข การแตกแยกทางความคิด และการจาบจ้วงดูหมิ่นสถาบันหลักของชาติ ปัญหาเหล่านี้ล้วนเกิดจากการขาดสติ จิตสำนึก ศีลธรรมและคุณธรรมจริยธรรมอันจะส่งผลให้สังคมเกิดความขัดแย้ง คณะสงฆ์โดยเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช มีดำริที่จะเสริมสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติเกิดความสงบสุข สันติสุข มีความสามัคคีกลมเกลียว โดยพุทธศาสนิกชนน้อมนำหลักศีล 5 มาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวัน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จึงได้กำหนดกิจกรรมในการสนับสนุนให้เด็ก เยาวชนและประชาชนทุกเพศทุกวัยได้นำหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาไปพัฒนาชีวิต ครอบครัว ชุมชนและสังคม โดยเน้นการรณรงค์ ส่งเสริมและสนับสนุนให้มี "หมู่บ้านรักษาศีล 5 ” ขึ้นในทุกส่วนของประเทศ

ในส่วนของจังหวัดอุดรธานีนอกจากจัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือในวันนี้แล้ว ยังได้จัดให้มีการรณรงค์ให้ประชาชนทุกคนเกิดความรักความสามัคคี ผ่านหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา และเชิญชวนให้ปฏิบัติตนตามแนวศีล 5 ขึ้นทุกหมู่บ้านทั้ง 1,880 หมู่บ้านในจังหวัด พร้อมกันนั้นจะมีการรับสมัครอาสาสมัครปกป้องพระพุทธศาสนา จัดตั้งองค์กรเครือข่ายอาสาปกป้องพระพุทธศาสนาในทุกหมู่บ้านและชุมชน มีการติดตามประเมินผล และประกาศยกย่องครอบครัว หมู่บ้านรักษาศีล 5 ที่ผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนดด้วย




ส.ปชส.อด.
ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขให้ประชาชน ตามนโยบาย คสช.

จังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรม "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจคืนความสุขให้ประชาชน” ตามนโยบาย คสช.

เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2557 เวลา 18.30 น.  ณ บริเวณลานเอนกประสงค์หน้าสถานีรถไฟศรีสะเกษนายประทัป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานเปิดกิจกรรม "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขให้ประชาชน” พร้อมกับมอบกระปุกออมสินตามโครงการออมทรัพย์สร้างสุขสร้างรอยยิ้ม เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แก่โรงเรียนเป้าหมายทั้ง 8 โรงเรียน โดยมี พ.ท.วรากร ธนยั่งยืน เสนาธิการกองกำลังรักษาความสงบ ประจำพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และประชาชนร่วมงานอย่างคับคั่ง ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมหนึ่งที่จะสร้างเสริมความปรองดองในระดับพื้นที่

ทั้งนี้ ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้กำหนดนโยบายการบริหารงานไว้ 4 ข้อ หลักประกอบไปด้วย 1).แก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน 2).ทำให้เศรษฐกิจพื้นฐานเดินต่อไปได้ 3).สร้างความปรองดองสามัคคีของคนในชาติ และ 4).ปฏิรูปการทำงานให้รวดเร็วและฉับไว และเพื่อเป็นการปฏิบัติตามนโยบาย ดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มอบหมายให้ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรม "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขให้ประชาชน” ขึ้นโดยพร้อมกันทั่วประเทศ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความปรองดองของคนในชาติละแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยกำหนดให้สำนักงาน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานและให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดเป็น เลขานุการ ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้มอบหมายให้ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ เป็นหน่วยงานหลักในการจัดงาน

สำหรับการจัดกิจกรรม "กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมใจ คืนความสุขให้ประชาชน” มีกิจกรรมการให้บริการประชาชนจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ การจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาต้นทุน เช่น ไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำปลา แจกไอศกรีมกะทิสด พร้อมกับริการตรวจสอบยอดบัตรเครดิตสินเชื่อเกษตรกร จากสหกรณ์การเกษตรเพื่อลูกค้า ธ.ก.ส.ศรีสะเกษ จำกัด การให้ความรู้ความเข้าใจในการทำหมั่น สุนัข แมว จากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดศรีสะเกษ การให้ความรู้เกี่ยวกับการทำประมง จากสำนักงานประมงจังหวัดศรีสะเกษ การบริการงานวิชาการด้านพืช จากศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ การให้ความรู้เรื่องกฎหมายที่ดิน จากสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ การให้ความรู้เกี่ยวกับยางพารา โดยศูนย์ปฏิบัติการสงเคราะห์สวนยางจังหวัดศรีสะเกษ สอนการทำบัญชี ราย-รับรายจ่ายในครัวเรือน จากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ การแสดงดนตรีของวงดนตรีจาก ธ.ก.ส.ศรีสะเกษ และวงกันตรีมร็อคอินเตอร์ อาเจายัย โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นได้รับความสนใจจากประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ เข้าชมงานและรับบริการต่างๆจากส่วนราชการ เป็นจำนวนมาก




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สุรศักดิ์ สร้อยเพชร /ข่าว/ภาพ

ผู้ว่าฯมหาสารคาม ตั้งศูนย์เฉพาะกิจ รับมือปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม

จังหวัดมหาสารคาม ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ปี 2557 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ ประสานการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบภัย

                นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดหมายลักษณะอากาศช่วงฤดูฝนในประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2557 โดยคาดว่าจะเริ่มต้นประมาณปลายเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งฤดูฝนในปีนี้ประเทศไทยตอนบน จะสิ้นสุดฤดูฝน ประมาณกลางเดือนตุลาคม ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนต่อเนื่องไปจนถึงเดือนมกราคม โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ สำหรับจังหวัดมหาสารคาม แม้บางพื้นที่ยังมีฝนน้อยอยู่ แต่ในภาพรวมฝนเริ่มมากขึ้นแล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จังหวัดมหาสารคาม จึงได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ปี 2557 ขึ้น เพื่อให้การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ประสบภัย ฟื้นฟูบูรณะสิ่งสาธารณประโยชน์ ที่ชำรุดเสียหายให้กลับคืนสู่สภาพเดิม รวมทั้งเป็นการประสานงานและการสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เป็นไปตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อย่างมีประสิทธิภาพ

               โดย ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ปี 2557 ตั้งอยู่ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดมหาสารคาม ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์/โทรสาร หมายเลข 043 777 314 / 043 777 773-5 เพื่อติดต่อประสานงานและติดตามสถานการณ์ด้านสาธารณภัยที่เกิดขึ้น พร้อมให้ความช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัย



.......ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว 

โคราช เตรียมพร้อมจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 43 มั่นใจพิธีเปิด-ปิด ยิ่งใหญ่ระดับโลก

วันที่ 10 ก.ค. 57 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสุวัจน์ ลิปตพัลลภ 3 อาคารยุพราชเบญจมงคล มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 43 นครราชสีมาเกมส์ และกีฬาคนพิการแห่งชาติ ครั้งที่ 33 โคราชเกมส์ เป็นประธานการประชุมเพื่อ ติดตามความคืบหน้าและรับทราบรายงานจากการทำงานของคณะกรรมการฯ ทั้ง 22 ฝ่ายและผลสรุปการประชุมเตรียมความพร้อมการจัดการแข่งขัน ความพร้อมของสนามกีฬา ความพร้อมของหมู่บ้านนักกีฬา และอื่นๆ ตามระเบียบวาระ และแถลงข่าวความพร้อมการจัดมหกรรมกีฬาแห่งชาติที่ จ.นครราชสีมา โดยมีคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขัน สมาคมกีฬาจังหวัด และฝ่ายที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

นายสุวัจน์ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมความพร้อม ในพิธีเปิด และพิธิปิด จะมีการจัดแสดงอย่างยิ่งใหญ่ เน้นในเรื่องของความทันสมัยและเทคโนโลยี เน้นความเป็นสากล ความเป็นมืออาชีพ และจะเน้นการหล่อหลอมความเป็นวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ความสำเร็จต่างๆของดีต่างๆของเมืองโคราชให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันที่จะนำเสนอสู่สังคมซึ่งพิธีเปิด จะเน้นในเรื่องของความกระชับ ให้เกิดความแปลกใหม่ ความน่าสนใจ ทั้งนี้มั่นใจว่าพิธีเปิดการแข่งขันนครราชสีมาเกมส์ครั้งนี้จะเป็นพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และจะเป็นพิธีเปิดที่เทียบเคียงกับการเปิดกีฬาสากล เพื่อเป็นการรักษาชื่อเสียงและแสดงออกถึงความพร้อมของการบริหารจัดการของ จ.นครราชสีมา ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬา และการลงทุนต่างๆ ฉะนั้นพิธีเปิดครั้งนี้จะแสดงออกถึงความพร้อมของจังหวัดฯ ถึงความสำเร็จของการพัฒนาบุคลากร ถึงความอุดมสมบูรณ์ของวัฒนธรรม ประเพณี แหล่งท่องเที่ยว และของดีเมืองโคราชทุกอย่าง ความสำเร็จของกีฬา ของนักกีฬา ของการบริหาร เทคโนโลยี ความทันสมัยต่างๆ จะถูกบรรจุอย่างร้อยเรียงและเป็นระบบและยิ่งใหญ่สมศักดิ์ศรีของการเป็นเจ้าภาพของ จ.นครราชสีมา