วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

22 ส.ค. 56 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมุกดาหารงดจ่ายกระแสไฟฟ้าชั่วคราว

นายเชษฐ คะปัญญา ผู้ชำนาญการ ระดับ ๙ รักษาราชการแทน ผู้จัดการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมุกดาหาร จะดำเนินการย้ายแนวเสาแรงสูง บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(สามแยก ธกส.มุกดาหาร) ตำบลมุกดาหาร อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมุกดาหารจึงมีความจำเป็นที่จะต้องงดจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นการชั่วคราวในวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ช่วงเวลาประมาณ ๐๙.๐๐ – ๐๙.๓๐ น. และช่วงเวลา ๑๖.๐๐ – ๑๖.๓๐ น. หากดำเนินการแล้วเสร็จก่อนกำหนดเวลา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดมุกดาหารจะดำเนินการเปิดจ่ายกระแสไฟฟ้าให้ใช้โดยทันที



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว

จังหวัดมุกดาหารจัดโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่าย ผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ( 25 ตาสับปะรด ) จังหวัดมุกดาหาร

วันนี้ ( 21 สิงหาคม 2556 ) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมโรงแรมพลอยพาเลช อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร จัดโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่าย ผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด (25ตาสับปะรด )จังหวัดมุกดาหาร โดยมีนายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีเปิด ซึ่งได้กำหนดปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยมียุทธศาสตร์ "พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ”เป็นยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนนโยบายเพื่อควบคุมสถานการณ์ปัญหายาเสพติด และสามารถลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ปัญหาได้อย่างเห็นผลชัดเจนเป็นรูปธรรม สังคม และชุมชนโดยรวมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด

นายปิติณัช นิธิศธานี จ่าจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดมุกดาหาร ได้จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายผู้ประสานพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ( 25 ตาสับปะรด ) ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการพัฒนาแกนนำในทุกหมู่บ้าน/ชุมชน ที่จัดตั้งไว้แล้วให้เป็นกำลังสำคัญ มอบหมายให้มีบทบาทนำคนในหมู่บ้าน/ชุมชน เฝ้าระวังป้องกันมิให้เกิดปัญหายาเสพติดในพื้นที่ของตน โดยสอดส่งดูแลป้องกันและมีช่องทางการแจ้งข้อมูลให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ทราบ ผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วยแกนนำ ผู้ประสานพลังแผ่นดินจากหมู่บ้าน/ชุมชน หมู่บ้าน/ชุมชนละ 2 คน รวม 1,120 คน แบ่งการฝึกอบรมออกเป็น 3 รุ่นๆละ 1 วัน ระหว่างวันที่ 21-23สิงหาคม2556 โดยรุ่นที่1 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมประกอบด้วยแกนนำผู้ประสานพลังแผ่นดินจากอำเภอเมืองมุกดาหาร จำนวน 298 คน และเทศบาลเมืองมุกดาหาร จำนวน 68 คน รวม 366 คน วิทยากรจากสำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 4

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวในตอนท้ายว่า การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดเป็นมาตรการสำคัญที่ต้องมีความต่อเนื่อง ระยะยาว และจะต้องให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาอย่างมีคุณภาพ จึงจะส่งผลต่อความสำเร็จในการลดปัญหายาเสพติดอย่างแท้จริง การสร้างแนวป้องกันยาเสพติดภาคประชาชนจึงเป็นปัจจัยชี้ขาดที่สำคัญที่สุด เพราะถือว่าหมู่บ้าน/ชุมชน เป็นจุดแตกหักของการเอาชนะยาเสพติด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าปัญหายาเสพติดจะลดลงและหมดสิ้นไป จากความร่วมมือร่วมแรงของทุกภาคส่วน ทำให้เกิดความสงบสุขในจังหวัดมุกดาหารของเรา และประเทศชาติสืบต่อไป




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ

จังหวัดมุกดาหารจัดโครงการฝึกอบรมค่ายบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพยาเสพติด โรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครองจังหวัดมุกดาหาร

วันนี้ (๒๑ ส.ค. ๕๖) เวลา ๑๐.๐๐ น. ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดมุกดาหารที่๑ จังหวัดมุกดาหาร นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีเปิดการฝึกอบรมค่ายบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ระบบสมัครใจบำบัด โรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองฝ่ายปกครองจังหวัดมุกดาหาร เป็นรุ่นที่ ๕ ประจำปี ๒๕๕๖ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ในระบบสมัครใจบำบัด ในลักษณะการผสมผสาน ด้วยการใช้กระบวนการชุมชนบำบัด และหลักสูตร FastModel อย่างย่อของกระทรวงสาธารณะสุข เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย จิตใจ และการฝึกอบรมอาชีพให้ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติดได้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลับมาเป็นคนดี มีคุณภาพของสังคมและไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างยั่งยืน

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวเพิ่มเติมภายหลังหลังการเปิดโครงการว่า กรมการปกครองเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง ที่ได้กำหนดแนวทางการดำเนินการ เพื่อที่จะรองรับและสนับสนุนเป้าหมาย ด้านการบำบัดฟื้นฟูตามนโยบายของรัฐบาล โดยกำหนดให้ที่ทำการปกครองจังหวัด เป็นหน่วยงานดำเนินการ มีชุดครูฝึก ครูพี่เลี้ยง คณะวิทยากรกระบวนการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ เป็นผู้ให้คำปรึกษา คำแนะนำ ในการเสริมสร้างกำลังกายกำลังใจ ให้แก่ผู้เข้าการอบรมทุกคน ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการไปหลายอำเภอและประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง และที่ผ่านมา จังหวัดมุกดาหาร สามารถนำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดและเข้ารับการบำบัดปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เข้ามามีส่วนร่วมเป็นแกนนำพัฒนาชุมชนต้านยาเสพติดในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับโครงการบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้เสพ ผู้ติดยาเสพยาเสพติด รุ่นที่ ๕ นี้ ใช้ระยะเวลา ๑๕ วัน ในการอบรม ซึ่งเริ่มตั้งแต่ วันที่ ๑๙ สิงหาคม – ๒ กันยายน ๒๕๕๖ โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ จำนวน ๖๐ คน โดยเป็นผู้สมัครใจบำบัด



สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารนำทุกภาคส่วนถวายภัตตาหารเช้า ตามโครงการ “ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัดสืบสานวัฒนธรรมประเพณีวิถีพุทธ

วันนี้ (๒๑ ส.ค. ๕๖) นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานพิธีถวายภัตตาหารเช้า ตามโครงการผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัดสืบสานวัฒนธรรมประเพณีวิถีพุทธ จังหวัดมุกดาหาร ณ วัดนิคมเกษตร อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยส่วนราชการจังหวัดมุกดาหาร หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยมีสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดมุกดาหารเป็นเจ้าภาพหลัก ด่านศุลกากรจังหวัดมุกดาหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้น เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ประชาชนทุกภาคส่วนได้ร่วมกันทำบุญโดยการเข้าวัด ทำบุญตักบาตร รับศีล ฟังธรรมในวันธรรมสวนะ นำหลักธรรมไปใช้ในการดำเนินชีวิต และมีการถวายภัตตาหารเช้า โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกเดือนในวันธรรมสวนะ

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การเผยแพร่งานศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม และเป็นการสืบสานวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของพุทธศาสนิกชนให้คงอยู่สืบไป ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมในทุกวันธรรมสวนะ




สุภาวดี อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
สุระณรงค์ อ่อนสนิท/ภาพ

ยโสธรประกวดสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุหลือใช้ระดับจังหวัด

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 สิงหาคม 2556 ณ ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขายโสธร นายชัยภัทร หิรัณยเลขา รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดกิจกรรมการประกวดสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ระดับจังหวัด ประจำปี 2556 และมอบรางวัลให้กับผู้เข้าประกวดสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ระดับจังหวัดด้วย

นายพิชิต สมบัติมาก ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยโสธร ได้ดำเนินโครงการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ประจำปี 2556 ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และเป็นโครงการที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับสนองพระดำริของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อครั้งเสด็จไปทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่น้ำท่วมวิกฤติ 6 จังหวัดนำร่องในเขตภาคกลาง เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน "โครงการฟื้นฟูเพื่อสายใยรักแห่งครอบครัว ผู้ประสบภัยพิบัติในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาณ” และนักเรียนในพื้นที่ดังกล่าวได้นำผลงานสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้มาจัดแสดง พระองค์ทรงชื่นชมและมีพระดำริว่า ควรดำเนินการขยายผล เพื่อให้เกิดการนำวัสดุเหลือใช้ในครัวเรือนมาสร้างสรรค์เป็นสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ อันเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับวัสดุเหลือใช้ เป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด และยังช่วยลดประมาณขยะได้อีกทางหนึ่งด้วย นับได้ว่าเป็นโครงการที่สำคัญอย่างยิ่งในการรณรงค์ให้เด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนได้มีโอกาสแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งนอกจากจะเป็นการลดปริมาณขยะแล้ว ยังเป็นการสร้างจิตสำนึกที่จะก่อให้เกิดพฤติกรรมการใช้ทรัพยากรอย่างมีคุณค่า อันจะนำมาสู่การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้ายที่สุด

การจัดกิจกรรมการประกวดสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ระดับจังหวัด ในครั้งนี้ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดยโสธร จัดขึ้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การดำเนินงานและเป็นเวทีในการแสดงออกซึ่งความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งเป็นการคัดเลือกสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้เข้ารับรางวัลในระดับจังหวัด และเป็นตัวแทนเข้ารับการคัดเลือกในระดับประเทศต่อไป





ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช    21 ส.ค. 56

ยโสธรช่วยจำหน่ายลำไย 2,800 กิโลกรัม ตามโครงการ ไทยช่วยไทย ลำไยช่วยชาติ

ธ.ก.ส.จังหวัดยโสธร จัดจำหน่ายลำไย ตามโครงการ "ไทยช่วยไทย ลำไยช่วยชาติ” เป็นลำไยจากจังหวัดลำพูน จำนวน 2,800 กิโลกรัม หมดอย่างรวดเร็ว

วันนี้ (21 ส.ค. 56) เวลา 10.30 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดยโสธร ธ.ก.ส.จังหวัดยโสธร โดยนายไพศาล แสนคุ้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดยโสธร จัดโครงการ "ไทยช่วยไทย ลำไยช่วยชาติ” มีนายนิรันดร์ สมสมาน รองผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธาน ปล่อยขบวนรถจำหน่ายลำไย เพื่อไปจำหน่ายตามอำเภอต่าง ๆ รวม 9 อำเภอ และจำหน่ายให้กับข้าราชการ,ประชาชน ที่หน้าศาลากลางจังหวัด จำนวน 2,800 กิโลกรัม หมดอย่างรวดเร็ว ภายใน 30 นาที จำหน่ายกิโลกรัมละ 25 บาท เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรผู้ปลูกลำไย ทางภาคเหนือที่ผลผลิตออกมากในระยะนี้

นอกจากนั้น การค้าภายในจังหวัดยโสธร ยังนำไข่ไก่เบอร์ 3 มาจำหน่าย ถาดละ 93 บาท เนื้อหมู กิโลกรัม 120 บาท ให้กับประชาชนอีกด้วย ปรากฎว่าจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็วเช่นกัน




ส.ปชส.ยส./ไพชยนต์ 21 ส.ค. 56

ร้อยเอ็ดขับเคลื่อนยกระดับรายได้ครัวเรือน ลดรายจ่าย ขยายโอกาสด้านแหล่งทุนให้แก่ประชาชน

นายพศิน โกมลวิชญ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า จังหวัดร้อยเอ็ด ได้กำหนดประชุมเชิงปฏิบัติการคณะทำงานขับเคลื่อนการยกระดับรายได้ครัวเรือน จังหวัดร้อยเอ็ด ขึ้นในวันที่ 22 สิงหาคม 2556 เวลา 08.30 น. เป็นต้นไป ณ ห้องประดับแก้ว โรงแรมเพชรรัชต์การ์เด้น อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจคณะทำงานขับเคลื่อน การยกระดับรายได้ครัวเรือนของจังหวัดร้อยเอ็ด ให้สามารถดำเนินกิจกรรมขับเคลื่อนการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ขยายโอกาสให้ประชาชน ตามตัวชี้วัด 1.1.6 รายได้ครัวเรือน (ทั้งประเทศ) เพิ่มขึ้น และร่วมกันกำหนดแนวทางขอคระทำงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกระดับให้สามารถติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเป้าหมายเดียวกัน

รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เปิดเผยด้วยว่า ผู้ที่จะเข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการในวันดังกล่าวจะประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดร้อยเอ็ด กว่า 30 หน่วยงาน โดยคาดหวังว่าผู้เข้าร่วมประชุมจะมีความรู้ ความเข้าใจ และขับเคลื่อน การยกระดับรายได้ครัวเรือนของจังหวัดร้อยเอ็ด ตามตัวชี้วัด 1.1.6 รายได้ครัวเรือน เพิ่มขึ้น




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
21 ส.ค. 56

เหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด เตรียมออกรับบริจาคโลหิต ประจำเดือนกันยายน 2556

เหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด เตรียมออกรับบริจาคโลหิต ประจำเดือน กันยายน 2556 ในพื้นที่เป้าหมาย 9 อำเภอ เพื่อสำรองโลหิตไว้ช่วยเหลือผู้อุบัติเหตุและมีความต้องการโลหิตในโอกาสต่างๆ

นางปิยนันท์ ขำทวีพรหม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด แจ้งกับประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ดว่า สำนักงานกาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด ได้กำหนดแผนการรับบริจาคโลหิต ประจำเดือน กันยายน 2556 ระหว่างเวลา 09.00 – 16.30 น. เพื่อเป็นการสำรองโลหิตไว้ช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุและมีความต้องการโลหิตในโอกาสต่างๆ โดยมีเป้าหมายที่จะออกรับบริจาคในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด รวม 9 อำเภอ ตามลำดับดังนี้ วันพุธที่ 4 กันยายน 2556 ณ หอประชุมอำเภอเสลภูมิ การแต่งกาย เสื้อขาว – แดง,วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2556 ณ หอประชุมอำเภอจตุรภักตรพิมาน การแต่งกายสีแสดจังหวัดร้อยเอ็ด, วันพุธที่ 11 กันยายน 2556 ณ หอประชุมอำเภอเมืองร้อยเอ็ด การแต่งกาย เสื้อสีชมพู, วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 ณ หอประชุมอำเภอเมืองสรวง การแต่งกาย เสื้อสีแสดจังหวัดร้อยเอ็ด, วันพุธที่ 18 กันยายน 2556 ณ หอประชุมอำเภอโพนทราย การแต่งกาย เสื้อขาว – แดง,วันที่พฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2556 ณ หอประชุมอำเภอธวัชบุรี การแต่งกาย เสื้อสีแสดจังหวัดร้อยเอ็ด ,วันพุธที่ 26 กันยายน 2556 ณ หอประชุมอำเภอปทุมรัตน์ การแต่งกาย เสื้อ พอ.สว., วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556 ออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. บ้านเมืองทอง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด การแต่งกาย เสื้อ พอ.สว., และวันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2556 ณ หอประชุมอำเภอสุวรรณภูมิ การแต่งกาย เสื้อกาชาด (แขนสั้น)

จึงแจ้งให้ผู้มีจิตศรัทธาที่จะไปบริจาคโลหิตทราบ แผนการรับบริจาคโลหิตของสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดร้อยเอ็ด ประจำเดือน กันยายน 2556 มาให้ทราบตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
20 ส.ค. 26

ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการดำเนินงานและเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลสระแก้ว

ที่ห้องประชุมบูรพา ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายวิสุทธิ์ นิรัติวงศกรณ์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เขตตรวจราชการที่ 3 ลงพื้นที่ตรวจติดตามผลการดำเนินงาน และเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว ครั้งที่ 3/2556 โดยที่ประชุมได้มีการแต่งตั้งที่ปรึกษา ก.ธ.จ.สระแก้ว ด้านการประชาสัมพันธ์ ด้านวิชาการ และด้านกฎหมาย ซึ่งในด้านการประชาสัมพันธ์เห็นชอบให้ประชาสัมพันธ์จังหวัดสระแก้ว เป็นที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ /เห็นชอบให้ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสระแก้ว เป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการ และเห็นชอบให้นายชนรดี พรมภักดี เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย นอกจากนี้ที่ประชุมได้แจ้งเรื่องแนวนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนธรรมาภิบาล เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงานของคณะกรรมการ ธรรมาภิบาลจังหวัด และแนวทางปฏิบัติในการติดตั้งแผ่นป้ายแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับงานก่อสร้างของทางราชการ รวมถึงผลการดำเนินงานของจังหวัดสระแก้ว กรณีโครงการส่งเสริมศักยภาพการค้าชายแดน สำหรับเรื่องที่ร่วมกันพิจารณา คือเรื่องเกี่ยวกับงาน/โครงการตามแผนการตรวจราชการ ประจำปี 2556 ได้แก่ 1. การตรวจติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาจังหวัด และกลุ่มจังหวัด แผนปฏิบัติราชการประจำปีของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และการบริหารงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2556 /2. การตรวจติดตามการบูรณาการในประเด็นนโยบายการพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิตด้านปัญหายาเสพติด และ3. การตรวจติดตามบูรณาการในประเด็นนโยบายการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นประชาคมอาเซียน ในปี 2558 จากนั้นในช่วงบ่ายผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว ลงพื้นที่ตรวจติดตามผลสัมฤทธิ์ของโครงการฯ ในพื้นที่อำเภอ เขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งได้แก่ โครงการส่งเสริมและพัฒนาการผลิตมันสำปะหลัง งบประมาณ 5,100,000.-บาท (ห้าล้านหนึ่งแสนบาทถ้วน)

นักศึกษานักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 61 (นปส.) ศึกษาดูงานโครงการอบรมหลักสูตร กระทรวงมหาดไทย เรื่องการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และการค้าชายแดนของจังหวัดอุบลราชธานี

วันที่ 21 สิงหาคม 2556 เวลา 10.00 น. ที่ หอประชุมประชาวาริน อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายพิเศษ เรื่องการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ และการค้าชายแดนของจังหวัดอุบลราชธานี แก่ คณะศึกษาดูงานโครงการอบรมหลักสูตร นักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 61 กระทรวงมหาดไทย จำนวน 120 ในโอกาส ทัศนศึกษาดูงานภายในพื้นที่จังหวัดนครพนม มุกดาหาร และ จังหวัดอุบลราชธานี ในระหว่างวันที่ 19-23 สิงหาคม 2556 นอกจากนี้ ทางคณะศึกษาดูงานโครงการอบรมหลักสูตร นักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 61 กระทรวงมหาดไทย จะได้เดินทางเข้าศึกษาการบริหารจัดการขยะ ของ เทศบาลเมืองวารินชำราบ และ พร้อมเยี่ยมชมสินค้าปลอดภาษี และ เก็บข้อมูลการค้าชายแดน ที่ ด่านชายแดน ช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี




ทองปัก ทวีสุข/ภาพ/ข่าว

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดอุบลราชธานี จัด พิธีปล่อยคาราวานลำไย เพื่อช่วยกระจายผลผลิตช่วยเกษตรกรผู้ปลูกลำไย และกระตุ้น ให้ประชาชน หันมาบริโภคลำไยสดมากขึ้น

วันที่ 21 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00 น. ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดอุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดโครงการบริหารจัดการลำไยสดคุณภาพ ปี 2556 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกลำไยภาคเหนือ โดย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดอุบลราชธานี จัดขึ้น เนื่องจากในช่วง เดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2556 ที่ผลผลิตลำไยออกสู่ตลาดพร้อมกันจำนวนมาก มีผลทำให้ราคาลำไยตกต่ำและผลตอบแทนจากการขายไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน ทั้งนี้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา ทุกจังหวัดทั่วประเทศ จึงได้สั่งซื้อลำไยกว่า 1,500 ตัน กับเกษตรกรในชุมชนต้นแบบของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งเป็นการ บรรเทาความเดือดร้อนได้ ให้แก่เกษตรกร กว่า 3,000 ครอบครัว สำหรับสำนักงาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดอุบลราชธานี ได้สั่งซื้อลำไย จำนวน 6,000 กิโลกรัม หรือ 6 ตันจากนั้น นาย วันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดอุบลราชธานี ได้ร่วมกัน ปล่อยคาราวานลำไย จากสำนักงาน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดอุบลราชธานี ไปยัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ทุกสาขา ทั้ง 23 แห่ง และ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. (สกต.) อุบลราชธานี ในจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมเพิ่มช่องทางการตลาดลำไย ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกลำไยภาคเหนือขายลำไยได้มากขึ้น และกระตุ้นให้ประชาชน หันมาบริโภคลำไยสดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกษตรกรของประเทศชาติมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น




ทองปัก ทวีสุข/ภาพ/ข่าว

สุรินทร์พร้อมแล้วที่จะเปิดสายการบินภายในประเทศภายในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้

จังหวัดสุรินทร์พร้อมแล้วที่จะเปิดสายการบินภายในประเทศภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวของจังหวัด

วันนี้ ( 21 ส.ค. 2556 ) นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน พร้อมคณะ เจ้าหน้าที่สายการบินนกแอร์ เดินทางมาติดตามและตรวจดูสภาพความพร้อมของสนามบินสุรินทร์ภัคดี จังหวัดสุรินทร์ ในการเปิดสายการบินภายในประเทศ พร้อมทั้งร่วมประชุมกับนายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายวิเชียร จันทรโณทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายกิตติภทธ์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมปรึกษาหารือความเป็นไปได้ที่จะเปิดสายการบินเล็กภายในประเทศขึ้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยบริษัท สายการบินนกแอร์ เพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ ที่จะเดินทางได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น นายวรเดช หาญประเสริฐ อธิบดีกรมการบินพลเรือน จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงทั้งด้านธุรกิจ อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว การที่สายการบินนกแอร์จะนำเครื่องมาให้บริการด้านการเดินทางนั้น ตนเองคิดว่ามีความเป็นไปได้สูง และสนับสนุนเต็มที่ ซึ่งเท่าที่มาติดตามดูพื้นที่สนามบิน รันเวย์ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็น่าจะสมบูรณ์พร้อม ซึ่งน่าจะเปิดให้บริการเที่ยวบินได้ก่อนช่วงเทศกาลงานช้างของจังหวัดสุรินทร์คือไม่เกินเดือนพฤศจิกายนนี้ในช่วแรกอาจจะนำเครื่องบินเล็กขนาด 32 ที่นั่งมาเปิดให้บริการก่อน ด้านนายกิตติภัทธ์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์กล่าวว่า ในฐานะที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์กำกับดูแลสนมบินสุรินทร์อยู่ในคณะนี้นั้น ก็ได้เตรียมความพร้อมแล้วในทุกๆด้าน เพียงแต่มีการปรับปรุงบางสิ่งบางอย่างให้สมบูรณ์เพียงเล็กน้อย ก็จะสามารถเปิดบริการแก่ประชาชน นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยวได้ก่อนถึงงานช้างของจังหวัดสุรินทร์ปีนี้คือในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน และรองรับการเปิดสายการบินระหว่างประเทศในการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ต่อไป




ประนนท์ ไม้หอม / ส.ปชส.สุรินทร์ / รายงาน

ธกส.สุรินทร์ ปล่อยขบวนรถบรรทุกลำไย กระจายขายทั่วจังหวัด ช่วยเหลือเกษตรกรจากราคาผลผลิตตกต่ำ

วันนี้ (21 ส.ค. 56) นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนคาราวานรถบรรทุกลำไย จากหน้าสำนักงาน ธ.ก.ส.สุรินทร์ ไปยัง ธ.ก.ส. สาขาอำเภอต่างๆ เพื่อกระจายไปจำหน่ายทั่วจังหวัดสุรินทร์ เป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรจากราคาผลผลิตลำไยตกต่ำ ด้านนายณรงค์ งามพริ้ง ผู้อำนวยการ สำนักงาน ธ.ก.ส. จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จากที่ธ.ก.ส. ได้ส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรผู้ปลูกลำไยในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ในการเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนและพัฒนาความรู้สู่เกษตรกร สำหรับในปี 2556 สถานการณ์ผลผลิตลำไยในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ คาดการณ์ว่า จะมีผลผลิตกว่า 440,000 ตัน ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรทำให้จำหน่ายในราคาที่ลดลง เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน ธ.ก.ส. จึงได้จัดโครงการบริหารจัดการลำไยสดคุณภาพ ด้วยการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการบริโภคลำไยขึ้นที่ ธ.ก.ส. ทั่วประเทศ สำหรับจังหวัดสุรินทร์ ได้นำลำไยสดจากจังหวัดภาคเหนือมาจำหน่าย 4,900 กิโลกรัม และกระจายไปจำหน่ายตาม ธ.ก.ส.สาขาต่างๆ ทุกอำเภอ ในราคาถูกกว่าท้องตลาด 4 กก. 100 บาท ปรากฏว่า จุดจำหน่ายหน้าสำนักงาน ธ.ก.ส.สุรินทร์ ได้รับความสนใจจากชาวสุรินทร์ แห่กันมาซื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้ขายหมดไปในเวลาไม่ถึงชั่วโมง



ประนนท์ ไม้หอม/ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน

กาฬสินธุ์ยังเสี่ยงต่อปัญหาการค้ามนุษย์โดยเฉพาะการค้าประเวณีเพราะมีการแข่งขันสร้างสถานบันเทิงและสถานบริการเพิ่มขึ้นและมีการแข่งขันกันสูง

นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า สถานการณ์ค้ามนุษย์ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่พบการกระทำผิดหรือเข้าหลักเกณฑ์ว่าด้วยการค้ามนุษย์ ช่วงที่ผ่านมาพบเพียงปัญหาการแอบซื้อ แอบขายประเวณีในกลุ่มวัยรุ่น และปัญหาการมั่วสุมเท่านั้น ปัญหาการค้ามนุษย์ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ขณะนี้ไม่มีความรุนแรง ทั้งนี้ เพราะเป็นจังหวัดเกษตรกรรม ส่วนรูปแบบจากการแสวงประโยชน์จากการประเวณี พบว่าเป็นการขายบริการทางเพศจากสถานบริการต่าง ๆ เช่น คาราโอเกะ ร้านอาหารและแฝงมากับการท่องเที่ยว รองลงมาเป็นการใช้แรงงานหรือบริการ และการนำคนมาขอทาน แม้ว่าคดีค้ามนุษย์มีจำนวนไม่มากเมื่อเทียบกับคดีอาญาประเภทอื่นภายในจังหวัด แต่ปัญหาการค้ามนุษย์ มีความรุนแรงเนื่องจากเป็นคดีอาญาที่มีความซับซ้อน ผู้กระทำความผิดทำงานเป็นเครือข่ายรูปแบบการค้ามนุษย์และวิธีการหลอกหลวง มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา มีความเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพล ผู้เสียหายจึงไม่ให้ความร่วมมือทำให้การดำเนินคดี มีความยุ่งยากเพราะปัญหาการค้ามนุษย์ที่มีความสลับซับซ้อนมีหลากหลาย เช่น การแสวงหาประโยชน์บังคับขอทาน กักขัง หน่วงเหนี่ยว ทำร้าย ทุบตี ข่มขืน บังคับให้ขายบริการทางเพศ ซึ่งหลายกรณีมักพบเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้ามาเกี่ยวข้องและแสวงหาประโยชน์ เช่น การซื้อบริการจากเด็ก การรับสินบน มีส่วนร่วมในการปลอมแปลงเอกสารปกปิดหลักฐาน และมีลักษณะการกระทำที่เป็นกระบวนการค้ามนุษย์จนยากต่อการบังคับใช้กฎหมาย

อนาคตเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนแล้ว จะเกิดการเคลื่อนย้าย ทั้งในภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และแรงานในกลุ่มประเทศอาเซียน จังหวัดกาฬสินธุ์อาจมีแรงงานเคลื่อนย้ายเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งจะต้องมีปัญหาตามมาอีกมากทั้งปัญหายาเสพติด ปัญหาสังคม ปัญหาแรงงาน ปัญหาการค้าประเวณี ตลอดจนปัญหาที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์หลากหลายรูปแบบ ดังนั้น จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงต้องมีความเตรียมพร้อมในการรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งแรงงานที่เข้ามาทำงานส่วนมากก็จะเป็นลูกจ้างที่มาจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพราะเป็นแรงงานที่มีค่าแรงต่ำเมื่อเทียบกับค่าแรงในประเทศ




สุรพล คุณภักดี/ข่าว

ขอนแก่นนครแห่ง MICE เตรียมรับผู้มาเยือนงานแรกกว่า 15,000 ในการสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นและนักเรียนนายสิบตำรวจ

ขอนแก่นนครแห่ง MICE เตรียมมือรับผู้มาเยือนงานแรกกว่า 15,000 ที่จะเดินทางสู่จังหวัดขอนแก่น เพื่อสอบเข้าเป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนักเรียน นายสิบตำรวจ ระหว่าง 31 สิงหาคม–1 กันยายน 2556 เชิญชาวขอนแก่นร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี      

นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวในการประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานขับเคลื่อนจังหวัดขอนแก่น เป็นนครแห่ง MICE ที่ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อบ่ายวันนี้ (21 สิงหาคม 2556) ว่า ตามที่ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการหรือ สสปน. กำหนดให้จังหวัดขอนแก่นเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมรองรับการประชุมสัมมนา ท่องเที่ยว และที่พักระดับนานาชาติของประเทศ หรือนครแห่ง MICE 1 ใน 5 ของประเทศไทย นั้น จังหวัดขอนแก่น โดยคณะกรรมการและคณะทำงานขับเคลื่อนจังหวัดขอนแก่นนครแห่ง MICE ได้รับแจ้งจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่า ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน 2556 มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะจัดให้มีการสอบคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาหลักสูตรแพทยศาสตร์บัณฑิต ประจำปี 2557 ครั้งที่ 1 ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เดินทางมาสอบประมาณ 13,000 คน และนอกจากนี้โรงเรียนนายสิบตำรวจภูธรภาค 4 ขอนแก่นก็จะจัดให้มีการสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจภูธรภาค 4 ขอนแก่น ในวันที่ 1 กันยายน 2556 ซึ่งจะมีผู้เดินทางมาสอบประมาณ 3,000 คนด้วย โดยสถานที่ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะใช้เป็นสถานที่สอบของนักเรียน 13,000 คน คือ

1. โรงเรียนสาธิตมอดินแดง
2. วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออกเฉียงเหนือขอนแก่น
3. โรงเรียนสนามบินขอนแก่น
4. โรงเรียนแก่นครวิทยาลัย
5. โรงเรียนกัลยาณวัตร
6. โรงเรียน ขามแก่นนคร
7. โรงเรียนวัดกลาง ซึ่งปัญหาที่จะตามมาคือเรื่องที่พัก การจราจร , อาหาร , ความปลอดภัยในเรื่อง และทรัพย์สิน ที่จอดรถ เส้นทางจราจร

รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า การมีผู้มาเยือนจำนวนกว่า 15,000 คน ในระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2556 ที่จะถึงนี้ จะเป็นงานแรกที่คณะทำงานขับเคลื่อนขอนแก่นนครแห่ง MICE ในการที่จะวางแผนจัดระบบการจราจร, ที่พัก, ร้านอาหาร, พาหนะในการเดินทาง เส้นทางในเดินทาง ที่จอดรถและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ในช่วงดังกล่าวจังหวัดขอนแก่นก็อยากจะขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนชาวขอนแก่นในการเป็นเจ้าบ้าที่ดีในการต้อนรับผู้มาเยือนให้บริการอย่างเป็นธรรม ไม่เอาเปรียบ เป็นมิตรไมตรี, บอกเส้นทาง และแนะนำเส้นทางให้ผู้ที่เดินทางมาสู่ขอนแก่น และหลีกเลี่ยงเส้นทางที่เป็นสถานที่สอบทั้ง 7 แห่ง เพื่อป้องกันการจราจรที่ติดขัดระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2556




สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/อารมย์/พิมพ์/21 ส.ค. 2556

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเยี่ยมชมโครงการเกษตรพัฒนาอำเภอซำสูง

วันนี้ ( 21 สิงหาคม 2556 ) เวลา 12.30 น. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เยี่ยมชมดูงานปุ๋ยสั่งตัด เยี่ยมชมแปลงปลูกผักกลางมุ้ง ปลูกหญ้าแฝกโครงการเกษตรพัฒนาอำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น ที่บ้านหม้อ ตำบลคำคู อำเภอซำสูง จังหวัดขอนแก่น ซึ่งอำเภอซำสูงพัฒนาเชิงบูรณาการให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของส่วนราชการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ใน จ.ขอนแก่นอย่างครบวงจร มีแหล่งน้ำที่สมบูรณ์และเพียงพอ ให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรและอาหารให้ได้มาตรฐานปลอดภัย รองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน สำหรับปีงบประมาณ 2556 จ.ขอนแก่น หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ดำเนินโครงการเกษตรพัฒนา จำเป็นต้องมีปัจจัยพื้นฐานอย่างครบถ้วน ในการสร้างคน ฟื้นดิน เพิ่มผลผลิตพืชเศรษฐกิจ ทั้งในเรื่องของดิน น้ำ พืช การส่งเสริม ตลอดจนความเข้มแข็งของภาคประชาชน จึงมีนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บูรณาการภารกิจต่างๆ ของตนเอง เพื่อพัฒนาการเกษตรร่วมกัน เช่น กรมพัฒนาที่ดิน กรมชลประทาน กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ ฯลฯ วันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เยี่ยมชมการปลูกผักปลอดสารพิษแปลงปลูกดอกขจร ของนายสุนัน เป้าหอม บ้านหม้อ ตำบลคำคู การปลูกผักกลางมุ้งปลอดสารพิษ ร่วมกิจกรรมการปลูกหญ้าแฝกอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อการใช้ประโยชน์หญ้าแฝกรักษาความชุ่มชื้นของดิน รวมทั้งชุมการสาธิต การทำปุ๋ยสั่งตัดช่วยลดต้นทุนการผลิตด้วยการใช้แม่ปุ๋ยผสมเองซึ่งไม่มีวัสดุตัวเติมที่เพิ่มต้นทุน ลดปัญหาโรคแมลงศัตรูพืช ได้ผลผลิตสูงแก้ปัญหาราคาปุ๋ยแพง ปุ๋ยไม่ถูกสูตร ใส่ปุ๋ยธาตุเอ็น-พี-เค-ที่พอดีกับความต้องการของพืช ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ทดลองผสมปุ๋ยเองด้วย




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นแชมป์การส่งข่าวทาง Prd News Data Center ของสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

วันนี้ (21 ส.ค. 2556) ทางสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ได้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการเรื่อง การบริหารจัดการข้อมูลข่าวสาร ผ่านระบบ Prd News Data Center ที่หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นประธานการประชุมซึ่งผู้ร่วมการประชุมมีรองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้บริหาร ประชาสัมพันธ์จังหวัด บก.ข่าวทีวี นายช่างไฟฟ้า ช่างภาพ ผู้ปฏิบัติงานข่าวของกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศกว่า 200 คน งานดังกล่าวเป็นการพัฒนางานข่าวให้มีประสิทธิภาพในการส่งข่าว มีความทันสมัยและก้าวสู่เทคโนโลยีด้านข่าวสาร และในงานดังกล่าวทางสำนักข่าวได้มีการประกาศผลการส่งข่าวแบบใหม่ทางPrd news data center ปรากฎว่าสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่นมีการส่งข่าวในะระบบใหม่นี้มากที่สุดซึ่งเริ่มทดลองใช้ตั้งแต่เดือนมิถุนายน เป็นต้นมา

กรมประชาสัมพันธ์ประชุมพัฒนาการส่งข่าวของบุคคลากรเพื่อพัฒนางานข่าวให้เป็นมืออาชีพรองรับทีวีระบบดิจิตอล

นายอภินันท์ จันทรังษี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ ในการบริหารจัดการข้อมูลข่าวสาร ผ่านระบบ PRD News Data Center ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อให้การปฏิบัติการด้านการข่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดเป็นพลังขององค์กร มีความน่าเชื่อถือสำหรับผู้บริโภคข้อมูลข่าวสาร และสามารถอ้างอิงได้ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาสร้างบ้านเมือง ในด้านการข่าว ของทางราชการเพียงองค์กรเดียว มีจุดแข็งทั้งบุคลากร อุปกรณ์และระบบต่างๆ ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะบุคลากรที่มากด้วยประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ ดังนั้น จะต้องใช้จุดแข็งนี้เพื่อให้งานด้านการข่าวเกิดความรวดเร็ว ตรงเป้าหมายและชัดเจน

อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวอีกว่า การประชุมในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดี ในการที่ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติด้านการข่าว จากส่วนกลางและภูมิภาคทุกจังหวัด มาร่วมระดมความคิด ร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้งการพัฒนางานข่าวให้ทันสมัยก้าวทันเทคโนโลยี รับทีวีดิจิตอลที่นำมาใช้ในปัจจุบันแล้ว

กาชาดขอนแก่นเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถที่อุบลรัตน์

นางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะ ดำเนินการตามโครงการเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบทุนอาหารกลางวัน และมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงพระเจริญพระชนมพรรษา ๘๑ พรรษา ในปี ๒๕๕๖ ณ โรงเรียนบ้านหนองแสงน้อย ม.๖ ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นมอบผ้าห่มกันหนาวและชุดนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร อ.เวียงเก่า

นางนิภา สุวรรณสุจริต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยว่า ด้วยสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่นจัดโครงการเลี้ยงอาหารกลางวัน มอบทุนอาหารกลางวันและมอบทุนการศึกษาแก่เด็กนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา ปี 2556 โครงการส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุหรือผู้พิการและโครงการกาชาดใส่ใจให้ที่อยู่อาศัย”เฮือนกาชาด” เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันนี้ (21 สค. 56) ที่อำเภอเวียงเก่า โดยมอบชุดนักเรียน จำนวน 100 ชุด ชาย 50 ชุด หญิง 50 ชุด ผ่าห่มกันหนาว 20 ชุด



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

ศาลอุธรณ์ภาค 4 พิพากษาคดีเผา NBT ขอนแก่น โทษจำคุก 16 ปี ไม่ต้องรอลงอาญา

ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาคดีเผาสถานีโทรทัศน์ NBT ขอนแก่นและฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งลงโทษ 16 ปี โดยไม่รอลงอาญา

จากกรณีที่นายอุดม คำมูล หนึ่งในจำเลยคดีเผาสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีหรืออาคารสำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 1ขอนแก่นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาล หลังศาลจังหวัดขอนแก่นได้พิจารณาตัดสินเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม2555 ว่ามีความผิดในข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป และข้อหาร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ โดยศาลตัดสินลงโทษจำคุก 2 ปี โดยไม่รอการลงอาญา

ล่าสุดวานนี้( 20 ส.ค.) ศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้นัดฟังคำพิพากษา แต่จำเลยและผู้ประกันไม่เดินทางมาตามนัดหมาย มีเพียงนายบุญยง แก้วฝ่ายนอก ทนายความของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. ภาคอีสาน มาชี้แจงกับศาลแทน จากนั้นศาลจึงให้นายบุญยง ได้เจรจาต่อรองศาล พร้อมกับนัดฟังคำพิพากษาในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ เมื่อถึงเวลานัด ผู้พิพากษาได้ออกนั่งบัลลังก์ที่ 6 มีนายอุดม คำมูล จำเลยและทนายความรับฟังการอ่านคำพิพากษา โดยผู้พิพากษาได้อ่านคำตัดสินใจความโดยสรุปว่า จำเลยมีความผิดในข้อหาร่วมกันมั่วสุมได้ฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และกระทำการอันยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ที่บริเวณอาคารสำนักประชาสัมพันธ์เขต1 อันเป็นการฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและข้อกำหนดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจำเลยกับพวกได้ใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่ขวัญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จึงพิพากษาให้จำเลยมีความผิดและตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 16 ปี แต่จำเลยมีเหตุบรรเทาโทษจากคำให้การในชั้นสอบสวน จึงลดโทษลง 1 ใน 3 เหลือจำคุก 10 ปี 6 เดือน โดยไม่รอการลงโทษทนายกล่าวภายหลังการฟังคำพิพากษาว่า แนวทางต่อไปคือการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อยื่นต่อสู้ในชั้นศาลฎีกาและมองว่าจำเลยยังได้รับความเมตตาจากศาลอุทธรณ์ เมื่อเทียบกันกับจำเลยคนอื่นในข้อหาเดียวกันของพื้นที่อื่นๆ ที่ตัดสินไปแล้วก่อนหน้านี้




ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

วิทยาลัยในเครือ N – TECH อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด จัดงานวันแม่แห่งชาติ

วันนี้ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีเอ็น – เทคอินเตอร์เนชั่นแนล อ.เซกา จ.บึงกาฬ ได้มีการจัดกิจกรรม งานวันแม่แห่งชาติวิทยาลัยฯในกลุ่ม N – TECH อินเตอร์กรุ๊ป จำกัดโดยได้รับเกียรติจาก ดร.เกษม สดงาม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธานเปิดงาน

ดร.เกษม สดงาม ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ได้มีโอกาส เดินทางมาเป็นประธานในงานวันแม่แห่งชาติวิทยาลัยฯในกลุ่ม N – TECH อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด และได้เห็นการศึกษาในภาคเอกชนที่มีการพัฒนาเป็นอย่างมาก การปรับหลักสูตรการเรียน การสอนที่มุ่งเน้นไปที่นักเรียน – นักศึกษา มีอาจารย์ที่เป็นชาวต่างชาติ ในหลาย ๆ ชาติ เช่น อังกฤษ จีน เวียดนาม เป็นต้น ที่มาสอนนักศึกษาในวิทยาลัยในเครือ N – TECH อินเตอร์กรุ๊ป นับว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก

ด้าน ดร.ทัศณีย์ แสณจันทร์ ประธานกรรมการบริหารวิทยาลัยในกลุ่ม N – TECH อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ในฐานะที่ได้รับเลือกเป็นแม่ดีเด่นแห่งชาติ ของจังหวัดบึงกาฬ ในสาขาบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะ ก็รู้สึกดีใจ และมีความตั้งใจในการที่จะดูแลลูก ๆให้เป็นคนดีของประเทศชาติ สร้างประโยชน์ให้มากที่สุด แม้แต่ลูกที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็บริจาคร่างกายให้กับบุคคลอื่นให้ใช้ประโยชน์ต่อไป และฝากถึงคุณแม่ท่านอื่น ๆ ก็ให้ตั้งใจเลี้ยงลูกให้เป็นคนดี เสียสละเพื่อประเทศชาติ และพร้อมที่จะช่วยเหลือบุคคลอื่น ด้วยความเต็มใจ ดร.ทัศนีย์ แสณจันทร์ กล่าวในตอนท้ายว่า การจัดงานวันแม่ในครั้งนี้ ก็มีการมอบเกียรติบัตร แม่ดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๖ ให้กับแม่ของนักศึกษา และมอบรางวัลประกวดเรียงความ และกลอนสุภาพวันแม่ ให้กับนักศึกษาในวิทยาลัยด้วย




ข่าว/ ส.ปชส.บึงกาฬ

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬออกหน่วยเคลื่อนที่ท่ามกลางสายฝน

วันนี้ (๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๖) เวลา ๐๘.๓๐ น. นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้นำหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ออกบริการประชาชนตามโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ประจำปี ๒๕๕๖ ณ โรงเรียนบ้านใหม่ศรีชมพู ตำบลป่าแฝก อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ ทั้งนี้โดยมีนายพูลสุข เพียรพิทักษ์ นายอำเภอพรเจริญ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการในระดับอำเภอพรเจริญทุกหน่วยงาน และ พี่น้องประชาชนชาวตำบลป่าแฝก อำเภอพรเจริญ จำนวนประมาณ ๑,๐๐๐ คน มาร่วมต้อนรับและมารับบริการต่างๆ จากหน่วยงานของจังหวัดบึงกาฬ

นายอำเภอพรเจริญได้รายงานข้อมูลของตำบลป่าแฝกให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬรับทราบว่า ตำบลป่าแฝกอยู่ห่างจากตัวจังหวัดบึงกาฬ ๔๐ กิโลเมตร เป็น ๑ ใน ๗ ของตำบลที่มีอยู่ของอำเภอพรเจริญ มีพื้นที่ ๔๔ ตารางกิโลเมตร หรือ ๒๗,๕๐๐ ไร่ มีประชากร ๕๗,๗๖๐ คน มีแหล่งน้ำเพื่อการดำรงชีวิตของประชาชนจำนวน ๗ แห่ง ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพสวนยาง โดยมีสวนยางถึง ๑๘,๖๖๒ ไร่ รองลงมาคือทำนา จำนวน ๓,๗๓๕ ไร่ ทำปาล์มน้ำมัน ๕๒ ไร่ ปลูกเงาะ ๔๐ ไร่ ปัญหาของตำบลป่าแฝกประกอบด้วยน้ำทำการเกษตรไม่เพียงพอ ราคาผลผลิตตกต่ำ ราษฎรส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน ถนนหนทางในหมู่บ้านไม่สะดวกต่อการคมนาคม ขาดแคลนไฟฟ้าโดยเฉพาะในพื้นที่เกษตร และปัญหาสุดท้ายคือ ราษฎรส่วนหนึ่งนิยมเล่นการพนัน ในส่วนของรายได้ของประชากรของป่าแฝกมีรายได้ ครัวเรือนละ ๖๐,๐๐๐ กว่าบาทต่อปี ซึ่งเกินเกณฑ์มาตรฐาน จปฐ. แต่ยังคงมีบางครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า ๒๐,๐๐๐ บาทต่อปี จำนวน ๑๐ ครัวเรือน ทั้งนี้นายอำเภอได้แนะนำครัวเรือนที่ยากจนให้สมัครเป็นสมาชิกกลุ่ม โอทอปของอำเภอ ซึ่งมีอยู่ ๘ กลุ่ม โดยในปี ๒๕๕๕ มียอดการจำหน่ายสินค้าโอทอปสูงถึง ๑ ล้านกว่าบาท

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬรับที่จะนำปัญหาความเดือนร้อนต่างๆ ของราษฎรไปแก้ไขกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬยังได้ฝากพี่น้องราษฎรให้ร่วมกันพัฒนาหมู่บ้าน โดยอาศัย "แผนชุมชน” ในการเข้าจัดการภายในหมู่บ้านแผนชุมชน คือ แผนที่รวบรวมข้อมูลความต้องการ ปัญหา ทางแก้ไขที่ประชาชนทุกคนจะต้องระดมสมองคิดขึ้นมา ทุกคนต้องยอมรับว่า ในหมู่บ้านมีปัญหา และต้องหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน โดยการนำมาคุยกันในชุมชนว่า ตัวเราเองจะทำอะไรได้บ้างในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หากเกินกำลังจึงค่อยขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ต่อไป ทั้งนี้โดยยึดหลักการประชาธิปไตยในการจัดทำ แผนชุมชน

บึงกาฬคัดเลือกศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมดีเด่นปีงบประมาณ ๒๕๕๖ เสร็จแล้ว

เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ ห้องประชุมสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ ได้มีการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬประจำปี ๒๕๕๖ โดยมี
นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานการประชุม การประชุมครั้งนี้มีขึ้นเนื่องจาก สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม มอบนโยบายให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัดนำแนวทางเฝ้าระวัง ดูแล พฤติกรรมที่เบี่ยงเบนทางสังคมและวัฒนธรรมอันเกิดจากโลกในยุคไร้พรมแดน ทำให้วัฒนธรรมจากต่างแดนที่ไม่เหมาะสมไหลบ่าเข้ามาในสังคมไทย ทำให้เกิดผลกระทบต่อวัฒนธรรมท้องถิ่นซึ่งเป็นรากเหง้าของวัฒนธรรมที่บรรพบุรุษได้กลั่นกรองเลือกสรรและปฏิบัติเป็นแบบแผนมาแต่โบราณกาลซึ่งถือว่าเป็นวัฒนธรรมที่เหมาะสมกับท้องถิ่นนั้นๆ เมื่อมีวัฒนธรรมจากต่างแดนเข้ามาคุกคามทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา อาทิ ปัญหาอาชญากรรม ปัญหายาเสพติด ความเสื่อมโทรมทางศีลธรรม ฯลฯ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดบึงกาฬ จึงได้ดำเนินโครงการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรมและสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม จังหวัดบึงกาฬ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ขึ้น เพื่อสอดส่อง ดูแล พฤติกรรม วัฒนธรรมต่างๆ ในพื้นที่ที่เบี่ยงเบนไปจากวัฒนธรรมท้องถิ่นเดิม โดยมีกิจกรรมดำเนินการดังนี้ ๑. การคัดเลือก/ตัดสินศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมดีเด่น ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ ๒. การสนับสนุนศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมดีเด่น ให้เป็นศูนย์ฯนำร่องในการเฝ้าระวังฯ ๓. การประชาสัมพันธ์/รณรงค์ ส่งเสริม ปลูกจิตสำนึกการเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในสังคม ชุมขน ๔. การขยายเครือข่ายเฝ้าระวังทางวัฒนธรรม โดยการจัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมในจังหวัดเพิ่มมากขึ้นให้ครอบคลุมทุกพื้นที่

สำหรับการคัดเลือกศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมดีเด่นจังหวัดบึงกาฬประจำปี ๒๕๕๖ นั้น ที่ประชุมได้คัดเลือก ๑. ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมเทศบาลตำบลหอคำ (อำเภอเมืองบึงกาฬ) ๒. ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมโรงเรียนบ้านห้วยก้านเหลือง (อำเภอปากคาด) ๓. ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมโรงเรียนบ้านโนนสูงสุขสมบูรณ์ (อำเภอเซกา) ๔. ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมโรงเรียนโซ่พิสัยพิทยาคม (อำเภอโซ่พิสัย) ๕. ศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมโรงเรียนบ้านนาเหว่อโนนอุดม (อำเภอโซ่พิสัย) ให้เป็นศูนย์เฝ้าระวังทางวัฒนธรรมดีเด่นของจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งทุกศูนย์ที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับเงินรางวัลสนับสนุนการดำเนินงาน ศูนย์ละ ๔,๐๐๐ บาทพร้อมเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติ

ตร.ภูธรเมืองมหาสารคามจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์นำเงินไปเล่นการพนัน

ตร.ภูธรเมืองมหาสารคาม แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชน สารภาพนำเงินไปซื่อยาเสพติด เที่ยวเตร่และเล่นการพนัน

พล.ต.ต เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม พ.ต.อ. อุดมศักดิ์ เปลี่ยนขำ ผกก.สภ.เมือง จ.มหาสารคาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายยุทธพล หรือ ต้น สารารัตน์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 ซอย 4 ถนนนครสวรรค์ ต.ตลาด จ. มหาสารคาม ในข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน หรือรับของโจร ตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม

ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ เหตุลักทรัพย์ตามหอพักและบ้านเรือนในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม ต่อทางพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม จำนวนหลายราย ชุดสืบสวน จึงได้สอบสวนหาข่าวจากสาย ร้านขายฝากและกล้องวงจรปิดในสถานที่เกิดขึ้น จนสืบได้ว่าผู้ต้องหาคือนายยุทธพล หรือ ต้น และก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุม ผู้ต้องหา ในข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจร ไปดำเนินคดีเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ที่ผ่านและได้ให้การซัดทอดว่า นายยุทธพล ว่าเป็นคนนำทรัพย์สินมาขายให้ เจ้าหน้าที่จึงนำภาพวงจรปิดของร้านขายของฝาก มาตรวจสอบพบว่าเป็นนายยุทธพล จริง จึงได้ขอหมายศาลเข้าจับกุมดังกล่าว

จากการสอบสวน นายยุทธพล ให้การรับสารภาพว่า เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ทั้งในเขตอำเภอเมืองและ อำเภอกันทรวิชัย เงินที่ได้ก็จะนำไปแบ่งกับเพื่อนที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ เพื่อนำเงินไปซื้อยาเสพติด เที่ยวเตร่ และเล่นการพนัน เจ้าหน้าที่จึงได้นำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผลการแข่งขันโอลิมปิคหุ่นยนต์ ประจำปี 2556 สนามภาคอีสาน

ผลการแข่งขันโอลิมปิคหุ่นยนต์ ประจำปี 2556 สนามภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมโรโบแม็ค A+ จากโรงเรียนโรโบแม็คโคราช รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ทีมหลานย่าโม จากโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต และ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ทีม CHULO จากโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จังหวัดเลย ทั้ง 3 ทีมได้รับสิทธิเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายที่กรุงเทพมหานคร

ตามที่ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สถาบันพัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และบริษัทแกมมาโก้ (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดโครงการแข่งขันโอลิมปิคหุ่นยนต์ ประจำปี 2556 WRO 2013 : World Robot Olympiad 2013 สนามชิงแชมป์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 19-20 สิงหาคม 2556 ณ อาคารพลศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ผลการแข่งขัน WRO ประเภทหุ่นยนต์อัตโนมัติ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชนะเลิศ ได้แก่ ทีมโรโบแม็ค A+ จากโรงเรียนโรโบแม็คโคราช รับถ้วยรางวัลเลโก้, เหรียญทอง WRO, เกียรติบัตร, ป้ายประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 10,000 บาท

- รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีมเด็กสกล จากโรงเรียนอนุบาลสกลนคร รับเหรียญเงิน WRO, เกียรติบัตร, ป้ายประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 7,000 บาท

- รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีมอเวนเจอร์ดีที จากโรงเรียนอนุบาลสกลนคร รับเหรียญเงินWRO, เกียรติบัตร, ป้ายประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 5,000 บาท


ผลการแข่งขัน WRO ประเภทหุ่นยนต์อัตโนมัติ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมหลานย่าโม จากโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต รับถ้วยรางวัลเลโก้, เหรียญทอง WRO, เกียรติบัตร, ป้ายประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 10,000 บาท

- รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีมบานปลาย จากโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต รับเหรียญเงินWRO, เกียรติบัตร, ป้ายประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 7,000 บาท

- รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีมรู้นะคิดอะไรอยู่ จากโรงเรียนศูนย์หุ่นยนต์ไทยบริดจสโตน รับเหรียญเงิน WRO, เกียรติบัตร, ป้ายประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 5,000 บาท


ผลการแข่งขัน WRO ประเภทหุ่นยนต์อัตโนมัติ รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีม CHULO จากโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยเลย รับถ้วยรางวัลเลโก้, เหรียญทอง WRO, เกียรติบัตร, ป้ายประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 10,000 บาท          

- รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีมอืดอาด จากโรงเรียนศูนย์หุ่นยนต์ไทยบริดจสโตน รับเหรียญเงิน WRO, เกียรติบัตร, ป้ายประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 7,000 บาท

- รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีมเอาจริงแล้วนะ จากโรงเรียนศูนย์หุ่นยนต์ไทยบริดจสโตน รับเหรียญเงิน WRO, เกียรติบัตร, ป้ายประกาศเกียรติคุณ และเงินรางวัล 5,000 บาท

- รางวัลพิเศษ PEOPLE CHOICE AWARDS ขวัญใจมหาชน ได้แก่ ทีมทำดีได้ดี จากโรงเรียนศูนย์หุ่นยนต์ไทยบริดจสโตน รับเสื้อ WRO และหมวก WRO พร้อมเกียรติบัตร

- รางวัลพิเศษ REFEREE AWARDS ขวัญใจกรรมการ ได้แก่ ทีม SG1 จากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล รับเสื้อ WRO และหมวก WRO พร้อมเกียรติบัตร

- รางวัลพิเศษ VOLUNTEER AWARDS ขวัญใจทีมงาน ได้แก่ ทีมสารคามโรบอท 2 จากไดเอ็ด โรบอท ชายรับเสื้อ WRO และหมวก WRO พร้อมเกียรติบัตร


ซึ่งทีมชนะเลิศแต่ละรุ่น จะได้รับสิทธิเข้าแข่งขันรอบสุดท้ายที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 4-6 กันยายน เพื่อคัดเลือกตัวแทนประเทศไทยแข่งขันระดับโลกที่ประเทศอินโดนีเซีย




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าฯมหาสารคาม นำพุทธศาสนิกชนร่วมปฏิบัติธรรมในวันพระที่อำเภอเชียงยืน

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นำข้าราชการและพุทธศาสนิกชน ร่วมปฏิบัติธรรม ถวายภัตตาหารเพลในวันธรรมสวนะ ตามโครงการรณรงค์ข้าราชการเข้าวัดทำบุญ ในเทศกาลเข้าพรรษา จังหวัดมหาสารคาม ปี 2556 ที่วัดปัจจิมเชียงยืน  อำเภอเชียงยืน

(21-8-56) ที่วัดปัจจิมเชียงยืน อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม พระเทพสิทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดมหาสารคาม นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ว่าที่ ร.ต.ธรรมศิฑชัย สามกษัตริย์ นายอำเภอเชียงยืน นำข้าราชการ พุทธศาสนิกชน ที่นุ่งขาว ห่มขาว ตลอดจนผู้นำท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษา เข้าวัดปฏิบัติธรรม ถวายภัตตาหารเพล ตามโครงการรณรงค์ข้าราชการเข้าวัดปฏิบัติธรรมในเทศกาล เข้าพรรษา ปี 2556 โดยมีพระครูโพธิบุญวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอเชียงยืน กล่าวสัมโมทนียกถา ในโอกาสที่ได้มาร่วมทำบุญในวันนี้

โครงการรณรงค์ข้าราชการเข้าวัดปฏิบัติธรรมในเทศกาลเข้าพรรษา 2556 จังหวัดมหาสารคาม จัดขึ้นเพื่อเพื่อรณรงค์และเปิดโอกาสให้ส่วนราชการต่างๆ มีโอกาสเข้าวัดในวันธรรมสวนะหรือวันพระ เพื่อประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาและส่งเสริมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาให้กับวัดในจังหวัดมหาสารคามโดยจะหมุนเวียนไปตามวัด ต่าง ๆ ในจังหวัดมหาสารคามตลอดฤดูกาลเข้าพรรษา




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

อบจ.มหาสารคาม เปิด MK Park จัดสภากาแฟ แนะนำแหล่งเรียนรูของชาวมหาสารคาม

อบจ.มหาสารคาม เป็นเจ้าภาพจัดสภากาแฟ โดยเปิดอุทยานการเรียนรู้ (MK Park) เป็นสถานที่จัดกิจกรรม แนะนำแหล่งเรียนรู้ของชาวมหาสารคาม ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ระบุมีการทบทวนยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดโดยให้ความสำคัญทางการศึกษาทุกระดับ

ที่บริเวณอุทยานการเรียนรู้มหาสารคาม หรือ MK Park ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ปรับสถานที่จากศาลากลางจังหวัดมหาสารคามหลังเดิมให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านต่าง ๆ ของเยาวชนและประชาชนทั่วไป ได้เปิดให้เป็นสถานที่ในการจัดสภากาแฟจังหวัดมหาสารคาม ประจำเดือนสิงหาคม 2556 โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม เป็นเจ้าภาพ มีนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยส่วนราชการ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้แทนสถานศึกษา ร่วมพบปะสังสรรค์ และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารผ่านเวทีดังกล่าว

นางคมคาย อุดรพิมพ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สำหรับอุทยานการเรียนรู้จังหวัดมหาสารคาม แห่งนี้ เดิมเป็นอาคารศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ซึ่งจังหวัดได้ยกให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดกำกับดูแล จึงได้ปรับพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แต่ยังคงอนุรักษ์สภาพอาคารไว้เช่นเดิม โดยภายในสถานที่แห่งนี้ นอกจากจะจัดเป็นโซนนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับจังหวัดมหาสารคาม และความรู้อื่น ๆ แล้ว ยังมีมุมไอทีให้บริการเยาวชนและประชาชนทั่วไป โดยเปิดให้บริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-19.00 น.

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวเชิญชวนผู้สนใจให้มาศึกษาและเยี่ยมชมอุทยานการเรียนรู้ พร้อมทั้งได้เตรียมปรับยุทธศาสตร์จังหวัดมหาสารคามในด้านการศึกษาที่เน้นให้เป็นศูนย์กลางทางการศึกษาในภูมิภาคพร้อมพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี พ.ศ. 2558 ด้วย




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว