วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

จังหวัดมุกดาหาร จัดกิจกรรมแถลงข่าว “เตรียมความพร้อมเกษตรไทย เริ่มต้นใหม่ฤดูการผลิต” เนื่องในโอกาสวันพระราชพิธีมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

วันนี้ (๖ พ.ค. ๒๕๕๗) เวลา ๑๓.๐๐ น. นายสกลสฤษฏ์  บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร แถลงข่าว "เตรียมความพร้อมเกษตรไทย เริ่มต้นใหม่ฤดูการผลิต” เนื่องในโอกาสวันพระราชพิธีมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ ห้องประชุม ๒๐๒ ศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตร และสื่อมวลชน ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหารเพื่อยกระดับและเพิ่มศักยภาพการผลิตทั้ง ด้านพืช ด้านปศุสัตว์ และประมง ให้สามารถแข่งขันในตลาดทั้งในและต่างประเทศนำไปสู่ความก้าวหน้าของเกษตรกรของจังหวัดมุกดาหาร

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมตั้งอยู่ในแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อการพัฒนาสู่ประชาคมโลกอย่างยั่งยืน โดยมีความตั้งใจที่ต้องการสื่อสารให้พี่น้องเกษตรกรได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็ว เกี่ยวกับการผลิต (ต้นน้ำ) การแปรรูป (กลางน้ำ) การตลาด (ปลายน้ำ) รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ ที่นำมาปรับปรุงพัฒนาวิธีการผลิตให้มีคุณภาพได้มาตรฐานเป็นที่ต้องการของตลาด และการลดต้นทุนการผลิต ที่สำคัญเน้นการผลิตที่ปลอดภัยไร้สารเคมี และขอให้เกษตรกรได้มีความมั่นใจว่า จังหวัดมุกดาหารมีความห่วงใยและให้ความสำคัญในการประกอบการอาชีพด้านการเกษตรกรรมของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดมุกดาหาร ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และร่วมเป็นกำลังของชาติร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ



สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดาหาร/ข่าว
ทศพร   โล่ห์เงิน นักศึกษาฝึกงาน/ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร นำส่วนราชการร่วมกิจกรรมโครงการ “ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัดทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีวิถีพุทธ”

วันนี้ (๖ พ.ค. ๕๗) เวลา ๐๗.๓๐ น. (ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖)  นายสกลสฤษฏ์ บุญประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วย นางณิทฐา แสวงทอง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดมุกดาหาร นำส่วนราชการพร้อมพุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญตามโครงการ "ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัด ทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีตามวิถีพุทธ” ณ วัดเหล่าต้นยม ตำบลหนองแวง อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมุกดาหาร

นายศุภเดช การถัก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า โครงการ "ผู้ว่าฯ พาเยี่ยมวัด ทำบุญสืบสานวัฒนธรรมประเพณีตามวิถีพุทธ” เป็นโครงการที่จังหวัดมุกดาหาร โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร จัดขึ้นทุกวันพระ โดยหมุนเวียนไปตามวัดต่างๆ ทั้ง ๗ อำเภอ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อส่งเสริมให้ข้าราชการจากส่วนราชการต่างๆ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ ได้มีโอกาสเข้าวัด ทำบุญตักบาตร รับศีล ฟังธรรม ในวันธรรมสวนะ เพื่อนำหลักธรรมคำสอนของศาสนาไปปรับใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน สืบสานวัฒนธรรมประเพณีวิถีพุทธอันดีงามให้คงอยู่คู่ชุมชนสืบไป

สำหรับครั้งต่อไป กำหนดจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ (ตรงกับวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๖) ที่วัดโพธิ์ชัย ตำบลบางทรายใหญ่ อำเภอเมือง จังหวดมุกดาหาร ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนในพื้นที่และใกล้เคียง อำเภอเมือง ร่วมทำบุญตักบาตร รับศีล ฟังธรรม ในวันธรรมสวนะ เพื่อเป็นสิริมงคล โดยพร้อมเพรียงกัน




สุภาวดี  อัมไพพันธ์ ส.ปชส.มุกดหาร/ข่าว
พิพัฒน์  เพชรสังหาร/ภาพ

ร้อยเอ็ดเดินหน้าเตรียมความพร้อมเกษตรกรเริ่มต้นใหม่สู่ฤดูกาลผลิต ปี 2557/2558

วันนี้ (6/06/57) นายไกรสร กองฉลาด ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานแถลงข่าวการสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรเพื่อเตรียมความพร้อมเกษตรไทยเริ่มต้นใหม่สู่ฤดูการผลิตของจังหวัดร้อยเอ็ด ณ ห้องประชุมพระเวสสันดร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าวประกอบด้วย นางสาวนลินรัตน์ ศุภวันต์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด นายวสันต์ สวัสดิ์รัมย์ เกษตรจังหวัดร้อยเอ็ด นายชาติชาย ปะสาละวัน ผู้อำนวยการสถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด นางพัชราภรณ์ ไชโยราช ผู้อำนวยการศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวร้อยเอ็ด และนายเชษฐา ไพศาล นักวิชาการสหกรณ์ ชำนาญการ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการให้บริการเกษตรกร และแนวทางการสนับสนุนการผลิตทางการเกษตรในฤดูกาลผลิต ปี 2557/2558 สำหรับประเด็นที่ได้มีการแถลงข่าวในวันนี้ ประกอบด้วย แนวทางการพัฒนาการผลิตและการตลาดสินค้าข้าวจังหวัดร้อยเอ็ด,การจัดการดินเพื่อการปลูกข้าว,การคัดเลือกพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี,เทคโนโลยีการลิตข้าว และการรวมกลุ่มและการแปรรูปผลผลิต

นายไกรสร กองฉลาด ปลัดจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดมีพื้นที่ปลูกข้าว 3.6 ล้านไร่ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิมีพื้นที่ปลูกจำนวน 2.8 ล้านไร่ เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิในเขตทุ่งกุลาร้องไห้จำนวนมากที่สุดและมีชื่อเสียงโด่งดังระดับประเทศ และเป็นที่รู้จักไปจนถึงระดับโลก จึงเป็นที่มาของการกำหนดวิสัยทัศน์ "เป็นผู้นำการผลิตข้าวหอมมะลิสู่สากล พัฒนาคนและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” การคัดเลือกพันธุ์ข้าวพันธุ์ดี และการจัดการดินเพื่อการปลูกข้าว ตลอดจนการรวมกลุ่มและการแปรรูปผลผลิต จึงเป็นแนวทางการพัฒนาการผลิตและการตลาดสินค้าข้าวของจังหวัดร้อยเอ็ดไปสู่การเกษตรกรอย่างยั่งยืน และสามารถเพิ่มผลผลิตข้าวแก่เกษตรกรและผลผลิตโดยรวมของจังหวัดร้อยเอ็ด ตามเป้าหมายของเกษตรและสหกรณ์ ต่อไป




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมลพร คำนึง/บก.ข่าว
6 พ.ค. 57

มูลนิธิหน่วยแพทย์และทันตแทพย์เคลื่อนที่ ออกให้บริการประชาชนที่อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ

พันเอก พิชิต  วันทา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3  เปิดเผยว่า   ในวันที่  17  พฤษภาคม  2557  มูลนิธิแพทย์ และทันตแทพย์เคลื่อนที่(หมอริม)  ร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3  กองกำลังสุรนารี และส่วนราชการในพื้นที่อำเภอภูสิงห์  จังหวัดศรีสะเกษ  จะออกหน่วยให้บริการทางทันตกรรม  ครั้งที่ 2  ในวันที่  17  พฤษภาคม  2557  ณ  โรงเรียนภูสิงห์ประชาเสริมวิทย์  อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ  ทั้งนี้ เพื่อให้บริการทำฟันปลอม แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยไม่คิดค่าบริการใดๆทั้งสิ้น

สำหรับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดศรีสะเกษ  ที่มีความสนใจ สามารถไปรับบริการได้ที่ โรงเรียนภูสิงห์ประชาเสริมวิทย์ อำเภอภูสิงห์ตามวันเวลาดังกล่าว งานที่ให้บริการทุกประเภทที่เกี่ยวกับงานทันตกรรม รวมถึงการใส่ฟันปลอมด้วย  โดยที่ผ่านมามูลนิธิได้มาให้บริการแล้ว 1  ครั้ง(เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2557)  แต่ยังมีหลายพื้นที่ที่ประชาชนยังไม่ทราบข่าว

ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3  ยังได้กล่าวอีกว่า  สำหรับการบริการครั้งนี้ ผู้ที่มีความต้องการ(เฉพาะบัตรทอง) จะใส่ฟันปลอมนั้น ขอให้ได้ไปเตรียมช่องปากให้พร้อมก่อนวันที่จะไปรับบริการ  โดยไปรับการเตรียมช่องปากจากทันตแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านก่อน และแจ้งกับเจ้าหน้ที่ว่าจะเตรียมช่องปากเพื่อไปใส่ฟันปลอมกับมูลนิธิแพทย์ และทันตแพทย์เคลื่อนที่(หมอริม) แล้วทางโรงพยาบาลจะดำเนินการเตรียมช่องปากให้ท่าน   และออกใบรับรองให้กับผ็ที่ไปทำ จากนั้นให้ถือใบรับรองพร้อมในวันที่ 17  พฤษภาคม  2557 ด้วย

และมูลนิธิมีกำหนดจะมาให้บริการฟรี อีก  2 ครั้ง  คือ  ครั้งที่  3 ในวันที่  7  มิถุนายน  2557  และครั้งที่  4 (ออกหน่วยใหญ่) ในวันที่ 28  มิถุนายน  2557  จะเป็นการใส่ฟันปลอมสำหรรับผู้ที่แจ้งความประสงค์ไว้แล้ว และการ บริการทันตกรรมทุกชนิดต่อไป



สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สุรศักดิ์  สร้อยเพชร / ข่าว

คณะ กรอ.ระดับจังหวัดศรีสะเกษ เร่งผลักดันเปิดจุดผ่อนปรนปราสาทพระวิหาร การใช้หนังสือผ่านแดน และเสนอให้จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ เป็นจุดผ่านแดนตามความตกลง

คณะ กรอ.ระดับจังหวัดศรีสะเกษ เร่งผลักดันเปิดจุดผ่อนปรนปราสาทพระวิหาร การใช้หนังสือผ่านแดน และเสนอให้จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ เป็นจุดผ่านแดนตามความตกลง

จังหวัดศรีสะเกษ   โดย คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัด (กรอ.)  ร่วมประชุม เพื่อพิจารณา การขอความเห็นชอบเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าและการท่องเที่ยวปราสาทพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ   การใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว(Temporary  Border  Pass) หละหนังสือผ่านแดนอิเล็คทอนิกส์(E-Border Pass)  และการเสนอให้จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ เป็นจุดผ่านแดนตามความตกลง/บันทึกความเข้าใจด้านการขนส่งทางถนน ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา

วันนี้ (6 พฤษภาคม 2557)  ณ  ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ชั้น 4  ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ  นายประทีป  กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัด(กรอ.)  โดยมีคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัด(กรอ.) ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษได้มีคำสั่งแต่งตั้งแล้วนั้น เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษา และให้ข้อเสนอแนะแก่คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ(ก.บ.จ.) ในการพัฒนาแก้ไขปัญหาและอุปสรรคด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน  และการท่องเที่ยวของจังหวัด และเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นการระดมความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อดีและข้อเสียประกอบการชี้แจงการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาต่อสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ต่อไป ประกอบด้วย  การขอความเห็นชอบเปิดจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าและการท่องเที่ยวปราสาทพระวิหาร  ตำบลเสาธงชัย  อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัด   ศรีสะเกษ,   การใช้หนังสือผ่านแดนชั่วคราว(Temporary  Border  Pass) หละหนังสือผ่านแดนอิเล็คทอนิกส์(E-Border Pass),  และการเสนอให้จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ เป็นจุดผ่านแดนตามความตกลง/บันทึกความเข้าใจด้านการขนส่งทางถนน ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา




สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สุรศักดิ์  สร้อยเพชร / ข่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนก่อสร้าง พระวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง

วันที่ 6 พ.ค. 57 ที่ วัดมหาวนาราม พระอารามหลวง จ.อุบลราชธานี นายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เป็นประธานทอดผ้าป่าสามัคคี สมทบทุนก่อสร้าง พระวิหารพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ซึ่งมี หัวหน้าส่วน ข้าราชการ ตัวแทนห้างร้าน ประชาชนชาว จ.อุบลราชธานี และพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาร่วมกันทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งจำนวนมาก โดยในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีนายวันชัย สุทธิวรชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้นำกล่าวคำถวายผ้าป่าสามัคคี และมอบปัจจัยบริจาคยอดรวมทั้งสิ้น 105,789 บาท วัดมหาวนารามหรือที่ชาวอุบลนิยมเรียกกันทั่วไปว่า "วัดป่าใหญ่” เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี อยู่ห่างไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของศาลากลางจังหวัด (หรือทุ่งศรีเมือง) ประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง นามว่า พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง วัดมหาวนาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ซึ่งเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกและแห่งเดียวของคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย

รองผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมืองตรวจเยี่ยมราชการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม โดยมีคำสั่งเพิ่มกำลังพลเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

พล.ต.ต.ณัฐธร  เพราะสุนทร  รองผู้บัญชาการตรวจคนเข้าเมืองตรวจเยี่ยมราชการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนม  ประจำปี  2557 โดยกำชับให้การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น  โดยเฉพาะการตรวจการเข้าออกของชาวต่างชาติ  รวมถึงเวียดนามเพราะเป็นการเดินทางถึงส่วนกลางของประเทศ  ซึ่งตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนมพบปัญหาคนที่ใช้พาสปอร์ตที่ไม่ตรงกับคนที่เป็นเจ้าของมาก  จึงได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน  สำหรับประเทศที่ให้ผ่านเข้าออกโดยไม่มีวีซ่านั้นต้องดูวัตถุประสงค์มาเพื่อการท่องเที่ยวหรือไม่  ต้องให้เป็นไป MOU ที่ตกลงไว้  สำหรับยาเสพติดที่แฝงมากับการเดินทางของคน  ก็ได้ทำการเฝ้าระวังจับกุม   ตามจุดต่างๆ ทั้งที่ท่าลี่  เลย บึงกาฬ  นครพนม  มุกดาหาร  โดยร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร  ตำรวจน้ำ  ตำรวจตระเวนชายแดน  ตำรวจท้องที่ ปราบปรามยาเสพติด

อย่างไรก็ตาม   ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครพนมกำลังเติบโต  เนื่องจากมีคนเข้าออกเป็นจำนวนมาก  เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนจึงได้มีคำสั่งเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ให้เพียงพอต่อการปฏิบัติงาน

การจัดงาน “ค้าส่งร่วมใจ โชว์ห่วยไทยคู่สังคม”ครั้งที่ 3

นายเกษศิริ สุวพงษ์ พัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดนครพนม แจ้งว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกับสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้แทนจำหน่าย และร้านค้าส่ง ค้าปลีกไทย ทั่วประเทศจัดกิจกรรม เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจค้าส่งปลีกไทย ครั้งที่ 3 ภายใต้ชื่องาน "ค้าส่งร่วมใจ โชว์ห่วยไทยคู่สังคม” โดยจังหวัดนครพนม จัดขึ้นที่บริษัท โดโด้ บิ๊กซุเปอร์ จำกัด ระหว่างวันที่ 20 -25 พฤษภาคม 2557

ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้า การตลาด พร้อมกันทั่วประเทศระหว่างผู้ผลิต ผู้แทนจำหน่าย และร้านค้าส่งค้าปลีกโดยหวังให้เกิดการสร้างเครือข่ายพันธมิตรที่เกื้อกูลทางการค้าซึ่งกันและกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจมีความเข้มแข็ง แข่งขันได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนจำหน่ายสินค้าในราคาพิเศษ เพื่อช่วยลดค้าครองชีพให้กับประชาชน

นอกจากการจัดกิจกรรมดังกล่าวแล้ว กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยังมุ่งสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจ ค้าส่งค้าปลีกควบคู่ไปด้วย โดยเสริมสร้างความรู้ด้านการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบมีมาตรฐานคุณภาพธุรกิจพร้อมทั้งผลัดกันให้ร้านค้าส่งเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษา แนะนำแก่ร้านค้าปลีกเครือข่ายเกี่ยวกับภาพลักษณ์ร้านค้าตามหลัก 5 ส คือ สวย สะอาด สะดวก สว่าง สบาย ตลอดจนร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน

จังหวัดขอนแก่นเตรียมพร้อมเกษตรไทยเริ่มต้นใหม่ฤดูกาลผลิต ปี 2557 ในโอกาสวันพระราชพิธี พืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

นายวินัย สิทธิมณฑล รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานแถลงข่าว  จังหวัดขอนแก่นเตรียมพร้อมเกษตรไทยเริ่มต้นใหม่ฤดูกาลผลิต ปี 2557 ในโอกาสวันพระราชพิธี พืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ โดยนำเสนอข้อมูลสินค้าเกษตรที่สำคัญของจังหวัด ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมที่จะให้บริการเกษตรกรและสนับสนุนการผลิตทางการเกษตร ในฤดูกาลผลิตปีนี้ จัดที่ห้องประชุมพระธาตุขามแก่น ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น  การแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการนำเสนอข้อมูลสินค้าเกษตรที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่นที่ทุกหน่วยงานของกระทรวงเกษตรจะให้การสนับสนุนได้ ดังนี้ การปลูกพืชเศรษฐกิจ ขอนแก่นมีพื้นที่ปลูกข้าว 2.7 ล้านไร่   ปริมาณข้าว1.15 ล้านตัน มีพื้นที่ปลูกอ้อย 6.4 แสนไร่มีผลผลิต 7 ล้านตัน  มันสำปะหลังพื้นที่เพาะปลูก 2.5 แสนไร่ ผลผลิต  9 แสนตัน ยางพาราพื้นที่ปลูก 6 หมื่น 2 พันไร่ ผลผลิต 1หมื่น 1 พันตัน ส่วนสัตว์เศรษฐกิจ มี เกษตรกรเลี้ยงโคเนื้อ38,254 ตัว มีฟาร์มโคนม 592 แห่งผลผลิตน้ำนมรวม 48,208 ตันต่อปี มี ฟาร์มสุกร  5,212 แห่งผลผลิต 5.6 แสนตัวมีฟาร์มไก่เนื้อ 23 แห่ง ผลผลิต 1.6 ล้านตัว มีฟาร์มไก่ไข่ 21 ฟาร์มผลผลิต 95 ล้านฟองต่อปี นอกจากนั้นก็มีการเลี้ยงปลา การตั้งกลุ่มโรงสี ซึ่งถือว่าขอนแก่นเป็นจังหวัดที่เหมาะกับการทำการเกษตรและปัจจุบันทางหน่วยงาน สังกัดกระทรวงเกษตรที่อยู่ในจังหวัดขอนแก่นถึง 42 หน่วยงานก็ได้เข้ามาส่งเสริม บริการให้กับเกษตรกรรวมทั้งสนับสนุนการผลิตทางการเกษตรทั้ง 3 ด้านคือการวางแผนการผลิต การหาเทคโนโลยีการผลิตทางการเกษตรที่เหมาะสม และด้านการให้บริการทางการเกษตรในพื้นที่ ซึ่งเกษตรกรสามารถเข้าถึงบริการได้และขณะนี้มีการส่งเสริมลดต้นทุนการผลิต การผลิตพื้นเกษตรที่เหมาะสมกับสภาพดินและส่งเสริมการปลูกอ้อยในนาข้าวที่ผลผลิตข้าวไม่ดี ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีทางเลือกที่ดีกว่าและภาครัฐจะสนับสนุนให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเกษตรทุกด้านโดยสามารถติดต่อได้ที่หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่อยู่ในจังหวัดขอนแก่นได้ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและทางจังหวัดขอนแก่นที่ให้การสนับสนุนทั้งบุคลากรและงบประมาณ

ผู้ว่าโคราชแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมเกษตรไทย เริ่มต้นใหม่ฤดูกาลผลิต มั่นในปี 57 เศรษฐกิจการเกษตรในพื้นที่ขยายตัว

วันนี้ (6 พ.ค. 57) เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ปฎิบัติการเตรียมความพร้อมประชาคมอาเซียน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมเกษตรไทย เริ่มต้นใหม่ฤดูกาลผลิต เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวข้องกับการทำการเกษตร ทั้งด้านพืช ด้านปศุสัตว์ ด้านประมง ด้านการตลาด การรวมกลุ่ม และอื่นๆ เพื่อเป็นข้อมูลให้เกษตรกรได้ตัดสินใจดำเนินการในเรื่องการประกอบอาชีพด้านการเกษตร ตามศักยภาพ ความรู้ ความสามารถของตนเอง เพื่อให้เกิดผลผลิตที่คุ้มค่ากับการลงทุน และได้ปัจจัยการผลิตที่ดีและเหมาะสม ก่อเกิดรายได้ประจำ สามารถดำเนินชีวิตได้ด้วยตนเองตามหลักปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียง เกิดความยั่งยืน ลดภาระการดูแลของทางราชการ

ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจการเกษตร ปี 2557 ว่า เศรษฐกิจการเกษตร ปี 2557 คาดว่าในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จะขยายตัวในช่วงร้อยละ 4.3 - 5.3 ภายใต้ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรที่ไม่ผันผวนมากนัก ทั้งในด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติ รวมถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน ราคาสินค้าเกษตรในจังหวัดและในประเทศ และต้นทุนการผลิต ซึ่งจะต้องมีการติดตามประเมินสถานการณ์ปัจจัยดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

โคราชเปิดงาน OTOP ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี ๒๕๕๗ คาดมีเงินสะพรัดไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

วันนี้ ( ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ ) ที่ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา กรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย จัดงาน OTOP ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี ๒๕๕๗ โดยมีนายขวัญชัย วงศ์นิติกร อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานในพิธีพร้อมด้วย ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และนายวีระศักดิ์ ประภาวัฒน์เวช ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชนมาร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน OTOP ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี ๒๕๕๗ ซึ่งงานกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-11 พค 2557 นี้ เพื่อสนับสนุนช่องทางตลาดเพื่อให้แต่ละชุมชนสามารถใช้ทรัพยากรภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่ในการพัฒนาสินค้า โดยหน่วยงานภาครัฐนั้นพร้อมที่จะสนับสนุนให้ชุมชนได้เข้าถึงองค์ความรู้สมัยใหม่ แหล่งเงินทุน และตลาด เพื่อให้การเชื่อมโยงสินค้าดีมีคุณภาพจากชุมชนเข้าสู่ตลาดทังภายในและต่างประเทศ และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วยการกระตุ้นการสร้างการกระตุ้นการสร้างงาน สร้างรายได้แก่ชุมชน คาดตลอดการจัดงานจะมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า50ล้านบาท โดยภายในงานจะได้พบกับสินค้า OTOP คุณภาพกว่า ๓๐๐ ร้านค้า พร้อมการแสดงศิลปวัฒนธรรมและนาฎศิลป์พื้นถิ่นประจำภาค อีกทั้งยังสนุกเพลิดเพลินกับกิจกรรมส่งเสริมการขายและกิจกรรมโชว์การแสดงพิเศษทุกวัน ภายใต้สโลแกน "ช้อป ชิม ชิล” ภายในเต้นท์ติดแอร์ และพิเศษกับกิจกรรมประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง OTOP ภาคตะวันออกเฉียงเหนือชิงเงินรางวัลรวมกว่า ๓๐,๐๐๐ บาท พร้อมถ้วยเกียรติยศจากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ ๕ พฤษภาคม ถึง วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๗ รอบรองชนะเลิศใน วันที่ ๙-๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗ และรอบชิงชนะเลิศในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ พร้อมกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง รุจ เดอะสตาร์ ในวันศุกร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๗ และปิดท้ายด้วยมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินลูกทุ่ง อาร์ม-ภูผา ชิงช้าสวรรค์ และ น้ำ บัวใหญ่ ในวันพุธที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๗ กรมการพัฒนา (พช.) กระทรวงมหาดไทย จึงขอเรียนเชิญประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมเที่ยวชมงาน OTOP ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี ๒๕๕๗ ในวันพฤหัสบดีที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗ รวมระยะเวลาการจัดงานทั้งสิ้น ๗ วัน ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อำเภอเมือง จังหวัดนคคราชสีมา

อปท.มหาสารคาม MOU แก้แล้ง แก้จน

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดมหาสารคาม MOU ระบบบริการสาธารณะแก้ไขปัญหาภัยแล้งแก่เกษตรกร "แก้แล้ง แก้จน” พร้อมส่งมอบเครื่องจักรกลขุดสระเพื่อการเกษตร พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับราษฎรในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม

(6-5-57) ที่โรงเรียนท่าขอนยางพิทยาคม นางคมคาย อุดรพิมพ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในพิธีเปิดการจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตจังหวัดมหาสารคาม ในการจัดบริการสาธารณะ ตามนโยบายแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน "แก้แล้ง แก้จน” เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริการ เกิดความคุ้มค่า มีการบริการสาธารณะที่มีมาตรฐานสูง และเกิดประโยชน์แก่ประชาชนครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยมีผู้ร่วมในการลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าวประกอบด้วย ผู้บริการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดมหาสารคาม ประกอบอาชีพทางการเกษตร และส่วนใหญ่อยู่นอกเขตชลประทาน อาศัยน้ำธรรมชาติเป็นปัจจัยหลักในการเพาะปลูก เกษตรกรจึงประสบกับปัญหาภัยแล้งซ้ำซาก และฝนทิ้งช่วง ทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ได้ผลผลิตน้อย และประสบภาวการณ์ขาดทุน องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม จึงได้มีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว เนื่องจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งมีข้อจำกัดในด้านงบประมาณจึงไม่สามารถให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนได้เพียงพอต่อปัญหาและความต้องการ ซึ่งการร่วมมือกันครั้งนี้จะเป็นประโยชน์และสามารถแก้ปัญหาแล้งซ้ำซากให้ประชาชนได้

ภายหลังพิธีลงนามตามนโยบายแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน "แก้แล้ง แก้จน” ยังได้มีพิธีส่งมอบเครื่องจักรกลขุดสระเพื่อการเกษตร เฉลิมฉลองในวาระครบรอบ "ย้อนรอยวิถี 150 ปี มหาสารคาม”ด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

มหาสารคาม ชู “ข้าวไรซ์เบอรี่” รับรองมาตรฐาน GAP ขยายตลาดในภูมิภาคและต่างประเทศ

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม ร่วมแถลงข่าวการให้บริการแก่เกษตรกรและสนับสนุนการผลิตข้าวในฤดูกาลผลิตปี 2557/58 โดยตั้งเป้าหมายผลิตข้าวคุณภาพในพื้นที่เหมาะสมกว่า 1 ล้าน 3 แสนไร่ พร้อมพัฒนาผลผลิตข้าวไรซ์เบอรี่ให้เป็นข้าวคุณภาพของจังหวัด รับรองมาตรฐานข้าว GAP ขยายไปสู่ตลาดในภูมิภาคและต่างประเทศ

(6-5-57) นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานในการแถลงข่าว จังหวัดมหาสารคามให้บริการแก่เกษตรกรและสนับสนุนการผลิตข้าวคุณภาพในฤดูกาลผลิต 2557/58 โดยมี หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนเกษตรกร และสื่อมวลชน ร่วมรับฟังการแถลงข่าว เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์และขับเคลื่อนการบริหารสินค้าข้าวของจังหวัดอย่างยั่งยืน โดยมีแผนการปลูกข้าวที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด มีการบริหารจัดการสินค้าข้าวที่สอดคล้องกับความเหมาะสมของพื้นที่ หรือโซนนิ่ง มีสายพันธุ์ข้าวที่เหมาะสมกับความต้องการของตลาด สินค้าข้าวมีปริมาณเพียงพอ คุณภาพดี ได้มาตรฐานสามารถส่งออกได้ยอย่างยั่งยืน

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากการตรวจสอบพื้นที่ปลูกข้าวของจังหวัดมหาสารคาม มีทั้งหมด 2,067,870 ไร่ เป็นพื้นที่เหมาะสม 1,385,902 ไร่ ไม่เหมาะสม 793,098 ไร่ ดังนั้นจึงได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนส่งเสริมเกษตรกรโดยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวในพื้นที่ที่เหมาะสม ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น ซึ่งได้ร่วมกับภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ดำเนินการพัฒนาทั้งผลผลิตและคุณภาพข้าวอย่างต่อเนื่อง พร้อมผลักดันข้าวไรซ์เบอรี่ ที่เป็นข้าวที่ได้จากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างข้าวหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 ให้เป็นข้าวคุณภาพดีของจังหวัดและเข้าสู่ระบบการรับรองมาตรฐาน GAP เพื่อให้สามารถขยายช่องทางการตลาดไปสู่ภูมิภาคและแข่งขันในตลาดต่างประเทศได้



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

ผู้ว่าฯ มหาสารคาม เชิญชวนพุทธศาสนิกชนนุ่งขาว ปฏิบัติธรรม ลดละเลิกอบายมุขในวันวิสาขบูชา

ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมเข้าวัด ปฏิบัติธรรม ลด ละ เลิกอบายมุข พร้อมร่วมเวียนเทียน ณ พระบรมธาตุนาดูน พุทธมณฑลอีสาน เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันวิสาขบูชาโลก

นายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการมหาสารคาม เปิดเผยว่า สัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในโอกาสวันวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก จังหวัดมหาสารคาม ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวในช่วงระหว่างวันที่ 11-17 พฤษภาคม 2557 โดยเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมกันลด ละ เลิกอบายมุข และถือศีล 5 พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อผ้าสีขาว เข้าวัดปฏิบัติธรรมตามหลักคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมนาสัมพุทธเจ้า ขณะเดียวกันก็ขอความร่วมมือผู้ประกอบการงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนการแสดงรื่นเริงในช่วงสัปดาห์ดังกล่าว

สำหรับในปี 2557 นี้ วันวิสาขบูชา ตรงกับวันอังคารที่ 13 พฤษภาคม 2557 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน จังหวัดมหาสารคาม ร่วมกับคณะสงฆ์ องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดกิจกรรมเวียนเทียนและปฏิบัติธรรม ณ บริเวณพุทธมณฑลอีสาน พระบรมธาตุนาดูน อำเภอนาดูน โดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป




ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว