วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

ยโสธรสรุปสถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด นาข้าวเสียหายกว่า 92,051 ไร่

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 กันยายน 2556 ณ ห้องแตงโมหวาน ศาลากลางจังหวัดยโสธร นายประวัติ ถีถะแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้เรียกประชุมหัวหน้าส่วนราชการแต่ละอำเภอ เพื่อรายงานสรุปสถานการณ์น้ำท่วมยโสธร เนื่องจากจังหวัดยโสธรได้ประสบภัยธรรมชาติ (อุทกภัย) ช่วงวันที่ 19 - 26 กันยายน 2556 ทำให้พื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบทำให้พื้นที่นา ครบทั้งหมด 9 อำเภอ คือ อำเภอเมืองยโสธร,15 ตำบล 120 หมู่บ้าน ,อ.คำเขื่อนแก้ว 9 ตำบล 47 หมู่บ้าน,อ.มหาชนะชัย 5 ตำบล 27 หมู่บ้าน,อ.ค้อวัง 4 ตำบล 45 หมู่บ้าน,อ.เลิงนกทา 10 ตำบล 74 หมู่บ้าน,อ.ไทยเจริญ 3 ตำบล 22 หมู่บ้าน,อ.กุดชุม 9 ตำบล 66 หมู่บ้าน,อ.ทรายมูล 5 ตำบล 19 หมู่บ้าน และป่าติ้ว 5 ตำบล 46 หมู่บ้าน พื้นที่เสียหายที่สำรวจ คาดว่าจะ พื้นที่การเกษตรเสียหาย 92,051 ไร่ ,ถนนเสียหายทั้งหมด 249 สาย, สะพาน 3 แห่ง, ฝาย 7 แห่ง และท่อระบายน้ำ 11 แห่ง

ส่วนน้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่บางส่วนของหมู่บ้าน จำนวน 4 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ที่ 1,7,9 และหมู่ที่ 10 ตำบลโพธิ์ไทร อ.ป่าติ้ว ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 321 ครัวเรือน และหมู่ที่ 5,6 ตำบลเหล่าไฮ อำเภอคำเขื่อนแก้ว ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 20 ครัวเรือน

จังหวัดยโสธรได้รับรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือน ฉบับที่ 8 ลว.26 ก.ย.56 เรื่อง ฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้บริเวณด้านตะวันตกของฟิลิปินส์ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว คาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ในระยะ 3-4 วันนี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จังหวัดยโสธรจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณ ที่ราบต่ำริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระมัดระวังอันตรายดันเกิดจากภัยธรรมชาติ ระหว่างวันที่ 26-30 กันยายน 2556



ส.ปชส.ยโสธร/ปิยะนุช 27 ก.ย. 56

จังหวัดร้อยเอ็ด แจ้งเตือนประชาชนให้ประชาชนเตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้

นายสมศักดิ์  ขำทวีพรหม  ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด  เปิดเผยว่า  กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาตอนล่าง  ฉบับที่ 3 (48/2556)  เรื่อง  สภาวะฝนตกหนักบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน  แผ่ลงมาปกคลุมตอนบนของประเทศไทย  ส่งผลให้ร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีกำลังแรงขึ้น  ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 26 – 27 ก.ย. 2556 บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง  มีฝนฟ้าคะนองกระจายถึงเกือบทั่วไป  และมีฝนตกหนักบางแห่ง  ส่วนมากบริเวณจังหวัดมุกดาหาร  ร้อยเอ็ด  ยโสธร  อำนาจเจริญ  และอุบลราชธานี  หลังจากนั้นในช่วงวันที่  28 -29 ก.ย.  2556  ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาผ่านภาคกลาง  และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง  ทำให้มีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดนครราชสีมา  บุรีรัมย์  สุรินทร์  ศรีสะเกษ  อำนาจเจริญ และจังหวัดอุบลราชธานี

จังหวัดร้อยเอ็ดจึงแจ้งให้ประชาชนเตรียมการป้องกันและระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากฝนตกหนักในระยะนี้  ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำล้นตลิ่ง  น้ำป่าไหลหลากและดินโคนถล่ม  โดยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น  เสียงตามสาย  หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเครือข่าววิทยุสมัครเล่น  สถานีโทรทัศน์และเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น  ผู้นำท้องถิ่น  อาสาสมัครในพื้นที่  อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่, ระมัดระวังดูแลรักษาสุขภาพของคนในครอบครัว  หากเจ็บป่วย  ให้รีบพบแพทย์หรือรักษาพยาบาลตามสถานพยาบาลใกล้บ้าน  สำหรับสัตว์เลี้ยงและพืชการเกษตรให้ระมัดระวังโรคระบาดพืชและสัตว์  หากพบเห็นหรือสงสัยว่าจะเกิดโรคระบาด  ให้แจ้งกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและอำเภอทันที่, หากเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้น  ให้แจ้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยอำเภอ  หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่นั้น ๆ หรือกำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน  หรือศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด  ณ  สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด  ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด  โทร. 043-512955, 043-513632 และ 043-515118




วิมล  เร่งศึก/ข่าว
กมลพร  คำนึง/บก.ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
27 ก.ย. 56

จังหวัดร้อยเอ็ด เปิดศูนย์ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคม เบื้องต้นได้ช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายไปแล้วกว่า 100 คน

วันนี้ (27 ก.ย.56) เวลา 13.30 น. นายสมศักดิ์ ขำทวีพรหม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดป้ายศูนย์ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด ณ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อเป็นศูนย์ช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้สูงอายุและคนพิการ

ศูนย์ OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคมจังหวัดร้อยเอ็ด ตั้งอยู่  ณ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด โดยบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้สูงอายุและคนพิการ ที่ประสบปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อม การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และการใช้ความรุนแรงต่อเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ ตลอดทั้งความรุนแรงในครอบครัว ตามนโยบายของรัฐบาลนำโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ลงนามบันทึกความร่วมมือแล้วเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมาก ณ ทำเนียบรัฐบาล

นายอาณัติ ทัศนกิจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดได้ดำเนินการฝึกอบรมขยายผลแก่ผู้ปฏิบัติงาน OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคมในระดับพื้นที่แล้ว จำนวน 3 รุ่น จำนวน 548 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ในทุกระดับจากกระทรวงสาธารณสุข สถานีตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานแรงงานจังหวัดร้อยเอ็ด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 27 และมีคณะกรรมการประสานและพัฒนาแนวทางการขับเคลื่อน OSCC ศูนย์ช่วยเหลือสังคมจังหวัดรอยเอ็ด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นประธาน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มดำเนินการเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ถึงปัจจุบัน มีการดำเนินการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายไปแล้ว 109 ราย จำแนกเป็นผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรง 13 ราย การตั้งครรภ์ไม่พร้อม 9 ราย และประเด็นปัญหาอื่นๆ เช่น เร่ร่อนขอทาน ขาดผู้ดูแลประสงค์เข้าไปอยู่ในสถานสงเคราะห์ การทอดทิ้งเด็ก ผู้พิการหรือผู้ป่วยเอดส์ต้องการที่พักอาศัย โดยได้รับความร่วมมือจากองค์กรเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชนตลอดทั้งอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อาสาสมัครประชาบดี ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในจังหวัดร้อยเอ็ดด้วยดี




วิมล เร่งศึก/ข่าว
กมพล คำนึง/บก.ข่าว
27 ก.ย. 56

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้ ผู้ปฏิบัติงานแทนพระองค์ในการ ประกอบพิธีอัญเชิญถุงยังชีพ 5000 ชุด มอบแด่ราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ

วันนี้ (27 ก.ย. 56 ) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้ พลอากาศเอก อนุพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองประธานมูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก สกาชาดไทย ประกอบพิธีอัญเชิญถุงยังชีพพระราชทานมอบให้ แด่ พระภิกษุสงฆ์ ผู้สูงอายุ คนพิการ และราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ประกอบด้วย อำเภอเมืองศรีสะเกษ 2000 ชุด อำเภออุทุมพรพิสัย 1000 ชุด อำเภอปรางค์กู่ 1000 ชุด และอำเภอวังหิน 1000 ชุด รวม 5000 ชุด โดยมีนายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นำหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ พร้อมกล่าวรายงานถึงสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ได้เคลื่อนไหวตัวขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามผ่านประเทศลาวเข้าสู่ประเทศไทย และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศ ทำให้มีในตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดอุทกภัยเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ในการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ นายกิตติมศักดิ์ตลอดชีพมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา) ยามยาก สกากาชาดไทย สภากาชาดไทย ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ทรงพระกรุณาโปรดให้ผู้ปฎิบัติงานแทนพระองค์ ประกอบพิธีอัญเชิญถุงยังชีพพระราชทาน เพื่อมอบให้กับผู้ประสบอุทกภัย เพื่อเป็นการสนับสนุนจังหวัดศรีสะเกษ ในการช่วยเหลือและเตรียมการ ช่วยเหลือด้านการยังชีพแด่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย

ประธานที่ปรึกษาตำรวจภูธรภาค ๓ ติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจในสังกัดจังหวัดอำนาจเจริญ

วันนี้ (๒๗ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๓.๐๐ น.  ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรภาค ๓ ได้เดินทางมาประชุมติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธร ในสังกัดจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีนายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  พลตำรวจตรี บุญยศ บุญไพศาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมด้วยตำรวจระดับผู้บังคับการตำรวจภูธรในสังกัดจังหวัดอำนาจเจริญ และคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ เข้าร่วมประชุมพร้อมสรุปผลการดำเนินงาน          

พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรภาค ๓ กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญครั้งนี้ เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกับตำรวจภูธรในจังหวัดอำนาจเจริญ อย่างไรก็ตามได้มอบนโยบายการทำงานโดยเฉพาะด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และการปราบปรามขบวนการลักลอบค้าไม้พะยูง ซึ่งยังมีความรุนแรงอยู่ทุกพื้นที่ และผู้ที่ทำผิดกฎหมายก็มีวิธีการที่หลบหลีกการตรวจตราจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกรูปแบบ  ดังนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายให้ตำรวจนำเทคโนโลยีด้านการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและทันสมัย หรือ สื่อออนไลน์ มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำงาน เช่น การสื่อสาร  สั่งการ หรือ รายงานข่าวความเคลื่อนไหวของผู้กระทำผิดกฎหมาย ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตทางโทรศัพท์มือถือ เช่น การสื่อสารผ่านไลน์ (Line) เป็นต้น

ทางด้านนายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  และพลตำรวจตรี บุญยศ บุญไพศาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวสรุปการดำเนินงานในระยะเวลาที่ผ่านมาว่า ทางฝ่ายปกครองของจังหวัดอำนาจเจริญ และตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ทำงานแบบบูรณาการกันมาโดยตลอด ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชน ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินประชาชน การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท  และในการลงมาตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานของ พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรภาค ๓  ครั้งนี้ นับเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ซึ่งทางฝ่ายปกครองจังหวัดอำนาจเจริญและตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ก็จะยึดถือนโยบายตามที่ได้รับมอบเป็นแนวทางในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว

ประธานที่ปรึกษาตำรวจภูธรภาค ๓ ติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจในสังกัดจังหวัดอำนาจเจริญ

วันนี้(๒๗ กันยายน ๒๕๕๖) เวลา ๑๓.๐๐ น. ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรภาค ๓ ได้เดินทางมาประชุมติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธร ในสังกัดจังหวัดอำนาจเจริญ โดยมีนายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  พลตำรวจตรี บุญยศ บุญไพศาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ พร้อมด้วยตำรวจระดับผู้บังคับการตำรวจภูธรในสังกัดจังหวัดอำนาจเจริญ และคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ เข้าร่วมประชุมพร้อมสรุปผลการดำเนินงาน          

พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรภาค ๓ กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญครั้งนี้ เพื่อพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจกับตำรวจภูธรในจังหวัดอำนาจเจริญ อย่างไรก็ตามได้มอบนโยบายการทำงานโดยเฉพาะด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และการปราบปรามขบวนการลักลอบค้าไม้พะยูง ซึ่งยังมีความรุนแรงอยู่ทุกพื้นที่ และผู้ที่ทำผิดกฎหมายก็มีวิธีการที่หลบหลีกการตรวจตราจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกรูปแบบ  ดังนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายให้ตำรวจนำเทคโนโลยีด้านการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและทันสมัย หรือ สื่อออนไลน์ มาใช้เป็นเครื่องมือในการทำงาน เช่น การสื่อสาร  สั่งการ หรือ รายงานข่าวความเคลื่อนไหวของผู้กระทำผิดกฎหมาย ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตทางโทรศัพท์มือถือ เช่น การสื่อสารผ่านไลน์ (Line) เป็นต้น

ทางด้านนายวีระวัฒน์ ชื่นวาริน ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ  และพลตำรวจตรี บุญยศ บุญไพศาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวสรุปการดำเนินงานในระยะเวลาที่ผ่านมาว่า ทางฝ่ายปกครองของจังหวัดอำนาจเจริญ และตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ทำงานแบบบูรณาการกันมาโดยตลอด ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้ประชาชน ทั้งด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินประชาชน การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกประเภท  และในการลงมาตรวจเยี่ยมและติดตามผลการดำเนินงานของ พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจภูธรภาค ๓  ครั้งนี้ นับเป็นขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี ซึ่งทางฝ่ายปกครองจังหวัดอำนาจเจริญและตำรวจภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ ก็จะยึดถือนโยบายตามที่ได้รับมอบเป็นแนวทางในการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อไป



สุรพล บุตรวงศ์ ปชส.อจ./ข่าว

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้าน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขต ตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี

วันที่ 27 กันยายน 56 เวลา 13.30 น. ที่ บริเวณหน้าโรงเรียนไร่ใต้ประชาคม ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยองค์การบริหารส่วนตำบลไร่ใต้ ตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้าน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และมอบถุงยังชีพ ให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมในเขต ตำบลไร่ใต้ อำเภอพิบูล จังหวัดอุบล หลังจาก ตำบลไร่ใต้ ได้รับผลกระทบน้ำลันตะหลิ่ง จากลำโดมใหญ่เริ่มขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2556 จนถึงปัจจุบัน เริ่มเข้าท่วมที่แรกคือ บ้านแก่งโพธิ์ หมู่ 1 และขึ้นมามากในวันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2556 และขึ้นเรื่อยมาจนเกือบครบทุกหมู่บ้าน คือจำนวนทั้งหมด 14 หมู่บ้าน ทางด้าน ตำบลไร่ใต้ ได้ตั้งศูนย์อำนวยการองค์การบริหารส่วนตำบลซึ่งเป็นศูนย์หลัก ตั้ง ณ หมู่ 14 บริเวณข้างโรงเรียนไร่ใต้ประชาคม เพื่อเป็นศูนย์อำนวยการและประสานงานการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนผู้ประสบภัยทางด้านต่าง ๆ โดยได้รับความร่วมมือจาก เจ้าหน้าที่ องค์การบริหารส่วนตำบลไร่ใต้ ไร่ใต้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านสมาชิก อปพร. และได้รับการสนับสนุนกำลังคนจากกรมทหารราบที่ ๖ ค่ายสรรพสิทธิประสงค์อำเภอวารินชำราบ ทหารจากกองบิน 21 กำลังตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรนาโพธิ์ และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนตำบลไร่ใต้ ซึ่งล่าสุดได้มีการรายงานความเสียหาย ในส่วนราชการที่ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ ได้แก่ อบต.ไร่ใต้ จำนวน 1 แห่ง , โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนตำบลไร่ใต้ จำนวน ๑ แห่ง , โรงเรียนมัธยม ๑ แห่ง โรงเรียนประถม 5 แห่ง และวัด จำนวน 6 แห่ง จำนวนหมู่บ้านที่ประสบอุทกภัย จำนวน 14 หมู่ แบ่งเป็น 1,127 ครัวเรือน เป็นราษฎรจำนวนกว่า 5,500 คน




จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว

ผู้บัญชาการทหารบก พิธีเปิดโครงการนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ อาคารเทิดพระเกียรติ ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิปัญญาท้องถิ่น จังหวัดอุบลราชธานี

วันที่ 27 กันยายน 2556 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีเปิด "โครงการนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ณ อาคารเทิดพระเกียรติ ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และภูมิปัญญาท้องถิ่น จังหวัดอุบลราชธานี ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี

โครงการนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นความร่วมมือ ระหว่าง กองทัพบก กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยกองทัพภาคที่ 2 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 มอบให้ มณฑลทหารบกที่ 22 เป็นหน่วยดำเนินการปรับปรุงตกแต่งภายในอาคารเทิดพระเกียรติ ของศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิปัญญาท้องถิ่นจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแหล่งเรียนรู้พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ พระอัจฉริยภาพ และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน รวมทั้งเป็นศูนย์ต้นแบบด้านการจัดทำนิทรรศการเชิงอนุรักษ์ และประหยัดพลังงาน

อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดอุบลราชธานี โดยภายในอาคารได้แบ่งเป็นห้องจัดแสดงนิทรรศการถาวรเฉลิมพระเกียรติ จำนวน 10 ห้อง นำเสนอเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระอัจฉริยภาพ และพระราชกรณียกิจ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย ตั้งแต่เสด็จขึ้นครองราชย์จนถึงปัจจุบัน เพื่อให้ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป และนักท่องเที่ยว ได้มีโอกาสได้เรียนรู้ พระอัจฉริยภาพด้านต่าง ๆ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน

ระดับน้ำมูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้น้ำไหลท่วมบ้านพักอาศัยประชาชนในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี 14 ชุมชน เจ้าหน้าที่ทหาร ระดมกำลังพลสร้างที่พักอาศัยชั่วคราวให้กับประชาชนที่เดือดร้อน

(26 ก.ย. 56) จากที่ระดับน้ำแม่น้ำมูลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูลเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ประชาชน 14 ชุมชน ต้องอพยพหนีน้ำมาอาศัยที่จุดอพยพช่วยเหลือผู้ประสบภัยเทศบาลเมืองวารินชำราบ ที่บริเวณหลังสำนักงานที่ดิน อำเภอเมืองวารินชำราบ ซึ่งขณะนี้มีผู้ประสบภัย 536 ครัวเรือน โดยมีหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น คือ มณฑลทหารบกที่ 22 และเทศบาลเมืองวารินชำราบ ได้ให้เจ้าหน้าที่ระดมกำลังสร้างบ้านพักอาศัยชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัย พร้อมนำน้ำมาแจกจ่ายให้ประชาชนได้อุปโภค นอกจากนั้น ได้มีทีมพยาบาลจากโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มาตั้งจุดบริการตรวจรักษาโรคให้ผู้ประสบภัยฟรี และมีหน่วยงานจาก กรมทรัพยากรน้ำบาดาล นำรถมาผลิตน้ำดื่มสะอาด เพื่อแจกจ่ายอีกด้วย สำหรับระดับน้ำที่สะพานเสรีประชาธิปไตย เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (26 ก.ย.56) อยู่ที่ระดับ 8 เมตร 37 เซนติเมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 15 เซนติเมตร และคาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน นายสุทธินันท์ บุญมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เยี่ยมสร้างขวัญและกำลังใจแก่ผู้ประสบภัยในครั้งนี้ด้วย

ทางด้าน พันตำรวจเอกสุนทร ประดิษฐ์แท่น ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่นำเรือท้องแบนไปช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมจำนวน 7 ครัวเรือน ซึ่งถูกน้ำท่วมเมื่อคืนนี้ ประชาชนต้องมากางเต้นท์พักอาศัยที่บริเวณริมถนนชุมชนปากมูล ฝั่งเทศบาลนครอุบลราชธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี



จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

ผู้บัญชาการมณฑลทหารลกที่ 22 มอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานทหารผ่านศึกบัตรชั้นที่ 2,3 และ 4 เพื่อส่งเสริมการศึกษาและเป็นการเพิ่มสวัสดิการให้กับทหารผ่านศึกที่พิการจากการปกป้องประเทศชาติ

พลตรีวีระภัทรพล บุญเชี่ยว ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 22/หัวหน้าสำนักงานสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเขตอุบลราชธานี เป็นประธานในการมอบทุนการศึกษาแก่บุตรหลานทหารผ่านศึก บัตรชั้นที่ 2,3 และ 4 ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ โดยในปีนี้มีบุตรหลานทหารผ่านศึกที่กำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และชั้นประโยควิชาชีพ ที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้ารับทุนประเภทต่อเนื่องเข้าศึกษาต่อในชั้นมธัยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 19 ทุนๆละ 5,000 บาท เป็นเงิน95,000 บาท และทุนบริจาคเฉพาะปีการศึกษา จากของมูลนิธิสงเคราะห์ครอบครัวทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 3 ทุนๆละ 4,000 บาท เป็นเงิน 12,000 บาท และทุนจากธนาคารทหารไทยในระดับประโยควิชาชีพ จำนวน 1 ทุน เงิน 5,000 บาท ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการศึกษาของบุตรหลานทหารผ่านศึก และเป็นการเพิ่มสวัสดิการให้กับทหารผ่านศึกในการดูแลบุตรหลาน

โอกาสนี้ พลวีระภัทรพล บุญเชี่ยว ได้กล่าวให้โอวาทว่า การมอบทุนการศึกษาเป็นการแสดงความห่วงใยในเรื่องการศึกษาของบุตรหลานของทหารผ่านศึกที่พิการจากการปกป้องประเทศชาติ โดยมีการสอบคัดเลือกชิงทุนการศึกษา ซึ่งผู้เข้าสอบชิงทุนการศึกษาจะต้องมีผลการเรียนที่อยู่ในเกณฑ์ดีและมีความประพฤติเรียบร้อย พร้อมกันนี้ได้ฝากถึงบุตรหลานทหารผ่านศึกที่ได้รับทุนว่า ให้มีความขยันหมั่นเพียรในการศึกษาเล่าเรียน เนื่องจากในภาวะปัจจุบัน มีการแข่งขันกันสูง เมื่อจบการศึกษาจะได้มีการประกอบอาชีพที่ดี ซึ่งจะแบ่งเบาภาระและช่วยเหลือครอบครัวต่อไปได้



จักรกฤษณ์ มาลาสาย/ข่าว
ทองปัก ทวีสุข/ภาพ

ที่ประชุมจังหวัดสุรินทร์มอบโล่และใบประกาศเกียรติคุณหลายรายการ

วันนี้ ( 27 ก.ย. 2556 ) ที่โรงแรมทองธารินทร์จังหวัดสุรินทร์ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานในการประชุมหัวหน่าส่วนราชการจังหวัดสุรินทร์ โดยในที่ประชุมได้มอบโล่ และใบประกาศเกียรติคุณจำนวนหลายรายการประกอบด้วย การมอบเงินรางวัลผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการคลี่คลายคดีเสมียนตราอําเภอรัตนบุรีถูกชิงทรัพย์ และถูกฆาตกรรม ตามที่เกิดเหตุการณ์ที่เสมียนตราอําเภอรัตนบุรี (นางอัจฉรียา หอมขจร) ถูกชิงทรัพย์ และถูกฆาตกรรม เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2556 ในการติดตามตัวนางอัจฉรียาฯ ผู้ต้องหาและผู้ต้องสงสัย มีเจ้าหน้าที่ที่ เกียวข้องร่วมปฏิบัติ หน้าที่จนสามารถคลีคลายคดีได้นั้น อธิบดีกรมการปกครอง (นายชวน ศิรินันท์พร) มีความประสงค์ จะมอบเงินรางวัล จํานวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) ผ่านทางจังหวัดสุรินทร์ เพื่อมอบให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่คลี่คลายคดีดังกล่าว

การมอบรางวัลผลการประกวด "สถานศึกษาร่วมใจสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการใช้ รถใช้ ถนน” ประจําปี 2556 ในระดับจังหวัดและระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดสุรินทร์

การมอบป้ายรับรองร้านอาหารวัตถุดิบปลอดภัยเลือกใช้สินค้า Q จังหวัดสุรินทร์ โดยสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์

การมอบโล่ และประกาศเกียรติ คุณให้ แก่ สตรี ไทยดี เด่นจังหวัดสุรินทร์ ประจําปี 2556 โดยพัฒนาสังคมและความมั่งคงของมนุษย์ จังหวัดสุรินทร์

การมอบโล่ และประกาศเกียรติคุณการประเมินผลโรงเรียน-ชุมชนปลอดลูกน้ำยุงลาย ประจําปีงบประมาณ 2556 โดยศูนย์ควบคุมโรคติดต่อ และสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์

การมอบรางวัลการประกวดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ ปี 2556 ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษา/อาชีวศึกษา (ปวช.) และระดับอุดมศึกษา/อาชีวศึกษา (ปวส.)

พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้หัวหน้าส่วนราชการ ที่ย้ายไปดํารงตําแหน่งที่อื่นได้กล่าวอำลา คือ นายวิเชียร จันทรโณทัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้รับการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ 

นางชไมพร ตุ้มพงษ์ ผู้อํานวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อํานวยการระดับสูง ผู้อํานวยการสํานักความร่วมมือ สํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

นายฑิฆัมพร ดวงพัตรา โทรศัพท์จังหวัดสุรินทร์ ย้ายไปดํารงตําแหน่ง โทรศัพท์จังหวัดอุบลราชธานี 

นายสุพรชัย ฟ้ารี ผู้อํานวยการศูนย์วิจัยและบํารุงพันธ์สัตว์สุรินทร์ ย้ายไปรักษาการในตําแหน่งนักวิชาการสัตวบาลชํานาญการพิเศษ ส่วนศึกษาและพัฒนาการปศุสัตว์ สํานักงานปศุสัตว์ เขต 3 จังหวัดนครราชสีมา 

นายคมสัน บุญเอี่ยม ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขาสุรินทร์ ย้ายไปดํารงตําแหน่ง ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาอุบลราชธานี



ประนนท์ ไม้หอม
ส.ปชส.สุรินทร์/รายงาน

ผวจ.ขอนแก่นมอบนโยบายสังคมสร้างสุขสังคมสวัสดิการ

งานและมอบนโยบาย "คนขอนแก่นสร้างสุข สู่สังคมสวัสดิการ”

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานเปิดงานและมอบนโยบาย "คนขอนแก่นสร้างสุข สุ่สังคมสวัสดิการ” จัดโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีนายสาย เตรียมไธสง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ เพื่อบูรณาการการดำเนินงานในหน่วยงานสังกัด พม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดตั้งตำบลต้นแบบงานสวัสดิการสังคมในพื้นที่ 26 อำเภอ อำเภอละ 1 ตำบล เป็นกิจกรรมตามโครงการตำบลต้นแบบงานสวัสดิการสังคม ซึ่งเกิดขึ้นจากการดำริและริเริ่มของผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ที่มีนโยบายสำคัญเร่งด่วนที่จะส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกพื้นที่อำเภอในเขตจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายในชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดี ได้รับการพัฒนาศักยภาพเกิดเป็นชุมชนน่าอยู่ ประชาชนได้รับสวัสดิการสังคมตรงตามความต้องการและสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ประชาชนในชุมชนมีความสุข เกิดเป็นสังคมแห่งความพอเพียง และมุ่งสู่สังคมสัวสดิการหรือสัวสดิการถ้วนหน้า หน่วยงานสังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในจังหวัดขอนแก่น ทั้ง 13 หน่วยงาน จึงได้ร่วมกันวางแผน กำหนดพื้นที่ กำหนดแนวทางและกิจกรรมโดยการใช้กรอบการจัดสวัสดิการสังคม 7 กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย เด็กเยาวชน ผู้สูงอายุ คนพิการ ครอบครัว ผู้ด้อยโอกาส สตรี และประชาชนทั่วไป ขับเคลื่อนเพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อาทิเช่น กรมการปกครอง กระทรวงสาธารณสุข กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น ซึ่งในปี 2556 มีเป้าหมายพื้นที่ต้นแบบงานสวัสดิการสังคมในท้องถิ่น 26 อำเภอ ๆ ละ 1 ตำบล โดยที่ผ่านมามีการขับเคลื่อนกิจกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การประชุมซักซ้อมความเข้าใจของหน่วยงานที่ปฏิบัติรวมถึงหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง การบูรณาการโครงการกิจกรรมที่พัฒนา ฟื้นฟู ให้เป็นต้นแบบการจัดสวัสดิการในพื้นที่ มีการแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการฯ ทั้งระดับจังหวัดและระดับท้องถิ่น การจัดเวทีประชาคมในพื้นที่โดยการนำแผนปฏิบัติการโครงการ/กิจกรรมที่ได้จัดทำเข้าสู่กระบวนการวิพากษ์แผน เพื่อให้ตอบสนองกับสภาพปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง การอบรมเสริมสร้างประสิทธิภาพเครือข่ายในการจัดระบบสวัสดิการสังคมในพื้นที่ด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดสวัสดิการสังคมแก่กลุ่มเป้าหมาย 7 กลุ่ม กองทุนต่าง ๆ ของกระทรวงฯ การถอดบทเรียนการสร้างตำบลต้นแบบงานสัวสดิการสังคมเพื่อทราบปัญหา อุปสรรค ความสำเร็จของการดำเนินงานที่ผ่านมาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มกระบวนการ และนำมาพัฒนากระบวนการทำงาน ตลอดจนโครงการกิจกรรมในปีต่อไปรูปแบบการจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นการเผยแพร่ผลการดำเนินงาน การจัดเวทีอภิปรายในหัวข้อเรื่องการสร้างสังคมสวัสดิการ และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันของคณะกรรมการกองทุนสวัสดิการชุมชนในการจัดสวัสดิการสังคมให้มีประสิทธิภาพ ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย ผู้แทนจากตำบลต้นแบบงานสวัสดิการสังคมทั้ง 26 แห่ง ร่วมจัดนิทรรศการเผยแพร่ผลงานและผลิตภัณฑ์จากชุมชน คณะกรรมการกองทุนสวัสดิการชุมชนที่ได้รับการจัดตั้ง จำนวน 128 แห่ง และผู้แทนองค์กรสาธารณประโยชน์จำนวน 84 แห่ง รวมผู้เข้าร่วมงานกว่า 500 คนส่งเสริมสนับสนุนให้ท้องถิ่นมีความเข้มแข็งสามารถจัดสวัสดิการสังคมให้ประชาชนในพื้นที่ และส่งเสริมให้เกิดพื้นที่ตำบลสวัสดิการตามนโยบายของจังหวัดขอนแก่นและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากนั้นประธานกล่าวเปิดงาน และมอบนโยบาย "คนขอนแก่นสร้างสุขสู่สังคมสวัสดิการ” และเยี่ยมชมนิทรรศการผลงานและผลิตภันฑ์จากชุมชน ที่นำมาแสดงตามบูธต่างๆ โดยมีเยาวชน ผู้สูงอายุ ประชาชนทั่วไป



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

นับถอยหลังมอดินแดงเกมส์กีฬามหาวิทยาลัยครั้งที่ 41

นับถอยหลังการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่ 41 "มอดินแดงเกมส์”

รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตนศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นต้อนรับ ผู้ร่วมงานเลี้ยงขอบคุณ ผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่ 41 "มอดินแดงเกมส์” และกล่าวถึงความพร้อมในการสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่ 41 "มอดินแดงเกมส์” มอบเงินสนับสนุน จากผู้แทน องค์กรต่างๆ พร้อมถ่ายรูปร่วมกับผู้สนับสนุนเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2556 เวลา 15.30 น. นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ร่วมเป็นเกียรติและกล่าวต้อนรับในงาน “นับถอยหลัง..สู่มอดินแดงเกมส์” และกล่าวถึงความพร้อมในการสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 41 “มอดินแดงเกมส์” มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 41 ระหว่างวันที่ 14-25 มกราคม 2557 มีสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วม จำนวน 123 สถาบัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยดังกล่าว นับเป็นมหกรรมการแข่งขันกีฬายิ่งใหญ่ที่ชาวขอนแก่นทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างเฝ้ารอคอย เพราะนอกจากจะเป็นการส่งเสริมกิจกรรมกีฬาของนิสิต นักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ ที่จะสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเยาวชน เพื่อเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศในอนาคตแล้ว ยังเป็นการร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยขอนแก่น และยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองขอนแก่นได้อีกทางหนึ่งด้วย ดังนั้น ณ วันนี้จังหวัดขอนแก่นมีความพร้อมเต็มที่ ในการร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยจังหวัดขอนแก่นได้ระดมความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อร่วมต้อนรับทัพนักกีฬา คณะกรรมการจัดการแข่งขัน ผู้ประสานงาน และสื่อมวลชนทุกแขนงรวมกว่า 15,000 คน ที่จะเดินทางมาเยือนจังหวัดขอนแก่น จังหวัดขอนแก่นมีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการอำนวยความสะดวกด้านเส้นทางจราจร ความพร้อมด้านสาธารณูปโภค ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ด้านการท่องเที่ยว และธุรกิจบริการที่ครบวงจร อย่างไรก็ตาม การจัดการแข่งขัน “มอดินแดงส์” ครั้งนี้ จะประสบความสำเร็จบรรลุตามวัตถุประสงค์ได้ด้วยดีนั้น จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือ และการสนับสนุนงบประมาณจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จึงของเชิญชวนทุกภาคส่วน ทุกองค์กร ทั้งภาครัฐ และเอกชน ได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยร่วมสนับสนุนงบประมาณในการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 41 “มอดินแดงเกมส์” เพื่อเป็นการรวมพลังอันเข้มแข็งของชาวขอนแก่น อย่างสมภาคภูมิต่อไป



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

จังหวัดขอนแก่นประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำพิจารณาระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ 5-10 ลบ.ม./วัน

จังหวัดขอนแก่นประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำพิจารณาปรับเพิ่มปริมาณการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ จาก 3 ล้าน ลบ.ม/วัน ให้อยู่ระหว่าง 5-10 ลบ.ม./วัน

วันนี้ ( 27 กันยายน 2556)เวลา 09.30 น ณ ห้องประชุมสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดขอนแก่น นายทรงพล จำปาพันธ์รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น เพื่อพิจารณาปรับเพิ่มปริมาณการระบายน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือเขื่อนอุบลรัตน์ แจ้งว่าสภาพน้ำเขื่อน ณ ปัจจุบัน ระดับน้ำปัจจุบัน( 27 กันยายน 2556เวลา 08.00 น อยู่ที่ 178.78 ม.รทก. มีปริมานน้ำ ในอ่างเก็บน้ำ 1,395 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 56.74 เป็นปริมาณน้ำใช้งาน 798 .87 ล้าน ลบ.มร้อยละ 43.14 . ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่าง 32.63 ลบม. สามารถรับน้ำเข้าอีก 1,051.76 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำ 3ลบ.ม./วัน เพื่อพิจารณาสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน พบว่ามีหลายปัจจัยนำมาวิเคราะห์พิจารณา ควรปรับเพิ่มปริมาณการระบายน้ำจาก 3 ล้าน ลบ.ม/วัน ให้อยู่ระหว่าง 5-10 ลบ.ม./วัน ปัจจุบันปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ สูงกว่าเส้นควบคุม 0.69 ม. เขื่อนจำเป็นต้องระบายน้ำเพื่อบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการ์ณน้ำในปัจจุบัน เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้น้ำและพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ประกอบกับช่วงนี้มีมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทยในช่วง 3-5 วัน ขณะนี้มีฝนตกในพื้นที่จังหวัดเลย หนองบัวลำภูและชัยภูมิ พื้นที่เหนือน้ำก่อนไหลลงชี มาขอนแก่น ส่วนน้ำเชิญ น้ำพอง สาขาน้ำชีตอนนี้ปริมาณน้ำเต็มเขื่อนแล้ว ปัจจุบันระดับน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ เริ่มสูงขึ้นเช่นกัน ต้องเฝ้าระวังป้องกันกับเหตุน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ซึ่งได้กำชับให้มิสเตอร์เตือนภัยทั้ง 26 อำเภอ เฝ้าระวังตลอดทั้ง 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอ โดยเฉพาะอำเภอชุมแพ ภูผาม่าน สีชมพู หนองเรือ แวงน้อย ชนบท มัญจาคีรี เมือง



ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี
ส.ปชส.ขอนแก่น

น้ำป่าจากเขาพังเหย ห้วยเชียงทา ไหลทะลักพัดฝายอาจารย์จื่อขาดท่วมพื้นที่การเกษตรกว่าแสนไร่

ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในช่วงนี้ ได้สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง กินพื้นที่ ประสบภัย 11 อำเภอ 61 ตำบล 580 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 48,228 ครัวเรือน ครัวเรือน 142,901 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับผลกระทบ แยกเป็น พืชไร่ 83,566 ไร่ นาข้าว 103,404 ไร่ พืชสวน 3,168 ไร่ และบ่อปลา 1,752 บ่อ โดยเฉพาะที่อำเภอหนองบัวระเหว เกิดน้ำป่าไหลบ่าจากเขาพังเหย รวมกับลำห้วยเชียงทา ได้ไหลบ่า กัดเซาะคันดิน ฝายอาจารย์จื่อ ขาดเป็นช่องกว้างกว่า 30 เมตร น้ำจำนวนมาก ได้ไหลทะลัก ลงท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎร กว่า 1 แสนไร่ ในเขตพื้นที่ อำเภอบ้านเขว้า อำเภอจัตุรัส และอำเภอเมืองชัยภูมิ

นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ ลงพื้นที่ ตรวจสอบฝายอาจารย์จื่อ พร้อมสั่งให้ เทศบาลตำบลหนองบัวระเหว ทำการซ่อมแซมให้สามารถสัญจรผ่าน ไปมาได้ เป็นการชั่วคราว ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาว ทราบว่าขณะนี้กรมโยธาธิการ ได้อนุมัติงบประมาณ ปี 2557 จำนวน 280 ล้านบาท มาก่อสร้างประตูระบายน้ำ เพื่อให้มั่นคงแข็งแรง และสามารถระบายน้ำได้ทัน ในช่วงน้ำหลาก พร้อมสร้างคลองส่งน้ำลอดแม่น้ำชี ส่งน้ำไปหล่อเลี้ยงพื้นที่การเกษตร อำเภอบ้านเขว้า อีกด้วย



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

จังหวัดชัยภูมิประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินในพื้นที่ ๕ อำเภอ

จังหวัดชัยภูมิประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินในพื้นที่ ๕ อำเภอ จังหวัดชัยภูมิประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินในพื้นที่ ๕ อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอหนองบัวระเหว อำเภอบำเหน็จณรงค์ อำเภอเกษตรสมบูรณ์ อำเภอเทพสถิต และอำเภอคอนสาร นายนิพนธ์ สาธิตสมิตพงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยกับ นางธัญญรัตน์ โรจนหัสดิน ประชาสัมพันธ์จังหวัดชัยภูมิ ว่า เนื่องจากบริเวณความกดอากาศต่ำปกคลุมตอนกลางของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกกระจาย ก่อให้เกิดความเสียหายด้านการเกษตร ประมง ปศุสัตว์ และสิ่งสาธารณะประโยชน์ รวมถึงราษฎรได้รับความเดือดร้อน และภัยพิบัติดังกล่าวยังไม่ยุติ จังหวัดชัยภูมิจึงได้ประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีเร่งด่วน ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 3 เดือนนับแต่วันเกิดภัย ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการประกาศให้ภัยพิบัติใดเป็นเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และการกำหนดเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินขนาดเล็ก หรือเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเฉพาะหน้า ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยเกิดเหตุอุทกภัยขึ้นในพื้นที่ ๕ อำเภอ ประกอบด้วย

๑. อำเภอหนองบัวระเหว ในพื้นที่หมู่ ๒,๓,๖,๘ และหมู่ ๙ ตำบลหนองบัวระเหว หมู่ที่ ๑,๒,๓,๔,๖,๙,๑๐,๑๑,๑๒,๑๓,๑๔  ตำบลห้วยแย้ หมู่ที่ ๑,๒,๓,๔,๕,๖, ตำบลโคกสะอาด หมู่ที่ ๒,๔,๕,๖,๗,๙,๑๒,๑๔ ตำบลวังตะเฆ่ และหมู่ที่ ๑,๒,๓,๔,๕,๖,๗,๘ ตำบลโสกปลาดุก ๒. อำเภอบำเหน็จณรงค์ หมู่ที่ ๑-๑๒ ตำบลโคกเริงรมย์ หมู่ที่ ๑-๒๓ ตำบลบ้านเพชร หมู่ที่ ๑-๑๗ ตำบลบ้านชวน หมู่ที่ ๑-๑๒ ตำบลบ้านตาล หมู่ที่ ๑-๑๒ ตำบลหัวทะเล หมู่ที่ ๑-๘ ตำบลเกาะมะนาว หมู่ที่ ๑-๑๑ ตำบลโคกเพชรพัฒนา ๓. อำเภอเกษตรสมบูรณ์ หมู่ที่ ๒-๑๓ ตำบลบ้านยาง หมู่ที่ ๑,๒,๔,๕,๘,๙,๙,๑๐,๑๑ ตำบลบ้านหัน หมู่ที่ ๑-๕,๗-๑๔ ตำบลบ้านเป้า หมู่ที่ ๑,๒,๓,๗,๙,๑๐,๑๑ ตำบลกุดเลาะ หมู่ที่ ๔ ตำบลโนนกอก หมู่ที่ ๒,๓๔,๔,๕,๖,๘,๑๐ ตำบลสระโพนทอง หมู่ที่ ๑,๒,๑๐ ตำบลหนองข่า หมู่ที่ ๑,๓,๔,๕,๖,๑๔ ตำบลหนองโพนงาม หมู่ที่ ๑,๒,๓,๔,๖ ตำบลบ้านบัว และหมู่ที่ ๒,๖,๗ ตำบลโนนทอง ๔. อำเภอเทพสถิต หมู่ที่ ๑,๑๙ ตำบลวะตะแบก หมู่ที่ ๓,๕,๖,๑๐,๑๔ ตำบลห้วยยายจิ๋ว หมู่ที่ ๖,๘,๑๒,๑๓,๑๗ ตำบลนายางกลัก และหมู่ที่ ๑,๑๓,๑๕ ตำบลโป่งนก ๕. อำเภอคอนสาร หมู่ที่ ๑-๘ ตำบลคอนสาร หมู่ที่ ๑,๓,๔,๗ ตำบลทุ่งพระ หมู่ที่ ๒,๕,๖,๗,๘,๙ ตำบลโนนคูณ หมู่ที่ ๒,๔,๙,๑๒,๑๔,๑๖ ตำบลห้วยยาง หมู่ที่ ๕,๖ ตำบลทุ่งลุยลาย หมู่ที่ ๑,๒,๕,๖,๗,๙ ตำบลดงบัง หมู่ที่ ๓,๕,๙,๑๐,๑๑ ตำบลทุ่งนาเลา และหมู่ที่ ๑-๙ ตำบลดงกลาง ก่อนหน้านี้ จังหวัดชัยภูมิได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มราบต่ำ ริมน้ำ บริเวณที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณที่แม่น้ำชีไหลผ่านขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เตรียมขนย้ายข้าวของสัมภาระขึ้นที่สูง และเตรียมพร้อมระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากฝนตกหนักในระหว่างวันที่ ๒๕ กันยายน – ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ นี้ และติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างต่อเนื่องด้วย


จรุงจิต ฝางชัยภูมิ /ข่าว /ส.ปชส.ชัยภูมิ

จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว ๑๑ อำเภอ

นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ว่า จังหวัดชัยภูมิได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น ทำให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิด น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตร ประกอบกับในขณะนี้น้ำที่ ท่วมขังได้ไหลตามคลองสาขาลงแม่น้ำสายหลัก คือ แม่น้ำชี แม่น้ำพรม แม่น้ำเชิญ เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่สองฝั่งริมแม่น้ำ ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเริ่มส่งผลกระทบต่อพื้นที่ติดริมแม่น้ำ รวมพื้นที่ประสบภัย ๑๑ อำเภอ ๖๑ ตำบล ๕๘๐ หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน ๔๘,๒๒๘ ครัวเรือน ๑๔๒,๙๐๑ คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับผลกระทบ แยกเป็น พืชไร่ ๘๓,๒๖๖ ไร่ นาข้าว ๑๐๓,๔๐๔ ไร่ พืชสวน ๓,๑๖๘ ไร่ และบ่อปลา ๑,๗๕๒ บ่อ

ด้านการให้ความช่วยเหลือได้สั่งการให้อำเภอและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือราษฎรที่ประสบความเดือดร้อนอย่างทันท่วงที พร้อมให้เตรียมประสานหน่วยงานต่าง ๆ เช่น กำลังทหารจาก นพค.๕๕ เกษตรสมบูรณ์ กองบัญชาการช่วยรบที่ ๒ นครราชสีมา กองบังคับการกองร้อย อส.จังหวัดชัยภูมิ มูลนิธิต่าง ๆ ในพื้นที่ให้จัดเตรียมกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดอุทกภัย สำหรับการเตรียมการป้องกันน้ำท่วมในเขตเมืองชัยภูมิ โครงการชลประทานชัยภูมิ และ เทศบาล เมืองชัยภูมิ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน ๑๕ เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ ๑๐ เครื่อง เพื่อผลักดันน้ำออกไปยังคลองสาขาได้ทันทีหากเกิดสถานการณ์.



เพชรรินทร์ เขียวเขว้า ส.ปชส.ชัยภูมิ
ข่าว 27 ก.ย. 56

พระพรหมบัณฑิต บรรยายธรรม “ผู้นำยุคใหม่ใส่ใจคุณธรรมจังหวัดมหาสารคาม”

พระพรหมบัณฑิต บรรยายธรรมในโครงการผู้นำยุคใหม่ใส่ใจคุณธรรมจังหวัดมหาสารคาม สร้างทัศนคติเชิงบวกให้กับผู้นำและพุทธศาสนิกชนรู้รักสามัคคี เทิดทูนสถาบันสำคัญของชาติ

(27-9-56) ในการจัดกิจกรรมตามโครงการ ผู้นำยุคใหม่ใส่ใจคุณธรรมจังหวัดมหาสารคาม ประจำปี 2556 ซึ่งจังหวัดมหาสารคาม โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดมหาสารคามได้จัดขึ้น ตามยุทธศาสตร์เสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม อันเป็นพื้นฐานดั้งเดิมของสังคมไทย และการสร้างทัศนคติเชิงบวกในการรู้รักสามัคคี การเทิดทูนสถาบันสำคัญของชาติ รวมทั้งการยึดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต มีข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและพุทธศาสนิกชน รวม 150 คน เข้าร่วมกิจกรรม โดยได้นิมนต์พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมมฺจิตโต) อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมาเป็นองค์ปาฐกถาธรรม

ด้านนายนพวัชร สิงห์ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า จากสภาพปัจจุบันที่คุณธรรม จริยธรรม ถูกละเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมที่เสื่อมถอยและมีความเบี่ยงเบนวัฒนธรรม ซึ่งมีพฤติกรรมไปในทางที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม ซึ่งการจัดกิจกรรมในโครงการผู้นำยุคใหม่ใส่ใจคุณธรรมจังหวัดมหาสารคาม นี้ จะสร้างทัศนคติในเชิงบวก ผู้คนรู้รักสามัคคี ทำให้สังคมร่มเย็นเป็นสุข

โครงการผู้นำยุคใหม่ใส่ใจคุณธรรมจังหวัดมหาสารคาม นอกจากจะได้รับฟังการบรรยายธรรมจากพระพรหมบัณฑิต แล้ว ยังมีการจัดค่ายปฏิบัติธรรม ที่ศูนย์พัฒนาจิตใจเฉลิมพระเกียรติฯ 72 พรรษา มหาราชา วัดป่าหนองคู ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม ด้วย



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ขอความร่วมมือประชาชน สร้างความตระหนักถึงอันตรายจากโรคพิษสุนัขบ้า

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม ขอความร่วมมือประชาชน สร้างความตระหนักถึงอันตรายจากโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อควบคุมกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากพื้นที่ ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ได้กำหนดในวันที่ 28 กันยายน ของทุกปี เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลก นายแพทย์สุริยา

รัตนปริญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เพื่อเป็นกระตุ้นและหาแนวร่วมในการสนับสนุนการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ตามที่ องค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE) ได้กำหนดในวันที่ 28 กันยายน ของทุกปี เป็นวันป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโลกซึ่งตรงกับวันเสียชีวิตของหลุยส์ ปาสเตอร์ ที่เป็นผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า ใช้สำหรับฉีดให้กับผู้ที่ถูกสุนัขบ้ากัดได้เป็นครั้งแรก โดยจะเน้นการให้วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่สุนัขอย่างร้อยละ 70 ของสุนัขทั้งหมด ส่วนในคนจะเน้นการให้วัคซีนป้องกันโรคพิสุนัขบ้าที่มีคุณภาดแก่ผู้ที่ถูกสุนัขหรือแมวกัดทุกคน

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากขอความร่วมมือประชาชน ได้ตระหนักถึงอันตรายของโรคพิษสุนัขบ้า โดยเริ่มจากตนเองควรมีการเลี้ยงสุนัข แมว อย่างถูกวิธี และไม่ก่อความเดือดร้อนแก่สังคม ส่วนหน่วยงานที่รับผิดชอบทุกภาคส่วน ต้องให้ความสำคัญในการดำเนินงานอย่างแข็งขัน จริงจัง ต่อเนื่อง พร้อมผนึกกำลังร่วมมือในการป้องกันควบคุมกำจัดโรคพิษสุนัขบ้า ให้หมดไปจากพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม.



ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว