ข้าราชการทุกส่วนราชการ ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการบำนาญ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานเทศบาล พนักงานรัฐวิสาหกิจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงานองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สมาชิกเหล่ากาชาด สมาชิกชมรมมูลนิธิ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน และกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ร่วมถวายราชสักการะ และถวายราชสดุดีและขอพระราชานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูลต่อดวงพระวิญญาณ แห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช บูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ซึ่งต่างสำนึกในพระมาหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ ที่พระองค์ทรงกอบกู้เอกราชให้กับชาติไทย ทรงสถาปนาความเข้มแข็ง มั่นคงแก่ประเทศชาติ นำมาซึ่งความสงบสุข และเกียริตภูมิของราชอาณาจักรไทยจนถึงปัจจุบัน
วันนี้ (25 เม.ย. 57) ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธาน นำหัวหน้าส่วนราชการประกอบพิธีถวายราชสักการะ พร้อมกับประกาศสดุดี ขอถวายสัตย์ปฏิญาณ เป็นวาจา ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ความกตัญญูกตเวที ในพระวีรกรรม แห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชว่า ข้าเจ้าทั้งปวงจะเสียสละ ประโยชน์สุขส่วนตน เพื่อดำรงไว้ซึ่งประโยชน์สุขของส่วนรวม จะตระหนักสำนึกในเกียติภูมิของชาติมุ่งมั่นสร้างสรรค์คุณประโยชน์มาตุภูมิให้ยั่งยืนมั่นคงตราบจิรัฐติการ เนื่องเป็นวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อแสดงความจงรักภักดีและความกตัญญูกตเวทิตา ต่อพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ล้ำเลิศด้วยพระกฤดาภินิหาร และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้น ที่ที่พระองค์ทรงกอบกู้เอกราชให้กับชาติไทย ทรงสถาปนาความเข้มแข็ง มั่นคงแก่ประเทศชาติ นำมาซึ่งความสงบสุข และเกียรติภูมิของราชอาณาจักรไทยจนถึงปัจจุบัน โดยมีข้าราชการทุกส่วนราชการ ข้าราชการฝ่ายตุลาการ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการบำนาญ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชิกสภาเทศบาล พนักงานเทศบาล พนักงานรัฐวิสาหกิจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พนักงานองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น สมาชิกเหล่ากาชาด สมาชิกชมรมมูลนิธิ นักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน และกลุ่มพลังมวลชนต่างๆ ร่วมพิธี
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพระราชสมภพ ณ พระราชวังจันทน์ เมื่อปีพุทธศักราช 2098 พระองค์ทรงเป็นวีรกษัตริย์ ที่ทรงพระปรีชาสามารถ อัจฉริยภาพ และฝีพระหัตถ์ทางการรบอย่างล้ำเลิศ ทรงตรากตรำพระวรกายในการทำศึกสงคราม ตลอดพระชนมีชีพของพระองค์
ในปีพุทธศักราช 2124 พระองค์ทรงแสดงแสนยานุภาพ ในการยกทัพตีเมืองคั่ง จนได้รับชัยชนะ ปีพุทธศักราช 2127 พระองค์ทรงประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง หลังจากประกาศอิสรภาพแล้ว ได้ทรงกรีฑาทัพเข้าสู่เมืองหงสาวดี และรวบรวมคนไทยกลับมาได้ อีกทั้งยังสามารถใช้พระแสงปืนยาว ยิงข้าแม่น้ำสะโตง ถูกแม่ทัพของพม่า ซึ่งนั่งอยู่บนคอช้างจนเสียชีวิต ทำให้ทัพพม่าถอยกลับ และพระแสงปืนที่พระองค์ทรงใช้ในวันนั้น ได้ปรากฏนามว่า "พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง” ซึ่งถือเป้นพระแสงอัษฏาวุธอันเป็นเครื่องราชูปโภคสำหรับพระมหากษัตริย์ สืบมาจนบัดนี้ ปีเดียวกันนั้น ทรงได้รับชัยชนะในกาทำสงครามกับพระยาพะสิม ที่เมืองกาญจนบุรี ปีพุทธศักราช 2129 พระเจ้านันทบุเรง ยกทัพใหญ่มาล้อมกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงใช้วิจารณญาณ ในกาวางแผนป้องกันเมืองอันล้ำเลิศจากการที่ทัพพม่าล้อมกรุงศรีอยุธยา แต่ก็ไม่สามารถเข้าตีได้ จึงล่าทัพกลับไป ปีพุทธศักราช 2133 สมเด็จพระนเรศวรขึ้นครองราชย์ พระเจ้านันทบุเรงนอง ยกทัพเข้าตีกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง พระองค์ทรงเปลี่ยนยุทธวิธีในการรบ จากากรตั้งรับเป็นฝ่ายรุก ผลการรบครั้งนั้น พระยาพุกามตายในสนามรบ พระยาพระสิมถูกจับ ส่วนพระมหาอุปราชหนีถอยออกไป
ในวันที่ 18 มกราคม ปีพุทธศักราช 2135 พระองค์ทรงทำยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราช จนได้รับชัยชนะ ทำให้บารมีแห่งพระบรมเดชานุภาพแผ่ไพศาล หัวเมืองน้อยใหญ่ ต่างขึ้นตรงต่อกรุงศรีอยุธยา และในปีพุทธศักราช 2148 พระเจ้าอังวะมีอำนาจ จึงได้ขยายอาณาเขตเข้ามาทางแคว้นไทยใหญ่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงยกทัพไปยังเมืองห้างหลวง
และในปีเดียวกันนี้องค์ทรงพระประชวรหนักและเสด็จสู่สวรรคต เมื่อเดือน 6 ขึ้น 8 ค่ำ ปีมะเส็ง พุทธศักราช 2148 พระชนมายุ 50 พรรษา ทรงครองสิริราชสมบัติ 15 ปี
ข้อมูล...สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
สุรศักดิ์ สร้อยเพชร / ข่าว