ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นำพสกนิกรชาวจังหวัดบึงกาฬทุกหมู่เหล่า ร่วมประกอบพิธีถวายราชสดุดี เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2557
วันนี้ (5 พ.ค. 57) เวลา 07.30 น.ที่หอประชุมโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ จ.บึงกาฬ นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ตำรวจ ทหาร ชมรม มูลนิธิ ลูกเสือชาวบ้านและพสกนิกรชาวจังหวัดบึงกาฬ ได้ร่วมใจกันประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี พ.ศ. 2557 และเนื่องในโอกาสครบรอบ 64 ปี แห่งการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับพระบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยโดยสมบูรณ์แบบ กล่าวคือ พระองค์ ได้เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติต่อจากพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะจึงเสด็จนิวัตประเทศไทยและรัฐบาลไทยได้น้อมเกล้าฯ จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวาย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493
สำหรับพิธีวันฉัตรมงคลปีนี้ จังหวัดบึงกาฬได้จัดให้มีพิธีถวายพานพุ่มทอง-พุ่มเงิน ถวายราชสักการะหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรมูลนิธิ พสกนิกรชาวจังหวัดบึงกาฬร่วมประกอบพิธีจำนวนมาก ทั้งนี้เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เดินทางมาถึงได้ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา ถวายพานพุ่มทอง-พุ่มเงิน เปิดกรวยกระทงดอกไม้ และอ่านถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ เหล่าพสกนิกรชาวจังหวัดบึงกาฬ ร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชา
นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า เนื่องในอภิลักขิตมหามงคลสมัยวันคล้ายวันบรมราชาภิเษกสมโภชพระมหาเศวตฉัตร เครื่องราชกกุธภัณฑ์ และพระราชมณเฑียร ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตตลาธิเบศ รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อพสกนิกรเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมสุดจะพรรณา พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชภารกิจอันหนักยิ่ง ตั้งแต่วันที่เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ตราบจนบัดนี้เป็นเวลากว่า 64 ปี กาลเวลาได้พิสูจน์ให้มหาชนประจักษ์แล้วว่า พระองค์ได้ทรงปฏิบัติตามพระบรมราชปณิธาน ในพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ซึ่งพระองค์ได้ทรงยึดมั่นและปฏิบัติ ตามพระบรมราชปณิทานในปฐมบรมราชโองการอย่างเคร่งครัด การที่ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ผู้ครองแผ่นดินโดยธรรมนั้น เป็นบุญของประชาราษฎรโดยแท้ เพราะพระบารมีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้แผ่ไพศาลปกเกล้าปกกระหม่อมประชาชนชาวไทยให้อยู่เย็นเป็นสุข ชาติไทยสามารถธำรงรักษาเอกราชและอธิปไตยไว้ได้อย่างมั่นคง
วันนี้ (5 พ.ค. 57) เวลา 07.30 น.ที่หอประชุมโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ จ.บึงกาฬ นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ พร้อมด้วยข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ตำรวจ ทหาร ชมรม มูลนิธิ ลูกเสือชาวบ้านและพสกนิกรชาวจังหวัดบึงกาฬ ได้ร่วมใจกันประกอบพิธีถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี พ.ศ. 2557 และเนื่องในโอกาสครบรอบ 64 ปี แห่งการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับพระบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยโดยสมบูรณ์แบบ กล่าวคือ พระองค์ ได้เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติต่อจากพระบรมเชษฐาธิราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอนันทมหิดล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489 แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาอยู่ ณ ทวีปยุโรป จนกระทั่งทรงบรรลุนิติภาวะจึงเสด็จนิวัตประเทศไทยและรัฐบาลไทยได้น้อมเกล้าฯ จัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถวาย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493
สำหรับพิธีวันฉัตรมงคลปีนี้ จังหวัดบึงกาฬได้จัดให้มีพิธีถวายพานพุ่มทอง-พุ่มเงิน ถวายราชสักการะหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรมูลนิธิ พสกนิกรชาวจังหวัดบึงกาฬร่วมประกอบพิธีจำนวนมาก ทั้งนี้เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เดินทางมาถึงได้ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา ถวายพานพุ่มทอง-พุ่มเงิน เปิดกรวยกระทงดอกไม้ และอ่านถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ เหล่าพสกนิกรชาวจังหวัดบึงกาฬ ร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชา
นายชโลธร ผาโคตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า เนื่องในอภิลักขิตมหามงคลสมัยวันคล้ายวันบรมราชาภิเษกสมโภชพระมหาเศวตฉัตร เครื่องราชกกุธภัณฑ์ และพระราชมณเฑียร ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตตลาธิเบศ รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อพสกนิกรเป็นล้นเกล้าล้นกระหม่อมสุดจะพรรณา พระองค์ได้ทรงประกอบพระราชภารกิจอันหนักยิ่ง ตั้งแต่วันที่เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ ตราบจนบัดนี้เป็นเวลากว่า 64 ปี กาลเวลาได้พิสูจน์ให้มหาชนประจักษ์แล้วว่า พระองค์ได้ทรงปฏิบัติตามพระบรมราชปณิธาน ในพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ซึ่งพระองค์ได้ทรงยึดมั่นและปฏิบัติ ตามพระบรมราชปณิทานในปฐมบรมราชโองการอย่างเคร่งครัด การที่ประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ผู้ครองแผ่นดินโดยธรรมนั้น เป็นบุญของประชาราษฎรโดยแท้ เพราะพระบารมีในใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้แผ่ไพศาลปกเกล้าปกกระหม่อมประชาชนชาวไทยให้อยู่เย็นเป็นสุข ชาติไทยสามารถธำรงรักษาเอกราชและอธิปไตยไว้ได้อย่างมั่นคง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น