พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ
ทรงพระกรุณาโปรดให้หม่อมหลวงสราลี กิติยากร
เป็นผู้แทนพระองค์ไปในการบำเพ็ญกุศลถวายเพลิงศพ พระครูวิมลภาวนาคุณ
หรือหลวงปู่คูณ สุเมโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าภูทอง หมู่ที่ 11 บ้านภูทอง
ตำบลบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ ( 26 พ.ค.56 ) หม่อมหลวงสราลี กิติยากร ผู้แทนพระองค์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เดินทางมาถึงเมรุชั่วคราววัดป่าภูทอง นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พันเอกอำนวย จุลโนนยาง เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 24 ผู้แทนผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุดรธานี ให้การต้อนรับ จากนั้นได้เดินไปสักการะพระพุทธรูป ณ โต๊ะหมู่บูชา นังยังเก้าอี้ที่เตรียมไว้ ฟังพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ โดยในวันนี้ หลวงพ่ออุทัย สิริธโร เจ้าอาวาสวัดป่าเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่องเป็นองค์แสดงพระธรรมเทศนา พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล ผู้แทนพระองค์ถวายไทยทาน จากนั้นหลวงพ่ออุทัย สิริธโร เจ้าอาอวาสวัดป่าเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน ประธานสงฆ์ เดินขึ้นสู่เมรุชั่วคราววัดป่าภูทอง วางผ้าไตรสักการะสรีระพระครูวิมลภาวนาคุณ หรือหลวงปู่คูณ สุเมโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าภูทอง พระสงฆ์สมนะศักดิ์ 2 รูปสวดมาติกาบังสุกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ถวายผ้าไตรเคารพสรีระพระครูวิมลภาวนาคุณ พระอาจารย์ อินทร์ถวายสันตุสโก สวดมาติกาบังสุกุล หม่อมหลวงสราลี กิติยากร เป็นผู้แทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ขึ้นวางผ้าไตร 3 ผืนของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และประกอบพิธีถวายเพลิงศพพระครูวิมลภาวนาคุณ หรือหลวงปู่คูณ สุเมโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าภูทอง คณะสงฆ์ ข่าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประชาชนวางไม้จิกและถวายดอกไม้จันทน์เคารพสรีระพระครูวิมลภาวนาคุณ หรือหลวงปู่คูณ สุเมโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าภูทอง
หลวงพ่อคูณ สุเมโธ หรือหลวงปู่คูณ ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2486 ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน5 ปีมะแม ที่บ้านหนองแสง ตำบลสิงห์ อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันคือจังหวัดยโสธร) โยมบิดาชื่อบุญธรรม ชูรัตน์ โยมมารดา นางจันทร์ สลับสี หลวงปู่เป็นบุตรคนโต ในพี่น้อง 3 คน คนที่ 2 เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก คนที่ 3 เป็นชายชื่ออุดม ซึ่งได้บรรพชา และอุปสมบทและมรณภาพด้วยไข้มาลาเรียนเมื่อปี พ.ศ.2524 ที่วัดถ้ำหีบ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
หลวงพ่อคูณ สุเมโธจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งเป็นการศ฿กษาสูงสุดในขณะนั้น จากนั้นได้ช่วยงานครอบครัวทุกอย่างทั้งหนักเบา จนอายุ 16 ปี ได้เดินทางไปทำงานกับญาติที่เหมืองทุบหิน ทางภาคใต้จนอายุ 23 ปี ได้เดินทางกลับบ้านหนองแสง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับหลวงปู่สอ พันธุโร มาพักที่บ้านหนองแสง หลวงปู่จึงตัดสินใจขอเป็นนาคกับหลวงปู่สอ และได้บรรพชาอุปสมบทที่วัดสร้างโศก หรือวัดศรีธรรมาราม ที่อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 13 มกราคม 2509 มีฉายาว่า สุเมโธ แปลว่า ผู้มีปัญญางาม โดยมีพระครูทัศนประกาศ (บุ จันทสิริ ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาวิสุทธิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระจำปี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงปู่คูณพักอยู่ที่วัดป่าบ้านหนองแสงช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นได้ติดตามหลวงปู่สอ ไปจำพรรษาที่วัดอรัญญิกาวาส อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี และได้ปฏิบัติตามประเพณีของพระกรรมฐานจากการอ่านหนังสือของหลวงงตามหาบัว ญษณสัมปะนโน จึงปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือเดินจงกรมตลอดคืน อดนอน ผ่อนอาหาร นั่งสมาธิภาวนา จนจิตเข้าถึงฐานแห่งสมาธิเป็นที่อัศจรรย์ เห็นผลการกระทำความเพียรภาวนาเรื่อยมา จนพรรษาที่ 7 เกิดจิดเสื่อมจากสมาธิ มีความร้องรุ่มอยู่เป็นเวลานานจึงตัดสินใจไปขอฟังธรรมจากหลวงปู้สิงห์ทอง ธัมมวโร ที่วัดแก้วชุมพล จังหวัดสกลนคร ในคืนแรกที่ได้ฟังธรรมจากหลวงปู่สิงห์ทอง จิตที่เป็นไฟ ก็เหมือนได้น้ำเย็นชโลมใจ หลวงปู่ท่างจึงเร่งความเพียรภาวนา โดยการอดนอน ผ่อนอาหร จิตก็สงบเป็นสมาธิ พิจารณา ปัญญาได้ จนมีความมั่นใจ จึงอธิษฐาน ว่าจากนี้ไปจะไม่สึก หลวงปู่ท่านได้ศึกษาอบรมธรรมะ ข้อวัตรปฏิบัติกับหลวงปู่สิงห์ทอง ธัมมวโร ที่วัดแก้วชุมพล อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนครเป็นเวลา 5 ปี หลวงปู่จึงขอออกไปเที่ยวธุดงค์ยังที่ต่างๆ จนถึงเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน อยู่กับชาวเขากะเหรี่ยงและมูเซอ หลังจากหลวงปู่สิงห์ทอง มรณภาพแล้วจึงได้กลับไปจำพรรษษอยู่ที่วัดป่าแก้วชุมพลอีก 3 พรรษษ ก่อนที่จะออกเที่ยวธุดงค์ในเขตภาคอีสาน และได้จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ซึ่งเป็นคนบ้านหนองแสงด้วยกัน ที่วัดถ้ำยานาโพธิ์ ภูลังกา ก่อนที่จะรับนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสจำพรรษาที่วัดป่าภูทอง เมื่อปี พ.ศ.2533 จนถึงปัจจุบัน หลวงพ่อคูณ สุเมโธ ละสังขารเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2556 เวลา 15.00 น.ที่วัดเขารูปช้าง ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ด้วยอาการอันสงบ สิริอายุได้ 70 ปี 5 เดือน 12 วัน 47 พรรษา
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ ( 26 พ.ค.56 ) หม่อมหลวงสราลี กิติยากร ผู้แทนพระองค์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เดินทางมาถึงเมรุชั่วคราววัดป่าภูทอง นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พันเอกอำนวย จุลโนนยาง เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 24 ผู้แทนผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอุดรธานี ให้การต้อนรับ จากนั้นได้เดินไปสักการะพระพุทธรูป ณ โต๊ะหมู่บูชา นังยังเก้าอี้ที่เตรียมไว้ ฟังพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ โดยในวันนี้ หลวงพ่ออุทัย สิริธโร เจ้าอาวาสวัดป่าเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่องเป็นองค์แสดงพระธรรมเทศนา พระสงฆ์สวดมาติกาบังสุกุล ผู้แทนพระองค์ถวายไทยทาน จากนั้นหลวงพ่ออุทัย สิริธโร เจ้าอาอวาสวัดป่าเขาใหญ่เจริญธรรมญาณสัมปันโน ประธานสงฆ์ เดินขึ้นสู่เมรุชั่วคราววัดป่าภูทอง วางผ้าไตรสักการะสรีระพระครูวิมลภาวนาคุณ หรือหลวงปู่คูณ สุเมโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าภูทอง พระสงฆ์สมนะศักดิ์ 2 รูปสวดมาติกาบังสุกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ถวายผ้าไตรเคารพสรีระพระครูวิมลภาวนาคุณ พระอาจารย์ อินทร์ถวายสันตุสโก สวดมาติกาบังสุกุล หม่อมหลวงสราลี กิติยากร เป็นผู้แทนพระองค์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ขึ้นวางผ้าไตร 3 ผืนของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และประกอบพิธีถวายเพลิงศพพระครูวิมลภาวนาคุณ หรือหลวงปู่คูณ สุเมโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าภูทอง คณะสงฆ์ ข่าราชการชั้นผู้ใหญ่ ประชาชนวางไม้จิกและถวายดอกไม้จันทน์เคารพสรีระพระครูวิมลภาวนาคุณ หรือหลวงปู่คูณ สุเมโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าภูทอง
หลวงพ่อคูณ สุเมโธ หรือหลวงปู่คูณ ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2486 ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน5 ปีมะแม ที่บ้านหนองแสง ตำบลสิงห์ อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันคือจังหวัดยโสธร) โยมบิดาชื่อบุญธรรม ชูรัตน์ โยมมารดา นางจันทร์ สลับสี หลวงปู่เป็นบุตรคนโต ในพี่น้อง 3 คน คนที่ 2 เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก คนที่ 3 เป็นชายชื่ออุดม ซึ่งได้บรรพชา และอุปสมบทและมรณภาพด้วยไข้มาลาเรียนเมื่อปี พ.ศ.2524 ที่วัดถ้ำหีบ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี
หลวงพ่อคูณ สุเมโธจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งเป็นการศ฿กษาสูงสุดในขณะนั้น จากนั้นได้ช่วยงานครอบครัวทุกอย่างทั้งหนักเบา จนอายุ 16 ปี ได้เดินทางไปทำงานกับญาติที่เหมืองทุบหิน ทางภาคใต้จนอายุ 23 ปี ได้เดินทางกลับบ้านหนองแสง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับหลวงปู่สอ พันธุโร มาพักที่บ้านหนองแสง หลวงปู่จึงตัดสินใจขอเป็นนาคกับหลวงปู่สอ และได้บรรพชาอุปสมบทที่วัดสร้างโศก หรือวัดศรีธรรมาราม ที่อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 13 มกราคม 2509 มีฉายาว่า สุเมโธ แปลว่า ผู้มีปัญญางาม โดยมีพระครูทัศนประกาศ (บุ จันทสิริ ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาวิสุทธิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระจำปี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงปู่คูณพักอยู่ที่วัดป่าบ้านหนองแสงช่วงเวลาหนึ่ง จากนั้นได้ติดตามหลวงปู่สอ ไปจำพรรษาที่วัดอรัญญิกาวาส อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี และได้ปฏิบัติตามประเพณีของพระกรรมฐานจากการอ่านหนังสือของหลวงงตามหาบัว ญษณสัมปะนโน จึงปฏิบัติอย่างเคร่งครัด คือเดินจงกรมตลอดคืน อดนอน ผ่อนอาหาร นั่งสมาธิภาวนา จนจิตเข้าถึงฐานแห่งสมาธิเป็นที่อัศจรรย์ เห็นผลการกระทำความเพียรภาวนาเรื่อยมา จนพรรษาที่ 7 เกิดจิดเสื่อมจากสมาธิ มีความร้องรุ่มอยู่เป็นเวลานานจึงตัดสินใจไปขอฟังธรรมจากหลวงปู้สิงห์ทอง ธัมมวโร ที่วัดแก้วชุมพล จังหวัดสกลนคร ในคืนแรกที่ได้ฟังธรรมจากหลวงปู่สิงห์ทอง จิตที่เป็นไฟ ก็เหมือนได้น้ำเย็นชโลมใจ หลวงปู่ท่างจึงเร่งความเพียรภาวนา โดยการอดนอน ผ่อนอาหร จิตก็สงบเป็นสมาธิ พิจารณา ปัญญาได้ จนมีความมั่นใจ จึงอธิษฐาน ว่าจากนี้ไปจะไม่สึก หลวงปู่ท่านได้ศึกษาอบรมธรรมะ ข้อวัตรปฏิบัติกับหลวงปู่สิงห์ทอง ธัมมวโร ที่วัดแก้วชุมพล อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนครเป็นเวลา 5 ปี หลวงปู่จึงขอออกไปเที่ยวธุดงค์ยังที่ต่างๆ จนถึงเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน อยู่กับชาวเขากะเหรี่ยงและมูเซอ หลังจากหลวงปู่สิงห์ทอง มรณภาพแล้วจึงได้กลับไปจำพรรษษอยู่ที่วัดป่าแก้วชุมพลอีก 3 พรรษษ ก่อนที่จะออกเที่ยวธุดงค์ในเขตภาคอีสาน และได้จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ ซึ่งเป็นคนบ้านหนองแสงด้วยกัน ที่วัดถ้ำยานาโพธิ์ ภูลังกา ก่อนที่จะรับนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสจำพรรษาที่วัดป่าภูทอง เมื่อปี พ.ศ.2533 จนถึงปัจจุบัน หลวงพ่อคูณ สุเมโธ ละสังขารเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม 2556 เวลา 15.00 น.ที่วัดเขารูปช้าง ตำบลปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ด้วยอาการอันสงบ สิริอายุได้ 70 ปี 5 เดือน 12 วัน 47 พรรษา
ทีมข่าว ส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ อยุธยา / ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น