นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์เป็นดินแดนที่มีความรุ่งเรืองทางอารยธรรมมาช้านาน โดยมีชาวสุรินทร์ที่มีเชื้อสายเขมร ลาว กวยและจีนอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขภายใต้พระบารมีของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ประกอบกับช้างมีความสำคัญต่อวิถีชีวิตของคนไทยมาช้านาน ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ การเมืองและขนบธรรมเนียมประเพณี เช่น การแห่เทียนพรรษา การบวชนาค โกนจุก เป็นต้น จังหวัดสุรินทร์ตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯที่มีต่อปวงชนชาวไทยและเห็นถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะงานประเพณีเข้าพรรษาซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของพุทธศาสนิกชน จังหวัดสุรินทร์จึงได้จัดงาน “มหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง” ประจำปี 2556 ขึ้น
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง เป็นงานประจำปีที่มีความสำคัญอีกงานหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ จัดขึ้นเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ให้คงอยู่สืบไป และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ในการเผยแพร่งานให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยในปีนี้จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและงานตักบาตรบนหลังช้างอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 21-22 กรกฎาคม 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ และบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ในงานมีกิจกรรมประกอบด้วย พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดกลางสุรินทร์ไปประดิษฐานบนมณฑปบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ พิธีเจริญพระพุทธมนต์และอธิษฐานจิตถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การจัดขบวนแห่เทียนพรรษาด้วยขบวนช้างที่ประดับด้วยแสงไฟสวยงาม 86 เชือก โดยมีผู้ร่วมขบวนจาก 12 คุ้มวัด กว่า 1,500 คน แห่จากบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวางสิ้นสุด ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นอกจากนั้น ยังมีการประกวดขบวนแห่ ประกวดเทียนพรรษา ประกวดโต๊ะหมู่บูชา การตอบปัญหาธรรมะ รวมทั้งนิทรรศการทางศาสนา และพิธีตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก
จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกคนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง ในงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง วันที่ 21-22 กรกฎาคม 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ และบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า การจัดงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง เป็นงานประจำปีที่มีความสำคัญอีกงานหนึ่งของจังหวัดสุรินทร์ จัดขึ้นเพื่อสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ให้คงอยู่สืบไป และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ในการเผยแพร่งานให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยในปีนี้จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและงานตักบาตรบนหลังช้างอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 21-22 กรกฎาคม 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ และบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ในงานมีกิจกรรมประกอบด้วย พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากวัดกลางสุรินทร์ไปประดิษฐานบนมณฑปบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ พิธีเจริญพระพุทธมนต์และอธิษฐานจิตถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การจัดขบวนแห่เทียนพรรษาด้วยขบวนช้างที่ประดับด้วยแสงไฟสวยงาม 86 เชือก โดยมีผู้ร่วมขบวนจาก 12 คุ้มวัด กว่า 1,500 คน แห่จากบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวางสิ้นสุด ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ นอกจากนั้น ยังมีการประกวดขบวนแห่ ประกวดเทียนพรรษา ประกวดโต๊ะหมู่บูชา การตอบปัญหาธรรมะ รวมทั้งนิทรรศการทางศาสนา และพิธีตักบาตรบนหลังช้างหนึ่งเดียวในโลก
จังหวัดสุรินทร์จึงขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกคนร่วมทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง ในงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง วันที่ 21-22 กรกฎาคม 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสุรินทร์ และบริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง
สมทรง เผือกผล/ส.ปชส.สุรินทร์/ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น