รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ตรวจเยี่ยมคณะทำงานจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทยจังหวัดอุดรธานี
และเยี่ยมชมการจัดงาน OTOP ภูมิภาค ที่จังหวัดอุดรธานี
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ ( 29 มิ.ย. 56) ที่ห้องประชุม 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางมาพบคณะทำงานจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทยจังหวัดอุดรธานี โดยมีนายชยพล ธิติศักดิ์ และนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ คณะทำงานฯให้การต้อบรับและสรุปภาพรวมการจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย จังหวัดอุดรธานี โดยในวันนี้เป็นการจดเวทีฯโดยมีกลุ่มเป้าหมายจาก 10 อำเภอประกอบด้วย อำเภอเมือง หนองแสง ศณีธาตุ กู่แก้ว ไชยวาน วังสามหมอ หนองวัซซอ โนนสะอาด กุมภวาปี หนองหาน รวม 983 คน ในขณะที่วันพรุ่งนี้เป็นการจัดเวทีของกลุ่มเป้าหมายอีก 10 อำเภอในพื้นที่อุดรธานี คือ บ้านดุง เพ็ญ นายูง บ้านผือ ประจักษ์ศิลปาคม ทุ่งฝน พิบูลย์รักษ์ กุดจับ น้ำโสม และสร้างคอม จำนวน 817 คน
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย นับเป็นมิติหนึ่งและเป็นวิถีทางหนึ่งที่ทำให้คนไทยได้ร่วมกันหาทางออก เพื่อให้เกิดความปรองดองของคนในชาติ ลดและยุติความขัดแย้ง เพื่อให้บ้านเมืองสว่างไม่อึมครึม เป็นการหาทิศทางในการแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศไทย โดยทุกคนมีส่วนร่วมในการร่วมกันเสนอแนะความคิดเห็นต่อผู้นำประเทศ ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดแต่อาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบ ด้วยขอจำกัดในเรื่องของเวลา งบประมาณ ซึ่งมาถึงจุดนี้ก็เดินทางมาครึ่งทางแล้ว ( ครั้งที่ 60 จาก 108 ครั้ง )
ในขณะที่ทำไมต้องใช้มหาวิทยาลัยราชภัฎเป็นสถานที่จัดงานนั้น มท.1 กล่าวว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าการจัดงานมีความเป็นกลาง ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝายทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมเสนอความคิดเห็นข้อเสนอ แนะในประเด็นปัญหาความคัดแย้งในสังคม ตามประเด็นซึ่งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่ง ชาติ หรือ คอป. คณะกรรมการพิจารณาศึกษษแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร และสถาบันพระปกเกล้าทำการวิจัยเพื่อค้นหาปัจจัยและแนวทางที่จะทำให้การสร้าง ความปรองดองแห่งชาติประสบความสำเร็จ ใน 9 ประเด็น อาทิ ความเข้าใจประชาธิปไตยที่แตกต่าง ,ความเคลือบแคลงในหลักนิติธรรม,ตุลาการภิวัฒน์ การแทรงแซงองค์กรอิสระ, การรัฐประหารและบทบาทของทหารในการจัดการความคัดแย้ง ,ความเหลื่อมล่ำทางเศรษฐกิจและสังคม, การขยายตัวของสื่อการเมืองและสื่อบุคคล ,การกล่าวอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อประโยชน์ทางการเมือง, สังคมขาดองค์ความรู้ในการจัดการความขัดแย้งและสันติวิธี ,และความขัดแย้งแบบเดิมพันสูง เป็นต้น
จากนั้นนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปที่สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เพื่อพบประคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสตรีจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และเยี่ยมชมการจัดงาน OTOP ภูมิภาคจังหวัดอุดรธานี ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่มีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จาก ทั่วประเทศ กว่า 300 บูธ ระหว่างวันที่ 25มิถุนายน -1 กรกฎาคม 2556 โดยผ่านมา 4 วัน มียอดจำหน่ายสินค้ากว่า 24,388,752 บาท ในขณะที่การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 5 โดยครั้งแรกจัดที่ จังหวัดกระบี่ มียอดจำหน่าย 36,810,918 บาท, ครั้งที่ 2 จัดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มียอดจำหน่าย44,018,218 บาท ,ครั้งที่ 3 จังหวัดกาญจนบุรี มียอดจำหน่าย 52,864,933 บาทครั้งที่ 4 จัดที่ จังหวัดนครสวรรค์ มียอดจำหน่าย 44,850,391 บาทรวมยอดการจำหน่าย 4 ครั้งที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 178,607,460 บาท
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ ( 29 มิ.ย. 56) ที่ห้องประชุม 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหมาดไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางมาพบคณะทำงานจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทยจังหวัดอุดรธานี โดยมีนายชยพล ธิติศักดิ์ และนายณรงค์ พลละเอียด รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ คณะทำงานฯให้การต้อบรับและสรุปภาพรวมการจัดเวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย จังหวัดอุดรธานี โดยในวันนี้เป็นการจดเวทีฯโดยมีกลุ่มเป้าหมายจาก 10 อำเภอประกอบด้วย อำเภอเมือง หนองแสง ศณีธาตุ กู่แก้ว ไชยวาน วังสามหมอ หนองวัซซอ โนนสะอาด กุมภวาปี หนองหาน รวม 983 คน ในขณะที่วันพรุ่งนี้เป็นการจัดเวทีของกลุ่มเป้าหมายอีก 10 อำเภอในพื้นที่อุดรธานี คือ บ้านดุง เพ็ญ นายูง บ้านผือ ประจักษ์ศิลปาคม ทุ่งฝน พิบูลย์รักษ์ กุดจับ น้ำโสม และสร้างคอม จำนวน 817 คน
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เวทีประชาเสวนาหาทางออกประเทศไทย นับเป็นมิติหนึ่งและเป็นวิถีทางหนึ่งที่ทำให้คนไทยได้ร่วมกันหาทางออก เพื่อให้เกิดความปรองดองของคนในชาติ ลดและยุติความขัดแย้ง เพื่อให้บ้านเมืองสว่างไม่อึมครึม เป็นการหาทิศทางในการแก้ไขปัญหา เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ประเทศไทย โดยทุกคนมีส่วนร่วมในการร่วมกันเสนอแนะความคิดเห็นต่อผู้นำประเทศ ซึ่งถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดแต่อาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบ ด้วยขอจำกัดในเรื่องของเวลา งบประมาณ ซึ่งมาถึงจุดนี้ก็เดินทางมาครึ่งทางแล้ว ( ครั้งที่ 60 จาก 108 ครั้ง )
ในขณะที่ทำไมต้องใช้มหาวิทยาลัยราชภัฎเป็นสถานที่จัดงานนั้น มท.1 กล่าวว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าการจัดงานมีความเป็นกลาง ไม่มีการแบ่งฝักแบ่งฝายทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมเสนอความคิดเห็นข้อเสนอ แนะในประเด็นปัญหาความคัดแย้งในสังคม ตามประเด็นซึ่งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่ง ชาติ หรือ คอป. คณะกรรมการพิจารณาศึกษษแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร และสถาบันพระปกเกล้าทำการวิจัยเพื่อค้นหาปัจจัยและแนวทางที่จะทำให้การสร้าง ความปรองดองแห่งชาติประสบความสำเร็จ ใน 9 ประเด็น อาทิ ความเข้าใจประชาธิปไตยที่แตกต่าง ,ความเคลือบแคลงในหลักนิติธรรม,ตุลาการภิวัฒน์ การแทรงแซงองค์กรอิสระ, การรัฐประหารและบทบาทของทหารในการจัดการความคัดแย้ง ,ความเหลื่อมล่ำทางเศรษฐกิจและสังคม, การขยายตัวของสื่อการเมืองและสื่อบุคคล ,การกล่าวอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อประโยชน์ทางการเมือง, สังคมขาดองค์ความรู้ในการจัดการความขัดแย้งและสันติวิธี ,และความขัดแย้งแบบเดิมพันสูง เป็นต้น
จากนั้นนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางไปที่สนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เพื่อพบประคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสตรีจังหวัดอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และเยี่ยมชมการจัดงาน OTOP ภูมิภาคจังหวัดอุดรธานี ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่มีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP จาก ทั่วประเทศ กว่า 300 บูธ ระหว่างวันที่ 25มิถุนายน -1 กรกฎาคม 2556 โดยผ่านมา 4 วัน มียอดจำหน่ายสินค้ากว่า 24,388,752 บาท ในขณะที่การจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 5 โดยครั้งแรกจัดที่ จังหวัดกระบี่ มียอดจำหน่าย 36,810,918 บาท, ครั้งที่ 2 จัดที่จังหวัดกาฬสินธุ์ มียอดจำหน่าย44,018,218 บาท ,ครั้งที่ 3 จังหวัดกาญจนบุรี มียอดจำหน่าย 52,864,933 บาทครั้งที่ 4 จัดที่ จังหวัดนครสวรรค์ มียอดจำหน่าย 44,850,391 บาทรวมยอดการจำหน่าย 4 ครั้งที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 178,607,460 บาท
ทีมข่าวส.ปชส.อด. ศรีภูมิ ทองใหญ่ ณ
อยุธยา ข่าว/ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น