นายพิเชษฐ์ พุ่มพันธ์
ผอ.สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เขตพื้นที่ 3 (นครราชสีมา)
หรือ ป.ป.ช.3 กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ประจำจังหวัดนครราชสีมา ประกาศรับสมัครกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริต
(ป.ป.จ.) ประจำจังหวัดนครราชสีมา
โดยผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา ๑๐๓/๑๑
แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔ ดังต่อไปนี้ ๑.
มีคุณสมบัติ (๑) เป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ (๒)
มีความรู้ความสามารถและมีผลงานเป็นที่ยอมรับในด้านการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริต (๓) มีสัญชาติไทย (๔)
มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบห้าปีบริบูรณ์ (๕)
รับหรือเคยรับราชการในระดับไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่าหรือ
เป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์หรือมีผลงานเป็นที่ยอมรับใน
ลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อ
การส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือเป็นผู้ซึ่งองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพ
ที่มีกฎหมายรับรองและปฏิบัติงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปีโดยองค์การพัฒนาเอกชนหรือ องค์กรวิชาชีพให้การรับรอง ๒.ไม่มีลักษณะต้องห้าม (๑) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (๒) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคาสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย (๓) ติดยาเสพติดให้โทษ (๔) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต (๕) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกแม้ว่าคดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษ หรือเคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้จำคุกเว้นแต่ในความผิดที่ ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษหรือความผิดฐานหมิ่นประมาท (๖) เคยถูกไล่ออกปลดออกหรือให้ออกจากราชการหน่วยงานของรัฐหรือ รัฐวิสาหกิจ (๗) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะ ร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ (๘) เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใด
การส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตหรือเป็นผู้ซึ่งองค์การพัฒนาเอกชนหรือองค์กรวิชาชีพ
ที่มีกฎหมายรับรองและปฏิบัติงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปีโดยองค์การพัฒนาเอกชนหรือ องค์กรวิชาชีพให้การรับรอง ๒.ไม่มีลักษณะต้องห้าม (๑) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ (๒) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือโดยคาสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย (๓) ติดยาเสพติดให้โทษ (๔) เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต (๕) ต้องคำพิพากษาให้จำคุกแม้ว่าคดีนั้นจะยังไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษ หรือเคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้จำคุกเว้นแต่ในความผิดที่ ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษหรือความผิดฐานหมิ่นประมาท (๖) เคยถูกไล่ออกปลดออกหรือให้ออกจากราชการหน่วยงานของรัฐหรือ รัฐวิสาหกิจ (๗) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะ ร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ (๘) เคยถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งไม่ว่าด้วยเหตุใด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น