กลุ่มผู้ประกอบการรถตู้โดยสารรับส่งนักเรียน กว่า 200 คน ชุมนุมเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิแก้ปัญหา หลังมีสมาชิกบางคนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขนส่ง กวดขัน จับกุมหลายครั้ง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ 7 ส.ค. 56 ชมรมผู้ประกอบการรถตู้โดยสาร รับส่งนักเรียน อำเภอเมืองชัยภูมิ กว่า 200 คน นำโดยนายสุรศักดิ์ ศรีโคตร เลขาชมรมผู้ประกอบการฯ เดินทางพร้อมรถตู้ มายังศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิก ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากที่ผ่านมา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจจับบ่อย ในข้อหาไม่มีใบอนุญาต บางคนไปทำเรื่องขอใบอนุญาตที่ขนส่งแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ออกใบอนุญาตให้
ต่อมานายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย ขนส่งจังหวัดชัยภูมิ ผู้กำกับการ สภ.เมืองชัยภูมิ ได้เปิดโต๊ะพูดคุย เพื่อหาทางออก โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง มาร่วมเจรจาด้วย และเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ทั้งฝ่ายรถตู้ ฝ่ายรถโดยสารเจ้าของสัมปทานเส้นทาง ฝ่ายเจ้าหน้าที่ขนส่ง ในฐานะนายทะเบียน ออกใบอนุญาต และฝ่ายตำรวจ ผู้บังคับใช้กฎหมาย
ได้ข้อสรุป เบื้องต้น จะร่วมกันทำ MOU เพื่อวางแนวทางหาทางออกร่วมกัน ที่สำคัญคือ MOU ที่ทำขึ้นทุกฝ่ายต้องยอมรับซึ่งกันและกัน ในระยะนี้ให้ทุกฝ่าย เร่งร่าง MOU ขึ้นมาให้มีผลบังคับใช้เสมอภาคกันทั้งจังหวัด ในเวลา 1 เดือนให้แล้วเสร็จ ในระหว่างนี้ ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลดความเข้มข้นในการตรวจจับรถตู้ลง จนกว่าจะได้ข้อตกลงที่ชัดเจน ทำให้ผู้ชุมนุมต่างพอใจ และสลายตัวเมื่อเวลา 12.00 น.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ 7 ส.ค. 56 ชมรมผู้ประกอบการรถตู้โดยสาร รับส่งนักเรียน อำเภอเมืองชัยภูมิ กว่า 200 คน นำโดยนายสุรศักดิ์ ศรีโคตร เลขาชมรมผู้ประกอบการฯ เดินทางพร้อมรถตู้ มายังศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้แก้ปัญหาความเดือดร้อนของสมาชิก ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากที่ผ่านมา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจจับบ่อย ในข้อหาไม่มีใบอนุญาต บางคนไปทำเรื่องขอใบอนุญาตที่ขนส่งแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ออกใบอนุญาตให้
ต่อมานายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย ขนส่งจังหวัดชัยภูมิ ผู้กำกับการ สภ.เมืองชัยภูมิ ได้เปิดโต๊ะพูดคุย เพื่อหาทางออก โดยเชิญตัวแทนผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง มาร่วมเจรจาด้วย และเปิดโอกาสให้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ทั้งฝ่ายรถตู้ ฝ่ายรถโดยสารเจ้าของสัมปทานเส้นทาง ฝ่ายเจ้าหน้าที่ขนส่ง ในฐานะนายทะเบียน ออกใบอนุญาต และฝ่ายตำรวจ ผู้บังคับใช้กฎหมาย
ได้ข้อสรุป เบื้องต้น จะร่วมกันทำ MOU เพื่อวางแนวทางหาทางออกร่วมกัน ที่สำคัญคือ MOU ที่ทำขึ้นทุกฝ่ายต้องยอมรับซึ่งกันและกัน ในระยะนี้ให้ทุกฝ่าย เร่งร่าง MOU ขึ้นมาให้มีผลบังคับใช้เสมอภาคกันทั้งจังหวัด ในเวลา 1 เดือนให้แล้วเสร็จ ในระหว่างนี้ ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลดความเข้มข้นในการตรวจจับรถตู้ลง จนกว่าจะได้ข้อตกลงที่ชัดเจน ทำให้ผู้ชุมนุมต่างพอใจ และสลายตัวเมื่อเวลา 12.00 น.
สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น