วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

โครงการเพิ่มรายได้ชาวไร่อ้อยปลูกข้าวหลังเก็บเกี่ยวตออ้อยในจังหวัดขอนแก่นนำร่อง 6 อำเภอ

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นกล่าวในรายการผู้ว่าพบประชาชน วันที่ 18 กันยายน 2556 ว่าจังหวัดขอนแก่นจัดงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกข้าวไร่หลังรื้อตออ้อย ที่บ้านหนองสองห้อง ตำบลเขาสวนกวาง อำเภอเขาสวนกวาง การจัดงานครั้งนี้เป็นการให้ความรู้กับเกษตรกรที่ปลูกอ้อยครบ 3 ตอหลังรอปลูกอ้อยอีกรอบก็พักดินไว้โดยการปลูกข้าวไร่เพื่อเพิ่มรายได้ซึ่งจะต้องปลูกช่วงเดือนมิถุนายน และเก็บเกี่ยวปลายเดือนตุลาคมจากนั้นก็ทำการปลูกอ้อยได้จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีก เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพิ่มรายได้ชาวไร่อ้อยโดยการปลูกข้าวไร่เป็นความคิดของผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นที่เห็นว่าการทำไร่อ้อยโรงงานหลังอ้อยครบสามตอจะมีเวลาการพักแปลงประมาณ 6 เดือนซึ่งอยู่ในช่วงหน้าฝนจึงได้ประสานกรมการข้าวนำข้าวไร่มาให้เกษตรกรปลูกเพื่อเพิ่มพื้นที่การปลูกข้าวไร่ของจังหวัดขอนแก่นที่เป็นจังหวัดที่เพาะพันธุ์ข้าวไร่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทยมีการปลูกข้าวไร่นำร่องใน 6 อำเภอจาก 26 อำเภอคือ อำเภอบ้านแฮด ชนบท ซำสูง กระนวน อุบลรัตน์และอำเภอเขาสวนกวาง โดยใช้พันธุ์ข้าวสกลนครที่ผลิตที่แปลงปลูกข้าวไร่อำเภอบ้านแฮดพื้นที่ปลูกข้าวไร่แหล่งใหญ่ของประเทศ ปัจจุบันพื้นที่ปลูกข้าวไร่ของจังหวัดขอนแก่นมีประมาณ 13,000 ไร่โดยได้ผลผลิต 300-450 กิโลกรัมต่อไร่ และเกษตรกรยังมีที่จำหน่ายและโรงสีแย่งกันรับจำนำด้วยโดยปีที่ผ่านมาราคาข้าวเปลือกอยู่ที่ 16 -18 บาทต่อกิโลกรัมทำให้เกษตรมีรายได้เพิ่มขึ้นหลังรอปลูกอ้อย รายได้หักต้นทุนแล้ว จาก 5,600 บาท เหลือ ไร่ละ 2,350 บาท/ไร่ และที่ท่าน้ำบ้านแก่งศิลา ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์โมอบพันธุ์ปลาน้ำจืดให้กับตัวแทนหมู่บ้านรอบๆเขื่อนอุบลรัตน์เพื่อนำไปปล่อยในหนองน้ำสาธารณะของหมู่บ้านปล่อยพันธุ์ปลาน้ำจืดจำนวน 6 แสนตัวลงในเขื่อนอุบลรัตน์ สำหรับเขื่อนอุบลรัตน์เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาที่มีหลากหลายชนิดมีเนื้อที่ 256,250 ไร่ เป็นแหล่งจับปลาสร้างรายได้ให้กับชาวประมงที่อยู่รอบเขื่อนได้ปริมาณปีละ 1,300 ตันสร้างมูลค่าได้ปีละ 65 ล้านบาท โดยผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นได้ขอให้ชาวบ้านที่อยู่รอบๆเขื่อนอุบลรัตน์ ช่วยกันอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำให้มีความอุดมสมบูรณ์และทำประมงให้ถูกวิธีจะได้ใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน






ข่าว/พิมพ์ นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น