เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (24 ต.ค. 56) สำนักงานกองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้จัดประชุมสรุปบทเรียนโครงการควบคุมยาสูบโดยชุมชนเป็นฐาน โดยมีเจ้าหน้าที่ สสส. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชน กว่า 80 คน ร่วมเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ หลังดำเนินโครงการมาได้ระยะหนึ่ง เพื่อค้นหา นวัตรกรรมใหม่ๆ มาปรับใช้ เป็นเครื่องมือในการรณรงค์ ควบคุมให้คนในชุมชน ลดละเลิก การสูบบุหรี่ เช่นการหาแกนนำ หรือบุคคลต้นแบบ เพื่อกระตุ้นให้สมาชิกในชุมชน ตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ หรือการร่วมมือกันจัดสภาพแวดล้อมในชุมชนให้เหมาะเหมาะ ติดป้ายเตือนในสถานที่ ที่กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ ตามวัด โรงเรียน และสถานที่ราชการต่างๆ ผู้นำชุมชนต้องหมั่นทำความเข้าใจ กับร้านค้า ให้รู้ถึงระเบียบการจำหน่ายบุหรี่ โดยเฉพาะเรื่องห้ามขายให้กับเด็กๆ
นายแพทย์สมควร พัฒนาชัยกร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า จากการดำเนินที่ผ่านมา พบว่าปัญหาการสูบบุหรี่ยังสูง โดยปัญหาการสูบบุหรี่มวนเอง พบว่าในตำบลนอกเมืองจะสูบบุหรี่ประเภทนี้สูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นกึ่งเมืองจะครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งจะมีสิ่งแปลกปลอม มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มากกว่าบุหรี่ทั่วไป ซึ่งมีสารนิโคตินหลายเท่า ดังนั้นชุมชนควรออกมาร่วมกันรณรงค์ให้ลดเลิก โดยสำนักงานสาธารณสุขชัยภูมิ ยินดีให้คำปรึกษา
ด้าน ผศ.ดร.มณฑา เก่งการพาณิช อาจารย์ภาควิชาสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ขณะนี้ในประเทศไทย พบผู้สูบบุหรี่รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าจะลดลง โดยเฉพาะประชาชนต่างจังหวัดนิยมสูบยาเส้น หรือบุหรี่มวนเองเป็นจำนวนมาก เปรียบเทียบกับบุหรี่ก้นกรอง มีอัตราส่วน 60 ต่อ 49 ดังนั้น จึงต้องอาศัยชุมชน เข้ามาช่วยเป็นกำลังสำคัญ รณรงค์ และควบคุมยาสูบทุกรูปแบบ เพื่อให้เป็นชุมชนปลอดยาสูบอย่างแท้จริง
นายแพทย์สมควร พัฒนาชัยกร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า จากการดำเนินที่ผ่านมา พบว่าปัญหาการสูบบุหรี่ยังสูง โดยปัญหาการสูบบุหรี่มวนเอง พบว่าในตำบลนอกเมืองจะสูบบุหรี่ประเภทนี้สูงถึง 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเป็นกึ่งเมืองจะครึ่งต่อครึ่ง ซึ่งจะมีสิ่งแปลกปลอม มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย มากกว่าบุหรี่ทั่วไป ซึ่งมีสารนิโคตินหลายเท่า ดังนั้นชุมชนควรออกมาร่วมกันรณรงค์ให้ลดเลิก โดยสำนักงานสาธารณสุขชัยภูมิ ยินดีให้คำปรึกษา
ด้าน ผศ.ดร.มณฑา เก่งการพาณิช อาจารย์ภาควิชาสุขศึกษาและพฤติกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า ขณะนี้ในประเทศไทย พบผู้สูบบุหรี่รายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าจะลดลง โดยเฉพาะประชาชนต่างจังหวัดนิยมสูบยาเส้น หรือบุหรี่มวนเองเป็นจำนวนมาก เปรียบเทียบกับบุหรี่ก้นกรอง มีอัตราส่วน 60 ต่อ 49 ดังนั้น จึงต้องอาศัยชุมชน เข้ามาช่วยเป็นกำลังสำคัญ รณรงค์ และควบคุมยาสูบทุกรูปแบบ เพื่อให้เป็นชุมชนปลอดยาสูบอย่างแท้จริง
สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น