ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมของกลาง ยาบ้ากว่า 1 พันเม็ด ยาไอซ์ 4.41 กรัม นอกจากนั้นยังตรวจยึด รถจักรยานยนต์ สร้อยคอทองคำ เงินสด และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ ด้านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด สั่งทุกพื้นที่เฝ้าระวังโดยเฉพาะแนวชายแดน
(14 ม.ค.57) ที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประยุทธ โพธิ์แก้วกุล รอง ผบก.ภ.จว และ พ.ต.ต.มานิตย์ สร้อยจิตร รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้เข้าจับกุม นายไอซ์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ภูมิลำเนาอยู่กระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ , นายนรินทร์ หรือบอล จันอินทร์ อายุ 23 ปี ,นายไกรวิน เรืองประโคน อายุ 22 ปี และนายวีรยุทธ หรือหยา ประจันบาล อายุ 23 ปี ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะซัดทอดไปยังผู้ร่วมขบวนการ กระทั่งสามารถจับกุมได้รวมทั้งสิ้น 4 คน จากการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า 1,203 เม็ด ยาไอซ์ 4.41 กรัม อุปกรณ์การเสพสารเสพติดจำนวนมาก นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินไว้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า จำนวน 1 คัน สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น เงินสด 1 แสนบาท พร้อมทั้งอายัดบัญชีของนายวีรยุทธ หรือ หยา ประจันบาล ซึ่งมีเงินสดอยู่กว่า 3 แสนบาท ไว้ตรวจสอบการได้มา รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ กว่า 5.2 แสนบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้ร่วมกันลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่น เยาวชน และผู้ใช้แรงงานในเขตพื้นที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และอำเภอใกล้เคียงมาเป็นเวลานาน จากนั้นได้ทำการติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 4 กระทั่งสามารถจับกุมได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์)โดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ค้าได้อย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ค้ารายย่อย และผู้เสพเท่านั้น เนื่องจากจังหวัดบุรีรัมย์เป็นเพียงเส้นทางผ่าน ไม่ใช่แหล่งผลิต จึงได้สั่งการให้ตำรวจทุกท้องที่เพิ่มมาตรการเข้มในการตั้งจุดตรวจสกัด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ หรือเล็ดลอดเข้าไปยังจังหวัดชั้นใน โดยเฉพาะในพื้นที่แนวชายแดนให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
(14 ม.ค.57) ที่บริเวณหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ประยุทธ โพธิ์แก้วกุล รอง ผบก.ภ.จว และ พ.ต.ต.มานิตย์ สร้อยจิตร รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.บุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้เข้าจับกุม นายไอซ์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ภูมิลำเนาอยู่กระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ , นายนรินทร์ หรือบอล จันอินทร์ อายุ 23 ปี ,นายไกรวิน เรืองประโคน อายุ 22 ปี และนายวีรยุทธ หรือหยา ประจันบาล อายุ 23 ปี ทั้งหมดมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ก่อนที่ผู้ต้องหาจะซัดทอดไปยังผู้ร่วมขบวนการ กระทั่งสามารถจับกุมได้รวมทั้งสิ้น 4 คน จากการตรวจค้นพบของกลางยาบ้า 1,203 เม็ด ยาไอซ์ 4.41 กรัม อุปกรณ์การเสพสารเสพติดจำนวนมาก นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินไว้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า จำนวน 1 คัน สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น เงินสด 1 แสนบาท พร้อมทั้งอายัดบัญชีของนายวีรยุทธ หรือ หยา ประจันบาล ซึ่งมีเงินสดอยู่กว่า 3 แสนบาท ไว้ตรวจสอบการได้มา รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ กว่า 5.2 แสนบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้ร่วมกันลักลอบนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้แก่กลุ่มวัยรุ่น เยาวชน และผู้ใช้แรงงานในเขตพื้นที่อำเภอเมืองบุรีรัมย์ และอำเภอใกล้เคียงมาเป็นเวลานาน จากนั้นได้ทำการติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้ง 4 กระทั่งสามารถจับกุมได้ทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์)โดยผิดกฎหมาย นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ชัยเดช ปานรักษา ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ค้าได้อย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ค้ารายย่อย และผู้เสพเท่านั้น เนื่องจากจังหวัดบุรีรัมย์เป็นเพียงเส้นทางผ่าน ไม่ใช่แหล่งผลิต จึงได้สั่งการให้ตำรวจทุกท้องที่เพิ่มมาตรการเข้มในการตั้งจุดตรวจสกัด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำยาเสพติด หรือสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ หรือเล็ดลอดเข้าไปยังจังหวัดชั้นใน โดยเฉพาะในพื้นที่แนวชายแดนให้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น