วันนี้ (30 เม.ย. 57) ที่โรงแรมสบาย โฮเตล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการขับเคลื่อน อพม ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา เพื่อชี้แจงกรอบแนวทางการขับเคลื่อนงาน อพม. ทุกระดับ และพัฒนาศักยภาพเครือข่าย ผู้ปฏิบัติงาน อพม. รวมทั้งเพื่อให้ อพม มีความรู้ความเข้าใจ ในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาทางสังคมในพื้นที่ เสริมสร้างความเข็มแข็งของชุมชน พัฒนาศักยภาพแกนนำ อพม ให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานด้านการพัฒนาสังคมในระดับท้องถิ่น ต่อไป โดย อพม. ทั้ง 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมาร่วมประชุมกว่า 200 คน
ด้านนางมาสสุรีย์ ศรีพรหมมา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มี อพม. จำนวน 4,131 คน ซึ่ง อพม.ถือว่าเป็นกลไกพื้นฐานในการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาสังคมตามภารกิจของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระดับพื้นที่ จึงได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มศักยภาพการขับเคลื่อนงาน อพม.ปี 2557 ครั้งนี้ เพื่อชี้แจงกรอบแนวทางการขับเคลื่อนงาน อพม. ทุกระดับ พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพเครือข่าย อพม.และผู้ปฏิบัติงาน อพม.
ในปี 2557 นี้ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคง ได้กำหนดการดำเนินงานของ อพม. ให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในด้านต่างๆ ได้แก่ การเร่งรัดจัดทำระบบฐานข้อมูล อพม.ให้มีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน การจัดกลุ่มเครือข่ายคุณภาพเป็นระดับ A , B และ C เพื่อประสิทธิภาพในการพัฒนาศักยภาพ อพม.ในอนาคต มีการส่งเสริม อพม.ให้มีบทบาทหน้าที่ในการเป็นนักพัฒนาสังคมระดับพื้นที่มากขึ้น ปรับปรุงแก้ไขระเบียบให้เอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติงานทุกระดับมากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มโอกาสและช่องทางการเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของ อพม. อาทิ การจัดเชิดชูเกียรติแก่ อพม. ที่ปฏิบัติงาน อพม.อย่างจริงจังต่อเนื่อง และเคยได้รับคัดเลือกเป็น อพม.ดีเด่นระดับประเทศมาแล้ว ให้ได้รับเข็มเชิดชูเกียรติ มีการมอบโล่เชิดชูเกียรติให้ อพม. และยังมีการเปิดโอกาสให้จังหวัดพิจารณาเสนอรายชื่อ อพม. ผู้ทำคุณงามความดีต่อประเทศชาติ และเกิดประโยชน์ตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการพิจารณาเสนอขอรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีการปรับปรุงระบบการส่งเสริมงาน อพม. ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ อพม. ทุกระดับ มีโอกาสเข้าถึงการพัฒนาศักยภาพและการส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมเพิ่มมากขึ้น และมีเป้าหมายให้ อพม. มีกลไกการดำเนินงานในทุกระดับที่ชัดเจน รวมทั้งสามารถยกระดับความเข้มแข็งขององค์กร เพื่อสามารถจดทะเบียนเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์และองค์กรสวัสดิการชุมชน เพื่อเป็นช่องทางการเข้าถึงทรัพยากรและสามารถพึ่งตนเองได้ในระยะยาวต่อไป
ด้านนางมาสสุรีย์ ศรีพรหมมา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มี อพม. จำนวน 4,131 คน ซึ่ง อพม.ถือว่าเป็นกลไกพื้นฐานในการขับเคลื่อนงานด้านการพัฒนาสังคมตามภารกิจของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ระดับพื้นที่ จึงได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อเพิ่มศักยภาพการขับเคลื่อนงาน อพม.ปี 2557 ครั้งนี้ เพื่อชี้แจงกรอบแนวทางการขับเคลื่อนงาน อพม. ทุกระดับ พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพเครือข่าย อพม.และผู้ปฏิบัติงาน อพม.
ในปี 2557 นี้ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคง ได้กำหนดการดำเนินงานของ อพม. ให้มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในด้านต่างๆ ได้แก่ การเร่งรัดจัดทำระบบฐานข้อมูล อพม.ให้มีความถูกต้องเป็นปัจจุบัน การจัดกลุ่มเครือข่ายคุณภาพเป็นระดับ A , B และ C เพื่อประสิทธิภาพในการพัฒนาศักยภาพ อพม.ในอนาคต มีการส่งเสริม อพม.ให้มีบทบาทหน้าที่ในการเป็นนักพัฒนาสังคมระดับพื้นที่มากขึ้น ปรับปรุงแก้ไขระเบียบให้เอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติงานทุกระดับมากขึ้น รวมทั้งการเพิ่มโอกาสและช่องทางการเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของ อพม. อาทิ การจัดเชิดชูเกียรติแก่ อพม. ที่ปฏิบัติงาน อพม.อย่างจริงจังต่อเนื่อง และเคยได้รับคัดเลือกเป็น อพม.ดีเด่นระดับประเทศมาแล้ว ให้ได้รับเข็มเชิดชูเกียรติ มีการมอบโล่เชิดชูเกียรติให้ อพม. และยังมีการเปิดโอกาสให้จังหวัดพิจารณาเสนอรายชื่อ อพม. ผู้ทำคุณงามความดีต่อประเทศชาติ และเกิดประโยชน์ตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ให้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการพิจารณาเสนอขอรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีการปรับปรุงระบบการส่งเสริมงาน อพม. ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ อพม. ทุกระดับ มีโอกาสเข้าถึงการพัฒนาศักยภาพและการส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคมเพิ่มมากขึ้น และมีเป้าหมายให้ อพม. มีกลไกการดำเนินงานในทุกระดับที่ชัดเจน รวมทั้งสามารถยกระดับความเข้มแข็งขององค์กร เพื่อสามารถจดทะเบียนเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์และองค์กรสวัสดิการชุมชน เพื่อเป็นช่องทางการเข้าถึงทรัพยากรและสามารถพึ่งตนเองได้ในระยะยาวต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น