วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬออกหน่วยเคลื่อนที่ท่ามกลางสายฝน

วันนี้ (๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๖) เวลา ๐๘.๓๐ น. นายพงศธร สัจจชลพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้นำหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ออกบริการประชาชนตามโครงการ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ประจำปี ๒๕๕๖ ณ โรงเรียนบ้านใหม่ศรีชมพู ตำบลป่าแฝก อำเภอพรเจริญ จังหวัดบึงกาฬ ทั้งนี้โดยมีนายพูลสุข เพียรพิทักษ์ นายอำเภอพรเจริญ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการในระดับอำเภอพรเจริญทุกหน่วยงาน และ พี่น้องประชาชนชาวตำบลป่าแฝก อำเภอพรเจริญ จำนวนประมาณ ๑,๐๐๐ คน มาร่วมต้อนรับและมารับบริการต่างๆ จากหน่วยงานของจังหวัดบึงกาฬ

นายอำเภอพรเจริญได้รายงานข้อมูลของตำบลป่าแฝกให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬรับทราบว่า ตำบลป่าแฝกอยู่ห่างจากตัวจังหวัดบึงกาฬ ๔๐ กิโลเมตร เป็น ๑ ใน ๗ ของตำบลที่มีอยู่ของอำเภอพรเจริญ มีพื้นที่ ๔๔ ตารางกิโลเมตร หรือ ๒๗,๕๐๐ ไร่ มีประชากร ๕๗,๗๖๐ คน มีแหล่งน้ำเพื่อการดำรงชีวิตของประชาชนจำนวน ๗ แห่ง ราษฎรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพสวนยาง โดยมีสวนยางถึง ๑๘,๖๖๒ ไร่ รองลงมาคือทำนา จำนวน ๓,๗๓๕ ไร่ ทำปาล์มน้ำมัน ๕๒ ไร่ ปลูกเงาะ ๔๐ ไร่ ปัญหาของตำบลป่าแฝกประกอบด้วยน้ำทำการเกษตรไม่เพียงพอ ราคาผลผลิตตกต่ำ ราษฎรส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน ถนนหนทางในหมู่บ้านไม่สะดวกต่อการคมนาคม ขาดแคลนไฟฟ้าโดยเฉพาะในพื้นที่เกษตร และปัญหาสุดท้ายคือ ราษฎรส่วนหนึ่งนิยมเล่นการพนัน ในส่วนของรายได้ของประชากรของป่าแฝกมีรายได้ ครัวเรือนละ ๖๐,๐๐๐ กว่าบาทต่อปี ซึ่งเกินเกณฑ์มาตรฐาน จปฐ. แต่ยังคงมีบางครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่า ๒๐,๐๐๐ บาทต่อปี จำนวน ๑๐ ครัวเรือน ทั้งนี้นายอำเภอได้แนะนำครัวเรือนที่ยากจนให้สมัครเป็นสมาชิกกลุ่ม โอทอปของอำเภอ ซึ่งมีอยู่ ๘ กลุ่ม โดยในปี ๒๕๕๕ มียอดการจำหน่ายสินค้าโอทอปสูงถึง ๑ ล้านกว่าบาท

ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬรับที่จะนำปัญหาความเดือนร้อนต่างๆ ของราษฎรไปแก้ไขกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร็วที่สุด ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬยังได้ฝากพี่น้องราษฎรให้ร่วมกันพัฒนาหมู่บ้าน โดยอาศัย "แผนชุมชน” ในการเข้าจัดการภายในหมู่บ้านแผนชุมชน คือ แผนที่รวบรวมข้อมูลความต้องการ ปัญหา ทางแก้ไขที่ประชาชนทุกคนจะต้องระดมสมองคิดขึ้นมา ทุกคนต้องยอมรับว่า ในหมู่บ้านมีปัญหา และต้องหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน โดยการนำมาคุยกันในชุมชนว่า ตัวเราเองจะทำอะไรได้บ้างในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น หากเกินกำลังจึงค่อยขอรับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ต่อไป ทั้งนี้โดยยึดหลักการประชาธิปไตยในการจัดทำ แผนชุมชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น