วันจันทร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2556

ชัยภูมิส่งเจ้าหน้าที่ออกบริการลงทะเบียนปลูกยางพารานอกสถานที่

เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ในพื้นที่อำเภอเมืองชัยภูมิ หลังไหลไปขึ้นทะเบียน กับเจ้าหน้าที่อย่างคึกคัก หลังจัดชุดออกไปรับขึ้นทะเบียนถึงพื้นที่ พลาดโอกาสนี้ต้องไปขึ้นที่เบียนในตัวจังหวัด ซึ่งจะหมดเขต 30 กันยายน นี้

ที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร ประจำตำบลท่าหินโงม อ.เมืองชัยภูมิ ตลอดทั้งวันของวันนี้ (9 ก.ย. 56 ) มีเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ในพื้นที่ตำบลท่าหินโงม หลั่งไหลไปขอขึ้นทะเบียนเกษตรกร ผู้ปลูกยางพารา อย่างคึกคัก ซึ่งนายไพจิตร ศรีไพจิตรวรกุล เกษตรอำเภอเมืองชัยภูมิ ได้จัดเจ้าหน้าที่ออกไป รับขึ้นทะเบียนนอกสถานที่ ตามโครงการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราตามโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบปี 2557 เพื่ออำนวยความสะดวกกับเกษตรกร เนื่องจากแถบนี้มีเกษตรกรปลูกยางพาราจำนวนมาก ซึ่งจากการสำรวจเบื้องต้น พื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มีเกษตรกรปลูกยางพารา ตามพื้นที่ต่าง ๆ กว่า 2 พันกว่าราย พื้นที่ไม่น้อยกว่า 7 หมื่น 4 พัน 849 ส่วนในพื้นที่อำเภอเมืองชัยภูมิ พื้นที่ปลูกยางพาราประมาณ 1 พัน 2 พันไร่ เกษตรกรประมาณ 458 ราย มากที่สุดในเขตตำบลท่าหินโหม และตำบลซับสีทอง เกษตรกรที่พลาดโอกาสในวันนี้ สามารไปขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองชัยภูมิ ภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ จากนั้นจะมีการทำประชาพิจารณ์ และสำรวจเอกสารสิทธิ์ ในพื้นที่ที่มีการปลูกยางพาราจริงเพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ต่อไป

ซึ่งล่าสุด นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ หรือ กนย. โดยมีนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาราคายางพารา ที่ประชุม กนย.ยังไม่มีมติแทรกแซงราคายางพารา ยังคงให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่มีพื้นที่เพาะปลูก 25 ไร่ เพื่อให้ครอบคลุมเกษตรกรมากกว่าร้อยละ 90 โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือจากเดิมไร่ละ 1,260 บาท เป็น 2,520 บาท หรือคิดเป็นเงินสมทบ ในการดันราคายางพาราให้เพิ่มขึ้นอีก 12 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิม 6 บาทต่อกิโลกรัม คาดว่าต้องใช้งบประมาณ 21,200 ล้านบาท มีผลตั้งแต่ 1 กันยายน 2556 ถึง 31 มีนาคม 2557 และจะนำเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้(10 ก.ย.)พร้อมประสานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)และธนาคารออมสิน ดูแลวงเงินสินเชื่อให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ตามความเหมาะสมต่อไป



สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น