ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเลย เกษตรกรผู้ปลูกยางพารา จังหวัดเลย จาก 14 อำเภอ จำนวนกว่า 2,000 คน นำโดยนายสง่า ขันคำ ประธานคณะกรรมการเครือข่ายชาวสวนยางจังหวัดเลย, นายวิเวทย์ วิไชโย อดีตนายกเทศมนตรีตำบลนาอาน, นายชัยยุทธ พิศสถาน นายกเทศบาลตำบลนาโป่ง และ นายชาติชาย มังคละไชยยา นายกเทศมนตรีตำบลนาด้วง เดินทางมาชุมนุมเรียกร้องหลังได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากราคายางพาราตกต่ำ โดยมีการเปิดเวทีปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลที่ผิดพลาด ไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร มุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว ทำให้สร้างความเสียหายกับระบบการซื้อขายยางพารา จนทำให้ราคาตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมยังได้ร่วมลงชื่อในหนังสือเรียกร้องต่อนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในหนังสือเรียกร้องดังกล่าวระบุว่า ขอให้รัฐบาลกำหนดราคายางแผ่นรมควัน ชั้น 3 ไว้ที่ราคา กิโลกรัมละ 120 บาท , ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ราคากิโลกรัมละ 111 บาท , ราคายางน้ำสด ราคากิโลกรัมละ 100 บาท และราคายางก้อนถ้วย กิโลกรัมละ 102 บาท หากภายใน 15 วัน รัฐบาลไม่ทำตามข้อเรียกร้อง จะพากันเดินทางไปชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลทันที จังหวัดเลยมีพื้นที่ปลูกยางพารา ปัจจุบันจำนวนประมาณ 750,000 ไร่ เกษตรกรจำนวน 60,000 ครัวเรือน มีพื้นที่ที่เปิดกรีดได้แล้ว 300,000 ไร่ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเกษตรกรที่มาจากโครงการส่งเสริมการปลูกยางพาราในปี 2547- 2549 สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐบาลควรดูแลแก้ปัญหาให้เกษตรกรโดยเร็ว ซึ่งทางเครือข่ายฯ ได้เสนอแนวทางการแก้ปัญหาราคาตำต่ำ คือ ให้รัฐบาลออกกฎหมายให้กระทรวงคมนาคม นำยางธรรมชาติไปเป็นส่วนผสมของยางมะตอยในการทำถนนลาดยางในประเทศ และให้รัฐบาลนำเอายางพาราธรรมชาติไปผลิตเป็นท่อน้ำ ใช้ในโครงการชลประทานระบบท่อในประเทศด้วย ต่อมา นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้ลงมารับหนังสือเรียกร้องจากกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยตนเอง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดเลยได้รับปากว่า จะดำเนินการส่งเรื่องความเดือดร้อนของเกษตรกรไปยังรัฐบาลอย่างเร่งด่วน และในส่วนการแก้ไขปัญหาภายในจังหวัดเบื้องต้น จะให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งสำรวจความเดือดร้อน รวบรวมส่งให้รัฐบาลอีกทางหนึ่งด้วย หลังการรับข้อเรียกร้องจากผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กลุ่มผู้ชุมนุมแสดงความพอใจ และได้แยกย้ายกันกลับภูมิลำเนา รอฟังคำตอบต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น