วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

บุรีรัมย์เตรียมจัดแข่งเรือยาวชิง 3 ถ้วยพระราชทานพร้อมชมช้างว่ายชิงถ้วยใหญ่ที่สุดในโลกคาดเงินสะพัดกว่า 10 ล้าน

บุรีรัมย์เตรียมจัดแข่งเรือยาวชิง 3 ถ้วยพระราชทานพร้อมชมช้างว่ายชิงถ้วยใหญ่ที่สุดในโลกคาดเงินสะพัดกว่า 10 ล้าน จ.บุรีรัมย์ เตรียมจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิง 3 ถ้วยพระราชทาน 2-3 พ.ย.นี้ พร้อมชมไฮไลท์ขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทาน ขบวนพาเหรดช้าง พิธีเห่เรือ และแข่งขันช้างว่ายน้ำ ชิงถ้วยรางวัลใบใหญ่ที่สุดในโลก คาดเงินสะพัดกว่า 10 ล้าน ขณะกรรมการจัดงานเตรียมเรือเร็ว 5 ลำ รองรับเหตุไม่คาดคิดหลังระดับน้ำหนุนสูง (27 ต.ค.56) จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมกับอำเภอสตึก เทศบาลตำบลสตึก และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอีกหลายแห่ง เตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ,สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประจำปี 2556 ณ ลำน้ำมูล หน้าที่ว่าการอำเภอสตึก ในวันที่ 2 - 3 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้ โดยในงานจะมีขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานฯ พร้อมขบวนพาเหรดช้าง และพิธีเห่เรืออย่างยิ่งใหญ่ตระการตา โดยในปีนี้ได้มีทีมเรือจากหลายจังหวัดทั่วทุกภาคของประเทศ สมัครเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 36 ลำ เพื่อร่วมประชันฝีพายและประกาศศักดาชิงเจ้าความเร็วแห่งลำน้ำมูล โดยจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วย ประเภทเรือไม้ ก ขนาดใหญ่ไม่เกิน 55 ฝีพาย , ประเภทเรือไม้ ข ขนาดกลางไม่เกิน 40 ฝีพาย ,ประเภทเรือไม้ ค ขนาดเล็กไม่เกิน 30 ฝีพาย และเรือท้องถิ่น เรือโลหะไม่เกิน 35 ฝีพาย นอกจากนั้นยังจะมีการแข่งขันช้างว่ายน้ำชิงถ้วยรางวัลใบใหญ่ที่สุดในโลก ระหว่างช้างจ.สุรินทร์ กับช้างจ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นไฮไลท์ของงานที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมงาน ถึงแม้ปีนี้ระดับน้ำมูลจะหนุนสูง ประกอบกับกระแสน้ำไหลเชี่ยว แต่จะไม่มีการงดการแข่งขัน โดยทางคณะกรรมการฯ จัดงาน จะเปลี่ยนจากการว่ายข้ามลำน้ำมูลให้ว่ายตามลำน้ำระยะทางไม่เกิน 200 เมตร เพื่อความปลอดภัยของทั้งคนและช้าง พร้อมกันนี้ยังได้จัดเรือเร็ว 5 ลำ เตรียมไว้รองรับอีกด้วย ด้านนายรังสิกร ทิมาตฤกะ ประธานอำนวยการจัดงานประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ กล่าวว่า ประเพณีแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานฯ ของอ.สตึก เป็นสื่อที่อธิบายถึงความเป็นมา และเป็นมรดกของชาวอำเภอสตึกในอดีต ที่แสดงถึงการใช้ประโยชน์จากเรือและแม่น้ำร่วมกัน แม้ปัจจุบันการสัญจรทางเรือจะน้อยลง แต่แม่น้ำก็ยังเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนอีกมากมายหลายด้าน จึงจัดประเพณีดังกล่าวขึ้นเพื่ออนุรักษ์ไว้ โดยในงานนอกจากจะมีการแข่งขันเรือยาว แข่งช้างว่ายน้ำแล้ว ยังมีการจัดแสดงจำหน่ายสินค้าโอท็อปที่ขึ้นของจ.บุรีรัมย์ การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงความสามารถของเด็ก เยาวชนอีกด้วย เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ และกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมให้กระเตื้องขึ้นด้วย ซึ่งคาดการจัดงานครั้งนี้จะมีเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท



สุรชัย พิรักษา สวท. บุรีรัมย์ / 27 ต.ค. 56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น