ผู้ว่าฯ ส่วนราชการ พร้อมด้วยนักธุรกิจ และประชาชนชาวบุรีรัมย์ ร่วมใจนำเงินไปฝากกับ ธกส.เพื่อช่วยเหลือชาวนา รอบที่สอง คาดมียอดฝากทะลุ 60 ล้านบาท
(15 พ.ค. 57) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนักธุรกิจ พ่อค้า คหบดี และประชาชนในจังหวัด ร่วมกันนำเงินฝากสมทบกับ ธกส.บุรีรัมย์ ในโครงการรวมน้ำใจช่วยเหลือชาวนา รอบที่สอง เพื่อให้ธนาคารมีเงินในกองทุนสำหรับนำไปช่วยเหลือชาวนาที่นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำและยังไม่ได้รับเงินจากการจำนำข้าว ขณะที่มีภาคเอกชนหลายแห่ง นำเงินฝากเข้าโครงการฯ รวมกว่า 1 ล้านบาท โดยไม่หวังผลตอบแทน เช่นเดียวกับ
นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การนำเงินเข้าสมทบกองทุนในโครงการรวมน้ำใจช่วยเหลือชาวนา กับ ธกส.ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่สอง ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 ซึ่งในช่วงแรกสามารถระดมเงินฝากเข้าโครงการฯ มียอดเงินสะสมรวมกว่า 53 ล้านบาท ที่ทุกฝ่ายความร่วมมือกันทั้งพ่อค้า คหบดี นักธุรกิจ และประชาชนในจังหวัด ที่ต้องการช่วยเหลือชาวนาและต้องการให้ ธกส.มีกองทุนไว้สำหรับช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับผลกระทบในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล คาดว่าในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ จะมียอดเงินสมทบเข้าโครงการฯ ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท
ด้านนายกัณห์ รัตนสกุลชาติ ผอ.ธกส.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การเปิดระดมเงินสมทบเข้าโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เริ่มคิ๊กออฟโครงการในวันที่ 6 มี.ค. 57 มีประชาชนให้ความสนใจนำเงินเข้าสมทบในกองทุนสำหรับช่วยเหลือชาวนาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมียอดเงินสะสมเข้ากองทุนแล้วกว่า 53 ล้านบาท โดยประชาชนสามารถบริจาคเงินเข้ากองทุนได้ 3 ช่องทาง คือ 1. ที่ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 0200-3-3477-582 ธกส. สาขาบางเขน 2. สมทบเข้ากองทุนชนิดคืนต้น ไม่มีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป และ 3. สมทบเข้ากองทุน ชนิดคืนต้น และมีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป อัตราตอบแทน ร้อยละ 0.63 ต่อปี
อย่างไรก็ตามได้มีชาวนาในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ทยอยเดินทางมารับเงินจำนำข้าวกับทาง ธกส. ได้ร่วมฝากเงินสมทบเข้ากองทุนรวมน้ำใจช่วยเหลือชาวนา รายละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เพื่อนำไปสมทบในกองทุนไว้สำหรับช่วยเหลือเพื่อนชาวนาด้วยกันที่ยังได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ให้ได้รับความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป
(15 พ.ค. 57) นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนักธุรกิจ พ่อค้า คหบดี และประชาชนในจังหวัด ร่วมกันนำเงินฝากสมทบกับ ธกส.บุรีรัมย์ ในโครงการรวมน้ำใจช่วยเหลือชาวนา รอบที่สอง เพื่อให้ธนาคารมีเงินในกองทุนสำหรับนำไปช่วยเหลือชาวนาที่นำข้าวเข้าโครงการรับจำนำและยังไม่ได้รับเงินจากการจำนำข้าว ขณะที่มีภาคเอกชนหลายแห่ง นำเงินฝากเข้าโครงการฯ รวมกว่า 1 ล้านบาท โดยไม่หวังผลตอบแทน เช่นเดียวกับ
นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การนำเงินเข้าสมทบกองทุนในโครงการรวมน้ำใจช่วยเหลือชาวนา กับ ธกส.ในครั้งนี้ เป็นครั้งที่สอง ที่ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2557 ซึ่งในช่วงแรกสามารถระดมเงินฝากเข้าโครงการฯ มียอดเงินสะสมรวมกว่า 53 ล้านบาท ที่ทุกฝ่ายความร่วมมือกันทั้งพ่อค้า คหบดี นักธุรกิจ และประชาชนในจังหวัด ที่ต้องการช่วยเหลือชาวนาและต้องการให้ ธกส.มีกองทุนไว้สำหรับช่วยเหลือชาวนาที่ได้รับผลกระทบในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล คาดว่าในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ จะมียอดเงินสมทบเข้าโครงการฯ ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท
ด้านนายกัณห์ รัตนสกุลชาติ ผอ.ธกส.บุรีรัมย์ กล่าวว่า การเปิดระดมเงินสมทบเข้าโครงการช่วยเหลือเกษตรกร ในส่วนของจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้งแต่เริ่มคิ๊กออฟโครงการในวันที่ 6 มี.ค. 57 มีประชาชนให้ความสนใจนำเงินเข้าสมทบในกองทุนสำหรับช่วยเหลือชาวนาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมียอดเงินสะสมเข้ากองทุนแล้วกว่า 53 ล้านบาท โดยประชาชนสามารถบริจาคเงินเข้ากองทุนได้ 3 ช่องทาง คือ 1. ที่ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 0200-3-3477-582 ธกส. สาขาบางเขน 2. สมทบเข้ากองทุนชนิดคืนต้น ไม่มีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป และ 3. สมทบเข้ากองทุน ชนิดคืนต้น และมีผลตอบแทน ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไป อัตราตอบแทน ร้อยละ 0.63 ต่อปี
อย่างไรก็ตามได้มีชาวนาในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ทยอยเดินทางมารับเงินจำนำข้าวกับทาง ธกส. ได้ร่วมฝากเงินสมทบเข้ากองทุนรวมน้ำใจช่วยเหลือชาวนา รายละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เพื่อนำไปสมทบในกองทุนไว้สำหรับช่วยเหลือเพื่อนชาวนาด้วยกันที่ยังได้รับผลกระทบจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ให้ได้รับความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น