ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ จัดงาน "ข้าวไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเผยแพร่งานวิชาการด้านข้าวแก่เกษตรกรชาวนาและประชาชนทั่วไป
วันที่ 2 พ.ค.57 ที่ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ นางวัลภา ตันวรรณรักษ์ เป็นประธานเปิดงาน "ข้าวไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 86 พรรษา และเพื่อที่จะเผยแพร่งานวิชาการด้านข้าว ให้แก่เกษตรกรชาวนาและประชาชนทั่วไป ได้รับความรู้เกี่ยวกับข้าว และทราบถึงวิวัฒนาการด้านวิชาการที่เกี่ยวกับข้าว เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาการปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตสูงขึ้น ตลอดจนด้านคุณภาพ ทั้งการผลิตเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองและจำหน่าย
จากกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ ต.คูแว จ.นราธิวาส เมื่อปี พ.ศ.2536 ที่ว่า "ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปี ประชากรอาจจะ 80 ล้านคน ข้าวจะไปพอ เราจะต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ เรื่องอะไร ประชาชนคนไทย ไม่ยอม คนไทยนี้ต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทย จะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราก็ต้องปลูก " แสดงให้เห็นถึงพระวิสัยทัศน์และสายพระเนตรที่ยาวไกล ทรงเห็นว่าข้าวคือพืชที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นอาหารหลักของคนไทยทั้งประเทศ จึงทรงพยายามย้ำเตือนให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้าว ไม่ประสงค์ให้ลดการปลูกข้าว เพราะทรงห่วงใยเกรงว่าคนไทยจะไม่มีข้าวพอกิน ด้วยเหตุนี้หน่วยงานทุกภาคส่วนที่ทำงานเกี่ยวกับข้าว จึงต้องร่วมด้วยช่วยกัน ในการที่จะพัฒนาข้าว พัฒนาวิชาการด้านข้าว พัฒนาเกษตรกรชาวนา เพื่อให้ข้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อประเทศชาติสืบไป
วันที่ 2 พ.ค.57 ที่ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ นางวัลภา ตันวรรณรักษ์ เป็นประธานเปิดงาน "ข้าวไทย ก้าวไกลด้วยพระบารมี" เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 86 พรรษา และเพื่อที่จะเผยแพร่งานวิชาการด้านข้าว ให้แก่เกษตรกรชาวนาและประชาชนทั่วไป ได้รับความรู้เกี่ยวกับข้าว และทราบถึงวิวัฒนาการด้านวิชาการที่เกี่ยวกับข้าว เพื่อให้สามารถนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาการปลูกข้าวให้ได้ผลผลิตสูงขึ้น ตลอดจนด้านคุณภาพ ทั้งการผลิตเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองและจำหน่าย
จากกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ณ ต.คูแว จ.นราธิวาส เมื่อปี พ.ศ.2536 ที่ว่า "ข้าวต้องปลูก เพราะอีก 20 ปี ประชากรอาจจะ 80 ล้านคน ข้าวจะไปพอ เราจะต้องซื้อข้าวจากต่างประเทศ เรื่องอะไร ประชาชนคนไทย ไม่ยอม คนไทยนี้ต้องมีข้าว แม้ข้าวที่ปลูกในเมืองไทย จะสู้ข้าวที่ปลูกในต่างประเทศไม่ได้ เราก็ต้องปลูก " แสดงให้เห็นถึงพระวิสัยทัศน์และสายพระเนตรที่ยาวไกล ทรงเห็นว่าข้าวคือพืชที่สำคัญยิ่ง เพราะเป็นอาหารหลักของคนไทยทั้งประเทศ จึงทรงพยายามย้ำเตือนให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้าว ไม่ประสงค์ให้ลดการปลูกข้าว เพราะทรงห่วงใยเกรงว่าคนไทยจะไม่มีข้าวพอกิน ด้วยเหตุนี้หน่วยงานทุกภาคส่วนที่ทำงานเกี่ยวกับข้าว จึงต้องร่วมด้วยช่วยกัน ในการที่จะพัฒนาข้าว พัฒนาวิชาการด้านข้าว พัฒนาเกษตรกรชาวนา เพื่อให้ข้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญต่อประเทศชาติสืบไป
ส.ปชส.สุรินทร์
กำชัย วันสุข / ข่าว
ไวยวิทย์ สุขเก่า / ภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น