โรงพยาบาลมหาสารคาม เร่งผลิตน้ำยาบ้วนปากอดบุหรี่เพิ่ม
หลังจากที่รัฐบาลประกาศเก็บภาษีเหล้าและบุหรี่ให้แพงขึ้น
ผู้สนใจขอรับน้ำยาและขอรับคำปรึกษาการเลิกสูบบุหรี่
ที่กลุ่มงานสุขภาพจิตและจิตเวช ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ในวัน เวลาราชการ
นายแพทย์สุนทร ยนต์ตระกูล
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า
จากข้อมูลของมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
พบว่าปัจจุบันมีผู้สูบบุหรี่มากถึง 12.5 ล้านคน
โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เป็นเยาวชนอายุน้อยกว่า 15 ปี
และยังมีผู้เจ็บป่วยจากบุหรี่ปีละกว่าแสนคน
ซึ่งทั้งเหล้าและบุหรี่ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพและโรคเรื้อรัง
ที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ปีละไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้
การเลิกบุหรี่ด้วยตัวเองโดยอาศัยกำลังใจอย่างเดียว พบว่า
ส่วนใหญ่ประสบความสำเร็จน้อย และมักกลับมาสูบอีก
จึงต้องใช้วิธีอื่นร่วมด้วย เช่น การใช้พฤติกรรมบำบัด การทำกิจกรรมกลุ่ม
และการใช้น้ำยาบ้วนปาก ดังนั้น โรงพยาบาลมหาสารคามโดย
กลุ่มงานเภสัชกรรมจึงได้คิดค้นผลิตสูตรน้ำยาบ้วนปากช่วยลดอาการอยากสูบ
บุหรี่ ซึ่งโรงพยาบาลผลิตใช้เองมาตั้งแต่ปี 2552
ให้แก่ผู้ที่มาเข้ารับบริการคลินิกอดบุหรี่ แผนกจิตเวช
สำหรับวิธีใช้เพียงอมน้ำยาประมาณ 1-2 ฝา นาน 1-2 นาที แล้วบ้วนทิ้ง
เมื่อบ้วนปากจะทำให้มีความรู้สึกชาที่ลิ้นเล็กน้อย
น้ำลายที่เกิดจากความอยากสูบบุหรี่จะออกมาน้อยลง
และเมื่อกลับมาสูบบุหรี่จะทำให้รสชาติของบุหรี่เปลี่ยนไป
หรือเกิดความรู้สึกขมเมื่อสูบโดยคาดว่าหลังจากที่รัฐบาลประกาศขึ้นภาษี
สินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้เหล้าและบุหรี่มีราคาแพงขึ้น
อาจทำให้มีผู้สนใจอยากเลิกบุหรี่มาขอรับบริการเพิ่มมากขึ้น
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวเพิ่มเติมว่า
ปัจจุบันกลุ่มงานเภสัชกรรมสามารถ ผลิตน้ำยาบ้วนปากอดบุหรี่
ได้เดือนละประมาณ 400 – 500 ขวด
หรือหากมีความต้องการมากขึ้นก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้
เพื่อให้สามารถแจกจ่ายแก่ประชาชนผู้ที่สนใจที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่ให้ได้
อย่างเพียงพอ โดยติดต่อรับการบำบัดอาการติดเหล้าและบุหรี่
และขอรับน้ำยาบ้วนปากลดอาการอยากบุหรี่ได้ที่กลุ่มงานสุขภาพจิตและจิตเวช
ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ ในวันและเวลาราชการ
ส.ปชส.มหาสารคาม/ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น