วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ตำรวจมุกดาหารจับกุมรถบรรทุกสิบล้อ ลักลอบขนไม้พะยูงส่งประเทศเพื่อนบ้านคิดมูลค่า 5 ล้านบาท

ตำรวจมุกดาหารจับกุมรถบรรทุกสิบล้อ ลักลอบขนไม้พะยูงส่งประเทศเพื่อนบ้านคิดมูลค่า 5 ล้านบาท ได้ผู้ต้องหา 2 คน รับสารภาพได้ค่าจ้าง 5 หมื่นบาท

เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2556 พล.ต.ต. วิทวัส บูรณสมภพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ได้รับรายงานจากสายว่า จะมีขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงเพื่อนำส่งไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาในเขตอำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร โดยใช้รถสิบล้อ จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ภณกช หรรษา ผู้กำกับการสืบภูธรจังหวัดมุกดาหาร และพ.ต.อ.ธีระ ตุ่มทอง ผู้กำกับการตำรวจภูธรหว้านใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบภูธรจังหวัดมุกดาหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรหว้านใหญ่ ทำการออกตรวจ สืบสวนทำการจับกุม

จนกระทั่ง พบรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อ มิตชูบิซิ สีขาว ทะเบียน 83 – 0173 ขอนแก่น วิ่งมาตามถนน คำป่าหลาย -หว้านใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น แต่รถสิบล้อได้พยายามขับหลบหนี เข้าไปในซอยข้างวัดบ้านดอนม่วง ตำบลชะโนด อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว จึงได้ติดตามและตรวจค้น พบไม้พะยูง อยู่บนรถสิบล้อ จำนวน 37 ท่อน แต่ละท่อนมีความยาว 3.50 เมตร บางท่อนความยาว 2.50 เมตร ขนาดความกว้าง 30 เซนติเมตร และทำการจับกุมได้ผู้ต้องหา 2 คน ทราบชื่อ นายสันติราช นนทะบูรณ์ อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 105 หมู่ 5 ตำบลเมืองใหม่ อำเภอศรีบุญเรือง จังหวัดหนองบัวลำภู เป็นคนขับ และนายอดุลย์ แสงนาค อายุ 26 ปี บ้านเลขที่ 219 หมู่ 8 ตำบลเหล่าดอกไม้ อำเภอชื่นชม จังหวัดมหาสารคาม นั่งมากับคนขับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบที่หน้าตัดไม้ไม่พบรูปรอยดวงตราของทางราชการแต่อย่างไร จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมีไม้หวงห้ามไว้ใครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการสอบถามนาย สันติราช นนทะบูรณ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับการว่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 5 หมื่นบาท ให้นำไม้พะยูงจากจังหวัดบุรีรัมย์ มาส่งให้กับนายทุนที่อำเภอหว้านใหญ่ แล้วนำส่งต่อไปขายยังประเทศ สปป.ลาว แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน เงินค่าจ้างในการมาส่งไม้พะยูงยังไม่ได้รับ ถ้าส่งไม้ถึงมือนายทุนเสร็จจึงจะได้รับค่าจ้างดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนส่งพนักงานสอบสวน สภ. หว้านใหญ่ เพื่อสืบสวนหาขบวนการแก๊งค้าไม้พะยูงข้ามชาติมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น