สสจ.เลย จับมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกระเบียบธุรกิจรับซื้อ-ขาย และขนส่งขี้ยางพาราเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย หลังถูกประชาชนร้องเรียนอื้อ เดือดร้อนกลิ่นเหม็น ถนนลื่นเกิดอุบัติเหตุอุบัติทำลายบรรยากาศเมืองท่องเที่ยว วางมาตรการจุดที่ตั้งต้องห่างจากชุมชนไม่ต่ำกว่า 500 เมตร โกดังต้องปิดมิดชิด ทำระบบบำบัดน้ำเสีย รถขนขี้ยางห้ามทำน้ำหกเรี่ยราด ฝ่าฝืนไม่ต่อใบอนุญาต-สั่งปิดถาวร
นายกายสิทธิ์ แก้วยาศรี รองนายแพทย์ สสจ.เลย เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมพิจารณาข้อกำหนดเรื่อง "การควบคุมสถานประกอบกิจการและดำเนินกิจการรับซื้อ สะสมยางก้อน หรือยางก้อนถ้วย พ.ศ…..” โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการ ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเกษตรกร และสื่อมวลชน
นางปณิศา อุทังบุญ หัวหน้างานอนามัยสิ่งแวดล้อม สสจ.เลย กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากจังหวัดเลย ได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ครอบคลุมทุกอำเภอ และมีแนวโน้มการปลูกเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี โดยเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราส่วนใหญ่มีการแปรรูปเป็นยางก้อน หรือยางก้อนถ้วย แต่คนส่วนมากนิยมเรียกว่าขี้ยาง การขายยางก้อนของเกษตรกรในจังหวัดเลย มี 2 ลักษณะคือ ขายโดยวิธีประมูลตามจุดประมูล ที่ดำเนินการโดยสำนักงานสงเคราะห์กองทุนการทำสวนยาง (สกย.) หรือการรวมกลุ่มของเกษตรกร และขายให้แก่สถานประกอบกิจการรับซื้อยางก้อน หรือยางก้อนถ้วย ซึ่งสามารถขายได้ทุกวันจึงเป็นที่นิยมของเกษตร เนื่องจากไม่ต้องจัดหาสถานที่สะสมยางก้อน เพื่อรอจำหน่ายที่จุดประมูล สถานประกอบกิจการรับซื้อยางก้อนจึงมีกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางการปลูกยางพารา
จากการที่ผู้ประกอบกิจการของสถานประกอบกิจการรับซื้อยางก้อนทุกวัน จึงมีการสะสมยางก้อนไว้ที่สถานประกอบกิจการ เพื่อรอขนส่งไปจำหน่ายที่โรงงานครั้งละหลายตัน ประหยัดต้นทุนในการขนส่ง ก่อให้เกิดเหตุรำคาญและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงสถานประกอบกิจการ เนื่องมาจากกลิ่นเหม็นจากก้อนยางและน้ำเสีย นำไปสู่การร้องเรียนเกี่ยวกับเหตุรำคาญจากกลิ่นเหม็น โดยในปีงบประมาณ 2555-2556 สสจ.เลย ได้รับเรื่องร้องเรียนเนื่องจากกลิ่นเหม็นที่มีสาเหตุมาจากสถานประกอบกิจการรับซื้อ หรือสะสมยางก้อน จำนวน 15 ครั้ง ร้องเรียนไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย 1 ครั้ง และสื่อมวลชน 1 ครั้ง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สั่งปิดกิจการไปแล้ว 2 แห่ง ที่ผ่านมาการดำเนินการเพื่อระงับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากกิจการรับซื้อสะสมยางก้อนนี้ถูกกำหนดไว้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกตามความในมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 หมวด 7 ว่าด้วยเรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ข้อ 5 (2) การล้าง การอบ การรม การสะสมยางดิบ แต่ยังไม่มีข้อกำหนดกับเกี่ยวกับสุขลักษณะของสถานที่ตั้งและการดำเนินกิจการ ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2555-2556 สสจ.เลยโดยงานอนามัยสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำโครงการแก้ปัญหาเหตุรำคาญจากการประกอบกิจการรับซื้อสะสมยางก้อน โดยจัดทำสุขลักษณะของสถานที่ตั้งและการดำเนินกิจการรับซื้อ สะสมยางก้อน และข้อกำหนดท้องถิ่น เรื่องการควบคุมสถานประกอบกิจการและการดำเนินกิจการรับซื้อ หรือสะสมยางก้อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และเจ้าพนักงานท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางในการตรวจ แนะนำ เพื่อการออกใบอนุญาต และควบคุมกำกับการประกอบกิจการ ไม่ก่อให้เกิดเหตุรำคาญ ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
นายกายสิทธิ์ แก้วยาศรี รองนายแพทย์ สสจ.เลย เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมพิจารณาข้อกำหนดเรื่อง "การควบคุมสถานประกอบกิจการและดำเนินกิจการรับซื้อ สะสมยางก้อน หรือยางก้อนถ้วย พ.ศ…..” โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา ผู้ประกอบการ ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเกษตรกร และสื่อมวลชน
นางปณิศา อุทังบุญ หัวหน้างานอนามัยสิ่งแวดล้อม สสจ.เลย กล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากจังหวัดเลย ได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ครอบคลุมทุกอำเภอ และมีแนวโน้มการปลูกเพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี โดยเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราส่วนใหญ่มีการแปรรูปเป็นยางก้อน หรือยางก้อนถ้วย แต่คนส่วนมากนิยมเรียกว่าขี้ยาง การขายยางก้อนของเกษตรกรในจังหวัดเลย มี 2 ลักษณะคือ ขายโดยวิธีประมูลตามจุดประมูล ที่ดำเนินการโดยสำนักงานสงเคราะห์กองทุนการทำสวนยาง (สกย.) หรือการรวมกลุ่มของเกษตรกร และขายให้แก่สถานประกอบกิจการรับซื้อยางก้อน หรือยางก้อนถ้วย ซึ่งสามารถขายได้ทุกวันจึงเป็นที่นิยมของเกษตร เนื่องจากไม่ต้องจัดหาสถานที่สะสมยางก้อน เพื่อรอจำหน่ายที่จุดประมูล สถานประกอบกิจการรับซื้อยางก้อนจึงมีกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางการปลูกยางพารา
จากการที่ผู้ประกอบกิจการของสถานประกอบกิจการรับซื้อยางก้อนทุกวัน จึงมีการสะสมยางก้อนไว้ที่สถานประกอบกิจการ เพื่อรอขนส่งไปจำหน่ายที่โรงงานครั้งละหลายตัน ประหยัดต้นทุนในการขนส่ง ก่อให้เกิดเหตุรำคาญและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงสถานประกอบกิจการ เนื่องมาจากกลิ่นเหม็นจากก้อนยางและน้ำเสีย นำไปสู่การร้องเรียนเกี่ยวกับเหตุรำคาญจากกลิ่นเหม็น โดยในปีงบประมาณ 2555-2556 สสจ.เลย ได้รับเรื่องร้องเรียนเนื่องจากกลิ่นเหม็นที่มีสาเหตุมาจากสถานประกอบกิจการรับซื้อ หรือสะสมยางก้อน จำนวน 15 ครั้ง ร้องเรียนไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย 1 ครั้ง และสื่อมวลชน 1 ครั้ง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้สั่งปิดกิจการไปแล้ว 2 แห่ง ที่ผ่านมาการดำเนินการเพื่อระงับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากกิจการรับซื้อสะสมยางก้อนนี้ถูกกำหนดไว้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกตามความในมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 หมวด 7 ว่าด้วยเรื่องกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ข้อ 5 (2) การล้าง การอบ การรม การสะสมยางดิบ แต่ยังไม่มีข้อกำหนดกับเกี่ยวกับสุขลักษณะของสถานที่ตั้งและการดำเนินกิจการ ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2555-2556 สสจ.เลยโดยงานอนามัยสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำโครงการแก้ปัญหาเหตุรำคาญจากการประกอบกิจการรับซื้อสะสมยางก้อน โดยจัดทำสุขลักษณะของสถานที่ตั้งและการดำเนินกิจการรับซื้อ สะสมยางก้อน และข้อกำหนดท้องถิ่น เรื่องการควบคุมสถานประกอบกิจการและการดำเนินกิจการรับซื้อ หรือสะสมยางก้อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และเจ้าพนักงานท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางในการตรวจ แนะนำ เพื่อการออกใบอนุญาต และควบคุมกำกับการประกอบกิจการ ไม่ก่อให้เกิดเหตุรำคาญ ผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น