ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งเตรียมพร้อมกำลังพล หากรัฐบาลประกาศยกเลิก พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กลับไปใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พันตำรวจเอกหญิงวิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองกำลังทุกหน่วย เตรียมพร้อมกำลังพลและทบทวนยุทธวิธีรองรับกรณีที่รัฐบาล อาจไม่ต่ออายุการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กลับมาใช้ดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุมแทน หลังพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะครบกำหนดการประกาศใช้ในวันที่ 22 มีนาคมนี้ ขณะเดียวกันยังคงเน้นย้ำเรื่องการป้องกันเหตุแทรกซ้อนในพื้นที่การชุมนุมและโดยรอบพื้นที่ชุมนุม พร้อมสั่งให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทุกคดี
ด้านพลตำรวจตรีอนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัย คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังมีคำวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องขอกำลังดูแลคณะตุลาการคนใดเป็นกรณีพิเศษ แต่ยืนยันว่าตำรวจมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และสถานที่สำคัญต่างๆ อยู่แล้ว
พันตำรวจเอกหญิงวิชญ์ชยากร ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้กองกำลังทุกหน่วย เตรียมพร้อมกำลังพลและทบทวนยุทธวิธีรองรับกรณีที่รัฐบาล อาจไม่ต่ออายุการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน และนำพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กลับมาใช้ดูแลความสงบเรียบร้อยการชุมนุมแทน หลังพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะครบกำหนดการประกาศใช้ในวันที่ 22 มีนาคมนี้ ขณะเดียวกันยังคงเน้นย้ำเรื่องการป้องกันเหตุแทรกซ้อนในพื้นที่การชุมนุมและโดยรอบพื้นที่ชุมนุม พร้อมสั่งให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทุกคดี
ด้านพลตำรวจตรีอนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัย คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังมีคำวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2 ล้านล้านบาท ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องขอกำลังดูแลคณะตุลาการคนใดเป็นกรณีพิเศษ แต่ยืนยันว่าตำรวจมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ และสถานที่สำคัญต่างๆ อยู่แล้ว
ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น