วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์พระวรชายา นำถุงยังชีพพระราชทานมอบราษฎรที่ถูกน้ำท่วม ที่จังหวัดขอนแก่น

ผู้แทนพระองค์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ มอบถุงยังชีพพระราชทาน 1,000 ชุด ช่วยเหลือราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น

เช้าวันนี้ พฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม 2556 เวลา 10.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ร้อยเอกไพบูลย์ สุขเจตนี รองผู้อำนวยการกองงาน พระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 1,000 ถุง ไปมอบให้แก่ราษฎรที่กำลังประสบอุทกภัย ณ หอประชุมที่ว่าการ อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ทั้งนี้เป็นราษฎรจาก ตำบลชนบท 490 ครัวเรือน ตำบลศรีบุญเรือง 473 ครัวเรือน เทศบาลตำบลชนบท 37 ครัวเรือน โดยมีนายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขก. และหัวหน้าส่วนราชการร่วมมอบถุงยังชีพพระราชทานด้วย การนี้ ได้ถวายถุงพระราชทานแด่วัดที่ประสบภัยจำนวน 7 แห่ง ถวายแด่พระภิกษุสามเณรจำนวนทั้งหมด 30 รูป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น นอกจากนี้ยังได้จัดให้มีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่พระราชทาน ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มาตรวจรักษาผู้ประสบอุทกภัยที่มีอาการเจ็บป่วยด้วย จังหวัดขอนแก่น

โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอชนบท ได้ประสบอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2556 เป็นต้นมา ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำขนาดใหญ่ ไหลผ่านจากพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มาตามแม่น้ำชี เข้าสู่พื้นที่อำเภอชนบท จึงเป็นสาเหตุให้แม่น้ำชีล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎร และถนนทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ และปริมาณน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นทุกวัน ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหาย ราษฎรได้รับผลกระทบในด้านต่างๆเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะสิ่งสาธารณประโยชน์ และพื้นที่ทางการเกษตร ปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยยังไม่ยุติ โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลชนบท ตำบลศรีบุญเรือง ตำบลโนนพะยอม ตำบลวังแสง ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 28 หมู่บ้าน 4,485 ครัวเรือน 14,822 คน ทั้งนี้ มีหมู่บ้านที่ถูกตัดขาดเส้นทางจราจรไปมาลำบาก จำนวน 3 ตำบล 13 หมู่บ้าน 1,668 ครัวเรือน ราษฎรส่วนใหญ่ มีความต้องการด้านสิ่งอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นขั้นพื้นฐาน พนังกั้นน้ำลำแม่น้ำชี ขุดลอกแหล่งน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่ เพื่อเป็นแก้มลิง ยกระดับถนนที่อยู่ในระดับต่ำมีน้ำท่วมขังเป็นประจำทุกปี ให้มีระดับที่สูงขึ้น เพื่อสัญจรได้ทุกฤดูกาล และต้องการให้หน่วยงานภาครัฐให้การช่วยเหลือด้านส่งเสริมอาชีพหลังน้ำลด




                                                                                       สมพงษ์ ปัตตานี/ข่าว/พัณณิตา นศ.ฝึกงาน/พิมพ์



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น