เมื่อเวลา 14.00น. วันที่ 22 พ.ค.56 นายพรศักดิ์ เจียรณัย ผวจ.ชัยภูมิ
พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรีไพเจน มากสุวรรณ รองอธิบดีกรมชลประทาน
เดินทางไปตรวจสอบ พื้นที่โครงการก่อสร้างเขื่อนยางนาดี บ้านละหานค่าย
ต.โคกสะอาด อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ
หลังมีข่าวนายทุนต่างถิ่นกว้านซื้อที่ดินมีโฉนด จากชาวบ้าน
มาสร้างบ้านชั่วคราว คล้ายหมู่บ้านจัดสรร เพื่อหวังเงินชดเชย
จำนวนหลายร้อยหลัง ซึ่งพบว่าบริเวณแห่งนี้ อยู่ท้ายหมู่บ้านละหานค่าย
อยู่ระดับต่ำกว่าหมู่บ้าน 1-2 เมตร และหากก่อสร้างเขื่อนจะถูกน้ำท่วม
นายทุนจากจังหวัดนครราชสีมา มาซื้อต่อจากชาวบ้าน ซึ่งตรงนี้มีโฉนดถูกต้อง
และสร้างบ้านชั่วคราว กระจายเต็มพื้นที่ ทั้งที่สร้างเสร็จแล้ว
ออกบ้านเลขที่ประมาณ 100 หลัง มีการย้ายคนจากนอกพื้นที่เข้ามาอยู่อาศัย
และกำลังเร่งก่อสร้างอีกจำนวนมาก ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดก่อสร้าง
ตามที่ผู้ว่าราชการประกาศ ไม่พบตัวนายทุน พบแต่ช่างที่มารับจ้าง
ส่วนมากเป็นบ้านชั้นเดียว มุงสังกะสี สร้างด้วยเสาปูน ก่ออิฐ์บล็อก
โครงหลังคาทำด้วยไม้ยางและไม้พร้าว หน้าบ้านมีป้ายชื่อเจ้าของบ้าน
และเลขที่บ้าน แต่ส่วนมากยังไม่มีคนเข้ามาอยู่อาศัย
บางส่วนปลูกต้นปาล์มอายุประมาณ 1 เดือน
ผวจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า การสร้างบ้านแบบนี้ มีคนทำ 2 กลุ่ม กลุ่มแรก
ที่อ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร เป็นที่ป่าสงวน
อนุญาตให้กรมชลประทานใช้ก่อสร้างเขื่อน ซึ่งมีหลายจุด
เจ้าของที่ดินสร้างเอง และชวนญาติพี่น้อง มาซื้อที่ สร้างบ้านขุดสระ
กลุ่มสอง ที่มาดูวันนี้ เป็นนายทุนต่างถิ่น มาซื้อที่ดินมีโฉนดจากชาวบ้าน
สร้างบ้านขายให้กับผู้สนใจ ส่วนมากมาจากจังหวัดนครราชสีมา
และมีชาวบ้านในพื้นที่หลงเข้าไปซื้อบ้าง สร้างในพื้นที่ของตนเองบ้าง ทั้ง 2
กลุ่ม รวมแล้วประมาณ 600 หลัง ก็จะตรวจสอบเป็นรายๆไป
กรณีสร้างในที่มีเอกสารสิทธิ์ ก็ได้แจ้งเตือนให้หยุดดำเนินการ
พร้อมตรวจสอบว่า เข้าข่ายแบ่งที่ ล่อลวงคนมาซื้อ หรือไปโฆษณาว่า
จะได้เงินค่าชดเชย หลังละ 1 ล้าน ตามที่เป็นข่าวจริงหรือไม่
หากมีคนมาร้องทุกข์ ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
เชื่อว่าต้องมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์แน่ๆ
แต่ระยะเฉพาะหน้าต้องเบรกการก่อสร้างเอาไว้ก่อน และให้ออกประกาศเสียงตามสาย
เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ เพราะตามระเบียบแล้ว ถ้ามีเจตนาสร้างบ้านแอบแฝง
หวังเงินชดเชย หลังรัฐบาลประกาศเดินหน้าก่อสร้าง มีหลักฐานชัดเจนอย่างนี้
คงจ่ายค่าชดเชยไม่ได้ ถึงได้ก็ต้องตามระเบียบ
บ้านอย่างนี้น่าจะได้ไม่เกินหลังละ 3 หมื่นบาท เชื่อว่าการกระทำเช่นนี้
ไม่สามารถหยุดยั้งโครงการสำคัญของรัฐบาลได้ เราจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ
และให้ประชาชนเข้าใจ อย่าหลงเชื่อ
สุระพงค์ สวัสดิ์ผล /ข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น